EP.2059 รีวิว คอนโด OKA HAUS สุขุมวิท 36 ใกล้ BTS ทองหล่อ เริ่ม 3.79 ล้านบาท*

โพสโดย : pure | วันที่ : 3 May 2022
หมวดหมู่ : EP, Sansiri แสนสิริ, คอนโด, คอนโด กรุงเทพ, คอนโด ถนนพระราม 4, คอนโด เขตคลองเตย, คอนโด แสนสิริ Sansiri, คอนโดใกล้รถไฟฟ้า BTS, รีวิว คอนโด

EP.2059 รีวิว คอนโด โอกะ เฮ้าส์ สุขุมวิท 36 Oka Haus Sukhumvit 36 เริ่ม 3.79 ล้านบาท*

Written by : Nin Yanin

สวัสดีค่าคุณผู้อ่านชาว Homenayoo วันนี้เรามีคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จพร้อมอยู่ จากแบรนด์คุณภาพอย่าง Sansiri ที่ตั้งอยู่บนทำเลใจกลางเมืองในโซน Business District พร้อมวิวโค้งแม่น้ำบางกระเจ้า กับโครงการ Oka Haus สุขุมวิท 36 มาฝากกันค่า

โดยโครงการตั้งอยู่ติดถนนพระราม 4 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กทม. เชื่อมต่อโซนเอกมัย-ทองหล่อ และโซนอโศก-สาทร-สีลม ได้อย่างรวดเร็วทันใจ ใกล้ทางด่วนเฉลิมมหานคร และ รถไฟฟ้า BTS สถานีทองหล่อ ในระยะที่สามารถเดินได้

รายล้อมด้วยอาคารสำนักงาน, คอมมูนิตี้มอลล์, ห้างสรรพสินค้า, สวนสาธารณะ, สถานศึกษา และโรงพยาบาลชั้นนำมากมาย อาทิ FYI CenterThe PARQ, อาคารมาลีนนท์, สวนเพลินมาร์เก็ต, K Village, Gateway เอกมัยThe Em District, สวนเบญจกิติ, สวนลุมพินี, ม.กรุงเทพ, รร.นานาชาติ Wells, รร.นานาชาติ Bangkok PREP, MedPark Hospital และอื่น ๆ อีกมากมาย

โครงการ โอกะ เฮ้าส์ สุขุมวิท 36 เป็น High Rise Condominium 47 ชั้น บนที่ดินโครงการขนาดประมาณ 5 ไร่ กับห้องชุดพักอาศัยจำนวน 1,178 ยูนิต ที่ออกแบบมาด้วยแนวคิด Retreat & Rebound ที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก ขุนเขา สายลม และแสงแดด ออกมาเป็น Resort Condo สำหรับการพักผ่อนและการรีชาร์จพลังงานในทุก ๆ วัน

ด้วยห้องพักอาศัยขนาด 1 Bedroom-3 Bedroom 26.50-86.50 ตร.ม. พร้อม Smart Living Transformation เพื่อเติมเต็มการอยู่อาศัยให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

รวมไปถึงสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการที่ให้มาแบบจัดเต็ม อาทิ Welcome Lounge & WIFI, Educational Playground, Swimming Pool & Jacuzzi, Leisure Pool, Heated Pool, Kid’s Pool, Steam Room, Exercise Room, Sky Lounge, Co-Working Space, Co-Kitchen, Retreat Room, Sunset Deck, Star Scene Space, Sansiri Backyard, Shuttle Service และระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ในราคาเริ่มต้นที่ 3.79 ล้านบาท*

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ คลิก https://www.sansiri.com/

เราไปดูกันเลยค่ะว่าคอนโดจาก Sansiri โครงการนี้จะมีความดีงามอย่างไรบ้าง รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน!



ชื่อโครงการ โอกะ เฮ้าส์ สุขุมวิท 36 Oka Haus Sukhumvit 36
เจ้าของโครงการ แสนสิริ / Sansiri
เนื้อที่ทั้งหมด ประมาณ 5 ไร่
จำนวนตึก 1 อาคาร
จำนวนชั้น 47 ชั้น
จำนวนห้อง 1,178 ยูนิต
ลักษณะห้องและขนาดห้อง
  • 1 Bedroom 1 Bathroom ขนาด 26.5-34.75 ตร.ม.
  • 2 Bedroom 1 Bathroom ขนาด 40.5-41.00 ตร.ม.
  • 2 Bedroom 2 Bathroom ขนาด 49.25-49.50 ตร.ม.
  • 3 Bedroom 2 Bathroom ขนาด 86.25-86.50 ตร.ม.
ที่จอดรถทั้งหมด คิดเป็น 49% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน)
จำนวนลิฟต์
  • ลิฟต์โดยสาร 5 ตัว
  • ลิฟต์ขนของ 1 ตัว
โซน พระราม 4-สุขุมวิท
เส้นทางคมนาคม
  • ถนนพระราม 4
  • ถนนสุขุมวิท
  • ถนนพระราม 3
  • ถนนรัชดาภิเษก
  • ถนนสุนทรโกษา
  • ถนนเกษมราษฎร์
  • ถนนอาจณรงค์
  • ทางพิเศษเฉลิมมหานคร
  • รถไฟฟ้า BTS ทองหล่อ
  • รถไฟฟ้า MRT ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
ที่ตั้ง ถนนพระราม 4 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กทม. 10110
กำหนดการ เริ่มก่อสร้าง มิ.ย. 2561
ปีที่สร้างเสร็จ 2564
ราคา เริ่มต้น 3.79 ล้านบาท* (เม.ย. 65)
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม เริ่มต้น 143,000 บาท/ตร.ม.* (เม.ย. 65)
ค่าส่วนกลางและกองทุน
  • ค่าส่วนกลาง ปีที่ 1-2 : 49 บาท/ตร.ม./เดือน
  • ค่าส่วนกลาง ปีที่ 3-4 : 59 บาท/ตร.ม./เดือน
  • ค่าส่วนกลาง ปีที่ 5 เป็นต้นไป : 65 บาท/ตร.ม./เดือน
  • เงินกองทุน : 600 บาท/ตร.ม.
สถานที่สำคัญใกล้เคียง ศูนย์การค้า ตลาด และร้านสะดวกซื้อ

  • 7-Eleven ซอยแสนสบาย : 180 ม.
  • สวนเพลินมาร์เก็ต : 450 ม.
  • Big C Extra พระราม 4 : 650 ม.
  • Lotus’s พระราม 4 : 800 ม.
  • Decathlon พระราม 4 : 800 ม.
  • Bambini Villa : 800 ม.
  • K Village : 850 ม.
  • Warehouse 26 : 950 ม.
  • A Square : 1 กม.
  • Nihonmachi Mall : 1 กม.
  • Gateway เอกมัย : 1.6 กม.
  • Rain Hill : 2.1 กม.
  • UFM Fuji Super : 2.1 กม.
  • Emporium : 2.3 กม.
  • ตลาดสดคลองเตย : 2.5 กม.
  • Emsphere : 2.7 กม.
  • Miracle Mall : 3 กม.
  • Emquartier : 3.1 กม.
  • Robinson สุขุมวิท : 4.3 กม.
  • Terminal 21 : 4.4 กม.

สถานที่ราชการ และอาคารสำนักงาน

  • อาคารมาลีนนท์ : 300 ม.
  • Green Tower : 350 ม.
  • สถานีขนส่งผู้โดยสารเอกมัย : 1.9 กม.
  • กรมศุลกากร : 2.3 กม.
  • FYI Center : 2.7 กม.
  • The PARQ : 2.7 กม.
  • ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) : 3 กม.
  • การไฟฟ้านครหลวง สำนักงานใหญ่คลองเตย : 3.3 กม.
  • Exchange Tower : 3.4 กม.
  • Time Square : 3.7 กม.
  • Lumpini Tower พระราม 4 : 3.8 กม.
  • Ocean Tower 1 : 4.1 กม.
  • One Bangkok : 4.4 กม.
  • Q House ลุมพินี : 4.6 กม.
  • Interchange 21 Tower : 5.0 กม.

สถานศึกษา

  • ม.กรุงเทพ กล้วยน้ำไท : 900 ม.
  • รร.นานาชาติ Wells : 1.9 กม.
  • รร.นานาชาติ Bangkok PREP (Primary Campus) : 2 กม.
  • รร.นานาชาติ ASB (Sukhumvit Campus) : 2.5 กม.
  • รร.นานาชาติ St.Andrews (Srivikorn Campus) : 2.7 กม.
  • รร.สายน้ำผึ้ง : 2.8 กม.
  • รร.พระหฤทัยคอนแวนต์ : 3.1 กม.
  • รร.นานาชาติ Bangkok PREP (Secondary Campus) : 4 กม.
  • มศว.ประสานมิตร : 4 กม.
  • รร.สาธิต มศว.ประสานมิตร : 4 กม.
  • รร.วัฒนาวิทยาลัย : 4.5 กม.

ศูนย์การแพทย์

  • รพ.เทพธารินทร์ : 300 ม.
  • รพ.กล้วยน้ำไท : 1.5 กม.
  • Bangkok Mediplex : 1.6 กม.
  • รพ.สุขุมวิท : 1.9 กม.
  • รพ.สมิติเวช สุขุมวิท : 2.5 กม.
  • รพ.เมดพาร์ค (MedPark Hospital) : 3.1 กม.
  • รพ.สวนเบญจกิติเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา : 3.4 กม.
  • รพ.จุฬาฯ : 5.6 กม.

อื่น ๆ

  • อุทยานเบญจสิริ : 2.5 กม.
  • PAT Stadium : 3 กม.
  • สวนป่าเบญจกิติ : 4 กม.
  • สวนลุมพินี : 5 กม.

**ระยะทางวัดจากการเดินทางสู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด**

สิ่งอำนวยความสะดวก G Floor

  • Welcome Lounge & WIFI
  • Mail Room
  • Educational Playground
  • Living Innovation
  • EV Charging Station
  • Smart Move
  • Shuttle Service
  • 24-Hour Security by Guard Service
  • 24-Hour CCTV

8th Floor

  • Swimming Pool & Jacuzzi
  • Leisure Pool
  • Heated Pool
  • Kid’s Pool
  • Changing Room & Steam Room
  • Kid’s Space
  • Exercise Room
  • Self-Laundry

22th Floor

  • Pocket Garden

47th Floor

  • Sky Lounge
  • Co-Working Space
  • Co-Kitchen
  • Retreat Room

Rooftop

  • Sunset Deck
  • Star Scene Space
  • Sansiri Backyard
  • Garden
Tel 1685
Website https://www.sansiri.com/







2022-2023 คอนโด BTS ทองหล่อ / คอนโดติดรถไฟฟ้า BTS ทองหล่อ คอนโดใกล้ BTS ทองหล่อ ติดถนนสุขุมวิท ใกล้ BTS ทองหล่อ ซอยสุขุมวิท 53 (ซอยไปดีมาดี) ซอยสุขุมวิท 57 (ซอยบ้านกล้วยเหนือ) ซอยสุขุมวิท 59 (ซอยบุญชนะ) ถนนทองหล่อ (ซอยสุขุมวิท 55) ซอยสุขุมวิท 49 (ซอยกลาง)

ซอยสุขุมวิท 36 (ซอยนภาศัพท์-ซอยแสนสบาย) ซอยสุขุมวิท 38 (ซอยสันติสุข) ซอยสุขุมวิท 40 (ซอยบ้านกล้วยใต้) ซอยสุขุมวิท 34 (ซอยสุภางค์)
  • VIA 34 by Sansiri  *ยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ
  • Tidy Deluxe Sukhumvit 34
ซอยสุขุมวิท 30/1 (ซอยฟิลิปปินส์) ถนนพระราม 4 ถนนเพชรบุรี








:::: ที่ตั้งโครงการ ::::

ถนนพระราม 4 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กทม. 10110

พิกัด : 13.715870, 100.574730

ทำเลที่ตั้ง โครงการ Oka Haus สุขุมวิท 36 เป็น High Rise Condominium 47 ชั้น ที่ตั้งอยู่ติดถนนพระราม 4 ฝั่งมุ่งหน้าไปแยกพระโขนง ถัดจากซอยแสนสบาย หรือซอยสุขุมวิท 36 มาประมาณ 180 ม. นั่นหมายความว่า โครงการตั้งอยู่ระหว่างโซนใจกลางเมือง อย่างโซนสาทร-สีลม และโซนเอกมัย-ทองหล่อ-พร้อมพงษ์ ซึ่งเป็นย่าน Business District พอดีค่ะ

โดยจุดที่โครงการตั้งอยู่จะมีความเป็นส่วนตัว และมีความวุ่นวายน้อยกว่า แต่ก็สามารถเชื่อมต่อ 2 Top Prime Zone ของกรุงเทพฯ ที่เพิ่งกล่าวไปได้แบบ Shortcut Access เรียกได้ว่าทำเลของโครงการนั้นเป็น Prime Location ที่ไม่สามารถหาได้ง่าย ๆ เลย

ความน่าสนใจของทำเลก็คือ เป็นทำเลที่ “อยู่ใกล้ทุกอย่าง” ไม่ว่าจะเป็น คอมมูนิตี้มอลล์, ห้างสรรพสินค้า, อาคารสำนักงาน, โรงเรียน, โรงพยาบาลชั้นนำ รวมไปถึงสวนสาธารณะที่เป็นปอดของกรุงเทพฯ จะเรียกว่า “เป็นทำเลสำหรับคุณภาพชีวิตที่ดี” ก็ยังได้

เพราะจะเดินทางไปไหนก็ใช้เวลาเพียงนิดเดียว หรือบางสถานที่ก็สามารถเดินไปถึงได้ในเวลาไม่ถึง 10-15 นาที ยกตัวอย่างเช่น จากโครงการเดินไปเพียง 1.3 กม. ก็ถึง BTS สถานีทองหล่อ แล้วค่ะ

การเดินทางด้วยรถยนต์ โครงการตั้งอยู่ติดถนนพระราม 4 ซึ่งห่างจากแยกพระราม 4 มาประมาณ 1.8 กม. เป็นจุดที่สามารถเชื่อมต่อโซนเอกมัย-ทองหล่อ รวมไปถึงโซนอโศก-สาทร-สีลม ซึ่งเป็น CBD ได้อย่างรวดเร็ว

ถ้าจากโครงการจะเดินทางไปเส้นสุขุมวิท ก็สามารถใช้ทางลัดผ่านซอยสุขุมวิท 36 และ 42 ได้เลย โดยสามารถใช้วิ่งได้ทั้งฝั่งขาเข้า-ออกเมืองโดยไม่ต้องกลับรถ หรือขากลับจากถนนสุขุมวิทเข้ามาโครงการ ก็ให้ใช้ซอยสุขุมวิท 22, 24, 26, 36 และ 40 แทน ช่วยร่นระยะทางและลดเวลาในการเดินทางได้เป็นอย่างดีค่ะ

ถ้าต้องการเดินทางไปยังโซนสาทร-สีลม จากโครงการให้มุ่งหน้าไปแยกพระโขนงแล้วกลับรถตรงปากซอยแสงจันทร์ จากนั้นตรงผ่านแยกพระราม 4 ไปจนถึงแยกวิทยุหรือแยกศาลาแดง ก็จะถึง ถนนสาทร-วิทยุ และ ถนนสีลม-ราชดำริ แล้ว ระยะทางก็อยู่ในหลัก 4-5 กม. เท่านั้นค่ะ

ทางด่วน นอกจากจะเดินทางไปยังโซน CBD ได้ง่าย ๆ แล้ว จะวิ่งไปยังโซนต่าง ๆ ของกรุงเทพฯ และปริมณฑลก็สะดวกนะคะ เพราะโครงการอยู่ใกล้กับจุดขึ้น-ลงทางด่วนเฉลิมมหานครถึง 2 ด่าน ใกล้ที่สุดจะเป็น ด่านท่าเรือ จากโครงการขับรถออกไป ประมาณ 2.5 กม.* หรือใช้เวลาในการขับรถไป ประมาณ 5 นาที*

อีกด่านก็คือ ด่านพระราม 4 ตรงแยกพระราม 4 จากโครงการขับรถไป ประมาณ 3.3 กม.* หรือ ใช้เวลาไปจุดขึ้นทางด่วนเพียง 6 นาที* เท่านั้น ตรงนี้เราสามารถเลือกใช้งานได้ตามความสะดวก หรือตามการจราจรในแต่ละวันได้เลย

:: สรุปแยก และ ถนนสำคัญรอบโครงการ ::

  • ถนนสุขุมวิท : 1.3 กม.
  • ถนนเกษมราษฎร์ : 1.7 กม.
  • ถนนอาจณรงค์ : 2.2 กม.
  • ถนนสุนทรโกษา : 2.3 กม.
  • ถนนรัชดาภิเษก : 2.6 กม.
  • ถนนพระราม 3 : 3.3 กม.
  • ทางพิเศษเฉลิมมหานคร ด่านท่าเรือ : 2.5 กม.
  • ทางพิเศษเฉลิมมหานคร ด่านพระราม 4 : 3.3 กม.
  • แยกพระโขนง : 2.0 กม.
  • แยกพระราม 4 : 2.6 กม.
  • แยกอโศก : 3.4 กม.

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ ข้อดีของการที่อยู่โซนในเมืองแบบนี้ก็คือ การเดินทางที่สะดวกสบายเพราะมีตัวเลือกเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็น พวกรถเมล์, รถแท็กซี่ และวินมอเตอร์ไซค์ คือสามารถหาได้ตลอด แต่ที่คนในยุคปัจจุบันให้ความสำคัญเป็นอย่างมากก็คือรถไฟฟ้า

โดยโครงการจะอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้าถึง 2 สถานีค่ะ ที่ใกล้ที่สุดจะเป็น BTS สถานีทองหล่อ ระยะยังสามารถเดินจากโครงการไปได้นะคะสำหรับสาย Active ประมาณ 1.3 กม. ถ้ารีบจะนั่งวินมอเตอร์ไซค์ไปก็ใช้เวลาแค่ 3 นาทีถึง และทางโครงการเองก็มีบริการ Shuttle Service ไปส่งถึงตัวสถานีอีกด้วย

แต่ถ้าจะไปฝั่งหัวลำโพง หรือข้ามไปฝั่งท่าพระ แนะนำให้ใช้ MRT ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ จะอยู่ห่างจากโครงการออกไปประมาณ 2.0 กม. ค่ะ

สำหรับการไป BTS สถานีทองหล่อ ให้เราเดินเข้าซอยแสนสบาย หรือซอยสุขุมวิท 36 จนออกถนนสุขุมวิท ทางขึ้นรถไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุดจะเป็นทางออก 2 หรือให้ใช้ทางออกตรงคอนโด Noble Remix ค่ะ

ความอุดมสมบูรณ์ ตามสเต็ปของโครงการที่อยู่ในย่านใจกลางเมือง ก็จะมีความสะดวกสบาย และสามารถใช้ชีวิตได้ง่าย เพราะอยู่ใกล้แหล่งชอปปิง ที่ทำงาน หรือสถานที่พักผ่อนต่าง ๆ เป็นเรื่องที่เบสิกมากสำหรับคนที่อยู่ในเมืองอยู่แล้ว แต่เป็น Lifestyle ที่คนมีบ้านอยู่นอกเมือง และกำลังมองหาคอนโดในตัวเมืองอยู่ใฝ่ฝัน

แน่นอนว่าคอมมูนิตี้มอลล์และห้างสรรพสินค้ายอดนิยม ก็อยู่ใกล้กับโครงการแบบสุด ๆ ที่เดินไปได้เลยก็มี สวนเพลินมาร์เก็ต เพียง 450 ม. จากโครงการ K Village, Nihonmachi Mall, Bambini Villa, A Square และ Warehouse 26 ก็อยู่ในระยะเดิน 800 ม. ถึง 1 กม. ด้านหน้าก่อนถึงก็ยังมี Big C และ Lotus’s พระราม 4 อีกด้วย นี่คืออยู่บนเส้นพระราม 4 ทั้งหมดนะคะ

ถ้าออกไปเส้นสุขุมวิท ที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือห้างใน The Em District อย่าง Emporium และ Emquartier ก็ห่างออกไปเพียง 2.4 กม. นี่ยังไม่ได้พูดถึงร้านอาหารดัง ๆ ในโซนสุขุมวิท-เอกมัย-ทองหล่อ เลยนะ เอาเป็นว่านับไม่ถ้วน

นอกจากชอปปิงสะดวกแล้ว ก็ยังไปทำงานได้สะดวกด้วย ใกล้กับโครงการก็จะมีอาคารสำนักงาน เช่น อาคารมาลีนนท์, FYI Center, The PARQ, Ocean Tower 1, Exchange Tower และ Interchange 21 ที่ล้วนแล้วแต่เป็นอาคารสำนักงานชั้นนำ ที่รวมบริษัทชั้นนำของไทยและต่างประเทศไว้หลายบริษัท

ถ้ามองไปที่ฝั่งตรงข้ามของอาคาร Ocean Tower 1 ก็คือที่ตั้งของ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และ สวนเบญจกิติ ซึ่งล่าสุดได้มีการเปิดเฟสใหม่เป็น สวนป่าเบญจกิติ ที่มีขนาดกว่า 300 ไร่ มีเส้นทางสัญจรสำหรับเดินเล่น วิ่งออกกำลังกาย และปั่นจักรยาน บรรยากาศทำออกมาได้ดีมาก ๆ เป็นปอดข้างหนึ่งของกรุงเทพฯ ที่อยู่ใกล้กับโครงการ

นอกจากนี้โครงการยังอยู่ใกล้สถานศึกษาชั้นนำอีกหลายแห่ง ยกตัวอย่างเช่น รร.พระหฤทัยคอนแวนต์, รร.สายน้ำผึ้ง, รร.วัฒนาวิทยาลัย, BANGKOK PREP, ASB Sukhumvit Campus, St.Andrews Srivikorn Campus, ม.กรุงเทพ กล้วยน้ำไท, มศว. และ รร.สาธิต มศว.ประสานมิตร

ส่วนโรงพยาบาลก็มีตัวเลือกค่อนข้างเยอะ และขับรถไปเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้นค่ะ ใกล้ที่สุดจะเป็น รพ.เทพธารินทร์ ถัดออกไปก็จะมี MedPark Hospital, รพ.กล้วยน้ำไท, Bangkok Mediplex, รพ.สมิติเวช สุขุมวิท, รพ.สุขุมวิท และ รพ.จุฬาฯ

ที่สำคัญ ในอนาคตยังจะมีโครงการขนาดใหญ่ยักษ์เกิดขึ้นใกล้ ๆ กับโครงการอีก 2 แห่ง ทั้งโครงการ One Bangkok เป็นอสังหาริมทรัพย์ที่ครบวงจรและใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ด้วยมูลค่าการลงทุนกว่า 1.2 แสนล้านบาท และ Dusit Central Park โครงการ Integrated Mixed-Use ของกลุ่มดุสิต & เซ็นทรัล ซึ่งถือเป็นโครงการที่น่าจับตามองทั้งคู่

:: สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ ::

ศูนย์การค้า ตลาด และร้านสะดวกซื้อ

  • 7-Eleven ซอยแสนสบาย : 180 ม.
  • สวนเพลินมาร์เก็ต : 450 ม.
  • Big C Extra พระราม 4 : 650 ม.
  • Lotus’s พระราม 4 : 800 ม.
  • Decathlon พระราม 4 : 800 ม.
  • Bambini Villa : 800 ม.
  • K Village : 850 ม.
  • Warehouse 26 : 950 ม.
  • A Square : 1 กม.
  • Nihonmachi Mall : 1 กม.
  • Gateway เอกมัย : 1.6 กม.
  • Rain Hill : 2.1 กม.
  • UFM Fuji Super : 2.1 กม.
  • Emporium : 2.3 กม.
  • ตลาดสดคลองเตย : 2.5 กม.
  • Emsphere : 2.7 กม.
  • Miracle Mall : 3 กม.
  • Emquartier : 3.1 กม.
  • Robinson สุขุมวิท : 4.3 กม.
  • Terminal 21 : 4.4 กม.

สถานที่ราชการ และอาคารสำนักงาน

  • อาคารมาลีนนท์ : 300 ม.
  • Green Tower : 350 ม.
  • สถานีขนส่งผู้โดยสารเอกมัย : 1.9 กม.
  • กรมศุลกากร : 2.3 กม.
  • FYI Center : 2.7 กม.
  • The PARQ : 2.7 กม.
  • ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) : 3 กม.
  • การไฟฟ้านครหลวง สำนักงานใหญ่คลองเตย : 3.3 กม.
  • Exchange Tower : 3.4 กม.
  • Time Square : 3.7 กม.
  • Lumpini Tower พระราม 4 : 3.8 กม.
  • Ocean Tower 1 : 4.1 กม.
  • One Bangkok : 4.4 กม.
  • Q House ลุมพินี : 4.6 กม.
  • Interchange 21 Tower : 5.0 กม.

สถานศึกษา

  • ม.กรุงเทพ กล้วยน้ำไท : 900 ม.
  • รร.นานาชาติ Wells : 1.9 กม.
  • รร.นานาชาติ Bangkok PREP (Primary Campus) : 2 กม.
  • รร.นานาชาติ ASB (Sukhumvit Campus) : 2.5 กม.
  • รร.นานาชาติ St.Andrews (Srivikorn Campus) : 2.7 กม.
  • รร.สายน้ำผึ้ง : 2.8 กม.
  • รร.พระหฤทัยคอนแวนต์ : 3.1 กม.
  • รร.นานาชาติ Bangkok PREP (Secondary Campus) : 4 กม.
  • มศว.ประสานมิตร : 4 กม.
  • รร.สาธิต มศว.ประสานมิตร : 4 กม.
  • รร.วัฒนาวิทยาลัย : 4.5 กม.

ศูนย์การแพทย์

  • รพ.เทพธารินทร์ : 300 ม.
  • รพ.กล้วยน้ำไท : 1.5 กม.
  • Bangkok Mediplex : 1.6 กม.
  • รพ.สุขุมวิท : 1.9 กม.
  • รพ.สมิติเวช สุขุมวิท : 2.5 กม.
  • รพ.เมดพาร์ค (MedPark Hospital) : 3.1 กม.
  • รพ.สวนเบญจกิติเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา : 3.4 กม.
  • รพ.จุฬาฯ : 5.6 กม.

อื่น ๆ

  • อุทยานเบญจสิริ : 2.5 กม.
  • PAT Stadium : 3 กม.
  • สวนป่าเบญจกิติ : 4 กม.
  • สวนลุมพินี : 5 กม.

**ระยะทางวัดจากการเดินทางสู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด**


:::: การเดินทางสู่โครงการ ::::

เรามีภาพตัวอย่างการเดินทางไปโครงการ Oka Haus สุขุมวิท 36 โดยใช้รถยนต์ส่วนตัวจาก ถนนพระราม 4 > แยกพระราม 4 > Oka Haus สุขุมวิท 36 มาให้ชมกันค่ะ

เราเริ่มต้นการเดินทางจากบนถนนพระราม 4 มุ่งหน้าแยกพระโขนง เลย MRT ลุมพินี ตรงแยกวิทยุมาไม่ไกล ทางฝั่งซ้ายมือของเราจะเป็นที่ตั้งของโครงการ One Bangkok ค่ะ

เราตรงไปไม่ไกลทางฝั่งซ้ายมือของเราจะเป็นจุดขึ้นทางด่วนเฉลิมมหานคร ด่านพระราม 4

เลยจุดขึ้นทางด่วนมาแล้วเราจะเห็นทางลง MRT คลองเตย ทางฝั่งซ้ายมือ

รพ.เมดพาร์ค

และ The PARQ ค่ะ

จากนั้นให้เราตรงผ่านแยกพระราม 4 ไป เราจะเห็น FYI Center อยู่ข้างหน้า

ผ่านแยกพระราม 4 มาแล้วจะมีตลาดคลองเตยอยู่ทางฝั่งขวามือ

ใกล้กับโครงการในระยะที่เดินได้ จะมี Big C Extra และ Lotus’s อยู่ทั้ง 2 ฝั่งของถนน

รวมไปถึงสวนเพลินมาร์เก็ต

ตรงไปอีกเพียง 450 เมตร เราก็จะถึงโครงการ Oka Haus สุขุมวิท 36 แล้วค่ะ

ภาพบรรยากาศหน้าทางเข้าโครงการ Oka Haus สุขุมวิท 36


:::: สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ::::

โดยรอบโครงการ Oka Haus สุขุมวิท 36 ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัยและอาคารพักอาศัยค่ะ ส่วนพื้นที่ที่ติดถนนใหญ่ก็จะเป็นอาคารพาณิชย์ อาคารสำนักงาน คอมมูนิตี้มอลล์ โรงพยาบาล รวมไปถึงร้านค้าและร้านอาหารค่ะ

  • ทิศเหนือ ติดกับ บ้านพักอาศัย สูง 2-4 ชั้น
  • ทิศใต้ ติดกับ BRO Building และถนนพระราม 4
  • ทิศตะวันออก ติดกับ ซอยแสนสบาย 3 และบ้านพักอาศัย สูง 1-2 ชั้น
  • ทิศตะวันตก ติดกับ ปั๊ม LPG และบ้านพักอาศัย สูง 2-4 ชั้น

เรามาเดินดูบรรยากาศโดยรอบโครงการกันค่ะ หน้าโครงการคือถนนพระราม 4 เป็นถนนใหญ่ 6 เลนมีเกาะกลาง มีจุดกลับรถอยู่ไม่ไกลจากโครงการ และฝั่งตรงข้ามก็ไม่มีอาคารสูง

ด้านซ้ายตรงไปยังแยกพระโขนง เป็นจุดที่เชื่อมกับถนนสุขุมวิท

มองไปที่ฝั่งตรงข้าม ส่วนใหญ่จะเป็นพวกอาคารพาณิชย์

มี รร.อนุบาลกุ๊กไก่ ชื่อน่ารักจัง

ไม่ไกลจากโครงการมีป้ายรถเมล์ และมีสะพานลอยใช้ข้ามไปยังอีกฝั่งของถนนได้

ฝั่งตรงข้ามตรงกับสะพานลอยจะเป็นศูนย์โตโยต้า

เดินเลยไปคือปากซอยแสนสบายหรือซอยสุขุมวิท 36 เป็นทางที่ใช้เชื่อมไปยังถนนสุขุมวิทตรง BTS ทองหล่อ สะดวกตรงที่มี 7-11 และคิววินมอเตอร์ไซค์ยู่ที่หน้าปากซอยด้วย ถ้าเรียกไป BTS ทองหล่อ จะมีค่าโดยสารอยู่ที่ 15 บาทค่ะ

จากหน้าปากซอยมองไปที่ฝั่งตรงข้ามก็จะเห็น รพ.เทพธารินทร์

จากหน้าโครงการเดินไปฝั่งขวามือ มุ่งหน้าไปทางแยกพระราม 4 กันบ้าง

ถัดจากโครงการจะมีปั๊ม LPG ด้านหน้ามีคลินิกเวชกรรม

ตรงนี้จะเป็นจุดกลับรถพอดี ถ้าวิ่งมาจากแยกพระโขนง ก็สามารถใช้จุดกลับรถตรงนี้เพื่อเข้าโครงการได้

ถัดมาจากปั๊ม LPG จะเป็นร้าน FuFu Shabu ร้านนี้ดังอยู่นะคะ

ติดกันคืออาคาร BRO Building เป็นทั้งอาคารสำนักงานและอาคารพักอาศัย

มองไปที่ฝั่งตรงข้ามจะเป็น บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ สาขาคลองเตย และ สนง.บริการโทรศัพท์คลองเตย

ด้านหน้าของ บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ จะมีสะพานลอยและป้ายรถเมล์

เลยจากป้ายรถเมล์ไปก็จะถึงอาคารมาลีนนท์แล้วค่ะ เดินจากโครงการมาแค่ 300 เมตร ใครทำงานที่นี่แล้วกำลังมองหาคอนโดในเมือง Oka Haus สุขุมวิท 36 นี่เป็นอันตอบโจทย์

มองไปที่ฝั่งตรงข้ามของอาคารมาลีนนท์ ก็คือสวนเพลินมาร์เก็ต ด้านในมีร้านอาหารและร้านค้าให้เลือกทานได้มากมาย ใครที่ชอบเข้ายิม ก็มี Jetts ให้ใช้บริการได้

เรามองตรงไปฝั่งแยกพระราม 4 ไม่ไกลจะมี Lotus’s พระราม 4 ฝั่งตรงข้ามก็คือ Big C Extra ซึ่งถ้าเราเดินไปด้านหลังก็จะมีทั้ง K Village, Nihonmachi Mall, Bambini Villa, A Square และ Warehouse 26 ค่ะ


:::: ตัวโครงการ ::::

โครงการ Oka Haus สุขุมวิท 36 เป็น High Rise Condominium 1 อาคาร สูง 47 ชั้น จำนวน 1,178 ยูนิต บนที่ดินขนาดประมาณ 5 ไร่ ที่ถูกออกแบบมาให้เป็น Resort Condo สำหรับการพักผ่อนและการรีชาร์จพลังงานในทุก ๆ วัน เหมือนได้ไปพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ โดยโครงการมีการออกแบบสอดแทรกพื้นที่สีเขียวเข้าไปในทุกพื้นที่ จากแนวคิด Retreat & Rebound ที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก ขุนเขา สายลม และแสงแดด ซึ่งชื่อโครงการ “Oka” ในภาษาญี่ปุ่นนั้นแปลว่า “ภูเขา” นั่นเองค่ะ

สิ่งที่น่าสนใจของโครงการนี้ก็คือ การที่โครงการจัด Facilities มาให้แบบจัดเต็ม ครบครัน รองรับความต้องการของคนในยุคปัจจุบัน โดยจะกระจายกันที่ชั้น G, ชั้น 8, ชั้น 22, ชั้น 47 และชั้น Rooftop หลัก ๆ มีดังนี้ค่ะ

G Floor : Welcome Lounge พร้อม WIFI และ Educational Playground

8th Floor : Swimming Pool, Exercise Room และ Self-Laundry

22th Floor : Pocket Garden

47th Floor : Sky Lounge, Co-Working Space, Co-Kitchen และ Retreat Room

Rooftop : Sunset Deck, Star Scene Space และ Sansiri Backyard

อีกเรื่องหนึ่งก็คือ ทางโครงการยังมีการนำเอาเทคโนโลยี Smart Living ที่ออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกบ้าน ซึ่งเราสามารถแบ่งออกเป็น 3 อย่างคือ Smart Access, Smart Facilities และ Smart Unit ดังนี้ค่ะ
Smart Access
  • ระบบสำหรับเปิดประตูรับแขก ด้วยการส่ง QR Code ที่กำหนดระยะเวลาได้ ให้แขกของเราสามารถผ่าน Lobby และเปิดประตูเข้ามาในห้องของเราได้เลย โดยที่เราไม่ต้องลุกไปไหนเลยค่ะ

Smart Facilities

  • Facilities Booking : ระบบการจองพื้นที่ส่วนกลางผ่านมือถือ สำหรับการใช้งานแบบเป็นส่วนตัว พร้อมระบบการแจ้งเตือนเมื่อถึงเวลาจอง

  • Smart Mailbox : ระบบการแจ้งเตือนการรับจดหมาย โดยสามารถใช้ QR Code เพื่อปลดล็อกตู้จดหมายโดยไม่ต้องใช้กุญแจ

  • Smart Locker : ระบบการรับพัสดุได้ตลอด 24 ชม. พร้อมการแจ้งเตือน และการปลดล็อกด้วย QR Code

  • Farmshelf : เทคโนโลยีในการปลูกผักที่สามารถสั่งการผ่าน Application ในมือถือได้ โดยจะติดตั้งไว้ใน Co-Kitchen ค่ะ

  • Dialog Oven ของ Miele : เตาอบอาหาร Automatic Program ที่สามารถปรับอุณภูมิและเวลาให้เหมาะสมกับอาหารโดยอัตโนมัติ

  • EV Charger : Station ชาร์จแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า

  • OSIM uInfinity Luxe : เก้าอี้นวดไฟฟ้า และหูฟัง Bluetooth ของ Marshall

  • Omni-Light : เสาไฟฟ้าที่ผลิตแสงสว่างจาก Solar Cell และ Wind Turbine ช่วยประหยัดไฟในโครงการ

  • Trendy Wash : เครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้า ที่สามารถแจ้งเตือนผ่าน Home Service Application เมื่อเครื่องว่างและเมื่อซักเสร็จ ไม่ต้องเสียเวลาไปนั่งรอ
Smart Unit
  • Home Automation : ระบบควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในห้องผ่าน Application บนมือถือ โดยไม่จําเป็นต้องอยู่ในห้อง ถ้าลืมปิดไฟก็ไม่จําเป็นต้องกลับเข้ามาปิดเอง หรือสามารถ Setting ห้องเปิดไฟ-แอร์-เพลง-ทีวี ในแบบที่เราต้องการก่อนกลับถึงห้องได้

  • Touch Pad : ใช้ควบคุมระบบต่าง ๆ ภายในห้อง และเชื่อมต่อกับ VDO Door Phone ที่ล็อบบี้ สามารถกด Snapshot คนที่มาหาได้ รวมไปถึงใช้ในการติดต่อกับนิติบุคคล ใช้จองพื้นส่วนกลาง เช็ก Mailbox และค่าน้ำ-ค่าไฟได้

Master Plan ของโครงการจะเป็นลักษณะของคอขวด ทำเป็นถนนและทางเท้าเข้ามาด้านในตัวโครงการ ซึ่งมีข้อดีตรงที่ทำให้ตัวอาคารมีระยะจากถนนใหญ่ 140 ม. จึงได้ความเป็นส่วนตัวเพิ่มขึ้น จากทางเข้าโครงการจะมีจุดรักษาความปลอดภัยด่านแรก ตรงเข้ามามีสวนหย่อมจัดไว้ตลอดทางเป็นจุดรับสายตา

เข้ามาถึงด้านในจะมีการเดินรถตามเข็มนาฬิกา มีทางแยกฝั่งซ้ายอ้อมไปด้านหลังอาคารเพื่อเข้าสู่อาคารจอดรถ หรือตรงไปมี Canopy เป็นจุด Drop-Off  เพื่อส่งลูกบ้านเข้าสู่ตัวอาคาร และวนตามเข็มนาฬิการอบ ๆ  Educational Playground เพื่อออกจากโครงการค่ะ

เรามาดูบรรยากาศภายในโครงการกันค่ะ เริ่มจากที่ทางเข้าโครงการถูกออกแบบมาอย่างร่มรื่น พื้นปูด้วยกระเบื้องผิวด้าน มีป้ายโครงการติดให้เห็นอย่างชัดเจน คุมโทนสีแบบ Earthy ตามชื่อของโครงการ

สำหรับการเข้า-ออกโครงการจะใช้ระบบ Key Card Access มีป้อม รปภ. และกล้อง CCTV ดูแลตลอด 24 ชม.

แค่บรรยากาศตรงทางเข้าก็ทำได้ร่มรื่นดีจริง ๆ ได้ฟีลลิ่งของความเป็นรีสอร์ตและภูเขา

และมีทางเท้าแยกให้สามารถเดินเข้าไปถึงด้านในโครงการได้แบบยาว ๆ และมีประตู Key Card กั้นเพื่อความปลอดภัย

ตรงเข้าไปด้านในโครงการ มีการปรับบรรยากาศด้วย Landscape สีเขียวดูสบายตา 

ในบางช่วงของทางเดิน มีการออกแบบให้เป็นพื้นที่สำหรับนั่งพักผ่อนหรือพักคอย คือใครที่ต้องเดินเป็นกิจวัตรน่าจะชอบนะคะ ไม่ร้อนเท่าเดินข้างนอกแน่ ๆ วันนี้ฝนตกพื้นเลยอาจจะดูเฉอะแฉะนิดหน่อย

ตัวอาคารเองก็มีการคุมโทนให้ได้ Look แบบ Earthy ไม่ว่าจะเป็นการคุมโทนสี หรือการออกแบบรูปทรงอาคารที่ไม่ดูหวือหวา

เราตรงเข้ามาจนถึงตัวอาคารแล้ว

จะมีทางแยกไปฝั่งซ้ายมือเพื่อวนเข้าสู่พื้นที่จอดรถ จะอยู่ที่ชั้น 1 ไปจนถึงชั้น 7 มีทั้งที่จอดภายในและภายนอกอาคาร รวมแล้วคิดเป็น 49% ไม่รวมการจอดแบบซ้อนคัน

ซึ่งบริเวณที่จอดรถจะมีการออกแบบที่จอดรถสำหรับคนชราและผู้พิการ, EV Charging Station สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า รวมไปถึงมีรถยนต์ไฟฟ้าที่เรียกว่า Smart Move ให้ลูกบ้านสามารถยืมไปใช้งานได้ โดยจะมีค่าบริการเพิ่มเติมค่ะ

ถ้าขับตรงเข้าไปก็จะเป็น Canopy ซึ่งเป็นจุด Drop-Off สำหรับส่งลูกบ้านเข้าสู่ตัวอาคาร

รถตู้ที่เราเห็นอยู่ตรงนี้ก็คือ Shuttle Bus บริการส่งลูกบ้านไปถึง BTS ทองหล่อ มีรอบการออกอยู่นะคะ ถ้าไม่ต้องรีบมากใช้บริการรถนี้ก็สะดวกอยู่ค่ะ

จากจุด Drop-Off ก็จะมีทางวนตามเข็มนาฬิกา เพื่อกลับไปที่ทางเข้า-ทางออกโครงการ รอบ ๆ มีพื้นที่จอดรถกลางแจ้งสำหรับลูกบ้านและ Visitor

สวนที่เราเห็นอยู่ด้านข้างจุด Drop-Off ก็คือ Educational Playground นับว่าเป็น Highlight นึงของโครงการเลยค่ะ

สวนนี้ทางแสนสิริได้มีการออกแบบและพัฒนาร่วมกับ รพ.สมิติเวช เพื่อเสริมสร้างพัฒนาการด้านร่างกาย และเพิ่มพูนทักษะการเจริญเติบโตของเด็ก ๆ

มีการออกแบบผสาน Hardscape, Landscape และ Waterscape ให้กลมกลืนกัน ไม่ใช่แค่ใช้งานได้จริง แต่ว่ายังดูสวยงามด้วยค่ะ นอกจากนี้ก็ยังมีการออกแบบน้ำพุ เพื่อให้ได้เสียงที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย

นอกจากเด็ก ๆ และผู้ปกครองแล้ว ผู้ใหญ่คนอื่น ๆ ก็สามารถมานั่งเล่นพักผ่อนในสวนนี้ได้นะคะ มีพวกโต๊ะบาร์และเก้าอี้สำหรับนั่งพักผ่อนจัดเอาไว้ให้ตามมุมต่าง ๆ เยอะเลย

คราวนี้เราเข้าไปดูภายในตัวอาคารกันบ้างค่ะ เริ่มจากชั้น G จะเป็นส่วนของ Welcome Lounge หรือว่า Lobby ภายในจะเชื่อมต่อกับ Mail Room, ห้องนิติบุคคล, ห้องน้ำ และโถงทางเดินไปยังโถงลิฟต์

จากจุด Drop-Off ก็จะเชื่อมต่อกับ Main Entrance ของอาคารเลยค่ะ

ทางโครงการมีการออกแบบ Main Entrance ให้เป็นประตูเลื่อนกระจกแบบอัตโนมัติเพื่อลดการสัมผัส โดยใช้ระบบ Key Card Access และ QR Code และที่ประตูก็จะมี VDO Door Phone ติดตั้งเอาไว้ให้ ให้ลูกบ้านสามารถดูแขกที่มาหาได้

พอเข้ามาภายใน Lobby หรือ Welcome Lounge ส่วนแรกจะมีเคาน์เตอร์ Reception ตั้งอยู่ด้านหน้า

พื้นที่ห้องนี้มีการออกแบบจากแนวคิดของหุบเขาสีขาวที่ถูกกัดเซาะโดยลม ทำให้ได้ผนังสีขาวที่มีลูกเล่นเป็น Pattern สวยงาม และตกแต่งด้วยผนังระแนงไม้ เฟอร์นิเจอร์ และพรม คุมโทนสีให้เหมือนกับธรรมชาติ เป็นพื้นที่ที่รองรับการนั่งเล่นพักผ่อนได้เป็นอย่างดี ฝ้าเพดานก็ออกแบบให้มีความสูงโปร่ง ทำให้รู้สึกสบาย

ใครที่ต้องการนั่งทำงานก่อนออกไปธุระข้างนอก ก็มีโต๊ะยาวจัดเอาไว้ให้ค่ะ ใช้เป็น Co-Working Space ได้

ด้านข้าง Lobby ก็คือ Mail Room หรือ Smart Mailbox เป็นจุดที่ทางโครงการติดตั้งเจ้าตัว Smart Locker หรือหน้าจอที่เห็นอยู่ด้านหน้าเอาไว้ให้ ให้เราสามารถรับพัสดุได้ตลอด 24 ชม. โดยให้เราติดต่อกับทางนิติบุคคลให้นำพัสดุมาใส่ไว้ที่ Locker ได้ แม้ว่าจะกลับบ้านดึก ก็ไม่มีปัญหาเรื่องการรับพัสดุค่ะ

ส่วนการใช้งานก็ง่ายมาก ให้เราสแกน QR Code เพื่อปลดล็อกตู้จดหมาย และถ้ามีจดหมายมาส่ง ก็จะมี Notification แจ้งเตือนมาที่ Application บนมือถือของเรา

จาก Lobby จะเชื่อมต่อกับโถงทางเดินมายังด้านหน้าห้องนิติบุคคล

และห้องน้ำแยกชาย-หญิง รวมไปถึงห้องน้ำ Unisex สำหรับผู้สูงอายุและผู้พิการ จะอยู่ด้านในสุดของโถงเลยค่ะ

ภายในห้องน้ำก็ยังมีการตกแต่งที่คุมโทนมาจาก Lobby

การจัด Lighting ก็ทำให้ได้บรรยากาศแบบธรรมชาติ เหมือนห้องน้ำตามรีสอร์ตสวย ๆ ตรงนี้เขาใช้เป็นเคาน์เตอร์หินสีดำ พวกก๊อกน้ำและขวดสบู่ต่าง ๆ ก็ใช้แบบที่เป็น Sensor ทั้งหมดเพื่อลดการสัมผัส

ตามมาตรฐานของทางแสนสิริ ก็จะใช้พวกโถสุขภัณฑ์แบบอัตโนมัติ หรือแม้แต่ถังขยะในห้องน้ำก็ใช้รุ่นที่เป็น Sensor ด้วยนะคะ

และจาก Lobby ก็จะเชื่อมต่อกับอีกโถงทางเดินก่อนเข้าสู่ Lift Lobby โดยโถงทางเดินส่วนนี้จะมีการจัดพวกชุดเก้าอี้นั่งพักคอย และตกแต่งด้วยชิ้นงานศิลปะเพื่อความสวยงามและความจรรโลงใจ ส่วนการผ่านเข้าสู่ Lift Lobby ก็จะต้องใช้ระบบ Key Card Access หรือ QR Code เช่นกัน

ภาพบรรยากาศภายใน Lift Lobby มีลิฟต์โดยสารจัดเอาไว้ให้ทั้งหมด 5 ตัว โดยลิฟต์ที่ทางโครงการเลือกใช้ก็จะเป็นลิฟต์ระบบล็อกชั้น ใช้งานได้ทั้งระบบ Key Card Access, QR Code และระบบ Face Scan ค่ะ

ขึ้นมาที่ชั้น 8 ห้องพักอาศัยจะเริ่มต้นที่ชั้นนี้ค่ะ จะแบ่งเป็นห้องพักอาศัยทั้งหมด 18 ห้อง และพื้นที่อีกส่วนหนึ่งของชั้นนี้จะเป็น Facilities ของโครงการ ประกอบด้วย สระว่ายน้ำทั้งหมด 4 สระ, Changing Room, Self-Laundry, Kid’s Area และ Exercise Room โดยจะมีการออกแบบประตู Key Card กั้น Corridor ของห้องพักอาศัยออกไป เพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกบ้านชั้นนี้

โถงลิฟต์ของชั้นนี้มีการออกแบบประตูทางออกไปยัง Facilities ให้ 2 ทาง โดยแบ่งเป็นส่วน Outdoor และส่วน Semi-Outdoor กับ Indoor ค่ะ

มาดูฝั่งที่เป็นส่วน Outdoor กันก่อนค่ะ เรียกว่าเป็น Highlight ของชั้นนี้เลย เพราะทางโครงการได้จัดสระว่ายน้ำมาให้ถึง 4 สระด้วยกัน

สระแรกคือ Swimming Pool ตรงตามชื่อเลยก็คือสระสำหรับว่ายน้ำ ด้วยขนาดสระ 40 x 5.5 เมตร คือใช้ว่ายน้ำออกกำลังกายได้จริง ๆ พร้อมติดตั้ง Jacuzzi ให้ภายในสระ

รอบ ๆ สระมีการจัดชุดม้านั่งและ Sunbed สำหรับพักผ่อนหย่อนใจ และแม้ว่าจะเป็นสระแบบ Outdoor แต่ด้วยการออกแบบพื้นที่โซนนี้ให้อยู่ทิศเหนือ โดยมีตัวอาคารช่วยบังแดดจากทิศตะวันตกและทิศใต้ให้ ทำให้เรายังสามารถว่ายน้ำในตอนกลางวันได้ โดยที่ไม่ร้อนจนเกินไป

ข้าง ๆ กันคือ Kid’s Pool เป็นสระว่ายน้ำสำหรับเด็ก โดยออกแบบแยกออกมาจาก Swimming Pool เพื่อความปลอดภัย โดยส่วนนี้จะอยู่ใกล้กับ Kid’s Area ให้เด็ก ๆ สามารถวิ่งเล่นหรือว่ายน้ำกันได้ในโซนเดียว ไม่ไปวุ่นวายกับพื้นที่โซนอื่น ๆ และยังสะดวกกับผู้ปกครองที่ต้องนั่งเฝ้าด้วย

ถัดมาเป็นส่วนของ Leisure Pool มีการออกแบบให้เชื่อมต่อกับ Swimming Pool แต่ลดระดับลงมา โดยสระนี้จะมีระบบการนวดที่แบ่งออกเป็น 5 Stations ด้วยกัน คือ Feet Bubble Station, Water Curtain Station, Massage Seat Station, Walking Corridor Station และ Spa Bed Station

ส่วนแรกคือ Feet Bubble Station สำหรับนวดขานวดเท้า

ถัดมาคือ Massage Seat Station สำหรับการนวดหลังและต้นขา

ช่วงกลางสระคือ Water Curtain Station สำหรับนวดไหล่กับหลัง และส่วนที่อยู่ติดกับราวกันตกก็คือ Walking Corridor Station ใช้นวดเอวและต้นขา

และอีกจุดที่ปลายสระคือ Spa Bed Station สามารถนอนลงไปได้ทั้งตัว นวดได้ทั้งไหล่, หลัง และเอว

อีกสระที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือ Heated Pool ค่ะ จะอยู่ด้านหน้า Changing Room พอดี

สระนี้จะมีการควบคุมอุณหภูมิเอาไว้อยู่ที่ 38 องศาเซลเซียส ได้ฟีลเหมือนแช่ออนเซ็นกลางแจ้ง ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อได้ดีเลย

ส่วน Changing Room ก็จะมีการออกแบบแยกฝั่งชาย-หญิง ด้านหน้าตกแต่งด้วยหิน Verde Italia หรูหราตามสไตล์คุณพี่แสนสิริ

ส่วนตัวชอบการออกแบบห้องน้ำของโครงการนี้นะคะ เพราะนอกจากจะสวยแล้วก็ยังโปร่งโล่ง ฟังก์ชันก็จัดมาดี มีทั้งโซนตู้ล็อกเกอร์, อ่างล้างมือ, ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ที่แยกต่างหากจากห้องน้ำ, ห้องอาบน้ำ และห้องสตีม หลาย ๆ ครั้งเราก็ใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำกันนานพอสมควร เพราะฉะนั้นฟังก์ชันการใช้งานและบรรยากาศนั้นสำคัญมาก

โซนอ่างล้างมือตกแต่งด้วยหินอย่างสวยงาม

โซนห้องอาบน้ำ มีประมาณ 4 ห้อง

ภายในห้องสตีม รองรับได้ประมาณ 5-6 ที่นั่ง

ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าแยกต่างหาก

และภายในห้องน้ำ พร้อมโถสุขภัณฑ์แบบอัตโนมัติ

จาก Changing Room จะมีประตูอีกฝั่ง เปิดออกมาที่พื้นที่โซน Semi-Outdoor ได้ จะเป็นพื้นที่สำหรับนั่งพักผ่อนในร่ม รับลมธรรมชาติได้แบบเต็ม ๆ

โดยจะออกแบบที่นั่งให้เป็นแบบ Sunken Seat บรรยากาศชิวมาก นั่งอ่านหนังสือไป คุยกับเพื่อน ๆ ทานขนมไป บอกเลยเพลินค่ะ

และตรงนี้มันจะมีจุดที่เรียกว่า Kid’s Area เป็น Play Space สำหรับเด็ก ๆ ที่บอกว่าอยู่ใกล้ ๆ กับ Kid’s Pool

ถ้าเราตรงเข้าไปสุดโถง จะเห็นประตูกระจกอยู่ทางฝั่งซ้ายมือ ตรงนี้คือ Exercise Room ค่ะ

การออกแบบห้องออกกำลังกายของที่นี่ก็ทำมาได้ดีเลยนะคะ หลัก ๆ คือดีไซน์ผนังกระจกให้ถึง 3 ด้าน ทำให้ห้องรู้สึกโปร่งโล่ง การคุมโทนสีภายในห้องก็ทำให้ดูผ่อนคลายและเป็นส่วนตัว ไม่รู้สึกว่ามันสว่างเกินไปจนแสบตา

ที่โดดเด่นกว่าห้องออกกำลังกายทั่ว ๆ ไปก็คือ มีการออกแบบมุมสำหรับนั่งพักผ่อนให้แบบจริงจังด้วย นั่งพักดูทีวีก็ได้ ใครที่ชอบใช้เวลาในยิมนาน ๆ น่าจะชอบค่ะ

ส่วนพวกเครื่องออกกำลังกายก็มีจัดเอาไว้ให้ครบทั้ง Cardio Machine และ Weight Training Machine จากแบรนด์ Life Fitness หรือจะเป็นโซน Free Weight ก็มี วันนี้เราถ่ายมาให้ชมได้ไม่ครบทุกมุม เพราะว่ามีลูกบ้านกำลังเข้าใช้งานกันอยู่บ้าง เลยหลบมุมถ่ายมาให้ดูกันแบบคร่าว ๆ นะคะ

นอกจากนี้ก็ยังมี Boxing Corner มุมสำหรับเล่นโยคะ-ยืดเส้น รวมไปถึง Station น้ำร้อน-น้ำเย็นให้บริการค่ะ

ส่วนอีกห้องนึงในชั้นนี้ก็คือ Self-Laundry ที่มีเครื่องซักผ้า, เครื่องอบผ้า และตู้กดน้ำจัดเอาไว้ให้ โดยเครื่องซักผ้า-อบผ้าของที่นี่จะมีระบบการแจ้งเตือนผ่าน Home Service Application ว่ามีเครื่องว่างอยู่มั้ย หรือว่าผ้าซักเสร็จหรือยัง ตรงนี้ช่วยประหยัดเวลาไปได้มาก ไม่ต้องมานั่งรอผ้า ไม่ต้องเดินมานั่งเช็กเครื่อง เป็นอีกหนึ่งความสะดวกสบายที่ทางโครงการช่วยแก้ปัญหาให้กับลูกบ้าน

ตั้งแต่ชั้น 10 เป็นต้นไปจะเป็น Typical Floor Plan มีห้องพักอาศัยแบบเต็มชั้น รวมทั้งหมดแล้วมีอยู่ 33 ห้อง/ชั้น จะเห็นว่าทางโครงการมีการออกแบบตัว Tower เป็นรูป L Shape เพื่อเปิดให้ได้รับมุมมองที่กว้างมากขึ้น โดยจะมีการจัดห้องพักอาศัยแบบ Double Corridor โดยออกแบบให้ห้องที่อยู่มุมอาคารเป็นห้อง 2 Bedroom ค่ะ

นี่คือภาพบรรยากาศภายในโถงลิฟต์ของชั้นพักอาศัยนะคะ จะมีการตกแต่งแบบเรียบ ๆ แต่ยังคงการใช้ไม้ในการปิด Finishing บางส่วน เพื่อให้ได้บรรยากาศที่ดูอบอุ่น

ตามโถงทางเดินก็ตกแต่งดูคลีน ๆ ใช้พื้นและผนังสีขาว-ครีมล้วน แต่จะมีการใช้ไม้ในการตกแต่งพวกประตูทางเข้าห้อง ส่วนปลายโถงก็ยังมีการเว้นเป็นช่องแสงให้

ชั้น 22 มีการแบ่งพื้นที่ห้องพักอาศัย 4 ห้องออกมาเป็น Facility เล็ก ๆ อีก 1 ส่วนเป็น Pocket Garden หรือมุมสวนพักผ่อน โดยไม่มีฟังก์ชันอื่น ๆ ให้ใช้งาน เหมาะสำหรับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว อยากจะมานั่งพักผ่อนแบบเงียบ ๆ

Main Facilities อีกส่วนจะอยู่ที่ชั้น 47 และชั้น Rooftop ประกอบด้วย Co-Working Space, Co-Kitchen และ Retreat Room เชื่อมต่อไปยัง Sky Lounge และสวนชั้นบนสุด ทั้ง Sunset Seating, Outdoor Theater และ Sansiri Backyard

จากโถงลิฟต์ชั้น 47 จะมีประตูกั้นส่วนแยกระหว่าง Facilities และห้องพักอาศัย

การออกแบบพื้นที่ชั้นนี้คือว้าวเลยนะ คือมันจะมีโถงตรงกลางออกมาแบบคล้าย ๆ กับพวก Glasshouse เพื่อเชื่อมต่อระหว่างฟังก์ชันของชั้น 47 และชั้น Rooftop และเพื่อกันความร้อน เลยมีการติดตั้งพวกม่านและผ้าใบเอาไว้สำหรับเวลาที่แดดจ้า

ทางฝั่งนี้ก็คือ Co-Working Space ค่ะ

ข้อดีของ Co-Working Space ที่นี่ก็คือ เขาเปิดให้ใช้งานตลอด 24 ชม. เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะเราจะมีไลฟ์สไตล์แบบไหน เช่น นอนตอนกลางวันทำงานตอนกลางคืน หรือต้อง WFH ก็จะมี Space ที่สามารถมานั่งทำงานได้ โดยไม่ต้องนั่งเปื่อยอยู่แต่ในห้อง หรือไม่ต้องจ่ายเงินค่ากาแฟ และเสียเวลาเดินออกไปนั่งในคาเฟ่ข้างนอก

ในนี้เขาก็มีการจัดที่นั่งและโต๊ะทำงานเอาไว้ให้หลายมุมเลยนะคะ อยากนั่งทำงานแบบจริงจัง ก็มีโต๊ะทำงานและเก้าอี้ที่มี Dimensions เหมาะสำหรับการนั่งทำงานให้

ใครชอบนั่งทำงานแบบ Relax หน่อย ก็มีโซฟาและโต๊ะอีกแบบจัดเอาไว้ให้ หรือถ้าต้องการประชุมคุยงานกัน ก็ยังมีโต๊ะสำหรับประชุมและหน้าจอทีวีที่เอาไว้ใช้เปิดงานดูได้

ตรงเข้าไปด้านในห้อง จะมีประตูบานเลื่อนกั้นส่วนอีกชั้น เป็นส่วนของ Co-Kitchen ค่ะ

ในห้องนี้ทางโครงการได้เตรียมอุปกรณ์สำหรับการทำอาหารแบบจริงจังเอาไว้ให้เลย ไม่ว่าจะเป็นพวกเตาไฟฟ้า, เตาอบ, ไมโครเวฟ หรืออ่างล้างจาน ลูกบ้านคนไหนที่รักการทำอาหาร อยากจัด Chef Table ของตัวเองกับกลุ่มเพื่อน หรือจะเชิญอาจารย์มาจัด Cooking Class ก็ทำได้ค่ะ

มองไปด้านหลังเคาน์ดตอร์ เราจะเห็นตู้กระจกอยู่ เจ้าตู้นี้ก็คือ Farmshelf สำหรับปลูกผัก ที่บอกว่าสามารถควบคุมผ่านมือถือได้ เวลาที่ผักโตได้ที่แล้ว เราก็สามารถเก็บผักมาปรุงอาหารได้

ส่วนที่น่าสนใจในห้องนี้อีกอย่างก็คือ เจ้าตัว Dialog Oven ของ Miele ที่ใช้เทคโนโลยีของคลื่น Electromagnetic ซึ่งจะปรับอุณภูมิและเวลาให้เหมาะสมกับอาหารโดยอัตโนมัติ ทำให้เราสามารถปรุงอาหารพร้อมกันได้หลากหลายชนิดในครั้งเดียว ช่วยประหยัดเวลาได้ดีมาก ราคาเครื่องนึงก็เบา ๆ ค่ะ 500,000 บาทเท่านั้น

อีกชิ้นหนึ่งก็คือเตาไฟฟ้าแบบ Full Surface ความพิเศษของมันก็คือ เราสามารถวางหม้อหรือกระทะไว้ตรงจุดไหนของเตาก็ได้ ทำได้พร้อมกันทีละหลายอย่าง และยังสามารถตั้งเวลาและควบคุมอุณภูมิให้ต่างกันได้ด้วย ครัวนี้คือว้าวมากสำหรับ Food Stylish

แน่นอนว่าพื้นที่ส่วนกลางจะขาดห้องน้ำไปไม่ได้เลย ด้านหลัง Co-Kitchen จะมีห้องน้ำแยกชาย-หญิง และ Unisex จัดเอาไว้ให้ค่ะ

ภายในห้องน้ำแบบ Unisex รองรับผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ที่ใช้รถเข็นได้

ภายในห้องน้ำชายและหญิง ถือว่าเป็นห้องน้ำที่ได้วิวดีมาก

ส่วนอีกฝั่งหนึ่งจะเป็นส่วนของห้อง Retreat Room ค่ะ

ห้องนี้เป็นห้องพักผ่อนที่ติดตั้งเก้าอี้ OSIM ulnfinity Luxe เป็นเก้าอี้นวดไฟฟ้าที่สามารถตั้งระบบให้นวดได้ตั้งแต่ศีรษะถึงปลายเท้า และมี Mode ให้ปรับได้กว่า 20 Mode โดยทางโครงการจะมีการจัดเก้าอี้เอาไว้ให้ทั้งหมด 2 ฝั่ง ฝั่งนึงคือนั่งดูทีวีได้ และอีกฝั่งนึงก็ชมวิวโค้งแม่น้ำบางกระเจ้าได้ เอาเป็นว่า เลือกนั่งตามชอบเลยค่า

ถ้าใครอยากฟังเพลงระหว่างนวด ก็สามารถใช้หูฟัง Marshall ที่ติดตั้งมากับหมวกได้เลย

เดินขึ้นมาก่อนถึง Rooftop จะมี Sky Lounge สำหรับนั่งชมวิวโค้งแม่น้ำบางกระเจ้าโดยเฉพาะ

มองออกไปก็จะได้วิวตรงโค้งแม่น้ำพอดี

จากมุมนี้จะมีบันไดขึ้นไปที่ชั้น Rooftop ค่ะ

พื้นที่บน Rooftop จะมีการแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง

ฝั่งแรกคือพื้นที่สวนพักผ่อน มีการจัดม้านั่งและ Landscape ให้สวยงามเลยค่ะ

มีการออกแบบเหมือนเป็นแปลงดอกไม้ให้เราเดินชมได้

รวมไปถึง Signature ของทางแสนสิริ นั่นก็คือ Sansiri Backyard ซึ่งเป็น Edible Garden แม้จะเป็นคอนโดมิเนียมที่มีพื้นที่ไม่เยอะมาก ก็ยังสามารถออกแบบให้มีได้

ภายในจะเป็นแปลงผักที่รับประทานได้ มีหลายอย่างเลยค่ะ พวกพริกขี้หนู ต้นหอม ผักชี จะมีการแจกจ่ายโดยทางนิติฯ

อีกฝั่งของชั้น Rooftop จะเป็นส่วนของ Sunset Seating

มีการออกแบบให้เป็นจุดชมวิวพร้อมกล้องส่องทางไกล สวยเลยนะมุมนี้

วิวที่ได้ก็จะเป็นมุมนี้ค่ะ เห็นวิวโค้งน้ำบางกระเจ้าแบบชัดมาก ต้องมายืนอยู่ตรงนี้จริง ๆ จะเห็นชัดกว่าในรูปอีก

จากมุมนี้จะมีขั้นบันไดเชื่อมต่อกับทางเดินเพื่อไปยังพื้นที่อีกส่วน

อีกมุมก็คือ Star Scene Space เป็น Outdoor Theater เหมือนได้นั่งดูนั่งท่ามกลางธรรมชาติและหุบเขา

มองออกไปรอบบ ๆ คือได้วิวดีมาก และนี่ก็คือพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมดที่ทางโครงการจัดมาให้ เห็นแล้วคืออยากเป็นลูกบ้านโครงการนี้เองเลยค่ะ ฮ่า ๆ


:::: แบบห้องของโครงการ ::::

สำหรับห้องพักอาศัยของโครงการนี้จะมีอยู่ด้วยกันถึง 17 แบบ แต่ถ้าแบ่งแบบกว้าง ๆ ตามขนาดห้อง จะสามารถแบ่งได้เป็น 4 แบบดังนี้ค่ะ

  • 1 Bedroom 1 Bathroom ขนาด 26.5-34.75 ตร.ม.
  • 2 Bedroom 1 Bathroom ขนาด 40.5-41.00 ตร.ม.
  • 2 Bedroom 2 Bathroom ขนาด 49.25-49.50 ตร.ม.
  • 3 Bedroom 2 Bathroom ขนาด 86.25-86.50 ตร.ม.

room oka_Page_01_resize

1A : 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 26.50-26.75 ตร.ม.

room oka_Page_02_resize

1AM : 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 26.50-26.75 ตร.ม.

room oka_Page_03_resize

1B : 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 33.50-34.00 ตร.ม.

room oka_Page_04_resize

1BM : 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 33.50-34.00 ตร.ม.

room oka_Page_05_resize

1B-BW : 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 34.75 ตร.ม.

room oka_Page_06_resize

1BM-BW : 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 34.75 ตร.ม.

room oka_Page_07_resize

1C : 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 34.00-34.25 ตร.ม.

room oka_Page_08_resize

1CM : 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 33.75 ตร.ม.

room oka_Page_09_resize

1D : 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 34.25-34.75 ตร.ม.

room oka_Page_10_resize

1DM : 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 34.25-34.75 ตร.ม.

room oka_Page_11_resize

2A : 2 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 40.50-41.00 ตร.ม.

room oka_Page_12_resize

2AM : 2 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 41.00 ตร.ม.

room oka_Page_13_resize

2B : 2 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 49.25-49.50 ตร.ม.

room oka_Page_14_resize

2B-1 : 2 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 49.25 ตร.ม.

room oka_Page_15_resize

2C : 2 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 49.25 ตร.ม.

room oka_Page_16_resize

3C : 3 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 86.25 ตร.ม.

room oka_Page_17_resize

3AM : 3 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 86.50 ตร.ม.


:::: ห้องตัวอย่าง ::::

วันนี้ทางโครงการมีห้องตัวอย่างให้ชมทั้งหมด 2 ห้องด้วยกัน เป็นห้อง 1 Bedroom Type 1B ขนาด 33.50 ตร.ม. และ 1DM ขนาด 34.50 ตร.ม. ไปชมกันเลยค่า

::: 1 Bedroom Type 1B ขนาด 33.50 ตร.ม. :::

room oka_Page_03_resize

สำหรับห้อง 1 Bedroom Type 1B ขนาด 33.50 ตร.ม. จะเป็นห้องที่เหมาะสำหรับการอยู่อาศัยประมาณ 1-2 คน วางผังให้ห้องครัวอยู่ด้านหน้าห้อง ถัดเข้าไปจะเป็นห้องนั่งเล่นติดกับหน้าต่าง ส่วนห้องนอนและห้องน้ำจะถูกกั้นส่วนออกไป โดยห้องน้ำจะสามารถเข้า-ออกได้ 2 ทาง ทั้งจากฝั่งห้องนอนและจากฝั่งห้องครัว เพื่อความสะดวกสบายในการใช้งาน (ส่วนห้องตัวอย่างที่เราจะเข้าไปดู จะเข้า-ออกห้องน้ำได้จากฝั่งห้องนอนเพียงฝั่งเดียวค่ะ)

จุดเด่นของห้องนี้ก็คือ จะมีการออกแบบหน้าต่างตรงห้องนั่งเล่นด้วยกระจกแบบ Full Height ที่สามารถเลื่อนเปิดปิดได้และมีราวกันตกแบบ Juliet Balcony ทำให้เราสามารถชมวิวได้แม้จะอยู่ในพื้นที่ Indoor และจะมีประตูเปิดเชื่อมไปยังระเบียงที่ถูกออกแบบไว้อยู่ด้านหน้าห้องนอน ทำให้สามารถเดินออกไปที่ระเบียงได้โดยไม่ต้องผ่านห้องนอนค่ะ

ห้องของโครงการนี้จะขายแบบ Fully Fitted นะคะ คือเราจะได้เคาน์เตอร์ครัว กับสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำ ที่เหลือเราสามารถตกแต่งได้เองตามชอบ สำหรับคนที่ไม่ต้องการเสียเวลา ทางโครงการเองก็จะมี Option เป็น Furniture Package ให้ แต่ละห้องก็จะมีรายการเฟอร์นิเจอร์และราคาที่แตกต่างกันออกไปค่ะ

นอกจากนี้ห้องของโครงการยังมาพร้อมกับ Alexa (Echo Dot by Amazon) เป็นผู้ช่วยอัจฉริยะประจำบ้าน ที่สามารถสั่งการเปิด-ปิด เครื่องใช้ไฟฟ้า รวมไปถึงพูดคุยเล่นได้ด้วย แต่น้องเขาจะใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารนะคะ

อีกอย่างที่เราจะได้มาก็คือ Touch Pad หน้าจอขนาด 7 นิ้ว เอาไว้ใช้ควบคุม Smart Living Technology ที่ทางโครงการจัดมาให้ ทั้งระบบ Home Automation สั่งการเปิด-ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้า เชื่อมต่อ VDO Door Phone, นิติบุคคล, Mailbox, เช็กค่าน้ำ-ค่าไฟ รวมไปถึงใช้ในการจองพื้นที่ส่วนกลาง ซึ่งฟังก์ชันเหล่านี้ เราก็สามารถสั่งการผ่าน Application บนมือถือของเราได้เช่นกันค่ะ

เรามาดูรายละเอียดของห้องกันค่ะ เริ่มจากประตูทางเข้าห้อง ปิดผิวด้วยลามิเนตลายไม้ เราจะเห็นเส้นสีดำที่พาดบนประตู ตรงนี้จะมี AIR VENTILATION SYSTEM ซ่อนอยู่ ซึ่งเป็นช่องระบายอากาศสำหรับหมุนเวียนอากาศภายในห้องพัก เวลาที่เราไปเที่ยวนาน ๆ ก็จะช่วยให้ห้องไม่มีกลิ่นอับ

และจะมี Digital Door Lock ของ igloohome ติดตั้งเอาไว้ให้ ใช้ได้ทั้ง กุญแจ, Password และ Keycard และยังสามารถเชื่อมต่อกับ Touch Pad ได้ด้วย

เข้าไปด้านในห้องจะเห็นการออกแบบแปลนแบบเปิดโล่ง เชื่อมต่อห้องครัวเข้าไปถึงห้องนั่งเล่นที่อยู่ติดกับหน้าต่าง วัสดุในห้องที่ทางโครงการให้มา ก็จะมีพื้นที่ส่วนครัว ปูด้วยกระเบื้องแกรนิโตขนาด 60 x 60 ซม. ส่วนพื้นห้องทั่วไปปูด้วยลามิเนตสีน้ำตาลอ่อนหนา 8 มม. ผนังฉาบเรียบทาสี ฝ้าเพดานจะมีความสูงอยู่ที่ 2.7 เมตร ติดดวงโคมดาวน์ไลต์ LED มาให้

ส่วนห้องครัวจะมีความสูงฝ้าลดระดับลงมาเป็น 2.4 เมตร และนี่ก็คือชุดเคาน์เตอร์ครัวที่เราได้มากับห้องค่ะ

จะเห็นว่าบริเวณฝั่งตรงข้ามกับเคาน์เตอร์ครัว เป็นจุดที่เราสามารถลงเฟอร์นิเจอร์เพิ่มได้ จะทำ Built-in เป็นชั้นเก็บของ, เก็บรองเท้า และเคาน์เตอร์สำหรับเตรียมอาหารเพิ่มก็ยังได้

เคาน์เตอร์ครัวในห้องนี้จะมีขนาดค่อนข้างกระทัดรัด แต่ก็สามารถทำอาหารแบบจริงจังได้ เพราะมี Hob, Hood และ Sink ให้ครบค่ะ หน้าบานเปิดของเคาน์เตอร์จะปิดผิวด้วยเมลามีนลายผ้า หรือแบบ Satin Pattern ส่วน Top เคาน์เตอร์จะใช้เป็นกระเบื้องพอน์ซเลนลายไม้

ด้วยความที่เคาน์เตอร์มันมีขนาดที่ไม่ใหญ่มาก ทางโครงการเลยแถมเขียงที่ถูกออกแบบมาให้สามารถปิด Sink ได้พอดี เพื่อให้เรามีพื้นที่สำหรับเตรียมอาหารมากขึ้น

เตาปรุงอาหารที่ได้เป็นเตาไฟฟ้าเซรามิกขนาด 2 หัว ใช้ของแบรนด์ Teka เหมือนกับ Sink

Hood ติดตั้งมาให้ตรงตำแหน่งเดียวกัน สังเกตผนังด้านหลังเคาน์เตอร์ จะติด Backsplash เป็นกระจกมาให้แบบเดียวกับห้องตัวอย่างเลย แล้วยังมีชั้นสำหรับวางเครื่องปรุงที่สามารถเลื่อนได้ตามราว พร้อมกับไฟติดตั้งมาให้ด้วย

ส่วนบนตู้ลอยก็มีช่องสำหรับเก็บของได้อีกพอสมควร หน้าบานจะปิดผิวด้วย Acrylic High Gloss

ถัดเข้าไปด้านในจะเป็นส่วนของห้องนั่งเล่น

ระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องครัวยังเหลือพื้นที่อยู่นะคะ บางคนก็ชอบจัดมุมนี้ให้เป็นโต๊ะรับประทานอาหาร จะได้สามารถใช้พื้นที่โต๊ะในการเตรียมอาหารในตัวได้ด้วย หรือจะ Built-in เป็นชั้นวางของโชว์สวย ๆ แบบนี้ก็ดีไปอีกแบบ

ห้องนั่งเล่นจะมีระยะกำลังดีสำหรับห้องไซซ์นี้ค่ะ มีความกว้างอยู่ราว ๆ 2.4 เมตร นั่งดูทีวีจอขนาด 50 นิ้วได้

การจัดขนาดโซฟาของห้องนี้คือ 2 ที่นั่งตามมาตรฐาน แต่จริง ๆ แล้วจะวางขนาดเล็กกว่านี้หรือใหญ่กว่านี้ก็ได้

รวมไปถึงชั้นวางทีวี จะวางชั้นแบบลอยตัวง่าย ๆ หรือทำ Built-in เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของในตัวก็น่าสนใจ

ส่วนมุมที่เป็น Highlight ของห้องนี้ก็ต้องยกให้มุมนี้เลยค่ะ ทางโครงการมีการออกแบบหน้าต่างบานเลื่อนกระจกให้มีความสูงถึงฝ้า สามารถเลื่อนเปิดได้กว้าง และกั้นด้วยราวกันตกแบบ Juliet Balcony เป็นการปรับพื้นที่ Indoor ให้กลายเป็นพื้นที่แบบ Semi-Outdoor ได้ในทันตา

ส่วนตัวค่อนข้างชอบการออกแบบพื้นที่แบบนี้นะคะ เพราะว่าพื้นที่ห้องมีอยู่จำกัด ถ้าจะเอาไปทำระเบียงพักผ่อนหมดก็คง Waste Space ไปมาก และเมืองไทยอากาศก็ค่อนข้างร้อน การออกไปนั่งพักผ่อนริมระเบียงคงทำได้ไม่บ่อยนัก

ทำให้การออกแบบในเชิงนี้ตอบโจทย์คนที่ชอบนั่งพักผ่อนชมวิว แต่ไม่เสียพื้นที่ใช้สอยในห้องไปด้วย ส่วนห้องตัวอย่างจัดมุมนี้ให้เป็นมุมรับประทานอาหารขนาด 2 ที่นั่ง

มองออกไปแบบไม่ต้องชะโงก ก็จะได้วิวแบบนี้

สังเกตด้านข้างจะมีประตูกระจกอีกบาน เปิดออกไปก็จะเป็นพื้นที่ระเบียงที่ออกแบบให้อยู่ด้านหน้าห้องนอน ทำให้เวลาที่เราต้องการออกไปตากผ้า หรือซักล้างอะไรก็แล้วแต่ ก็ไม่ต้องเดินผ่านห้องนอน ที่พื้นจะปูด้วยกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 ซม. ส่วนพวกบานเลื่อนและบานเปิดตรงนี้ จะใช้เป็นกรอบอะลูมิเนียมสีดำและกระจก Euro Grey ค่ะ

ภาพรวมภายในห้องนั่งเล่นอีก 1 มุม

คราวนี้เราเข้าไปดูห้องนอนกันบ้างค่ะ

ห้อง Type นี้จะเน้นพื้นที่ใช้สอยในห้องนั่งเล่นเป็นหลัก ห้องนอนจะมีขนาดที่เล็กลงมาหน่อย เพราะมีการแบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งไปเป็นพื้นที่ระเบียง เหมาะสำหรับคนที่ชอบห้องนอนที่ไม่ถึงกับสว่างมาก เพราะมีระเบียง Buffer ช่วยกันแสงจากภายนอก และไม่ได้ใช้เวลาในห้องนอนเป็นส่วนใหญ่ โดยจากห้องนอนก็สามารถเปิดประตูบานเลื่อนออกไปที่ระเบียงได้เช่นกัน

ขนาดเตียงนอนที่กำลังเหมาะกับห้องก็จะเป็นเตียงขนาด 5 ฟุตค่ะ ด้านข้างวางโต๊ะข้างได้อีก 1 ตัว

ส่วนบริเวณด้านหน้าห้องน้ำ ก็สามารถทำตู้เสื้อผ้า Built-in ได้ทั้ง 2 ฝั่ง

ภายในห้องน้ำมีการออกแบบมาอย่างเป็นสัดส่วน พื้นและผนังตกแต่งด้วยกระเบื้องเซรามิก ส่วนสุขภัณฑ์ทั้งหมดจะใช้ของ Cotto และ I-Spa

เริ่มจากอ่างล้างมือ เป็นอ่างฝังบนเคาน์เตอร์สำเร็จรูป มีตู้สำหรับเก็บของใต้อ่าง ส่วนบานกระจกเงาก็สามารถเปิดออกมาได้ ด้านหลังจะเป็นชั้นเก็บของ

อ่างมีขนาดกำลังดีนะคะ วางของได้เล็กน้อย ด้านหลังมีปลั๊กไฟติดตั้งมาให้ เผื่อใช้กับไดร์เป่าผมและพวกที่โกนหนวดไฟฟ้า

ด้านข้างเป็นโถสุขภัณฑ์แบบแยกชิ้นระบบ Dual Flush พร้อมอุปกรณ์ประกอบการใช้งาน เช่น ที่แขวนกระดาษชำระ

สำหรับโซน Shower มีการก่อธรณีขึ้นมาให้ และติดตั้ง Tempered Glass เป็นฉากกั้นอาบน้ำให้เรียบร้อย

ด้านในติดตั้ง Rain Shower, Hand Shower, ราวปรับระดับ รวมไปถึงเจาะผนังเป็นชั้นสำหรับวางของ

ส่วนพวกสวิตช์และปลั๊กไฟภายในห้องจะใช้ของ Legrand ค่ะ


::: 1 Bedroom  Type 1DM ขนาด 34.50 ตร.ม. ::: 

ห้อง 1 Bedroom  Type 1DM ขนาด 34.50 ตร.ม. จะมีขนาดและการวางแปลนที่ใกล้เคียงกับห้อง Type 1B แต่สิ่งที่แตกต่างกันก็คือ ห้องนี้จะลดขนาดของห้องนั่งเล่นลง โดยแบ่งพื้นที่ออกไปเป็นระเบียง ส่วนห้องนอนก็จะได้พื้นที่ที่กว้างขวางมากขึ้น เหมาะสำหรับคนที่ชอบห้องนอนโปร่ง ๆ และใช้เวลาในห้องนอนมากกว่า ส่วนห้องน้ำก็จะมี Bathtub แทนโซน Shower เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบการแช่น้ำอุ่นเป็นพิเศษ

สำหรับการวางแปลนในห้องนี้จะแทบไม่ต่างไปจากห้อง 1B เลยค่ะ เข้ามาส่วนแรกจะเป็นพื้นที่ห้องครัว ถัดเข้าไปเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่น ห้องนอนและห้องน้ำก็จะถูกกั้นส่วนออกไป พวกวัสดุที่ใช้ภายในห้องก็ใช้แบบเดียวกันค่ะ

เคาน์เตอร์ครัวที่ได้มาจะเป็นชุดเดียวกัน

ไอเดียการจัดห้องนี้คือนำโต๊ะรับประทานอาหารมาไว้ที่ด้านหน้าห้องเลย แบบนี้ก็สะดวกดีค่ะ

ถัดเข้าไปด้านในเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่น ด้านข้างยังเหลือพื้นที่ให้วางโต๊ะหรือชั้นวางของได้

ตัวนี้เป็นโซฟาขนาด 2 ที่นั่งนะคะ เราจะวางขนาด 3 ที่นั่งก็ได้

จากห้องนั่งเล่นจะเชื่อมต่อกับพื้นที่ระเบียง มีพื้นที่ให้เราวางเครื่องซักผ้า ตากผ้า หรือจะจัดเป็นสวนหย่อมเล็ก ๆ ของเราก็ได้

มาดูห้องนอนกันต่อค่ะ เราจะเห็นได้เลยว่าห้องนอนจะมีความโปร่งโล่งมากขึ้น เพราะได้พื้นที่ที่กว้างขวาง และไม่มีระเบียงมาบังช่องแสงของห้อง

ห้องตัวอย่างวางเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้เราดูเป็นไอเดีย

ด้านข้างห้องติดริมหน้าต่าง สามารถจัดเป็นมุมนั่งเล่น หรือมุมสำหรับทำงานได้ มองออกไปก็ได้วิวแบบเต็ม ๆ ตรงนี้เขาจะไม่ใช้เป็นบานเลื่อนนะคะ จะใช้เป็นหน้าต่างบานกระทุ้งในการเปิดระบายอากาศแทน

ส่วนอีกฝั่งหนึ่งก็วางตู้เสื้อผ้าได้ จะเพิ่มโต๊ะเครื่องแป้งที่อีกฝั่งก็ยังได้ค่ะ

การตกแต่งรวมไปถึงสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำยังคงเหมือนเดิม แต่ที่ต่างออกไปก็คือการจัดแปลนห้องน้ำเพื่อให้สามารถวางอ่างอาบน้ำได้ ฝั่งนี้จะวางอ่างล้างมือค่ะ

ส่วนอีกฝั่งวางโถสุขภัณฑ์

และด้านในวางอ่างอาบน้ำ มี Tempered Glass ติดตั้งมาให้เป็นฉากกั้นอาบน้ำ ที่ผนังมี Rain Shower, Hand Shower, ราวปรับระดับ และเจาะผนังทำชั้นวางของให้ครบ

ขนาดของอ่างอาบน้ำจะนั่งกึ่งนอนแช่ได้ 1 คนพอดี ด้านข้างยังพอมีพื้นที่ให้วางพวกเทียนอโรม่าได้


:::: ราคา (เมษายน 2565) ::::

  • 1 Bedroom 1 Bathroom ขนาด 26.5-26.75 ตร.ม. เริ่มต้น 3.79 ล้านบาท
  • 1 Bedroom 1 Bathroom ขนาด 33.50-34.75 ตร.ม. เริ่มต้น 4.19 ล้านบาท
  • เงินจอง 5,000 บาท
  • เงินทำสัญญา 10,000 บาท
  • ค่าส่วนกลาง ปีที่ 1-2 : 49 บาท/ตร.ม./เดือน
  • ค่าส่วนกลาง ปีที่ 3-4 : 59 บาท/ตร.ม./เดือน
  • ค่าส่วนกลาง ปีที่ 5 เป็นต้นไป : 65 บาท/ตร.ม./เดือน
  • เงินกองทุน : 600 บาท/ตร.ม.

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ คลิก https://www.sansiri.com/

***ข้อมูลราคา และโปรโมชันอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม


:::: สรุป ::::

ทำเลที่ตั้งโครงการ จุดเด่นของโครงการ Oka Haus สุขุมวิท 36 ก็คือการเลือกทำเลที่ตั้งของโครงการให้อยู่บนถนนพระราม 4 ระหว่างโซนสาทร-สีลม และโซนเอกมัย-ทองหล่อ เพื่อให้คนที่อาศัยอยู่ในโครงการสามารถใช้ชีวิตได้อย่างลงตัว ทั้งในด้านการทำงาน การออกไปพบปะสังสรรค์ รวมไปถึงการพักผ่อนหย่อนใจ

ด้วยทำเลที่อยู่ใกล้ทุกอย่าง ทั้ง ที่ทำงาน, ที่ชอปปิง, ร้านอาหารดัง ๆ รวมไปถึงพวกสวนสาธารณะขนาดใหญ่ของกรุงเทพฯ แต่จุดที่โครงการตั้งอยู่ก็ยังได้ความเป็นส่วนตัว ไม่จอแจจนเกินไป จึงทำให้การใช้ชีวิตบนทำเลนี้เป็นเรื่องที่ง่ายมาก ๆ

การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว ถือว่าสะดวกสบายมาก เพราะโครงการตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ ก็คือถนนพระราม 4 ฝั่งมุ่งหน้าไปแยกพระโขนง มีซอยย่อยเชื่อมต่อไปมากับถนนสุขุมวิทได้โดยไม่ต้องกลับรถ หรือขากลับมาจากถนนสุขุมวิทก็จะมีจุดกลับรถอยู่ใกล้ ๆ กับหน้าโครงการเลย

หรือถ้าจะไปโซนสาทร-สีลม ก็แค่กลับรถแล้วใช้ถนนพระราม 4 วิ่งตรงยาว ๆ แค่ 4-5 กม. ก็ถึงแล้ว และที่สำคัญก็คือยู่ใกล้กับจุดขึ้นทางด่วนเฉลิมมหานครถึง 2 จุด จะไปโซนไหนของกรุงเทพฯ หรือปริมณฑลก็ใช้เวลาไม่นานค่ะ

การเดินทางโดยรถสาธารณะ การอยู่ในเมืองแบบนี้จะขับรถอย่างเดียวบางทีเวลาก็ไม่เป็นใจเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นทำเลที่ใกล้รถไฟฟ้าแบบนี้จึงสำคัญมาก โดยจากโครงการเข้าซอยสุขุมวิท 36 ก็จะถึง BTS ทองหล่อแล้วค่ะ โครงการมี Shuttle Service ไปส่งให้ถึงตัวสถานี ใครรีบก็เรียกพี่วินได้เลย 3 นาทีถึง หรือใครชอบเดินก็เดินได้ค่ะ ระยะประมาณ 1.3 กม. ไม่ถึงกับว่าเดินไม่ได้นะ

การออกแบบโครงการ และวัสดุ โครงการเป็น High Rise Condominium 47 ชั้น ที่มีจำนวนยูนิตพักอาศัย 1,178 ยูนิตด้วยกัน หลัก ๆ คือโครงการถูกออกแบบมาให้เป็น Resort Condo เพื่อให้ลูกบ้านภายในโครงการสามารถพักผ่อนและรีชาร์จพลังงานสำหรับวันใหม่ได้จริง ๆ ตั้งแต่การวางผังโครงการ จะเซ็ตพื้นที่โครงการเข้ามาจากถนนใหญ่ประมาณ 140 ม. เพื่อทำให้ได้ความเป็นส่วนตัว

โดยโครงการเน้นการตกแต่งในโทน Earthy แบบหุบเขาตามชื่อ Oka เป็นการตกแต่งที่ดูเข้ากับธรรมชาติ สบายตา และผ่อนคลาย ทั้งยังมีความสวยงาม ด้วยการใช้วัสดุหรูอย่างพวกหินอ่อนลายต่าง ๆ ในพื้นที่ส่วนกลาง การตกแต่งด้วยงานศิลปะ รวมไปถึงการสอดแทรกพื้นที่สีเขียวเข้าไปภายในโครงการในหลาย ๆ ส่วน และยังมีการนำเอา Smart Living Technology เข้ามาใช้เพื่ออำนวยความสะดวก และแก้ไขปัญหาจากการใช้ชีวิตประจำวันในเรื่องต่าง ๆ ให้ลูกบ้านมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น หลัก ๆ คือช่วยประหยัดเวลาได้ดีมาก ๆ

สำหรับห้องพักอาศัยในโครงการก็มีให้เลือกหลายแบบมาก ทำให้สามารถเลือกห้องที่เหมาะหรือใกล้เคียงกับไลฟ์สไตล์ของเราได้มากขึ้น มีห้องขนาด 1 Bedroom ไปจนถึง 3 Bedroom ตกแต่งห้องให้แบบ Fully Fitted มากพร้อมกับครัวและห้องน้ำ วัสดุที่ได้สวยดีนะคะ แต่ก็ยังเหลือห้องโล่ง ๆ บางส่วนให้เราสามารถตกแต่งได้ตามใจชอบ

สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัย ให้มาเยอะและออกแบบมาได้ดี มีความสวยงามน่าใช้งาน และมีการนำเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาอำนวยความสะดวก ซึ่งถือเป็นจุดเด่นของโครงการนี้เลยค่ะ โดยพื้นที่ส่วนกลางหลัก ๆ จะมีอยู่ที่ชั้น G, 8, 47 และชั้น Rooftop ไม่ได้ซอยชั้นมากจนเกินไปทำให้ง่ายต่อการไปใช้งาน

ประทับใจตั้งแต่ที่ชั้น G ตรง Welcome Lounge มีการออกแบบที่สวยตามคอนเซปต์โครงการ เชื่อมต่อกับ Mail Room พร้อม Smart Locker ชั้น 8 มีสระว่ายน้ำแยกให้ถึง 4 สระ แต่ละสระก็มีฟังก์ชันที่แตกต่างกันไป และก็ตอบโจทย์การใช้งาน มีห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าขนาดใหญ่ รวมไปถึงห้องออกกำลังกาย บรรยากาศแบบอยู่ได้ทั้งวันไม่ต่างจากพวก Co-Working Space และ Laundry ที่เครื่องซักผ้า-อบผ้าสามารถแจ้งสถานะการใช้งานผ่าน App ได้

ชั้น 47 มี Co-Working Space ที่ใช้งานได้ตลอด 24 ชม. มี Co-Kitchen พร้อมอุปกรณ์ในห้องครัวที่ทันสมัยและสะดวกสบายมาก และมี Retreat Room พร้อมเก้าอี้นวดตัวดัง และชั้น Rooftop พร้อมสวนพักผ่อน, จุดชมวิว และ Outdoor Theater เป็นจุดที่เหมาะสำหรับชมวิวทีเดียว


:::: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ::::

CALL CENTER : 1685

WEBSITE : https://www.sansiri.com/

หากเพื่อน ๆ เห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ

และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ


สนใจลงโฆษณากับทาง Homenayoo ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่
คุณวันเฉลิม  086-1290293 
LINE ID : 123456786205
Email : wanchalearm.t@gmail.com
ทางเราเป็นเว็บไซต์ให้ข้อมูล ไม่ใช่เจ้าของโครงการนะครับ

UPDATE REVIEW!

EP.2398 รีวิว ไอลีฟ พราวด์ วงแหวน รังสิต-คลอง 4 ทาวน์โฮมดีไซน์ใหม่ ใหญ่ทุกฟังก์ชัน ทำเลดี

โพสเมื่อ : 28 March 2024 | No Comments

EP.2398 รีวิว ไอลีฟ พราวด์ วงแหวน รังสิต-คลอง 4 / I-leaf Proud Wongwaen Rangsit-Klong 4 ทาวน์โฮมดีไซน์ใหม่ ใหญ่ทุกฟังก์ชัน ทำเลดี ใกล้ทางด่วนวงแหวนกาญจนา เริ่ม 1.89 ล้าน* Writted by : Pure Thitapa สวัสดีค่ะ เพื่อน ๆ Homenayoo ทุกคน

EP.2397 รีวิว Mayfield รามอินทรา-คู้บอน บ้านเดี่ยว 4 ห้องนอน สไตล์ European Farmhouse

โพสเมื่อ : 22 March 2024 | No Comments

EP.2397 รีวิว เมย์ฟิลด์ รามอินทรา-คู้บอน Mayfield Ramindra-Khubon บ้านเดี่ยว 4 ห้องนอน สไตล์ European Farmhouse พร้อมส่วนกลางขนาดใหญ่ เริ่ม 13.5 ล้านบาท* Written by : THAnATH สวัสดีผู้อ่านชาว Homenayoo ทุกคน วันนี้ผมพามาชมโครงการ Mayfield รามอินทรา-คู้บอน จาก Major Development ตั้งอยู่ติดถนนเลียบคลองสอง

EP.2396 รีวิว พิมนารา ศาลายา บ้านเดี่ยว Modern Minimal ใกล้ ม.มหิดล บรรยากาศเงียบสงบ

โพสเมื่อ : 20 March 2024 | No Comments

EP.2396 รีวิว พิมนารา ศาลายา / PIMNARA Salaya บ้านเดี่ยว Modern Minimal ใกล้ ม.มหิดล บรรยากาศเงียบสงบ เป็นส่วนตัวเพียง 77 ครอบครัว เริ่ม 5.79 ล้านบาท* Writted by : Pure Thitapa สวัสดี เพื่อน ๆ Homenayoo ทุกคนค่ะ วันนี้เราจะพาไปชมโครงการ

EP.2395 รีวิว Q District Westgate บ้านแฝด บ้านเดี่ยว และทาวน์โฮมพร้อมอยู่ ทำเลดี ใกล้

โพสเมื่อ : 18 March 2024 | No Comments

EP.2395 รีวิว คิว ดิสทริค เวสต์เกต / Q District Westgate โครงการบ้านแฝด บ้านเดี่ยว และทาวน์โฮมพร้อมอยู่ ทำเลดี ใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วง 3 สถานี ใกล้ทางด่วน และ Central Westgate เริ่ม 2.5-8 ล้าน* Writted By : Pure Thitapa สวัสดีค่ะ เพื่อน

EP.2394 รีวิว บ้านพฤกษา มหิดล-ศาลายา ทาวน์โฮมใหม่ สไตล์ Wize Minimal เพียง 10

โพสเมื่อ : 15 March 2024 | No Comments

EP.2394 รีวิว บ้านพฤกษา มหิดล-ศาลายา / Baan Pruksa Mahidol-Salaya ทาวน์โฮมใหม่ สไตล์ Wize Minimal เพียง 10 นาที* ถึง ม.มหิดล ศาลายา เริ่ม 1.69 ล้าน* Writted by : Pure Thitapa สวัสดีค่ะ เพื่อน ๆ Homenayoo

EP.2393 รีวิว Supalai Park Ville นิมิตใหม่-วงแหวน บ้านเดี่ยว 4 ห้องนอน วัสดุประหยัดพลังงาน

โพสเมื่อ : 14 March 2024 | No Comments

EP.2393 รีวิว ศุภาลัย พาร์ควิลล์ นิมิตใหม่-วงแหวน / Supalai Park Ville Nimitmai-Wongwaen บ้านเดี่ยว 4 ห้องนอน วัสดุประหยัดพลังงาน รองรับ EV Charger ให้ทุกหลัง เริ่ม 7.99 ล้าน* Writted by : Pure Thitapa สวัสดีค่ะ เพื่อน ๆ Homenayoo

EP.2392 รีวิว Supalai Primo นิมิตใหม่-วงแหวน ทาวน์โฮมและบ้านแฝดซีรีส์ใหม่ ใกล้ทางด่วนวงแหวนกาญจนาฯ เริ่ม 2.5 ล้าน*

โพสเมื่อ : 12 March 2024 | No Comments

EP.2392 รีวิว ศุภาลัย พรีโม่ นิมิตใหม่-วงแหวน / Supalai Primo Nimitmai-Wongwaen ทาวน์โฮมและบ้านแฝดซีรีส์ใหม่ ใกล้ทางด่วนวงแหวนกาญจนาฯ เริ่ม 2.5 ล้าน* Writted by : Pure Thaitapa สวัสดีค่ะ เพื่อน ๆ Homenayoo ทุกคน วันนี้เราจะพาไปชมโครงการ ‘Supalai Primo นิมิตใหม่-วงแหวน‘ บ้านแฝดและทาวน์โฮมซีรีส์ใหม่ บนทำเลใหม่

EP.2391 รีวิว Evercity รามอินทรา-ทางด่วนจตุโชติ ทาวน์โฮมฟังก์ชันใหญ่ เพื่อไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ใกล้ทางด่วนฉลองรัช (ด่านจตุโชติ) เพียง 3

โพสเมื่อ : 12 March 2024 | No Comments

EP.2391 รีวิว เอเวอร์ซิตี้ รามอินทรา-ทางด่วนจตุโชติ Evercity Ramintra-Chatuchot ทาวน์โฮมฟังก์ชันใหญ่ เพื่อไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ใกล้ทางด่วนฉลองรัช (ด่านจตุโชติ) เพียง 3 นาที* เริ่ม 2.89 ล้านบาท* Written by : THAnATH สวัสดีผู้อ่านชาว Homenayoo ทุกคน วันนี้ผมพามาชมโครงการ Evercity รามอินทรา-ทางด่วนจตุโชติ จาก EVERCITY Development ตั้งอยู่ติดถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษก

EP.2390 รีวิว Nirati บางนา บ้านเดี่ยวในเครือ Central Pattana เพียง 10 นาที*

โพสเมื่อ : 11 March 2024 | No Comments

EP.2390 รีวิว นิรติ บางนา Nirati Bangna บ้านเดี่ยวในเครือ Central Pattana เพียง 10 นาที* ถึง Mega Bangna และทางด่วน เริ่ม 7.4-20 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่ะ วันนี้ทีมงาน Homenayoo จะพาคุณผู้อ่านไปชมโครงการ Nirati บางนา โครงการคุณภาพในเครือ บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา บ้านเดี่ยวบนทำเลศักยภาพ

EP.2389 รีวิว Villaggio ลำลูกกา-วงแหวน ทาวน์โฮมและบ้านเดี่ยว บรรยากาศ Camping Ville ใกล้ทางด่วน และรถไฟฟ้าสายสีเขียว

โพสเมื่อ : 7 March 2024 | No Comments

EP.2389 รีวิว วิลลาจจิโอ ลำลูกกา-วงแหวน Villaggio Lamlukka-Wongwaen ทาวน์โฮมและบ้านเดี่ยว บรรยากาศ Camping Ville ใกล้ทางด่วน และรถไฟฟ้าสายสีเขียว เริ่ม 2.89-6.99 ล้านบาท* Written by : Nan Kanyaratthp สวัสดีเพื่อน ๆ Homenayoo ทุกคนค่ะ วันนี้เราจะพาไปชมโครงการ ‘Villaggio ลำลูกกา-วงแหวน’ บ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม ที่มาพร้อมแนวคิด “UPLIFT

แสดงความคิดเห็น

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.