EP.2027 รีวิว บ้านเดี่ยว THE CITY สาทร-กัลปพฤกษ์ 10 นาทีเศษ ถึงสาทร และ 2 นาที ถึงรถไฟฟ้า MRT สถานีบางแค
Written by : Nin Yanin
วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาอยู่กันที่โครงการ THE CITY สาทร-กัลปพฤกษ์ ซึ่งเป็นแบรนด์ตัว Top จากทาง AP มีความโดดเด่นในเรื่องของทำเลที่ อยู่ใกล้เมือง บนถนนบางแค ที่สามารถใช้เป็นเส้นทางหลักเพื่อเข้าโซน CBD อย่างโซนสาทรได้ง่าย และยังเป็นทำเลที่เกาะแนวรถไฟฟ้า MRT ช่วงหัวลำโพง-บางแค ด้วย
นอกจากจะเดินทางสะดวกทั้งรถยนต์ส่วนตัวและรถไฟฟ้าแล้ว ยังอยู่ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย The Mall และ Seacon บางแค , Lotus’s บางแค และ Hypermarket ฝั่งกัลปพฤกษ์ รวมไปถึงโรงเรียนและโรงพยาบาลอีกหลายแห่ง เรียกว่าเป็นทำเลที่ช่วยให้เราสามารถสร้าง Work-Life-Balance ได้ดีเลยค่ะ
เดอะ ซิตี้ สาทร-กัลปพฤกษ์ Living under the moon ด้วย Mood & Tone ที่ดูสุขุมและดูเป็นผู้ใหญ่
โครงการมีแบบบ้านให้เลือก 3 แบบ ขนาด 233-330 ตร.ม. ที่ดิน เริ่มต้น 54.37-104 ตร.ว. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน, 5 ห้องน้ำ, 2-3 ห้องนั่งเล่น, 1 ห้องแม่บ้าน* พร้อมที่จอดรถ 2-3 คัน เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดใหญ่ ที่มีสมาชิกในครอบครัวถึง 3 Generations โดยบ้านจะมาพร้อมกับ ระบบ Home Automation และสัญญาณกันขโมยระบบ Magnetic และ Shock Sensor คาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จในเดือน มีนาคม 2565 นี้แล้วค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวกมาตรฐานภายในโครงการครบครัน ในราคาเริ่มต้นที่ 12.99 ล้านบาท*
โครงการนี้จะมีความหรูหราน่าอยู่ยังไงบ้าง เดี๋ยวเราเข้าไปดูกันเลยค่า
ลงทะเบียนรับส่วนลด 200,000 บาท คลิก https://www.apthai.com/
VIDEO
โครงการ THE CITY บนทำเลอื่นๆ… ที่น่าสนใจ
VIDEO
VIDEO
ชื่อโครงการ
เดอะ ซิตี้ สาทร-กัลปพฤกษ์ THE CITY Sathorn-Kallapaphruek
เจ้าของโครงการ
เอพี ไทยแลนด์ / AP Thailand
ลักษณะโครงการ
บ้านเดี่ยว 2 ชั้น / แบบบ้าน 3 แบบ
พื้นที่โครงการ
31-0-38.2 ไร่
จำนวนบ้าน
121 ยูนิต
เนื้อที่บ้าน
เริ่มต้น 54.37-104 ตร.ว.
พื้นที่ใช้สอย
เริ่มต้น 233-330 ตร.ม.
จำนวนห้อง
4 ห้องนอน, 5 ห้องน้ำ, 2-3 ห้องนั่งเล่น, 1 ห้องแม่บ้าน*
ที่จอดรถทั้งหมด
2-3 คัน
โซน
บางแค-กัลปพฤกษ์
เส้นทางคมนาคม
รถไฟฟ้า MRT สถานีบางแค 1.8 กม.
ถ.เทอดไท : 900 ม.
ถ.กัลปพฤกษ์ : 1.5 กม.
ถ.เพชรเกษม : 1.8 กม.
ถ.กาญจนาภิเษก : 2.3 กม.
ถ.ราชพฤกษ์ : 5.8 กม.
สะพานตากสิน : 11.8 กม.
ที่ตั้ง
ถนนบางแค แขวงบางแค เขตบางแค กทม. 10160
กำหนดการ
n/a
ปีที่สร้างเสร็จ
คาดว่าแล้วเสร็จ มีนาคม 65
ราคา
เริ่มต้น 12.99 ล้านบาท* (ราคา ณ วันที่ 1 มี.ค. 65)
ค่าส่วนกลาง
31 บาท/ตร.ว./เดือน
สถานที่สำคัญใกล้เคียง
ศูนย์การค้า และ ตลาด
ตลาดบางแค : 2.0 กม.
Big C กัลปพฤกษ์ : 2.3 กม.
Home Pro กัลปพฤกษ์ : 2.4 กม.
Lotus’s บางแค : 2.8 กม.
The Explace Mall กาญจนาฯ : 3.3 กม.
สำเพ็ง 2 : 3.6 กม.
วงแหวนเซ็นเตอร์ : 4.5 กม.
Makro บางบอน : 4.5 กม.
The Mall บางแค : 4.6 กม.
Metro West Town : 5.4 กม.
Power Center : 6.2 กม.
Seacon บางแค : 6.3 กม.
Big C เพชรเกษม (Major, Makro) : 6.4 กม.
Victoria Gardens : 6.8 กม.
Central Plaza พระราม 2 : 7.1 กม.
Makro Food Service กัลปพฤกษ์ : 8.9 กม.
The Mall ท่าพระ : 10.3 กม.
Central พระราม 2 : 12.0 กม.
สถานศึกษา
รร.ฐานปัญญา : 2.0 กม.
รร.นานาชาติบริติชโคลัมเบีย (BCISB) : 2.3 กม.
รร.เลิศหล้ากาญจนาฯ : 4.2 กม.
รร.ผดุงกิจวิทยา : 4.6 กม.
รร.นานาชาติเบซิส พระราม 2 (BASIS Rama 2) : 5.1 กม.
ม.สยาม : 6.7 กม.
รร.นานาชาติสิงคโปร์ธนบุรี (SISB Thonburi) : 6.8 กม.
รร.เซนต์ปีเตอร์ธนบุรี : 7.8 กม.
รร.สารสาสน์วิเทศบางบอน : 9.3 กม.
รร.กรพิทักษ์ศึกษา : 10.4 กม.
รร.กรุงเทพคริสเตียน : 13.4 กม.
รร.นานาชาติโชรส์เบอรี่ (Shrewsbury) : 15.1 กม.
โรงพยาบาล
รพ.เกษมราษฎร์บางแค : 4.9 กม.
รพ.นครธน : 5.4 กม.
รพ.บางปะกอก 8 : 5.6 กม.
รพ.เพชรเกษม 2 : 6.7 กม.
รพ.พญาไท 3 : 8.0 กม.
รพ.บางไผ่ : 8.0 กม.
สถานที่ราชการ และ อาคารสำนักงาน
สำนักงานเขตบางแค : 3.0 กม.
สำนักงานที่ดิน สาขาบางขุนเทียน : 5.4 กม.
Real CBD สาทร : 12.0 กม.
สิ่งอำนวยความสะดวก
Clubhouse
Lobby
Fitness Room
Theater Room
Kid’s Room
Co-Working Space
สระว่ายน้ำระบบเกลือ แยกผู้ใหญ่-เด็ก
สวนพักผ่อน
ระบบ KATSAN
Double Security Gate
Key Card Access
CCTV
รปภ. 24 ชม.
Tel
1623
Website
https://www.apthai.com/
VIDEO
VIDEO
VIDEO
VIDEO
VIDEO
:::: ที่ตั้งโครงการ ::::
ถนนบางแค แขวงบางแค เขตบางแค กทม. 10160
พิกัด : 13.698275, 100.422735
ทำเลที่ตั้ง THE CITY สาทร-กัลปพฤกษ์
ซึ่งภาพรวมของทำเลนี้จะเป็นย่านที่อยู่อาศัยเก่าที่มีคนอยู่กันมานานแล้ว จึงมีความอุดมสมบูรณ์ในพื้นที่มากพอสมควร เรียกว่าใช้ชีวิตได้ง่าย เพราะทำเลที่เป็นชุมชนใหญ่แบบนี้ รอบ ๆ จะมีตลาดและห้างร้านมากมายมาเปิด ซึ่งการหาที่ดินในทำเลศักยภาพแบบนี้เพื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยใหญ่ ๆ นั้นถือว่าหาได้ยากแล้วค่ะ
การเดินทางด้วยรถยนต์ จะเชื่อมต่อกับถนนกัลปพฤกษ์ และถนนเพชรเกษมได้ในระยะเพียง 1.5-1.8 กม . เท่านั้น โดยถนนกัลปพฤกษ์จะเป็นเส้นทางหลักในการใช้เข้าเมือง ตรงเชื่อมถนนราชพฤกษ์ แล้วข้ามสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสินเพื่อเข้าโซนสาทรได้เลย ระยะทางประมาณ 12 กม . ค่ะ ถ้าการจราจรไม่หนาแน่น ก็จะใช้เวลาเพียงสิบนาทีนิด ๆ ไปถึงสาทรได้
ส่วนอีกฝั่งของถนนกัลปพฤกษ์ ก็จะเชื่อมต่อกับวงแหวนกาญจนาภิเษก ใช้วิ่งรอบเมืองไปยังโซนต่าง ๆ ของกรุงเทพฯ และปริมณฑลได้สะดวก ส่วนถนนเพชรเกษมจะเป็นถนนเส้นที่มีรถไฟฟ้าตัดผ่าน ใช้วิ่งเข้าไปทางวงเวียนใหญ่ ตัดเข้าสู่โซนพระนครฯ ออกไปยังสะพานพุทธฯ, พาหุรัด, สำเพ็ง, เยาวราช และหัวลำโพง ได้เลยค่ะ หรือถ้าวิ่งฝั่งออกนอกเมืองจะเชื่อมต่อกับวงแหวนกาญจนาฯ และถนนพุทธมณฑลแต่ละสาย และใช้วิ่งออกนครปฐมและกาญจนบุรีได้ตรง ๆ
ทางด่วน
หรือถ้าจะขึ้นไปทางฝั่งอยุธยา จากโครงการให้ออกถนนเพชรเกษมแล้วเชื่อมเข้าวงแหวนฯ ซึ่งก็จะตัดถนนใหญ่อีกหลายสายนะคะ เช่น ถนนบรมราชชนนี, ทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอก เชื่อมต่อโซนจตุจักร, ถนนนครอินทร์, ถนนรัตนาธิเบศร์ เป็นต้น
:: สรุปแยก และ ถนนสำคัญรอบโครงการ ::
แยกบางพฤกษ์ 1.5 กม.
แยกบางแค 1.8 กม.
ถ.เทอดไท : 900 ม.
ถ.กัลปพฤกษ์ : 1.5 กม.
ถ.เพชรเกษม : 1.8 กม.
ถ.กาญจนาภิเษก : 2.3 กม.
ถ.ราชพฤกษ์ : 5.8 กม.
สะพานตากสิน : 11.8 กม.
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ ทำเลเกาะแนวรถไฟฟ้า MRT ช่วง หัวลำโพง-บางแค ตัดผ่านถนนเพชรเกษม โดยสถานีที่ใกล้ที่สุดก็คือ สถานีบางแค ขับรถไปประมาณ 2-3 นาทีก็ถึงแล้ว โดยทางออกที่ 4 จะเป็นทางออกที่ขึ้นสะดวกที่สุด จะเดินทางไปเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า BTS ที่สถานี Interchange บางหว้า ก็ง่าย
หรือถ้าไม่ต้องการขับรถไปเอง ก็สามารถเรียกวินมอเตอร์ไซค์ หรือเรียกรถแท็กซี่บริเวณหน้าโครงการให้ไปส่งก็เรียกได้มีวิ่งผ่านอยู่ตลอดทั้งวัน ส่วนตัวเลือกอื่น ๆ ก็จะมีรถเมล์บนเส้นเพชรเกษม มีวิ่งผ่านหลายสายเลยค่ะ
ความอุดมสมบูรณ์
ยิ่งออกไปที่เส้นเพชรเกษมจะยิ่งคึกคักมาก มีห้างใหญ่ ๆ อยู่เยอะเลยค่ะ ยกตัวอย่างเช่น The Mall บางแค, Seacon บางแค , Lotus’s บางแค, Power Center, Victoria Gardens Hypermarket อยู่อีกหลายแบรนด์ ทั้ง Marko, Big C และ Home Pro ตลาดใหญ่ ๆ ก็มีค่ะ จะเป็นตลาดนัดสำเพ็ง 2 ถ้าออกไปที่เส้นพระราม 2 ก็จะมี Central พระราม 2 อีกด้วย
รวมไปถึงโรงเรียนและโรงพยาบาลอีกหลายแห่ง เช่น เรียกว่าเป็นทำเลที่ทั้งเดินทางสะดวก ใช้เวลาไม่นานในการเดินทาง และใช้ชีวิตได้ง่าย ช่วยให้เราสามารถสร้าง Work-Life-Balance ได้ดีเลยค่ะ
:: สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ ::
ศูนย์การค้า และ ตลาด
ตลาดบางแค : 2.0 กม.
Big C กัลปพฤกษ์ : 2.3 กม.
Home Pro กัลปพฤกษ์ : 2.4 กม.
Lotus’s บางแค : 2.8 กม.
The Explace Mall กาญจนาฯ : 3.3 กม.
สำเพ็ง 2 : 3.6 กม.
วงแหวนเซ็นเตอร์ : 4.5 กม.
Makro บางบอน : 4.5 กม.
The Mall บางแค : 4.6 กม.
Metro West Town : 5.4 กม.
Power Center : 6.2 กม.
Seacon บางแค : 6.3 กม.
Big C เพชรเกษม (Major, Makro) : 6.4 กม.
Victoria Gardens : 6.8 กม.
Central Plaza พระราม 2 : 7.1 กม.
Makro Food Service กัลปพฤกษ์ : 8.9 กม.
The Mall ท่าพระ : 10.3 กม.
Central พระราม 2 : 12.0 กม.
สถานศึกษา
รร.ฐานปัญญา : 2.0 กม.
รร.นานาชาติบริติชโคลัมเบีย (BCISB) : 2.3 กม.
รร.เลิศหล้ากาญจนาฯ : 4.2 กม.
รร.ผดุงกิจวิทยา : 4.6 กม.
รร.นานาชาติเบซิส พระราม 2 (BASIS Rama 2) : 5.1 กม.
ม.สยาม : 6.7 กม.
รร.นานาชาติสิงคโปร์ธนบุรี (SISB Thonburi) : 6.8 กม.
รร.เซนต์ปีเตอร์ธนบุรี : 7.8 กม.
รร.สารสาสน์วิเทศบางบอน : 9.3 กม.
รร.กรพิทักษ์ศึกษา : 10.4 กม.
รร.กรุงเทพคริสเตียน : 13.4 กม.
รร.นานาชาติโชรส์เบอรี่ (Shrewsbury) : 15.1 กม.
โรงพยาบาล
รพ.เกษมราษฎร์บางแค : 4.9 กม.
รพ.นครธน : 5.4 กม.
รพ.บางปะกอก 8 : 5.6 กม.
รพ.เพชรเกษม 2 : 6.7 กม.
รพ.พญาไท 3 : 8.0 กม.
รพ.บางไผ่ : 8.0 กม.
สถานที่ราชการ และ อาคารสำนักงาน
สำนักงานเขตบางแค : 3.0 กม.
สำนักงานที่ดิน สาขาบางขุนเทียน : 5.4 กม.
Real CBD สาทร : 12.0 กม.
:::: การเดินทางสู่โครงการ ::::
เราจะเดินทางไปสู่ตัวโครงการโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวกันค่ะ โดยเริ่มการเดินทางจาก
ถนนกัลปพฤกษ์ > ถนนบางแค >โครงการ THE CITY สาทร-กัลปพฤกษ์
เราเริ่มต้นการเดินทางจากบนถนนกัลปพฤกษ์ค่ะ โดยเราจะผ่าน Makro Food Service ทางฝั่งซ้ายมือ
จากนั้นให้เรามุ่งหน้าถนนบางแคโดยชิดขวา แล้วขึ้นสะพานข้ามแยกนิลกาจไป
จากนั้นให้เราชิดซ้ายไปทางบางแค เราจะขับผ่าน Big C อีก 1 สาขา
ข้างหน้าจะมีทางแยกขึ้นสะพานข้ามแยกบางพฤกษ์ ให้เราชิดซ้ายแล้ววิ่งใต้สะพานไปทางบางแคค่ะ
พอถึงสี่แยกบางพฤกษ์ให้เราชิดขวาแล้วเลี้ยวเข้าถนนบางแค
ถนนบางแคจะเป็นถนนขนาด 4 เลน บรรยากาศมีความเป็นย่านที่อยู่อาศัยเก่า มีความคึกคัก ตลอด 2 ข้างทางจะมีร้านค้า, ร้านอาหาร และร้านสะดวกซื้ออยู่ตลอด อย่างฝั่งขวามือนี้จะมี 7-11
ตรงไปเรื่อย ๆ เราจะผ่าน CJ Supermarket และ Lotus’s go fresh
ตรงมาจากถนนบางแคประมาณ 1.3 กม. พอเลยซอยบางแค 12 มาแล้ว เราจะเห็นทางเข้าโครงการอยู่ทางฝั่งขวามือ
จากนั้นเลี้ยวซ้ายอีกครั้ง
โครงการ THE CITY สาทร-กัลปพฤกษ์
โครงการ THE CITY สาทร-กัลปพฤกษ์
ฝั่งตรงข้าม โครงการ CENTRO สาทร-กัลปพฤกษ์ โครงการลูกพี่ลูกน้องกัน ตอนนี้ราคาเริ่มต้นที่ 11.99 ล้านบาท* (ราคา ณ วันที่ 1 มี.ค. 2565)
:::: สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ::::
โครงการ THE CITY สาทร-กัลปพฤกษ์
ทิศเหนือ ติดกับ คลองบางอ้ายทิศใต้ ติดกับ โครงการ CENTRO กัลปพฤกษ์-สาทรทิศตะวันออก ติดกับ ที่ดินเปล่าทิศตะวันตก ติดกับ บ้านพักอาศัย สูง 1-2 ชั้น
:::: ตัวโครงการ ::::
::: ทางเข้าโครงการ :::
โครงการ THE CITY สาทร-กัลปพฤกษ์ เป็นโครงการบ้านเดี่ยวหรู จำนวน 121 ยูนิต บนที่ดินโครงการขนาด 31 ไร่ โดยโครงการนี้จะถูกออกแบบมาภายใต้แนวคิด Living under the moon จะเป็น Mood and Tone ที่ดูมั่นคง สุขุม และดูเป็นผู้ใหญ่ โดยจะสื่อออกมาผ่านสไตล์อาคารแบบ Modern Luxury และ Material ซึ่งจะคุมโทนสีดำ เทาเข้ม และสีเงิน โดยถูกนำมาออกแบบตั้งแต่ที่ Main Gate เลยค่ะ
Main Gate ของโครงการถูกออกแบบมาให้ดูแกรนด์และดูสุขุมตามแนวคิดของโครงการ และดูหรูหราสมกับเป็นโครงการหรู ด้านหน้ามี Sculpture เป็นหงส์ที่เป็นสีเงิน เหมือนเวลาถูกแสงจันทร์กระทบเวลาอยู่กลางทะเลสาบ
Main Gate ถูกแบ่งออกเป็นฝั่งขาเข้า-ขาออกอย่างชัดเจน โดยมีป้อม รปภ. ขั้นอยู่ตรงกลาง
การเข้า-ออกโครงการจะใช้เป็นระบบ KATSAN ซึ่งเป็นระบบการจำเลขทะเบียนรถ ผ่าน Double Gate Security ชั้นแรกเป็นรั้วไม้กระดก ส่วนชั้นที่ 2 เป็นรั้วเลื่อน ลูกบ้านของโครงการสามารถขับรถผ่านรั้วอัตโนมัติทั้ง 2 ชั้น เข้าไปด้านในโครงการได้เลย โดยไม่ต้องเสียเวลาแตะ Key Card ทางช่องทางฝั่งซ้าย (Resident)
ส่วนแขกของลูกบ้านที่ได้มีการนัดหมายกันไว้ จะมีการแจ้งเตือนผ่าน Application เมื่อแขกมาถึง ลูกบ้านสามารถกดอนุญาตผ่าน Application เพื่อให้แขกขับรถผ่านเข้าไปด้านในโครงการได้เลย ทางช่องทางฝั่งขวา (Visitor) ถือว่าสะดวกมากค่ะ
โดยที่ประตูทางเข้า-ออกจะมีกล้อง CCTV ทั้งหมด 4 ตัวสำหรับจับภาพด้านหน้ารถยนต์ และเลขทะเบียนรถ นอกจากนี้ยังมีการออกแบบทางเท้าสำหรับให้คนเดินเข้า-ออกได้ง่ายและปลอดภัยอีกด้วย
::: บริเวณภายในโครงการ :::
ด้านในโครงการ มีการวางผังด้วยถนนหลักกว้างถึง 20 เมตรเพื่อเปิดมุมมองกว้าง ทำให้บรรยากาศภายในโครงการดูโปร่ง
ด้านหน้าโครงการ อาคารที่ติดกับ Main Gate จะเป็นส่วนของ CITY Club เป็น Clubhouse ของโครงการ
ตรงเข้ามาด้านใน บ้าน 2 หลังแรกจะเป็นบ้านตัวอย่างและสำนักงานขาย
จากถนนหลักจะเชื่อมต่อกับถนนรองกว้าง 12 เมตร และถนนซอยกว้าง 9 เมตร
เราจะเห็นว่าบรรยากาศภายในโครงการนี้ดูร่มรื่นน่าอยู่ เพราะเขามีการจัด Landscape เอาไว้ให้ตั้งแต่ด้านหน้าโครงการจนไปถึงภายในซอยทุกซอย เป็นไม้ยืนต้นและไม้พุ่มตามที่เห็นเลยค่ะ
หน้าบ้านทุกหลังมีต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงา ขนาดว่าต้นไม้ยังไม่โตเป็นร่มมาก ดูแล้วก็ยังสบายตา
::: สวนสาธารณะ :::
บริเวณด้านหน้าโครงการ นับว่าเป็นอีก 1 ไฮไลต์ เป็นพื้นที่สีเขียวร่มรื่นติดกับคลับเฮาส์ ที่มาพร้อมกับ Lunar Play Yard เป็นเสมือนกับจุดต้อนรับเวลาเรากลับบ้าน และเป็นจุดที่ใช้รองรับแขกด้วย จึงออกแบบให้มีพื้นที่สวนพักผ่อนอยู่ด้านหน้าเลยค่ะ
ภายในสวนมีการจัดบรรยากาศให้ดูร่มรื่นสวยงาม มีทั้งไม้ยืนต้นให้ความร่มเงา มีไม้พุ่มไม้ดอกประดับ มีทางเดินรอบ ๆ สำหรับเดินเล่น และม้านั่งใต้ร่มไม้สำหรับนั่งพักผ่อนสบาย ๆ
สวนนี้ก็ถูกออกแบบภายใต้แนวคิด Living under the moon เหมือนกันนะคะ จุดที่เด่น ๆ ก็จะเป็นตัว Pavilion ที่ออกแบบโดยเจาะช่องผนังเป็นวงกลมเหมือนกับประตูพระจันทร์แบบสวนจีน ซึ่งจุดประสงค์ของประตูพระจันทร์ก็คือ ใช้เชื้อเชิญชนชั้นสูง หรือผู้มีฐานะให้เข้าเยี่ยมชมสวน นั่นหมายความว่า ในอดีตประตูพระจันทร์จึงมักจะสร้างขึ้นในสวนของผู้สูงศักดิ์เท่านั้น ก็เป็นดีเทลนึงที่ทางโครงการหยิบมาใช้บอกสถานะของผู้อยู่อาศัยภายในโครงการ
อีกจุดก็คือบริเวณสนามเด็กเล่น ที่มีการออกแบบเครื่องเล่นเด็กเป็นทรงกลมเหมือนพระจันทร์ ที่พื้นปูด้วยแผ่น EPDM เพื่อความปลอดภัย และมีพื้นที่สนามหญ้าขนาดใหญ่ข้าง ๆ สำหรับรองรับกิจกรรมต่าง ๆ ของครอบครัวค่ะ
::: คลับเฮาส์ :::
ส่วนฝั่งตรงข้ามกับสวนพักผ่อนก็คือ The Club เป็นคลับเฮาส์ของโครงการ ซึ่งมีการออกแบบอาคารให้เชื่อมต่อกับ Main Gate ตกแต่งด้วยระแนงเป็น Façade ช่วยบังแดดให้ฟังก์ชันด้านในได้
พอเราเดินเข้าไปด้านในอาคาร ส่วนแรกทางฝั่งขวามือก็จะเป็น Lobby ค่ะ
ภายใน Lobby เป็นห้องกระจกแบบ Full Height ที่มีฝ้าเพดานสูงแบบ Double Volume มีความโปร่งโล่ง แต่แดดไม่โดนตรง ๆ เพราะว่ามี Facade ด้านหน้าช่วยบังแดดให้บางส่วนด้วย ภายในตกแต่งมาในสไตล์ Modern Luxury บรรยากาศดูดีเลยค่ะ
ในห้องมีชุดโซฟาขนาดใหญ่จัดเอาไว้ให้ลูกบ้านสามารถมานั่งพักผ่อนได้ และลูกบ้านยังใช้ห้องนี้เป็นพื้นที่สำหรับรองรับแขกจากภายนอกได้ด้วย เพราะจากทางเข้าโครงการสามารถจอดรถ บริเวณโซนด้านหน้าและเดินขึ้นมาที่ Lobby ได้เลย สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มารอเด็ก ๆ ว่ายน้ำกัน ก็มานั่งรอในห้องนี้ได้ เพราะจากห้องนี้จะมีประตูเชื่อมกับสระว่ายน้ำด้วย
สระว่ายน้ำของโครงการจะเป็นสระระบบเกลือ แบ่งพื้นที่เป็นโซนสระเด็กและสระผู้ใหญ่เพื่อความปลอดภัย ภายในสระเด็กก็จะมีส่วนที่แบ่งเป็นโซน Jacuzzi ด้วย
พื้นที่ข้างสระจะเป็น Pool Terrace มี Day Bed จัดเอาไว้ให้สำหรับพักผ่อนรับลม มองออกไปก็จะได้วิวสวนฝั่งตรงข้าม สังเกตเห็นว่าจาก Pool Terrace จะเชื่อมต่อกับโถงทางเดิน ส่วนนี้จะเชื่อมไปยังโซน Shower สำหรับล้างตัวก่อนลงสระ และห้องน้ำแยกชาย-หญิง ซึ่งก็จะมีห้อง Sauna จัดเอาไว้ให้ด้านในค่ะ
บริเวณโซน Shower
จาก Pool Terrace เชื่อมต่อมายังห้องน้ำแยกฝั่งชาย-หญิง
ภาพบรรยากาศภายในห้องน้ำ
ห้องซาวน่าจะอยู่ฝั่งด้านในค่ะ
เราขึ้นไปดูบนชั้น 2 กันต่อ บันไดจะอยู่ข้าง ๆ ประตูทางเข้า Lobby
บนชั้น 2 จะมีพื้นที่โซน Semi-Outdoor สำหรับนั่งพักผ่อนรับลมเย็น ๆ ตรงนี้ลมพัดผ่านดีอยู่นะคะ
ฟังก์ชันบนชั้น 2 จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งค่ะ ทางฝั่งนี้คือ Kid’s Room, Co-Working Space และ Theatre Room จัดเอาไว้ในโซนเดียวกันแต่จะแยกส่วนกัน
เข้ามาในห้องส่วนแรกจะเป็น Kid’s Room เป็นพื้นที่ที่คุณพ่อคุณแม่สามารถพาเด็ก ๆ มาเล่นกันได้ มีของเล่น ตุ๊กตา สมุดนิทาน และโต๊ะกลมสำหรับนั่งวาดรูป ตกแต่งน่ารักมากค่ะ เป็นสีโทนพาสเทล มีก้อนเมฆอยู่ข้างบนด้วย เด็ก ๆ น่าจะชอบ
ถัดจาก Kid’s Room เข้ามาเป็น Co-Working Space ตรงนี้มีประตูกั้นส่วนเผื่อกั้นเสียงเวลาเด็ก ๆ เล่นกันได้ ในนี้ก็ตกแต่งในสไตล์ Modern Luxury เหมือนเดิม ดูโปร่งเพราะออกแบบให้มีฝ้าเพดานสูงและมีผนังกระจกยาวทั้ง 2 ฝั่ง ภายในมีโต๊ะทำงานและหน้าจอทีวีจัดเอาไว้ให้ เปลี่ยนบรรยากาศจากการ WFH ที่บ้าน มานั่งทำงานที่ห้องนี้แทนได้ค่ะ
ถ้าใครรู้สึกทำงานเบื่อ ๆ อยากลุกขึ้นมายืดเส้นยืดสายบ้าง ด้านในห้องก็มีโต๊ะพูลจัดเอาไว้ให้ ชวนเพื่อน ๆ หรือคนในครอบครัวมาเล่นกันได้
และถัดเข้าไปด้านในอีกห้องจะเป็น Theatre Room พร้อมหน้าจอดูหนังขนาดใหญ่และโซฟาเข้ามุมนั่งสบาย ๆ แบบนี้ มานั่งดูหนังหรือปาร์ตี้ร้องคาราโอเกะกันได้
ส่วนอีกฝั่งจะเป็นห้องฟิตเนสค่ะ พื้นที่ของห้องจะอยู่ลดระดับลงไป ที่ทางโครงการออกแบบโดยแยกส่วนฟังก์ชันออกเป็น 2 ฝั่งแบบนี้ ก็เพื่อกันเสียงไม่ให้รบกวนกัน และเพื่อความปลอดภัยสำหรับเด็กเล็กด้วย
ภายในออกแบบผนังกระจกแบบ Full Height รับแสง มีฝ้าเพดานสูง ดูโปร่ง มีการออกแบบให้ดูหรูหราเหมือนกัน ภายในมีอุปกรณ์ออกกำลังกายจัดเอาไว้ให้ครบทั้ง Cardio Machine และ Weight Training Machine พอเข้ามาภายในห้องส่วนแรกจะเป็นโถงทางเดินติดกระจกเงา
ตรงนี้จะมีชุดดัมเบลแบบคละน้ำหนักจัดเอาไว้ให้
เข้าไปด้านในก็จะมีทั้งลู่วิ่งไฟฟ้า, เครื่องเดินวงรี, จักรยานไฟฟ้า, ม้านั่งราบ และเครื่องเล่นไหล่
ถ้าเดินออกไปที่ระเบียง ก็จะมีเครื่องเล่น TRX จัดเอาไว้ให้ เรียกว่าทางโครงการให้ส่วนกลางมาครบเลยค่ะ วันหยุดไหนอยากพักผ่อนแบบเป็นส่วนตัวสบาย ๆ ก็ไม่จำเป็นต้องออกไปข้างนอกโครงการเลย
:::: แบบบ้านของโครงการ ::::
โครงการมีแบบบ้านให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น สำหรับครอบครัวขนาดใหญ่
แบบบ้าน Serein พื้นที่ใช้สอย 233 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน , 5 ห้องน้ำ 2 ห้องพักผ่อน , 1 ห้องครัว , 2 ที่จอดรถ แบบบ้าน Inscape พื้นที่ใช้สอย 275 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน , 5 ห้องน้ำ , 3 ห้องพักผ่อน , 1 ห้องครัว , 1 ห้องแม่บ้าน , 3 ที่จอดรถ แบบบ้าน Brivet พื้นที่ใช้สอย 330 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน , 5 ห้องน้ำ , 3 ห้องพักผ่อน , 1 ห้องครัว , 1 ห้องแม่บ้าน , 3 ที่จอดรถ
แบบบ้าน Serein | บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 54.37 ตร.ว.
พื้นที่ใช้สอย 233 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน , 5 ห้องน้ำ 2 ห้องพักผ่อน 1 ห้องครัว , 2 ที่จอดรถ
แปลนบ้านชั้น 1 | แปลนบ้านชั้น 2
แบบบ้าน Inscape | บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 61.5 ตร.ว.
พื้นที่ใช้สอย 275 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน , 5 ห้องน้ำ , 3 ห้องพักผ่อน 1 ห้องครัว , 1 ห้องแม่บ้าน , 3 ที่จอดรถ
แปลนบ้านชั้น 1 | แปลนบ้านชั้น 2
แบบบ้าน Brivet | บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 68.7 ตร.ว.
พื้นที่ใช้สอย 330 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน , 5 ห้องน้ำ , 3 ห้องพักผ่อน 1 ห้องครัว , 1 ห้องแม่บ้าน , 3 ที่จอดรถ
แปลนบ้านชั้น 1 | แปลนบ้านชั้น 2
:::: บ้านตัวอย่าง ::::
เราจะพาไปชมบ้าน 2 หลังซึ่งเป็นแบบบ้านที่ขายดีของทางโครงการกันค่ะ แบบแรกคือแบบบ้าน Serein ขนาด 233 ตร.ม. ตามด้วยแบบบ้าน Inscape ขนาด 275 ตร.ม.
::: แบบบ้าน Serein ขนาด 233 ตร.ม. :::
แปลนชั้น 1 หน้าบ้านมีที่จอดรถให้ 2 คันในร่ม ส่วนพื้นที่ภายในบ้านมีการออกแบบฟังก์ชันให้เชื่อมต่อกันแบบ Open Plan ระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องรับประทานอาหาร โดยจะแยกจากกันเป็นสัดส่วน ด้วยโถงทางเดินที่เชื่อมต่อระหว่างพื้นที่โถงบันได, ห้องน้ำชั้นล่าง และห้องนอนชั้นล่าง ห้องครัวจะอยู่ด้านข้างห้องรับประทานอาหาร เป็นห้องครัวปิด เปิดออกไปด้านหลังห้องครัวจะเป็นลานซักล้างค่ะ
แปลนชั้น 2 เป็นส่วนของห้องนอน 3 ห้องและห้องนั่งเล่นชั้นบนอีก 1 ห้อง โดยห้องนอนทุกห้องจะสามารถรองรับเตียงนอนขนาด 5-6 ฟุต และเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ได้ รวมไปถึงมีห้องน้ำให้แยกส่วนตัวทุกห้อง พื้นที่บ้านทั้งหมดสามารถรองรับครอบครัวขนาดกลาง-ขนาดใหญ่ ที่มีสมาชิกในครอบครัวประมาณ 5-6 คนค่ะ
ภายนอกบ้านถูกออกแบบมาสไตล์ Modern ดูเรียบและสุขุม ใช้สีเอิร์ธโทน มีการตกแต่งหน้ากากบ้านด้วยผนังหินเทียม และมีการสร้างมิติของบ้านด้วยการยื่นผนังและชายคาบางส่วนออกมาให้เป็นลูกเล่น
รั้วบ้านเป็นรั้วเลื่อนระแนงเหล็ก 1 ตอน มีกริ่งออด , ไฟกิ่ง, กล่องจดหมายติดเลขที่บ้าน และตู้เก็บขยะติดตั้งมาให้ รวมไปถึงมีประตูเล็กสำหรับคนเดินเข้า-ออกติดตั้งมาให้ด้วย
ที่จอดรถสามารถจอดได้ 2 คันในร่ม พื้นเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กทำผิว Stamped Concrete ฝ้าเพดานมีดวงโคม Downlight ติดมาให้
บ้านของที่นี่จะมาพร้อมกับระบบ Home Automation ของ Life Smart และสัญญาณกันขโมยระบบ Magnetic และ Shock Sensor ซึ่ง ทั้งหมดนี้ สามารถใช้งานและเปิด-ปิดผ่าน Smart Phone ได้
จากที่จอดรถจะเชื่อมต่อกับเฉลียงทางเข้าบ้านโดยมีชายคาคลุมกันแดดกันฝน พื้นที่เฉลียงทางเข้าบ้านจะยกระดับขึ้นมา 2 ขั้น ปูด้วยกระเบื้องเซรามิก สังเกตพื้นที่สวนรอบ ๆ บ้าน ทางโครงการจะจัดสวนมาให้ตามมาตรฐานแบบนี้เลย
พื้นที่สวนรอบ ๆ บ้านปูหญ้ามาเลเซียให้แบบนี้ เราสามารถเดินทะลุไปยังลานซักล้างได้เหมือนกัน
ประตูทางเข้าบ้านเป็นประตูบานเปิดคู่ สามารถเปิดได้กว้าง สะดวกเวลาต้องขนของชิ้นใหญ่ ๆ หรือพวกเฟอร์นิเจอร์เข้าบ้าน ตัวบานใช้ไม้สัก ติดลูกฟักกระจกเป็นแนวยาว
และที่ตัวบานก็จะติด Digital Door Lock ของ Life Smart ให้ สามารถใช้งานได้ 3 ระบบ คือ การใช้ลายนิ้วมือ, ใส่รหัส และ แตะ NFC สะดวกสบาย และปลอดภัย
การดีไซน์โถงหลักภายในบ้านจะถูกออกแบบมาเป็นรูปตัว U มีความโปร่งโล่งเพราะพื้นที่เปิดเชื่อมต่อกัน บ้านตัวอย่างมีการจัดเฟอร์นิเจอร์และ Finishing มาให้เราดูเป็นไอเดีย ส่วนบ้านมาตรฐานที่ใช้ส่งมอบจะเป็นบ้านเปล่านะคะ
ที่ พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิโต ขนาด 60 x 60 ซม . ผนังเป็นผนังก่ออิฐมวลเบาฉาบเรียบติดวอลล์เปเปอร์ ซึ่งการก่อสร้างแบบ Conventional จะทำให้ง่ายเวลาที่เราต้องการต่อเติมบ้านในภายภาคหน้า ฝ้าเพดานสูง 2.7 เมตร ติดดวงโคม Downlight LED ให้ทั้งหมด ส่วนประตู-หน้าต่างภายนอกจะเป็นบานเลื่อนกรอบ UPVC ติดกระจกเขียวตัดแสงของ Amigo ค่ะ
ฟังก์ชันส่วนแรกติดกับประตูทางเข้าบ้านจะเป็นห้องนั่งเล่นค่ะ
การออกแบบแปลนบ้านให้เป็นรูปตัว U มีข้อดีอย่างหนึ่งก็คือ ฟังก์ชันหลักของบ้านจะไม่ตรงกับประตูทางเข้า ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่า ห้องนี้ก็มีช่องแสงค่อนข้างเยอะ เป็นหน้าต่างเข้ามุมและประตูทางเชื่อมกับสวน
เฉพาะพื้นที่ห้องส่วนนี้ก็วางโซฟาขนาด 4-5 ที่นั่งได้แล้วค่ะ จะวางอาร์มแชร์เพิ่มอีกสักตัวก็ยังทำได้ ตรงกลางห้องก็วางโต๊ะกลางขนาดใหญ่ได้ลงตัว
ส่วนฝั่งตรงข้ามจะมีการเดินระบบไฟเอาไว้ให้เพื่อติดตั้งทีวี เราทำเป็นชุด Built-in เพื่อวางของโชว์และเก็บของเพิ่มก็จะทำให้บ้านลงตัวมากขึ้น หรือจะเป็นชั้นวางทีวีแบบลอยตัวสวย ๆ สักตัวก็ได้ค่ะ
ในส่วนของพื้นที่ที่เป็นโถงทางเดินที่เชื่อมต่อระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องรับประทานอาหาร ก็ถือว่ามีความกว้างขวางนะคะ เป็นมุมหนึ่งที่เราใช้วางคอนโซลและของประดับสวย ๆ ได้ จะทำเป็นชั้นวางของโชว์ หรือวางเป็นโซฟาขนาดใหญ่เพื่อรองรับเวลามีเพื่อนหรือญาติ ๆ มาเยี่ยมก็ได้นะ
ระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องรับประทานอาหารจะเป็นส่วนของห้องน้ำชั้นล่างและโถงบันได
ห้องน้ำชั้นล่างเป็นห้องน้ำ สำหรับใช้รับแขกและการใช้งานระหว่างวัน พื้นและผนังภายในตกแต่งด้วยกระเบื้องเซรามิกสีเทาและกระเบื้องลายหินอ่อน สุขภัณฑ์ใช้ของ American Standard ทั้งหมด
ชิ้นแรกเป็นอ่างล้างมือแบบวางบนเคาน์เตอร์สำเร็จรูปพร้อมกระจกเงา ใต้เคาน์เตอร์มีตู้สำหรับเก็บของได้
ถัดมาด้านในเป็นโถสุขภัณฑ์แบบแยกชิ้นระบบ Dual Flush พร้อมอุปกรณ์ประกอบการใช้งาน ด้านหลังมี Lower Wall ก่อเอาไว้ให้สำหรับใช้วางของได้ ดูระยะโดยรอบของสุขภัณฑ์แต่ละชิ้นค่อนข้างกว้าง ทำให้นั่งแล้วรู้สึกว่าไม่อึดอัด
บนผนังมีหน้าต่างบานกระทุ้งติดกระจกฝ้าเป็นช่องแสงและทางระบายอากาศ ทำให้ห้องดูโปร่งมากขึ้น
มาที่ฝั่งหลังบ้านจะเป็นส่วนของห้องรับประทานอาหารนะคะ
ดูระยะโดยรอบหลังวางโต๊ะกับเก้าอี้แล้ว ยังสามารถเดินผ่านได้สะดวกค่ะ ด้านข้างห้องมีประตู เปิดเชื่อมกับสวนได้ด้วย
ซึ่งพื้นที่ข้างบ้านจะเป็นเฉลียงชมสวน จัดชุดโต๊ะน้ำชา, Day Bed และร่มสักคัน คือลงตัวเลย
ส่วนประตูที่เห็นอยู่ด้านข้างนี้เป็นประตูห้องเก็บของใต้บันไดค่ะ
แต่ถ้าจัดขนาดโต๊ะตามแบบบ้านตัวอย่าง พื้นที่ที่เหลือหน้าห้องครัวยังสามารถทำเป็น Pantry เพิ่มได้นะคะ ส่วนห้องครัวจะกั้นส่วนจากพื้นที่โถงบ้านด้วยประตูบานเลื่อนกระจก
พื้นภายในห้องครัวทำลดระดับลงไปประมาณ 10 ซม. เผื่อวันไหนต้องการทำความสะอาดพื้นแบบหนัก ๆ น้ำจะได้ไม่ไหลย้อนเข้าห้องโถง
ภายในห้องครัวมีพื้นที่กำลังดี ทำอาหารไทยหนัก ๆ ได้สะดวก โดยทางโครงการจะมีเคาน์เตอร์ครัวก่อ , หน้าบานตู้ และตู้ลอยเตรียมเอาไว้ให้ตามที่เราเห็นนี้
โดยจะเว้นพื้นที่กว้างเกือบ 1.2 ม. เอาไว้ให้วางตู้เย็นได้ด้วย
สำหรับ Top เคาน์เตอร์เป็นหินแกรนิตสีดำ ส่วนที่ใช้วางเตาแก๊สก็จะทำลดระดับให้ พร้อมเครื่องดูดควันด้านบน ด้านข้าง ติดตั้งอ่างล้างจานขนาด 1 หลุม และที่ผนังด้านหลังก็กรุด้วยกระเบื้องเป็น Backsplash เพื่อให้ง่ายต่อการทำความสะอาด
จากห้องครัวจะมีประตูหลังเปิดออกไปยังลานซักล้างหลังบ้าน สังเกตด้านบนประตูมีพัดลมดูดอากาศติดตั้งมาให้อีก 1 ตัวค่ะ
พื้นที่ลานซักล้างหลังบ้าน ทำพื้นคอนกรีตเสริมเหล็กปาดเรียบสำหรับการซักล้างและวางเครื่องซักผ้า จะเห็นระบบท่อและน้ำที่ทางโครงการเตรียมเอาไว้ให้
กลับเข้ามาภายในบ้าน ประตูด้านข้างห้องครัวอีก 2 ห้องจะเป็นตู้ไฟฟ้าและห้องนอนชั้นล่างค่ะ
ส่วนตัวค่อนข้างชอบที่ทางโครงการออกแบบตู้ไฟแยกให้แบบนี้ ดูเรียบร้อยดี เวลาจะมาเปิด-ปิดอะไรก็ง่าย
ห้องนอนชั้นล่าง มักจะจัดเป็นห้องนอนผู้สูงอายุที่อาจจะเดินขึ้น-ลงบันไดไม่ค่อยสะดวก พื้นที่ภายในห้องถือว่ากว้างพอสมควร ที่พื้นเปลี่ยนมาปูด้วยลามิเนตเพื่อให้สัมผัสเหมาะสำหรับการพักผ่อน แต่ถ้าบ้านไหนไม่ต้องการใช้ห้องนี้เป็นห้องนอน ก็เปลี่ยนเป็นห้องอเนกประสงค์แทนได้ ใช้เป็นห้องทำงาน, โฮมเธียเตอร์ หรือห้องออกกำลังกายก็ทำได้หมด
พื้นที่ห้องรองรับเตียงนอนขนาด 5-6 ฟุต พร้อมโต๊ะข้าง 2 ฝั่งได้
ด้านข้างเพิ่มโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้งอีกตัวก็ยังไหว
ส่วนด้านข้างห้องจะมีประตูบานเลื่อนเป็นช่องแสงขนาดใหญ่ เปิดออกไปเป็นเฉลียงส่วนตัว วางพวกม้านั่งเล่นเป็นมุมพักผ่อนน่ารัก ๆ ได้
ฝั่งปลายเตียงวางตู้เสื้อผ้าและชั้นวางทีวีก็จะลงตัวพอดี มีระยะเดินผ่านได้สะดวกค่ะ ส่วนประตูด้านข้างอีกบานจะเป็นห้องน้ำในตัว
ภายในห้องน้ำมีการวางแปลนไล่จากส่วนแห้งไปยังส่วนเปียกด้านใน พื้นและผนังตกแต่งด้วยกระเบื้องเซรามิก สุขภัณฑ์ใช้ของ American Standard เช่นกัน
อ่างล้างมือแบบวางบนเคาน์เตอร์สำเร็จรูป
โถสุขภัณฑ์รุ่นเดิม มีอุปกรณ์ประกอบการใช้งานติดตั้งมาให้ครบ
ด้านในสุดทำพื้นลดระดับเป็นโซนอาบน้ำ แนะนำให้ติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำเป็น Tempered Glass เพิ่มเติมนะคะ
ที่ผนังติดตั้ง Hand Shower พร้อม ราวปรับระดับ, จานวางสบู่, เจาะผนังทำชั้นวางสบู่ และเดินระบบสำหรับเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้แล้วค่ะ
คราวนี้เราขึ้นไปดูฟังก์ชันบนชั้น 2 กันค่ะ บันไดบ้านใช้โครงสร้างคสล . ลูกตั้งฉาบเรียบทาสี ลูกนอนไม้อัดประสาน ราวบันไดเป็นราวเหล็กฝังกับพื้น มือจับใช้ไม้สีเข้ากับพื้นบันได
ขึ้นมาที่ชานพักบันได ตรงนี้มักจะเป็นจุดที่ค่อนข้างมืด ทางโครงการเลยออกแบบให้มีหน้าต่างจากทั้ง 2 ด้านแบบนี้ ข้อดีก็คือจะได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่าการเจาะช่องแสงขนาดใหญ่ที่ผนังกลางโถงค่ะ
พอขึ้นมาบนชั้น 2 แล้วส่วนแรกจะเป็นห้องนั่งเล่นชั้นบน เป็นอีก 1 พื้นที่อเนกประสงค์ที่เราสามารถจัดฟังก์ชันได้ตามต้องการ ส่วนบ้านตัวอย่างจัดให้เป็นห้องพักผ่อนส่วนตัว
ขนาดพื้นที่ห้องก็ไม่ได้แพ้ห้องนั่งเล่นชั้นล่างเลยนะคะ วางโซฟาขนาดใหญ่ นั่งกันประมาณ 4-5 คนได้เลย
ถัดเข้าไปด้านในจะเป็นโถงกลางเชื่อมต่อกับห้องนอน 3 ห้อง ฝั่งซ้ายคือห้องนอน 3 ตรงกลางคือห้องนอน 2 และฝั่งขวา (ฝั่งหน้าบ้าน) คือ Master Bedroom สำหรับพื้นบนชั้น 2 จะปูด้วยลามิเนต ผนังติดวอลล์เปเปอร์ และฝ้าเพดานมีความสูงที่ 2.7 เมตรเหมือนเดิม
สังเกตภายในโถงจะมี Control Panel ของ DSC สำหรับควบคุมสัญญาณกันขโมยภายในบ้านติดตั้งเอาไว้ให้
นอกจากนี้สวิตช์ไฟที่ใช้ภายในบ้านจะเป็นระบบสัมผัสทั้งหลังค่ะ
เรามาดู Master Bedroom กันก่อนค่ะ พอเข้ามาในห้องเราจะเจอส่วนพักผ่อนก่อน ส่วนนี้จะมีช่องแสงขนาดใหญ่ให้ถึง 2 บาน ห้องเลยดูโปร่งและสว่าง
พื้นที่ห้องรองรับเตียงนอนขนาด 6 ฟุตได้สบาย และยังวางโต๊ะข้างได้ทั้ง 2 ฝั่ง
พื้นที่ปลายเตียงยังวางสตูลเพิ่มอีก 1 ตัวสำหรับนั่งดูทีวีได้นะ
ถ้าเราเปิดประตูบานเลื่อนออกไป ก็จะเป็นพื้นที่ระเบียงหน้าบ้าน พื้นที่ด้วยกระเบื้องเซรามิก ส่วนราวกันตกจะเป็น Tempered Glass ค่ะ
จากส่วนพักผ่อนจะเชื่อมต่อเข้าไปยัง Walk-in Closet และห้องน้ำในตัว ถ้าใครอยากแบ่งพื้นที่ห้องให้เป็นสัดส่วนก็ติดประตูบานเลื่อนกั้นเพิ่มได้
แบบบ้านนี้มีการลองวางเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว ทั้งตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งให้ดูเป็นไอเดีย จะเห็นได้ว่าแม้จะไม่ได้ทำเฟอร์นิเจอร์แบบ Built-in ก็ยังสามารถตกแต่งส่วนต่าง ๆ ของห้องให้ดูสวยงามได้
ส่วนห้องน้ำจะมีการอัปเกดรสุขภัณฑ์ให้เป็นรุ่นที่ดีมากยิ่งขึ้น เพื่อให้สมกับที่เป็น Master Bathroom
อ่างล้างมือจะมีขนาดที่ใหญ่ใช้งานสะดวกมากขึ้น
โถสุขภัณฑ์เป็นรุ่นที่สวยขึ้นแบบชิ้นเดียว
โซน Shower จะติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำ Tempered Glass มาให้แล้ว
ภายในมี Hand Shower และอุปกรณ์อื่น ๆ ติดตั้งมาให้เหมือนเดิม
มาดูห้องนอน 2 กันต่อค่ะ จะมีขนาดใหญ่รองลงมา พื้นที่ห้องก็ยังรองรับเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ ๆ ได้สบาย
พอเข้ามาด้านในห้อง เราจะเจอโถงทางเดินและห้องน้ำอยู่ด้านหน้าห้องก่อน เป็นจุดที่เราวางตู้เสื้อผ้าได้พอดีค่ะ
ภายในห้องน้ำมีการวางแปลนและใช้สุขภัณฑ์ไม่ต่างไปจากห้องน้ำชั้นล่าง
ด้านในห้องเป็นพื้นที่โซนพักผ่อน
บ้านตัวอย่างวางเตียงนอนขนาด 5 ฟุตและโต๊ะข้างทั้ง 2 ฝั่ง ด้านข้างห้องยังวางโต๊ะทำงานได้อีก 1 ตัว
ส่วนฝั่งปลายเตียงนอนก็วางชั้นวางทีวีได้ ยังมีพื้นที่เหลือเป็นทางเดินให้เราเดินผ่านได้สะดวก
สุดท้ายเป็นห้องนอน 3 ค่ะ จะมีแปลนไม่ต่างจากห้องนอน 2 มากนัก
ห้องน้ำจะใช้สุขภัณฑ์รุ่นเดิม แต่ว่ามีแปลนที่ต่างจากห้องนอน 2 โดยยังคงแบ่งสัดส่วนการใช้งานได้ลงตัวค่ะ
เข้ามาด้านในโซนพักผ่อน มีพื้นที่แบบสบาย ๆ นะคะ วางเตียงนอนขนาด 5-6 ฟุตได้เหมือนกัน
บ้านตัวอย่างวางเตียงขนาด 5 ฟุตและโต๊ะข้างทั้ง 2 ฝั่ง
ส่วนฝั่งปลายเตียงก็จัดเป็นชั้นวางทีวีและโต๊ะเครื่องแป้งค่ะ
::: แบบบ้าน Inscape ขนาด 275 ตร.ม. :::
แปลนชั้น 1 เริ่มจากที่หน้าบ้านมีพื้นที่จอดรถให้ 3 คัน เชื่อมต่อกับทางเข้าบ้านโดยจะเป็นพื้นที่ในร่มทั้งหมด ภายในบ้านมีการวางแปลนแบบ Open Plan ส่วนแรกเป็นโถงใหญ่ประกอบด้วย ห้องรับแขก, ห้องรับประทานอาหาร และห้องนั่งเล่น พื้นที่โถงใหญ่จะเชื่อมต่อกับ ห้องนอนชั้นล่าง, ห้องน้ำชั้นล่าง, โถงบันได และห้องครัว โดยจากห้องครัวจะมีประตูออกสู่ลานซักล้างหลังบ้านและห้องแม่บ้าน พื้นที่แต่ละส่วนสามารถวางเฟอร์นิเจอร์พอสำหรับครอบครัวขนาด 5-8 คนค่ะ
แปลนชั้น 2 เป็นส่วนของห้องนอนทั้งหมด 3 ห้อง และห้องนั่งเล่นชั้นบน โดย Master Bedroom จะอยู่ฝั่งหน้าบ้าน มีขนาดกว้างขวาง เป็นสัดส่วน พร้อม Walk-in Closet และห้องน้ำในตัว ส่วนห้องนอน 2 และ 3 จะอยู่ฝั่งหลังบ้านค่ะ ภายในห้องนอนสามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้วางเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ได้อย่างลงตัว และมีห้องน้ำให้ในตัวทุกห้อง
ภายนอกบ้านถูกออกแบบมาสไตล์ Modern ดูเรียบและสุขุม ใช้สีเอิร์ธโทน โดยหลังนี้จะใช้สีขาว, น้ำตาลอ่อน และสีเทา มีการตกแต่งหน้ากากบ้านด้วยผนังหินเทียม
รั้วบ้านจะเป็นรั้วเลื่อนระแนงเหล็ก 2 ตอน มีกริ่งออด , กล่องจดหมายติดเลขที่บ้าน และตู้เก็บขยะติดตั้งมาให้ รวมไปถึงประตูเล็กสำหรับคนเดินเข้า-ออก
ที่จอดรถของบ้านหลังนี้สามารถจอดได้ถึง 3 คัน พื้นจะเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กทำผิว Stamped Concrete ฝ้าเพดานมีดวงโคม Downlight ติดมาให้ จากที่จอดรถจะเชื่อมต่อกับเฉลียงทางเข้าบ้านเลย ซึ่งพื้นที่ทั้งหมดนี้จะอยู่ในร่ม เพราะฉะนั้น เวลาที่ฝนตก เราก็ยังเดินเข้าบ้านได้สบาย แล้วก็ยังง่าย เวลาขนของเข้าบ้านอีกด้วย
พื้นที่เฉลียงทางเข้าบ้านจะยกระดับขึ้นมา 2 ขั้น ปูด้วยกระเบื้องเซรามิก สังเกตที่ผนังด้านข้างจะมีบานเปิดเป็นตู้เก็บของ ให้เราเก็บพวกอุปกรณ์ทำสวนและอุปกรณ์ล้างรถได้ ส่วนประตูทางเข้าบ้านจะเป็นประตูไม้สักติดลูกฟักกระจก และติด Digital Door Lock มาให้
พอเข้ามาในบ้าน เราจะรู้สึกได้เลยว่าพื้นที่บ้านมีขนาดที่กว้างขวาง เพราะว่าเข้าให้พื้นที่ใช้สอยมาเยอะ และมีการออกแบบฟังก์ชันให้เปิดเชื่อมต่อกันแบบ Open Plan ซึ่งบ้านที่เราพาเข้ามาชม จะเป็นบ้านเปล่าที่ทางโครงการใช้ส่งมอบ ทำให้เราเห็นพื้นที่บ้าน , ช่องแสง และวัสดุที่ทางโครงการใช้จริง ๆ ทั้งหมดได้เลย
ที่ พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิโต ขนาด 60 x 60 ซม . ผนังเป็นผนังก่ออิฐมวลเบาฉาบเรียบติดวอลล์เปเปอร์ ฝ้าเพดานสูง 2.7 เมตร ติดดวงโคม Downlight LED ให้ทั้งหมด ส่วนประตู-หน้าต่างภายนอกจะเป็นบานเลื่อนกรอบ UPVC ติดกระจกเขียวตัดแสงของ Amigo สังเกตบนฝ้าเพดานทางฝั่งซ้ายจะมี IP Camera ติดตั้งมาให้ 1 ตัว ส่วนอีกตัวจะอยู่ที่โรงจอดรถค่ะ
ที่บ้านชั้นล่าง มีการออกแบบห้องนั่งเล่นแบบ Double Living Room คือมีห้องนั่งเล่นอยู่ 2 จุดด้วยกัน จุดแรกจะอยู่บริเวณหน้าบ้าน เรียกว่าเป็น ไฮไลต์ของบ้านเลยค่ะ
ส่วนนี้มีฝ้าเพดานที่สูงถึง 6.35 เมตร เปิดโล่งขึ้นไปถึงฝ้าบนชั้น 2 แบบ Double Volume โดยจุดนี้จะเหมาะสำหรับการจัดเป็น ห้องรับแขก ซึ่งมักจะถูกใช้เป็นหน้าเป็นตาของบ้านนั่นเอง
พื้นที่ส่วนนี้เราสามารถจัดวางโซฟาขนาด 3-4 ที่นั่งได้ วางอาร์มแชร์อีก 2 ข้าง และ โต๊ะกาแฟตรงกลางได้เลย ผนังอีกฝั่งก็ติดตั้งทีวีได้ค่ะ
ใครที่ชอบการตกแต่งแบบแกรนด์ ๆ จะติด โคมระย้าสวย ๆ ห้อยลงมาจากชั้น 2 ได้เลย
มาที่โถงกลางบ้านจะเป็นห้องรับประทานอาหาร พื้นที่ส่วนนี้เราจัดโต๊ะขนาด 6-8 ที่นั่งได้เลยค่ะ สังเกตว่ามีประตูด้านหลัง เปิดเชื่อมกับสวนหลังบ้านได้
มองไปด้านข้าง จะมีประตูบานเลื่อน เป็นประตูของห้องครัว
ภายในห้องครัวมีพื้นที่กำลังดี โดยทางโครงการจะมีเคาน์เตอร์ครัวก่อ , หน้าบานตู้ และตู้ลอยเตรียมเอาไว้ให้ตามที่เราเห็นนี้ค่ะ
จ ากห้องครัวมีประตูหลังเปิดออกไปยังลานซักล้างหลังบ้าน ซึ่งจะมีห้องแม่บ้านพร้อมห้องน้ำในตัวแยกส่วนให้จากเจ้าของบ้าน
บริเวณลานซักล้างหลังบ้าน ประตูบานถัดไปคือห้องแม่บ้านค่ะ
ภายในห้องแม่บ้านก็มีห้องน้ำให้ในตัวแล้ว
ส่วนห้องนั่งเล่นอีกห้องจะอยู่บริเวณโซนหลังบ้าน (ติดกับห้องรับประทานอาหาร) เพื่อความเป็นส่วนตัว และเหมาะสำหรับการพักผ่อนมากขึ้น ตรงนี้เราก็สามารถจัดพื้นที่ได้อย่างอิสระเลย ยกตัวอย่าง เราจัดเป็นโซฟา ขนาด 3-4 ที่นั่งสำหรับเอนนอนดูทีวีได้สบาย ด้านข้างห้องมีประตูบานเลื่อนเชื่อมต่อกับเฉลียงติดสวนข้างบ้าน ซึ่งสามารถจัดเป็นอีก 1 มุมพักผ่อนสำหรับชมสวนได้ค่ะ
มาดูที่อีกโซนของบ้านกันค่ะ บริเวณนี้เป็นส่วนของ ห้องน้ำชั้นล่าง , ห้องนอนชั้นล่าง และโถงบันได
ห้องน้ำชั้นล่างเป็นห้องน้ำแบบ Powder Room พื้นและผนังภายในตกแต่งด้วยกระเบื้องเซรามิก สุขภัณฑ์ใช้ของ American Standard ทั้งหมด เป็นอ่างล้างมือแบบวางบนเคาน์เตอร์สำเร็จรูปพร้อมกระจกเงา และโถสุขภัณฑ์แบบ Dual Flush พร้อมอุปกรณ์ประกอบการใช้งาน ด้านหลังมี Lower Wall ก่อเอาไว้ให้สำหรับใช้วางของได้
ห้องนอนชั้นล่าง เป็นห้องที่ได้วิวสวนหน้าบ้าน ซึ่งมักจะจัดเป็นห้องนอนผู้สูงอายุที่อาจจะเดินขึ้น-ลงบันไดไม่ค่อยสะดวก พื้นที่ภายในห้องถือว่ากว้างมากนะคะ พื้นที่ห้องขนาดนี้เราวางเตียงนอนขนาด 6 ฟุต พร้อมโต๊ะข้าง 2 ฝั่ง อีกฝั่งก็วางโต๊ะเครื่องแป้ง, โต๊ะทำงาน และตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้สบาย แล้วยังเหลือพื้นที่โดยรอบแบบเหลือ ๆ เดินผ่านได้สะดวก ส่วนที่พื้นจะปูด้วยลามิเนต
ภายในห้องนอนของบ้านหลังนี้ จะ มีห้องน้ำในตัวมาให้ทุกห้องด้วย ที่ห้องนี้ก็มีนะ
ภายในมีอ่างล้างมือ โถสุขภัณฑ์ และโซนอาบน้ำให้ครบ สุขภัณฑ์ใช้ของ American Standard เหมือนเดิม ในส่วนของโซนอาบน้ำจะทำพื้นลดระดับเพื่อกันน้ำไหลย้อน เราติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำเป็น Tempered Glass เพิ่มเติมได้ และผนังด้านในติดตั้ง Hand Shower ราวปรับระดับ เจาะผนังทำชั้นวางสบู่ และเดินระบบสำหรับเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้แล้วค่ะ
ขึ้นไปดูฟังก์ชันบนชั้น 2 กันต่อ บันไดบ้านใช้โครงสร้างคสล . ลูกตั้งฉาบเรียบทาสี ลูกนอนไม้อัดประสาน ราวบันไดเป็นราวเหล็กฝังกับพื้น มือจับใช้ไม้สีเข้ากับพื้นบันได ส่วนประตูที่เห็นอยู่ใต้บันไดจะเป็นตู้ไฟของบ้านค่ะ
ขึ้นมาที่ชานพักบันได มีการเจาะช่องแสงเป็นหน้าต่างจากทั้ง 2 ด้าน เพื่อให้สามารถรับแสงธรรมชาติได้มากขึ้น
พื้นที่บนชั้น 2 จะประกอบด้วยห้องนอนทั้งหมด 3 ห้อง และห้องนั่งเล่นอีก 1 ห้อง ซึ่งโถงทางเดินตรงกลางนี้ก็มีความกว้างพอสมควร เราจัดให้เป็นพื้นที่นั่งเล่นได้อีกมุมเลย ทางฝั่งซ้ายคือ Master Bedroom ส่วนทางฝั่งขวาคือห้องนอน 2 และห้องนอน 3 ค่ะ
ถัดเข้าไปด้านในเป็นห้องนั่งเล่นชั้นบน เป็นจุดที่เชื่อมต่อกับห้องรับแขกด้านล่าง สำหรับฟังก์ชันในส่วนนี้ก็สามารถจัดได้ตามใจชอบเลยค่ะ จัดเป็นห้องทำงาน หรือมุมพักผ่อนส่วนตัวก็ได้ โดยจะเชื่อมต่อกับระเบียงหน้าบ้าน สามารถเปิดออกไปรับอากาศและชมวิวได้ สำหรับพื้นบนชั้น 2 จะปูด้วยลามิเนต ผนังติดวอลล์เปเปอร์ และฝ้าเพดานมีความสูงที่ 2.7 เมตรเหมือนเดิม
พื้นที่ระบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิกและติดราวกันตกเป็น Tempered Glass ให้ มีพื้นที่ที่ค่อนข้างกว้างนะคะ ใช้วาง Day Bed สำหรับนอนชมวิวได้เลย
เราเข้ามาดูภายใน Master Bedroom กันก่อนค่ะ พื้นที่ภายในห้องมีขนาดค่อนข้างกว้างขวาง สามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ได้ลงตัวง่ายมาก ๆ อย่างโซนพักผ่อนนี้เราวางเตียงขนาด 6 ฟุต , โต๊ะข้าง 2 ตัว , ม้านั่งพักผ่อนติดหน้าต่าง และยังวางสตูลไว้ปลายเตียงสำหรับนั่งดูทีวีได้ด้วย
จากโซนพักผ่อนจะเชื่อมต่อกับ Walk-in Closet และห้องน้ำในตัว จะเห็นว่าพื้นที่ Walk-in Closet มีขนาดใหญ่เหมือนกันนะคะ วาง ตู้เสื้อผ้า Built-in ขนาดใหญ่ และโต๊ะเครื่องแป้งได้เลย
ส่วนด้านในห้องน้ำก็มีการแบ่งโซนการใช้งานอย่างเป็นสัดส่วน มีการอัปเกรดสุขภัณฑ์บางชิ้น และมีการตกแต่งให้ดูสวยงามมากขึ้น
แถมด้านข้างโถสุขภัณฑ์ก็มีประตูบานเลื่อนติดกระจกฝ้ามาให้เป็นช่องแสง
เปิดออกไปเป็นพื้นที่ระเบียงเล็ก ๆ และราวกันตก
อีกฝั่งจะ เป็นโซน Shower ซึ่งจะมีฉากกั้นอาบน้ำเป็น Tempered Glass ติดตั้งมาให้เพิ่มเติม
มาดูห้องนอน 2 กันต่อค่ะ เข้ามาภายในห้องส่วนแรกจะเป็นโถงทางเดิน เราเจอห้องน้ำอยู่ด้านหน้าก่อน
ตรงนี้เป็นจุดที่เราใช้วางตู้เสื้อผ้าได้พอดี
ด้านในห้องน้ำมีการวางแปลนที่ต่างออกไป แต่ก็ยังแบ่งโซนการใช้งานระหว่างอ่างล้างมือ , โถสุขภัณฑ์ และโซนอาบน้ำ ให้เป็นสัดส่วนค่ะ
ถัดเข้าไปด้านในเป็นพื้นที่พักผ่อน พื้นที่ห้องสามารถรองรับเตียงนอนขนาด 5 ฟุต พร้อมตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งได้ ส่วนภาพบ้านตกแต่งจัดเป็นห้องนอนของเด็ก ฝั่งหนึ่งทำเป็นเตียง 2 ชั้น โดยพื้นที่ด้านบนทำเป็นพื้นที่เล่นส่วนตัว ส่วนอีกฝั่งทำเป็นโต๊ะสำหรับเขียนหนังสือ
ส่วนห้องนอน 3 จะ Mirror แปลนมากจากห้องนอน 2 เลย ขนาดพื้นที่ห้องก็เท่ากัน เข้ามาด้านในห้องจะเป็นโถงทางเดิน เจอห้องน้ำอยู่ข้างหน้า และมีโซนพักผ่อนอยู่ด้านใน
พื้นที่โถงด้านหน้า
ภายในห้องน้ำ
พื้นที่สามารถรองรับเตียงนอนขนาด 5 ฟุตและเฟอร์นิเจอร์อื่น ๆ ได้เหมือนกัน ภาพบ้านตกแต่งก็จัดให้เป็นห้องนอนเด็กอีก 1 ห้อง
:::: ราคา (มีนาคม 2565) ::::
ราคาเริ่มต้น 12.99 ล้านบาท ค่าส่วนกลาง 31 บาท/ตร.ว./เดือน
ลงทะเบียนรับส่วนลด 200,000 บาท คลิก https://www.apthai.com/
สอบถามข้อมูลและโปรโมชันเพิ่มเติม โทร 1623
***ข้อมูลราคา และโปรโมชันอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
:::: สรุป ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ เรียกว่าเป็นจุดเด่นที่น่าสนใจของโครงการ THE CITY สาทร-กัลปพฤกษ์เลยค่ะ เพราะ ว่าเป็นทำเลศักยภาพบนถนนบางแค ที่เดินทางสะดวกทั้งการใช้รถยนต์ส่วนตัวและรถไฟฟ้า MRT สถานีบางแค สามารถเข้าสู่โซนสาทรได้ภายใน 10 นาทีเศษ ซึ่งนับว่าหาได้ค่อนข้างยากสำหรับโครงการบ้านหลังใหญ่ ที่มีพื้นที่เยอะ ๆ ที่จะหาทำเลได้แบบนี้
และยังเป็นทำเลที่มีความสะดวกสบายในการอยู่อาศัย เพราะใกล้กับสิ่งอำนวยความสะดวกอีกมากมาย ยกตัวอย่างเช่น The Mall และ Seacon บางแค , Lotus’s บางแค และ Hypermarket ฝั่งกัลปพฤกษ์ รวมไปถึงโรงเรียนและโรงพยาบาลอีกหลายแห่ง เรียกว่าเป็นทำเลที่ช่วยให้เราสามารถสร้าง Work-Life-Balance ได้ดีเลยค่ะ
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว จากถนนบางแคจะเชื่อมต่อกับถนนกัลปพฤกษ์และถนนเพชรเกษมได้ในระยะเพียง 1 กม . กว่า ๆ เท่านั้น โดยจากถนนกัลปพฤกษ์จะสามารถใช้เป็นเส้นทางเข้าเมือง ตรงเข้าโซนสาทรได้เลย ระยะทางประมาณ 12 กม . ถ้าการจราจรไม่หนาแน่น ก็คือใช้เวลาเพียงสิบนาทีนิด ๆ ไปถึงสาทรได้ตามที่เกริ่นไป
ส่วนอีกฝั่งของถนนกัลปพฤกษ์ ก็จะเชื่อมต่อกับวงแหวนกาญจนาภิเษก ใช้วิ่งรอบเมืองไปยังโซนต่าง ๆ ของกรุงเทพฯ และปริมณฑล
การเดินทางโดยรถสาธารณะ บนถนนเพชรเกษมจะ มีรถไฟฟ้า MRT ช่วง หัวลำโพง-บางแค ตัดผ่าน โดยสถานีที่ใกล้ที่สุดก็จะเป็นสถานีบางแค ขับรถไปเพียง 2-3 นาทีก็ถึงแล้ว จะเดินทางไปเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า BTS ที่สถานี Interchange บางหว้า ก็ง่ายมาก และทำเลนี้เรียกรถแท็กซี่หรือวินมอเตอร์ไซค์ได้สะดวก เกิดวันไหนนึกอยากนั่งรถเมล์ก็มีให้นั่งค่ะ
การออกแบบโครงการ และวัสดุ โครงการ ถูกออกแบบมาในสไตล์ Modern Luxury ภายใต้แนวคิด Living under the moon ทำให้ภาพรวมของโครงการดูหรูหรา ในโทนที่ดูนิ่ง สงบ และสุขุม ซึ่งทางโครงการต้องการจะสะท้อนภาพของลูกบ้านที่อยู่อาศัยภายในโครงการ โดยทางโครงการได้ให้ Facilities มา ครบครันรองรับการอยู่อาศัยแล้ว
ส่วนบ้านในโครงการจะเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดใหญ่ ที่อาจจะมีผู้สูงอายุเป็นสมาชิกในครอบครัว มีการออกแบบฟังก์ชันให้มีขนาดใหญ่ สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้ตามความต้องการ โดยบ้านจะม าพร้อมกับระบบ Home Automation และสัญญาณกันขโมยระบบ Magnetic และ Shock Sensor เพิ่มความสะดวกสบาย และความปลอดภัยค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัย
Kid’s Room, Co-Working Space รองรับการทำงาน, Theater Room รองรับการพักผ่อนดูหนังหรือคาราโอเกะ, Fitness Room พร้อมอุปกรณ์ออกกำลังกายครบ, สวนพักผ่อนขนาดใหญ่ โดยทั้งหมดนี้จะถูกออกแบบตามแนวคิด Living under the moon ดูหรูหรา สงบ น่าใช้งาน พร้อมระบบ KATSAN และระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ตามมาตรฐานของแบรนด์ THE CITY เลยค่ะ
:::: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ::::
CALL CENTER : 1623
WEBSITE : https://www.apthai.com/
หากเพื่อน ๆ เห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
บ้านเดี่ยวโครงการใหม่ บนทำเลอื่นๆ…ที่น่าสนใจ บริทาเนีย ติวานนท์-ราชพฤกษ์ นีโอ โฮม รัตนาธิเบศร์-ราชพฤกษ์ บ้านหรูสไตล์อังกฤษ 4 ห้องนอน เริ่ม 5.47 ล้าน* Ratirom Deluxe ราชพฤกษ์-ปิ่นเกล้า-กาญจนาภิเษก บ้านเดี่ยว อัลติจูด ฟอเรสต์ อารีย์-โมนูเมนต์ เริ่ม 28 ล้านบาท* รีวิว อณาสิริ รังสิต บ้านสไตล์ญี่ปุ่น ราคา 4.59-8 ล้านบาท* Supalai Prima Villa ปิ่นเกล้า-พุทธมณฑลสาย 2 เริ่ม 17.5-30 ล้านบาท* บ้านเดี่ยว บางกอก บูเลอวาร์ด รามคำแหง-วงแหวน บ้านเดี่ยว THE CITY สาทร-กัลปพฤกษ์ บ้านเดี่ยว สราญสิริ พระราม 2 เริ่ม 7.69 ล้าน* บ้านเดี่ยว สราญสิริ เทียนทะเล 30 สไตล์ Modern Farmhouse เริ่ม 8-12 ล้าน* บ้านเดี่ยว สราญสิริ รามคำแหง สไตล์ Modern Farmhouse เริ่ม 6.59-15 ล้าน*
แสดงความคิดเห็น