EP.2112 รีวิว บ้านเดี่ยว สราญสิริ เทียนทะเล 30 Saransiri Tientaley 30 บ้านเดี่ยวสไตล์ Modern Farmhouse บนแปลงที่ดิน 100 ตร.ว. ขึ้นไป เริ่มต้น 9-15 ล้านบาท*
Written by : Nin Yanin
สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo จะพาคุณผู้อ่านไปชมบ้านเดี่ยวโครงการใหม่บนที่ดิน 100 ตร.ว. ของทางแสนสิริ ในโซนพระราม 2 กันค่ะ กับโครงการ Saransiri เทียนทะเล 30 ในซอยเทียนทะเล 30 แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กทม. เดินทางสะดวกเชื่อมต่อถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล และถนนพระราม 2 เพื่อเข้า-ออกเมืองได้สะดวก
รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายในย่านพระราม 2 อาทิ Central Plaza พระราม 2, The Bright พระราม 2, Lotus’s พระราม 2, Big C Supercenter พระราม 2, รร.สวนกุหลาบวิทยาลัย รวมไปถึง รพ.ผู้สูงอายุบางขุนเทียน
โครงการ สราญสิริ เทียนทะเล 30 เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น บนที่ดินโครงการ 42 ไร่ กับแบบบ้านสไตล์ Modern Farmhouse ในบรรยากาศของ Charming Village เอกสิทธิ์เพียง 87 ยูนิตเท่านั้น พื้นที่ใช้สอยบ้าน 184-264 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 3-4 ห้องน้ำ และ 3 ที่จอดรถ บ้านโปร่งโล่งด้วย Connecting Space ขนาดใหญ่ พร้อมเพดานสูงใต้ Gable Roof และสวนพักผ่อนส่วนตัวภายในบ้าน บนแปลงที่ดินขนาด 100 ตร.ว. ขึ้นไป
มาพร้อมกับพื้นที่ส่วนกลางขนาด 3 ไร่ เป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ทอดยาวจากหน้าโครงการเข้าไปถึงด้านหน้าคลับเฮาส์ ครบครันด้วย ห้องรับรอง, Co-Working Space, สระว่ายน้ำระบบเกลือ, ห้องฟิตเนส และสวนพักผ่อน พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ในราคาเริ่มต้นที่ 9-15 ล้านบาท*
Pre Sales 27-28 ส.ค. นี้ เปิดจองบ้านเดี่ยว 100 ตร.ว.
ลงทะเบียนรับสิทธิ์พิเศษ คลิก http://siri.ly/AQdqOE7
เราไปดูกันเลยค่ะว่าโครงการนี้มีความน่าสนใจอย่างไรบ้าง
สราญสิริ ทำเลอื่นๆ ที่น่าสนใจ…
สราญสิริ ราชพฤกษ์-345 ราคาเริ่ม 6.59 ล้าน*
สราญสิริ ราชพฤกษ์-346 ราคาเริ่ม 6.39 ล้าน*
สราญสิริ ศรีวารี ราคาเริ่ม 6.99 ล้าน*
สราญสิริ ศรีวารี 2 ราคาเริ่ม 5.99 ล้าน*
สราญสิริ ชัยพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ ราคาเริ่ม 8 ล้าน*
สราญสิริ เวสต์เกต ราคาเริ่ม 8 ล้าน*
สราญสิริ บางนา ราคาเริ่ม 5.79 ล้าน*
สราญสิริ รามคำแหง ราคาเริ่ม 6.79 ล้าน*
สราญสิริ ประชาอุทิศ 90 ราคาเริ่ม 5.79 ล้าน*
สราญสิริ พระราม 2 ราคาเริ่ม 7.99 ล้าน*
สราญสิริ เทียนทะเล 30 ราคาเริ่ม 9.99 ล้าน*
สราญสิริ รังสิต เริ่มต้นที่ 6.89 ล้าน*
ชื่อโครงการ | สราญสิริ เทียนทะเล 30 Saransiri Tientalay 30 |
เจ้าของโครงการ | แสนสิริ Sansiri |
ลักษณะโครงการ | บ้านเดี่ยว 2 ชั้น |
พื้นที่โครงการ | 42 ไร่ |
จำนวนบ้าน | 87 ยูนิต |
เนื้อที่บ้าน | เริ่ม 100 ตร.ว. |
พื้นที่ใช้สอย | 184-264 ตร.ม. |
จำนวนห้อง | 4 ห้องนอน 3-4 ห้องน้ำ |
ที่จอดรถทั้งหมด | 3 คัน |
โซน | พระราม 2 |
เส้นทางคมนาคม |
|
ที่ตั้ง | ซอยเทียนทะเล 30 แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กทม. 10150 |
กำหนดการ | เริ่มก่อสร้างปี 2564 |
ปีที่สร้างเสร็จ | คาดว่าแล้วเสร็จปี 2566 |
ราคา | เริ่มต้น 9-15 ล้านบาท* (ส.ค. 65) |
ค่าส่วนกลาง | 40 บาท/ตร.ว./เดือน |
สถานที่สำคัญใกล้เคียง | ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
**ระยะทางวัดจากการเดินทางสู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด** |
สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
Tel | 1685 |
Website | https://www.sansiri.com |
:::: ที่ตั้งโครงการ ::::
ซอยเทียนทะเล 30 แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กทม. 10150
พิกัด : 13.590966, 100.427759
ทำเลที่ตั้ง โครงการ สราญสิริ เทียนทะเล 30 ตั้งอยู่ภายในซอยเทียนทะเล 30 เข้ามาจากถนนบางขุนเทียน-ชายทะเลประมาณ 260 เมตร ซึ่งเป็นจุดที่ใกล้รอยต่อระหว่างกรุงเทพฯ และสมุทรสาคร โดยโครงการยังอยู่ในพื้นที่ของกรุงเทพฯ นะคะ จากถนนบางขุนเทียน-ชายทะเลสามารถเชื่อมต่อถนนพระราม 2 ได้ง่าย ซึ่งเป็นถนนเส้นหลักของการเดินทางในโซนนี้ และเป็นถนนเส้นที่มีห้างสรรพสินค้าและสิ่งอำนวยความสะดวกอยู่ครบครัน
ถ้ามองในแง่ของสภาพแวดล้อม ทำเลนี้ตั้งอยู่บนผังสีเขียวการใช้ประโยชน์ที่ดิน ก.4 นั่นหมายความว่า ในบริเวณนี้จะไม่มีพวกโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่สร้างมลพิษให้กับชุมชน เพื่อให้พื้นที่ส่วนใหญ่ยังคงเป็นแหล่งเกษตรกรรม ซึ่งถือว่าส่งผลดีต่อการพักผ่อนอยู่อาศัย และโครงการหมู่บ้านที่จะสร้างในเขตนี้ได้นั้น ต้องเป็นบ้านที่มีเนื้อที่ดิน 100 ตร.ว. ขึ้นไป จึงทำให้บ้านภายในโครงการ สราญสิริ เทียนทะเล 30 ได้ที่ดินขนาดใหญ่ทุกแปลงค่ะ
การเดินทางด้วยรถยนต์ จากถนนบางขุนเทียน-ชายทะเลสามารถเชื่อมสู่ถนนสายหลักได้หลายสาย จึงเดินทางได้สะดวกค่ะ ไม่ว่าจะเป็น วงแหวนกาญจนาภิเษก, ถนนพระราม, ถนนเอกชัย และเชื่อมต่อกับซอยประชาอุทิศ 90 ไปออกถนนประชาอุทิศได้เช่นกัน โดยถนนเส้นหลักที่ใช้เข้า-ออกเมืองจะเป็นถนนพระราม 2 ถ้าวิ่งเข้าเมืองจากถนนพระราม 2 จะไปเชื่อมต่อกับทางด่วนเฉลิมมหานคร ใช้เข้าตัวเมืองชั้นในอย่างโซนสีลม-สาทรได้ง่าย ส่วนการวิ่งออกเมืองจะไปสิ้นสุดที่ถนนเพชรเกษมตรงทางแยกต่างระดับวังมะนาว จังหวัดราชบุรี ถือเป็นเส้นหลัก ๆ ที่ใช้ในการเดินทางออกต่างจังหวัดและโซนภาคใต้เหมือนกัน
จึงถือเป็นทำเลที่เดินทางเข้า-ออกเมืองได้สะดวกรวดเร็ว นอกจากจะเหมาะกับคนที่ทำงานในโซนใกล้เคียงอย่าง พระราม 2-เอกชัย-ประชาอุทิศ แล้วยังเหมาะกับคนทำงานในเมืองย่าน พระราม 3-สีลม-สาทร อีกด้วยค่ะ
ทางด่วน จากโครงการสามารถไปขึ้นทางด่วนดาวคะนองหรือทางด่วนเฉลิมมหานครเพื่อเข้าเมืองได้ไม่ยากค่ะ จากถนนบางขุนเทียน-ชายทะเลให้ไปกลับรถเพื่อเข้าถนนพระราม 2 ฝั่งขาเข้า แล้ววิ่งตรงขึ้นทางด่วนเพื่อเข้าเมือง
ส่วนจุดขึ้นวงแหวนกาญจนาภิเษกก็อยู่ไม่ไกลจากโครงการค่ะ โดยฝั่งตะวันตกจะใช้ขึ้นไปทางบางแค-บางใหญ่ ส่วนฝั่งตะวันออกให้เราวิ่งบนเส้นเลียบวงแหวนฯ จนถึงจุดเชื่อมสู่ถนนสุขสวัสดิ์จะมีจุดขึ้นวงแหวน ใช้ข้ามไปทางฝั่งสำโรง ไปโซนบางนา-ศรีนครินทร์ได้
:: สรุปแยก และ ถนนสำคัญรอบโครงการ ::
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ การเดินทางของทำเลนี้ต้องใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก คนที่เข้ามาอยู่ในทำเลนี้ก็น่าจะใช้รถส่วนตัวกันอยู่แล้ว ดังนั้นการเดินทางด้วยรถสาธารณะน่าจะไม่ใช่ประเด็นสำคัญอะไร แต่ก็มีตัวเลือกอย่างการเรียกแท็กซี่ผ่านทางแอปพลิเคชันต่าง ๆ จะสะดวกกว่า หรือออกไปที่ถนนพระราม 2 อย่างตรงหน้า Central พระราม 2 จะมีสถานีสถานีรถตู้โดยสาร มีหลายสายให้เลือกเดินทางไปได้ตามโซนต่าง ๆ ของกรุงเทพฯ และปริมณฑลเลยค่ะ
ความอุดมสมบูรณ์ โซนนี้บริเวณใกล้เคียงกับโครงการจะมีร้านค้าและร้านอาหารทะเลดัง ๆ อยู่เยอะเลยค่ะ ร้านสะดวกซื้อที่ใกล้ที่สุดคือ 7-11 อยู่ตรงหน้าปากซอยเทียนทะเล 30 เลย แต่ถ้าจะมองเป็นห้างใหญ่ ๆ, คอมมูนิตี้มอลล์ หรือไฮเปอร์มาร์เก็ต จะมีกระจุกตัวอยู่บนเส้นพระราม 2 ไม่ว่าจะเป็น Central Plaza พระราม 2, The Bright พระราม 2, Big C Supercenter, HomePro, Lotus’s หรือจะเป็น Makro มาครบทุกแบรนด์ดังแล้ว
นอกจากนี้ก็ยังมีสถานศึกษาและโรงพยาบาลอยู่ใกล้ ๆ นะคะ จะเป็น รร.ทวีธาภิเศก, รร.สวนกุหลาบวิทยาลัย ธนบุรี, รร.สารสาสน์วิเทศศึกษา, รร.นานาชาติ Royce Royal, KMUTT, รพ.ผู้สูงอายุบางขุนเทียน, รพ.นครธน และ รพ.พระราม 2 เป็นต้นค่ะ
:: สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ ::
ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
**ระยะทางวัดจากการเดินทางสู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด**
:::: การเดินทางสู่โครงการ ::::
เราเก็บภาพการเดินทางไปโครงการ สราญสิริ เทียนทะเล 30 ด้วยรถยนต์ส่วนตัวมาฝากกันค่ะ โดยเราจะเริ่มการเดินทางจาก
ถนนพระราม 2 >ถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล > ซอยเทียนทะเล 30 > สราญสิริ เทียนทะเล 30
เราเริ่มต้นการเดินทางบนถนนพระราม 2 กันนะคะ โดยจุดที่เราเริ่มจะอยู่ตรงช่วง Central Plaza พระราม 2 และ Big C Supercenter พระราม 2
วิ่งบนทางหลักไปเรื่อย ๆ จนเห็นป้ายทางออกทางคู่ขนานบางขุนเทียน-ชายทะเล
พอออกทางคู่ขนานมาแล้วก็ให้ชิดซ้ายเพื่อเลี้ยวเข้าถนนบางขุนเทียน-ชายทะเลค่ะ
จากถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล ให้เราขับตรงไปทางชายทะเล
ตรงไปมีป้ายบอกทางไป รพ.ผู้สูงอายุบางขุนเทียน เราขับตรงไปทางเดียวกัน
จากนั้นเราจะลอดใต้ทางยกระดับวงแหวนกาญจนาภิเษก
สักพักเราจะเห็นป้ายโครงการให้เข้าซอยเทียนทะเล 30 ให้เราชิดขวา
จากนั้นให้เราชิดขวาตรงจุดกลับรถแล้วเลี้ยวขวาเข้าซอยเทียนทะเล 30 ค่ะ
จากถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล เลี้ยวเข้าซอยเทียนทะเลมาประมาณ 260 เมตร ก็จะเห็นที่ตั้งโครงการอยู่ทางฝั่งขวามือ
ตรงเข้าไปภายในซอยเทียนทะเล 30 บริเวณหน้าปากซอยฝั่งซ้ายจะมี 7-11 อยู่ 1 สาขา
ตรงเข้ามาเพียง 260 เมตร เราจะเห็นป้ายทางเข้าโครงการ สราญสิริ เทียนทะเล 30 อยู่ทางฝั่งขวามือแล้วค่า
ป้ายทางเข้าโครงการ สราญสิริ เทียนทะเล 30
:::: สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ::::
จากภาพถ่ายดาวเทียมทำให้เราเห็นพื้นที่โดยรอบโครงการ ส่วนใหญ่จะเป็นผืนที่ดินเปล่า เพราะเป็นทำเลที่ขยับออกมาจากตัวเมือง ใกล้เคียงกันจะมีโรงงานขนาดเล็ก-กลาง แต่จะอยู่ใกล้เฉพาะพื้นที่ทางเข้าโครงการเท่านั้น ส่วนพื้นที่พักอาศัยของโครงการจะอยู่ถัดเข้าไปพ้นจากพื้นที่โรงงานแล้วค่ะ
ภาพบรรยากาศภายในซอยเทียนทะเล 30
จากโครงการเชื่อมต่อกับถนนบางขุนเทียน-ชายทะเลได้ในระยะ 260 เมตร การจราจรไม่หนาแน่น ตรงจุดกลับรถจะเป็นทางเลี้ยวเข้าซอยได้พอดี
ซึ่งบริเวณหน้าปากซอยจะมี 7-11 อยู่ 1 สาขาค่ะ เผื่อขาดตกอะไรก็ออกมาซื้อได้สะดวก
:::: ตัวโครงการ ::::
คราวนี้เราจะพาเข้าไปชมบรรยากาศภายในโครงการกันค่ะ เริ่มจากที่ทางเข้าโครงการจากซอยเทียนทะเล 30 จะเห็นเลยว่าทางโครงการมีการเน้นการออกแบบ Landscape เป็นพิเศษ เพราะเริ่มสร้างบรรยากาศด้วยต้นไม้และไม้ประดับตั้งแต่ที่ทางเข้าแล้ว และยังคงทอดยาวเข้าไปถึง Main Gate ซึ่งทางโครงการวางผังให้พื้นที่ที่ลูกบ้านอยู่อาศัยจริง ๆ อยู่ถัดเข้าไปด้านในเพื่อให้ได้ความเป็นส่วนตัวจากควันและเสียงรถยนต์ภายนอก
ตรงเข้าไปจนถึง Main Gate มีวงเวียนขนาดใหญ่อยู่ด้านหน้า
ขอเล่าให้ฟังก่อนว่า โครงการนี้เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ตั้งอยู่บนพื้นที่ดินขนาด 42 ไร่ ซึ่งในโครงการจะมีบ้านอยู่เพียง 87 หลังเท่านั้น โดยทาง Sansiri ได้แรงบันดาลใจในการออกแบบโครงการนี้มาจาก Charming Village ก็คือหมู่บ้านเล็ก ๆ ในโซนยุโรป ที่ดูน่าอยู่ ดูอบอุ่น และมีความใกล้ชิดกับธรรมชาติ โดยทางโครงการได้สื่อความเป็นหมู่บ้านแบบนี้ออกมาผ่านทางสไตล์ Modern Farmhouse ซึ่งจะมีความโดดเด่นตั้งแต่ทางเข้า-ออกของโครงการ
ภาพที่เราเห็นก็คืออาคารที่มีหลังคาทรงจั่วสูง มีการใส่เส้นโค้งเพิ่มเข้าไปเพื่อให้รับกับพวก Arch ซุ้มประตู-หน้าต่าง และซุ้มทางเข้า ที่ออกแบบมาให้เป็นสะพาน มีการประดับผิวด้วยหินที่ทำเป็นบล็อกสลับไปมาเหมือนการก่ออิฐ
การเข้า-ออกโครงการนี้เอื้ออำนวยให้ความสะดวกสบายกับลูกบ้านด้วยระบบ Easy Pass สามารภขับรถผ่านรั้วอัตโนมัติเข้าไปได้เลย ส่วน Visitor จะมีการตรวจเช็กและบันทึกข้อมูลด้วยระบบ LIV-24 ตามมาตรฐานของ Sansiri พร้อม Digital Fence และกล้อง Monitor เพื่อความปลอดภัยในการเดินเข้า-ออกโครงการเช่นกัน
การวางผังภายในโครงการจะใช้ถนนหลักกว้าง 18 เมตร ตัดเข้าไปจนถึงช่วงวงเวียน แล้วเชื่อมต่อกับถนนซอยกว้าง 9 เมตรตัดผ่านหน้าบ้านทุกหลัง
แต่ก่อนที่จะเข้าไปถึงวงเวียนที่อยู่ด้านในและโซนบ้านพักอาศัย จะยังมีรั้วอัตโนมัติเล็ก ๆ กั้นส่วนเอาไว้ เพื่อแยกโซน Visitor กับ Resident ลูกบ้านก็คือขับรถผ่านเข้าไปได้ตามปกติ ส่วน Visitor จะอยู่ถึงแค่โซนนี้เท่านั้น
โดยอาคารที่เชื่อมต่อกับซุ้มทางเข้าก็คือสำนักงานขาย ภายหลังการขายจะถูกปรับให้กลายเป็นห้องรับรองหรือ Co-Working Space ให้ลูกบ้านได้ใช้นั่งทำงาน พักผ่อนหย่อนใจตากแอร์สบาย ๆ หรือจะใช้รับรองแขกที่มาจากภายนอกโครงการก็ได้ หรือแล้วแต่การตกลงกันระหว่างลูกบ้านภายในโครงการ
บรรยากาศภายในตกแต่งดูอบอุ่น เก๋ ๆ เหมือนไปเที่ยวในคาเฟ่สวย ๆ เลยค่ะ
ผ่าน Gate เข้ามาภายใน Resident Area
ส่วนทางฝั่งซ้ายมือนี้คือซอยบ้านพักอาศัย มีบ้านตัวอย่างให้ชม 4 แบบด้วยกัน
ความกว้างของซอยบ้านคือ 9 เมตรค่ะ เป็นระยะที่รถขับสวนกันได้สบาย ๆ หรือหากต้องมีการจอดรถรอหน้าบ้าน รถก็ยังขับสวนกันได้
ส่วนพื้นที่ทางฝั่งขวามือนี้คือคลับเฮาส์ของโครงการค่ะ สังเกตได้ว่าทางโครงการมีการเน้นพื้นที่สีเขียวมาก ๆ มีการออกแบบให้เป็นเนินเขาเล็ก ๆ และประดับตกแต่งด้วยต้นไม้-ดอกไม้สวย ๆ แล้วยังสร้างบรรยากาศให้ดูน่าอยู่และเป็นธรรมชาติมากขึ้นด้วยทะเลสาบขนาดใหญ่
นอกจากนี้ก็ยังมีพื้นที่สวนพักผ่อนอยู่ที่บริเวณด้านหลังคลับเฮาส์อีก 1 จุด ซึ่งตอนนี้ทางโครงการกำลังเตรียมพื้นที่กันอยูนะคะ ยังไงวันนี้เราจะเข้าไปดูคลับเฮาส์กันก่อนค่ะ
ด้านหน้าของคลับเฮาส์ออกแบบให้เป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือ ออกแบบเป็นทรง Freeform ให้เหมือนกับแหล่งน้ำตามธรรมชาติ
มีโซนสำหรับว่ายน้ำ โซนสระเด็ก มีม้านั่งแช่น้ำภายในสระ
รวมไปถึงจัดพื้นที่สำหรับนั่งพักผ่อนโดยรอบสำหรับชมวิวทะเลสาบ ได้บรรยากาศที่ดีมาก ๆ
ส่วนห้องน้ำและห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าจะแยกห้องชาย-หญิง และมีห้องสำหรับผู้สูงอายุแยกให้ โดยจะอยู่บริเวณด้านข้างของสระว่ายน้ำค่ะ
โซน Shower สำหรับล้างตัวก่อนลงสระ
ภาพบรรยากาศภายในห้องน้ำ ตกแต่งอย่างสวยงาม และยังคงได้กลิ่นอายของความเป็น Farmhouse
มีตู้ล็อกเกอร์สำหรับเก็บของด้านหน้าห้อง
ความใส่ใจของแสนสิริในยุคที่มีการแพร่ระบาดของโรค Covid 19 รวมไปถึงโรคอื่น ๆ ในอนาคต เลยมีการออกแบบให้พวกก๊อกน้ำล้างมือ, ขวดสบู่ หรือแม้กระทั้งถังขยะที่ใช้ภายในห้องน้ำเป็นระบบอัตโนมัติทั้งหมด เพื่อลดการสัมผัสที่ไม่จำเป็นลงค่ะ
ภายในห้องน้ำ
ภายในห้องอาบน้ำ
จากสระว่ายน้ำเข้ามาภายในโซน Indoor จะเป็น Co-Working Space ค่ะ
มีการออกแบบพื้นที่แบบ Open Air Space มีฝ้าเพดานสูงโปร่งและลาดเอียงไปตาม Slope ของหลังคาทรงจั่ว
มีการจัดโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ และชุดโซฟาสำหรับนั่งพักผ่อนได้สบาย ๆ พวกเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ภายในก็เลือกแบบที่ดู Homey และอบอุ่น ตกแต่งด้วยต้นไม้และแจกันดอกไม้อย่างสวยงาม ใครที่กลัวร้อนนะคะ ตรงนี้เขาจะมีพัดลมติดอยู่บนฝ้าเพดานเพื่อช่วยหมุนเวียนอากาศ ช่องเปิดของอาคารก็มีเยอะและมีขนาดใหญ่ทำให้อากาศถ่ายเทได้เต็มที่ เลยมีลมพัดผ่านตลอดเวลาค่ะ
ส่วนพื้นที่บนชั้น 2 ของคลับเฮาส์จะเป็นห้องฟิตเนส เป็นอีกพื้นที่นึงที่มีความโปร่งเพราะได้ฝ้าเพดานสูงตามแนว Slope หลังคา
ภายในมีเครื่องออกกำลังกายทั้ง Cardio Machine, Weight Training Machine และโซน Free Weight จัดเอาไว้ให้ครบทั้ง Treadmill, Elliptical Machine, Stationary Bike, Chest Fly Machine, Leg Curl-Extension Machine, Boxing Bag และชุดดัมเบลแบบคละน้ำหนัก พร้อมม้านั่งราบ
โดยจะมีผนังกระจกขนาดใหญ่รับแสงธรรมชาติทั้ง 2 ฝั่ง ฝั่งนึงมองลงไปจะเห็นพื้นที่ Co-Working Space
ส่วนอีกฝั่งจะได้วิวของ Landscape และทะเลสาบสวย ๆ ทั้งหมดซึ่งเป็น Highlight ของทางโครงการค่ะ
ก่อนจะพาไปชมบ้านตัวอย่างขอพาเดินดูบรรยากาศรอบ ๆ ทะเลสาบอีกสักนิดนะคะ
ขอบเขตของทะเลสาบจะเริ่มมาตั้งแต่พื้นที่ด้านหน้าโครงการจนมาถึงด้านหน้าคลับเฮาส์ โดยรอบทะเลสาบออกแบบให้เป็น Jogging Track ให้เดินเล่นและวิ่งออกกำลังกายได้ เชื่อมต่อกับสะพานสำหรับเดินข้ามทะเลสาบไปยังจุดชมวิวบนซุ้มทางเข้าโครงการได้ด้วย
วิวจากบนสะพานมองไปทางฝั่งด้านหน้าโครงการ
วิวทะเลสาบจากฝั่งหน้าโครงการ สวยมากเลยค่ะ บรรยากาศดีมาก เดินเล่นออกกำลังกายได้เพลินเลย
:::: แบบบ้านของโครงการ ::::
บ้านภายในโครงการเป็นบ้านที่ออกแบบมาเพื่อให้เป็น บ้านเดี่ยวหลังแรกของครอบครัว ที่สามารถอยู่อาศัยได้ถึง 3 Generations บนที่ดิน 100 ตร.ว. ขึ้นไป โดยจะมีให้เลือกทั้งหมด 4 แบบดังนี้
แปลนบ้านชั้น 1
แปลนบ้านชั้น 2
แปลนบ้านชั้น 1
แปลนบ้านชั้น 2
แปลนบ้านชั้น 1
แปลนบ้านชั้น 2
แปลนบ้านชั้น 1
แปลนบ้านชั้น 2
:::: บ้านตัวอย่าง ::::
สำหรับบ้านตัวอย่างที่เราจะพาไปชมกันในวันนี้ เป็นแบบบ้าน Yarrow ขนาด 237 ตร.ม. และแบบบ้าน Margaret ขนาด 264 ตร.ม. ค่ะ
::: แบบบ้าน Yarrow ขนาด 237 ตร.ม. :::
แปลนบ้านชั้น 1 มีโรงจอดรถแยกจากตัวบ้าน จอดรถได้ 3 คันในร่ม มีทางเชื่อมต่อไปยังเฉลียงทางเข้าบ้าน ภายในบ้านส่วนแรกเป็นห้องโถง เชื่อมต่อระหว่างรับแขกและห้องรับประทานอาหารเป็น Connecting Space ขนาดใหญ่ ห้องนอนชั้นล่างอยู่ฝั่งหน้าบ้านติดกับห้องรับแขก โถงบันได, ห้องน้ำ และห้องครัว อยู่ติดกับห้องรับประทานอาหาร เปิดออกไปด้านหลังเป็นลานซักล้างหลังบ้านค่ะ
แปลนบ้านชั้น 2 เป็นส่วนของห้องนอนทั้งหมด 3 ห้อง โดยมีพื้นที่โถงบันไดเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ Master Bedroom จะอยู่ฝั่งหน้าบ้าน มีห้องน้ำให้ในตัว ส่วนห้องนอน 2 และ 3 จะอยู่ฝั่งหลังบ้าน มีห้องน้ำสำหรับแชร์กัน 1 ห้อง
แบบบ้าน Yarrow เป็นบ้านไซซ์กลางของโครงการ แต่มีห้องนอนถึง 4 ห้อง รองรับครอบครัวขนาด 4-5 คนได้ค่ะ สำหรับจุดเด่นของแบบบ้าน Farmhouse ก็คือหลังคาทรงจั่วสูง ซึ่งจะ Relate กับ Space พื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน มีการตกแต่งหน้าตาบ้านด้วยขอบบัว ซุ้มประตู และไฟกิ่ง แต่โดยรวมยังทำให้ดูโมเดิร์นทันสมัย และใช้สีที่ดูเท่ เป็นสีโทนเทาอมฟ้า ตัดกับกรอบหน้าต่างสีเทาเข้มที่ซอยเป็นลูกฟักกระจก
เรื่องนึงที่หลาย ๆ คนน่าจะให้ความสำคัญกัน คือเรื่องของที่ดินของบ้าน เพราะคนส่วนใหญ่ที่ซื้อบ้านเดี่ยวก็อยากได้ที่ดินบ้านมาทำเป็นสวนของตัวเอง ซึ่งโครงการนี้เองก็ได้ให้ที่ดินบ้านมา 100 ตร.ว. เป็นฐานอยู่แล้วค่ะ
เมื่อได้ที่ดินบ้านมาขนาดใหญ่ ทางโครงการเลยออกแบบโรงจอดรถแยกออกมาจากตัวบ้าน เพื่อให้พื้นที่ใช้สอยภายในบ้านมีความกว้างขวางมากขึ้น สามารถจอดรถได้ 3 คันในร่ม
โครงสร้างพื้นใช้คอนกรีตปาดเรียบลงเสาเข็มให้เท่ากับตัวบ้าน มีการออกแบบห้องเก็บของให้เป็นประตูบานเกล็ดสีขาวแบบบานเปิดคู่ 3 คู่ด้วยกัน ใช้เก็บของได้เยอะเลยนะคะ ทั้งพวกอุปกรณ์ทำสวนหรืออุปกรณ์ล้างรถต่าง ๆ ซึ่งข้อดีของห้องเก็บของตรงนี้ไม่ใช่แค่เฉพาะเก็บของอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังช่วยให้พื้นที่สวนที่อยู่ด้านหลังได้ความเป็นส่วนตัวในการพักผ่อนมากยิ่งขึ้นด้วย
จากโรงจอดรถมีชายคาคลุมให้เดินไปยังเฉลียงทางเข้าบ้านได้
พื้นที่เฉลียงทางเข้าบ้านจะถูกเซ็ตเข้าไปด้านใน มีชายคาคลุมกันแดดกันฝน
ที่พื้นปูด้วยกระเบื้องลายหินธรรมชาติสีเทา ส่วนประตูทางเข้าบ้านจะเป็นประตูบานเปิดกรอบอะลูมิเนียมติดลูกฟักกระจกเขียวตัดแสง
เข้ามาภายในบ้านส่วนแรกเป็นพื้นที่โถงที่เชื่อมต่อกับฟังก์ชันหลักภายในบ้าน ทำให้พื้นที่ส่วนนี้เป็นเหมือนกับจุดต้อนรับของบ้าน เราตกแต่งเป็น Built-in ตู้เก็บรองเท้าที่เราใช้บ่อย ๆ และม้านั่งเปลี่ยนรองเท้าแบบนี้ก็ได้ค่ะ
สิ่งแรกที่เห็นก็คือบ้านหลังนี้มีความโปร่งสบายมาก ๆ ด้วยการออกแบบบ้านแบบ Connecting Space โดยการเชื่อมต่อฟังก์ชันหลัก ๆ เข้าด้วยกัน รวมไปถึงมีช่องแสงหรือหน้าต่างขนาดใหญ่โดยรอบบ้าน และด้วยความที่ว่าบ้านหลังนี้ออกแบบมาให้มีหน้าบ้านที่กว้าง จึงทำให้ทำช่องแสงได้มากกว่าปกติอีกด้วย
ซึ่งแน่นอนว่าทางโครงการก็จะมีระบบ Magnetic ติดตั้งมาให้ที่ประตู-หน้าต่างชั้นล่างทุกบาน โดยจะมีแผงควบคุมของ Inim ติดเอาไว้ให้ที่บริเวณหน้าบ้านเลยค่ะ
สำหรับฟังก์ชันส่วนแรกที่อยู่หน้าบ้านจะเป็นห้องนั่งเล่น พื้นที่นี้มีขนาดใหญ่เลยนะคะ การจัดเฟอร์นิเจอร์สามารถทำได้หลากหลายมาก บ้านตัวอย่างวางโซฟารูป L Shape กับโต๊ะกลาง และอาร์มแชร์ ฝั่งตรงข้ามก็ทำเป็นชั้นวางทีวี หรือชั้นวางของโชว์สวย ๆ ได้ กำลังลงตัวกับพื้นที่เลยค่ะ
ทั้งหมดนี้เป็นส่วนตกแต่งนะคะ บ้านมาตรฐานที่ใช้ส่งมอบจะเป็นบ้านเปล่า ที่พื้นจะปูด้วย SPC ลายไม้แบบนี้ เพื่อให้ได้สัมผัสและบรรยากาศที่ Homey ผนังก่อสร้างด้วยระบบ Precast ฉาบเรียบทาสี ฝ้าเพดานเป็นฝ้าฉาบเรียบติดดวงโคมดาวน์ไลต์ให้ทั้งหลัง และมีความสูงประมาณ 2.7 เมตร
ขนาดโซฟาที่วางได้รวมกับอาร์มแชร์ รองรับได้ 4-5 ที่นั่งแล้ว
ไอเดียสำหรับการตกแต่งผนังฝั่งชั้นวางทีวี
จากโถงกลางบ้านเชื่อมต่อกับห้องรับประทานอาหารขนาดใหญ่ แม้ว่าจะเป็นบ้านแบบ Connecting Space แต่ด้วยการออกแบบแปลนเลยยังทำให้รู้สึกว่าพื้นที่ยังถูกแบ่งออกจากกันอย่างเป็นสัดส่วน ส่วนประตูฝั่งซ้ายมือนี้คือห้องนอนชั้นล่าง ซึ่งเราจะพาเข้าไปชมกันทีหลังนะ
ห้องรับประทานอาหารก็มีขนาดใหญ่มากเช่นกัน ดูจากพื้นที่แล้วสามารถวาง Long Table เข้าไปเลยก็ยังได้ แต่บ้านตัวอย่างจัดมาเป็นมุมเคาน์เตอร์บาร์และมุมรับประทานอาหาร 2 มุมค่ะ
ที่จัดมานี้ประมาณ 6 ที่นั่งเพื่อให้พอดีกับจำนวนของสมาชิกในครอบครัวที่จะอยู่ในบ้านหลังนี้
พื้นที่ส่วนนี้จะเป็นจุดที่เชื่อมต่อกับสวนข้างบ้านค่ะ มองผ่านประตูบานเลื่อนออกไปก็ได้วิวสวนพักผ่อนรอบ ๆ บ้านแล้ว นับว่ามีน้อยมากที่จะเห็นพื้นที่สวนขนาดนี้ในบ้านในเขตกรุงเทพฯ
สำหรับมุมเคาน์เตอร์บาร์ถูกจัดให้อยู่หน้าห้องครัว ใช้เป็นมุมนั่งทานอาหารเช้า, จิบชา, ทานของว่าง และเตรียมเครื่องดื่มได้กำลังดี
ก่อนเข้าไปด้านในห้องครัวจะมีโถงอยู่ด้านหน้า ทางฝั่งซ้ายมือนี้คือห้องน้ำชั้นล่าง
ส่วนฝั่งขวาทำเป็น Pantry สำหรับเตรียมอาหารแบบครัวเย็นและวางตู้เย็นได้พอดี
เนื่องจากว่าบ้านหลังนี้มีห้องนอนชั้นล่างอยู่ด้วย ภายในห้องน้ำจึงมีโซน Shower เพื่อให้รองรับกัน ภายในห้องน้ำตกแต่งพื้นและผนังด้วยกระเบื้องเซรามิกโทนสีขาว-ครีม และเพิ่มกระเบื้องที่เหมือนอิฐก่อเข้าไปเพื่อให้ Relate กับสไตล์ Farmhouse มีหน้าต่างบานกระทุ้งเป็นทางระบายอากาศ ส่วนสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำใช้เป็นของแบรนด์ Bathline และ Novabath
มีอ่างล้างมือแบบแขวนผนัง และมีกระจกเงาติดมาให้เต็มผนัง
ด้านข้างมีโถสุขภัณฑ์แบบแยกชิ้นระบบ Dual Flush พร้อมอุปกรณ์ประกอบการใช้งาน ด้านหลังมี Low Wall ก่อมาให้ใช้วางของได้
อีกด้านเป็นโซน Shower มี Hand Shower พร้อมชุดราวปรับระดับ, จานวางสบู่ และก๊อกสนาม ให้แบบนี้ โดยที่ผนังก็เจาะเป็นชั้นวางของ รวมไปถึงมีการเดินระบบสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นให้แล้ว ใครที่อยากให้การใช้งานเป็นสัดส่วนมากขึ้นก็สามารถติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มเข้าไปได้ค่ะ
โดยพื้นที่ที่ออกแบบมาให้ขนาดกำลังยืนอาบน้ำได้สบาย
สำหรับพื้นและผนังของห้องครัวจะกรุด้วยกระเบื้องเพื่อให้สามารถเช็ดล้างพวกคราบอาหารและคราบน้ำมันออกได้ง่าย ลวดลายและสีตามแบบที่เห็นในบ้านตัวอย่างเลยค่ะ พื้นที่ของห้องครัวเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า วางเคาน์เตอร์ได้ทั้ง 2 ฝั่งเลย
โดยทางโครงการจะก่อเคาน์เตอร์ครัวให้มากับตัวบ้านเลย Top เคาน์เตอร์เป็นหินสีดำฝังอ่างล้างจาน ส่วนฝั่งที่เป็นจุดวางเตาแก๊สก็จะทำให้ลดระดับลง พวกหน้าบานที่เห็นนี้ก็ติดมาให้ แต่ตู้ลอยและเครื่องดูดควันด้านบนจะเป็นส่วนตกแต่งของบ้านตัวอย่างนะคะ
อีกฝั่งที่สามารถเพิ่มเคาน์เตอร์เข้าไปได้อีกชุด บ้านตัวอย่างตกแต่งเป็นเคาน์เตอร์ Laundry วางเครื่องซักผ้าและทำตู้เก็บของได้
ส่วนท้ายห้องจะมีประตูบานสีขาวเปิดออกไปที่ลานซักล้างได้ค่ะ
พื้นลานซักล้างทำเป็นคอนกรีตปาดเรียบ และลงเสาเข็ม 6 เหลี่ยมให้ลึก 6 เมตรเพื่อกันทรุด แยกโครงสร้างออกมาจากตัวบ้าน
สังเกตว่ามีประตูบานเกล็ดบานเปิดคู่ติดเอาไว้ ส่วนนี้เป็นพื้นที่เก็บของใต้บันไดค่ะ
สำหรับห้องนอนภายในบ้านหลังนี้จะมีอยู่ทั้งหมด 4 ห้องด้วยกัน มี 1 ห้องเป็นห้องนอนชั้นล่างค่ะ เหมาะสำหรับทำเป็นห้องนอนของผู้สูงอายุเพื่อลดการเดินขึ้น-ลงบันไดแบบไม่จำเป็น
โดยพื้นที่ห้องนี้รองรับเตียงนอนขนาด 5 ฟุตได้พอดี
รวมไปถึงเฟอร์นิเจอร์ชิ้นอื่น ๆ ทั้งตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งก็วางได้ครบลงตัว
ถ้าอยากมีทีวีเพิ่มในห้องด้วย แนะนำให้ใช้เป็นทีวีแบบแขวนผนังนะคะ
ขึ้นไปดูห้องนอนที่เหลืออีก 3 ห้องบนชั้น 2 กันต่อค่ะ สำหรับบันไดทางขึ้นชั้น 2 จะอยู่ด้านข้างห้องครัว โครงการสร้างบันไดเป็น คสล. ปิดผิวด้วยไม้สำเร็จรูป มือจับเป็นราวเหล็กฝังกับผนัง ใช้มือจับเป็นไม้สำเร็จรูปเช่นกัน
โดยส่วนชานพักบันไดจะมี Space น่ารัก ๆ อยู่ด้วย จัดเป็นมุมสำหรับพักผ่อนอีกมุม หรือตั้งของโชว์สวย ๆ ก็เข้าท่า โดยจะมีหน้าต่างให้ทั้ง 2 ฝั่งทำให้ส่วนโถงนี้มีแสงธรรมชาติเข้าถึงได้ดี
และช่องเล็ก ๆ ด้านข้างนี้คือทางระบายอากาศเพื่อรับ Fresh Air เข้าบ้าน
พื้นที่โถงบันไดโปร่ง นอกจากจะมีหน้าต่างตรงชานพักบันไดแล้ว ก็ยังมีหน้าต่างตรงชั้น 2 เพื่อรับแสงธรรมชาติอีกเช่นกัน
พื้นที่บนชั้น 2 ทั้งหมดปูด้วยลามิเนตหนา 8 มม. มีห้องนอนทั้งหมด 3 ห้องด้วยกัน โดยมีพื้นที่อเนกประสงค์อยู่ด้านหน้า Master Bedroom
จัดเป็นมุมพักผ่อน มุมนั่งทำงานได้ตามใจชอบเลยค่ะ จัดแบบนี้ก็ดูน่ารักดีนะ
มาดู Master Bedroom กันก่อนค่ะ ใช้พื้นที่ของฝั่งหน้าบ้านทั้งหมดเลย จุดเด่นของห้องนี้นอกจากว่าจะเป็นห้องที่มีขนาดใหญ่ที่สุดแล้ว ก็จะเป็นเรื่องของฝ้าเพดานที่สูงโปร่งตามแนว Slope หลังคา ได้ Space ที่เป็น Feeling ของ Modern Farmhouse ด้วย จุดที่สูงที่สุดจะสูงราว ๆ 4.5 เมตร
พื้นที่ส่วนแรกของห้องจัดเป็นโซนพักผ่อน วางเตียงนอนขนาด 6 ฟุตได้สบาย ๆ และชั้นวางทีวีได้แบบนี้ ก็ยังเหลือพื้นที่ที่เราเดินผ่านไปผ่านมาได้สะดวก
จากส่วนพักผ่อนมีประตูบานเลื่อนเปิดออกไปที่ระเบียงพักผ่อนหน้าบ้านได้ พื้นที่ระเบียงมีขนาดใหญ่มากเลยนะ จัดเป็นมุมนั่งเล่นอีกมุมได้สบาย ๆ
ภาพบรรยากาศภายในห้องอีก 1 มุม
สังเกตที่บริเวณหน้าต่างส่วนนี้จะมีการเซ็ตพื้นที่ตรงหน้าต่างออกไป ให้เราวาง Day Bed หรือโซฟาพักผ่อนเข้าไปได้ เพิ่มเป็นอีก 1 มุมพักผ่อนของห้อง
ติดกันเป็นโซนแต่งตัววางตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่และโต๊ะเครื่องแป้งได้ ตำแหน่งจะอยู่ด้านหน้าห้องน้ำในตัวค่ะ
สำหรับห้องน้ำจะมีการตกแต่งและใช้สุขภัณฑ์เหมือนกับห้องน้ำชั้นล่างเลยค่ะ แต่ว่าจะมีการอัปเกรดโถสุขภัณฑ์ให้เป็นรุ่นอัตโนมัติ
โดยจะมีแผงควบคุมการใช้งานติดตั้งเอาไว้ให้ที่ฝารองนั่งแบบนี้
อีกฝั่งมีโซน Shower ให้แบบเดียวกัน
เข้ามาดูห้องนอน 2 กันต่อค่ะ โดยพื้นที่ห้องเรายังสามารถวางเตียงขนาด 3 ฟุตและเฟอร์นิเจอร์หลักได้อยู่นะ แต่บ้านตัวอย่างจัดให้เป็นห้องสำหรับเลี้ยงเด็ก
ไอเดียการจัดห้องดูน่ารักสดใส และยังคงคุมธีมของความเป็น Farmhouse
พื้นที่ห้องนอน 3 จะสามารถวางเฟอร์นิเจอร์ได้ค่อนข้างใกล้เคียงกับห้องนอน 2 ส่วนบ้านตัวอย่างจัดเป็นห้องทำงานสำหรับ Fashion Designer ค่ะ
ระหว่างห้องนอน 2 และ 3 จะมีห้องน้ำสำหรับใช้ร่วมกันอยู่ตรงกลาง การวางแปลนห้องน้ำไล่จากส่วนแห้งเข้าไปยังส่วนเปียก มีการตกแต่งและใช้สุขภัณฑ์ไม่ต่างไปจากห้องอื่น ๆ
ส่วนสวิตช์และปลั๊กไฟภายในบ้านจะใช้ของ Haco ทั้งหมดค่ะ
::: แบบบ้าน Margaret ขนาด 264 ตร.ม. :::
แปลนบ้านชั้น 1 มีโรงจอดรถแยกจากตัวบ้าน จอดรถได้ 3 คันในร่ม มีทางเชื่อมต่อไปยังเฉลียงทางเข้าบ้าน ภายในบ้านส่วนแรกเป็นห้องโถง เชื่อมต่อระหว่างรับแขกและห้องรับประทานอาหารเป็น Connecting Space ขนาดใหญ่ ห้องนอนชั้นล่างและห้องน้ำชั้นล่างอยู่ฝั่งหน้าบ้านติดกับห้องรับแขก โถงบันได และห้องครัว อยู่ติดกับห้องรับประทานอาหาร เปิดออกไปด้านหลังเป็นลานซักล้างหลังบ้านค่ะ
แปลนบ้านชั้น 2 เป็นส่วนของห้องนอนทั้งหมด 3 ห้อง โดยมีพื้นที่โถงบันไดเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ Master Bedroom จะอยู่ฝั่งหน้าบ้าน ส่วนห้องนอน 2 และ 3 จะอยู่ฝั่งหลังบ้าน โดยห้องนอนทุกห้องบนชั้น 2 จะมีห้องน้ำในตัวให้ทั้งหมด
สำหรับแบบบ้าน Margaret หน้าตาของบ้านจะดูแกรนด์มากขึ้น อย่างที่บอกว่าแปลงที่ดินของโครงการจะเริ่มต้นที่ 100 ตร.ว. แต่ถ้าเป็นบ้านไซซ์ใหญ่ ทางโครงการจะลงเป็นบ้านแปลงมุมให้ ทำให้ได้ที่ดินขนาดใหญ่มากยิ่งขึ้น
โรงจอดรถถูกแยกออกมาจากตัวบ้าน สามารถจอดรถได้ 3 คันในร่ม แต่บางหลังที่ได้แปลงที่ดินขนาดใหญ่ ก็จอดรถซ้อนคันเพิ่มได้เป็น 6 คันเลย ส่วนด้านหลังโรงจอดรถก็ออกแบบมาให้เป็นตู้เก็บของค่ะ
เฉลียงทางเข้ามีการออกแบบเป็นซุ้มยื่นออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน
ส่วนประตูทางเข้าบ้านของหลังนี้จะใช้เป็นบานเปิดคู่ค่ะ
เข้ามาภายในบ้านส่วนแรกเป็นพื้นที่โถงที่เชื่อมต่อกับฟังก์ชันหลักภายในบ้าน ทำให้พื้นที่ส่วนนี้เป็นจุดต้อนรับของบ้าน โดยบ้านตัวอย่างตกแต่งให้เป็นโต๊ะคอนโซลสำหรับวางของตกแต่งและ Art Object สร้างความประทับใจเวลากลับบ้าน
การออกแบบแปลนบ้าน Margaret ส่วนหลัก ๆ จะไม่ต่างไปจากแปลนบ้าน Yarrow คือมีการออกแบบบ้านให้เป็น Connecting Space ขนาดใหญ่เหมือนกัน แต่โดยพื้นที่ใช้สอยนั้นมีขนาดที่ใหญ่กว่าพอสมควร
สำหรับฟังก์ชันส่วนแรกที่อยู่หน้าบ้านจะเป็นห้องนั่งเล่น พื้นที่นี้มีขนาดใหญ่เลยนะคะ การจัดเฟอร์นิเจอร์สามารถทำได้หลากหลายมาก จะจัดให้อยู่ตรง Center เพื่อให้เหลือเป็นทางเดินรอบห้องก็ได้ วันไหนที่เราต้องการรับลมธรรมชาติ อยากให้บ้านระบายอากาศได้ดี ก็จะได้เดินเปิดหน้าต่างรอบห้องได้สะดวก
บ้านตัวอย่างวางโซฟารูป L Shape กับโต๊ะกลาง, สตูล, อาร์มแชร์ ด้านหลังก็ยังมีคอนโซลอีก 1 ตัวใช้วางของ จัดมาเยอะขนาดนี้ก็ยังได้พื้นที่แบบโปร่ง ๆ สบาย ๆ
ฝั่งตรงข้ามก็ทำเป็นชั้นวางทีวี หรือชั้นวางของโชว์สวย ๆ ได้ ทั้งหมดนี้เป็นส่วนตกแต่ง บ้านมาตรฐานที่ใช้ส่งมอบจะเป็นบ้านเปล่า ที่พื้นจะปูด้วย SPC ลายไม้ ผนังก่อสร้างด้วยระบบ Precast ฉาบเรียบทาสี ฝ้าเพดานเป็นฝ้าฉาบเรียบติดดวงโคมดาวน์ไลต์ให้ทั้งหลัง และมีความสูงประมาณ 2.7 เมตร
จากห้องนั่งเล่นจะเชื่อมต่อกับห้องรับประทานอาหารแบบเปิดโล่ง แต่ด้วยการออกแบบแปลนเลยยังทำให้รู้สึกว่าพื้นที่นั้นถูกแบ่งออกจากกันได้เป็นสัดส่วน ซึ่งการที่บ้านตัวอย่างได้เพิ่ม Built-in ชั้นวางของเข้าไปตามกรอบของบ้านที่ส่วนนี้ ทำให้ขอบเขตของฟังก์ชันชัดเจนมากขึ้น
ห้องรับประทานอาหารก็มีขนาดใหญ่มากเช่นกัน แน่นอนว่าบ้านหลังนี้ก็ต้องวาง Long Table ได้ แต่ที่จัดมานี้ก็ประมาณ 6 ที่นั่งเพื่อให้พอดีกับจำนวนของสมาชิกในครอบครัว
ตัวอย่างการตกแต่งพื้นที่สวนข้างบ้าน
อีกฝั่งของห้องรับประทานอาหารจะเชื่อมต่อกับพื้นที่ห้องครัว ด้านหน้าห้องจะมีหน้าต่างบานใหญ่ทำให้พื้นที่ของห้องยังดูเชื่อมต่อกัน แล้วก็ทำให้ห้องครัวดูโปร่งขึ้นด้วย บ้านตัวอย่างก็เพิ่มเคาน์เตอร์บาร์เข้าไปสำหรับนั่งทานอาหารเช้า ทานกาแฟ หรือทานของว่างง่าย ๆ เวลาคุณแม่กำลังทำอาหารอยู่ในห้องครัว ก็ยังสามารถมองออกมาเห็นคุณพ่อและลูก ๆ ที่นั่งอยู่ข้างนอกได้
โดยห้องครัวของบ้านจะเป็นครัวไทย พื้นที่ห้องได้มาขนาดใหญ่ใช้ทำอาหารได้สะดวกมาก อย่างที่พื้นและผนังก็จะปูกระเบื้องให้เพื่อให้เช็ดล้างทำความสะอาดได้ง่าย
เคาน์เตอร์ครัวก่อที่อยู่ทางฝั่งนี้ก็จะเป็นชุดที่ทางโครงการให้มากับตัวบ้าน แต่ตู้ลอยด้านบนจะเป็นส่วนตกแต่งของบ้านตัวอย่างค่ะ
ฝั่งตรงข้ามก็ยังเหลือพื้นที่ใช้สอยอีกพอสมควร นอกจากจะวางตู้เย็นไซซ์ใหญ่ได้แล้ว เรายังทำเป็น Pantry และเคาน์เตอร์ Laundry วางเครื่องซักผ้าและทำตู้เก็บของได้อีก
ส่วนด้านหน้าประตูที่จะออกไปลานซักล้างหลังบ้านจะมีห้องเก็บใต้บันได ที่ทำเป็นบานเปิดคู่แบบนี้ก็เพื่อให้เราสามารถเก็บของชิ้นใหญ่ ๆ ได้ค่ะ
สำหรับห้องนอนของบ้านหลังนี้จะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 4 ห้อง โดยจะมีห้องนึงที่อยู่ชั้นล่าง จะอยู่ข้าง ๆ กับห้องนั่งเล่น เลยออกแบบห้องน้ำสำหรับรับแขกให้อยู่ในตำแหน่งที่ใกล้กันและมีโซน Shower ให้ด้านในเพื่อรองรับการใช้งานของห้องนอน
ภาพบรรยากาศภายในห้องน้ำชั้นล่าง
ห้องนอนชั้นล่างจะเหมาะสำหรับทำเป็นห้องนอนของผู้สูงอายุ แล้วก็ยังสามารถใช้เป็นห้องอเนกประสงค์ได้ด้วย ที่บ้านตัวอย่างจัดมาให้ดูจะเป็นห้องนั่งเล่นอีกห้องที่มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น วางพวกโซฟาตัวใหญ่หรือเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ ๆ ได้เลยเพราะด้วยพื้นที่ของห้องแล้ว รอบรับเตียงนอนขนาด 5 ฟุต พร้อมตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้งได้ลงตัวค่ะ
ไอเดียการจัดห้องนั่งเล่นอีกห้อง อีกอย่างคือทำเป็น Home Theatre หรือห้องทำงานก็ได้เหมือนกันนะ
เราขึ้นไปดูห้องนอนบนชั้น 2 กันต่อค่ะ
บ้านหลังนี้ก็มีพื้นที่บริเวณชานพักบันไดเหมือนกัน ตกแต่งเป็นมุมนั่งเล่นให้ดูเป็นไอเดีย
และบนชั้น 2 ยังมีพื้นที่อเนกประสงค์ตรงโถงบันได จัดเป็นมุมสำหรับนั่งทำงานค่ะ
Master Bedroom ของบ้านหลังนี้จะเป็นห้องที่ได้ฝ้าเพดานสูงแบบลาดเอียงไปตาม Slope ของหลังคาเช่นกัน แต่บ้านตัวอย่างได้ติดตั้งแอร์แบบฝังฝ้าเข้าไป เราเลยไม่เห็นเป็น Slope หลังคานะคะ
พื้นที่ส่วนแรกของห้องจัดเป็นโซนพักผ่อน วางเตียงนอนขนาด 6 ฟุตได้สบาย ๆ ยังเพิ่มโต๊ะข้างได้ 2 ฝั่ง
รวมไปถึงม้านั่งปลายเตียง และชั้นวางทีวีได้แบบนี้ ก็ยังเหลือพื้นที่ที่เราเดินผ่านไปผ่านมาหรือนั่งพักผ่อนดูทีวีได้สะดวก
สังเกตที่บริเวณหน้าต่างส่วนนี้จะมีการเซ็ตพื้นที่ตรงหน้าต่างออกไป ให้เราวาง Day Bed หรือโซฟาพักผ่อนตัวใหญ่ ๆ เข้าไปได้ เพิ่มเป็นอีก 1 มุมพักผ่อนของห้อง
อีกจุดนึงที่น่าสนใจก็คือบริเวณ Bay Window พร้อมหน้าต่างบานใหญ่ กลายเป็น Enclosed Balcony การออกแบบพื้นที่แบบนี้ทำให้เราสามารถใช้พื้นที่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ วันไหนที่เราอยากได้บรรยากาศแบบนั่งตรงระเบียงหน้าบ้านเพื่อรับลมธรรมชาติ เราก็แค่เปิดบานเลื่อนทั้งหมดออก จะมีราวกันตกติดเอาไว้ให้ที่ฝั่งด้านนอก แต่ตอนที่ฝนตก หรือตอนที่เราต้องการเปิดแอร์ ก็แค่ปิดบานเลื่อนเท่านั้น ทำให้พื้นที่ส่วนนี้ไม่เละเทะหรือเปียกน้ำเหมือนระเบียงภายนอก เฟอร์นิเจอร์ที่เลือกใช้ก็สามารถเลือกได้ตามใจชอบไม่ต้องกลัวฝน จะทำเป็นมุมพักผ่อนส่วนตัวสวย ๆ มุมนั่งทำงาน มุมออกกำลังกายเล่นโยคะ หรือจะใช้เป็นพื้นที่สำหรับเลี้ยงเด็กอ่อนชั่วคราวก็ได้ค่ะ
อีกฝั่งของห้องจะเป็น Walk-in Closet ที่เชื่อมต่อกับห้องน้ำส่วนตัว
โดยพื้นที่ก็สามารถทำตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่พร้อมโต๊ะเครื่องแป้งได้ ถ้าใครที่อยากให้ห้องเป็นสัดส่วนมากยิ่งขึ้นจะติดประตูเพื่อกั้นส่วนจากส่วนพักผ่อนก็ได้ค่ะ
สำหรับห้องน้ำของ Master Bedroom ก็จะมีการอัปเกรดโถสุขภัณฑ์ให้เป็นรุ่นอัตโนมัติเช่นกัน
มาดูห้องนอน 2 และห้องนอน 3 ที่อยู่ฝั่งหลังบ้านกันต่อค่ะ สำหรับห้องนอน 2 ของบ้านหลังนี้ก็ถือว่ามีพื้นที่ขนาดใหญ่ เทียบเท่า Master Bedroom ของบางโครงการได้เลย
ด้วยพื้นที่ห้องเราวางเตียง 5-6 ฟุตได้ลงตัว
พื้นที่ติดหน้าต่างก็เพิ่มพวกโต๊ะทำงานและตู้ลิ้นชักเก็บของเข้าไปได้
พื้นที่ด้านหน้าห้องน้ำวางตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้
ส่วนด้านในห้องน้ำจะมีการแบ่งโซนแห้ง-โซนเปียกให้เรียบร้อย และมีการตกแต่งเหมือนเดิมค่ะ
ห้องนอน 3 จะมีพื้นที่เล็กลงมาจากห้องนอน 2 เล็กน้อย แต่ก็ยังวางเตียงไซซ์ใหญ่ได้นะคะ แต่บ้านตัวอย่างจัดให้เป็นห้องนอนของเด็กเล็กให้ดูเป็นไอเดีย
ทำเป็นเตียง 2 ชั้นขนาด 3 ฟุต ชั้นล่างทำเป็นมุมนั่งเล่น
อีกฝั่งจัดเป็นโต๊ะทำการบ้าน ทำให้เหลือ Playspace ตรงกลางห้อง
ส่วนตู้เสื้อผ้าก็ยังสามารถวางไซซ์ใหญ่ได้โดยจะวางไว้อยู่บริเวณด้านหน้าห้องน้ำเหมือนเดิมค่ะ
ภาพบรรยากาศภายในห้องน้ำ
:::: ราคา (สิงหาคม 2565) ::::
***ข้อมูลราคา และโปรโมชันอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
:::: สรุป ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ สราญสิริ เทียนทะเล 30 ตั้งอยู่ภายในซอยเทียนทะเล 30 ตามชื่อของโครงการเลยค่ะ โดยโครงการจะยังอยู่ในเขตพื้นที่ของกรุงเทพฯ ที่ออกไปโซนชานเมืองหน่อย ทำให้ได้พื้นที่ดินของบ้านขนาด 100 ตร.ว. ขึ้นไป ในราคาที่เบาลงมาจากโครงการที่เกาะติดเส้นพระราม 2 อยู่มาก แต่ก็ยังเป็นทำเลที่อยู่อาศัยได้ง่าย เพราะมีสิ่งอำนวยความสะดวกบนเส้นพระราม 2 อยู่ค่อนข้างเยอะ และถ้ามองในแง่ของการพักผ่อนอยู่อาศัยก็นับว่าดี เพราะพื้นที่ที่ติดกับโครงการจริง ๆ ส่วนใหญ่จะเป็นที่ดินเปล่า และอยู่ในเขตผังเมืองที่มีความหนาแน่นต่ำ ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวสูงค่ะ
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว เดินทางได้สะดวกเพราะจากโครงการสามารถเชื่อมต่อถนนพระราม 2 ได้ง่าย ซึ่งเป็นถนนสายหลักของย่านนี้ จะเข้า-ออกเมืองก็ต้องวิ่งเส้นนี้เลยค่ะ โดยฝั่งหนึ่งของถนนพระราม 2 จะเชื่อมต่อกับทางด่วนเฉลิมมหานคร ทำให้เข้าสู่ตัวเมืองชั้นในได้สะดวก แล้วก็ยังเป็นจุดที่ไปขึ้นวงแหวนกาญจนาภิเษกได้สะดวก จึงเดินทางไปยังโซนต่าง ๆ ของกรุงเทพฯ และปริมณฑลได้ไม่ยากด้วยค่ะ
การเดินทางโดยรถสาธารณะ ส่วนตัวคิดว่าไม่ใช่ประเด็นหลักที่มีผลต่อการตัดสินใจในการเลือกซื้อบ้านในทำเลนี้ เพราะส่วนมากคนที่เลือกอยู่อาศัยในโซนนี้จะขับรถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก แต่ทางเลือกในการเดินทางก็มีนะคะ เรียกแท็กซี่ได้ หรือออกไปบนเส้นพระราม 2 ที่หน้า Central Plaza พระราม 2 จะมีคิวรถตู้ให้ใช้บริการได้ค่ะ
การออกแบบโครงการ และวัสดุ ความโดดเด่นของโครงการนี้คือการออกแบบที่มีเอกลักษณ์ที่ชัดเจน มีการออกแบบโครงการมาได้อย่างสวยงามและน่าอยู่มาก ๆ ทั้งในส่วนของ Landscape, Waterscape และพื้นที่ส่วนกลาง บรรยากาศก็ดูอบอุ่น ด้วยสไตล์บ้านและอาคารแบบ Modern Farmhouse
ซึ่งบ้านที่ออกแบบมาให้จะได้ฟังก์ชันที่มี Space ขนาดใหญ่ โปร่งโล่ง เชื่อมต่อกัน จัดวางเฟอร์นิเจอร์และใช้งานได้สะดวก เพราะเป็นแบบบ้านที่มีหน้ากว้าง มีห้องนอนถึง 4 ห้องรองรับครอบครัวได้ถึง 3 Generations แถมยังได้พื้นที่สวนในบ้านขนาดใหญ่ และได้โรงจอดรถแยกจากตัวบ้านที่จอดรถได้ถึง 3 คัน เพราะที่ดินบ้านเริ่มต้นที่ 100 ตร.ว. ไปแล้ว
สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัย มีครบครันทุกอย่างตามมาตรฐานของทางแสนสิริ แต่จะโดดเด่นกว่าโครงการอื่น ๆ ในแง่ของการออกแบบ อย่างสระว่ายน้ำมีการออกแบบมาในทรง Free Form เพื่อให้กลมกลืนไปกับธรรมชาติ, Co-Working Space ขนาดใหญ่ ที่ออกแบบให้มีลมพัดผ่านได้ตลอดเวลา รวมไปถึงห้องออกกำลังกายที่ได้วิวทะเลสาบพร้อม Jogging Track โดยรอบ ที่ยังไม่เห็นก็คือสวนพักผ่อนที่ยังไม่ได้สร้าง แต่ดูจาก Landscape โดยรวมแล้วเชื่อว่าทำได้สวยน่าใช้งานแน่นอน ส่วนระบบรักษาความปลอดภัย LIV-24 ก็น่าจะทำให้ลูกบ้านคลายความกังวล ฝากบ้านไว้กับโครงการได้อย่างสบายใจค่ะ
:::: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ::::
CALL CENTER : 1685
WEBSITE : https://www.sansiri.com
หากเพื่อน ๆ เห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
EP.2485 รีวิว อิคอนเนเจอร์ วงแหวน-ลำลูกกา / Iconature Wongwaen-Lamlukka บ้านดีไซน์ใหม่ สไตล์ Modern English กับฟังก์ชันบ้านที่เข้าใจชีวิต เชื่อมต่อทำเลเมือง ใกล้ทางด่วน 2 สาย เริ่ม 4.99-8 ล้าน* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่ะ เพื่อน ๆ Homenayoo ทุกคน วันนี้เราจะพาไปชมโครงการ
EP.2484 รีวิว เฌอ วิภาวดีรังสิต CHER Vibhavadi Rangsit ทาวน์โฮมติดถนนใหญ่ ใกล้ Future Park รังสิต เพียง 5 นาที* ถึงทางด่วน และรถไฟฟ้าสายสีแดง เริ่ม 2.39 ล้านบาท* Written by : Nan Kanyaratthp สวัสดีเพื่อน ๆ Homenayoo ทุกคนค่ะ วันนี้เราจะพาไปชมโครงการ
EP.2483 รีวิว เดอะแพลนท์ ซิตี้ บางนา-วงแหวน The Plant Citi Bangna-Wongwaen โฮมออฟฟิศ 3.5 ชั้น หนึ่งเดียวใจกลาง พฤกษา อเวนิว บางนา รายล้อมด้วยบ้านพักอาศัยกว่า 1,400 ครัวเรือน รองรับกับธุรกิจส่วนตัวหลากหลาย เริ่ม 8-12 ล้านบาท* Written by : THAnATH สวัสดีผู้อ่านชาว Homenayoo ทุกคน
EP.2482 รีวิว ศิวิไล รังสิต-คลอง 3 CIVILAI Rangsit-Klong 3 บ้านเดี่ยวสไตล์ Boutique Modern Minimal ใกล้ทางด่วน และ Future Park รังสิต ราคาเริ่ม 7.59 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่ะ วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ CIVILAI รังสิต-คลอง
EP.2481 รีวิว ธนาฮาบิแทต นครอินทร์-พระราม 5 / Thana Habitat Nakorn In-Rama 5 บ้านเดี่ยวและบ้านแฝด ใจกลางพระราม 5 ใกล้ทางด่วน และรถไฟฟ้า เริ่ม 6.59 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่ะ วันนี้ Homenayoo ขอพาไปชมโครงการ ‘Thana Habitat
EP.2480 รีวิว แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด ณ อุทยาน / Grand Bangkok Boulevard Na Utthayan บ้านเดี่ยวหรูซีรีส์ใหม่ ‘Mediterranean Refinement Series’ บนที่ดินเริ่ม 110 ตร.ว. ขึ้นไป เอกสิทธิ์เพียง 47 ครอบครัว พร้อมสนามเทนนิส & สนามบาสเก็ตบอลแบบ Full Court เริ่ม
EP.2479 รีวิว ธนาพาร์ค พรีเว่ 2 นครอินทร์-ปิ่นเกล้า Thana Park Prive 2 Nakhon In-Pinklao Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo จะพาไปชมโครงการ Thana Park Prive 2 นครอินทร์-ปิ่นเกล้า บ้านโครงการใหม่ จาก ธนาสิริ ในซอยบางไผ่ ถนนโยธาธิการ นนทบุรี 2001 ต.บางสีทอง
EP.2478 รีวิว ศุภาลัย วิลล์ วงแหวน-ลาดหลุมแก้ว Supalai Ville Outer Ring-Lat Lum Kaeo บ้านเดี่ยว และ บ้านแฝด สไตล์ Tropical Modern ส่วนกลางครบ บนทำเลปทุมธานี ใกล้วงแหวนกาญจนาฯ เริ่ม 3.39 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo
EP.2477 รีวิว แกรนดิโอ เกษตร-นวมินทร์ Grandio Kaset-Nawamin บ้านเดี่ยวสุดหรู สไตล์ฝรั่งเศส ทำเลใจกลางเมืองเกษตร-นวมินทร์ ใกล้ทางด่วนฉลองรัช ราคา 15-25 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมบ้านเดี่ยวหรูสไตล์ฝรั่งเศส กับโครงการ Grandio เกษตร-นวมินทร์ จาก Frasers Property โครงการตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพเกษตร-นวมินทร์ ในซอยประเสริฐมนูกิจ 48 แขวงคลองกุ่ม
EP.2476 รีวิว บางกอก บูเลอวาร์ด ซิกเนเจอร์ บางแค Bangkok Boulevard Signature Bangkhae บ้านเดี่ยวหรูหลังใหญ่สไตล์ Modern Colonnade พร้อมส่วนกลางครบครัน ใกล้สาทรและ MRT หลักสอง เริ่ม 23-35 ล้านบาท* Written by : THAnATH สวัสดีผู้อ่านชาว Homenayoo ทุกคน วันนี้ผมพามาชมโครงการ Bangkok Boulevard
แสดงความคิดเห็น