EP.1451 รีวิว ทาวน์โฮม โกลเด้น ทาวน์ งามวงศ์วาน-แคราย ราคาเริ่มต้น 2.92 ล้านบาท

EP.1451 รีวิว ทาวน์โฮม โกลเด้น ทาวน์ งามวงศ์วาน-แคราย Golden Town Ngamwongwan-Khae Rai

Written by : Chaya Kaewcheychit

สวัสดีผู้อ่านชาว Homenayoo ทุกท่านครับ วันนี้เราจะขอนำทุกท่านไปรีวิวกันที่โครงการ Golden Town งามวงศ์วาน-แคราย ของทาง Goldenland กันครับผม ตัวโครงการตั้งอยู่ภายในซอยนนทบุรี 39 หรือเข้าทางติวานนท์ 45 ก็ได้ ใกล้ถนนใหญ่ และทางด่วน ทั้งยังอยู่ไม่ไกลจากแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีม่วง และสายสีชมพูในอนาคต รายล้อมด้วยแหล่งอำนวยความสะดวกมากมายเช่น เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน, บิ๊กซี, โลตัส, เอสพลานาด และเซ็นทรัลพลาซา แจ้งวัฒนะ

โกลเด้น ทาวน์ งามวงศ์วาน-แคราย เป็นโครงการทาวน์โฮม 2 ชั้น บนที่ดินขนาด 29.3-76.6 ไร่ บ้านพักอาศัย 321 ยูนิต ขนาดที่ดินเริ่มต้น 16.2 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 96-117 ตร.ม. 3-4 ห้องนอน, 2-3 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 1-2 คัน โครงการออกแบบสไตล์ยุโรป เน้นคุณภาพวัสดุที่เทียบเท่าบ้านเดี่ยว และฟังก์ชั่นที่ครบครัน อันเป็นจุดเด่นของทางโกลเด้นแลนด์มาโดยตลอด ปัจจุบันพร้อมเข้าอยู่อาศัยแล้วบางส่วน

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการครบครัน โดดเด่นด้วยคลับเฮ้าส์หรูหราท่ามกลางบรรยากาศสวนสวยสไตล์อังกฤษ มีให้ครบครันทั้งฟิตเนส, สระว่ายน้ำ, สนามเด็กเล่น และสวนสาธารณะ พร้อมด้วยระบบรักษาความปลอดภัยตามมาตรฐานสมัยใหม่ เข้าออกโครงการด้วยระบบ Easy Pass พร้อมเจ้าหน้าที่รปภ. และ CCTV 24 ชม. ในราคาเริ่มต้น 2.92 ล้านบาท

ส่วนรายละเอียดต่างๆ นั้นทางผมได้ลงไว้ที่ด้านล่างของรีวิวฉบับนี้แล้ว ตามไปอ่านกันได้เลยครับ 🙂

---

---

ชื่อโครงการ	โกลเด้นทาวน์ งามวงศ์วาน-แคราย / Golden Town Ngamwongwan-Khae Rai
เจ้าของโครงการ	โกลเด้นแลนด์ / Goldenland
ลักษณะโครงการ	ทาวน์โฮม 2 ชั้น / แบบบ้าน 3 แบบ
พื้นที่โครงการ	29.3-76.6 ไร่
จำนวนบ้าน	321 ยูนิต
เนื้อที่บ้าน	เริ่มต้น 16.2 ตร.ว.
พื้นที่ใช้สอย	เริ่มต้น 96-117 ตร.ม.
จำนวนห้อง	3-4 ห้องนอน, 2-3 ห้องน้ำ
ที่จอดรถทั้งหมด	1-2 คัน
โซน	งามวงศ์วาน, แคราย, สนามบินน้ำ, ติวานนท์
รถโดยสารที่ผ่าน	รถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีแยกนนทบุรี 1 รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีสามัคคี
ที่ตั้ง	ซอยติวานนท์ 45-ซอยนนทบุรี 39 ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี
กำหนดการ	เปิดขาย ไตรมาส 1/2562
ปีที่สร้างเสร็จ	ปัจจุบันสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่แล้วบางส่วน
ราคา	เริ่มต้น 2.92 ล้านบาท (มิ.ย. 62)
ค่าส่วนกลาง	45 บาท/ตร.ว./เดือน
สถานที่สำคัญใกล้เคียง	ตลาดและห้างสรรพสินค้า ตลาดนกฮูก : 4.3 กม. Central รัตนาธิเบศร์ : 4.1 กม. Big C รัตนาธิเบศร์ : 6.4 กม. เอสพลานาด แคราย : 5.1 กม. Tesco Lotus รัตนาธิเบศร์ : 5.1 กม. พันทิพย์ งามวงศ์วาน : 6.5 กม. The Mall งามวงศ์วาน : 7.3 กม. Big C แจ้งวัฒนะ : 10.1 กม. Central แจ้งวัฒนะ : 10.0 กม. Makro แจ้งวัฒนะ : 9.6 กม. Tesco Lotus แจ้งวัฒนะ : 9.4 กม. Big C แจ้งวัฒนะ : 10.1 กม. IT Square : 12.6 กม. The Crystal PTT ชัยพฤกษ์ : 7.7 กม. สถานศึกษา รร.เบญจมราชานุสรณ์ : 4.8 กม. รร.นานาชาติกรุงเทพ (ISB) : 6.4 กม. ม.ธุรกิจบัณฑิตย์ : 9.2 กม. ม.สุโขทัย : 8.1 กม. รร.เซนต์ฟรังซิสเซเวีย : 11.2 กม. ม.เกษตรศาสตร์ : 10.4 กม. สถานพยาบาล รพ.พระนั่งเกล้า : 7.2 กม. รพ.เวิลด์เมดิคอล : 7.3 กม. รพ.โรคทรวงอก : 4.5 กม. รพ.นนทเวช : 7.3 กม. อื่นๆ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล : 1.4 กม. สำนักงานเทศบาลเมืองนนทบุรี : 4.9 กม. กระทรวงพาณิชย์ : 3.2 กม. กระทรวงสาธารณสุข : 6.8 กม. ท่าน้ำนนท์ : 7.5 กม. อุทยานเฉลิมกาญจนาภิเษก : 8.9 กม. เมืองทองธานี / IMPACT : 9.9 กม. ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ : 11.8 กม. วัดพระศรีมหาธาตุวรวิหาร : 15.5 กม. สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ : 12.9 กม. สนามบินดอนเมือง : 17.9 กม.
สิ่งอำนวยความสะดวก	คลับเฮ้าส์ สระว่ายน้ำ ฟิตเนส สวนสาธารณะ กล้องวงจรปิด รปภ. 24 ชม.
จุดเด่นของโครงการ	โกลเด้น ทาวน์ งามวงศ์วาน-แคราย ทาวน์โฮม โครงการใหม่ใจกลางเมือง ย่านงามวงศ์วาน ใกล้เดอะมอลล์ + รถไฟฟ้า 4 ห้องนอน 2 ที่จอดรถส่วนตัว พร้อมสโมสร และ สวนสาธารณะ

---

---

---

---

---

---

::: ที่ตั้งโครงการ :::

ซอยติวานนท์ 45-ซอยนนทบุรี 39 ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี

พิกัด : 13.889708, 100.502156

ทำเลที่ตั้ง โครงการ Golden Town งามวงศ์วาน-แคราย ตั้งอยู่ในทำเลใจกลางเมืองนนทบุรี ใกล้แยกแครายและแยกปากเกร็ด เชื่อมต่อถนนสายสำคัญได้หลายเส้นทาง โดยสามารถเข้าออกได้สองทางทั้งจากซอยนนทบุรี 39 และ ติวานนท์ 45 ทำเลดังกล่าวมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยความที่เป็นทำเลใกล้หน่วยงานราชการที่สำคัญของเมืองนนทบุรีหลายแห่ง ทั้งกระทรวงพาณิชย์, กระทรวงสาธารณสุข, กองสลากกินแบ่งรัฐบาล, ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ และศูนย์ราชการนนทบุรี จึงไม่แปลกที่ทำเลแห่งนี้จะเหมาะแก่การพักอาศัย เนื่องจากมีหน่วยงานรองรับอยู่หลายแห่ง เดินทางไปทำงานโดยไม่จำเป็นต้องเผื่อเวลาในการเดินทางมากนัก

นอกจากเรื่องของหน่วยงานราชการแล้ว สถานที่อำนวยความสะดวกก็มีอยู่หลายแห่งเพื่อรองรับการใช้งานของคนในพื้นที่ได้อย่างพอเพียง ประกอบกับเป็นทำเลที่มีรถไฟฟ้าเข้าถึง เพิ่มขีดความสามารถในการคมนาคมให้คนในย่านนี้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว หากพูดถึงทำเลแคราย-งามวงศ์วาน-แจ้งวัฒนะ หลายคนคงนึกถึงสภาพการจราจรที่ค่อนข้างติดขัด ซึ่งจากการที่ได้ลงสำรวจพื้นที่ก็คงไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าเป็นอย่างนั้นจริงๆ แต่ผมเชื่อว่าทำเลอื่นๆ ก็คงประสบปัญหานี้ไม่ต่างกัน ซึ่งถ้าหากตัดเรื่องปัญหาการจราจรออกไปภาพรวมในการเดินทางถือว่าดูดีทีเดียว

เริ่มจากตัวโครงการอยู่ภายในซอยที่สามารถเข้าออกได้ 2 ทาง ทั้งจากซอยนนทบุรี 39 และ ซอยติวานนท์ 45 ทำให้มีความยืดหยุ่นในการเลือกใช้งานให้ตรงกับจุดมุ่งหมายที่ตั้งเอาไว้ โดยซอยนนบุรี 39 เหมาะในการใช้งานไปทางฝั่งของถนนรัตนาธิเบศร์ และแยกแคราย โดยมีถนนสนามบินน้ำและถนนเลี่ยงเมืองนนท์เป็นตัวเชื่อมสู่จุดหมายดังกล่าว ส่วนซอยติวานนท์ 45 นั้นเหมาะใช้งานขึ้นด้านบนสู่ถนนแจ้งวัฒนะ และแยกปากเกร็ด โดยมีถนนติวานนท์เป็นตัวเชื่อมสู่จุดหมาย

เรื่องของการเข้าเมืองนั้น สามารถแบ่งการใช้งานได้ออกเป็น 3 เส้นทางหลักๆ ได้แก่

• ทางด่วนศรีรัช ด่านงามวงศ์วานดูจะเป็นทางเลือกในการเข้าเมืองที่สะดวกที่สุด จุดขึ้นทางด่วนอยู่ไม่ไกลจากตัวโครงการ สามารถใช้เดินทางเพื่อเชื่อมต่อทางด่วนศรีรัชชั้นใน เดินทางสู่ พระราม 9 – ดาวคะนอง ได้โดยง่าย
• ถนนราชพฤกษ์ เป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่ใช้เข้าเมืองได้สะดวกไม่แพ้กัน แม้จะดูมีระยะทางที่อ้อมกว่าไกลกว่าเส้นทางด่วน แต่ว่าไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการใช้งาน ประกอบกับลักษณะของถนนราชพฤกษ์ค่อนข้างทำความเร็วได้ดี เพราะเป็นถนนที่ไม่มีสัญญาณไฟจราจร แต่จะใช้เป็นสะพานข้ามแยกแทนรถจึงคล่องตัวดีทีเดียว จุดมุ่งหมายที่เหมาะสมสำหรับเส้นทางนี้คือไปยัง ถนนบรมราชชนนีต่อเนื่องไปจนถึงสาทรได้เลย
• ถนนวิภาวดีรังสิต อีกหนึ่งทางเข้าเมืองที่มีเป้าหมายไปยังห้าแยกลาดพร้าว-ดินแดง โดยด้านบนจะมีทางด่วนโทลล์เวย์คู่ขนานกันไปเผื่อเลือกใช้ในกรณีเร่งด่วนที่ต้องการประหยัดเวลา

ทางด่วนศรีรัช ด่านงามวงศ์วาน หลังจากที่ผมกล่าวว่าทางด่วนศรีรัชน่าจะเป็นเส้นทางเข้าเมืองที่สะดวกที่สุด เรามาดูกราฟิกแผนที่เพิ่มเติมกันครับ โดยการเดินทางนั้นใช้เส้นทางผ่านถนนติวานนท์ ผ่านแยกแครายไปยังถนนงามวงศ์วาน ระยะทางจากโครงการถึงด่านจ่ายเงินงามวงศ์วานมีระยะทางอยู่ที่ 6 กม.

แยกและถนนสำคัญใกล้เคียง

• ถนนติวานนท์ : 1.1 กม.
• ถนนสนามบินน้ำ (ถนนนนทบุรี) : 1.4 กม.
• ห้าแยกปากเกร็ด : 3.4 กม.
• สะพานพระราม 4 : 4.8 กม.
• แยกคลองประปา : 9.0 กม.
• วงเวียนหลักสี่ : 14.1 กม.
• สะพานพระนั่งเกล้า : 7.1 กม.
• สะพานมหาเจษฎาฯ : 6.7 กม.
• แยกแคราย : 5.7 กม.
• ถนนราชพฤกษ์ : 10.0 กม.
• ทางด่วนศรีรัช (ด่านงามวงศ์วาน) : 6.0 กม.
• ทางด่วนโทลล์เวย์ (ถนนวิภาวดีรังสิต) : 10.0 กม.

การเดินทางด้วยสาธารณะ ประเด็นแรกตัวโครงการอยู่ภายในซอย แต่ข้อดีคือเป็นซอยไม่ลึก ห่างจากถนนใหญ่ประมาณ 1 กม. เท่านั้น จึงทำให้การใช้รถสาธารณะของคนในโครงการนั้นเป็นไปได้จริงในชีวิตประจำวันครับ โดยตัวเลือกเบื้องต้นที่เหมาะสมที่สุดคือการใช้บริการพี่วินมอไซค์เพื่อไปส่งยังปากซอย ต่อยอดหารถประจำทาง หรือรถไฟฟ้าต่อไป แต่ถ้าหากจะใช้บริการแท๊กซี่ก็โหลดแอพเรียกในมือถือให้เข้าไปรับหน้าบ้านเลยก็ได้ เข้าซอยไม่ลึกรอแปปเดียวรถก็มาแล้วครับ

สิ่งที่ทำให้ทางเลือกในการใช้รถสาธารณะดูมีความสะดวกแก่ลูกบ้านจริงๆ แน่นอนว่าต้องเป็นแนวรถไฟฟ้านั่นเอง โดยตัวโครงการนั้นอยู่ใกล้แนวรถไฟฟ้าถึง 2 สายด้วยกันได้แก่

• รถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางซื่อ-บางใหญ่ รถไฟฟ้าสายนี้เป็นสายที่สร้างเสร็จเปิดให้บริการแล้ว สถานีที่ใกล้โครงการที่สุดคือสถานีนนทบุรี 1 ตัวสถานีอยู่บริเวณหน้าห้างเซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์ ระยะทางจากโครงการถึงสถานีอยู่ที่ 4 กม. การใช้งานสำหรับเข้าเมืองนั้นรถไฟฟ้าจะมุ่งหน้าไปยังสถานีเตาปูนเชื่อมต่อสู่ Hub บางซื่อ เพื่อทำการ Interchange กับรถไฟฟ้าสายอื่น ทำให้สามารถเลือกจุดหมายในการเดินทางได้อย่างครอบคลุมทุกโซนในกรุงเทพ
• รถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ปัจจุบันรถไฟฟ้าสายสีชมพูยังไม่เปิดให้บริการ แต่โครงการดังกล่าวนั้นได้ดำเนินการลงมือก่อสร้างแล้ว และคืบหน้าไปประมาณ 30% แล้วจากโครงสร้างทั้งหมด (มิ.ย. 2562) จึงมั่นใจได้ว่าลูกบ้านจะได้ใช้งานกันอย่างแน่นอน โดยมีกำหนดการแล้วเสร็จในช่วงปลายปี 2564 ครับ ซึ่งแนวรถไฟฟ้าสายสีชมพูมีความสะดวกในการใช้งานมากกว่า ด้วยที่ตั้งของสถานีสามัคคีอยู่บริเวณปากซอยติวานนท์ 45 ห่างโครงการเพียงประมาณ 1 กม.เท่านั้น

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.mrta-pinkline.com

ความอุดมสมบูรณ์ ดูภาพรวมจากแผนที่จะเห็นว่าทำเลแห่งนี้มีสถานที่สำคัญอยู่อย่างแน่นขนัด โดยเฉพาะส่วนที่เป็นหน่วยงานราชการต่างๆ จึงส่งผลให้ทำเลแห่งนี้เป็นแหล่งงานขนาดใหญ่ ซึ่งพอเป็นทำเลที่มีผู้คนแวะเวียนมาใช้งานกันเยอะ ประกอบกับเป็นทำเลที่มีบ้านพักอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น จึงทำให้มีสถานที่อำนวยความสะดวกรองรับความต้องการมากขึ้นตามไปด้วย

ในส่วนของการใช้งานนั้นจะแยกออกเป็น 2 ส่วน คือส่วนที่อยู่ตามแนวเส้นถนนรัตนาธิเบศร์ และแนวเส้นถนนแจ้งวัฒนะ ซึ่งจากโครงการสามารถเดินทางไปใช้งานได้สะดวกทั้งสองเส้น ซึ่งรุปแบบของห้างสรรพสินค้าทั้งสองฝั่งนั้นจะค่อนข้างคล้ายคลึงกันขึ้นอยู่กับความสะดวกมากกว่า อย่างเช่น ห้างเซ็นทรัล, Big C, Tesco Lotus นั้นจะมีอยู่บนถนนทั้งสองเส้น เสริมด้วยห้างเฉพาะทางอย่างพันทิพย์ และไอทีสแควร์ที่จะเน้นไปในเรื่องอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ตอนกลางคืนมีตลาดนกฮูกเป็นแหล่งเดินเล่นหาของทานแบบชิลล์ๆ

สถานที่สำคัญบริเวณโครงการ

ตลาดและห้างสรรพสินค้า

• ตลาดนกฮูก : 4.3 กม.
• Central รัตนาธิเบศร์ : 4.1 กม.
• Big C รัตนาธิเบศร์ : 6.4 กม.
• เอสพลานาด แคราย : 5.1 กม.
• Tesco Lotus รัตนาธิเบศร์ : 5.1 กม.
• พันทิพย์ งามวงศ์วาน : 6.5 กม.
• The Mall งามวงศ์วาน : 7.3 กม.
• Big C แจ้งวัฒนะ : 10.1 กม.
• Central แจ้งวัฒนะ : 10.0 กม.
• Makro แจ้งวัฒนะ : 9.6 กม.
• Tesco Lotus แจ้งวัฒนะ : 9.4 กม.
• Big C แจ้งวัฒนะ : 10.1 กม.
• IT Square : 12.6 กม.
• The Crystal PTT ชัยพฤกษ์ : 7.7 กม.

สถานศึกษา

• รร.เบญจมราชานุสรณ์ : 4.8 กม.
• รร.นานาชาติกรุงเทพ (ISB) : 6.4 กม.
• ม.ธุรกิจบัณฑิตย์ : 9.2 กม.
• ม.สุโขทัย : 8.1 กม.
• รร.เซนต์ฟรังซิสเซเวีย : 11.2 กม.
• ม.เกษตรศาสตร์ : 10.4 กม.

สถานพยาบาล

• รพ.พระนั่งเกล้า : 7.2 กม.
• รพ.เวิลด์เมดิคอล : 7.3 กม.
• รพ.โรคทรวงอก : 4.5 กม.
• รพ.นนทเวช : 7.3 กม.

อื่นๆ

• สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล : 1.4 กม.
• สำนักงานเทศบาลเมืองนนทบุรี : 4.9 กม.
• กระทรวงพาณิชย์ : 3.2 กม.
• กระทรวงสาธารณสุข : 6.8 กม.
• ท่าน้ำนนท์ : 7.5 กม.
• อุทยานเฉลิมกาญจนาภิเษก : 8.9 กม.
• เมืองทองธานี / IMPACT : 9.9 กม.
• ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ : 11.8 กม.
• วัดพระศรีมหาธาตุวรวิหาร : 15.5 กม.
• สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ : 12.9 กม.
• สนามบินดอนเมือง : 17.9 กม.

---

::: การเดินทาง :::

สำหรับเส้นทางที่ผมใช้เดินทางไปยังโครงการ โกลเด้น ทาวน์ งามวงศ์วาน-แคราย ผมเลือกใช้ถนนราชพฤกษ์ฝั่งมุ่งหน้าสู่ถนนรัตนาธิเบศร์ จากนั้นข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาด้วยสะพานพระนั่งเกล้า เพื่อเข้าสู่ถนนสนามบินน้ำ แล้วจึงเลี้ยวเข้าซอยนนทบุรี 39 เพื่อเข้าสู่โครงการ โดยผมมีภาพประกอบการเดินทางดังนี้ครับ

สรุปการเดินทาง : ถนนราชพฤกษ์ > ถนนรัตนาธิเบศร์ > สะพานพระนั่งเกล้า > ถนนสนามบินน้ำ > ซอยนนทบุรี 39 > โกลเด้น ทาวน์ งามวงศ์วาน-แคราย

เริ่มต้นภาพประกอบการเดินทางบนถนนราชพฤกษ ฝั่งขาออกมุ่งหน้าสู่รัตาธิเบศร์ โดยเริ่มจากบริเวณหน้าห้าง The Walk และ Homepro ราชพฤกษ์ ให้เป็นจุดสังเกตได้ง่าย

มุ่งหน้าไปยังรัตนาธิเบศร์โดยลงอุโมงค์ลอดใต้วงเวียนพระราม 5

หลังจากที่ขึ้นมาจากอุโมงค์ ให้เราดูป้ายทางออกไปยังสะพานพระนั่งเกล้า ให้เราเบี่ยงซ้ายเพื่อไปวิ่งทางคู่ขนานด้านนอก

บนทางคู่ขนานด้านนอก ให้เราชิดขวาเอาไว้เพื่อไปทางฝั่งสะพานพระนั่งเกล้า

หลังจากที่เรามาถึงถนนรัตนาธิเบศร์ ให้เราออกไปวิ่งทางหลักตรงบริเวณ MRT บางรักน้อยท่าอิฐ หรือจะวิ่งอยู่ที่ทางคู่ขนานด้านนอกต่อไปก็ได้ แต่โดยปกติการจราจรบนทางหลักจะคล่องตัวกว่า

จากนั้นให้กลับออกไปวิ่งที่ทางคู่ขนานด้านนอกตรงบริเวณ MRT ไทรม้า

สาเหตุที่ต้องใช้ทางคู่ขนานด้านนอก เนื่องจากว่าหากเราวิ่งขึ้นสะพานพระนั่งเกล้าฝั่งที่เป็นสะพานสูง เมื่อลงสะพานแล้วจะเลยทางเข้าถนนสนามบินน้ำไป

ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาด้วยสะพานพระนั่งเกล้าฝั่งที่เป็นสะพานเตี้ย

เมื่อลงสะพานมาให้เลี้ยวซ้ายไปยังสนามบินน้ำ สังเกตที่สะพานด้านบนหากว่าเราวิ่งทางหลักและขึ้นสะพานสูง นั่นจะทำให้เราเลยทางแยกเข้าสนามบินน้ำตรงจุดนี้ครับ

ตอนนี้เราอยู่บนถนนสนามบินน้ำ หรือหากอ้างอิงตาม google map ถนนตรงนี้จะใช้ชื่อว่าถนนนนทบุรี วิ่งผ่านด้านหน้ากระทรวงพาณิชย์ไป

พอถึงสามแยกเลี่ยงเมืองนนท์ ให้เรามุ่งหน้าตรงไปยังกองสลากรัฐบาลครับ

จากสามแยกเมื่อสักครู่ เลยมาเพียงเล็กน้อยให้เราชิดซ้ายเอาไว้ จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าซอยนนทบุรี 39 ซึ่งตรงปากซอยเป็นที่ตั้งของกองสลากกินแบ่งรัฐบาล

กราฟิกเพิ่มเติมช่วงบริเวณด้านในซอยทางเข้า ขับเข้าไปด้านในซอยนนทบุรี 39 เป็นระยะทาง 1.4 กม. ก็จะถึงกับที่ตั้งโครงการครับ

ขับเข้าไปด้านในซอยนนทบุรี 39 โดยระหว่างทางจะมีทางบังคับเลี้ยวซ้ายขวาตามทาง ให้เรายึดเส้นเหลืองตรงกลางถนนเป็นหลัก

วิ่งตามเส้นเหลืองมาจนถึงช่วงสามแยกที่มี 7-11 ให้เลี้ยวซ้าย ระหว่างทางไม่ต้องกังวลว่าจะหลงทางเนื่องจากว่ามีป้ายบอกทางของโครงการตลอดเส้นทางครับ

จาก 7-11 ขับมาจนถึงสามแยก T ตันให้เลี้ยวขวา

ถึงแล้วครับโครงการ Golden Town งามวงศ์วาน-แคราย ตั้งอยู่ทางด้านซ้ายมือ

ซุ้มทางเข้า โกลเด้น ทาวน์ งามวงศ์วาน-แคราย

---

::: บริเวณโครงการ :::

หลังจากที่เรามาถึงโครงการแล้ว ผมขอพาขึ้นดาวเทียมมองจากมุมสูงลงมา จะเห็นว่าองค์ประกอบโดยรอบโครงการส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัยรูปแบบทาวน์โฮม 2-3 ชั้น มีเพียงทางทิศใต้ของโครงการที่ติดกับพื้นที่ราชการ กรมพลาธิการทหารบก ส่วนด้านในโครงการช่วงต้นคือซุ้มทางเข้าโครงการผ่านซุ้มไปเล็กน้อยเจอกับอาคาร Clubhouse ท่ามกลางสวนหย่อม และยังมีสวนสาธารณะใหญ่แยกอีก 1 จุดอยู่ที่ด้านในโครงการ ซึ่งส่วนต่อไปผมจะพาเดินชมบรรยากาศบริเวณโครงการกัน ยกเว้นสวนสาธารณะของโครงการที่ปัจจุบันยังอยู่ในช่วงก่อสร้างครับ

ป้ายโครงการ Golden Town งามวงศ์วาน-แคราย

จากหน้าโครงการมองไปฝั่งตรงข้ามเห็นเป็นแนวบ้านพักอาศัยสูง 3 ชั้น

ซอยด้านหน้าโครงการมีชื่อเรียกเฉพาะว่าซอยทรายทอง 9 ซึ่งเป็นซอยที่สามารถเข้าออกได้ 2 ทางหลักคือจากซอยนนทบุรี 39 ผ่านทางสนามบินน้ำตามที่เราใช้เดินทางมายังโครงการ

ส่วนอีกทางที่ใช้มายังโครงการได้คือซอยติวานนท์ 45 จากถนนติวานนท์ บรรยากาศภายในซอยค่อนข้างเงียบสงบ และในระยะเดินเท้าได้ค่อนข้างแห้งแล้งไม่มีร้านค้าร้านอาหารเท่าไรนัก ที่พึ่งพาเบื้องต้นมีเพียง 7-11 ที่เราขับผ่านตอนมายังโครงการเท่านั้น ระยะทางประมาณ 500 เมตรถือว่าพอเดินไหวอยู่ครับ

กลับมาที่ซุ้มทางเข้าโครงการครับ โครงสร้างซุ้มทางเข้าหรูหรา อลังการ มีเอกลักษณ์ ตามแบบฉบับของ Goldenland

หลังคาซุ้มขนาดใหญ่สามารถใช้บังแดดบังฝนได้จริง ซึ่งช่วยให้เวลาที่มีเหตุต้องติดต่อกับเจ้าหน้าที่ รปภ. ได้รับความสะดวกขึ้น

เรื่องความปลอดภัย นอกจากจะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชม. แล้ว ยังมีกล้อง CCTV ติดตั้งทั้งขาเข้าและขาออก แยกการตรวจจับระหว่างใบหน้าและทะเบียนรถ

การเข้าออกโครงการใช้ระบบคีย์การ์ด สแกนแบบ Easy Pass เพื่อเปิดไม้กระดกเหมือนบนทางด่วน ไม่ต้องหยิบการ์ดในกระเป๋าตังออกมาแปะที่แท่นให้ยุ่งยาก ลูกบ้านได้รับความสะดวกและมีระดับ

ผ่านซุ้มทางเข้าโครงการเข้ามาช่วงแรกเจอกับถนนเมนโครงการกว้าง 18 เมตร ทางซ้ายมือคือที่ตั้งของ Clubhouse

เราไปดูอาคารคลับเฮ้าส์โครงการกันครับ

ผมขอเดินย้อนกลับมาทางซ้ายของอาคาร เดินดูบรรยากาศสวนหย่อมโดยรอบกันก่อนครับ หน้าทางเข้าสวนมีบ่อน้ำพุรูปปั้นกามเทพสไตล์อังกฤษ

ก่อนอื่นต้องบอกว่าสวนแห่งนี้เป็นเพียงสวนหย่อมรอบคลับเฮ้าส์เท่านั้น ซึ่งด้านในโครงการยังมีสวนสาธารณะหลักขนาดใหญ่อยู่อีกหนึ่งแห่ง แต่ว่าผมไม่สามารถเก็บภาพมาฝากได้ เนื่องจากยังอยู่ในช่วงของการก่อสร้างซึ่งใกล้จะแล้วเสร็จในเร็ววันครับ

ซึ่งต้องยอมรับว่านี่ขนาดแค่สวนรอบคลับเฮ้าส์ยังทำออกมาสวยงามขนาดนี้ แล้วถ้าเป็นสวนสาธารณะหลักด้านในโครงการ เขาจะจัดเต็มมาให้ขนาดไหน

ริมทางเดินจัดแนวม้านั่งหิน สำหรับแวะนั่งพักผ่อนชมสวนสูดอากาศสดชื่น

ทางเดินด้านหลังอาคารคลับเฮ้าส์ ตกแต่งด้วยไม้พุ่มเชียวขจีดูแล้วสบายตา

จากทางเดินสวนด้านหลังมีบันไดทางขึ้นเชื่อมต่อคลับเฮ้าส์ เพิ่มความสะดวกในการเข้าใช้งาน และให้ความรู้สึกที่มีอิสระมากขึ้น

ผมขอวนย้อนกลับมาที่ด้านหน้าอาคารคลับเฮ้าส์กันอีกครั้ง เพื่อขึ้นอาคารคลับเฮ้าส์จากทางหลัก

พื้นที่ด้านหน้าตกแต่งสวนด้วยดอกไม้นานาพรรณ พร้อมไม้พุ่มที่ได้รับการตัดแต่งอย่างสวยงามเป็นระเบียบ

บริเวณบันไดทางขึ้นอาคารมีบ่อน้ำพุแบบฟองเบียร์ เดินผ่านได้ยินเสียงน้ำกระทบกันช่วยสร้างความผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี

ทางด้านขวาเป็นห้องน้ำแยกชาย-หญิง

ภายในห้องน้ำชาย

ภายในห้องน้ำหญิง

ฝั่งตรงข้ามกับห้องน้ำ ปัจจุบันใช้งานเป็นสำนักงานขาย แต่ในอนาคตหลังจากที่ปิดโครงการแล้ว จะเปลี่ยนเป็นห้องฟิตเนสให้ลูกบ้านได้ใช้ประโยชน์ต่อไป

ออกมายังฝั่งสระว่ายน้ำ ส่วนแรกเจอกับลาน Pool Terrace มีเตียง Sunbed นั่งเล่นพักผ่อนริมสระ

มองย้อนกลับไปยังฝั่งอาคารคลับเฮ้าส์

สระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 20 x 8 เมตร ตั้งอยู่ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติ ล้อมรอบด้วยสวนสีเขียวน่าใช้งาน

ทางลงสระว่ายน้ำแบบขั้นบันได ซึ่งเป็นรูปแบบที่ใช้งานได้สะดวกกว่าโครงบันไดเหล็กที่เราเห็นตามสระว่ายน้ำทั่วไป

ที่มุมของสระแยกสระตื้นสำหรับเด็ก ให้เจ้าตัวเล็กสามารถสนุกสนานได้พร้อมกับความปลอดภัย

หลังจากที่เราได้ชมคลับเฮ้าส์กันไปแล้ว ส่วนต่อไปผมจะพาไปเดินดูส่วนบ้านพักอาศัยกันบ้างครับ

ถนนหน้าบ้านพักอาศัยมีขนาดกว้าง 9 เมตร

แวะดูรั้วบ้านกันหน่อยครับ เพราะว่าทางบ้านตัวอย่างไม่มีให้เราดูตรงส่วนนี้ โดยรั้วให้เป็นแบบรั้วเหล็กบานพับทาสีดำ เสริมด้วยลูกเล่นเหล็กดัดด้านในสวยงาม

ลานจอดรถเทพื้นด้วยคอนกรีตปาดเรียบ จอดรถได้ 1-2 คันขึ้นอยู่กับแบบบ้านแต่ละแบบ

ส่วนนี้คือส่วนของบ้านตัวอย่าง ทางโครงการมีให้ชมครบทั้ง 3 แบบ ที่ทางโครงการมีขาย แต่ในวันนี้ผมจะเก็บภาพให้คุณผู้ชมได้ดูกัน 2 แบบครับ

พื้นที่ด้านในที่เป็นโซนบ้านพักอาศัยรวมถึงสวนสาธารณะส่วนกลาง ยังอยู่ในช่วงของการก่อสร้างซึ่ง ณ เวลานี้ยังไม่สะดวกสำหรับการเข้าไปเก็บภาพ ผมจึงขออนุญาตจบหัวข้อการพาเดินชมบริเวณโครงการเพียงเท่านี้ครับ จากนี้เราจะไปดูบ้านตัวอย่างกันต่อ

---

::: แบบบ้าน :::

ภายในโครงการมีแบบบ้านทั้งหมด 3 แบบด้วยกันได้แก่

• แบบบ้าน Saint Paul (เซนต์ พอล) : พื้นที่ใช้สอย 96 ตร.ม. ขนาด 3 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ, ห้องรับแขก, ห้องรับประทานอาหาร, นวัตกรรมครัวไทย, ที่จอดรถ 1 คัน
• แบบบ้าน Southampton (เซาแธมป์ตัน) : พื้นที่ใช้สอย 103 ตร.ม. ขนาด 4 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ, ห้องรับแขก, ห้องรับประทานอาหาร, นวัตกรรมครัวไทย, ที่จอดรถ 1 คัน
• แบบบ้าน Notting Hill (น็อตติ้ง ฮิลล์) : พื้นที่ใช้สอย 117 ตร.ม.ขนาด 4 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, ห้องรับแขก, ห้องรับประทานอาหาร, ห้องพระ, ครัวไทย, ที่จอดรถ 2 คัน

• แบบบ้าน Saint Paul (เซนต์ พอล)
• หน้ากว้าง 5.2 เมตร
• พื้นที่ใช้สอย 96 ตร.ม.
• ที่ดินเริ่มต้น 16.2 ตร.ว.
• ขนาด 3 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ, ห้องรับแขก
• ห้องรับประทานอาหาร, นวัตกรรมครัวไทย, ที่จอดรถ 1 คัน

• แบบบ้าน Southampton (เซาแธมป์ตัน)
• หน้ากว้าง 5.4 เมตร
• พื้นที่ใช้สอย 103 ตร.ม.
• ที่ดินเริ่มต้น 17.3 ตร.ว.
• ขนาด 4 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ, ห้องรับแขก, ห้องรับประทานอาหาร
• นวัตกรรมครัวไทย, ที่จอดรถ 1 คัน

• แบบบ้าน Notting Hill (น็อตติ้ง ฮิลล์)
• หน้ากว้าง 5.4 เมตร
• พื้นที่ใช้สอย 117 ตร.ม.
• ที่ดินเริ่มต้น 19 ตร.ว.
• ขนาด 4 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, ห้องรับแขก
• ห้องรับประทานอาหาร, ห้องพระ, ครัวไทย, ที่จอดรถ 2 คัน

---

::: บ้านตัวอย่าง :::

เดี๋ยวเราไปเริ่มกันที่แบบบ้าน Saint Paul กันก่อนเลยครับ ตัวบ้านออกแบบมาในสไตล์อังกฤษ สิ่งที่สร้างความโดดเด่นให้แก่หน้าตาของบ้านคือช่องหน้าต่าง 3 ช่องด้านบน ลูกฟักบานหน้าต่างและประตูเสริมด้วยแนวเส้นสีขาว เพิ่มเติมด้วยคิ้วขอบสีขาวตัดกับพื้นสีเทา ทำให้ภาพรวมของบ้านแตกต่างจากบ้านธรรมดาทั่วไป

สำหรับแบบบ้าน Saint Paul มีขนาดพื้นที่ใช้สอย 96 ตร.ม. ที่ดินเริ่ม 16 ตร.ว. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ

หากเป็นบ้านแปลงมุมจะมีช่องหน้าต่างให้ภายในบ้านมีความโปร่งสบายมากขึ้น รวมถึงมีพื้นที่สวนข้างบ้านให้สามารถจัดสวนได้ด้วย โดยแปลงมุมจะมีขนาดพื้นที่แตกต่างกันไปในแต่ละยูนิต

หน้ากว้างของแบบบ้านเซนต์พอล มีความกว้างอยู่ที่ 5.2 เมตร แบ่งพื้นที่ช่วงหน้าบ้านเป็นทางเข้าบ้านและลานจอดรถประมาณครึ่งหนึ่งของความกว้างหน้าบ้าน

ด้านในลานจอดรถสังเกตเห็นว่ามีช่องแสงอยู่ 3 จุด คือเป็นช่องแสงที่ช่วยเพิ่มความสว่างให้แก่ทางขึ้น-ลงบันได และห้องน้ำชั้นล่าง

ตัวบ้านยกสูงเล็กน้อย ก่อเฉลียง 1 สเตปเป็นทางขึ้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิค

ทางเข้าบ้านเป็นแบบประตูบานสไลด์ วัสดุ UPVC ที่ให้ทั้งเรื่องของความสวยงามและความทนทาน เพิ่มลูกเล่นเป็นแนวเส้นตรงภายในลูกฟักเสริมดีไซน์บ้านสไตล์อังกฤษ กระจกที่ใช้เป็นแบบสีเขียวตัดแสงช่วยกรองรังสี UV ช่วยให้ในบ้านเย็นสบาย

มือจับประตูแบบเซาะร่องมีที่ล็อคในตัว

ผ่านประตูเข้ามาส่วนแรกเจอกับห้องนั่งเล่นที่เปิดโล่งเชื่อมต่อเข้าไปด้านในที่เป็นโซนทานอาหาร บรรยากาศด้านในโปร่งสบายด้วยคสามสูงเพดานชั้นล่าง 2.6 เมตร พื้นกระเบื้องแกรนิตโต้ 60×60 ซม. ผนังฉาบเรียบทาสีขาว โคมไฟแบบดาวน์ไลท์

ภาพรวมห้องนั่งเล่นในมุมย้อนกลับไปยังฝั่งประตูบ้าน สำหรับการตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ นั้นเป็นเพียงการตกแต่งให้ดูเป็นแนวทางเท่านั้น ของจริงให้เป็นแบบบ้านเปล่า

ห้องนั่งเล่นได้รับแสงสว่างหลักมาจากประตูทางเข้าบ้าน แต่หากเป็นบ้านแปลงมุมจะได้ชุดหน้าต่างด้านหลังโซฟาเข้ามาอีกจุด ช่วยเสริมความโปร่งสบายของบริเวณนี้ได้เป็นอย่างดี

ความกว้างของพื้นที่ห้องนั่งเล่น มีระยะสายตาระหว่างโซฟากับทีวีราวๆ 3 เมตร กำลังดีต่อการถนอมสายตา

หน้าต่างเข้ามุมตรงบริเวณช่วงทางขึ้นบันได้ตรงนี้ เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเสริมความโปร่งให้แก่พื้นที่โดยรวมในบ้านได้มาก ทั้งเรื่องของความสว่างและความรู้สึกที่ให้อิสระมากขึ้น

ขยับเข้าไปด้านในก่อนที่จะถึงโซนรับประทานอาหารมีพื้นที่อเนกประสงค์หน้าบันได

ทางโครงการลองจัดวางเป็นโต๊ะทำงานให้ดูตัวอย่าง จะเห็นว่ามีสเปซระหว่างโซฟาและโต๊ะทานข้าวกว้างกำลังดี นั่งทำงานได้แบบไม่รู้สึกอึดอัด

ตรงข้ามกับโต๊ะอเนกประสงค์ บริเวณข้างบันไดเป็นทางเข้าห้องน้ำชั้นล่าง

ห้องน้ำมีการลดระดับพื้นลง 2 ขั้น ซึ่งช่วยให้มีปริมาตรภายในห้องน้ำมากขึ้น หรือพูดง่ายๆคือมีความสูงที่เพิ่มขึ้นและโปร่งสบายขึ้นนั่นเอง

ภายรวมภายในห้องน้ำ พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ผนังปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้และกระเบื้องลายสวยงาม

ผมเปรียบเทียบให้เห็นว่าบ้านมาตรฐานส่งมอบ มีการตกแต่งเหมือนกับแบบบ้านตัวอย่างจริงๆ

อ่างล้างหน้าของ American Standard และบานกระจกเงา

โถสุขภัณฑ์ของ American Standard เช่นกัน

แม้พื้นที่อาบน้ำจะไม่ได้มีการแบ่งแยกส่วนแห้งส่วนเปียกให้ก็จริง แต่ก็มีการวางตำแหน่งที่เป็นสัดส่วนชัดเจน ในส่วนของฝักบัวนั้นแขวนอยู่บนราวที่สามารถปรับความสูงต่ำได้ พร้อมเจาะช่องสำหรับวางสบู่แชมพู พร้อมทั้งมีช่องแสงที่ตรงกับลานจอดรถด้านนอกให้แสงสว่างระหว่างวัน

ขยับเข้าไปยังโซนทานข้าวหรือ Dining Zone วางโต๊ะทานข้าวขนาด 4 ที่นั่งลงตัวกับขนาดบ้านที่รองรับครอบครัวขนาดเล็ก-กลาง

พื้นที่ด้านหลังโต๊ะทานข้าวจริงๆ อาจจะต่อเติมเป็นซิงค์ล้างจานก็ได้ แต่ทางโครงการใช้เป็นเคาน์เตอร์สำหรับวางไมโครเวฟอุ่นอาหารทานง่ายและวางตู้เย็น

ด้านล่างมีห้องนอน 1 ห้อง พร้อมติดตั้งหน้าต่างเข้ามุมตรงจุดนี้ ช่วยให้ห้องนอนชั้นล่าง มีความโปร่งสบายขึ้นมาก

แน่นอนว่าห้องนอนชั้นล่างนั้น เหมาะสำหรับทำเป็นห้องนอนรองรับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุ เพื่อหลีกเลี่ยงการเดินขึ้นลงบันได แต่ในทางกลับกันหากเป็นครอบครัวเริ่มต้นที่ไม่มีผู้สูงอายุ สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องอเนกประสงค์ใช้งานได้อย่างหลากหลาย เช่น ห้องทำงาน, ห้องดูหนัง หรือห้องฟิตเนส เป็นต้น

ขนาดห้องเหมาะแก่การวางเตียงขนาด 3.5 ฟุต มีช่องแสงหลักจากหน้าต่างหลังบ้าน ปลายเตียงเหลือพื้นที่เล็กน้อยเพียงพอให้ติดตั้งชั้นวางทีวีได้

อีกด้านของห้องมีพื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะอเนกประสงค์ได้อย่างลงตัวพอดิบพอดี

หน้าต่างเข้ามุมตรงบริเวณโต๊ะอเนกประสงค์ สามารถเปิด-ปิดได้ อีกทั้งยังมีข้อดีอีกอย่างคือหากเป็นห้องนอนผู้สูงอายุ คนในบ้านสามารถมองเห็นท่านได้จากภายนอกอุ่นใจดีครับ

ออกไปดูทางด้านหลังบ้านกันครับ ซึ่งมีความพิเศษตรงที่มีนวัตกรรมครัวไทยในบ้านทุกหลังที่โครงการเรียกว่า Golden Kitchen

นวัตกรรมดังกล่าวคือมีการเอื้ออำนวยต่อการต่อเติมเป็นห้องครัวไทยเต็มรูปแบบ ทั้งการลงเสาเข็มให้ ก่อกำแพงรอบด้านสูง เหลือแค่ติดตั้งหลังคาและตกแต่งอีกนิดหน่อยก็พร้อมใช้งานได้แล้ว

และเนื่องจากมีพื้นที่อย่างกว้างขวาง ทางโครงการจึงแบ่งพื้นที่ใช้งานออกเป็นสองส่วน ส่วนแรกคือห้องครัว

ตัวอย่างครัวที่ทางโครงการทำให้ดูเป็นครัวสมัยใหม่ ที่ใช้เตาไฟฟ้าแบบฝัง เพิ่มระบบรายอากาศด้วยฮูดดูดควัน ด้านล่างเคาน์เตอร์เว้นช่องสำหรับใส่เครื่องซักผ้าฝาหน้า

หากเป็นบ้านแปลงมุม สามารถเชื่อมต่อสู่สวนข้างบ้านได้ด้วยการติดตั้งประตูแบบในภาพ

พื้นที่อีกส่วนของหลังบ้าน โครงการลองทำให้ดูเป็นห้องออกกำลังกายด้วยการวางลู่วิ่ง และอุปกรณ์อย่างพวกดัมเบลในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ

ไอเดียอีกอย่างคือการใช้หลังคาตรงส่วนนี้เป็นแบบหลังคาโปร่งแสง สามารถใช้รอกหมุนเปิดปิดเพื่อให้อากาศถ่ายเทได้ดี

มองย้อนไปยังตัวแบ่งโซนที่ใช้เป็นประตูบานสวิง ดูสวยงามลงตัว

พื้นที่หลังบ้านในแบบบ้านมาตรฐานส่งมอบ ด้านหลังลงเสาเข็ม กำแพงก่อสูงเอื้ออำนวยต่อการทำครัวไทยเต็มรูปแบบ

หน้าต่างหลังบ้านใช้วัสดุ UPVC ภายในลูกฟักเสริมแนวเส้นสีขาวสวยงามเช่นกัน

ย้อนกลับมาที่บริเวณทางขึ้นชั้นบน เพื่อไปดูที่ชั้นสองกันต่อครับ

บันไดได้รับแสงจากช่องหน้าต่างและช่องแสงถึง 2 จุด ช่วงกลางวันไม่ต้องเปิดไฟทิ้งไว้ช่วยประหยัดค่าไฟได้อีกทาง

โครงสร้างบันไดแบบคอนกรีตเสริมเหล็กแข็งแรงทนทาน เดินขึ้น-ลงเงียบไม่มีเสียงรบกวน

ชั้นบนประกอบด้วย 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พื้นปูด้วยลามิเนต 8 มม.

ห้องน้ำชั้นบนนั้นมีเพียงห้องเดียวใช้งานร่วมกัน

ภายในห้องน้ำมีการแบ่งส่วนแห้งส่วนเปียกได้ดีขึ้นด้วยขนาดห้องที่ใหญ่ขึ้น และติดตั้งฉากอาบน้ำกันน้ำกระเด็น

พื้นที่โดยรวมในห้องน้ำ

อ่างล้างหน้า American Standard และกระจกเงา

โถสุขภัณฑ์ของ American Standard พร้อมสายฉีดชำระและที่แขวนทิชชู่

ฉากอาบน้ำสำเร็จรูปแบบประตูเปิดโค้งสองฝั่ง เข้าออกง่าย สำหรับช่องแสงที่เห็นอยู่ด้านในนั้นจะมีให้เฉพาะบ้านที่เป็นแปลงมุมเท่านั้นครับ

เราไปดูห้องนอนรองทางฝั่งหลังบ้านกันต่อครับ

รอบรังการติดตั้งอินเตอร์เน็ต Fiber Optic หรืออินเทอร์เน็ตใยแก้ว ที่มีความเร็วสูงสุดในปัจจุบัน

ห้องนอนนี้แม้ดูตามแปลนแล้วจะเป็นห้องนอนรอง แต่ขนาดนั้นไม่ได้เป็นรองห้องนอนหลักแต่อย่างใด ด้วยความกว้างของห้องเท่ากับหน้ากว้าง 5.2 เมตรของตัวบ้าน

จากการที่ห้องนี้มีหน้ากว้าง เพราะฉะนั้นทางโครงการจึงตกแต่งห้องนี้ให้เป็นห้องนอนที่สามารถให้เจ้าตัวเล็กอยู่ได้ถึง 2 คน โดยแบ่งวางเตียงขนาด 3.5 ฟุต เอาไว้คนละฝั่ง

ในขณะที่การใช้งานของแต่ละมุมยังคงมีพื้นที่เหลือให้ห้องนอนแต่ละมุมดูสบายไม่อึดอัด

นอกจากวางเตียงและโต๊ะเขียนหนังสือแล้ว ยังเหลือพื้นที่ให้บิวท์อินตู้เสื้อผ้าเข้ามุมได้ด้วย

บิวท์อินโต๊ะเขียนหนังสือเป็นแนวยาวที่ใช้งานพร้อมกันได้ 2 คน ตอบโจทย์บ้านที่มีลูก 2 คนที่วัยใกล้เคียงกันหรือลูกแฝด ได้อย่างลงตัวที่สุด

สุดท้ายเราไปดูห้องนอนหลักกันครับ ซึ่งตำแหน่งอยู่ทางฝั่งหน้าบ้าน

เข้ามาด้านในห้องนอน ความรู้สึกแรกคือเรื่องแสงธรรมชาติ ด้วยการที่มีช่องแสงหลายจุดทำให้ห้องสว่างดูกว้าง อีกเรื่องคือความสูงเพดานที่สูงเกือบ 3 เมตร จึงทำให้ทั้งกว้างและโปร่งสบาย

หน้าต่างทรงสูง 3 ช่องตรงนี้นอกจากเป็นช่องทางเดินของแสงแล้ว ยังช่วยให้ความรู้สึกที่ดูสวยงามเป็นเอกลักษณ์เข้ากับแบบบ้านสไตล์อังกฤษเป็นอย่างดี

ห้องนี้วางเตียงไซส์ 6 ฟุตเป็นตัวอย่าง ยังคงมีช่องทางเดินรอบเตียงให้เดินผ่านได้สะดวก

ปลายเตียงสามารถติดตั้งชั้นวางทีวีได้ ซึ่งยังเหลือทางเดินปลายเตียงผ่านเข้าออกได้แบบไม่ลำบาก

อีกฝั่งของห้องเป็นมุมแต่งตัว

ทางโครงการบิวท์อินตู้เสื้อผ้าขนาดกว้างและสูงเต็มผนัง พร้อมกับบริเวณข้างหัวเตียงมีมุมวางโต๊ะอเนกประสงค์ได้อีกหนึ่งฟังก์ชั่น

ทางขวาของตู้เสื้อผ้าเป็นประตูทางออกไปยังระเบียง ซึ่งวัสดุใช้แบบเดียวกันกับประตูหน้าต่างทั้งหลังคือ UPVC

พื้นที่ระเบียงไม่ได้กว้างนัก แต่ก็สามารถใช้งานได้จริง ออกมารับลมชมวิว หรือจะวางต้นไม้แต่งเป็นสวนเล็กๆก็ช่วยให้ตัวบ้านดูเป็นธรรมชาติดี

ต่อไปเป็นแบบบ้านอีกแบบที่เราจะไปดูกันครับ ซึ่งเป็นบ้านไซส์ใหญ่สุดภายในโครงการคือแบบบ้าน Notting Hill มีขนาดพื้นที่ใช้สอย 117 ตร.ม. ที่ดินเริ่ม 19 ตร.ว. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ

หน้ากว้างของแบบบ้านนี้กว้าง 5.4 เมตร ลานจอดรถหน้าบ้านสามารถจอดรถได้ 2 คัน อยู่ภายใต้ชายคาไม่โดนแดดโดดฝน

ประตูบ้านวัสดุ UPVC และกระจกสีเขียวตัดแสงเช่นเดียวกัน แต่มีการเพิ่มช่องแสงทางด้านขวาของบานประตูอีก 1 ช่องให้แสงผ่านได้มากขึ้น ส่วนทางซ้ายมีช่องหน้าต่างบานฟิกซ์ตรงกับโถงบันไดอีกจุด เพื่อให้ความสว่างเวลาเดินขึ้นลงระหว่างชั้นล่างและชั้นบน

เข้ามาด้านในเจอกับพื้นที่ห้องนั่งเล่น สังเกตเห็นได้ค่อนข้างชัดเจนว่าขนาดพื้นที่ใช้งาน มีระยะที่กว้างกว่าแบบบ้านที่แล้วพอสมควร เนื่องจาก Layout ที่แตกต่าง และหน้ากว้างของบ้านที่กว้างขึ้นจากเดิม 5.2 เมตร กลายเป็น 5.4 เมตร

มุมมองย้อนกลับไปทางฝั่งหน้าบ้าน

ยังคงได้ความโปร่งสบายจากประตูบ้านที่เป็นบานเลื่อนขนาดใหญ่ แบบที่มีช่องแสงเพิ่มเติมด้านข้าง และหากเป็นบ้านแปลงมุมได้ชุดหน้าต่างหลังโซฟาเพิ่มขึ้น

ผนังชั้นวางทีวีอยู่ระหว่างห้องน้ำและบันไดทางขึ้นชั้นบน ระยะดูทีวีอยู่ที่ 4 เมตรกว่า ซึ่งเป็นระยะที่สบายตามากขึ้น แต่อย่าลืมว่าเรื่องของขนาดทีวีก็มีความสำคัญ พอระยะไกลขึ้นอาจจะต้องเลือกทีวีที่มีขนาดใหญ่ขึ้นตามไปด้วย

แวะเข้าไปดูด้านในห้องน้ำกันครับ

พื้นที่โดยรวมของห้องน้ำมีส่วนสำหรับอาบน้ำ แต่ไม่ได้แยกส่วนแห้ง-เปียก สุขภัณฑ์ใช้ของ American Standard ทั้งเซต

อ่างล้างหน้ามีกระจกเงาติดตั้งไว้ด้านหลังให้แล้ว ฝักบัวติดตั้งบนราวแขวนที่สามารถปรับระดับความสูงได้

โถสุขภัณฑ์ของ American Standard พร้อมอุปกรณ์ควบคู่ครบพร้อมใช้งาน

ขยับเข้าไปยังโซนห้องทานข้าว ส่วนห้องทางขวาคือห้องนอนชั้นล่าง

โต๊ะทานข้าววางขนาด 4 ที่นั่งให้ดูเป็นตัวอย่าง แต่ด้วยแบบบ้านที่เป็นแบบ 4 ห้องนอน จำนวนสมาชิกอาจจะมากกว่า 4 คน จึงอาจจะเพิ่มขนาดให้เป็นโต๊ะสำหรับ 6 ที่นั่งก็ได้ เพราะยังมีพื้นที่เหลือพอสมควร

ถัดจากโต๊ะทานข้าว เหลือสเปซสำหรับวางตู้เย็นและตู้เคาน์เตอร์วางของเก็บของ

แวะดูห้องนอนชั้นล่างกันก่อนที่จะไปยังครัว หน้าต่างเข้ามุมตรงนี้ ถือว่าเป็นคีย์สำคัญที่ช่วยให้ภายในห้องไม่รู้สึกอึดอัด ทั้งยังเปิดหน้าต่างเพื่อสื่อสารกับคนภายนอก โดยเฉพาะหากเป็นผู้สูงอายุ ลูกหลานก็สามารถมองเห็นด้านในผ่านช่องทางนี้ได้

ภายในห้องนอนชั้นล่างนี้ สามารถวางเฟอร์นิเจอร์พื้นฐานได้ครบถ้วนทั้ง เตียง ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะอเนกประสค์

เตียงเลือกใช้เป็นแบบ 3.5 ฟุต ปลายเตียงยังพอเหลือที่ให้ทำชั้นวางทีวีเล็กๆ สำหรับนอนดูทีวีได้

มุมโต๊ะอเนกประสงค์ตั้งเข้ามุมตรงบริเวณหน้าต่าง ให้ความรู้สึกโปร่งเวลาใช้งานจริง

อีกฝั่งวางโต๊ะอเนกประสงค์เข้ามุมหน้าต่าง และตู้เสื้อผ้า

ออกไปดูไอเดียการแต่งครัวด้านหลังของทางโครงการกันต่อครับ

ทางโครงการยังคงใช้รูปแบบ แบ่งการใช้งานเป็น 2 ส่วน

ส่วนแรกคือห้องครัว ติดตั้ง ฮอบ ฮูด ซิงค์ สำหรับใช้งานได้ครบถ้วนงานครัว ประตูด้านข้างมีเฉพาะบ้านแปลงมุม

อีกฝั่งแบ่งส่วนด้วยประตูบานกระจก

ส่วนนี้ลองออกแบบให้ใช้งานเป็นห้องซักรีด

ตากผ้าได้โดยไม่ต้องกลัวผ้าอับชื้น เพราะด้านบนติดตั้งรอกหมุนเปิดปิดให้อากาศถ่ายเทได้ แต่อย่าลืมว่านี้เป็นไอเดียนะครับ ของจริงที่โครงการส่งมอบเป็นแบบเปิดโล่ง

ขึ้นไปดูชั้นสองกันต่อ โครงสร้างบันไดคอนกรีตเสริมเหล็ก หน้าต่างแบบบานฟิกซ์ไม่สามารถเปิดปิดได้ เป็นเพียงทางเดินแสงสว่างมายังโถงบันได ให้ช่วงระหว่างวันไม่จำเป็นต้องเปิดไฟ

ชั้นบนประกอบด้วย 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำและ 1 ชั้นลอย พื้นปูด้วยลามิเนต 8 มม.

ชั้นลอยดังกล่าวคือฟังก์ชั่นพิเศษที่มีเฉพาะในแบบบ้าน Notting Hill คือห้องพระ

อย่างที่เราทราบกันดีว่าเมืองไทยเป็นเมืองพุทธ การมีห้องพระช่วยให้มีพื้นที่ที่สามารถนั่งทำสมาธิสงบจิตใจ และประกอบพิธีทางศาสนาในวันสำคัญได้เองที่บ้าน รวมถึงตำแหน่งของห้องพระนั้นก็อยู่ในส่วนที่สูงที่สุดของบ้านตรงตามหลักที่ควรจะเป็นด้วยครับ

ตรงกับบันไดทางขึ้นชั้นลอยคือห้องน้ำ ซึ่งสำหรับห้องน้ำนี้จะใช้งานร่วมกันระหว่างห้องนอนรอง 2 ห้อง ส่วนห้องนอนหลักนั้นมีห้องน้ำในตัว

รูปแบบห้องน้ำผมคงไม่ลงรายละเอียดนักเพราะเหมือนกับแบบบ้านเมื่อสักครู่นี้ แยกโซนแห้ง-เปียกด้วย Shower Box พื้นที่ใช้งานโดยรวมขนาดกำลังเหมาะสม

ต่อไปเป็นส่วนของห้องนอนรองที่มี 2 ห้อง เราไปเริ่มกันที่ห้องแรกประตูซ้ายมือของภาพ อยู่ในตำแหน่งฝั่งหลังบ้านใกล้กับบันได

ห้องนี้วางเตียง 3.5 ฟุตชิดกำแพง หน้าต่างเป็นแบบบานเลื่อนเปิดปิดได้

หลังจากวางเตียงแล้ว ปลายเตียงเหลือสเปซเล็กน้อยที่สามารถวางชั้นวางทีวีลงในช่องดังกล่าวได้พอดี

เหลือพื้นที่สำหรับตู้เสื้อผ้าและโต๊ะอเนกประสงค์ โดยมีสเปซกลางห้องให้เดินใช้งานได้อย่างสะดวก

มองย้อนกลับไปยังทางเข้าห้อง

ห้องนอนรองอีกห้องที่ทางเข้าอยู่ติดกัน

ห้องนอนรองห้องนี้มีขนาดใหญ่กว่าห้องเมื่อสักครู่นี้พอสมควร ในส่วนของหน้าต่าง หากเป็นบ้านแปลงมาตรฐานจะมีแค่บานเดียว แต่หลังนี้เป็นแปลงมุมจึงมีหน้าต่าง 2 บาน

ห้องนี้โครงการวางเตียงแค่ 3.5 ฟุต แต่ระยะจริงสามารถเลือกใช้ขนาด 5 ฟุตได้เลย

ปลายเตียงติดตั้งแนวเคาน์เตอร์โต๊ะอเนกประสงค์ให้ดูเป็นตัวอย่าง ใช้งานแบบ 2 in 1 คือเป็นโต๊ะทำงานและชั้นวางทีวี

มองย้อนกลับไปฝั่งทางเข้าห้อง จะเห็นว่ามีสเปซเหลือกว้างขวางไม่อึดอัดเวลาอยู่อาศัยจริง

สุดท้ายเราไปดู Master Bedroom ที่อยู่ทางฝั่งหน้าบ้านกันครับ

จุดเด่นของห้อง Master Bedroom นอกจากขนาดที่กว้าง โดยกว้างเท่ากับหน้ากว้างของบ้านแล้วยังมีเพดานที่สูงถึง 3 เมตร จึงดูโปร่งสบายไม่ต่างจากบ้านเดี่ยว

พื้นที่ฝั่งที่เหมาะสำหรับการพักผ่อน เลือกวางเตียงได้ทั้งไซส์ 5 และ 6 ฟุต สบายๆ เหลือทางเดินรอบเตียงแบบเดินผ่านสบาย

ปลายเตียงยังวางชุดไซด์บอร์ดได้อีกชุด

พื้นที่ทางเดินรอบเตียงเหลือแบบหลวมๆ เดินผ่านเข้าออกสบาย

อีกฝั่งของห้องเป็นโซน walk-in closet หน้าห้องน้ำ

ใกล้กับประตูทางเข้าห้อง มีมุมอเนกประสงค์ที่ทางโครงการทำตัวอย่างเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง

ฝั่งด้านข้างหัวเตียง มีสเปซทำเป็นมุมอเนกประสงค์ได้อีกมุมอย่างเช่นโต๊ะทำงาน

ด้านในบิวท์อินตู้เสื้อผ้าเต็มผนังเก็บเสื้อผ้าได้เป็นจำนวนมาก ตำแหน่งตรงนี้เหมาะที่สุดเพราะอยู่ด้านหน้าทางเข้าห้องน้ำ ซึ่งเป็นห้องน้ำในตัวของ Master Bedroom

เข้าไปดูห้องน้ำในตัวของห้องนอนหลักกันต่อครับ

เป็นห้องน้ำที่มีการแบ่งแยกโซนแห้งโซนเปียกชัดเจนด้วย Shower Box กั้นส่วนเปียกเข้ามุมเป็นสัดส่วน สุขภัณฑ์ยังคงใช้ American Standard

เปรียบเทียบวัสดุและการตกแต่งกับบ้านตัวอย่างให้เห็นชัดๆ บานเปิดปิด Shower Box เป็นแบบบานเฟี้ยม ซึ่งประหยัดพื้นที่และทำให้เข้าออกได้สะดวกกว่าแบบบานเลื่อน เพราะสามารถเปิดได้จนสุด

ออกมาจากห้องน้ำ ฝั่งตรงข้ามคือระเบียง

พื้นที่ระเบียงประมาณ 150 x 80 ซม. ยืนเล่นรับลมชมวิว หรือจะวางกระถางต้นไม้เพิ่มความร่มรื่นก็ได้

---

::: สรุปรายการวัสดุ ::: (มิ.ย. 2562)

วัสดุโดยรวม

• พื้นชั้น 1 : กระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60 x 60 ซม.
• พื้นชั้น 2 : ไม้ลามิเนต
• พื้นเฉลียงทางเข้า, พื้นระเบียง และพื้นห้องน้ำ : กระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 ซม.
• พื้นลานจอดรถ และพื้นครัวไทย : พื้นซีเมนต์ปาดเรียบ
• ผนังภายใน : ผนังฉาบเรียบทาสี
• ผนังห้องน้ำ : กระเบื้อง ขนาด 60 x 60 ซม. และกระเบื้องตกแต่ง
• ประตูภายนอก (บานเลื่อน) : ประตูบาน UPVC กระจกเขียวตัดแสง
• ประตูภายนอก (บานเปิด) : ประตูบานสำเร็จรูป UPVC มือจับลูกบิดสแตนเลส
• ประตูภายใน : ประตูบานสำเร็จรูป มือจับลูกบิดสแตนเลส
• หน้าต่างภายนอก : บานเลื่อน, บ้านกระทุ้ง และบานเปิด UPVC กระจกเขียวตัดแสง

ห้องน้ำ และสุขาภิบาล

• สุขภัณฑ์ และ Accessories : American Standard หรือเทียบเท่า

งานไฟฟ้า

• ตู้ Load Center, สวิตช์ และปลั๊กไฟ : Schneider Electric
• ดวงโคมทั่วไป : ดวงโคมดาวน์ไลท์
• ดวงโคมในห้องน้ำ : ดวงโคมซาลาเปา และดวงโคมดาวน์ไลท์

***รายละเอียด Spec ของวัสดุ อาจมีการเปลี่ยนแปลงเป็นรุ่นที่เทียบเท่า***

---

::: ราคา ::: (มิ.ย. 62)

แบบบ้าน Saint Paul : ราคา 2,920,000 บาท
ที่ดินขนาด 16.2 ตร.วา / พื้นที่ใช้สอย 96 ตร.ม. / 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ

แบบบ้าน Southamton : ราคา 3,070,000 บาท
ที่ดินขนาด 17.3 ตร.วา / พื้นที่ใช้สอย 103 ตร.ม. / 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ

แบบบ้าน Notting Hill : ราคา 3,580,000 บาท
ที่ดินขนาด 19 ตร.วา / พื้นที่ใช้สอย 117 ตร.ม. / 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ

ค่าส่วนกลาง ตร.วาละ 45 บาท/เดือน

*สอบถามราคาเพิ่มเติมกรุณาติดต่อสำนักงานขายเพื่อข้อมูลที่อัพเดตที่สุด*

---

::: บทสรุปโครงการ :::

ทำเลที่ตั้งโครงการ Golden Town งามวงศ์วาน-แคราย ตั้งอยู่ในทำเลใจกลางเมืองนนทบุรี ใกล้แยกแครายและแยกปากเกร็ด เชื่อมต่อถนนสายสำคัญได้หลายเส้นทาง โดยสามารถเข้าออกได้สองทางทั้งจากซอยนนทบุรี 39 และ ติวานนท์ 45 ทำเลดังกล่าวมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยความที่เป็นทำเลใกล้หน่วยงานราชการที่สำคัญของเมืองนนทบุรีหลายแห่ง ทั้งกระทรวงพาณิชย์, กระทรวงสาธารณสุข, กองสลากกินแบ่งรัฐบาล, ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ และศูนย์ราชการนนทบุรี จึงไม่แปลกที่ทำเลแห่งนี้จะเหมาะแก่การพักอาศัย เนื่องจากมีหน่วยงานรองรับอยู่หลายแห่ง เดินทางไปทำงานโดยไม่จำเป็นต้องเผื่อเวลาในการเดินทางมากนัก นอกจากเรื่องของหน่วยงานแล้ว สถานที่อำนวยความสะดวกก็มีอยู่หลายแห่งเพื่อรองรับการใช้งานของคนในพื้นที่ได้อย่างพอเพียง ประกอบกับเป็นทำเลที่มีรถไฟฟ้าเข้าถึง เพิ่มขีดความสามารถในการคมนาคมให้คนในย่านนี้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

ความอุดมสมบูรณ์ ภาพรวมของทำเลแห่งนี้มีสถานที่สำคัญอยู่อย่างแน่นขนัด โดยเฉพาะส่วนที่เป็นหน่วยงานราชการต่างๆ จึงส่งผลให้ทำเลแห่งนี้เป็นแหล่งงานขนาดใหญ่ ซึ่งพอเป็นทำเลที่มีผู้คนแวะเวียนมาใช้งานกันเยอะ ประกอบกับเป็นทำเลที่มีบ้านพักอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น จึงทำให้มีสถานที่อำนวยความสะดวกรอบรับความต้องการมากขึ้นตามไปด้วย ในส่วนของการใช้งานนั้นจะแยกออกเป็น 2 ส่วน คือส่วนที่อยู่ตามแนวเส้นถนนรัตนาธิเบศร์ และแนวเส้นถนนแจ้งวัฒนะ ซึ่งจากโครงการสามารถเดินทางไปใช้งานได้สะดวกทั้งสองเส้น ซึ่งรุปแบบของห้างสรรพสินค้าทั้งสองฝั่งนั้นจะค่อนข้างคล้ายคลึงกันขึ้นอยู่กับความสะดวกมากกว่า อย่างเช่น ห้างเซ็นทรัล, Big C, Tesco Lotus นั้นจะมีอยู่บนถนนทั้งสองเส้น เสริมด้วยห้างเฉพาะทางอย่างพันทิพย์ และไอทีสแควร์ที่จะเน้นไปในเรื่องอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ตอนกลางคืนมีตลาดนกฮูกเป็นแหล่งเดินเล่นหาของทานแบบชิลล์ๆ

การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว หากพูดถึงทำเลแคราย-งามวงศ์วาน-แจ้งวัฒนะ หลายคนคงนึกถึงสภาพการจราจรที่ค่อนข้างติดขัด ซึ่งจากการที่ได้ลงสำรวจพื้นที่ก็คงไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าเป็นอย่างนั้นจริงๆ แต่ผมเชื่อว่าทำเลอื่นๆ ก็คงประสบปัญหานี้ไม่ต่างกัน ซึ่งถ้าหากตัดเรื่องปัญหาการจราจรออกไปภาพรวมในการเดินทางถือว่าดูดีทีเดียว

เริ่มจากตัวโครงการอยู่ภายในซอยที่สามารถเข้าออกได้ 2 ทาง ทั้งจากซอยนนทบุรี 39 และ ซอยติวานนท์ 45 ทำให้มีความยืดหยุ่นในการเลือกใช้งานให้ตรงกับจุดมุ่งหมายที่ตั้งเอาไว้ โดยซอยนนบุรี 39 เหมาะในการใช้งานไปทางฝั่งของถนนรัตนาธิเบศร์ และแยกแคราย โดยมีถนนสนามบินน้ำและถนนเลี่ยงเมืองนนท์เป็นตัวเชื่อมสู่จุดหมายดังกล่าว ส่วนซอยติวานนท์ 45 นั้นเหมาะใช้งานขึ้นด้านบนสู่ถนนแจ้งวัฒนะ และแยกปากเกร็ด โดยมีถนนติวานนท์เป็นตัวเชื่อมสู่จุดหมาย

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ แม้ตัวโครงการอยู่ภายในซอย แต่ข้อดีคือเป็นซอยไม่ลึก หากจากถนนใหญ่ประมาณ 1 กม. เท่านั้น จึงทำให้การใช้รถสาธารณะของคนในโครงการนั้นเป็นไปได้จริงในชีวิตประจำวันครับ โดยตัวเลือกเบื้องต้นที่เหมาะสมที่สุดคือการใช้บริการพี่วินมอไซค์เพื่อไปส่งยังปากซอย ต่อยอดหารถประจำทาง หรือรถไฟฟ้าต่อไป แต่สิ่งที่ทำให้ทางเลือกในการใช้รถสาธารณะดูมีความสะดวกแก่ลูกบ้านจริงๆ แน่นอว่าต้องเป็นแนวรถไฟฟ้านั่นเอง โดยตัวโครงการนั้นอยู่ใกล้แนวรถไฟฟ้าถึง 2 สายด้วยกันได้แก่

• รถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางซื่อ-บางใหญ่ รถไฟฟ้าสายนี้เป็นสายที่สร้างเสร็จเปิดให้บริการแล้ว สถานีที่ใกล้โครงการที่สุดคือสถานีนนทบุรี 1 ตัวสถานีอยู่บริเวณหน้าห้างเซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์ ระยะทางจากโครงการถึงสถานีอยู่ที่ 4 กม. การใช้งานสำหรับเข้าเมืองนั้นรถไฟฟ้าจะมุ่งหน้าไปยังสถานีเตาปูนเชื่อมต่อสู่ Hub บางซื่อ เพื่อทำการ Interchange กับรถไฟฟ้าสายอื่น ทำให้สามารถเลือกจุดหมายในการเดินทางได้อย่างครอบคลุมทุกโซนในกรุงเทพ
• รถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ปัจจุบันรถไฟฟ้าสายสีชมพูยังไม่เปิดให้บริการ แต่โครงการดังกล่าวนั้นได้ดำเนินการลงมือก่อสร้างแล้ว และคืบหน้าไปประมาณ 30% แล้วจากโครงสร้างทั้งหมด (มิ.ย. 2562) จึงมั่นใจได้ว่าลูกบ้านจะได้ใช้งานกันอย่างแน่นอน โดยมีกำหนดการแล้วเสร็จในช่วงปลายปี 2564 ครับ ซึ่งแนวรถไฟฟ้าสายสีชมพูมีความสะดวกในการใช้งานมากกว่า ด้วยที่ตั้งของสถานีสามัคคีอยู่บริเวณปากซอยติวานนท์ 45 ห่างโครงการเพียงประมาณ 1 กม.เท่านั้น

การออกแบบโครงการและวัสดุ Golden Town สั่งสมชื่อเสียงมาจากการทำบ้านทาวน์โฮมมาหลายโครงการ จนขึ้นชื่อว่าเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมทาวน์โฮม ที่เน้นในเรื่องของฟังก์ชั่นการใช้งานที่ให้มากกว่าด้วย 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และการเสริมไปด้วยฟังก์ชั่นพิเศษต่างๆ อย่างเช่นชั้นลอย ห้องอเนกประสงค์ และการเสริมกำแพงหลังบ้านเพื่อเอื้ออำนวยสำหรับการต่อเติมครัวไทย นอกจากเรื่องของฟังก์ชั่นการออกแบบก็ทำออกมาได้ดีด้วยการนำคอนเซปต์ English Style มาเป็นแนวทางการออกแบบจึงทำให้หน้าตาของตัวบ้านดูโดดเด่น มีสไตล์ และสวยงาม มีให้เลือกถึง 3 แบบ ได้แก่

• แบบบ้าน Saint Paul : พื้นที่ใช้สอย 96 ตร.ม. / ที่ดินเริ่ม 16 ตร.ว. / 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ
• แบบบ้าน Southamton : พื้นที่ใช้สอย 103 ตร.ม / ที่ดินเริ่ม 17 ตร.ว. / 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ
• แบบบ้าน Notting Hill : พื้นที่ใช้สอย 117 ตร.ม. / ที่ดินเริ่ม 19 ตร.ว. / 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ

วัสดุที่ทางโครงการให้นั้นก็จัดว่าอยู่ในเกรดกลางๆค่อนไปทางดีในหลายจุด อย่างเช่น ประตูหน้าต่างใช้วัสดุ uPVC ที่ให้ความสวยงามทนทาน มากกว่าอลูมิเนียมทั่วไป โคมไฟฝังแบบดาวน์ไลท์แทนที่จะเป็นโคมซาลาเปาแบบเดิมๆ ห้องน้ำติดตั้ง Shower Box แยกโซนแห้งเปียกเพื่อสุขลักษณะที่ดี และห้องนอนที่ให้ฝ้าเพดานสูงเกือบ 3 เมตรให้ความโปร่งสบายขั้นสุด

สิ่งอำนวยความสะดวก – ตัวอาคารออกแบบอาคารคลับเฮ้าส์มาในสไตล์อังกฤษ ที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมโดดเด่น สวยงามน่าสนใจทีเดียว ด้านในมีทั้งสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 20 x 8 เมตร แยกสระเด็ก และห้องฟิตเนส ด้านในมีสวนสาธารณะแยกอีกหนึ่งจุดขนาดกว่า 1 ไร่ ส่วนระบบการรักษาความปลอดภัยเป็นไปตามมาตรฐานสมัยใหม่ เข้าออกด้วย Key Card แบบ Easy Pass เจ้าหน้าที่รปภ. 24 ชม. และกล้อง CCTV

---

::: คะแนน :::

ทำเลที่ตั้งโครงการ	7.8	ใกล้ถนนใหญ่ ทำเลแหล่งหน่วยงานราชการ มีความอุดมสมบูรณ์สูง
การเดินทางใช้รถ	7.6	ใกล้แยกแครายและปากเกร็ด เชื่อมต่อถนนสำคัญเมืองนนทบุรีได้สะดวก ใกล้ทางด่วนงามวงศ์วาน
การเดินทางไม่ใช้รถ	7.5	ใกล้รถไฟฟ้า 2 สายทั้งสายสีม่วงและสายสีชมพู
บ้านและวัสดุ	8.5	แบบบ้านสไตล์อังกฤษ หรูหราสวยงาม ฟังก์ชั่นการใช้งานคุ้มค่า สเปควัสดุคุณภาพสูงเทียบเท่าบ้านเดี่ยว
สิ่งอำนวยความสะดวก	8.0	อาคารคลับเฮ้าส์หรู มีทั้งสระว่ายน้ำ ฟิตเนส และสวนสาธารณะ ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม.
ความคุ้มค่ากับราคา	8.0	ตัวบ้านฟังก์ชั่นเยี่ยม ทำเลเดินทางสะดวก ใกล้ทางด่วน ตอบโจทย์ครอบครัวเริ่มต้นขนาดเล็กและครอบครัวขนาดกลาง
คะแนนรวมเฉลี่ย	7.9	ดี

---

สนใจติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 062-291-6199
Website : http://www.goldenland.co.th/Townhome/โกลเด้น-ทาวน์-งามวงศ์วาน-แคราย

หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณครับ

และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวครับ