EP.1438 รีวิว บ้านพฤกษา รังสิต-คลองหลวง 2 Baan Pruksa Rangsit-Klongluang 2

EP.1438 รีวิว ทาวน์โฮม บ้านพฤกษา รังสิต-คลองหลวง 2 Baan Pruksa Rangsit-Klongluang 2

สวัสดีแฟนเพจ Homenayoo ทุกท่านครับ วันนี้เรามีโครงการบ้านสวยๆ น่าอยู่มาฝากกันเช่นเคย โดยรีวิวฉบับนี้เราจะพาไปกันที่โครงการ บ้านพฤกษา รังสิต-คลองหลวง 2 จาก พฤกษา เรียลเอสเตท ตัวโครงการตั้งอยู่บนถนนเลียบคลองสอง หรือซอยรังสิต-นครนายก 31 อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ทำเลเดินทางสะดวกเพียง 1 นาทีจากถนนคลองหลวง, 5 นาทีจากถนนพหลโยธิน และ 10 นาทีจากถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก รายล้อมด้วยแหล่งอำนวยความสะดวก Makro, Tesco Lotus และ Zpell รังสิต ในอนาคตมีรถไฟฟ้าสายสีแดง สถานีธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต

บ้านพฤกษา รังสิต-คลองหลวง 2 เป็นโครงการทาวน์โฮม 2 ชั้น สไตล์ Tokyo Minimal สงบ เรียบง่าย เน้นการใช้งานคุ้มค่าในแต่ละพื้นที่ หน้ากว้าง 4-5 เมตร พื้นที่โครงการขนาด 32-3-87.6 ไร่ จำนวนบ้าน 337 ยูนิต มีแบบบ้านให้เลือก 2 แบบ บนที่ดินเริ่มต้น 16 ตร.ว. ขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย 95-115 ตร.ม. ขนาด 2-3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 1 คัน พร้อมนวัตกรรม Airflow System บ้านหายใจได้ ช่วยให้บ้านเย็นสบาย อากาศถ่ายเทได้ดี โครงการสร้างเสร็จแล้วพร้อมอยู่บางส่วน

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ มีสวนสาธารณะขนาดใหญ่พร้อม Jogging Track ระบบรักษาความปลอดภัยทันสมัย เข้าออกโครงการด้วยระบบ Auto Access Card พร้อมด้วยกล้องวงจรปิด และเจ้าหน้าที่รปภ. 24 ชม. ในราคาเริ่มต้น 1.39 ล้านบาท

---

---

ชื่อโครงการ	บ้านพฤกษา รังสิต-คลองหลวง 2 / Baan Pruksa Rangsit-Klongluang 2
เจ้าของโครงการ	พฤกษา / Pruksa
ลักษณะโครงการ	ทาวน์โฮม 2 ชั้น
พื้นที่โครงการ	32 – 3 – 87.6 ไร่
จำนวนบ้าน	377 ยูนิต
พื้นที่ใช้สอย	95 – 115 ตร.ม.
เนื้อที่บ้าน	เริ่มต้น 16 ตร.ว.
จำนวนห้อง	2-3 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ
ที่จอดรถทั้งหมด	1 คัน
โซน	ปทุมธานี, คลองหลวง
ขนส่งสาธารณะ	ถนนวงแหวนรอบนอก ดอนเมืองโทลล์เวย์ ทางด่วนอุดรรัถยา รถไฟฟ้าสายสีแดง สถานีธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต (อนาคต) รถไฟฟ้าสายสีแดง สถานีเชียงราก (อนาคต)
รถโดยสารที่ผ่าน	n/a
ที่ตั้ง	ซอยรังสิต-นครนายก 31 (เลียบคลองสอง) ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
กำหนดการ	เปิดจอง 16-17 ก.ย. 60
ปีที่สร้างเสร็จ	สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่อาศัยแล้วบางส่วน
ราคา	เริ่มต้น 1.39 ล้านบาท
ค่าส่วนกลางและกองทุน	30 บาท/ตร.วา/เดือน
สถานที่สำคัญใกล้เคียง	ตลาดและห้างสรรพสินค้า Makro คลองหลวง : 2.1 กม. Tesco Lotus คลองหลวง : 2.5 กม. ตลาดไท : 3.2 กม. Big C คลองสาม : 5.7 กม. Tesco Lotus คลองสี่ : 12.1 กม. Zpell รังสิต : 10.6 กม. Tesco Lotus รังสิต : 10.2 กม. ตลาดรังสิต : 10.7 กม. สถานศึกษา รร.อุดมวิทยา : 6.9 กม. รร.สารสาสน์วิเทศคลองหลวง : 4.0 กม. รร.ธัญบุรี : 11.8 กม. รร.สายปัญญารังสิต : 17.5 กม. ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต : 4.8 กม. ม.กรุงเทพ : 5.9 กม. ม.รังสิต : 15.4 กม. ม.เทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี คลองหก : 15.6 กม. สถานพยาบาล สถานีอนามัยคลองหลวง : 2.1 กม. รพ.ธรรมศาสตร์ : 5.3 กม. รพ.เอกปทุม : 8.6 กม. รพ.เปาโล เมโมเรียล รังสิต : 10.9 กม. รพ.ปทุมเวช : 12.3 กม. อื่นๆ วัดกล้าชอุ่ม : 2.4 กม. วัดพระธรรมกาย : 3.0 กม. สำนักงานเทศบาลคลองหลวง : 2.0 กม. ไพน์เฮิร์สท กอล์ฟ คลับ : 8.3 กม. พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ : 12.2 กม. Dream World : 12.3 กม. Workpoint Entertainment : 15.0 กม.
สิ่งอำนวยความสะดวก	สวนสาธารณะ เข้า-ออกโครงการระบบ Auto Access Card กล้องวงจรปิด ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.
จุดเด่นของโครงการ	บ้านพฤกษา พหลโยธิน-คลองหลวง 2 ทาวน์โฮมแนวคิดใหม่…สไตล์ญี่ปุ่น 1 นาที จากถนนคลองหลวง

---

---

---

---

---

---

โครงการใกล้เคียง

• พฤกษาวิลเลจ 12 รังสิต-คลอง 2
• เดอะ แพลนท์ รังสิต-คลองสอง
• เดอะ วิลล์ รังสิต-คลอง 2
• วิลลาจจิโอ รังสิต-คลองสอง
• อินดี้ รังสิต-คลองสอง
• ภัทรีดา อเวนิว รังสิต-คลอง 2/2
• ภัทรีดา อเวนิว รังสิต-คลองสอง
• ศุภาลัย เบลล่า รังสิต คลองสอง
• ศุภาลัย วิลล์ รังสิต คลองหลวง-คลองสอง
• บ้านพฤกษา 119 รังสิต-คลองสอง
• เดอะ คอนเนค @รังสิต
• เดอะ แพลนท์ รังสิต-คลองหลวง
• บ้านพฤกษา 44 รังสิต-คลองสอง
• บ้านไอยรา คลองสอง-รังสิต-คลองหลวง
• คิวบิค เพรสทีจ รังสิต-คลองสอง
• บ้านบุณฑรีก์ รังสิต-คลองสอง
• พรทวีวัฒน์ 5 คลอง 2-คลองหลวง
• อคาเดีย วิลล์ รังสิต-คลองสอง
• บ้านวังทอง เดอะ แพรรี รังสิต-คลองหลวง
• เดอะ พาเลต รังสิต-คลองสอง
• บ้านพฤกษา 96/2 รังสิต-คลองหลวง 2
• บ้านพฤกษา 96 รังสิต-คลองหลวง
• บ้านพฤกษา 65/2 รังสิต-คลองสอง 2
• บ้านพฤกษา 65/1 รังสิต-คลองสอง
• พฤกษาวิลล์ 100 พหลโยธิน-คลองหลวง

---

::: ที่ตั้งโครงการ :::

ซอยรังสิต-นครนายก 31 (เลียบคลองสอง) ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี

พิกัด : 14.0556080, 100.6416870

ทำเลที่ตั้งโครงการ บ้านพฤกษา รังสิต-คลองหลวง 2 ตั้งอยู่บนถนนเลียบคลองสอง หรือจะเรียกว่าซอยรังสิต-นครนายก 31 ก็ได้ ซึ่งเป็นถนนที่ทำหน้าที่เชื่อมต่อระหว่าง ถนนคลองหลวงกับถนนรังสิต-นครนายก สำหรับตัวโครงการนั้นจะอยู่ใกล้กับทางฝั่งของถนนคลองหลวงมากกว่าประมาณ 1 กม. ซึ่งหากเปรียบเทียบเรื่องความอุดมสมบูรณ์แล้ว ไม่ได้เป็นรองถนนเส้นหลักอย่างรังสิต-นครนายกเลย มีทั้ง Tesco Lotus, Makro และตลาดไท

ส่วนภาพรวมเรื่องของการเดินทางนั้นก็น่าสนใจ เพราะมีตัวเลือกในการเข้าเมืองได้หลากหลายเส้นทาง ทั้งถนนพหลโยธิน, ถนนวงแหวนกาญจนาภิเษกฝั่งตะวันออก และทางด่วนอุดรรัถยา ซึ่งทั้งหมดอยู่ในระยะที่เข้าถึงสะดวก ประกอบกับในอนาคตทำเลแห่งนี้ยังอยู่ในแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีแดงช่วงบางซื่อ-ธรรมศาสตร์อีกด้วย

การเดินทางด้วยรถยนต์ ตัวเลือกการเดินทางของคนในพื้นที่คลองหลวงส่วนใหญ่จะนิยมการใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก โดยจุดเริ่มต้นจากถนนเลียบคลองสองนั้น สามารถเลือกใช้การเดินทางได้ 2 ทางหลักคือ ถนนคลองหลวง และถนนรังสิต-นครนายก ซึ่งถนนทั้งสองเส้นนั้นถือว่าเป็นถนนเส้นสำคัญที่สุดของย่านรังสิตก็ว่าได้ เพราะมีจุดเชื่อมต่อกับถนนหลักถนนหลวงที่ใช้เข้าออกเมืองได้แก่ ถนนพหลโยธิน, ถนนกาญจนาภิเษก และทางด่วนอุดรรัถยา

ในส่วนของการเข้าเมืองนั้นอย่างที่บอกไปว่าเราสามารถเลือกใช้ได้ถึง 3 เส้นทาง ซึ่งแต่ละเส้นทางนั้นก็จะมีความเหมาะสมในแต่ละจุดมุ่งหมายแตกต่างกัน

• ถนนพหลโยธิน เป็นถนนที่จะเข้าเมืองไปทางฝั่งดอนเมืองผ่านสนามบินเชื่อมต่อสู่ถนนวิภาวดีรังสิต มุ่งหน้าต่อเนื่องเข้าเมืองไปทาง ห้าแยกลาดพร้าว, จตุจักร และดินแดง โดยที่ด้านบนนั้นจะมีทางด่วนโทลล์เวย์ (ทางด่วนอุตราภิมุข) คู่ขนานกันไปด้านบน เพื่อเป็นตัวเลือกเสริมในกรณีที่ต้องการประหยัดเวลาในการเดินทาง
• ถนนกาญจนาภิเษก หรือบางคนจะเรียกว่าถนนวงแหวนรอบนอกก็ได้ ถนนเส้นดังกล่าวมุ่งหน้าเข้าเมืองไปทางฝั่งรามอินทรา, บางกะปิ และบางนา รวมถึงสามารถเชื่อมต่อยาวไปได้ถึงโซน พระราม 2, พระราม 3 และสุขสวัสดิ์ ได้อีกด้วย แต่อย่าลืมว่าถนนกาญจนาภิเษกนั้นมีการเก็บค่าธรรมเนียมในการเข้าใช้งานนะ ซึ่งอัตราขึ้นอยู่กับระยะทาง
• ทางด่วนอุดรรัถยา (ทางด่วนสายบางปะอิน-ปากเกร็ด) อีกหนึ่งช่องทางที่ใช้เข้าเมืองได้สะดวกที่สุด โดยจะมุ่งหน้าไปทางฝั่งของแจ้งวัฒนะ เชื่อมต่อทางด่วนศรีรัชชั้นในเข้าสู่เครื่องข่ายทางด่วนเดินทางได้อย่างครอบคลุม ซึ่งทางด่วนสายนี้มีอีกหนึ่งข้อดีคือ สภาพการจราจรมักไม่ค่อยติดขัด คล่องตัวตลอดทั้งวัน อีกทั้งยังมีค่าธรรมเนียมที่ถูกกว่าทางด่วนโทลล์เวย์อีกด้วย

ส่วนฝั่งขาออกนั้นก็สามารถใช้ถนนทั้ง 3 เส้นทางที่ได้กล่าวไปในส่วนการเข้าเมือง แต่จะเปลี่ยนทิศทางมุ่งหน้าขึ้นเหนือแทน ซึ่งอาณาเขตของปทุมธานีตอนบนนั้นติดต่อกับเขตจังหวัดอยุธยาอยู่หลายอำเภอได้แก่ บางปะอิน-บางไทร-วังน้อย เลือกใช้งานได้ตามจุดประสงค์

ทางด่วนกาญจนาภิเษก การเดินทางไปยังถนนกาญจนาภิเษกจากโครงการถือว่าทำได้สะดวก เพียงออกจากซอยรังสิต-นครนายก 31 ขับไปตามถนนคลองหลวงมุ่งหน้าตะวันออก รวมระยะทาง 7.1 กม. ใช้เวลาเพียงประมาณ 10 นาทีเท่านั้น

ทางด่วนอุดรรัถยา อีกหนึ่งทางด่วนที่เดินทางจากโครงการไปใช้งานได้สะดวกไม่แพ้กัน เพียงแค่ออกจากโครงการไปทางถนนคลองหลวง จากนั้นมุ่งหน้าไปทางฝั่งตะวันตกผ่าน ม.ธรรมศาสตร์ รวมระยะทาง 8 กม. ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีเช่นกัน

แยกและถนนสำคัญใกล้เคียง

• ถนนคลองหลวง : 1.1 กม.
• ถนนรังสิต-นครนายก : 7.3 กม.
• ถนนพหลโยธิน (แยกบางขัน) : 3.9 กม.
• ถนนพหลโยธิน (แยกรังสิต) : 10.0 กม.
• ถนนกาญจนาภิเษก (แยกต่างระดับคลองหลวง) : 7.1 กม.
• ถนนกาญจนาภิเษก (แยกต่างระดับคลองห้า) : 14.1 กม.
• จุดขึ้นทางด่วนอุดรรัถยา : 8.0 กม.

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ ต้องยอมรับว่าทางเลือกในการใช้รถสาธารณะในย่านชานเมืองแบบนี้ ตัวเลือกค่อนข้างมีข้อจำกัด แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่สามารถเดินด้วยรถสาธารณะได้เลย เบื้องต้นนั้นต้องพึ่งพี่วินมอไซค์เป็นหลักเพื่อมารับส่งที่บริเวณปากซอย สำหรับต่อยอดหารถสองแถว รถแท๊กซี่ต่อไปบนถนนคลองหลวง ส่วนรถประจำทางนั้นจะต้องออกไปทางถนนพหลโยธิน ช่วงบริเวณหน้าม.ธรรมศาสตร์ครับ อีกหนึ่งการเดินทางที่คนแถวนี้นิยมคือรถตู้โดยสารที่มีท่ารถอยู่แถวหน้ามหาลัย เส้นทางส่วนใหญ่ก็จะไปทาง hub ในตัวเมืองอย่างเช่น จตุจักร, หมอชิต และอนุสาวรีย์ชัยฯ เป็นต้น

ส่วนในอนาคตนั้นตัวเลือกจะมีมากขึ้น เนื่องจากว่าทำเลคลองหลวงจะมีรถไฟฟ้าเข้าถึง โดยเป็นรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงรังสิต-ธรรมศาสตร์ เป็นส่วนที่ต่อขยายมาจากสายสีแดงช่วงบางซื่อ-รังสิตออกมาอีกที สถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานีเชียงรากมีระยะทางอยู่ที่ 7.7 กม. ส่วนสถานีธรรมศาสตร์มีระยะทางอยู่ที่ 8.3 กม. ตามข่าวที่ทางครม.เปิดเผยรถไฟฟ้าสายดังกล่าวมีโอกาสแล้วเสร็จในปี 2565 หรืออีก 3 ปีข้างหน้าครับ

ความอุดมสมบูรณ์ จุดเด่นสำคัญที่ผมอยากพูดถึงในแง่ของทำเลโครงการ เรื่องความอุดมสมบูรณ์นั้นถือว่าได้รับคะแนนท้วมท้นที่สุดเนื่องจากว่าลูกบ้าน สามารถมองหาของอุปโภคบริโภคได้โดยง่าย จากโครงการเดินทางไปตลาดไท ใช้เวลาประมาณ 5 นาที ประกอบกับวันไหนอากาศร้อนอยากเดินตลาดติดแอร์ก็มีให้เลือกทั้ง Tesco Lotus และ Makro ขนาบอยู่ทั้งสองด้านทางเข้าตลาดไท หรือถ้าหากวันไหนไม่อยากออกจากบ้านไปไหนไกล จริงๆ แล้วภายในโครงการและด้านหน้าเองก็พอหาร้านอาหารตามสั่งทานเอาได้ครับ

นอกจากเรื่องอาหารการกิน อีกหนึ่งอย่างที่ทำเลรังสิตมีชื่อเสียงคือ เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยชั้นนำหลายสถาบัน ทั้งม.ธรรมศาสตร์, ม.กรุงเทพ, ม.รังสิต และ ม.เทคโนฯราชมงคล ธัญบุรี ส่วนสถานที่ทางด้านการแพทย์ มีสถานีอนามัยดูแลเบื้องต้นอยู่หน้าปากซอย แต่ถ้าอาการน่าเป็นห่วงเลือกไปพบหมอที่โรงพยาบาลดีกว่ามีทั้ง รพ.ธรรมศาสตร์ ที่อยู่ใกล้หน่อย หรือจะไปทางฝั่งรังสิต-นครนายก ก็มีให้เลือกหลายแห่งตามความพึงพอใจ

สถานที่สำคัญบริเวณโครงการ

ตลาดและห้างสรรพสินค้า

• Makro คลองหลวง : 2.1 กม.
• Tesco Lotus คลองหลวง : 2.5 กม.
• ตลาดไท : 3.2 กม.
• Big C คลองสาม : 5.7 กม.
• Tesco Lotus คลองสี่ : 12.1 กม.
• Zpell รังสิต : 10.6 กม.
• Tesco Lotus รังสิต : 10.2 กม.
• ตลาดรังสิต : 10.7 กม.

สถานศึกษา

• รร.อุดมวิทยา : 6.9 กม.
• รร.สารสาสน์วิเทศคลองหลวง : 4.0 กม.
• รร.ธัญบุรี : 11.8 กม.
• รร.สายปัญญารังสิต : 17.5 กม.
• ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต : 4.8 กม.
• ม.กรุงเทพ : 5.9 กม.
• ม.รังสิต : 15.4 กม.
• ม.เทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี คลองหก : 15.6 กม.

สถานพยาบาล

• สถานีอนามัยคลองหลวง : 2.1 กม.
• รพ.ธรรมศาสตร์ : 5.3 กม.
• รพ.เอกปทุม : 8.6 กม.
• รพ.เปาโล เมโมเรียล รังสิต : 10.9 กม.
• รพ.ปทุมเวช : 12.3 กม.

อื่นๆ

• วัดกล้าชอุ่ม : 2.4 กม.
• วัดพระธรรมกาย : 3.0 กม.
• สำนักงานเทศบาลคลองหลวง : 2.0 กม.
• ไพน์เฮิร์สท กอล์ฟ คลับ : 8.3 กม.
• พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ : 12.2 กม.
• Dream World : 12.3 กม.
• Workpoint Entertainment : 15.0 กม.

---

::: การเดินทาง :::

เส้นทางที่ผมใช้เดินทางไปยังโครงการในวันนี้ ผมเดินทางโดยใช้ทางด่วนอุดรรัถยา (ทางด่วนบางปะอิน-ปากเกร็ด) มุ่งหน้าสู่ม.ธรรมศาสตร์รังสิต-เชียงราก หลังจากลงจากทางด่วนแล้วให้วิ่งไปตามถนนคลองหลวง ผ่านถนนพหลโยธิน จากนั้นไปกลับรถบริเวณใกล้กับทางเข้าวัดพระธรรมกายเพื่อเข้าสู่ซอยรังสิต-นครนายก 31 หรือ ถนนเลียบคลองสอง จะเห็นโครงการ บ้านพฤกษา รังสิต คลองหลวง 2 ตั้งอยู่ทางฝั่งขวามือ ซึ่งผมมีภาพประกอบการเดินทางดังนี้ครับ

สรุปการเดินทาง : ทางด่วนอุดรรัถยา > ลงทางด่วนด่านเชียงราก-ม.ธรรมศาสตร์รังสิต > ถนนคลองหลวง > กลับรถ > ซอยรังสิต-นครนายก 31 (ถนนเลียบคลองสอง) > บ้านพฤกษา รังสิต-คลองหลวง 2

เริ่นต้นการเดินทางจากทางด่วนศรีรัช ฝั่งที่มุ่งหน้าไปยังแจ้งวัฒนะ

ผ่านด่านเก็บเงินประชาชื่น ค่าธรรมเนียม 10 บาท

ขับมาตามทางด่วนฝั่งขาออกจนสุดเขตของทางด่วนศรีรัชที่บริเวณทางลงแจ้งวัฒนะ จากนั้นจะส่งต่อเข้าสู่ช่วงทางด่วนอุดรรัถยามุ่งหน้าสู่ ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต

สังเกตป้ายทางออก เชียงราก-ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต (ทางออก น.2-15) ให้เราเตรียมชิดซ้าย

ตรงทางออกมีด่านเก็บค่าธรรมเนียมของทางด่วนอุดรรัถยา 45 บาท

ผ่านด่านเก็บเงินให้เข้าช่องทางขวาฝั่งไป ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต

ตอนนี้เราจะอยู่บนถนนคลองหลวง ฝั่งที่มุ่งหน้าไปยังถนนกาญจนาภิเษก ผ่านม.ธรรมศาสตร์ โดยทางซ้ายมือสามารถเห็นโดมศูนย์กีฬาของธรรมศาสตร์ได้

มุ่งหน้าตามป้ายถนนกาญจนาภิเษก ตรงช่วงนี้จะเป็นการขึ้นสะพานเพื่อข้ามแยกบางขันผ่านถนนพหลโยธินไปยังคลองหลวง

ยังคงมุ่งหน้าตรงไปบนถนนคลองหลวง ผ่านหน้า Tesco Lotus คลองหลวง

เลยจากโลตัสมาเล็กน้อยเราจะเห็นห้างแม็คโครอยู่ข้างหน้า ให้ขึ้นสะพานข้ามแยกเพื่อหลีกเลี่ยงสัญญาณไฟจราจรที่แยกด้านล่าง

ภาพกราฟิกเพิ่มเติมช่วงก่อนเข้าซอยรังสิต-นครนายก 31 จะเห็นว่าตามแผนที่ ผมเลือกแนะนำให้ไปกลับรถที่บริเวณหน้าห้าง Cherry Mall แม้ว่าอันที่จริงแล้วจะมีจุดกลับรถที่ใกล้กว่าที่สามารถกลับรถใต้สะพานเพื่อเข้าซอยรังสิต-นครนายก 31 ได้เลย แต่เนื่องจากว่าจุดกลับรถใต้สะพานนั้นมีวงเลี้ยงในการกลับรถที่แคบ ช่องทางเดินรถไม่กว้าง รถวิ่งสวนกันลำบาก ผมจึงเสนอแนะให้ไปกลับรถที่หน้าห้าง Cherry Mall ดีกว่าครับ

จุดกลับรถใต้สะพานนี้สามารถเข้าถึงโครงการได้ด้วยระยะทางที่ใกล้กว่า แต่ถ้าดูให้ดีจะเห็นว่า วงเลี้ยวในการกลับรถค่อนข้างแคบ แถมเมื่อมีรถจากฝั่งตรงข้ามวิ่งมาก็ต้องรอคิวกันนานพอสมควร ผมจึงไม่อยากแนะนำให้ใช้เส้นทางนี้ครับ

มาดูการเดินทางที่ใช้การกลับรถหน้าห้าง Cherry Mall ที่ผมอยากแนะนำกันต่อครับ โดยจุดสังเกตคือเมื่อเห็นป้ายบอกว่าวัดพระธรรมกายชิดซ้าย ให้เราชิดซ้ายเพื่อเตรียมตัวไปกลับรถใต้สะพานครับ

วิ่งเลียบสะพานไปเพื่อไปกลับรถใต้สะพาน

จุดกลับรถอยู่บริเวณหน้า Cherry Mall ให้เรากลับรถที่จุดนี้ครับ

หลังจากกลับรถมาแล้ว ให้เราชิดซ้ายเอาไว้เลย เพื่อเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ซอยรังสิต-นครนายก 31 หรือเรียกว่าถนนเลียบคลองสองก็ได้

ถ้าหากว่าเราไปกลับรถที่ใต้สะพานจากจุดแรกที่ผมไม่แนะนำ จะมาออกที่บริเวณรถคันสีดำทางขวามือนี้ครับ

ขับมาตามซอยรังสิต-นครนายก 31 เข้ามาไม่ไกลประมาณ 700 เมตร เห็น 7-11 อยู่ทางซ้าย ให้เราเตรียมชะลอรถ

พอเลยจาก 7-11 มาเราจะเลี้ยวขวาขึ้นสะพานสีส้ม เพื่อข้ามคลอง 2 ไปยังถนนเลียบคลองอีกฝั่งซึ่งเป็นฝั่งที่ตั้งโครงการ

ลงจากสะพานให้เลี้ยวซ้าย

ถนนเลียบคลองฝั่งนี้คือถนนบงกชเป็นเส้นรองที่รถสัญจรผ่านน้อย เงียบสงบกว่าฝั่งรังสิต-นครนายก 31 เมื่อสักครู่นี้ ผ่านหน้าโครงการ บ้านพฤกษา รังสิต-คลองหลวง โครงการแรก

เลยจากโครงการแรกมาประมาณ 50 เมตร ก็จะถึงกับที่ตั้งโครงการที่เราจะมารีวิวกันในวันนี้คือ บ้านพฤกษา รังสิต-คลองหลวง 2

---

::: บริเวณโครงการ :::

หลังจากที่ถึงโครงการแล้ว เรามาดูภาพมุมสูงกันครับ ผืนที่ดินบริเวณโครงการเป็นพื้นที่บ้านพักอาศัยประกอบด้วย 5 โครงการด้วยกัน โดยมีโครงการของพฤกษาอยู่ 2 โครงการคือ บ้านพฤกษา รังสิต-คลองหลวง 1 และ 2 โดยทางทิศใต้ของโครงการติดกับที่ดินเปล่า ส่วนทางเข้าออกโครงการอยู่ทางทิศตะวันออก บริเวณคลองสอง ด้านในสุดของโครงการมีสวนสาธารณะขนาดใหญ่

ก่อนที่จะเข้าไปชมด้านในโครงการ เรามาเดินดูบรรยากาศด้านหน้าโครงการกันสักหน่อยครับ

ถนนด้านหน้าโครงการคือถนนบงกช เป็นถนนขนาด 2 เลนรถสามารถวิ่งสวนกันได้

ถนนดังกล่าวถือว่าเป็นถนนเส้นรอง ไม่ค่อยมีรถสัญจรผ่าน ให้บรรยากาศที่เงียบสงบไม่พลุกพล่าน เหมาะแก่การอยู่อาศัย

ที่ตั้งของโครงการอยู่ติดกับคลองสอง คลองลำเลียงน้ำขนาดใหญ่ และมีถนนวิ่งเลียบคลองนี้ทั้งสองฝั่ง ตามที่กล่าวไปว่าถนนบงกชหน้าโครงการนั้นเป็นถนนเส้นรองที่มีรถวิ่งน้อยกว่า

การสัญจรหลักจะไปอยู่ที่ถนนอีกฝั่งคือซอยรังสิต-นครนายก 31 ซอยที่ทำหน้าที่เชื่อมต่อระหว่างถนนคลองหลวง และถนนรังสิต-นครนายก

กลับมาที่บริเวณซุ้มโครงการ ทางด้านซ้าย

พื้นที่บริเวณนี้ในอนาคตจะมีอาคารพาณิชย์สูง 3 จำนวน 3 ยูนิตขึ้นทางด้านนี้ ซึ่งอาจจะมีร้านค้าเพิ่มเติมให้ลูกบ้านได้มีโอกาสใช้งานกัน

ส่วนทางด้านขวาของซุ้มทางเข้า มีอาคารพาณิชย์อยู่ 3 ยูนิตเช่นกัน ซึ่งอาคารพาณิชย์ทั้งหมด 6 ยูนิตที่พูดถึงเป็นของทางพฤกษาครับ

อาคารพาณิชย์ทางฝั่งนี้ มีร้านข้าวแกงปักษ์ใต้ให้ลูกบ้านสามารถมาฝากท้องกันได้ สีสันหน้าตาน่าทานดีครับ

หลังจากที่ดูบรรยากาศถนนด้านหน้าโครงการกันไปแล้ว เราจะเดินผ่านซุ้มทางเข้าไปชมด้านในโครงการกันต่อครับ

รูปแบบของหลังคาออกแบบมาอย่างทันสมัยใช้โครงเหล็กระแนง แต่ซุ้มทางเข้าแบบนี้แม้จะดูสวยงามแต่จะมีข้อด้อยในเรื่องของการบังแดดบังฝน

เรื่องระบบรักษาความปลอดภัยนั้นเป็นไปตามมาตรฐาน ผ่านเข้าออกโครงการด้วยระบบ Key Card เปิดไม้กระดกกั้น มีเจ้าหน้าที่รปภ. ประจำการตลอด 24 ชม. พร้อมกล้องวงจรปิด

กล้องวงจรปิด 2 ตัว แบ่งหน้าที่ตรวจจับใบหน้าและทะเบียนรถของผู้ที่ผ่านเข้าออก

มุมมองย้อนไปยังซุ้มทางเข้าฝั่งขาออก

ช่องทางเดินรถขาออกใช้ระบบแตะคีย์การ์ดเพื่อเปิดไม้กระดก และมีกล้อง CCTV เช่นกัน

ผ่านซุ้มทางเข้ามายังด้านในโครงการ มุมมองแรกเจอกับถนนเมนของโครงการ ซึ่งแปลนของโครงการไม่ซับซ้อนครับ มีถนนเมนเส้นหลักเส้นเดียวทอดยาวเข้าไปจนถึงสุดด้านในโครงการ ระหว่างทางแบ่งแยกซอยย่อยบ้านพักอาศัยซ้ายและขวา

ซอยแรกทางซ้ายมือคือที่ตั้งของสำนักงานขายและบ้านตัวอย่าง Hoshi II

ส่วนทางขวาเป็นซอยบ้านพักอาศัย และเป็นที่ตั้งของ Customer Service ให้คำปรึกษาและดำเนินการแก้ไขปัญหาให้แก่ลูกบ้านในโครงการ

ถนนเมนของโครงการกว้าง 16 เมตร พร้อมฟุตบาททางเดินแยกเป็นสัดส่วน ลูกบ้านเดินเท้าปลอดภัย

ด้วยขนาดถนนเมนที่กว้างทำให้แม้จะมีลูกบ้านมาจอดรถริมถนน ก็ยังรู้สึกว่ารถสามารถวิ่งผ่านสวนกันได้อย่างสะดวกไม่เกะกะ

ซอยย่อยบ้านพักอาศัยกว้าง 8 เมตร ในขณะที่แต่ละซอยย่อยจะมีบ้านพักอาศัยเพียง 8-10 ยูนิตเท่านั้น ดูเป็นส่วนตัวดีทีเดียวครับ

ด้านในสุดของโครงการมีพื้นที่สวนสาธารณะขนาดใหญ่ ภาพสวนนี้ผมเก็บมาให้ชมได้เพียงแค่มุมเดียว เนื่องจากว่าโดยรอบสวนนั้นยังมีการเก็บงานเก็บรายละเอียดอยู่บ้าง เพื่อเตรียมส่งมอบให้ลูกบ้านได้ใช้งานกันแล้วครับ

กลับมาที่บริเวณสำนักงานขายเพื่อดูแบบบ้านและสอบถามข้อมูลก่อนที่จะไปชมบ้านตัวอย่างกันครับ

---

::: แบบบ้าน :::

ภายในโครงการมีแบบบ้านอยู่ 2 แบบด้วยกัน ได้แก่

• แบบบ้าน Hana : หน้ากว้าง 4 เมตร / ที่ดินเริ่ม 16 ตร.ว. / พื้นที่ใช้สอย 95 ตร.ม. / 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ
• แบบบ้าน Hoshi II : หน้ากว้าง 5 เมตร / ที่ดินเริ่ม 16.4 ตร.ว. / พื้นที่ใช้สอย 115 ตร.ม. / 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ

แปลนบ้าน Hana

แปลนชั้น 1 : เริ่มจากหน้าบ้านสามารถจอดรถได้ 1 คัน เหลือพื้นที่ด้านข้างรถเพียงพอสำหรับทำตู้เก็บของอุปกรณ์ภายนอก เข้าไปในตัวบ้านส่วนแรก เจอกับห้องนั่งเล่นเปิดโล่งเชื่อมต่อเข้าไปด้านยังโซนรับประทานอาหาร ห้องน้ำตั้งอยู่มุมด้านใน แบบบ้านนี้จะไม่มีห้องครัว เพราะทางโครงการมีการลงเสาเข็มก่อกำแพงสูงด้านหลังรอให้ลูกบ้านทำครัวไทยอยู่แล้ว

แปลนชั้น 2 : ชั้นบนประกอบด้วยห้องนอน 2 ห้อง แบ่งเป็นห้องนอนหลักอยู่ทางฝั่งหน้าบ้านขนาดกว้างเท่ากับหน้ากว้างบ้าน และห้องนอนรองอีกห้องอยู่ทางฝั่งหลังบ้านขนาดใกล้เคียงกัน มีห้องน้ำ 1 ห้องตรงกลางโถงใช้งานร่วมกัน

มาเริ่มต้นจากแบบบ้าน Hoshi II หน้ากว้าง 5 เมตร พื้นที่ใช้สอย 115 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ

หน้าตาของบ้านเป็นสไตล์ Modern ใช้สีโทน ขาว-เทา มีลูกเล่นการใช้ Facade สีน้ำตาล เพื่อเพิ่มความเป็นญี่ปุ่นตามคอนเซปต์ Tokyo Minimal ที่หน้าต่างชั้น 2 ของห้อง Master bedroom เพิ่มระแนงเหล็กสีดำ ลดทอนแสงที่เข้าสู่ภายในและสร้างลูกเล่นให้หน้าบ้านไม่เรียบจนเกินไป

หน้ากว้างบ้าน 5 เมตร แบ่งพื้นที่ช่วงแรกของบ้านครึ่งนึงทำเป็นลานจอดรถ และอีกครึ่งนึงเป็นทางเข้าบ้านสู่ห้องนั่งเล่น

หากเป็นบ้านแปลงมุมจะมีพื้นที่สวนข้างบ้านให้ด้วย แต่ว่าไม่มีประตูทางเข้าเชื่อมต่อกับสวนจากด้านใน ได้เป็นหน้าต่างเพิ่มแสงและเรื่องการถ่ายเทอากาศให้ดีขึ้น

ลานจอดรถสามารถจอดรถได้ 1 คัน พื้นลานจอดรถของจริงให้เป็นพื้นซีเมนต์ปาดเรียบ

ไฟลานจอดรถโคมสี่เหลี่ยม เพิ่มหน้าต่างบานฟิกซ์ 1 ช่องตรงกับโถงบันไดด้านใน และช่องระบายอากาศเล็กตรงนี้คือฟังก์ชั่น Pruksa Fresh Air System หรือระบบที่ช่วยเรื่องการหมุนเวียนอากาศภายในบ้าน ซึ่งผมมีลงรายละเอียดการทำงานของฟังก์ชั่นดังกล่าวในหัวข้อแบบบ้านให้แล้วครับ

เฉลียงทางเข้าบ้านปูด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 ซม. ยกระดับขึ้น 1 สเตป

ประตูทางเข้าบ้านแบบบานเลื่อน วัสดุอลูมิเนียมสีธรรมชาติกระจกเขียวตัดแสง ด้านบนติดไฟหน้าบ้านแบบกล่องสีดำ 1 จุด

มือจับประตูแบบมีที่ล็อคในตัว

ผ่านประตูบ้านเข้ามาส่วนแรกเจอกับห้องนั่งเล่น เปิดโล่งเชื่อมต่อด้านในที่เป็นห้องรับประทานอาหาร ขวามือจะเป็นโถงบันได และห้องน้ำ วัสดุพื้นฐานที่ทางโครงการให้มาพื้นบ้านปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม. ผนังฉาบเรียบทาสีขาว ฝ้าเพดานสูง 2.6 เมตร ภายในบ้านใช้ดวงโคมสี่เหลี่ยม

ตัดสลับมาที่ภาพบ้านส่งมอบเพื่อเปรียบเทียบให้เห็นความแตกต่างว่าบ้านจริงนั้นมีลักษณะเป็นอย่างไร ของจริงผนังนั้นฉาบเรียบทาสีขาวไม่ได้ปูวอลล์เปเปอร์ให้นะครับ ในภาพที่เห็นทางโครงการเขาทำแผนผังอธิบายระบบ Airflow System

ภายในห้องนั่งเล่นสามารถวางโซฟาขนาด 2-3 ที่นั่งได้ บวกกับที่นั่งด้านข้างแบบเก้าอี้อาร์มแช์อีก 1 ตัว ด้านหลังโซฟามีหน้าต่างบานเลื่อนให้ซึ่งมีให้เฉพาะในบ้านแปลงมุมเท่านั้น

ห้องนั่งเล่นได้รับแสงสว่างจากช่องทางหลักคือประตูหน้าบ้าน ที่ทางโครงการเขาเลือกใช้แบบกระจกเขียวตัดแสง แม้จะโดนแสงเยอะแต่ก็ไม่ต้องกลัวร้อนเพราะคุณสมบัติของกระจกดังกล่าวช่วยกรองรังสียูวีได้ส่วนหนึ่ง ยิ่งหากเป็นบ้านแปลงมุมที่มีหน้าต่างหลังโซฟาด้วย ทำให้รู้สึกโปร่งสบายขึ้นอย่างมาก

ชั้นวางทีวีด้านหลังมีการตกแต่งผนังด้วยกระจกเป็นตัวอย่าง ซึ่งไอเดียดังกล่าวมีส่วนช่วยให้ภายในบ้านดูกว้างขวางและสว่างขึ้นได้

ขยับเข้าไปด้านในซึ่งเป็นโซนรับประทานอาหาร มิติในแนวกว้างมีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้นกว่าห้องนั่งเล่น

มุมรับประทานอาหารทางโครงการแบ่งการใช้งานเป็น 2 ส่วนระหว่างมุมเขียนหนังสืออเนกประสงค์ และโต๊ะทานข้าว

ระหว่างห้องนั่งเล่นและโต๊ะเขียนหนังสือนี้ ทางโครงการบิวท์อินแนงระแนงไม้เพื่อเป็นตัวแบ่งพาร์ติชั่นให้ชัดเจน รวมถึงช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวเวลาใช้งานตรงนี้ได้ประมาณนึง

โต๊ะทานข้าวมุมนี้ทางโครงการจัดวางขนาด 4 ที่นั่งให้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งเหมาะสมกับขนาดบ้าน แต่หากอยากเพิ่มขนาดให้รองรับได้มากขึ้นสำหรับคนที่มีเพื่อนบ้านแวะมาหาบ่อยๆ จะอัพขนาดเป็น 6 ที่นั่งหรือแม้แต่ 8 ที่นั่งก็ทำได้ แทนที่มุมอเนกประสงค์เมื่อสักครู่นี้

ฝั่งตรงข้ามโต๊ะทานข้าว เป็น Pantry และทางเข้าห้องน้ำ

หากเป็นบ้านเปล่าจะมีลักษณะอย่างนี้ ไม่มีฉากกั้นส่วนให้เหมือนบ้านตัวอย่าง

พื้นที่ตรงนี้นับเป็นอีกหนึ่งมุมอเนกประสงค์ ถ้าดูตามแปลนอาจจะทำเป็นห้องครัว Pantry ขนาดเล็กก็ได้ แต่อาจได้ครัวที่เล็กไปหน่อย ผัดกับข้าวทำอาหารได้ไม่เต็มที่ ซึ่งคนไทยไม่ถูกใจสิ่งนี้ จึงนิยมไปต่อเติมครัวเต็มรูปแบบกันที่ลานซักล้างด้านหลัง

ทางโครงการจึงทำเป็นมุมนั่งเล่นอเนกประสงค์แทน จะใช้นั่งทำงานหรือเขียนหนังสืออ่านหนังสือก็ได้ความเป็นส่วนตัวดีครับ

ห้องน้ำชั้นล่าง

ห้องนัำชั้นล่างนั้นเป็นแบบ Powder Room หรือห้องน้ำที่ไม่มีส่วนเปียกสำหรับอาบน้ำ

พื้นปูกระเบื้องเซรามิคสีเทา 30×30 ซม. ผนังกรุกระเบื้องสีขาวแบบผิวเรียบและแต่งลายขนาด 30×30 ซม. เช่นกัน

พื้นห้องน้ำลดระดับเล็กน้อยกันน้ำไหลไปภายในบ้าน

อ่างล้างหน้าแบบแขวนผนังของ Kohler

สุขภัณฑ์ประหยัดน้ำแบบ Dual Flush ของ Kohler พร้อมอุปกรณ์ครบชุดทั้งสายชำระ และที่แขวนกระดาษทิชชู่

ติดตั้งพัดลมดูดอากาศให้ด้วย ซึ่งมีให้เฉพาะโครงการพฤกษาในยุคหลังๆ นี้เองครับ

ทางออกไปด้านหลังสู่ลานซักล้าง

ลานซักล้างด้านหลังทางโครงการต่อเติมเป็นครัวแบบเต็มรูปแบบให้ดูเป็นตัวอย่าง โดยเป็นลักษณะของครัวฝรั่งที่ใช้เตาแบบฝัง และมีเครื่องดูดควันช่วยระบายอากาศ

ในครัวนี้มีการลงเสาเข็มเอาไว้ให้แล้วพร้อมทั้งมีผนังกำแพงสูง เอื้ออำนวยต่อการต่อเติมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

มุมด้านข้างทำเป็นมุมซักผ้า วางเครื่องซักผ้าฝาหน้าเข้าช่องที่เว้นไว้ด้านล่าง จากนั้นเสริมด้วยแนวเคาน์เตอร์สำหรับนั่งจิบกาแฟดื่มชาระหว่างรอผ้าที่กำลังซัก

อีกฝั่งหนึ่งของห้องครัวเว้นสเปซเอาไว้ให้ดูโล่ง เดินหยิบของอุปกรณ์ครัว ประกอบอาหารได้สบาย

รูปแบบครัวที่ทางโครงการให้เป็นแบบนี้ครับ มีการลงเสาเข็ม พื้นเทคอนกรีต และผนังด้านข้างสูงกว่าปกติ เอื้ออำนวยต่อการทำครัวไทยก็ได้ ครัวสมัยใหม่ก็ดี

หลังจากที่เราดูบ้านชั้นล่างกันไปแล้ว เราขึ้นไปชมด้านบนกันต่อครับ

ทางขวามีช่องแสงที่พูดถึงไปเมื่อตอนแรก ตรงกับบริเวณลานจอดรถ ช่วยเพิ่มช่องทางรับแสงธรรมชาติมายังโถงบันได

โถงบันไดสว่างตลอดทั้งวันด้วยหลังคา Sky Light ที่เป็นอีกหนึ่งช่องทางแสงช่วยให้โถงบันไดสว่างโดยไม่จำเป็นต้องเปิดไฟ บริเวณทางขึ้นลงมีราวจับตลอดทางเดิน

ขึ้นมาถึงบริเวณโถงชั้นบน พื้นของชั้น 2 ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ 60×60 ซม. เหมือนกับชั้นล่าง โถงนี้ทำหน้าที่จ่ายไปยังห้องนอนรองที่มีทั้งหมด 3 ห้อง และห้องน้ำ 1 ห้อง

พัดลมดูดอากาศตรงห้องโถง คือหัวใจหลักของฟังก์ชั่นบ้านหายใจได้ ที่จะดูดเอาอากาศร้อนที่ลอยขึ้นสูงออกไปด้านนอก รวมถึงในแต่ละห้องนอนจะมีช่องระบายอากาศติดตั้งเอาไว้ด้วย ให้ทุกห้องสามารถหมุนเวียนถ่ายเทอากาศได้ดี

เข้ามาดูกันที่ห้องน้ำชั้นบนก่อนเลยครับ ภายในห้องน้ำไม่ได้มีฟังก์ชั่นการแบ่งแยกโซนแห้งเปียก แต่ยังดีที่มีสเปซสำหรับยืนอาบน้ำเข้ามุมเป็นของตัวเอง

อ่างล้างหน้าของ Kohler

โถสุขภัณฑ์ Kohler พร้อมที่แขวนทิชชู่และสายชำระ

ฝักบัวสายอ่อนของ Englefield พร้อมที่วางสบู่ พื้นที่สำหรับอาบน้ำแม้ไม่ได้แบ่งโซนแห้ง-เปียกก็จริง แต่มีระยะห่างจากโถสุขภัณฑ์พอสมควร และมีพื้นที่ให้สามารถยืนอาบได้กว้างไม่อึดอัด

ด้านบนมีช่องหน้าต่างระบายอากาศ แต่อย่าลืมว่ามีให้เฉพาะบ้านแปลงมุมเท่านั้น เพราะแปลงปกติจะติดกับเพื่อนบ้าน

ส่วนต่อไปเราไปดูห้องนอนรอง 2 ห้องที่อยู่ทางฝั่งหลังบ้านก่อนกันครับ

ผมขอเริ่มจากห้องทางซ้ายมือ ห้องนี้ทางโครงการจัดวางเป็นห้องอเนกประสงค์ วางโซานั่งเล่น และโต๊ะทำงาน 1 ตัว เรื่องของแสงสว่างหากเป็นบ้านปกติจะมีหน้าต่างบานเดียว แต่หลังนี้เป็นบ้านแปลงมุมจึงมีหน้าต่างอยู่ 2 บาน

สเปซโดยรวมของห้อง หากว่าจะทำเป็นห้องนอนเล็ก ก็สามารถทำได้จริงครับ โดยขนาดห้องรองรับเตียงขนาด 3.5 ฟุตกำลังดี

มุมมองย้อนกลับไปยังทางเข้าห้อง

เราไปดูห้องนอนรองอีกห้องที่อยู่ติดกัน ห้องนี้จะเป็นห้องที่มีขนาดใหญ่กว่าห้องเมื่อสักครู่นี้พอสมควร

พื้นที่ห้องนี้ยังคงเหมาะสำหรับวางเตียง 3.5 ฟุตเช่นกัน มีหน้าต่างให้แสง 1 บานทางด้านหลังเตียง

ด้านข้างวางเฟอร์นิเจอร์เข้ามุมได้ทั้งโต๊ะเครื่องแป้ง และตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ โดยหลังจากที่วางเฟอร์นิเจอร์ครบแล้วยังคงเหลือ สเปซทางเดินกลางห้องให้หยิบของในตู้ หรือขึ้นลงเตียงได้โดยไม่รู้สึกอึดอัด

ทางฝั่งปลายเตียงยังมีคงเหลือพื้นที่กว้างเพียงพอสำหรับบิวท์อิน หรือวางชั้นวางทีวีได้อีกจุด

มุมมองย้อนไปยังฝั่งทางเข้าห้อง

ส่วนสุดท้ายของบ้านเราจะไปดูห้องนอนหลักกันครับ ซึ่งมีตำแหน่งอยู่ทางฝั่งหน้าบ้าน

ห้องนอนหลักมีขนาดใหญ่ ด้วยหน้ากว้างเท่ากับตัวบ้านคือ 5 เมตร ทำให้สามารถแบ่งพื้นที่การใช้งานได้อย่างเป็นสัดส่วน

ภาพบ้านเปล่า จะเห็นว่าภายในห้องมี 2 ช่องแสงเป็นตัวให้ความสว่าง โดยเป็นบานฟิกซ์ 1 บาน และบานสไลด์อลูมิเนียม 1 บาน

ภายในห้องนอนแบ่งพื้นที่ทางด้านนี้เป็นส่วนของการพักผ่อน ด้วยการวางเตียงขนาด 5 ฟุตให้ดูเป็นตัวอย่าง ทางเดินข้างเตียงทั้ง 2 ข้างยังคงมีความกว้างเพียงพอให้สามารถเดินเข้าออกได้ง่าย

หากเป็นบ้านแปลงมุม ตรงบริเวณด้านหลังหัวเตียงจะได้หน้าต่างบานสไลด์เพิ่มเข้ามาอีก 1 จุด แบบในบ้านตัวอย่างนี้

อีกด้านของห้อง เหมาะแก่การทำเป็นมุมแต่งตัว walk-in closet

พื้นที่ของส่วนนี้กว้างพอสำหรับวางตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้งเข้ามุมเป็นระเบียบได้อย่างพอดิบพอดี

ต่อไปเราชมบ้านแบบที่สองกันครับ แบบบ้าน Hana หน้ากว้าง 4 เมตร ขนาดที่ดินเริ่ม 16 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 95 ตร.ม. 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ

รั้วบ้านเป็นแบบบานพับเหล็กสีดำ ซึ่งแบบบ้าน Hoshi II ก็มีลักษณะรั้วแบบนี้เช่นกัน

ป้ายบ้านเลขที่ กริ่ง และไฟหน้าบ้าน

หากเป็นบ้านแปลงมุมที่มีพื้นที่ข้างบ้าน รั้วด้านข้างเป็นรั้วเหล็กสีดำ

บริเวณทางเข้าบ้าน เฉลียงบ้านยกสูงเล็กน้อยปูด้วยกระเบื้องเซรามิค 30×30 ซม. พร้อมก๊อกสนาม 1 ตัว ประตูบ้านบานเลื่อนอลูมิเนียมสีธรรมชาติ กระจกสีเขียวตัดแสง

เปิดประตูเข้ามาด้านในจะเป็นส่วนห้องนั่งเล่น ถัดเข้าไปคือห้องรับประทานอาหาร จัดแปลนบ้านแบบ Open plan ทำให้บ้านดูโปร่งโล่ง บ้านตัวอย่างจัดเฟอร์นิเจอร์ให้ดูเป็นตัวอย่าง ให้เห็นการใช้งานแต่ละส่วนเพื่อเป็นไอเดีย

เปรียบเทียบแบบบ้านเปล่าให้ดู จุดที่น่าสังเกตคือบริเวณบันได ที่ในแบบบ้านส่งมอบนั้นโครงบันไดจะเปิดโล่งเป็นโครงเหล็กแบบนี้ วัสดุพื้นฐานที่ทางโครงการให้มาพื้นบ้านปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม. ผนังฉาบเรียบทาสีขาว ฝ้าเพดานสูง 2.6 เมตร ภายในบ้านใช้ดวงโคมสี่เหลี่ยม

มุมมองย้อนกลับไปยังฝั่งทางเข้าบ้าน

ห้องนั่งเล่นทางโครงการวางโซฟาขนาด 2 ที่นั้ง พร้อมเก้าอี้อาร์มแชร์ และสตูล ซึ่งด้วยระยะที่มีทั้งมิติความกว้างและความลึกกว่าแบบบ้านเมื่อสักครู่ จึงสามารถปรับฟังก์ชั่นปรับขนาดการใช้งานได้อย่างหลากหลาย ทั้งโซฟาที่อาจจะขนาดใหญ่ขึ้น หรือโซฟาตัว L ก็สามารถทำได้ รองรับสูงสุด 5-6 คนได้เลยสำหรับพื้นที่ขนาดนี้

ฝั่งตรงข้ามเป็นชั้นวางทีวี อยู่บริเวณใต้โครงสร้างบันได ด้วยระยะสายตาที่ค่อนข้างห่าง การเลือกใช้ทีวีอาจต้องมีขนาดใหญ่ตามไปด้วยเพื่อให้เกิดความเหมาะสมในการรับชม

ขยับเข้าไปด้านในส่วนที่เป็นห้องรับประทานอาหาร ทางขวามีบันไดทางขึ้นชั้นบนและห้องน้ำชั้นล่าง

ในส่วนของห้องรับประทานอาหาร โครงการจัดวางโต๊ะสำหรับ 4 ที่นั่งเป็นตัวอย่าง ซึ่งหากเป็นบ้านแปลงมุมจะได้หน้าต่างเพิ่ม 1 บาน

ทางเข้าห้องน้ำชั้นล่าง

ภาพรวมเรื่องวัสดุสุขภัณฑ์จะเหมือนกับแบบบ้านที่แล้ว แต่ห้องน้ำแบบบ้านนี้จะไม่มีพัดลมดูดอากาศให้ เนื่องจากว่าที่ด้านหลังทางโครงกาาติดตั้งช่องแสงแบบที่สามารถให้อากาศถ่ายเทได้ และมีหน้าบ้านทุกหลังไม่ใช่เฉพาะแปลงมุม เพราะอยู่ทางฝั่งหลังบ้านไม่ได้ติดกับฝั่งเพื่อนบ้าน

ออกไปดูครัวด้านหลังกันครับ

ในส่วนของโครงสร้างครัวก็ไม่แตกต่างกับแบบบ้านที่แล้ว เพียงแต่จะมีความกว้างลดลงจาก 5 เมตร เหลือ 4 เมตร ซึ่งก็ยังเป็นระยะที่กว้างเพียงพอสำหรับการต่อเติมครัวได้ครบชุดแบบที่ทางโครงการทำให้ดูในภาพ ตรงกลางเป็นพื้นที่ประกอบอาหารหลัก เว้นช่องซ้ายขวา สำหรับวางตู้เย็นและเครื่องซักผ้า

โครงสร้างยังคงลงเสาเข็ม และกำแพงด้านข้างก่อสูง เพื่อให้ต่อเติมครัวไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ขึ้นไปชมด้านบนกันต่อครับ บันไดบ้านจะมีความแปลกตาเล็กน้อยด้วยวัสดุลูกนอนที่เป็นไม้สำเร็จรูปสีดำ

ตรงบริเวณหลังคาของโถงบันไดยังคงใส่ลูกเล่นหลังคา Sky Light ให้แสงสว่างช่วงระหว่างวัน

โถงชั้นบนทำหน้าที่แจกจ่ายไปยังห้องนอนหลัก, ห้องนอนรอง และห้องน้ำชั้นบน ส่วนพื้นชั้นบนปูด้วยกระเบืองแกรนิตโต้ 60×60 ซม.

มีฟังก์ชั่น Airflow System เช่นกัน ด้วยพัดลมระบายอากาศที่อยู่บริเวณโถงดูดลมร้อนออกนอกตัวบ้าน

เข้าไปดูในห้องน้ำกันครับ

ภาพรวมภายในห้องน้ำเหมือนกันทั้งเรื่องวัสดุและสุขภัณฑ์

สุขภัณฑ์ของ Kohler พร้อมอุปกรณ์ควบคู่

อ่างล้างหน้า Kohler

ส่วนอาบน้ำไม่ได้แยกโซนแห้ง-เปียก แต่มีพื้นที่เข้ามุมเป็นระเบียบ สเปซในการยืนอาบน้ำกว้างสบายไม่อึดอัด

โคมไฟแบบดาวน์ไลท์ และมีหน้าต่างช่องแสงแบบระบายอากาศได้

กลับมาที่ห้องโถงเพื่อไปดูห้องนอนรองทางฝั่งหลังบ้านกันครับ

ถึงแม้จะเป็นห้องนอนรอง แต่พื้นที่การใช้งานนั้นใกล้เคียงกับ Master Bedroom ด้วยหน้ากว้างที่เต็มหน้ากว้างของบ้านขนาด 4 เมตร

เปรียบเทียบกับภาพบ้านเปล่า มีหน้าต่างช่องแสงให้ 1 บานสำหรับบ้านแปลงปกติ และจะเพิ่มอีก 1 บานด้านข้างสำหรับบ้านแปลงมุม

ทางโครงการแบ่งพื้นที่ใช้งานป็นสองส่วน ส่วนแรกสำหรับวางเตียงนอนขนาด 3.5 ฟุต แต่ด้วยขนาดห้องที่กว้างจะเลือกใช้เตียงเป็นขนาด 5 ฟุตก็สามารถทำได้จริง ในขณะที่ปลายเตียงยังเหลือช่องทางเดิน สำหรับติดตั้งชั้นวางของหรือจะเป็นชั้นวางทีวีก็ได้เช่นกัน

อีกฝั่งหนึ่งใช้งานเป็นมุมแต่งตัว บิวท์อินตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งเข้ามุมเป็นสัดส่วน

กลับมาที่โถงกันอีกครั้งเพื่อไปชมส่วนต่อไปซึ่งเป็นส่วนสุดท้ายแล้วคือ ห้องนอนหลักที่มีตำแหน่งอยู่ทางฝั่งหน้าบ้าน

ขนาดของห้องนอนหลักกว้างเท่ากับหน้ากว้างบ้าน 4 เมตร

เปรียบเทียบกับแบบบ้านเปล่า มีหน้าต่างให้แสง 1 บานแบบบานสไลด์

ในส่วนของโซนพักผ่อน ทางโครงการวางเตียงขนาด 5 ฟุต หลังจากที่วางแล้วยังคงเหลือช่องทางเดินข้างเตียงซ้ายขวาให้ขึ้นลงเตียง เปิดปิดหน้าต่างได้สะดวก

มองไปทางฝั่งปลายเตียง ใช้งานเป็นพื้นที่แต่งตัว

หากบิวท์อินตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่แบบบ้านตัวอย่างจะได้ตู้เสื้อผ้าถึง 2 ตู้ พร้อมโต๊ะเครื่องแป้งอีก 1 ชุด

---

::: สรุปรายการวัสดุ ::: (มิ.ย. 2562)

• พื้นชั้น 1 : กระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม.
• พื้นชั้น 2 : กระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม.
• พื้นห้องน้ำ : กระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 ซม.
• พื้นเฉลียงทางเข้า และพื้นระเบียงห้องนอน : กระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 ซม.
• พื้นลานจอดรถ : พื้นซีเมนต์ปาดเรียบขัดหยาบ
• พื้นลานซักล้าง : พื้นซีเมนต์ปาดเรียบขัดหยาบ
• ผนังภายใน : ผนังฉาบเรียบทาสี
• ผนังห้องน้ำ : กระเบื้องผิวมันสีขาว และกระเบื้องลายสีขาว ขนาด 30 x 30 ซม.
• ประตูภายนอก (บานเลื่อน) : ประตูบานอลูมิเนียมสีธรรมชาติ กระจกเขียวตัดแสง
• ประตูภายนอก (บานเปิด) : ประตูบานอลูมิเนียมสีธรรมชาติ กระจกเขียวตัดแสง
• ประตูภายใน : ประตูบานสำเร็จรูป
• หน้าต่างภายนอก : บานเลื่อน และบาน Fixed อลูมิเนียมสีธรรมชาติ กระจกเขียวตัดแสง

ห้องน้ำ และสุขาภิบาล

• สุขภัณฑ์ และ Accessories : Kohler และ Englefield

งานไฟฟ้า

• ตู้ Load Center, สวิตช์ และปลั๊กไฟ : Siemens
• ดวงโคมทั่วไป : ดวงโคมสี่เหลี่ยม
• ดวงโคมในห้องน้ำ :ดวงโคมดาวน์ไลท์
• ไฟภายนอก : ดวงโคมสี่เหลี่ยม

*รายละเอียด Spec ของวัสดุ อาจมีการเปลี่ยนแปลงเป็นรุ่นที่เทียบเท่า สามารถสอบถามที่โครงการเพิ่มเติม

---

::: ราคา ::: (มิ.ย. 2562)

แบบบ้าน Hana : ราคาเริ่มต้น 1.39 ล้านบาท
ขนาดที่ดินเริ่ม 16 ตร.ว. /พื้นที่ใช้สอย 95 ตร.ม. / 2 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 1 คัน

แบบบ้าน Hoshi II : ราคาเริ่มต้น 1.5 ล้านบาท
ขนาดที่ดินเริ่ม 16.4 ตร.ว. /พื้นที่ใช้สอย 115 ตร.ม. / 3 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 1 คัน

ค่าส่วนกลาง : 30 บาท/ตร.ว./เดือน

*ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดตรวจสอบกับทางสำนักงานขายตามรายละเอียดท้ายรีวิว

---

::: สรุป :::

ทำเลที่ตั้งโครงการ บ้านพฤกษา รังสิต-คลองหลวง 2 ตั้งอยู่บนถนนเลียบคลองสอง ซึ่งเป็นถนนที่ทำหน้าที่เชื่อมต่อระหว่าง ถนนคลองหลวงกับถนนรังสิต-นครนายก โดยหากเข้าจากทางฝั่งถนนรังสิต-นครนายก คือซอยรังสิต-นครนายก 31 สำหรับตัวโครงการนั้นจะอยู่ใกล้กับทางฝั่งของถนนคลองหลวงมากกว่าประมาณ 1 กม. ซึ่งหากเปรียบเทียบเรื่องความอุดมสมบูรณ์แล้ว ไม่ได้เป็นรองถนนเส้นหลักอย่างรังสิต-นครนายกเลย มีทั้ง Tesco Lotus, Makro และตลาดไท

ส่วนภาพรวมเรื่องของการเดินทางนั้นก็น่าสนใจ เพราะมีตัวเลือกในการเข้าเมืองได้หลากหลายเส้นทาง ทั้งถนนพหลโยธิน, ถนนวงแหวนกาญจนาภิเษกฝั่งตะวันออก และทางด่วนอุดรรัถยา ซึ่งทั้งหมดอยู่ในระยะที่เข้าถึงสะดวก ประกอบกับในอนาคตทำเลแห่งนี้ยังอยู่ในแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีแดงช่วงบางซื่อ-ธรรมศาสตร์อีกด้วย

การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ตัวเลือกการเดินทางของคนในพื้นที่คลองหลวงส่วนใหญ่จะนิยมการใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก โดยจุดเริ่มต้นจากถนนเลียบคลองสองนั้น สามารถเลือกใช้การเดินทางได้ 2 ทางหลักคือ ถนนคลองหลวง และถนนรังสิต-นครนายก ซึ่งถนนทั้งสองเส้นนั้นถือว่าเป็นถนนเส้นสำคัญที่สุดของย่านรังสิตก็ว่าได้ เพราะมีจุดเชื่อมต่อกับถนนหลักถนนหลวงที่ใช้เข้าออกเมืองได้แก่ ถนนพหลโยธิน, ถนนกาญจนาภิเษก และทางด่วนอุดรรัถยา

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ ต้องยอมรับว่าทางเลือกในการใช้รถสาธารณะในย่านชานเมืองแบบนี้ ตัวเลือกค่อนข้างมีข้อจำกัด แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่สามารถเดินด้วยรถสาธารณะได้เลย เบื้องต้นนั้นต้องพึ่งพี่วินมอไซค์เป็นหลักเพื่อมารับส่งที่บริเวณปากซอย สำหรับต่อยอดหารถสองแถว รถแท๊กซี่ต่อไปบนถนนคลองหลวง ส่วนรถประจำทางนั้นจะต้องออกไปทางถนนพหลโยธิน ช่วงบริเวณหน้าม.ธรรมศาสตร์ครับ อีกหนึ่งการเดินทางที่คนแถวนี้นิยมคือรถตู้โดยสารที่มีท่ารถอยู่แถวหน้ามหาลัย เส้นทางส่วนใหญ่ก็จะไปทาง hub ในตัวเมืองอย่างเช่น จตุจักร, หมอชิต และอนุสาวรีย์ชัยฯ เป็นต้น ส่วนในอนาคตนั้นตัวเลือกจะมีมากขึ้น เนื่องจากว่าทำเลคลองหลวงจะมีรถไฟฟ้าเข้าถึง โดยเป็นรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงรังสิต-ธรรมศาสตร์

บ้านและวัสดุ โครงการทาวน์โฮม 2 ชั้น สไตล์ Tokyo Minimal สงบ เรียบง่าย เน้นการใช้งานคุ้มค่าในแต่ละพื้นที่ หน้ากว้าง 4-5 เมตร พื้นที่โครงการขนาด 32-3-87.6 ไร่ จำนวนบ้าน 337 ยูนิต มีแบบบ้านให้เลือก 2 แบบ บนที่ดินเริ่มต้น 16 ตร.ว. ขึ้นไป พื้นที่ใช้สอยประมาณ 95 ตร.ม. ขนาด 2-3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 1 คัน พร้อมนวัตกรรม Airflow System บ้านหายใจได้ ช่วยให้บ้านเย็นสบาย อากาศถ่ายเทได้ดี

แม้ขนาดของแต่ละแบบบ้านมีพื้นที่ใช้สอยไม่ได้มากมายอะไรนัก แต่เมื่อได้ชมบ้านตัวอย่างแล้ว กลับออกแบบมาได้อย่างมีฟังก์ชั่นหลักๆ ในการใช้งานอย่างครบถ้วน ไม่แพ้บ้านที่มีขนาดใหญ่กว่า ซึ่งนั่นเป็นไปตามคอนเซปต์ที่ทางโครงการวางเอาไว้ที่เน้นความ Minimal เรียบง่าย แต่เน้นที่เรื่องของการใช้งานในชีวิตจริง เพื่่อทำราคาออกมาให้คนที่ไม่จำเป็นต้องมีรายได้มากมาย ก็สามารถที่จะมีบ้านเป็นของตัวเองได้

วัสดุโดยรวมที่ทางโครงการให้เป็นมาตรฐานบ้านทาวน์โฮมสมัยใหม่ เริ่มจากประตูบ้านและหน้าต่างเป็นกระจกเขียวตัดแสง บานกรอบอลูมิเนียมสีธรรมชาติ พื้นลานจอดรถและลานซักล้างเทพื้นคอนกรีตปาดเรียบลงเสาเข็ม พื้นบ้านชั้นล่างและชั้นบน ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60 x 60 ซม. พื้นห้องน้ำปูกระเบื้องเซรามิกกันลื่น 30 x 30 ซม. บันไดเป็นโครงสร้างสำเร็จรูป ปิดหน้าด้วยลูกนอนไม้สำเร็จรูป ผนังจะได้ฉาบเรียบทาสีขาว โคมไฟทรงกลม สุขภัณฑ์ในห้องน้ำใช้ของ Kohler ส่วนก๊อกน้ำและฝักบัว Englefield

สิ่งอำนวยความสะดวก ภายในโครงการมีสวนสาธารณะขนาดใหญ่พร้อม Jogging Track ระบบรักษาความปลอดภัยทันสมัย เข้าออกโครงการด้วยระบบ Auto Access Card พร้อมด้วยกล้องวงจรปิด และเจ้าหน้าที่รปภ. 24 ชม.

---

::: คะแนน :::

ทำเลที่ตั้งโครงการ	7.6	ทำเลใกล้ถนนใหญ่ มีความอุดมสมบูรณ์สูง บรรยากาศเงียบสงบ เป็นส่วนตัว
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว	8.0	เข้าออกได้ 2 ทาง สามารถเชื่อมต่อเส้นทางหลักในการเข้าออกเมืองได้หลายเส้นทาง ทำให้มีความยืดหยุ่นในการเดินทาง
การเดินทางโดยรถสาธารณะ	7.2	รถบริการในเขตชานเมืองยังมีความสะดวกสบายน้อยกว่าตัวเมือง แต่ในอนาคตเมื่อรถไฟฟ้าเข้าถึงน่าจะมีความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น
บ้านและวัสดุ	7.5	บ้านหลังไม่ใหญ่ แต่ฟังก์ชั่นครบเน้นการใช้งาน วัสดุเกรดกลางๆ
สิ่งอำนวยความสะดวก	7.0	มีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ พร้อมลู่วิ่งจ๊อกกิ้ง ระบบรักษาความปลอดภัยได้มาตรฐานสมัยใหม่
ความคุ้มค่ากับราคา	8.0	กลุ่มตลาดของโครงการชัดเจนว่าเน้นเรื่องการใช้งาน ฟังก์ชั่นมากกว่าขนาด ทำเลอุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะหากเป็นคนพื้นที่ ที่เดินทางไปมาแค่ในปทุมธานี ถือว่าสะดวกมาก
คะแนนรวมเฉลี่ย	7.55	ดี

---

::: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :::

TEL : 1739

WEBSITE : https://baanpruksa.pruksa.com/18661/บ้านพฤกษา-รังสิต-คลองหลวง-โครงการ-2

หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณครับ

และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวครับ