EP.1770 รีวิว บ้านเดี่ยว เดอะ ซิตี้ พระราม 9-รามคำแหง THE CITY Rama 9-Ramkhamhaeng

EP.1770 รีวิว บ้านเดี่ยว เดอะ ซิตี้ พระราม 9-รามคำแหง THE CITY Rama 9-Ramkhamhaeng

Written by Gift Pannida

สวัสดีผู้อ่าน HOMENAYOO ทุกคนค่ะ วันนี้เราจะพาไปชม โครงการ THE CITY พระราม 9-รามคำแหง โครงการบ้านเดี่ยวคุณภาพใหม่ล่าสุดจาก AP Thai ตั้งอยู่บน ถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษกฯ ก่อนตัดเข้าถนนรามคำแหง ทำให้โครงการ สามารถเชื่อมต่อได้หลายเส้นทาง ทั้ง ถนนรามคำแหง ถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า และ ถนนกาญจนาภิเษก ซึ่ง 3 เส้น ถนนนี้ เป็นจุดเชื่อมต่อเมืองที่สำคัญ ทั้งโซนพระราม 9, ลาดพร้าว, ลาดกระบัง, บางนา และ รามอินทรา

นอกจากนี้โครงการ ยังสามารถเชื่อมต่อ รถไฟฟ้าในอนาคต เป็นรถไฟฟ้าสายสีส้ม สถานีสัมมากร และสถานีน้อมเกล้า ซึ่งอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 2 กม. เท่านั้น

นอกจากทำเลที่สามารถเชื่อมต่อโซนเมืองได้ง่ายแล้ว พื้นที่บริเวณรอบ ๆ ยังรายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้ง มหาวิทยาลัย โรงเรียน โรงพยาบาล ไปจนถึงโซนห้างสรรพสินค้าและคอมมูนิตี้มอลล์ใกล้โครงการ

ไม่ว่าจะเป็นโซน รามคำแหง ได้แก่ Paseo town รามคำแหง, Home pro รามคำแหง, The Mall บางกะปิ และ The Mall รามคำแหง  ไม่นับรวมคอมมูนิตี้มอลล์ ในโซน ถ.กรุงเทพกรีฑา ที่มีอีกมากมายในระยะการเดินทางที่ไม่ไกล

THE CITY พระราม 9-รามคำแหง เป็นโครงการในแบรนด์ The City ที่ออกแบบมาใน Concept โครงการ “The crown of luxury living” ที่นำเสนอ ความยอดเยี่ยมในทุก ๆ ด้านของการอยู่อาศัย พร้อมความเป็นส่วนตัว ด้วยยูนิตพักอาศัยเพียง 131 ยูนิต บนที่ดินกว่า 36 ไร่

โดยมีแบบบ้านเดี่ยว ให้เลือกถึง 4 แบบ แบ่งเป็น เริ่มตั้งแต่ 4-5 ห้องนอน 5-6 ห้องน้ำ และ 2-3 ที่จอดรถ พร้อมทั้ง ฟังก์ชั่น Double volume บริเวณห้องนั่งเล่นชั้น 1 และ ชั้น 2 ด้วยพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ 233 – 380 ตารางเมตร โดยมีที่ดินสูงสุดกว่า 100 ตร.ว. รองรับทุก Generation

สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ Lobby, สระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือ, ห้องซาวน่า, Fitness, Kid’s Club, Co-working space, Entertainment Space พร้อม Theatre Room และสวนสาธารณะ 2 จุด

ระบบรักษาความปลอดภัยมี รปภ. ตลอด 24 ชม. ลูกบ้านใช้ระบบจดจำป้ายทะเบียนในการเข้า – ออก โครงการ นอกจากนั้นจะมีใช้แอพพลิเคชั่น คัดสรร เป็นตัวใหม่ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกบ้าน ซึ่งเป็นโครงการแรกๆที่ได้ใช้เลย พร้อมติดตั้ง CCTV ไว้ตรงประตูเข้าออกและภายในโครงการ 41 จุด ในราคาเริ่มต้น 11 – 25 ล้านบาท*

 

เปิดจอง 12 – 13 ก.ย.นี้ พร้อมรับส่วนลดวันงาน 500,000 บาท* เริ่ม 11 – 25 ล้าน*

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ คลิก : https://bit.ly/2N6YHya

---

โครงการ THE CITY บนทำเลอื่นๆ… ที่น่าสนใจ

• THE CITY วัชรพล
• THE CITY พระราม 5-นครอินทร์
• THE CITY บางนา
• THE CITY รามอินทรา 3
• THE CITY ติวานนท์-งามวงศ์วาน
• THE CITY ปิ่นเกล้า-บรมฯ 2
• THE CITY รามอินทรา-วงแหวน
• THE CITY สุขุมวิท-อ่อนนุช
• THE CITY บรมราชชนนี-ทวีวัฒนา
• THE CITY พระราม 9-รามคำแหง
• THE CITY พระราม 2-พุทธบูชา
• THE CITY พระราม 9-กรุงเทพกรีฑา
• THE CITY รามอินทรา 2
• THE CITY สาทร-กัลปพฤกษ์
• THE CITY สุขสวัสดิ 64
• THE CITY สะพานมหาเจษฎาบดินทร์
• THE CITY เอกมัย-ลาดพร้าว
• THE CITY ราชพฤกษ์-ปิ่นเกล้า
• THE CITY รัชดา-วงศ์สว่าง

---

---

---

ชื่อโครงการ	เดอะ ซิตี้ พระราม 9-รามคำแหง THE CITY Rama 9-Ramkhamhaeng
เจ้าของโครงการ	เอพี ไทยแลนด์ / AP Thailand
ลักษณะโครงการ	บ้านเดี่ยวหรูหลังใหญ่ 2 ชั้น / แบบบ้าน 4 แบบ
พื้นที่โครงการ	36 ไร่
จำนวนบ้าน	131 ยูนิต
เนื้อที่บ้าน	เริ่มต้น 52.6-105 ตร.ว. ขึ้นไป
พื้นที่ใช้สอย	เริ่มต้น 233-380 ตร.ม.
จำนวนห้อง	4-5 ห้องนอน, 5-6 ห้องน้ำ, ห้องแม่บ้าน*
ที่จอดรถทั้งหมด	2-3 คัน แบบในร่ม
โซน	เขตสะพานสูง
เส้นทางคมนาคม	วงแหวนกาญจนาภิเษก ถนนรามคำแหง ถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า ถนนศรีนครินทร์ มอเตอร์เวย์ ทางพิเศษศรีรัช รถไฟฟ้าสายสีส้ม สถานีสัมมากร รถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีลำสาลี Airport Link หัวหมาก Airport Link ด่านทับช้าง สนามบินสุวรรณภูมิ
ที่ตั้ง	ถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร
กำหนดการ	เปิดจอง 12 – 13 ก.ย.นี้
ปีที่สร้างเสร็จ	n/a
ราคา	เริ่มต้น 11-25 ล้านบาท* (ส.ค.63)
ค่าส่วนกลาง	32 บาท/ตร.วา/เดือน
สถานที่สำคัญใกล้เคียง	ตลาด, ห้างสรรพสินค้า และ Community Mall ตลาดสัมมากร 2.7 กม. HomePro รามคำแหง 5 กม. The Mall บางกะปิ 6.2 กม. Kurve 7 6.7 กม. The Park 8 กม. The Nine 11.4 กม. The Mall รามคำแหง 12 กม. Big C รามคำแหง 12.5 กม. Seacon Square 13.4 กม. Paradise Park 14.5 กม. สนามบินสุวรรณภูมิ 15.9 กม. Central พระราม 9 17.1 กม. Mega Bangna 19.8 กม. Ikea 20 กม. สถานศึกษา รร.เตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า 4 กม. Ascot International School 4.1 กม. ม.นิด้า 5 กม. ม.รามคำแหง 8.1 กม. Wellington College International School 9.2 กม. รร.สาธิตรามคำแหง 9.2 กม. ม. ABAC 9.3 กม. รร.บดินทร์เดชา 10 กม. Brighton College Bangkok 10.2 กม. ม.สแตมป์ฟอร์ด 11.4 กม. Stamford International University 11.4 กม. สถานพยาบาล รพ.เกษมราษฎร์ รามคำแหง 5.3 กม. รพ.สมิติเวช ศรีนครินทร์ 9.4 กม. รพ.วิภาราม 9.5 กม. รพ.พระราม 9 15.4 กม.
สิ่งอำนวยความสะดวก	สิ่งอำนวยความสะดวก Clubhouse Lobby Fitness Kid’s club Co-working space Entertainment Space Theater Room สระว่ายน้ำระบบเกลือแยกผู้ใหญ่-เด็ก สวนสาธารณะ 2 จุด ระบบรักษาความปลอดภัย Security Gate รปภ. 24 ชม. Key Card Access CCTV สัญญาณกันขโมยระบบ Magnetic ในตัวบ้าน ระบบ KATSAN
จุดเด่นของโครงการ	บ้านหรู หลังใหญ่ 380 ตร.ม. 5 ห้องนอน 3 ที่จอดรถ เพียง 2 นาที* ถึง รถไฟฟ้า และ ทางด่วน

---

---

---

---

---

---

ที่ตั้งโครงการ

ถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร

พิกัด : https://goo.gl/maps/U3A5PKctrZxqcgbF9

โครงการ The City พระราม 9 –  รามคำแหง ตั้งอยู่บนถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก ก่อนถึงแยกรามคำแหง เชื่อมต่อถนนเส้นหลักได้ 3 เส้นทาง คือถนนศรีนครินทร์ – ร่มเกล้า, ถนนรามคำแหง และถนนกาญจนาภิเษก ใกล้ทางด่วนกาญจนาภิเษก ที่สามารถวิ่งไปเชื่อมต่อได้ทั้งทางด่วนศรีรัช และมอเตอร์เวย์ 

และในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีส้ม สถานีสัมมากร และ สถานีน้อมเกล้า จากโครงการประมาณ 2 กม. สร้างเสร็จพร้อมใช้งานประมาณปี 2566 

รอบๆ โครงการมีสิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลาย เช่น เช่น Paseo Town รามคำแหง, HomePro รามคำแหง, The Mall บางกะปิ, The Mall รามคำแหง และ Community Mall อีกหลายแห่งบนถนนกรุงเทพกรีฑา ซึ่งถือว่าอยู่ไม่ไกลจากโครงการค่ะ

ไม่ไกลจากสถานศึกษาหลายแห่ง เช่น รร.นานาชาติแอดเวนต์, รร.นานาชาติ Brighton Collage Bangkok, Wellington College International School,  ม.รามคำแหง และ ABAC เป็นต้น ส่วนรพ. ที่อยู่ใกล้โครงการ เช่น รพ.เกษมราษฎร์, รพ.รามคำแหง, รพ.สมิติเวช เป็นต้น

การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว โครงการตั้งอยู่บนถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก สามารถเข้าออกจากถนนเส้นหลักได้ 3 เส้นทาง คือ

• ถนนรามคำแหง การเข้าสู่โครงการจะต้องเข้าซอยรามคำแหง 118 ทะลุออกมาถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษกเพื่อเข้าโครงการ โดย ถนนรามคำแหง สามารถเดินทางไปทางขึ้นวงแหวนกาญจนาภิเษกฯ เพื่อเดินทางไปยังฝั่งรามอินทรา และ อ่อนนุช ลาดกระบัง รวมถึงทางด่วน ศรีรัช ได้เพียง 1 กม. เท่านั้น นอกจากนั้น ยังสามารถเดินทางเชื่อมต่อ ถนนลาดพร้าว และ เสรีไทย ได้
• ถนนศรีนครินทร์ – ร่มเกล้า สามารถวิ่งเชื่อมเข้าถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก ตรงเข้าโครงการได้เลย เส้นนี้สามารถเชื่อมต่อ ถนนกรุงเทพกรีฑา และ ถนนศรีนครินทร์ รวมถึง เดินทางเข้าเมือง อย่าง ถนนพระราม 9 โดยไม่ต้องผ่านทางด่วนได้อีกด้วย

ส่วนทางด่วน พอเราออกจากโครงการก็จะเชื่อมกับถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก วิ่งออกไปประมาณ 1.7 กม. ก็จะถึงจุดขึ้นทางด่วนฝั่งออกนอกเมือง หรือใช้เวลาขับรถถึงจุดขึ้นทางด่วนประมาณ 5 นาที เท่านั้น

ส่วนจุดขึ้นทางด่วนฝั่งขาเข้า จะอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 3 กม. หรือใช้เวลาขับประมาณ 5 – 10 นาทีค่ะ

ถนนและแยกที่สำคัญรอบโครงการ

• ถนนรามคำแหง 1.1 กม.
• ถนนเสรีไทย 2.7 กม.
• แยกลำสาลี 5.6 กม.
• ถนนศรีนครินทร์ – ร่มเกล้า 5.8 กม.
• ถนนลาดพร้าว 5.8 กม.
• แยกกรุงเทพกรีฑา 6.7 กม.
• ถนนมอเตอร์เวย์ 8.6 กม.
• แยกพัฒนาการ 8.7 กม.

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ เนื่องจากเป็นโครงการที่อยู่บนถนนคู่ขนาน ใกล้ทางด่วน จึงเน้นการใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็ฯหลัก รถสาธารณะยังไม่มีตัวเลือกให้ใช้งานเท่าไหร่ค่ะ โดยตอนนี้ยังมีแค่ Taxi วิ่งผ่านหน้าโครงการบ้าง ถ้าให้สะดวกเลยก็สามารถใช้ Application ต่างๆ ได้

แต่ในอนาคตจะมีตัวเลือกให้ใช้งานเพิ่มขึ้น เป็นรถไฟฟ้าสายสีส้ม บนเส้นรามคำแหง โดยจะมีสถานีที่อยู่ไม่ไกลจากโครงการ 2  สถานี คือ สถานีสัมมากร และสถานีน้อมเกล้า ซึ่งจะอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 2 กม. โดยรถไฟฟ้าสายสีส้มนี้จะสร้างเสร็จพร้อมใช้งานประมาณ ปี 2566

ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบโครงการ ในระยะเดินรอบๆ จะยังไม่มีร้านค้าร้านอาหารค่ะ เน้นในระยะขับรถ โดยความอุดมสมบูรณ์โดยรวมจะอยู่บนเส้นรามคำแหง เช่น  Pure Place, ตลาดสัมมากร, Golden Place, Tops Market, The Paseo Town, HomePro และ Big C  จนไปถึงแยกลำสาลี ตรงนั้นจะมี The Mall บางกะปิ เป็นห้างใหญ่ค่ะ จากตรงนั้นจะอยู่ไม่ไกลจากสถานศึกษาชื่อดังอย่าง ม.รามคำแหง ม.อัสสัมชัญ และ NIDA อีกด้วย

(ที่มาภาพ : https://www.smeleader.com/, https://the-park-shopping-center.business.site/)

นอกจากนั้นยังมี Community ที่ไม่ไกลจากโครงการ ที่อยู่บนเส้นกรุงเทพกรีฑา เช่น The Park เป็น Feel Good Mall ที่เป็นแหล่งนัดพบแหล่งใหม่ในย่านศรีนครินทร์ – กรุงเทพกรีฑา ภายใต้แนวคิด The Greenery Merging Living ได้วิวสนามกอล์ฟ ภายในมีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร ฟิตเนส และสตูดิโอพิลาทิส – โยคะ มาเปิดอย่างหลากหลาย ถัดออกไปหน่อยจะมี Market today และ Kurve 7

(ที่มาภาพ : https://th.wikipedia.org, http://www.painaidii.com, https://www.wongnai.com)

ความอุดมสมบูรณ์ที่ไม่ไกลจากโครงการอีกฝั่งจะอยู่บนเส้น ศรีนครินทร์ มีห้างใหญ่ๆ อย่าง Seacon Square, ตลาดนัดรถไฟ และ Paradise Park

ส่วนย่านพระราม 9 ที่อยู่ห่างออกไปเพียง 20 นาที ก็จะเป็นแหล่งรวมของห้างใหญ่ ๆ ทั้ง Central พระราม 9, Show DC, Fortune Town, The Nine พระราม 9 และ The Grand Rama IX เป็น Mixed – use Project ซึ่งจะเป็น Landmark สูงอันดับ 1 ในอาเซียน (แต่ปัจจุบันโครงการ The Super Tower ได้ถูกสั่งชะลอโครงการไปก่อนนะ) จากโครงการสามารถเดินทางไปได้สะดวกค่ะ

ถ้าเราขึ้นวงแหวนกาญจนาฯ ไปลงที่ เส้นรามอินทรา ตรงนั้นก็จะมีห้างใหญ่ทั้ง Fashion Island และ The Promanade อยู่ข้างกัน ตรงนั้นจะใกล้กับ รพ.สินแพทย์อีกด้วย หรือจากวงแหวนไปลงตรง เส้นบางนา – ตราด ที่ Peak ที่สุดตรงนั้นก็คือ MEGA และ IKEA บางนา, Central บางนา, Index Living Mall, Tesco Lotus, HomePro และ Makro จัดเต็มความอุดมสมบูรณ์ตลอดทั้งเส้น

ที่สำคัญคือ ใกล้ๆ โครงการจะมี รร.นานาชาติโดยรอบหลายแห่ง เช่น Brighton College bangkok, Wellington College International school, ABAC และ Stamford International University เป็นต้นค่ะ

สถานที่สำคัญรอบๆโครงการ

ตลาด, ห้างสรรพสินค้า และ Community Mall

• ตลาดสัมมากร 2.7 กม.
• HomePro รามคำแหง 5 กม.
• The Mall บางกะปิ 6.2 กม.
• Kurve 7 6.7 กม.
• The Park 8 กม.
• The Nine 11.4 กม.
• The Mall รามคำแหง 12 กม.
• Big C รามคำแหง 12.5 กม.
• Seacon Square 13.4 กม.
• Paradise Park 14.5 กม.
• สนามบินสุวรรณภูมิ 15.9 กม.
• Central พระราม 9 17.1 กม.
• Mega Bangna 19.8 กม.
• Ikea 20 กม.

สถานศึกษา

• รร.เตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า 4 กม.
• Ascot International School 4.1 กม.
• ม.นิด้า 5 กม.
• ม.รามคำแหง 8.1 กม.
• Wellington College International School 9.2 กม.
• รร.สาธิตรามคำแหง 9.2 กม.
• ม. ABAC 9.3 กม.
• รร.บดินทร์เดชา 10 กม.
• Brighton College Bangkok 10.2 กม.
• ม.สแตมป์ฟอร์ด 11.4 กม.
• Stamford International University 11.4 กม.

สถานพยาบาล

• รพ.เกษมราษฎร์ รามคำแหง 5.3 กม.
• รพ.สมิติเวช ศรีนครินทร์ 9.4 กม.
• รพ.วิภาราม 9.5 กม.
• รพ.พระราม 9 15.4 กม.

การเดินทาง

สรุปการเดินทาง ถนนพระราม 9 > เบี่ยงซ้าย > ถนนศรีนครินทร์ > ถนนกรุงเทพกรีฑา > ลอดอุโมงค์ > ถนนศรีนครินทร์ – ร่มเกล้า > โครงการ The City พระราม 9 – รามคำแหง

เริ่มการเดินทางกันบนถนนพระราม 9 มุ่งหน้าศรีนครินทร์ เราจะขับผ่าน The Nine พระราม 9 ทางซ้ายมือ ที่เป็นหนึ่งในห้างสรรพสินค้าที่อยู่ไม่ไกลจากโครงการ

ขับตรงมาเรื่อยๆ เบี่ยงซ้ายตามป้ายศรีนครินทร์

ออกซ้าย

เบี่ยงซ้ายมาแล้วชิดขวา ไม่เลี้ยวเข้าซอยทางซ้ายนะคะ

จากนั้นเบี่ยงซ้าย

เราจะเข้าสู่ถนนศรีนครินทร์ วิ่งตามป้ายมุ่งหน้ากรุงเทพกรีฑา

ใช้เลนกลาง ขึ้นทางยกระดับเพื่อเข้าถนนกรุงเทพกรีฑา

ขึ้นมาแล้วขับชิดเลนขวา

ขับออกขวาเพื่อเข้าถนนกรุงเทพกรีฑา

พอเข้าสู่ถนนกรุงเทพกรีฑาแล้ว ให้ใช้เลนขวา เพื่อลอดอุโมงค์ เข้าถนนศรีนครินทร์ – ร่มเกล้า

จากนั้นขับตรงตามทางมาเรื่อยๆ จนเห็นป้ายออกถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก เราก็ชิดซ้ายได้เลยค่ะ

ออกซ้าย

ออกมาบนถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษกแล้ว ถนนจะวิ่งแบบสวนเลนได้ เราขับตรงต่อไป จะผ่านวัดลาดบัวขาว (ราชโยธา)

ขับต่อมาจะเห็นป้ายบิลบอร์ดของโครงการทางซ้ายมือ

ขับต่อมาอีกหน่อยก็จะถึงที่ตั้ง โครงการ The City พระราม 9 – รามคำแหง แล้วค่ะ โดยระยะจากถนนศรีนครินทร์ร่มเกล้าจะอยู่ที่ 2.7 กม.

ตัวโครงการ

หน้าโครงการติดถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก

ฝั่งขวามือเป็นที่ดินเปล่า ติดคลอง ด้านในหมู่บ้านจัดสรรและที่อยู่อาศัยส่วนบุคคล ลักษณะจะเหมือนกันทั้งฝั่งซ้ายและขวาค่ะ

ตัวโครงการ

โครงการ The City พระราม 9 – รามคำแหง เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น จำนวน 131 ยูนิต บนที่ดินประมาณ 36 ไร่ ทางเข้าโครงการจะเช่ือมเข้ามาจากถนนเลียบกาญจนาภิเษกโดยจะมีสะพานข้ามคลองเชื่อมเข้ามายังตัวโครงการ 

สำหรับทางเข้าหลักจะเป็น Main Gate เชื่อมอยู่กับอาคารคลับเฮ้าส์ 

แยกทางเข้า – ออก และประตูทางเดินแยก ตรงกลางเป็นป้อม รปภ. 

ระบบรักษาความปลอดภัย ตัวประตูใช้รั้วรางเลื่อนอัตโยมัติ และรั้วกั้นไม้กระดก และใช้ระบบ Katsan ที่เป็น Application รวมระบบรักษาความปลอดภัย สำหรับลูกบ้านสามารถขับผ่านเข้าโครงการได้เลย โดยใช้ระบบจดจำป้ายทะเบียน นอกจากนั้นก็จะมี 

• การแจ้งเตือนเมื่อมีคนมาติดต่อ
• คัดแยกรถต้องสงสัย และแจ้งเตือนเมื่ออยู่เกินเวลา
• เรียก รปภ. ตำรวจ หรือ รถ รพ. ในกรณีฉุกเฉิน
• ปฏิเสธการเข้าพบได้ตั้งแต่หน้าโครงการ
• ลงทะเบียนล่วงหน้าสำหรับแขกของลูกบ้าน
• E-Stamp ผ่านมือถือ
• ค้นหาทะเบียนรถที่มาจอดขวางหน้าบ้าน

เข้ามาภายในโครงการ เรามาดูตัวคลับเฮ้าส์กันก่อนเลยค่ะ โดยตัวอาคารที่อยู่ติดกับ Main Gate จะเป็นคลับเฮ้าส์ 2 ชั้น ซึ่งเป็นส่วนกลางหลัก โดยส่วนกลางของที่นี่จะมี 2 จุด คือคลับเฮ้าส์ตรงนี้ และสวนสาธารณะด้านในค่ะ 

ด้านหน้าอาคารคลับเฮ้าส์ ตกแต่งด้วยสวนหย่อม และน้ำพุ ตัวอาคารทำเป็ฯลายหินอ่อน สีขาว ส่วนป้ายชื่อโครงการจะอยู่ด้านบนตัวอาคารเลย สวยหรูค่ะ

ภายในตัวคลับเฮ้าส์ จุดแรกจะเป็น Lobby สำหรับนั่งพักผ่อน ห้องฝ้าเพดานสูงโปร่ง ใช้ผนังกระจกรอบๆ ทำให้ห้องสว่าง จัดชุดโซฟา และโต๊ะ มาให้ 2 ฝั่ง เราสามารถมานั่งพักผ่อนเอง หรือให้แขกมานั่งคอยในนี้ก่อนก็ได้ค่ะ

ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นส่วนห้องน้ำแยกชายหญิง มีห้องน้ำและห้องอาบน้ำ พร้อมห้อง Sauna ให้บริการ

เข้ามาดูในห้องน้ำหญิงกันก่อนค่ะ ภายในห้องน้ำส่วนกลางจะตกแต่งออกมาในโทนสีเข้มๆหน่อย ดูเรียบหรู โดยจะแบ่งเป็นโซนอ่างล้างมือ  และด้านในเป็นห้องน้ำ 2 ห้อง, ห้องอาบน้ำ 2 ห้อง, โถปัสสาวะ และห้อง Sauna

ภายในห้องน้ำ และห้องอาบน้ำ

ภายในห้อง Sauna มีขนาดกลางๆ ใช้งานได้ไม่อึดอัด

ภายในห้องน้ำหญิงแบ่งโซนเหมือนในห้องน้ำชาย แค่ไม่มีโถปัสสาวะค่ะ

ด้านในเป็นห้องนำ้ และห้องอาบน้ำอย่างละ 2 ห้อง พร้อมห้อง Sauna 1 ห้อง

ติดกับห้องน้ำเป็นทางเดินเชื่อมออกไปสระว่ายน้ำ Outdoor

โซน Outdoor จะเป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือ ตัวสระเป็นแบบน้ำล้น ขนาด 18 x 6 ม. ลึก 1.2 ม.

ส่วนพื้นที่ข้างสระจะเป็น Pool Terrace ยาวๆ เกาะตามแนวสระไป 

แยกสระเด็ก ขนาด 5.9 x 3 ลึก 60 ซม. พร้อมโซน Jacuzzi และมีจุดล้างตัวก่อนลงสระ 2 จุด วิวจากสระจะดูโปร่งโล่ง และมีความเป็นส่วนตัวเพราะติดกับสระจะเป็นสวน และกำแพงที่ทำเป็นพุ่มไม้ช่วยบังสายตาจากภายนอก

พอลงมาด้านล่างจะเป็นสวนหย่อม ลงต้นไม้และหญ้าไว้ให้ ตรงนี้เด็กๆ สามารถลงมาวิ่งเล่น ออกกำลังกายใกล้ๆสระว่ายน้ำได้

ขึ้นมาชั้น 2 จะมีห้องฟิตเนสขนาดใหญ่ ทางขวามือ

ผนังในห้องฝั่งด้านในโครงการใช้เป็นกระจกใสบานสูง เกือบถึงฝ้า มองเห็นวิวภายในโครงการ ซึ่งจะได้เป็นวิวสวนด้านใน ดูโล่งสบายตา ส่วนอีกฝั่งจะติดเป็นกระจกเงาให้เราไว้เช็กท่าทางการออกกำลังกายได้

ส่วนอุปกรณ์ที่จัดมาให้ก็ครบทั้ง ลู่วิ่ง, Elliptical, จักรยานไฟฟ้า, ดัมเบล พร้อมเบาะปรับระดับได้ และตัว Machine บริหารกล้ามเนื้อ

ติดกับห้องฟิตเนส จะมีห้องน้ำแยกชาย – หญิง ไว้ให้บริการด้วย ไม่ต้องเดินลงไปใช้ที่ชั้นล่าง สะดวกดีค่ะ

ถัดเข้ามาเป็นห้อง Theatre Room ทำพื้นที่ดูหนังแบบเล่นระดับ พร้อมเก้าอี้ดูหนัง

สำหรับในตัวคลับเฮ้าส์ของ The City โครงการนี้จะมีการปรับฟังก์ชั่นด้านใน รวมถึง Interior ที่พัฒนาจากโครงการก่อนๆ  จากที่ห้อง Co – Working เป็นห้องยาวๆ รวมการใช้งานทุกฟังก์ชั่น ที่นี่จะมีแยก Zoning ห้อง Kid’s Room และ Co – Working ออกจากกัน

โดยจะยังมีผนังเป็นกระจกใสกั้นเพื่อกันเสียง และยังให้ผู้ปกครองยังสามารถมองเห็นเด็กๆ ได้

โดยในห้อง Kid’s Room จะมีบ่อบอล และชุดโต๊ะเล็กๆ ไว้ให้เด็กๆ นั่งเล่น หรือนั่งอ่านหนังสือ

ห้อง Co – Working Space จะเป็นห้องขนาดใหญ่ ผนังใช้กระจกรอบห้องอีกเช่นกัน เน้นความโปร่งโล่งในการใช้งาน โซนแรกจัดเป็นโต๊ะทำงานตัวใหญ่ สามารถเอา Laptop มานั่งทำงานได้ ตรงนี้จะมีจอเผื่องานพรีเซ้นต์มารองรับให้ด้วย

ถัดเข้ามาด้านในจะมีโต๊ะพูล เป็นโซนพักผ่อน

และด้านในสุดจะมีมุมอ่านหนังสือให้อีกจุดนึง

วิวจากห้อง Co – Working Space มองแแกไปจะเห็นสวนภายใน และพื้นที่ดินว่างเปล่าที่อยู่ข้างโครงการ

สำหรับถนนหลักมีความกว้าง 12 ม. ถนนรอง และถนนซอย 9 ม. เป็นระยะที่รถขับสวนได้สบายๆ 

และส่วนกลางอีกจุดที่เป็นสวนสาธารณะ จะอยู่ถัดเข้ามาจาก Main Gate นิดเดียวค่ะ ขนาดสวนประมาณ 485 ตร.วา 

สวนฝั่งติดถนนหลักจะมีศาลพระภูมิโครงการ

ด้านในมีทางเดินรอบสวน ตรงกลางลงไม้ประธาน และส่วนตกแต่ง

และมีโซนสนามเด็กเล่น ที่จัดเครื่องเล่นชุดใหญ่มาให้ และพื้นปูยางกันกระแทก เพื่อลดการบาดเจ็บจากการหกล้ม

แบบบ้าน

บ้านในโครงการจะมีทั้งหมด 4 แบบ คือ

• แบบบ้าน Serein ที่ดิน 52.6 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 233 ตร.ม. ขนาด 4 ห้องนอน, 5 ห้องน้ำ, 2 ห้องพักผ่อน, 1 ครัว, ที่จอดรถ 2 คัน
  

  ---

• แบบบ้าน Inscape ที่ดิน 59.35 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 275 ตร.ม. ขนาด 4 ห้องนอน, 5 ห้องน้ำ, 3 ห้องพักผ่อน (พร้อม Double volume), 1 ครัว, ที่จอดรถ 3 คัน, 1 ห้องแม่บ้าน
  

  ---

• แบบบ้าน Brivet  ที่ดิน 67.12 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 330 ตร.ม. ขนาด 4 ห้องนอน, 5 ห้องน้ำ, 3 ห้องพักผ่อน, 1 ครัว, ที่จอดรถ 3 คัน, 1 ห้องแม่บ้าน
  

  ---

• แบบบ้าน Vespertine ที่ดิน 105 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 380 ตร.ม. ขนาด 5 ห้องนอน, 6 ห้องน้ำ, 3 ห้องพักผ่อน(พร้อม Double volume ขนาดใหญ่ ), 1 ครัว, ที่จอดรถ 3 คัน, 1 ห้องแม่บ้าน

แบบบ้าน Serein ที่ดิน 52.6 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 233 ตร.ม. ขนาด 4 ห้องนอน, 5 ห้องน้ำ, 2 ห้องพักผ่อน, 1 ครัว, ที่จอดรถ 2 คัน

แปลนบ้านชั้น 1 และชั้น 2

แบบบ้าน Inscape ที่ดิน 59.35 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 275 ตร.ม. ขนาด 4 ห้องนอน, 5 ห้องน้ำ, 3 ห้องพักผ่อน (พร้อม Double volume), 1 ครัว, ที่จอดรถ 3 คัน, 1 ห้องแม่บ้าน

แปลนบ้านชั้น 1 และชั้น 2

แบบบ้าน Brivet  ที่ดิน 67.12 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 330 ตร.ม. ขนาด 4 ห้องนอน, 5 ห้องน้ำ, 3 ห้องพักผ่อน, 1 ครัว, ที่จอดรถ 3 คัน, 1 ห้องแม่บ้าน

แปลนบ้านชั้น 1 และชั้น 2

แบบบ้าน Vespertine ที่ดิน 105 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 380 ตร.ม. ขนาด 5 ห้องนอน, 6 ห้องน้ำ, 3 ห้องพักผ่อน(พร้อม Double volume ขนาดใหญ่ ), 1 ครัว, ที่จอดรถ 3 คัน, 1 ห้องแม่บ้าน

แปลนบ้านชั้น 1 และชั้น 2

---

บ้านตัวอย่าง

แบบบ้านที่เราจะพาชมวันนี้เป็นบ้านไซส์ใหญ่สุดของโครงการ คือแบบบ้าน City Vespertine ขนาด 380 ตร.ม. ที่ดินเริ่มต้น 105 ตร.วา

ตัวบ้านจัดสวนปูหญ้า และปลูกต้นไม้ใหญ่มาให้เรียบร้อย พร้อมติดตั้งระบบ Home Automation และสัญญาณกันขโมย Magnetic & Shock Sensor มาให้มาตรฐานทุกหลังค่ะ

ตัวบ้านดีไซน์มาในสไตล์ Modern Luxury ใช้โทนสีเทา และสีขาวเป็นหลัก จุดเด่นของบ้าน Type นี้ คือ เป็นบ้านหลังใหญ่, Double Volume ในห้องรับแขก, มีห้องน้ำส่วนตัวในห้องนอนทุกห้อง และมีห้องนอนชั้นล่างที่ทำออกมารองรับการเป็นห้องนอนผู้สูงอายุ

สำหรับบ้านมาตรฐาน รั้วหน้าบ้านจะได้เป็นรั้วเหล็กสีดำ รางเลื่อน 2 ตอน เราสามารถติดระบบรั้วอัตโนมัติเพื่อให้ใช้งานสะดวกขึ้นได้ ด้านข้างมีแยกประตูทางเข้าคนเดิน พร้อมติดตั้งกล่องจดหมาย, เลขที่บ้าน และกริ่งหน้า ส่วนช่องเก็บขยะจะติดตั้งไว้บริเวณรั้วหน้าบ้าน ด้านหลังเป็นช่องทิ้งขยะ ทำให้ภาพรวมโครงการดูเรียบร้อยเป็นระเบียบค่ะ 

เข้ามาในพื้นที่บ้าน ส่วนแรกเป็นที่จอดรถ 3 จอด พื้นในบ้านมาตรฐานเทพื้น On Ground แยกจากตัวบ้าน ปูคอนกรีตสแตมป์ ติดไฟดาวน์ไลท์ 

จากที่จอดรถจะมีประตูทางเข้ารอง เวลาเราซื้อของเข้าบ้านก็สามารถให้แม่บ้านเอาเข้าไปเก็บในครัวได้เลย ไม่ต้องเดินอ้อมไปเข้าทางประตูหน้า นอกจากนั้นยังทำพื้น Slope สามารถรองรับผู้สูงอายุ ที่ใช้วีลแชร์ หรือไม้เท้า ให้เดินขึ้นลงได้สะดวก

ส่วนด้านข้างจะมีช่องก็บของ ใช้เก็บพวกอุปกรณ์ทำสวน หรือทำความสะอาดได้

มาที่ทางเข้าหลักของตัวบ้าน

พื้นที่บริเวณหน้าบ้านจะเป็นเฉลียงในร่มกว้างๆ มีพื้นที่ให้วางชั้นวางรองเท้า ได้

สำหรับประตูทางเข้าหลัก จะได้เป็นบานไม้สัก 2 บาน ถ้าต้องขนของชิ้นใหญ่ๆ เข้าบ้านก็สามารถเปิดทั้ง 2 ฝั่ง ได้ค่ะ 

เข้ามาภายในตัวบ้าน ส่วนแรกเป็น Foyer หรือโถงทางเข้า พื้นที่ตรงนี้เราสามารถทำตู้เก็บรองเท้า และวางม้านั่งสำหรับนั่งใส่รองเท้าก่อนออกจากบ้านได้

เข้ามาด้านใน จะเจอพื้นที่โถงโล่ง ความสูงฝ้าเพด้านทั้ง 2 ชั้น อยู่ที่ 2.8 ม. ส่วนในบ้าน Type อื่นๆ จะมีความสูงฝ้าที่ 2.6 ม. พื้นชั้น 1 ปูกระเบื้องแกรนิตโต้ สีครีม 

พื้นที่ส่วนแรกเป็น Common Area แบ่งเป็นห้องนั่งเล่น และห้องทานอาหารขนาดใหญ่ เป็นพื้นที่ที่เป็นหัวใจของบ้านเลยก็ว่าได้ค่ะ เพราะสมาชิกในบ้านส่วนใหญ่ก็น่าจะมาใช้เวลาร่วมกันในพื้นที่โถงตรงนี้ 

โดยในห้องนั่งเล่น สามารถจัดวางโซฟาชุดใหญ่ 5 – 6 ที่นั่ง พร้อมชุดโต๊ะรับแขกได้สบายๆ

ฝั่งตรงข้ามสามารถทำเป็นชั้นวางทีวี และทำตู้เก็บของได้ มีพื้นที่ให้เก็บของได้เยอะเลยค่ะ

บ้านหลังนี้จะมี Double Living room หรือมีห้องนั่งเล่น แยกจากห้องรับแขก เพื่อความเป็นส่วนตัวของสมาชิกในบ้านค่ะ

โดยในโซนห้องรับแขกจะทำเป็น Double Volume ฝ้าเพดานสูงถึง 6.5 ม. ผนังก็ใช้เป็นกระจกสูงถึงฝ้าเลย ทำให้โถงตรงนี้ดูโปร่งมากๆ 

พื้นที่ในห้องสามารถวางชุดโซฟาไซส์ประมาณ 5 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลาง และโซฟาเดี่ยวข้างๆ ได้ ฝั่งตรงข้ามวางชั้นวางทีวี และทำตู้โชว์ของสะสมเพิ่มได้

ตัวโถง Double Volume ชั้นบนจะเชื่อมต่อกับโถงอเนกประสงค์ และชั้นลอยที่สามารถปรับเป็นห้องพระ

ติดกันเป็นห้องนอนผู้สูงอายุ ที่ทำมาอำนวยความสะดวกกับผู้สูงอายุ ตั้งแต่ตัวประตูใช้เป็นบานสไลด์ทั้งประตูเข้าห้อง และประตูห้องน้ำในตัว รวมไปถึงตัวบานประตูจะมีความกว้างกว่าไซส์ประตูปกติทั่วๆ ไปด้วย

ภายในห้องนอนปูพื้นลามิเนตลายไม้ หนา 8 มม. ให้สัมผัสที่สบายเท้ามากขึ้น

ขนาดพื้นที่ใช้งานในห้องค่อนข้างกว้างขวาง

ภายในห้องนอน  สามารถวางเตียงควีน หรือคิงส์ไซส์ได้ และมีระยะข้างเตียง ให้สามารถขึ้นลงได้สะดวก

ฝั่งปลายเตียงสามารถติดตั้งตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง และวางเก้าอี้ไว้เอนหลังนั่งอ่านหนังสือเงียบๆ ก่อนนอนได้ค่ะ

จากห้องนอนจะเป็นส่วนของห้องน้ำ ที่ใช้บานประตูสไลด์ บานใหญ่ ผู้สูงอายุสามารถใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น

ภายในห้องน้ำจะมีขนาดกว้างๆ ให้ผู้สูงอายุสามารถใช้งานได้สะดวก

ภายในห้องน้ำจะแยกฝั่งซ้ายมือเป็นพื้นที่โซนแห้ง

ใช้สุขภัณฑ์ของ American Standard อ่างล่างมือเป็นแบบลอยตัว มีตู้เก็บของด้านล่าง เหนืออ่างติดกระจกเงาบานใหญ่ และมี Low Wall ใช้วางขวดสบู่ล้างมือได้

ส่วนโถสุขภัณฑ์ติดตั้งแบบมาตรฐานมาให้ พร้อมสายชำระและที่วางกระดาษชำระ ตรงนี้เราสามารถติดราวจับสำหรับผู้สูงอายุเพื่อให้ใช้งานสะดวกขึ้นได้

โซนห้องอาบน้ำจะอยู่อีกฝั่ง ขนาดห้องอาบน้ำสามารถใช้งานได้สบายๆ ส่วนการระบายอากาศในห้องนี้จะมีช่องแสงบานกระทุ้ง กระจกฝ้าที่สามารถเปิดระบายอากาศได้ และรับแสงธรรมชาติเข้ามาภายในห้องได้บางส่วน ช่วยให้ห้องไม่อับ

ติดตั้งฝักบัวแบบปรับระดับได้ พร้อมถาดวางสบู่ และม้านั่งขนาดค่อนข้างใหญ่ ให้ใช้งานสะดวก

กลับออกมาที่พื้นที่ Common Area ติดกับห้องนั่งเล่น เป็นห้องทานอาหาร สามารถวางโต๊ะ 6 – 10 ที่นั่ง ได้ สบายๆ

 และเราสามารถแบ่งพื้นที่ทำเป็น Pantry บาร์เครื่องดื่ม หรือเคาน์เตอร์พักอาหารก่อนจัดเสิร์ฟ แบบในบ้านตัวอย่างแบบนี้ก็ได้ค่ะ

ด้านข้างเป็นประตูที่เชื่อมออกไปที่จอดรถภายนอก มีช่องแสงด้านข้างที่ช้วยรับแสงธรรมชาติเข้ามาภายในพื้นที่ห้องทานอาหาร

ติดกับห้องทานอาหาร ฝั่งซ้ายมือเป็นห้องน้ำรับรอง

ภายในจะเป็นห้องน้ำแบบ Powder Room มีเฉพาะส่วนแห้ง ติดตั้งอ่างล้างมือ และโถสุขภัณฑ์ พร้อมกระจกเงาบานใหญ่เต็มผนังมาให้แบบนี้เลย

ติดกับห้องทานอาหาร อีกฝั่งเป็นห้องครัว ครัวของที่นี่จะได้เป็นครัวไทย ปิดแยกเป็นสัดส่วน มีข้อดีตรงที่เราไม่ต้องกังวลว่ากลิ่นอาหารจะไปติดเฟอร์นิเจอร์ส่วนห้องอื่นๆ ของบ้าน

ครัวเค้าทำมาให้แทบจะพร้อมใช้งานเลย คือมีเคาน์เตอร์ครัว พร้อมตู้ลอยและหน้าบานมาให้ตามนี้ รวมถึงเครื่องดูดควัน และซิ้งค์ล้างจานด้วย

ช่องแสงในห้องได้เป็นหน้าต่างบานสไลด์ 2 ชุด รับแสงธรรมชาติเข้ามาในครัว ช่วยจัดการเชื้อแบคทีเรีย ทำให้ห้องไม่อับ 

โดย Top ใช้เป็นหินแกรนิตสีดำ ใต้ซิ้งค์มีถังขยะพร้อมฝาปิดมาให้เรียบร้อย 

ตู้ด้านบนติดตั้งมาให้พร้อมใช้งาน ด้านในแบ่งเป็นชั้นวางมาให้เรียบร้อย

นอกจากนั้นยังมีพัดลมระบายอากาศช่วยระบายอากาศเพิ่มอีก 1 จุด

ติดกับครัวจะเป็นโซนลานซักล้าง และห้องพักแม่บ้าน ซึ่งจะมีแยกเป็นห้องนอนและห้องน้ำมาให้เรียบร้อยค่ะ 

ส่วนลานซักล้างจะปูเป็นพื้นคอนกรีตปาดเรียบ เทพื้น On Ground พร้อมติดตั้งก๊อกน้ำ และเต้าเสียบปลั๊กไฟสำหรับติดตั้งเครื่องซักผ้า

กลับเข้ามาในตัวบ้าน เราไปดูบนชั้น 2 กันต่อ โดยบันไดจะเป็น คสล. ลูกนอนไม้แท้ มีราวกันตกตั้งแต่ขั้นแรกเลย 

ส่วนด้านข้างจะเป็นห้องเก็บของใต้บันได มีติดตั้งหลอดไฟฟลูออเรสเซ้นต์มาให้ ภายในมีพื้นที่ให้ใช้เก็บของได้เยอะพอสมควร

ชานพักบันไดเป็นแบบสี่เหลี่ยมเต็มขั้น เดินขึ้น – ลง ได้อย่างปลอดภัย มีช่องแสงติดตั้งมาให้ ช่วยเซฟค่าไฟในช่วงเวลากลางวัน

ขึ้นมาที่ชั้น 2 พื้นชั้นนี้ปูลามิเนตทั้งชั้น 

ส่วนแรกติดกับโถงบันได จะเป็นชั้นลอยที่สามารถทำเป็นห้องพระ หรือมุมนั่งทำสมาธิ/อ่านหนังสือ

ด้านบนจะมีช่องแสงมาให้อีกบาน ทำให้การใช้งานไม่อึดอัดค่ะ

ติดกันจะเป็นโถงอเนกประสงค์เปิดโล่ง มุมนี้เราสามารถทำเป็นห้องทำงาน หรือพื้นที่นั่งพักผ่อนอีกจุดได้ บรรยากาศค่อนข้างโปร่งโล่ง ทั้งช่องแสงด้านหลัง และจากช่องแสงบานใหญ่ในโถง Double Volume 

สามารถมองลงไปเห็นห้องรับแขกด้านล่างได้ เวลาแขกไปใครมาก็สามารถมองเห็นได้ชัดเจน

จากพื้นที่โถงอเนกประสงค์ จะอยู่ติดกับห้องนอนรองห้องแรก โดยในบ้านมาตรฐาน จะกั้นเป็นผนังเต็มไปเลย ไม่ได้แยกส่วนห้องน้ำแบบในบ้านตัวอย่างนะคะ โดยห้องน้ำฝั่งขวามือจะอยู่ในห้องนอนรองค่ะ เป็นห้องน้ำส่วนตัว

ในบ้านตัวอย่างเค้าจัดฟังก์ชั่นเป็นห้อง Home Theatre มาให้ดูเป็นไอเดีย และกั้นห้องน้ำแยกออกมา ทำให้สามารถใช้งานได้ทั้งจากโถงอเนกประสงค์ และห้อง Home Theatre

ภายในห้องน้ำติดตั้งสุขภัณฑ์ American Standard ทั้งหมด แยกโซนแห้ง โซนเปียก 

ช่องแสงในห้องน้ำเป็นบานกระทุ้งกระจกฝ้า ติดตั้งไว้บริเวณในห้องอาบน้ำ

ภายในห้อง Home Theatre สามารถวางโซฟาไซส์ใหญ่ 5 – 6 ที่นั่ง ได้ ช่องแสงในห้องเป็นหน้าต่างบานสไลด์ฝั่งหลังบ้าน

ส่วนการปรับเป็นห้องนอนจะสามารถวางเตียง คิงส์ หรือควีนไซส์ก็ได้ค่ะ เพราะพื้นที่ค่อนข้างกว้าง ส่วนตู้เสื้อผ้าจะสามารถวางบริเวณหน้าห้องน้ำได้ 

จากบริเวณโถงอเนกประสงค์ อีกฝั่งของตัวบ้านจะเป็นโถงทางเดินที่เชื่อมไปยังห้องนอนอีก 3 ห้อง

บริเวณโถงจะมีตัวควบคุมสัญญาณกันขโมย ในระบบ Magnetic &Shock Sensor ที่ติดตั้งมาให้ทุกหลัง โดยตัวสัญญาณจะติดอยู่ตรงประตูและหน้าต่าง เมื่อมีการเปิด – ปิด ก็จะส่งสัญญาณเตือนค่ะ

เข้ามาดูห้องนอนรองห้องที่ 2 ทางฝั่งขวามือกันก่อน

ห้องนี้จะมีขนาดที่สามารถใช้งานได้สะดวก จริงๆ แล้วขนาดของห้องนี้จะเท่าๆ กันกับห้องที่แล้วเลยค่ะ Layout ห้องก็เหมือนกันแค่ Mirror เราสามารถกะประมาณพื้นที่การใช้งานตามห้องนี้ได้เลย 

โดยพื้นที่ในห้องมีมุมให้วางเตียงคิงส์ หรือควีนไซส์ ด้านข้างสามารถทำโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้งได้ 

ส่วนฝั่งปลายเตียง จะเป็นห้องน้ำ และมุมที่สามารถวางตู้เสื้อผ้า ทำเป็น Walk – in Closet เล็กๆ ได้ โดยเราจะเปิดโล่งๆ แบบนี้ก็ได้ หรือจะกั้นด้วยประตูบานสไลด์ให้เป็นสัดส่วนด้วยก็ได้ค่ะ

ด้านในสามารถวางตู้เสื้อผ้าไซส์กลาง พร้อมโต๊ะเครื่องแป้งได้

ห้องน้ำจะเมหือนห้องอื่นๆ แยกโซนแห้ง โซนเปียก ใช้สุขภัณฑ์ American Standard และมีช่องแสงเป็นบานกระทุ้งกระจกฝ้า

ภายในห้องอาบน้ำติดตั้งฝักบัว และเจาะช่องสำหรับวางขวดแชมพูมาให้ตามนี้

ขนาดห้องอาบน้ำสามารถยืนอาบได้สบายๆ

ถัดเข้ามาเป็นส่วนห้อง Master Bdroom และห้องนอนรองอีก 1 ห้อง

Master Bedroom เป็นห้องนอนที่มีขนาดใหญ่สุดในบ้าน ห้องนี้จะมีระเบียง, Walk – in Closet และห้องน้ำขนาดใหญ่ในตัว 

สำหรับพื้นที่ในส่วนพักผ่อน สามารถวางเตียงคิงส์ไซส์ได้สบายๆ

ปลายเตียงสามารถวาง Bench Bed หรือโซฟาตัวเล็กๆ และชั้นวางทีวีได้ มีระยะให้เดินผ่านได้สะดวก

ช่องแสงภายในห้องได้เป็นหน้าต่างบานยาว และประตูเชื่อมระเบียงภายนอก รับแสงธรรมชาติเข้ามาในห้องได้เยอะ ช่วยให้ห้องสว่าง

ส่วนระเบียงจะได้ระเบียงกว้างมากค่ะ ยาวไปจนถึงด้านบนของโรงจอดรถเลย เราสามารถทำสวนส่วนตัวบนชั้น 2 ได้ หรือจะหาชุดโต๊ะกาแฟเล็กๆ ไว้มานั่งจิบชากาแฟ ตอนเช้าๆ ก็ได้

โดยราวกันตกจะเป็นกระจกใส ช่วยเปิดมุมมองจากห้องนอนมองออกมาภายนอก ให้ดูโปร่งโล่งมากขึ้น

ระเบียงอีกฝั่งยาวมาจนถึงบริเวณ Walk – in Closet

ส่วน Walk – in Closet ในบ้านมาตรฐานจะเป็นพื้นที่โล่งๆ นะคะ เราสามารถปรับขนาดพื้นที่ได้ตามแบบที่ต้องการได้เลย อย่างในบ้านตัวอย่าง เค้าจะกั้นไว้ด้านหลังชั้นวางทีวี

ภายในสามารถติดตั้งตู้เสื้อผ้าไซส์ใหญ่ๆได้ มีพื้นที่ให้ยืนเลือกเสื้อผ้าได้สะดวก 

ติดกับ Walk – in Closet เป็นห้องน้ำ

ห้องน้ำ Master Bedroom จะมีขนาดกว้างมากๆ และสุขภัณฑ์จะได้อัพสเปกขึ้นมา

 อย่างอ่างล้างมือได้เป็นแบบฝังเคาน์เตอร์ สามารถติดต้ังตู้เก็บของด้านล่างเพิ่มได้เอง ส่วนอ่างได้เป็นแบบ His & Hers พร้อมกระจกเงาบานใหญ่มาก

นอกจากนั้นในส่วนพื้นที่อาบน้ำ จะได้ทั้งอ่างอาบน้ำแบบฝัง ขนาดมาตรฐาน นอนแช่น้ำได้ แยกจากโซน Shower ที่จะมีฉากกั้นอาบน้ำติดตั้งมาให้ด้วยค่ะ ส่วนช่องแสงในห้องน้ำได้เป็น 2 ฝั่ง ระบายอากาศได้ดียิ่งขึ้น

ฝั่งตรงข้ามเป็นโถสุขภัณฑ์ และ โซน Shower

ติดตั้ง Shower Box แยกเป็นสัดส่วน ด้านในติดตั้งฝักบัว และเจาะช่องวางขวดสบู่ และแชมพู

มาที่ห้องนอนรองห้องสุดท้าย 

ห้องนี้เข้ามาจะเจอห้องน้ำก่อน บริเวณหน้าห้องน้ำสามารถทำเป็น Walk – in Closet เล็กๆ ได้

ภายในห้องน้ำจะสเปกเหมือนห้องนอนรองที่เราชมกันมาก่อนหน้านี้ค่ะ ใช้สุขภัณฑ์ American Standard ทั้งหมด มีช่องแสงในห้องเป็นบานกระทุ้ง กระจกฝ้า

ส่วนด้านในห้องนอน จะมีขนาดที่สามารถใช้งานได้กำลังดี พื้นที่ในห้องจะกว้างกว่าห้องนอนรอง 1 และ 2 นิดหน่อย

โดยพื้นที่ ที่เพิ่มขึ้นมา เราสามารถทำเป็นมุมวางโต๊ะทำงาน หรือ Built – in ตู้เสื้อผ้าเพิ่มได้ ในกรณีที่เรามีเสื้อผ้าเยอะค่ะ

ส่วนช่องแสงในห้องจะมีทั้ง 2 ฝั่ง เวลาเราอยากระบายอากาศในห้อง ก็จะสามารถระบายอากาศได้ดีขึ้นค่ะ

บริเวณปลายเตียง หลังจากวางเตียงควีนไซส์แล้ว จะมีระยะให้ทำชั้นวางทีวีได้ค่ะ

---

ราคา (ส.ค.2563)

• ราคาเริ่มต้น 11 – 25 ล้านบาท
  • จอง 100,000 บาท
  • ทำสัญญา 200,000 บาท

• ค่าส่วนกลาง 32 บาท/ตร.วา
• ที่ดินเพิ่ม – ลด 120,000 บาท/ตร.วา

 

เปิดจอง 12 – 13 ก.ย.นี้ พร้อมรับส่วนลดวันงาน 500,000 บาท* เริ่ม 11 – 25 ล้าน*

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ คลิก : https://bit.ly/2N6YHya

---

สรุป

ทำเลที่ตั้ง : โครงการ The City พระราม 9 – รามคำแหง เหมาะกับคนที่กำลังมองหาบ้านเดี่ยว ในทำเลที่ใกล้ทางด่วน เดินทางไปโซน รามคำแหง, ศรีนครินทร์, ร่มเกล้า, พระราม 9 หรือโซนบางนา รามอินทรา ได้สะดวก 

ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกรอบๆ โครงการนี้จะเน้นเป็นระยะขับรถค่ะ โดยความอุดมสมบูรณ์ที่อยู่ไม่ไกลจากโครงการ พวกห้างใหญ่ๆ โรงพยาบาล จะอยู่บนเส้นรามคำแหง และศรีนครินทร์เป็นหลัก แต่ก็ยังมีตัวเลือกอย่างบนถนนกรุงเทพกรีฑา ที่มี Community Mall และร้านอาหารให้เลือก ซึ่งก็อยู่ไม่ไกลจากโครงการมาก

และสำหรับคนที่มีเด็กๆ โซนนี้ก็มีสถานศึกษาหลายแห่งค่ะ โดยที่ใกล้ๆ กับโครงการส่วนใหญ่ก็จะเป็นโรงเรียนนานาชาติ เช่น รร.นานาชาติแอดเวนต์, รร.นานาชาติ Brighton College bangkok, Wellington international school, รามคำแหง และ ABAC เป็นต้น

การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว : ตัวโครงการตั้งอยู่บนถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษกก่อน ถึงแยกรามคำแหง เชื่อมต่อถนนเส้นหลักได้ 3 เส้นทาง คือถนนศรีนครินทร์ – ร่มเกล้า, ถนนรามคำแหง และถนนกาญจนาภิเษก ใกล้ทางด่วนกาญจนาภิเษก เชื่อมต่อได้ทั้งทางด่วนศรีรัช และมอเตอร์เวย์ ที่ใช้วิ่งเข้า – ออกตัวเมืองได้สะดวก 

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ : ปัจจุบันโครงการนี้เหมาะกับคนที่มีรถส่วนตัวมากกว่า เนื่องจากจะไม่มีรถสาธารณะวิ่งผ่านเลยนอกจาก Taxi หรือจะใช้บริการพวก Grab Taxi , Uber

แต่ในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีส้ม สถานี สัมมากร และสถานีน้อมเกล้า จากโครงการประมาณ 2 กม. สร้างเสร็จพร้อมใช้งานประมาณปี 2566 มาเป็นอีกตัวเลือกการเดินทางโดยใช้รถไฟฟ้า ที่จะช่วยให้กะเวลาในการเดินทางได้ง่ายขึ้นในช่วงเวลาเร่งด่วน

แบบบ้าน : ที่นี่มีให้เลือก 4 แบบ เป็นบ้านเดี่ยวทั้งหมด มีลูกเล่นแตกต่างกันไปในแต่ละแบบ ภายนอกบ้านรูปทรงสไตล์ Modern Luxury ภายในบ้านออกแบบมาได้เหมาะสม มีฟังก์ชั่นครบถ้วน น่าอยู่ มีช่องแสงเยอะทำให้ตัวบ้านโปร่ง และประหยัดค่าไฟได้ แต่ละส่วนของบ้านแบ่งพื้นที่มาให้ไม่อึดอัด ดูโปร่งโล่ง ฝ้าสูง 2.8 ม. และ 2.6 ม.

ตัวบ้านจะเหมาะกับครอบครัวขนาดกลาง ไปจนถึงครอบครัวขนาดใหญ่ มีผู้สูงอายุเป็นสมาชิกในครอบครัว และอาจจะมีเด็กๆ หรือวางแผนไว้ในอนาคต จุดเด่นของตัวบ้านคือการจัดฟังก์ชั่นที่ค่อนข้างเป็นสัดส่วน มีครัวไทยพร้อมเคาน์เตอร์ครัว / มีห้องผู้สูงอายุ / มีโถงอเนกประสงค์ที่ชั้น 2 เป็นมุมพักผ่อนที่เพิ่มขึ้น ถ้าหากต้องการความเป็นส่วนตัว และที่สำคัญคือ มีห้องน้ำในตัวทุกห้องนอน สะดวกในการใช้งาน

วัสดุในบ้าน : ได้ของมีคุณภาพ เริ่มตั้งแต่ประตูหน้าบ้านจะได้บานไม้สัก หน้าต่างทุกบานได้กระจกใสเขียวตัดแสงบานเลื่อน พื้นชั้นล่างเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม. พื้นชั้น 2 เป็นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. สุขภัณฑ์ในห้องน้ำของ American Standard

บันไดเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กท็อปไม้ ไฟดาวน์ไลท์ทั้งหมด ในส่วนครัวได้ชุดเคาน์เตอร์ครัวตู้มี Soft Close ให้ทุกบาน ส่วนท็อปเคาน์เตอร์ครัวเป็นหินแกรนิตสีดำ ได้อ่างล้างจาน บ้านทุกหลังจะได้สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic Sensor + Shock Sensor

สาธารณูปโภค : รูปแบบของตัวโครงการจะมีความเป็นส่วนตัวพอสมควร เพราะมีแค่ 131 ยูนิตเท่านั้น ส่วนกลางที่เค้าทำมาให้มีครบทุกฟังก์ชั่น และรองรับทั้งเด็ก และผู้ใหญ่

ให้มาครบครันและทำออกมาสวยน่าใช้งานเลยค่ะ โดยจะมี Club House, Lobby, Fitness, Kid’s Room, Co – Working Space, Theatre Room, Entertainment Space, สระว่ายน้ำระบบเกลือ แบ่งสระเด็ก สระผู้ใหญ่และสระจากุซซี่ นอกจากคลับเฮ้าส์ยังมีพื้นที่สวนสาธารณะ โล่ง ๆ 2 จุด ให้มีพื้นที่เดินเล่นนอกบ้านโดยไม่ต้องออกไปนอกโครงการค่ะ 

ระบบรักษาความปลอดภัยมี รปภ. ตลอด 24 ชม. ลูกบ้านใช้ระบบจดจำป้ายทะเบียนในการเข้า – ออก โครงการ นอกจากนั้นจะมีใช้แอพพลิเคชั่น คัดสรร เป็นตัวใหม่ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกบ้าน ซึ่งเป็นโครงการแรกๆที่ได้ใช้เลย พร้อมติดตั้ง CCTV ไว้ตรงประตูเข้าออกและภายในโครงการ 41 จุด

---

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 1623

Website : https://www.apthai.com