รีโนเวท : ตึกเก่า 25 ปี ยุค 80s สู่โรงแรมสุดยูนีค ภายใต้ Concept โรงแรมบรรยากาศ “ป่ากลางกรุง”

รีโนเวท : ตึกเก่า 25 ปี ยุค 80s สู่โรงแรมสุดยูนีค ภายใต้ Concept โรงแรมบรรยากาศ “ป่ากลางกรุง”

กราบสวัสดีคุณผู้อ่านที่น่ารักทุกท่านนนน วันนี้เรามีรีวิวรีโนเวทตึกแถวร้าง ยุค 80 ถูกจับมาแปลงโฉมให้เป็นโรงแรมใจกลางเมือง บรรยากาศป่ากลางกรุง บอกเลยว่าสวยจนลืมภาพเดิมไปเลยนะ ใครที่หาไอเดียรีโรเวทบ้านกันอยู่ ห้ามพลาด ไปดูกันเลยค่ะ

สวัสดีครับ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของผมนะครับ ผมอยากจะมาแบ่งปันประการณ์ การรีโนเวต ตึกเก่า เพื่อให้สมาชิกชาวพันทิปทุกท่านได้ มาเสพไว้เป็นไอเดีย แต่ผมจะขอไม่ลงรายละเอียดดีเทลลึก ๆ นะครับ

แค่อยากให้ดูแบบแล้วเก็บไว้เป็นไอเดีย หรือ คนที่กำลังคิดอยากจะทำหรืออาจจะล้มความตั้งใจไปแล้ว มาชมมาเสพแล้วเกิดแรงบันดาลใจที่จะทำต่อไปไม่มากก็น้อยนะครับ

ตึกเก่าแห่งนี้ตั้งในเขตห้วยขวาง ใกล้กับแยกเหม่งจ๋าย อยู่สุดซอยประชาอุทิศ 16 และ 18  สามารถเข้าได้ทั้ง 2 ซอย เนื่องจากเป็นที่ดิน 2 แปลงติดกัน (แต่เจ้าของคนเดียวกันนะครับ) ที่ดินตรงนี้มีขนาด 153 ตร.ว. ในพื้นที่จะประกอบไปด้วยบ้านเดี่ยว 2 ชั้น และตึกเก่า 4 ชั้น ซึ่งสร้างมาแล้ว 25 ปี

ส่วนตัวบ้าน ผมว่าถ้าเป็นเมื่อ 25 ปีก่อน มันคงจะเป็นบ้านที่หล่อมาก ๆ ในสมัยนั้น ซึ่งเจ้าของก็ยังอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ครับ

ส่วนของอาคาร 4 ชั้น สมัยก่อนเป็นอาคารที่พักอาศัยกึ่งออฟฟิศของเจ้าของเก่า แต่ช่วยหลัง ๆ ไม่ได้ใช้ เนื่องจากเจ้าของเก่าย้ายออฟฟิศไปในที่ที่ใหญ่ขึ้น

สมัยก่อนห้อง และระเบียงแต่ละห้องใหญ่มาก ๆ ผมพอมีความรู้เรื่องการก่อสร้างมานิดหน่อย เลยรู้ว่าเจ้าของเก่าจัดเต็มกับการสร้างอาคารหลังนี้มาก ๆ เพราะขนาดเสา , คานและเหล็กที่ใช้ มันไม่มีโกงวัสดุเหมือนสมัยนี้ครับ

แต่สิ่งที่ทำให้ผมประทับใจอย่างที่สุด คือ พื้นที่สีเขียวขนาด 60 ไร่ที่อยู่ติดกับที่ดินผืนนี้สิครับ ที่ตรึงใจผมให้หยุดมองมันได้นานมาก ๆ

ผมยังแปลกใจว่า ยังมีพื้นที่สีเขียวผืนใหญ่ขนาดนี้ในเขตใจกลางเมือง ย่านรัชดา ซึ่งห่างจาก MRT ห้วยขวางเพียงแค่ 1.2 กิโลเมตรหลงเหลือได้อย่างไร มันเหมือน OASIS ในพื้นที่ใจกลางเมือง

ซึ่งยังไม่มีใครไปแตะต้องมัน สังเกตุได้จากปริมาณผีเสื้อตามธรรมชาติที่บินเข้าออกในที่ดินแห่งนี้

ข้อดีของการเข้ามาสุดซอย คือ บรรยากาศเงียบสงบ ไม่พลุกพล่าน มีความเป็นส่วนตัวสูงเหมาะแก่การพักผ่อนเป็นอย่างมาก อีกทั้งเรื่องสิ่งแวดล้อมธรรมชาติ ซึ่งเป็นสิ่งที่คนเมืองอย่างเรา ๆ

โดยเฉพาะผมที่แสวงหามันมาตลอด ภาพที่ผมเห็น คือ โรงแรมที่พัก มีเป็น Green Concept มีพื้นที่สวนส่วนกลางขนาดใหญ่ ที่มีความ Cozy ให้ผู้คนได้ใช้ชีวิตจริง ๆ

ทีนี้ก็มาถึงส่วนของการออกแบบ สไตล์การตกแต่งจะเป็นแบบ Urban Modern Loft With Green Space  การมีโครงสร้างบ้านและอาคารอยู่แล้วทำให้ผมประหยัดค่าก่อสร้างไปได้ค่อนข้างมาก เพราะไม่จำเป็นต้องทำโครงสร้างใหม่

แต่เนื่องจากเป็นอาคารเก่าจึงต้องให้วิศวกรโยธาเข้ามาตรวจสอบความแข็งแรง แต่อยากจะบอกว่า อาคารนี้แข็งแรงกว่าบ้านที่สร้างใหม่ในปัจจุบันอีกครับ ^_^  เรามาดูเป็นส่วนๆกันว่า ก่อนและหลังการปรับปรุง มันเป็นอย่างไร

เริ่มด้วยพื้นที่ ดาดฟ้า เราทำหลังคาเหล็กเมทัลชีท เพิ่มเพื่อป้องกันฝน แต่อย่างว่าครับ เห็นวิวแบบนี้ใคร ๆ ก็อย่างใช้สังสรรค์ นั่งแฮงเอ้าท์กับเพื่อน ๆ จึงจัดแจงแบ่งพื้นที่ให้เป็นสัดส่วน ทำหลังคาผ้าใบแบบเปิด-ปิดได้ เพื่อเปิดรับลมยามเย็น และเอาไว้นอนนับดาวในเวลากลางคืน มันเป็นความชอบส่วนตัวล้วน ๆ 555

นี่เป็นภาพดาดฟ้าเก่าครับ

และดาดฟ้าใหม่ครับ

ตามด้วยภาพห้องเก่าครับ ในส่วนของห้องพักชั้น 2-4 สามารถแบ่งห้องได้ทั้งหมด 5 ห้อง ส่วนชั้น 1 จะแบ่งได้ 3 ห้อง ดังนั้นอาคารนี้จึงมีห้องพักทั้งหมด 18 ห้องครับ

ภาพห้องใหม่ก็ประมาณนี้ครับ

ส่วนด้านล่าง พื้นที่ตรงกลางระหว่างบ้าน และตัวอาคารก็ดัดแปลงให้เป็นสระว่ายน้ำ และพื้นที่นั่งชิลครับ (ภาพเปรียบเทียบให้เห็นเก่ากับใหม่)

ไฮไลท์ของที่นี่ จะเป็นการนำผนังเก่าที่ของตึกแถวที่อยู่ด้านข้างซึ่งสีรอกร่อนหมดแล้ว มาถ่ายทอดงานศิลปะ สไตล์อิตาลี

ตอนแรกก็กะจะทาสีง่าย ๆ ไปครับ แต่สุดท้ายผมเลือกที่จะนำเข้า ช่างจิตรกรรมจาก ม.ศิลปากรมาสร้างสรรค์ผลงาน ก็ทำพื้นที่ตรงนี้มีความพิเศษขึ้นไปอีกครับ

ทางเข้าฝั่งซอย 16 เก่าและใหม่

ทางเข้าฝั่งซอย 18 เก่าครับ

และใหม่

มุมอ่านหนังสือเก่า และใหม่

ซึ่งทั้งหมดทั้งมวล ผมเป็นคนควบคุมงานดูแลจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์เองทั้งหมดทั้งสิ้นทุกขั้นตอน เพื่อที่โรงแรมจะได้ใช้วัสดุตามสเปกที่วางไว้ ส่วนทางช่างก็เหมาแต่ค่าแรงอย่างเดียว ขอแนะนำว่าการทำแบบนี้จะเหนื่อยมากนะครับ อิอิ

ไม่แนะนำให้ทำในกรณีที่เราไม่มีเวลามาคุมงานมัน แต่รางวัลที่ได้มันทำให้ผมหายเหนื่อย และภูมิใจเป็นอย่างมากครับ

รู้สึกดีในทุกครั้งที่ได้รับเสียงชื่นชมจากลูกค้า รู้สึกภูมิใจที่พาลูกค้าขึ้นไปบนดาดฟ้า ให้ไปเห็นสิ่งที่ผมเห็นมาตลอด 10 เดือนที่ผ่านมา หายเหนื่อยทุกครั้งที่เห็นแววตาอันสดชื่นของลูกค้าที่จองมองพื้นที่สีเขียว

ซึ่งเหมือนย้อนกลับไปมองตัวเองครั้งแรกที่เรามายืนตรงจุดนี้ เพราะมันคือสิ่งที่ผมอยากจะมอบให้กับลูกค้าทุกคนจากใจ

มีอีกสิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะทำให้กับผืนดินแห่งนี้ โดยต่อยอดจากสิ่งที่ธรรมชาติของที่นี่ให้มาคือ การเพาะเลี้ยงผีเสื้อ ตอนนี้ผมเริ่มที่จะปลูกพืชและดอกไม้ที่เป็นอาหารผีเสื้อ พยายามจำลองให้ที่นี่เป็นเหมือน Food Court ของหมู่ผีเสื้อให้เจริญพันธุ์ต่อไป

ผมตัดสินใจที่จะไม่ทำห้องกระจกเพื่อเลี้ยงผีเสื้อไว้ภายใน เพราะรู้มาว่ามันจะอายุสั้นลงครึ่งนึง (มันก็คงเหมือนคนติดคุกหละครับ) จึงอยากให้มันบินเป็นอิสระและเข้ามาที่โรงแรมด้วยความเต็มใจมากกว่า

ตอนนี้ช่วงเวลาที่มันจะบินเข้ามาเยอะคือประมาณ 9.00-11.00 น ตอนนี้โดยเฉลี่ยประมาณ 10-12 ตัว ในอนาคต เมื่อพืชอาหารโตเต็มที่ผมหวังว่าจะได้เห็นมันเพิ่มจำนวนมากขึ้นไปอีก ไว้จะมาUpdate ความคืบหน้าให้เพื่อนๆเป็นระยะนะครับ ^_^

Sa-Ngob (สะหงฺบ) Hotel รัชดา : 13°46’09.9″N 100°34’52.1″E

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : คุณสมาชิกหมายเลข 3539731 Pantip.com