EP.1789 รีวิว บ้านเดี่ยว พรรณนา พุทธมณฑลสาย 3 Pannana Phutthamonthon Sai 3

EP.1789 รีวิว บ้านเดี่ยว พรรณนา พุทธมณฑลสาย 3 Pannana Phutthamonthon Sai 3

Written by : Nin Yanin

สวัสดีค่ะคุณผู้อ่าน วันนี้ทีมงาน Homenayoo มีโครงการบ้านเดี่ยวหรูหลังใหญ่ โครงการใหม่จาก บมจ.พรีบิลท์ (PREB) มาฝากกันค่ะ กับโครงการ Pannana พุทธมณฑลสาย 3 ตั้งอยู่บนถนนบางแวก แขวงบางไผ่ เขตบางแค กทม. เชื่อมต่อถนนพุทธมณฑลสาย 2 และถนนพุทธมณฑลสาย 3 เดินทางสะดวกสบาย ใกล้ถนนเพชรเกษม, ถนนบรมราชชนนี, ถนนกาญจนาภิเษก และทางพิเศษศรีรัช – วงแหวนรอบนอก เข้า – ออกเมืองได้สะดวก

ใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบาย ใกล้แหล่งชอปปิง, สถานศึกษาชั้นนำ และ โรงพยาบาลชื่อดัง อาทิ The Paseo Park, The Mall บางแค, Seacon บางแค, รร.อัสสัมชัญธนบุรี, รร.สารสาสน์ ธนบุรี, รร.อนุบาลเด่นหล้า, ม.สยาม, รพ.วิชัยเวชอินเตอร์เนชั่นแนล หนองแขม, รพ.เกษมราษฎร์ บางแค และ รพ.ธนบุรี 2

พรรณนา พุทธมณฑลสาย 3 เป็นโครงการบ้านเดี่ยวหรู 2 ชั้น สไตล์ Neo Classic ที่แสดงถึงความภูมิฐาน และยังคงความร่วมสมัย บนพื้นที่โครงการขนาด 41 ไร่ จำนวนบ้าน 98 ยูนิต มีแบบบ้านให้เลือก 2 แบบ บนที่ดินกว่า 100 ตร.ว. ขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย 280 – 326 ตร.ม. ฟังก์ชันบ้าน 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ โถงพักผ่อนขนาดใหญ่ ห้องแม่บ้านแยกส่วน และที่จอดรถในร่มถึง 3 คัน คาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จปลายปี 2564

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการที่ครบครัน ทั้ง Clubhouse สไตล์ Modern Industrial, Swimming Pool, Fitness Room, Co – Working Space, Jogging Track, Life Park, Playground, ระบบ Key Card Access, กล้องวงจรปิด CCTV ทั่วโครงการ พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ในราคาเริ่มต้นเพียง 12.99 ล้านบาท* (ต.ค.63)

---

---

ชื่อโครงการ	พรรณนา พุทธมณฑลสาย 3 Pannana Phutthamonthon Sai 3
เจ้าของโครงการ	บมจ.พรีบิลท์ (PREB)
ลักษณะโครงการ	บ้านเดี่ยวหรู 2 ชั้น / แบบบ้าน 2 แบบ
พื้นที่โครงการ	ประมาณ 41 ไร่
จำนวนบ้าน	98 ยูนิต
เนื้อที่บ้าน	100 ตร.ว. ขึ้นไป
พื้นที่ใช้สอย	เริ่มต้น 280 – 326 ตร.ม.
จำนวนห้อง	4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ โถงพักผ่อนขนาดใหญ่ ห้องแม่บ้านแยกส่วน
ที่จอดรถทั้งหมด	3 คัน
โซน	เขตบางแค
เส้นทางคมนาคม	ถนนบางแวก ถนนพุทธมณฑลสาย 2 ถนนพุทธมณฑลสาย 3 ถนนเพชรเกษม ถนนกาญจนาภิเษก ถนนบรมราชชนนี ทางด่วนศรีรัช – วงแหวนรอบนอก
ที่ตั้ง	ถนนบางแวก แขวงบางไผ่ เขตบางแค กทม. 10160
กำหนดการ	เปิดขายปี 63
ปีที่สร้างเสร็จ	คาดว่าแล้วเสร็จปี 2564
ราคา	เริ่มต้น 12.99 ล้านบาท* (ต.ค.63)
ค่าส่วนกลาง	รอข้อมูลจากทางโครงการ
สถานที่สำคัญใกล้เคียง	ห้างสรรพสินค้า HomePro เพชรเกษม : 5.2 กม. Big C Extra เพชรเกษม 2 : 5.2 กม. Victoria Gardens : 5.7 กม. Tesco Lotus พุทธมณฑลสาย 4 : 5.8 กม. Image Mall : 6.4 กม. Makro เพชรเกษม : 6.6 กม. Big C Supercenter เพชรเกษม : 6.7 กม. The Paseo Park กาญจนาภิเษก : 7.0 กม. The Brio Mall : 7.1 กม. The Mall บางแค : 9.3 กม. Design Village บรมราชชนนี : 9.8 กม. Tesco Lotus บางแค : 10.2 กม. Tulip Square : 10.6 กม. ตลาดเก้าแสน : 12.1 กม. Seacon บางแค : 13.4 กม. ตลาดพันล้าน : 13.9 กม. ฺBig C Supercenter อ้อมใหญ่ : 14.0 กม. Central ศาลายา : 19.1 กม. Central พระราม 2 : 20.1 กม. สถานศึกษา รร.สารสาสน์ธนบุรี : 2.0 กม. รร.อัสสัมชัญธนบุรี : 2.5 กม. รร.กสินธรวิทยา 3.3 กม. รร.นวมินทราชินูทิศสตรีวิทยา : 4.2 กม. รร.เลิศหล้า : 5.7 กม. ม.เอเชียอาคเนย์ : 7.8 กม. ม.ธนบุรี : 8.9 กม. ม.มหิดล : 9.5 กม. ศูนย์การแพทย์ รพ.ราชพิพัฒน์ : 2.7 กม. รพ.ศรีวิชัย 2 : 6.2 กม. รพ.วิชัยเวช : 6.3 กม. รพ.เกษมราษฏร์ บางแค 8.0 กม. รพ.ธนบุรี 2 : 9.7 กม. รพ.มหาชัย 2 : 12.3 กม. อื่น ๆ สนามหลวง 2 : 4.7 กม. พุทธมณฑล : 8.8 กม. สถานที่ราชการและอาคารสำนักงาน สถานีขนส่งสายใต้ใหม่ : 13.9 กม.
สิ่งอำนวยความสะดวก	Modern Industrial Clubhouse Half Olympic Swimming Pool Fitness Room Co – Working Space Jogging Track Life Park Playground ระบบ Key Card Access กล้องวงจรปิด CCTV ทั่วโครงการ ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.
จุดเด่นของโครงการ	‘พรรณนา’ โครงการที่ให้คุณค่ากับคำว่า ‘บ้าน’ ด้วยสถาปัตยกรรมที่มีความยั่งยืน ทุกตารางนิ้วคิดมาเพื่อสอดคล้องไปกับทุกชีวิตในครอบครัว

---

---

---

---

---

---

:::: ที่ตั้งโครงการ ::::

ถนนบางแวก แขวงบางไผ่ เขตบางแค กทม. 10160

พิกัด : 13.748780, 100.367472

ทำเลที่ตั้ง โครงการ Pannana พุทธมณฑลสาย 3 ตั้งอยู่บนถนนบางแวก เข้ามาจากถนนพุทธมณฑลสาย 3 ประมาณ 350 เมตร ในเขตกรุงเทพมหานคร บรรยากาศโดยรอบโครงการมีความสงบและเป็นส่วนตัว อีกทั้งยังรายล้อมไปด้วยธรรมชาติ เหมาะสำหรับการพักผ่อนอยู่อาศัย

เนื่องจากโครงการตั้งอยู่ในเขตพื้นที่สีเขียวหรือเขตพื้นที่เกษตรกรรม เป็นเขตที่มีความหนาแน่นต่ำ และเป็นที่รู้กันดีว่าโครงการหมู่บ้านที่จะสร้างในเขตนี้ได้นั้น ต้องเป็นบ้านที่มีเนื้อที่ดิน 100 ตร.ว. ขึ้นไป ทำให้โครงการหมู่บ้านอื่น ๆ ที่อยู่ใกล้เคียงกันนี้เองก็เป็นโครงการบ้านหรูที่มีระดับ เรียกว่าสังคมการอยู่อาศัยในทำเลนี้เป็นสังคมคุณภาพไปโดยปริยายค่ะ

การเดินทางด้วยรถยนต์ เนื่องจากโครงการตั้งอยู่บนถนนบางแวก จึงสามารถเชื่อมต่อไปยังถนนพุทธมณฑลสาย 2 และสาย 3 ที่วิ่งขนานกันได้ง่ายค่ะ และถนนพุทธมณฑลทั้ง 2 สายนี้ เป็นถนนที่เชื่อมต่อระหว่างถนนใหญ่เพชรเกษมและบรมราชชนนีอีกด้วย

จากถนนเพชรเกษมมุ่งหน้าฝั่งตะวันออก สามารถใช้วิ่งไปทางวงเวียนใหญ่ ข้ามสะพานพระปกเกล้า ตรงเข้าเยาวราช – สำเพ็ง ได้เลย หรือจะเลี้ยวเข้าถนนราชพฤกษ์ ข้ามสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ตรงเข้าถนนสาทรก็สะดวกค่ะ ส่วนถนนบรมราชชนนีก็เช่นกัน พอข้ามสะพานพระราม 8 ตรงเข้าถนนราชวิถีก็ถึงอนุสาวรีย์ชัยฯ แล้ว หากวิ่งไปทางตะวันตก ถนนเพชรเกษมจะวิ่งยาวผ่านหลายจังหวัด ทั้งนครปฐม, ราชบุรี, เพชรบุรี และลงไปทางใต้ได้ค่ะ

โครงการยังอยู่ไม่ไกลจากวงแหวนกาญจนาภิเษก และจุดขึ้นทางพิเศษศรีรัช – วงแหวนรอบนอก ที่ช่วยเอื้ออำนวยให้การเดินทางง่ายและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยสามารถใช้วิ่งไปทางจตุจักร – พระราม 9 จะวิ่งขึ้นเหนือลงใต้ไปทางบางปะอิน พระราม 2 หรือข้ามฝั่งไปบางนา ก็นับว่าทำได้สะดวกมาก

นอกจากนี้ ในอนาคตยังมีโครงการถนนเส้นพระเทพตัดใหม่ (พรานนก – พุทธมณฑลสาย 4) อีกหนึ่งโครงข่ายสำคัญเพื่อรองรับการเดินทางที่สะดวกสบายในอนาคต ซึ่งถูกแบ่งออกเป็น 2 ช่วง ช่วงแรกคือ โครงการก่อสร้างถนนบริเวณสามแยกไฟฉายหรือ จรัญสนิทวงศ์ (พรานนก) – วงแหวนกาญจนาภิเษก ขนาด 6 ช่องจราจร ระยะทาง 8.4 กม. และช่วงที่ 2 จากถนนกาญจนาภิเษก – พุทธมณฑลสาย 4 ระยะทาง 8 กม.

สำหรับโครงการช่วง 1 (จรัญสนิทวงศ์ – กาญจนาภิเษก ) ได้เปิดให้บริการแล้ว จะช่วยระบายการจราจรออกสู่ถนนกาญจนาภิเษกเพื่อไปยังจังหวัดใกล้เคียงได้รวดเร็วขึ้นโดยไม่ต้องกระจุกตัวบริเวณถนนจรัญสนิทวงศ์, ถนนปิ่นเกล้า และ ถนนบรมราชชนนี และโครงการช่วงที่ 2 (กาญจนาภิเษก – พุทธมลฑลสาย 4) จะช่วยให้การเดินทางออกนอกเมืองสะดวกรวดเร็วขึ้นโดยไม่มีปัญหาจราจรติดขัดเลยค่ะ (ปัจจุบันโครงการช่วงที่ 2 ยังอยู่ในขั้นตอนการดำเนินงานค่ะ)

รวมถึง โครงการก่อสร้างขยายทางคู่ขนานลอยฟ้าบนถนนบรมราชชนนี ส่วนต่อขยาย เพื่อช่วยลดความแออัดด้านการจราจรของกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตกให้มีความคล่องตัวมากขึ้น จากพุทธมณฑลสาย 2 ไปจนถึงถนนเพชรเกษมหรือทางแยกต่างระดับนครชัยศรี ซึ่งจะเชื่อมต่อกับโครงการมอเตอร์เวย์ สายนครปฐม – ชะอำ รูปแบบงานก่อสร้างจะเป็นทางยกระดับตั้งอยู่บนเกาะกลางของถนนบรมราชชนนี ขนาด 4 ช่องจราจรค่ะ

ดังนั้นไม่ว่าคุณจะมีธุรกิจอยู่แถบฝั่งธน เยาวราช สำเพ็ง อนุสาวรีย์ชัยฯ หรือทำงานในตัวเมืองย่าน สาทร สีลม พระราม 9 จตุจักร ก็ยังสามารถเดินทางไปมาได้สะดวก

:: สรุปแยก และ ถนนสำคัญรอบโครงการ ::

• ถ.พุทธมณฑลสาย 3 : 350 ม.
• ถ.บรมราชชนนี : 4.9 กม.
• ถ.เพชรเกษม : 4.9 กม.
• ถ.กาญจนาภิเษก : 5.7 กม.
• ถ.พุทธมณฑลสาย 2 : 6.2 กม.

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ ในวันที่ไม่สะดวกขับรถเอง ก็ยังสามารถเรียกใช้รถแท็กซี่ได้สะดวกค่ะ เพราะจะมีขับผ่านหน้าโครงการอยู่ตลอดเวลา และถ้าจะให้สะดวกที่สุดก็คือเรียกรถแท็กซี่ผ่านแอปพลิเคชัน Grab Taxi และ Line Taxi ประกอบกันไปเพื่อความรวดเร็ว

นอกจากนี้ โครงการยังอยู่ไม่ไกลจาก รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วง บางซื่อ – ท่าพระ และ หัวลำโพง – บางแค ซึ่งทั้ง 2 สายนี้ได้เปิดให้ใช้งานกันแล้วค่ะ สถานีที่ใกล้ที่สุดก็คือ สถานีหลักสอง (9.1 กม.) จะอยู่บริเวณ The Mall บางแค อีกทั้งยังจะมีโครงการในอนาคต ต่อจากสถานีหลักสอง คือช่วงบางแค – พุทธมณฑลสาย 4 อีกด้วย ถ้าช่วงนี้เสร็จ คนที่ไม่สะดวกขับรถเองจะสะดวกสบายขึ้น เพราะสถานีที่ใกล้ที่สุดคือ สถานีพุทธมณฑลสาย 3 ค่ะ (4.9 กม.)

ความอุดมสมบูรณ์ แม้ว่าโครงการจะอยู่ในเขตพื้นที่สีเขียว แต่โดยรอบก็มีความอุดมสมบูรณ์รองรับการอยู่อาศัย มีแหล่งชอปปิงทั้ง ห้างสรรพสินค้า, คอมมูนิตี้มอลล์, ไฮเปอร์มาร์เก็ต, ร้านค้า, ตลาด, โรงพยาบาล และสถานศึกษา สำหรับห้างสรรพสินค้าโดยหลัก ๆ เลยก็จะมี The Mall บางแค และ Seacon บางแค อยู่ตรงเส้นเพชรเกษม ถ้ามองเป็น Central ก็จะมี Central ศาลายา ที่อยู่ไม่ไกลจาก ม.มหิดล ตรงเส้นบรมราชชนนีค่ะ

ขยับใกล้เข้าไปตัวโครงการอีกหน่อย ส่วนมากจะเป็นพวกไฮเปอร์มาร์เก็ต คือมีครบทุกแบรนด์ให้เลือกชอปได้ ทั้ง Makro, Big C, Tesco Lotus และ HomePro นอกจากนั้นก็จะเป็นคอมมูนิตี้มอลล์ มี Victoria Gardens ที่มี Foodland อยู่ด้านใน, Tulip Square ที่มีทั้งโซน Shopping Mall, อาคารพาณิชย์ และคอนโดมิเนียม Low rise นอกจากนั้นก็ยังมี The Paseo Park, Image Mall และ The Brio Mall อีกด้วยค่ะ

:: สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ ::

ห้างสรรพสินค้า

• HomePro เพชรเกษม : 5.2 กม.
• Big C Extra เพชรเกษม 2 : 5.2 กม.
• Victoria Gardens : 5.7 กม.
• Tesco Lotus พุทธมณฑลสาย 4 : 5.8 กม.
• Image Mall : 6.4 กม.
• Makro เพชรเกษม : 6.6 กม.
• Big C Supercenter เพชรเกษม : 6.7 กม.
• The Paseo Park กาญจนาภิเษก : 7.0 กม.
• The Brio Mall : 7.1 กม.
• The Mall บางแค : 9.3 กม.
• Design Village บรมราชชนนี : 9.8 กม.
• Tesco Lotus บางแค : 10.2 กม.
• Tulip Square : 10.6 กม.
• ตลาดเก้าแสน : 12.1 กม.
• Seacon บางแค : 13.4 กม.
• ตลาดพันล้าน : 13.9 กม.
• ฺBig C Supercenter อ้อมใหญ่ : 14.0 กม.
• Central ศาลายา : 19.1 กม.
• Central พระราม 2 : 20.1 กม.

สถานศึกษา

• รร.สารสาสน์ธนบุรี : 2.0 กม.
• รร.อัสสัมชัญธนบุรี : 2.5 กม.
• รร.กสินธรวิทยา 3.3 กม.
• รร.นวมินทราชินูทิศสตรีวิทยา : 4.2 กม.
• รร.เลิศหล้า : 5.7 กม.
• ม.เอเชียอาคเนย์ : 7.8 กม.
• ม.ธนบุรี : 8.9 กม.
• ม.มหิดล : 9.5 กม.

ศูนย์การแพทย์

• รพ.ราชพิพัฒน์ : 2.7 กม.
• รพ.ศรีวิชัย 2 : 6.2 กม.
• รพ.วิชัยเวช : 6.3 กม.
• รพ.เกษมราษฏร์ บางแค 8.0 กม.
• รพ.ธนบุรี 2 : 9.7 กม.
• รพ.มหาชัย 2 : 12.3 กม.

อื่น ๆ

• สนามหลวง 2 : 4.7 กม.
• พุทธมณฑล : 8.8 กม.

สถานที่ราชการและอาคารสำนักงาน

• สถานีขนส่งสายใต้ใหม่ : 13.9 กม.

---

:::: การเดินทางสู่โครงการ ::::

วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo มีภาพการเดินทางไปสู่ตัวโครงการโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวมาฝากกันค่ะ โดยเราจะเริ่มการเดินทางจาก

ถนนบรมราชชนนี > ถนนพุทธมณฑลสาย 3 > ถนนบางแวก > Pannana พุทธมณฑลสาย 3 

เราจะเริ่มต้นการเดินทางจากถนนบรมราชชนนี ผ่านแยกต่างระดับกาญจนาภิเษก ทางฝั่งซ้ายมือจะมีจุดสังเกตเป็น รพ.กรุงธนบุรี 2 ค่ะ จากจุดนี้ไปถึงตัวโครงการใช้เวลาประมาณ 15 นาที

ให้เราสังเกตป้ายถนนพุทธมณฑลสาย 3 แล้วชิดซ้ายเพื่อวิ่งออกทางคู่ขนาน

พอออกทางคู่ขนานให้เราชิดซ้ายเพื่อเลี่ยงสะพานกลับรถ ตรงไปทางถนนพุทธมณฑลสาย 3

จากนั้นเราจะขับผ่าน Design Village ภายในนี้มี Uniqlo ด้วยนะคะ

พอเราเห็นป้ายเลี้ยวซ้ายเข้าถนนพุทธมณฑล 3 ให้เราชิดซ้ายเอาไว้ และเลี้ยวซ้ายตรงจุดที่มีสะพานยกระดับข้างหน้าค่ะ

พอเข้ามาภายในถนนพุทธมณฑลสาย 3 จะเห็นว่าเป็นถนนใหญ่ที่ร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ทั้ง 2 ฝั่งของถนน ช่วยทำให้รู้สึกว่าทำเลนี้ดูน่าอยู่มากยิ่งขึ้น

จากนั้นให้เราสังเกตป้ายถนนพุทธมณฑลสาย 2 แล้วชิดซ้ายค่ะ

ข้างหน้าของเราตรงแยกไฟแดงให้เราเลี้ยวซ้ายเข้าถนนบางแวกไปเลย

จากถนนพุทธมณฑลสาย 3 ตรงเข้ามาภายในถนนบางแวกเพียง 350 เมตร ก็จะถึงโครงการ Pannana พุทธมณฑลสาย 3 แล้วค่า

ภาพบรรยากาศหน้าประตูทางเข้าโครงการ Pannana พุทธมณฑลสาย 3

---

:::: สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ::::

โครงการ Pannana พุทธมณฑลสาย 3 ตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาด 41 ไร่ บนถนนบางแวกที่มีความเป็นส่วนตัวสูง ด้วยความที่ยังเป็นเขตพื้นที่เกษตรกรรม การอยู่อาศัยยังไม่หนาแน่น มีที่ดินเปล่ารอบโครงการเหลืออยู่มาก หมู่บ้านใกล้เคียงก็เป็นหมู่บ้านที่หรูมีระดับ มีการออกแบบโครงการในสไตล์คลาสสิกเช่นกัน ทำให้บรรยากาศโดยรวมของทำเลนี้น่าอยู่ และมีความกลมกลืนกันดีค่ะ

• ทิศเหนือ ติดกับ ผืนที่ดินเปล่า
• ทิศใต้ ติดกับ ถนนบางแวก
• ทิศตะวันออก ติดกับ ผืนที่ดินเปล่า
• ทิศตะวันตก ติดกับ หมู่บ้านผกาวัลย์ วิลเลจ

เรามาเดินดูบริบทโดยรอบโครงการกันค่ะว่าจะมีบรรยากาศเป็นอย่างไรบ้าง

 

พื้นที่บางส่วนที่อยู่ติดกับโครงการยังคงเป็นผืนที่ดินเปล่าอยู่

บางส่วนเป็นบ้านพักอาศัยส่วนบุคคลบนผืนที่ดินขนาดใหญ่

หันกลับออกไปทางถนนพุทธมณฑลสาย 3 ที่อยู่ติดกับทางเข้าโครงการอีกฝั่งจะเป็นร้านขายไม้และเฟอร์นิเจอร์

มองไปที่ฝั่งตรงข้ามยังคงเห็นพื้นที่ดินเปล่าขนาดใหญ่และบ้านพักอาศัยส่วนตัว

พื้นที่บางส่วนที่อยู่ติดกับโครงการก็คือหมู่บั้านผกาวัลย์ วิลเลจ

ข้างกันก็คือหมู่บ้านปฐมพร แกรนด์โฮม ยาวออกไปจนถึงถนนพุทธมณฑลสาย 3 ค่ะ

---

:::: ตัวโครงการ ::::

โครงการ Pannana พุทธมณฑลสาย 3 เป็นโครงการบ้านเดี่ยวหรู เอกสิทธิ์ส่วนตัวเพียง 98 หลัง ถูกออกแบบมาในสไตล์ Neo Classic ซึ่งเป็นการนำสถาปัตกรรมแบบกรีก – โรมันมาพัฒนาให้ดูร่วมสมัย โดยใช้เส้นสายที่เรียบง่าย มีการลดทอนรายละเอียดลง แต่ยังได้กลิ่นอายของความคลาสสิก หรูหรา ภูมิฐาน

ด้วยสถาปัตกรรมสไตล์ Neo Classic นี้ได้กำเนิดขึ้นมาคาบเกี่ยวกับยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมหรือสไตล์ Industrial ทางโครงการจึงได้นำ Gimmick ของยุคนี้ มาใช้เป็นลูกเล่นในการออกแบบรายละเอียดของบ้านและพื้นที่ส่วนกลางด้วย

::: ทางเข้าโครงการ :::

เริ่มจากทางเข้า – ออกโครงการ ออกแบบเป็นประตูเหล็กดัดที่ได้แรงบันดาลใจจาก Gate ของบ้านครอบครัวผู้ดีในโซนยุโรป ที่มีความหรูหรา แต่ดีไซน์ให้ดูไม่ใหญ่โตโอ้อวดจนเกินพอดี ประโยชน์ด้านหนึ่งเลยก็เพื่อความเป็นส่วนตัว ไม่ให้เป็นจุดเด่นจนเกินไป โดยแบ่งฝั่งขาเข้าไว้ฝั่งซ้าย ฝั่งขาออกฝั่งขวา มีซุ้ม รปภ. อยู่ตรงกลางพร้อมกล้อง CCTV

ทางเข้า – ออกโครงการเป็นแบบ Double Security ใช้ระบบ Key Card Access ในการเปิดรั้วไม้กระดกเพื่อผ่านเข้า – ออกโครงการ และในเวลากลางคืนก็จะปิดประตูรั้วใหญ่เพิ่มความปลอดภัยค่ะ สังเกตผนังป้อม รปภ. ตกแต่งด้วยกระเบื้องลายอิฐที่ทางโครงการสั่งเผาเป็นพิเศษ เพื่อให้เกิดผิวสัมผัสและการ Random สีที่เหมือนกับอิฐจริง ตัดกับสีเทาที่เลียนแบบโครงสร้างเหล็กซึ่งเป็น Gimmick ของสไตล์ Industrial

ภาพมองย้อนกลับไปที่ทางเข้า – ออกของโครงการ

::: บริเวณภายในโครงการ :::

จากทางเข้า – ออก เชื่อมต่อเข้ามาภายในถนนหลักขนาดใหญ่ของโครงการ สิ่งแรกที่รู้สึกได้เมื่อเข้ามาภายในโครงการแล้วก็คือ Landscape ที่ร่มรื่นน่าอยู่ ตั้งแต่การปูพื้นหญ้า จนไปถึงการลงต้นไม้ขนาดใหญ่ให้ภายในโครงการแบบเสร็จสมบูรณ์ ถือเป็นข้อดีของการอยู่อาศัยในโครงการนี้ เพราะไม่ต้องรอหลายปีเพื่อให้ต้นไม้โต ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าต้นไม้ก็จะฟูขึ้นเรื่อย ๆ อีกค่ะ

บริเวณวงเวียนปลูกต้นจามจุรีขนาดใหญ่ เป็นเสมือนจุดต้อนรับเข้าสู่โครงการ สังเกตที่พื้นถนนของโครงการตกแต่งผิวด้วย Stamp Concrete ดูหรูมีระดับ

ทางฝั่งซ้ายมือของเราเป็นส่วนของ Life Park และ Clubhouse ขนาดใหญ่ รายละเอียดจะอยู่ในหัวข้อถัดไปค่ะ

ส่วนทางฝั่งขวามือจากถนนหลักเชื่อมสู่ถนนซอยที่ตัดผ่านหน้าบ้านทุกหลัง ซึ่งทางโครงการวางผังให้ถนนซอยภายในโครงการทุกซอยเชื่อมต่อโดยตรงกับถนนหลัก เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยและความสะดวกในการเข้า – ออกบ้าน ด้วยความที่บ้านมีเนื้อที่ดินขนาดใหญ่ 100 ตร.ว. ขึ้นไป ตัวบ้านแต่ละหลังจึงมีระยะห่างจากกัน และภายในซอยจะมีบ้านอยู่เพียง 4 – 8 ยูนิต/ซอยเท่านั้น นับว่าเป็นการวางผังที่ทำให้บรรยากาศภายในโครงการดูโปร่งและเป็นส่วนตัวค่ะ

นี่ก็คือบ้านตัวอย่าง P326 ขนาด 326 ตร.ม. ของโครงการ

และบ้านตัวอย่าง P280 ขนาด 280 ตร.ม.

::: สวนสาธารณะ :::

สวนสาธารณะของโครงการหรือ Life Park ที่ทางโครงการได้ตั้งใจคัดเลือกพรรณไม้นานาสายพันธุ์ เพื่อสร้างสรรค์ระบบนิเวศน์ที่สวยงาม ได้บรรยากาศที่ดูร่มรื่นน่าพักผ่อนจากร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ และสีสันสดใสสะดุดตาจากไม้ดอก นับว่าหาได้ยากมากจากโครงการระดับเดียวกัน หรือกระทั่งโครงการระดับสูงกว่าที่จะลงรายละเอียดของสวนให้ขนาดนี้

ภายในสวนมีทางเดินโดยรอบสำหรับเดินเล่นพักผ่อน สามารถใช้วิ่งออกกำลังกายยามเช้าได้ และมีสระน้ำขนาดใหญ่ที่ล้อมรอบด้วยร่มเงาของต้นไม้ คอยให้ความเย็นเวลาลมพัดโชยผ่านมา

ที่พิเศษมาก ๆ เลยก็คือสวนหย่อม Rain Garden ที่ทางโครงการจัดเอาไว้ให้อย่างปราณีต อย่างที่บอกไปค่ะว่าทางโครงการได้คัดสรรพรรณไม้นานาชนิดมาเพื่อสร้างระบบนิเวศน์เลียนแบบป่าฝนขนาดย่อม ที่จะมีความชื้นอยู่ตลอดเวลา ทำให้เกิดพรรณไม้เล็ก ๆ ตามโขดหินและบนผิวของเปลือกไม้ใหญ่ มีการโรยหินกรวดเป็นทางเดินและทางน้ำเวลาฝนตก จะได้บรรยากาศเหมือนลำธารเล็ก ๆ ในป่า ให้ความรู้สึกสดชื่นดีจริง ๆ ค่ะ

พอดูรายละเอียดภายในสวนที่ทางโครงการจัดมาให้ ก็ทำให้รู้สึกถึงความตั้งใจที่จะมอบสิ่งดีดีให้กับลูกบ้านได้เลยค่ะ เห็นดอกไม้ดอกเล็กดอกน้อยแล้วรู้สึกดีจังเลย

ด้านข้างเป็นส่วนของ Bird Observation Pavilion พอมีระบบนิเวศน์ที่ดีมาแล้ว พวกนกและผีเสื้อก็จะค่อย ๆ ทยอยตามกันมา ทางโครงการจึงได้จัดมุมนั่งพักผ่อนหย่อนใจ ให้ลูกบ้านได้สัมผัสไอกลิ่นจากธรรมชาติ พร้อมเสียงนกร้องที่โบยบินผ่านมา

ภาพบรรยากาศมุมนั่งพักผ่อนภายในส่วน Bird Observation Pavilion ล้อมรอบด้วยพรรณไม้นานาชนิด ทำให้รู้สึกสดชื่นเหมือนได้ไปเดินป่าชมธรรมชาติ ในอนาคตภายในสวนของโครงการจะมีมุม Playground ให้เด็ก ๆ ได้เล่นกันอีกด้วยนะคะ

จาก Life Garden จะเชื่อมต่อกับ Clubhouse ของโครงการ

::: คลับเฮาส์ :::

Clubhouse ของโครงการ เป็นอาคารที่ถูกออกแบบด้วยแรงบันดาลใจจากยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม มาเป็น Industrial Style ซึ่ง Gimmick ของสไตล์นี้ก็คือ การโชว์โครงสร้างและงานระบบจำพวกเหล็กและโลหะ ผนังก่ออิฐโชว์ลาย Space ที่มีฝ้าเพดานสูง และดวงไฟสีโทนส้ม

ทางโครงการได้นำสไตล์นี้มาผสมผสานกับสไตล์ Modern ทำให้ได้รูปลักษณ์อาคารที่มีความเรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยรายละเอียดที่แสดงถึงสไตล์ Industrial ด้วยผนังกระเบื้องลายอิฐสั่งเผาพิเศษ Random สี หรือจะเป็นอาคารชั้น 2 ที่ยื่นออกมาเหนือสระว่ายน้ำ ที่ทาสีผนังเป็นสีเทาเก็บขอบโครงสร้างเสา – คานให้เหมือนเหล็ก Wide Flange ตรงนี้ยังได้ Feeling แบบ Falling Water House อันโด่งดังของคุณปู่ Frank Lloyd Wright ด้วยค่ะ

สระว่ายน้ำของทางโครงการมีขนาดใหญ่แบบ Half Olympic เลยค่ะ เป็นสระระบบเกลือแบบ Infinity Edge Pool หรูหราด้วยกระเบื้องตกแต่งโทนสีเทา – ดำ ที่มีการ Random ลวดลายในตัว

ภายในสระถูกแบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งให้เป็นสระเด็ก พื้นสระค่อนข้างตื้นทีเดียวทำให้เด็ก ๆ สามารถลงเล่นน้ำได้อย่างปลอดภัย

ถ้ามองจากภายในอาคารออกไปก็จะเห็นว่าพื้นผิวของสระว่ายน้ำนั้นเชื่อมต่อกับสระน้ำภายในสวนด้วย 

เราเข้าไปดูบรรยากาศภายในอาคารกันต่อค่ะ

พื้นที่ภายในอาคารส่วนแรกเป็นห้องสำหรับนั่งเล่นพักผ่อนขนาดใหญ่ มีชุดโซฟาสำหรับนั่งพักผ่อนอ่านหนังสือสบาย ๆ ให้อยู่หลายชุด

ภายในโปร่งโล่งด้วยฝ้าเพดานสูงแบบ Double Space ประดับด้วยโคมไฟที่ให้แสงสีส้มอย่างสวยงาม เหมือนได้ย้อนบรรยากาศกลับไปในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม ด้วยพื้นกระเบื้องสีเทา Texture คล้ายพื้นปูนขัด ผนังกระเบื้องตกแต่งเลียนแบบผนังอิฐก่อโชว์ลาย และฝ้าเพดานที่โชว์โครงสร้างเหล็ก Smart Truss

มองขึ้นไปบนชั้น 2 จะเป็นส่วนของ Co – Working Space ค่ะ

ภาพบรรยากาศภายใน Co – Working Space ที่เชื่อมต่อกับพื้นที่นั่งพักผ่อนชั้นล่างด้วยผนังกระจกเต็มบาน มีฝ้าเพดานสูง ตกแต่งด้วยโคมไฟสีดำ มีลูกเล่นที่โครงสร้างเสา – คาน Span กว้าง ที่ถูกตกแต่งด้วยกระเบื้องแบบผนังอิฐก่อโชว์ลาย

รูปแบบการจัดเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องนี้จะต่างออกไปเพื่อใช้สำหรับการนั่งทำงานหรือ Brain Storm โดยจะมีโต๊ะขนาดใหญ่ถึง 12 ที่นั่ง จะใช้นั่งคิดงานเดี่ยวหรือคุยงานเป็นกลุ่มใหญ่ก็ได้

พื้นที่ริมผนังกระจกอีกฝั่งจะได้วิวสระว่ายน้ำและวิวสวนค่ะ มีชุดโซฟาจัดเอาไว้แบบกลุ่มเล็ก ๆ สำหรับคนที่อยากได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

ภาพจากมุม Co – Working Space มองลงไปที่ห้องนั่งเล่นชั้นล่าง

สำหรับห้องฟิตเนสนั้นถูกดีไซน์แยกออกไปอีกอาคาร เพื่อความเป็นส่วนตัวสำหรับลูกบ้านที่ต้องการพักผ่อนและนั่งทำงานค่ะ

Space ภายในห้องฟิตเนสถูกออกแบบให้สว่างและโปร่งโล่ง ด้วยฝ้าเพดานสูงพร้อมผนังกระจกขนาดใหญ่โดยรอบห้อง ทำให้เวลาออกกำลังกายอยู่ด้านในก็ยังสามารถเพลิดเพลินกับธรรมชาติ ทั้งวิวจากสวนและสระว่ายน้ำได้ สำหรับอุปกรณ์ออกกำลังกายที่ทางโครงการเลือกใช้ก็จะเป็นของแบรนด์ชั้นนำอย่าง Life Fitness ค่ะ

ภาพบรรยากาศภายในห้องฟิตเนส พร้อมอุปกรณ์ออกกำลังกายอย่างครบครัน ทั้ง Cardio และ Weight Training สังเกตที่พื้นภายในห้อง ปูด้วยพื้นยาง EPDM เพื่อกันกระแทก เหมาะสำหรับการออกกำลังกาย

สำหรับห้องน้ำและห้องอาบน้ำจะอยู่ภายใน Clubhouse ส่วนอาคารใหญ่นะคะ

จากห้องฟิตเนสก็จะมีทางเดินเชื่อมมาใช้ห้องน้ำได้สะดวก

ภาพบรรยากาศภายในห้องน้ำชายและห้องน้ำหญิง ถูกออกแบบมาในสไตล์ Modern ด้วยโทนสีขาวและผิวไม้สีสว่าง ดูสะอาดตาน่าใช้งาน ภายในจะมีห้องน้ำ, ห้องอาบน้ำ และตู้ล็อกเกอร์สำหรับเก็บของให้

นอกจากนี้ก็ยังมีห้องน้ำแบบ Universal Design รองรับการใช้งานของผู้สูงอายุและผู้ที่ใช้รถเข็นด้วยค่ะ

---

:::: แบบบ้านของโครงการ ::::

บ้านภายในโครงการ Pannana พุทธมณฑลสาย 3 เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้นสไตล์ Neo Classic มีทั้งหมด 2 แบบให้เลือกดังนี้ค่ะ

• แบบบ้าน P 280 พื้นที่ใช้สอย 280 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ โถงพักผ่อนขนาดใหญ่ ห้องแม่บ้านแยกส่วน และที่จอดรถในร่ม 3 คัน
  

  ---

• แบบบ้าน P 326 พื้นที่ใช้สอย 326 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ โถงพักผ่อนขนาดใหญ่ ห้องแม่บ้านแยกส่วน และที่จอดรถในร่ม 3 คัน

• แบบบ้าน P 280 | บ้านเดี่ยว 2 ชั้น
• พื้นที่ใช้สอย 280 ตร.ม.
• ที่ดินเริ่มต้น 100 ตร.ว.
• ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ โถงพักผ่อนขนาดใหญ่ ห้องแม่บ้านแยกส่วน และที่จอดรถในร่ม 3 คัน

แปลนบ้านชั้น 1

แปลนบ้านชั้น 2

• แบบบ้าน P 326 | บ้านเดี่ยว 2 ชั้น
• พื้นที่ใช้สอย 326 ตร.ม.
• ที่ดินเริ่มต้น 100 ตร.ว.
• ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ โถงพักผ่อนขนาดใหญ่ ห้องแม่บ้านแยกส่วน และที่จอดรถในร่ม 3 คัน

แปลนบ้านชั้น 1

แปลนบ้านชั้น 2

---

:::: บ้านตัวอย่าง ::::

วันนี้ทางทีมงานจะพาท่านผู้อ่านไปชมรายละเอียดของบ้านตัวอย่างทั้ง 2 หลังคือ แบบบ้าน P 280 พื้นที่ใช้สอย 280 ตร.ม. และ แบบบ้าน P 326 พื้นที่ใช้สอย 326 ตร.ม. ไปชมกันเลยค่า

::: แบบบ้าน P 280 ขนาด 280 ตร.ม. :::

แปลนชั้น 1 หน้าบ้านส่วนแรกเป็นโรงจอดรถ สามารถจอดรถได้ถึง 3 คันในร่ม มีทางเข้าบ้านรองให้ภายใน จากโรงจอดรถจะเชื่อมต่อกับเฉลียงทางเข้าบ้านก่อนเข้าสู่ตัวบ้าน ภายในบ้านส่วนแรกเป็นพื้นที่โถง Living Area ขนาดใหญ่ ที่เชื่อมต่อระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องรับประทานอาหาร และจากห้องรับประทานอาหารจะเชื่อมต่อไปยัง ห้องนอนชั้นล่าง, ห้องครัว, ห้องน้ำ (Powder Room) และโถงบันได ซึ่งในห้องครัวจะมีประตูสามารถเชื่อมกับลานซักล้างหลังบ้านและห้องแม่บ้านได้ค่ะ

แปลนชั้น 2 เป็น Private Zone ของครอบครัว ประกอบด้วย ห้องนั่งเล่นชั้นบน และห้องนอนขนาดใหญ่อีก 3 ห้อง ภายในห้องนอนทุกห้องจะมีห้องน้ำในตัวให้ทั้งหมดค่ะ มีความพิเศษภายใน Master Bedroom ที่ได้ Walk – in Closet และห้องน้ำขนาดใหญ่มาด้วย

และนี่ก็คือหน้าตาแบบบ้าน P 280 ขนาด 280 ตร.ม. ดีไซน์ออกมาในสไตล์ Neo Classic ที่ดูเรียบหรู ภูมิฐาน และยังได้กลิ่นอายแบบสถาปัตยกรรมคลาสสิก ด้วยพื้นบ้านสีขาวสะอาดตา ตกแต่งด้วยบัวเชิงผนัง และราวกันตกเหล็กดัด ที่ถูกลดทอนรายละเอียดลงให้เข้ากับยุคสมัย ตัดกับสีเทาที่ล้อมาจากการโชว์โครงสร้างเหล็กในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม

ส่วนแรกที่เราเดินเข้ามาดูเป็นโรงจอดรถที่สามารถจอดรถได้ถึง 3 คันในร่มแบบสบาย ๆ แบบที่สามารถเปิดประตูเดินลงจากรถได้สะดวก และความลึกของโรงจอดรถยังสามารถคลุมถึงรถตู้ได้เลยค่ะ พื้นใช้ Stamp Concrete ที่ดูเรียบแต่มีดีเทลด้วยพื้นผิวของวัสดุ

จากโรงจอดรถจะมีประตูทางเข้าบ้านรองให้สามารถเดินเข้าสู่ตัวบ้านได้สะดวก ยิ่งในวันที่ซื้อของเข้าบ้าน หรือในวันที่ฝนตกหนัก ก็ไม่ต้องเดินอ้อมไปหน้าบ้านผ่านห้องนั่งเล่นและห้องรับประทานอาหาร เพราะทางนี้สามารถเดินตรงเข้าห้องครัวและหลังบ้านได้เลย หรือวันไหนที่ต้องการทำธุระหนัก – เบาก่อนก็จะง่ายมาก เพราะห้องน้ำถูกออกแบบให้อยู่ด้านข้างประตูทางเข้ารองแล้วค่ะ

สังเกตดีเทลระหว่างพื้นโรงจอดรถและผนังบ้าน มีการเว้นร่องและโรยด้วยหินกรวดสีดำ อีกทั้งยังผนังที่ปิดผิวด้วยกระเบื้องลวดลายเป็นเส้นตรงเลียนแบบหินอ่อน แม้จะเป็นสีขาวเหมือนกัน แต่ก็ทำให้เกิดมิติด้วย Texture ที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะเวลาที่มีแสงแดดส่องเข้ามา เป็นอีกลูกเล่นที่ทำให้บ้านดูไม่เรียบจนน่าเบื่อ

เดี๋ยวเราเดินเข้าไปดูภายในบ้านทางฝั่งเฉลียงหน้าบ้านกันค่ะ

เฉลียงทางเข้าบ้านดูโอ่โถงและภูมิฐานด้วยการออกแบบที่เหมือนซุ้มทางเข้าเสาหินขนาดใหญ่ขนาบข้าง แต่ลดทอนรายละเอียดลงให้ดูทันสมัยมากขึ้นด้วยการใช้ผนังทำลายเลียนแบบก้อนอิฐต่อเนื่องไปจนถึงชั้น 2 และ Set ประตูทางเข้าให้อยู่ลึกเข้าไปด้านใน ทำให้เกิด Depth บนรูปด้านของบ้าน

ประตูทางเข้าบ้านเป็นประตูบานเปิดคู่กรอบอะลูมิเนียม Powder Coat ติดลูกฟักกระจก ที่ล้อมาจาก Steel Factory – Style Windows

มีดีเทลที่น่าสนใจตรงนี้นิดนึงค่ะ ทางโครงการเขาเลือกใช้มือจับก้านโยกที่แข็งแรง โดยผ่านการ Test เป็นแสนครั้งว่าตัวมือจับจะยังคงแข็งอยู่เป็นระนาบเดียวกับพื้นไม่ตกลงมา

เข้ามาภายในบ้านส่วนแรกเราจะเจอห้องโถงขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อระหว่างห้องนั่งเล่น (ฝั่งขวา) และห้องรับประทานอาหาร แต่ถูกแบ่งพื้นที่ออกจากกันอย่างเป็นสัดส่วน พื้นภายในบ้านปูด้วยกระเบื้องลายหินธรรมชาติขนาด 80 x 80 ซม. ผนังฉาบเรียบติดวอลล์เปเปอร์สีขาวครีม สังเกตที่ฝ้าเพดานมีความสูงเกือบถึง 3 เมตรเลยค่ะ เป็นความสูงที่โปร่ง อยู่สบาย สำหรับไฟภายในบ้านจะเป็นดวงโคมดาวน์ไลต์ทั้งหมด

การที่ออกแบบบ้านให้ห้องนั่งเล่นหลบมุม มีระยะต้องเดินเข้าไปด้านในเล็กน้อยแทนที่จะเป็นจุดแรกที่เปิดประตูมาแล้วเข้าถึงเลย มีข้อดีตรงที่ทำให้การพักผ่อนภายในบ้านมีความเป็นส่วนตัวมากกว่า เพราะจริง ๆ แล้วห้องนั่งเล่นเป็นพื้นที่ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวมากเช่นกัน

ห้องนั่งเล่นมีพื้นที่ขนาดใหญ่ทีเดียวค่ะ สามารถจัดชุดเฟอร์นิเจอร์และโซฟาได้หลากหลายรูปแบบ โดยรอบห้องมีหน้าต่างขนาดใหญ่เป็นช่องแสง แม้จะไม่เปิดไฟในตอนกลางวัน ภายในห้องก็ยังคงสว่างอยู่

การตกแต่งห้องของบ้านตัวอย่างดูร่วมสมัยและอยู่สบายด้วยโทนสีอ่อนตัดกับโทนสีน้ำเงิน สังเกตจอทีวีที่ผนัง เป็นจอขนาด 82 นิ้วเลยนะคะ ขนาดกำลังเหมาะสมกับพื้นที่ห้อง พอบอกแบบนี้ทำให้รู้เลยว่าพื้นที่ห้องมีขนาดที่ใหญ่จริง ๆ

เราออกมาดูในส่วนของห้องรับประทานอาหารกันต่อค่ะ บ้านหลังนี้ออกแบบให้ห้องรับประทานอาหารเป็นโถงแรกที่เข้าถึงได้แทนที่จะเป็นห้องนั่งเล่น เพราะจริง ๆ แล้วการรับประทานอาหารนั้น มีลักษณะของการเข้าสังคมมากกว่า ต้องการความเป็นส่วนตัวน้อยกว่าห้องนั่งเล่น และโต๊ะรับประทานอาหารนั้นก็ยังสามารถใช้รับแขกได้เช่นกัน

บ้านตัวอย่างจัดชุดโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 8 ที่นั่งมาให้ดูเป็นไอเดีย ถ้าครอบครัวไหนมีเพื่อนฝูงหรือมีแขกคนสนิทมาเยี่ยมเยียนบ่อย ก็สามารถเพิ่มขนาดโต๊ะเป็น 10 ที่นั่งได้ค่ะ

ด้านหลังห้องรับประทานอาหารมีประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่สู่สวนหลังบ้าน พอเปิดม่านออกแล้วทำให้รู้สึกถึงการเชื่อมต่อของพื้นที่ สามารถดึงความเป็นธรรมชาติจากภายนอกเข้าสู่พื้นที่ภายในบ้าน

โดยผนังฝั่งที่อยู่ระหว่างห้องน้ำและห้องครัวยังสามารถทำเป็น Pantry สำหรับเตรียมของว่าง เครื่องดื่ม หรือพักอาหารก่อนนำมาจัดเสิร์ฟที่โต๊ะได้

สำหรับห้องน้ำชั้นล่างจะอยู่บริเวณหน้าประตูทางเข้ารองจากฝั่งโรงจอดรถเลยค่ะ

ห้องน้ำชั้นล่างเป็นห้องน้ำแบบ Powder Room สำหรับรองรับการใช้งานในพื้นที่ส่วนกลางและรองรับแขก ทั้งพื้นและผนังภายในห้องตกแต่งด้วยกระเบื้องลายไม้และลายหินธรรมชาติ ดูเรียบหรูมีระดับ ผนังด้านหลังติดกระจกเงาบานใหญ่ พร้อมก่อ Lower Wall ให้สามารถวางของเพิ่มเติมได้ และมีหน้าต่างบานกระทุ้งติดกระจกฝ้าเป็นช่องแสงและทางระบายอากาศ 1 บาน

แม้จะเป็นเพียง Powder Room แต่ทางโครงการก็ออกแบบพื้นที่มาให้มีขนาดใหญ่ รวมถึงชุดสุขภัณฑ์จาก American Standard ที่มีขนาดใหญ่ เพื่อการใช้งานที่สะดวกสบาย

เริ่มจากอ่างล้างมือเป็นอ่างฝังบนเคาน์เตอร์ขนาดใหญ่ Top ใช้หินอ่อนบดผสมเรซินเพื่อการใช้งานที่คงทน ติดตั้งมาพร้อมกับก๊อกน้ำแบบก้านโยก มีตู้ใต้เคาน์เตอร์สำหรับเก็บของได้

โถสุขภัณฑ์ก็ใช้รุ่นที่มีขนาดใหญ่นั่งสบาย ระบบ Dual Flush ช่วยประหยัดน้ำได้ในระยะยาว ติดตั้งมาพร้อมกับอุปกรณ์ประกอบการใช้งาน

สังเกตทางฝั่งขวาของประตูห้องครัว มีดีเทลเป็นพื้นที่ที่สามารถทำ Wine Cellar สำหรับบรรดานักดื่มในครอบครัวได้

พื้นที่ภายในห้องครัวมีขนาดใหญ่กำลังดี สามารถทำเคาน์เตอร์ครัว U Shape และยังเหลือพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นและตู้สำหรับเก็บของได้พอดีค่ะ โดยจากห้องครัวจะมีประตูเปิดออกไปยังลานซักล้างและห้องแม่บ้านที่อยู่โซนข้างบ้านได้

บริเวณลานซักล้างมีขนาดใหญ่ทีเดียว สามารถตั้งเครื่องซักผ้า ตู้อบผ้า และราวตากผ้าได้สบาย ๆ โดยที่ส่วนนี้เองจะมีห้องนอนและห้องน้ำของแม่บ้านแยกส่วนจากเจ้าของบ้านค่ะ

กลับเข้ามาภายในห้องรับประทานอาหาร มองไปที่อีกฝั่งของบ้าน ข้าง ๆ กับห้องนั่งเล่นจะเป็นห้องนอนชั้นล่างค่ะ

ภายในบ้านยังมีห้องนอนชั้นล่างคอยรองรับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุ ที่ไม่สามารถเดินขึ้น – ลงบันไดไม่สะดวกแล้ว โดยขนาดพื้นที่ของห้องนั้นใหญ่เพียงพอที่รองรับเตียงนอน Queen Size และเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่อื่น ๆ ได้

พื้นที่สำหรับวางเตียงนอนจะอยู่ติดกับหน้าต่างบานใหญ่ มองออกไปเห็นธรรมชาติและสีเขียวจากสวนหลังบ้าน ช่วยสร้างบรรยากาศให้เหมาะสำหรับการพักผ่อน

สังเกตระยะจากชั้นวางทีวีถึงปลายเตียงนอน ยังสามารถวางสตูลเพิ่มได้อีก 1 ตัว และยังสามารถเปลี่ยนชั้นวางทีวีให้เป็นโต๊ะเครื่องแป้งและโต๊ะเขียนหนังสือแทนได้ค่ะ

บริเวณโถงหน้าห้องน้ำเราสามารถทำตู้เสื้อผ้า Built – in ขนาดใหญ่ได้แบบนี้เลยค่ะ ซึ่งเป็นขนาดที่สามารถใช้งานได้จริง เก็บเสื้อผ้าได้เพียงพอ

ภายในห้องนอนทุกห้องของบ้านหลังนี้มีห้องน้ำให้ในตัว เพื่อความสะดวกสบายและความเป็นส่วนตัวรายบุคคล ห้องน้ำออกแบบโดยแบ่งส่วนเปียก – ส่วนแห้งออกจากกันอย่างเป็นสัดส่วน สำหรับสุขภัณฑ์จะใช้ของ American Standard ทั้งหมดค่ะ

อ่างล้างมือขนาดใหญ่ฝังบนเคาน์เตอร์หินอ่อนผสมเรซิน

โถสุขภัณฑ์ระบบ Dual Flush

โซน Shower ติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัยแบบบานเปิด ติดมือจับขนาดใหญ่สามารถใช้แขวนผ้าเช็ดตัวได้ สะดวกต่อการใช้งาน สังเกตผนังด้านบนมีหน้าต่างระบายอากาศมาให้ 1 บาน

ภายในมีการก่อม้านั่งสำหรับอาบน้ำ ติดตั้งชุด Shower พร้อมราวปรับระดับและจานวางสบู่ อีกทั้งยังมีการเดินระบบสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้ด้วยค่ะ

เราขึ้นไปดูพื้นที่ใช้สอยบนชั้น 2 กันต่อค่ะ บันไดทางขึ้นใช้โครงสร้าง คสล. ปิดผิวลูกนอนด้วยไม้อัดประสาน ติดราวบันไดลูกกรงเหล็ก ราวมือจับเป็นไม้อัดประสานเช่นกัน ความชาญฉลาดของทางโครงการก็คือ การออกแบบให้โถงบันไดอยู่ตรงกลางฝั่งหน้าบ้าน ซึ่งจะตรงกับส่วนห้องรับประทานอาหาร ทำให้คนที่กำลังอยู่ในห้องรับประทานอาหารรู้สึกว่าเหมือนได้บ้านแบบ Double Space ไปในตัว

เนื่องจากบริเวณโถงบันไดนั้นมีช่องแสงขนาดใหญ่จากฝั่งหน้าบ้าน ทำให้พื้นที่ภายในโถงจนไปถึงทางเดินชั้น 2 สว่างเพียงพอ

ขึ้นมาถึงชั้น 2 ส่วนแรกที่เราเจอจะเป็นโถงทางเดินที่เชื่อมต่อไปยังห้องนั่งเล่นชั้นบนและห้องนอนขนาดใหญ่อีก 3 ห้อง โดยออกแบบโถงทางเดินให้กว้างขวาง พื้นบ้านปูด้วยลามิเนตทั้งหมดค่ะ ฝ้าเพดานก็ยังดีไซน์มาสูงเกือบ 3 เมตร ฝั่งที่เราเห็นอยู่นี้คือห้องนั่งเล่นและ Master Bedroom ค่ะ

ส่วนฝั่งตรงข้ามคือห้องนอน 2 และห้องนอน 3

ห้องนั่งเล่นชั้น 2 เป็นอีกส่วนพักผ่อนที่ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น เหมาะมากที่จะใช้เป็นมุมพักผ่อนของคนในครอบครัว ข้อดีของพื้นที่ส่วนนี้ก็คือสามารถปรับฟังก์ชันได้อย่างอเนกประสงค์ตามไลฟ์สไตล์ของคนในครอบครัว สามารถกั้นส่วนเป็น ห้องอ่านหนังสือ ห้องทำงานสำหรับการ Work from Home ห้องเล่นโยคะ เป็นต้น

Master Bedroom เป็นห้องนอนขนาดใหญ่ที่สุดของบ้าน มีเอกสิทธิ์พิเศษเหนือห้องอื่น ๆ ทั้งในเรื่องของ พื้นที่พักผ่อน, Walk – in Closet และห้องน้ำในตัวขนาดใหญ่

ด้วยพื้นที่ของห้องสามารถวางเตียง King Size ได้สบายค่ะ ทั้งฝั่งปลายเตียงนอนและด้านข้างของเตียงก็ยังสามารถวางสตูลหรือเก้าอี้นั่งพักผ่อนเพิ่มได้

มุมนั่งอ่านหนังสือข้างเตียง

ไอเดียในการจัด Day Bed ข้างระเบียงห้องเพื่อนอนพักผ่อน อ่านหนังสือ และรับลมชมวิว

โดยมากแล้วระเบียงจะเป็นฟังก์ชันที่คนจะไม่ค่อยได้ออกไปใช้งานเสียเท่าไหร่ ทางโครงการจึงเน้นออกแบบพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านเป็นหลักเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้อยู่อาศัย แต่ก็ยังมีพื้นที่ระเบียงที่พอให้สามารถเปิดรับลมได้ค่ะ

ภาพบรรยากาศจากมุมระเบียงมองกลับเข้ามาภายในห้องนอน

ภายใน Master Bedroom มี Walk – in Closet ขนาดใหญ่เชื่อมต่อกับห้องน้ำในตัว ซึ่งใหญ่พอที่สามารถทำตู้ Built – in รูปตัว U พร้อม Island ตรงกลางได้แบบนี้เลย อีกจุดหนึ่งที่ทำให้ห้องดูแกรนด์มากขึ้นก็คือประตูห้องน้ำขนาดใหญ่แบบบานเปิดคู่ เป็นดีเทลเล็ก ๆ ที่ช่วยเพิ่มมูลค่าทางความรู้สึกได้เป็นอย่างดี

เนื่องจากเป็นห้องน้ำของ Master Bedroom จึงถูกออกแบบมาให้เป็น Full Function Bathroom ขนาดใหญ่ที่ให้ครบทั้ง อ่างล้างมือฝังบนเคาน์เตอร์ขนาดใหญ่, โถสุขภัณฑ์, โซน Shower และ อ่างอาบน้ำ

โซน Shower กั้นส่วนด้วยฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัย แยกส่วนจากโถสุขภัณฑ์

โดยจะได้ Hand Shower ติดตั้งมาพร้อมกับก๊อกผสมและเครื่องทำน้ำร้อน

และอ่างอาบน้ำแบบลอยตัวขนาดใหญ่ดีไซน์เรียบสวย พร้อมก๊อกผสมอ่างอาบน้ำแบบตั้งพื้น

ห้องนอน 2 ถือเป็นห้องที่มีขนาดใหญ่ไม่แพ้ Master Bedroom ของโครงการอื่น ๆ ด้วยพื้นที่ส่วนพักผ่อนขนาดใหญ่ แยกส่วนกับ Walk – in Closet และห้องน้ำในตัว พร้อมช่องแสงภายในห้องขนาดใหญ่

ด้วยพื้นที่ห้องขนาดใหญ่จึงสามารถวางเตียงนอน King Size ได้ลงตัว แต่ถ้าอยากให้ห้องดูโปร่งขึ้นอาจใช้เตียง Queen Size และสตูลปลายเตียง ตามที่บ้านตัวอย่างจัดมาให้ดูก็ได้ค่ะ

พื้นที่ผนังอีกฝั่งหนึ่งสามารถวางชั้นวางทีวีได้พอดี หากต้องการให้ห้องเป็นสัดส่วนมากขึ้น เราสามารถทำประตูบานเลื่อนกระจกกั้นส่วน Walk – in Closet ออกไปได้

ขนาดพื้นที่ส่วนนี้ก็ยังทำตู้ Built – in พร้อมโต๊ะเครื่องแป้งที่มีขนาดใหญ่ได้ เป็นขนาด 2 – 2.5 เท่าของตู้ขนาดมาตรฐานเลยค่ะ

ภาพบรรยากาศภายในห้องน้ำในตัว ที่ให้สุขภัณฑ์และการตกแต่งไม่ด้อยไปกว่าห้องอื่น ๆ เลย

สำหรับห้องนอน 3 ส่วนแรกเป็นโถงทางเดินผ่านห้องน้ำก่อนเข้าสู่ส่วนพักผ่อน

ภาพบรรยากาศภายในห้องน้ำพร้อมสุขภัณฑ์ครบชุด

ความพิเศษของห้องนอน 3 ที่นอกจากจะมีพื้นที่ห้องขนาดใหญ่แล้วยังมีระเบียงถึง 2 ระเบียง และมีช่องแสงถึง 3 ฝั่งเลยค่ะ

พื้นที่ห้องกำลังลงตัวกับเตียงนอน Queen Size และโต๊ะข้าง ทางฝั่งขวาของเตียงยังสามารถวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งได้พอดี

พื้นที่ระเบียงฝั่งด้านข้าง มีขนาดใหญ่พอที่จะวางชุดโต๊ะน้ำชาหรือ Day Bed สำหรับนั่งเล่นพักผ่อนในยามเช้าหรือยามเย็นได้

พื้นที่ระเบียงฝั่งหน้าบ้าน

::: แบบบ้าน P 326 ขนาด 326 ตร.ม. :::

แปลนชั้น 1 หน้าบ้านส่วนแรกเป็นโรงจอดรถ สามารถจอดรถได้ถึง 3 คันในร่ม มีทางเข้าบ้านรองให้ภายใน ส่วนเฉลียงทางเข้าบ้านใหญ่จะอยู่อีกฝั่งหนึ่ง ภายในบ้านส่วนแรกเป็นพื้นที่โถง Living Area ขนาดใหญ่ เป็นห้องนั่งเล่น เชื่อมต่อกับห้องรับประทานอาหารพร้อมครัวฝรั่ง และจะมีโถงทางเดินต่อจากห้องรับประทานอาหารไปยัง โถงบันได, ห้องน้ำ (Powder Room), ห้องนอนชั้นล่าง และห้องครัว ซึ่งในห้องครัวจะมีประตูสามารถเชื่อมกับลานซักล้างหลังบ้านและห้องแม่บ้านได้

แปลนชั้น 2 เป็น Private Zone ของครอบครัว ประกอบด้วย ห้องนั่งเล่นชั้นบน และห้องนอนขนาดใหญ่อีก 3 ห้อง ภายในห้องนอนทุกห้องจะมีห้องน้ำในตัวให้ทั้งหมดค่ะ มีความพิเศษภายใน Master Bedroom ที่ได้ Walk – in Closet และห้องน้ำขนาดใหญ่มาด้วย

แบบบ้าน P 326 ขนาด 326 ตร.ม. ดีไซน์ออกมาในสไตล์ Neo Classic ที่ดูเรียบหรู ได้กลิ่นอายแบบสถาปัตยกรรมคลาสสิก มีการออกแบบที่ทำให้บ้านดูภูมิฐานขึ้นมาจากบ้าน P 280 อีกค่ะ

โรงจอดรถสามารถจอดรถได้ 3 คันในร่ม โดยที่มีความกว้างขึ้นมาอีกประมาณครึ่งเมตร แม้จะจอดรถเต็มทุกคันแล้วก็ยังสามารถเปิดประตูเดินลงจากรถได้สบาย พื้นโรงจอดรถทำ Stamp Concrete ให้เหมือนเดิม

จากโรงจอดรถมีประตูทางเข้าบ้านรองให้สามารถเดินเข้าสู่ตัวบ้านได้สะดวก โดยเฉพาะในวันที่ซื้อของเข้าบ้านและในวันที่ฝนตก ถ้าเข้าบ้านทางประตูนี้จะเข้าสู่โถงรับประทานอาหารตรงฝั่งที่ติดกับโถงทางเดินที่เชื่อมต่อไปยังห้องน้ำและห้องครัว

ที่เพิ่มขึ้นมาก็คือตู้เก็บของค่ะ เหมาะสำหรับเก็บพวกอุปกรณ์ล้างรถหรืออุปกรณ์ทำสวน

สำหรับเฉลียงทางเข้าบ้านจะอยู่อีกฝั่งค่ะ

เฉลียงทางเข้าถูกออกแบบมาให้ดูแกรนด์มากขึ้นด้วยเสาหน้าคู่ และ Set ประตูทางเข้าเข้าไปด้านในทำให้เกิด Depth บนรูปด้านของบ้าน โดยประตูนี้เป็นบานเลื่อนอะลูมิเนียมติดลูกฟักกระจก

พอเข้ามาภายในบ้านส่วนแรกจะเป็นห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ เทียบพื้นที่ใช้สอยแล้วยังกว้างกว่าห้องนั่งเล่นและห้องรับประทานอาหารรวมกันในทาวน์โฮมหรือบ้านเดี่ยวทั่วไปอีกค่ะ

สำหรับวัสดุที่ได้ภายในบ้าน พื้นปูด้วยกระเบื้องลายหินธรรมชาติ ผนังฉาบเรียบติดวอลล์เปเปอร์สีขาวครีม ฝ้าเพดานมีความสูงเกือบ 3 เมตร โดยติดดวงโคมดาวน์ไลต์ทั้งหมด

ด้วยขนาดของพื้นที่ห้องที่กว้างขนาดนี้ เราสามารถจัดเฟอร์นิเจอร์ได้หลากหลายรูปแบบมากตามความชอบ โดยแบบที่บ้านตัวอย่างจัดมาให้เป็นไอเดียนั้นก็ดูลงตัวกับพื้นที่ดีค่ะ มีจุดที่อยากให้สังเกตก็คือทีวีที่ติดอยู่ตรงผนัง ทางโครงการเลือกใช้จอขนาด 82 นิ้วแล้วนะคะ เทียบกับขนาดห้องแล้วดูเล็กไปเลย

นอกจากจะจัดชุดโซฟาสำหรับรับแขกและนั่งเล่นขนาดใหญ่ได้ลงตัวแล้ว ยังเหลือพื้นที่ให้วาง Station สำหรับทำงานสบาย ๆ ได้ด้วยค่ะ

ภาพบรรยากาศภายในห้องนั่งเล่นอีก 1 มุม

จากห้องนั่งเล่นเชื่อมต่อกับห้องโถงขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นทั้งห้องรับประทานอาหารและครัวฝรั่งค่ะ

บ้านตัวอย่างจัดโถงนี้ออกเป็น 2 มุมด้วยกัน มุมแรกเป็นห้องรับประทานอาหารขนาดใหญ่ โดยเลือกวางตำแหน่งตรงที่มีฝ้าสูงกว่า 6 เมตรแบบ Double Space ซึ่งเป็นจุดที่อยู่ตรงกลางฝั่งหน้าบ้านพอดี เพิ่มความหรูหราด้วย Chandelier ขนาดใหญ่ ดูแล้วลงตัวมาก

ข้อดีของฝ้าเพดานสูงแบบ Double Space นอกจากจะทำให้บ้านดูแพงขึ้นแล้ว ยังเป็นการเชื่อมต่อ Space ระหว่างพื้นที่ชั้นบนและชั้นล่าง รวมถึงความสัมพันธ์ภายในครอบครัว ให้สามารถมองเห็นหรือรู้สึกถึงกิจกรรมที่แต่ละคนกำลังทำอยู่นั้นได้ตลอด โดยบ้านตัวอย่างจัดโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 8 ที่นั่งมากำลังพอดีค่ะ

อีกมุมหนึ่งจัดเป็น Pantry สำหรับเตรียมอาหารและเครื่องดื่มง่าย ๆ บ้านไหนที่ชอบทำอาหารฝรั่ง หรืออยากเชิญ Chef Table มาจัดดินเนอร์ส่วนตัว ก็สามารถออกแบบพื้นที่ส่วนนี้ให้เป็นครัวฝรั่งสวย ๆ ได้

ด้านหลังห้องมีประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่สู่เฉลียงและสวนหลังบ้าน วันไหนอยากจัดปาร์ตี้ BBQ ก็สามารถเปิดประตูบานเลื่อนออกเพื่อใช้ครัวฝรั่งเป็น Station ในการเตรียมอาหารก่อนนำออกไปปิ้งย่างข้างนอก

จากโถงห้องรับประทานอาหารเชื่อมต่อกับโถงทางเดินไปยัง โถงบันได, ห้องน้ำ, ห้องครัว และห้องนอนชั้นล่าง ส่วนประตูทางฝั่งขวามือคือประตูทางเข้าบ้านจากฝั่งโรงจอดรถ

ห้องน้ำชั้นล่างเป็น Powder Room สำหรับรองรับการใช้งานในพื้นที่ส่วนกลางและรองรับแขก ตกแต่งอย่างสวยงามด้วยกระเบื้องลายหินธรรมชาติและกระเบื้องลายไม้ และเลือกใช้สุขภัณฑ์ขนาดใหญ่ของ American Standard ทั้งหมด

พื้นที่ภายในห้องครัวมีขนาดใหญ่ขึ้นอีกค่ะ ดูระยะการใช้งานหลังตกแต่งด้วยเคาน์เตอร์ครัวรอบ ๆ ห้องแล้วก็ยังเหลือพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง สามารถใช้งานได้สะดวก โดยจากห้องครัวจะมีประตูเปิดออกไปยังลานซักล้างและห้องแม่บ้านที่อยู่โซนข้างบ้านได้

บริเวณลานซักล้างมีขนาดใหญ่พอที่สามารถตั้งเครื่องซักผ้า ตู้อบผ้า และราวตากผ้าได้สบาย ๆ

เดินออกไปด้านข้างจะมีห้องนอนและห้องน้ำของแม่บ้านแยกส่วนจากเจ้าของบ้านค่ะ

ภายในบ้านยังมีห้องนอนชั้นล่างคอยรองรับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุเช่นกัน โดยขนาดพื้นที่ของห้องนั้นใหญ่เพียงพอที่รองรับเตียงนอน Queen Size และเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่อื่น ๆ ได้ลงตัว จะปรับห้องนี้ให้เป็นห้องนอนแขกหรือห้องอเนกประสงค์ก็ได้เช่นกัน

พื้นที่สำหรับวางเตียงนอนจะอยู่ติดกับหน้าต่างบานใหญ่ มองออกไปเห็นธรรมชาติและสีเขียวจากสวนหลังบ้าน

บริเวณโถงหน้าห้องน้ำเราสามารถทำตู้เสื้อผ้า Built – in ได้แบบนี้

ภายในห้องนอนทุกห้องของบ้านหลังนี้มีห้องน้ำให้ในตัว เพื่อความสะดวกสบายและความเป็นส่วนตัวของสมาชิกในครอบครัวทุกคน

เราขึ้นไปดูพื้นที่ใช้สอยบนชั้น 2 กันต่อค่ะ โครงการออกแบบบันไดให้โค้ง โดยล้อมาจากยุคคลาสสิก แต่มีการลดทอนรายละเอียดรวมถึงการใช้วัสดุในยุคปัจจุบัน ทำให้ดูทันสมัย โดยใช้โครงสร้าง คสล. ปิดผิวลูกนอนด้วยไม้อัดประสาน ติดราวบันไดลูกกรงเหล็ก ราวมือจับเป็นไม้อัดประสานเช่นกัน

เนื่องจากบริเวณโถงบันไดนั้นมีช่องแสงขนาดใหญ่จากฝั่งหน้าบ้าน ทำให้พื้นที่ภายในโถงจนไปถึงโถงชั้น 2 สว่างเพียงพอ

ขึ้นมาถึงชั้น 2 ส่วนแรกที่เราเจอเป็นโถงทางเดินขนาดใหญ่ เชื่อมต่อไปยังห้องนั่งเล่นชั้นบนและห้องนอนขนาดใหญ่อีก 3 ห้อง ดูโปร่งด้วยช่องแสงและ Double Space ที่ฝั่งหน้าบ้าน รวมถึงช่องแสงตรงโถงบันไดก็ช่วยได้เยอะ

พื้นบ้านปูด้วยลามิเนตทั้งหมด ฝ้าเพดานก็ยังดีไซน์มาสูงเกือบ 3 เมตร ฝั่งที่เราเห็นอยู่นี้คือห้องนั่งเล่นและ Master Bedroom ค่ะ

ส่วนฝั่งตรงข้ามคือห้องนอน 2 และห้องนอน 3

ห้องนั่งเล่นชั้น 2 เป็นอีกส่วนพักผ่อนที่ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น โดยสามารถปรับฟังก์ชันได้อย่างอเนกประสงค์ตามไลฟ์สไตล์ของคนในครอบครัว โดยพื้นที่ส่วนนี้จะยังรู้สึกเชื่อมต่อกับพื้นที่ชั้นล่างอยู่ด้วยค่ะ

Master Bedroom ของบ้านหลังนี้มีความโอ่อ่าขึ้นไปอีกระดับ ด้วยพื้นที่ห้องขนาดใหญ่ และฝ้าเพดานสูงโปร่ง

ด้วยพื้นที่ของห้องสามารถวางเตียง Over Size ได้เลยค่ะ ทั้งฝั่งปลายเตียงนอนและด้านข้างของเตียงก็ยังสามารถวางสตูลหรือเก้าอี้นั่งพักผ่อนได้

จากพื้นที่ระเบียงถูกออกแบบให้กลายเป็นพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านเพื่อการใช้งานที่ได้ประโยชน์สูงสุดกับตัวผู้อยู่อาศัยเอง โดยทางโครงการออกแบบให้พื้นยื่นออกไปและล้อมด้วยกระจกทั้ง 3 ฝั่งเหมือน Bay Window ในสถาปัตยกรรมยุคคลาสสิก พอติดม่าน 2 ชั้นและวาง Day Bed แล้ว จะกลายเป็นมุมที่น่านั่งพักผ่อนมากที่สุดในบ้านอีกมุมนึงเลยค่ะ

ภายใน Master Bedroom มี Walk – in Closet ขนาดใหญ่เชื่อมต่อกับห้องน้ำในตัว ซึ่งใหญ่พอที่สามารถทำตู้ Built – in รูปตัว U  2 ฝั่ง พร้อม Island ตรงกลางได้แบบนี้เลย

เนื่องจากเป็นห้องน้ำของ Master Bedroom จึงถูกออกแบบมาให้เป็น Full Function Bathroom ขนาดใหญ่ ดีไซน์อย่างเป็นสัดส่วน ทั้ง อ่างล้างมือแบบ His & Her ฝังบนเคาน์เตอร์ขนาดใหญ่, โถสุขภัณฑ์, โซน Shower และ อ่างอาบน้ำ

เรามาดูห้องนอน 2 และห้องนอน 3 ที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของโถงกันต่อค่ะ

ห้องนอน 2 ถือเป็นห้องที่มีขนาดใหญ่ไม่แพ้ Master Bedroom ของโครงการอื่น ๆ ด้วยพื้นที่ส่วนพักผ่อนขนาดใหญ่ แยกส่วนกับ Walk – in Closet และห้องน้ำในตัว โดยห้องนี้จะอยู่ฝั่งหน้าบ้านค่ะ

พื้นที่ห้องสามารถวางเตียงนอน King Size ได้ลงตัว หรือจะวางเตียง Queen Size และสตูลปลายเตียง ตามที่บ้านตัวอย่างจัดมาให้ดูก็ได้

พื้นที่อีกฝั่งของห้องสามารถจัดเป็นมุมสำหรับทำงานและวางตู้โชว์หรือตู้เก็บของ

ขนาดพื้นที่ส่วนนี้ยังทำตู้ Built – in พร้อมโต๊ะเครื่องแป้งที่มีขนาดใหญ่ได้ทั้ง 2 ฝั่ง

ภาพบรรยากาศภายในห้องน้ำในตัว

ห้องนอน 3 ก็มีพื้นที่ใช้สอยไม่แพ้กันค่ะ สามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ได้ลงตัว แถมยังได้ช่องแสงขนาดใหญ่มาอีกด้วย

มุมทางเข้าห้องสามารถจัดเป็น Station ที่ใช้นั่งทำงานได้ โต๊ะที่เห็นวางอยู่นี้ก็มีขนาดใหญ่ทีเดียว

พื้นที่ห้องสามารถวางได้ทั้งเตียง Queen Size และ King Size ค่ะ และปลายเตียงนอนยังวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่งเพิ่มได้

ผนังอีกฝั่งจะมีหน้าต่างอยู่ 1 บาน ทางโครงการเลยออกแบบตู้ Built – in เอาไว้ขนาบข้าง ส่วนพื้นที่ที่เหลือตรงกลางเราสามารถวางโต๊ะเครื่องแป้งแทนได้เลย

ภาพบรรยากาศภายในห้องน้ำในตัว ได้สุขภัณฑ์ชิ้นใหญ่ไม่ต่างจากห้องน้ำห้องอื่น ๆ เลยค่ะ

---

:::: ราคา (กันยายน 2563) ::::

• ราคาเริ่มต้น 12.99 ล้านบาท

• เงินจอง n/a บาท
• เงินทำสัญญา n/a บาท

• ที่ดินเพิ่ม – ลด ตร.ว. ละ n/a บาท
• ค่าส่วนกลาง ตร.ว. ละ n/a บาท/เดือน

---

:::: สรุป ::::

ทำเลที่ตั้งโครงการ โครงการ Pannana พุทธมณฑลสาย 3 ตั้งอยู่ในทำเลที่เป็นส่วนตัว ในสังคมคุณภาพ รายล้อมด้วยธรรมชาติ บนถนนบางแวก จากถนนพุทธมณฑลสาย 3 ประมาณ 350 เมตร ที่เชื่อมต่อถนนใหญ่สายหลัก มีความอุดมสมบูรณ์รองรับการอยู่อาศัย มีแหล่งชอปปิงทั้ง ห้างสรรพสินค้า, คอมมูนิตี้มอลล์, ไฮเปอร์มาร์เก็ต, ร้านค้า, ตลาด, โรงพยาบาล และสถานศึกษา ครบจบในทำเลเดียว

เช่น The Mall บางแค, Seacon บางแค, Central ศาลายา, The Paseo Park, Makro, Big C, Tesco Lotus, HomePro, รร.อัสสัมชัญธนบุรี, รพ.วิชัยเวชอินเตอร์เนชั่นแนล หนองแขม เป็นต้น จึงนับว่าเป็นทำเลที่สามารถอยู่อาศัยได้ง่ายค่ะ

การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว ถือว่าสะดวกเลยค่ะ เพราะจากถนนบางแวกจะเชื่อมต่อตรงกับถนนพุทธมณฑลสาย 2 และสาย 3 ที่วิ่งขนานกันระหว่างถนนบรมราชชนนีและถนนเพชรเกษม ซึ่งเป็นถนนสายหลักขนาดใหญ่ทั้ง 2 สายที่ใช้ในการเดินทางเข้า – ออกเมือง โดยจะมีวงแหวนกาญจนาภิเษก และจุดขึ้นทางพิเศษศรีรัช – วงแหวนรอบนอก ที่สามารถใช้วิ่งไปทางจตุจักร – พระราม 9 ใช้วิ่งขึ้นเหนือลงใต้ไปทางบางปะอิน พระราม 2 หรือข้ามฝั่งไปบางนา ก็ทำได้

อีกทั้งยังมีโครงการถนนเส้นพระเทพตัดใหม่ และโครงการก่อสร้างขยายทางคู่ขนานลอยฟ้าบนถนนบรมราชชนนี เป็นอีกโครงข่ายสำคัญที่จะทำให้การเดินทางสะดวกสบายมากขึ้นในอนาคต

การเดินทางโดยรถสาธารณะ สามารถเรียกใช้ Grab Taxi และ Line Taxi ไปต่อสถานีรถไฟฟ้าหลักสองที่อยู่ตรง The Mall บางแค ได้ค่ะ และในอนาคตจะมีโครงการต่อจากสถานีหลักสอง วิ่งผ่านพุทธมณฑลสาย 3 ไปถึงพุทธมณฑลสาย 4 เลย

การออกแบบโครงการ และวัสดุ เป็นโครงการที่ออกแบบอย่างมีระดับ ที่ให้ความเป็นส่วนตัว หรูหรา โอ่อ่า แต่ไม่ถึงกับฟู่ฟ่าจนเกินพอดี ด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์ Neo Classic ที่ถูกเกลาจนเรียบหรู ร่วมสมัย ไม่เชย แต่ยังคงความภูมิฐานแบบสถาปัตยกรรม Classic ด้วยการออกแบบและการใช้วัสดุสมัยใหม่ จึงทำให้บ้านสวย อยู่ทน ดูแลรักษาง่าย จนไปถึงการออกแบบพื้นที่ใช้สอยที่ลงตัว กว้างขวาง สามารถใช้สอยได้ทุกตารางเมตร จัดวางเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ได้พอดี มีการออกแบบพื้นที่แบบ Double Space นับว่าเป็นบ้านขนาด 300 ตร.ม. ที่ได้ภาพรวมของฟังก์ชันเหมือนอยู่ในบ้านขนาด 500 ตร.ม. ในอีกระดับราคาเลยค่ะ

สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัย หาได้ยากมากสำหรับโครงการในระดับราคาเดียวกัน หรือแม้แต่โครงการระดับที่สูงกว่า ที่จะลงรายละเอียดและใส่ใจกับพื้นที่ส่วนกลางเท่านี้ ทางโครงการออกแบบ Clubhouse ในสไตล์ Industrial แยกอาคารระหว่างส่วนพักผ่อน ส่วนทำงาน และส่วนออกกำลังกาย เพื่อความเหมาะสมและความเป็นส่วนตัวในการใช้งานฟังก์ชันที่แตกต่างกัน

มีสระว่ายน้ำขนาด Half Olympic ออกแบบให้ดูเชื่อมต่อกับสระน้ำของสวนสาธารณะ จุดที่น่าสนใจก็คือ Life Park ที่มีส่วน Rain Garden ออกแบบและคัดสรรพรรณไม้อย่างสวยงามเหมือนในนิทรรศการที่ตั้งใจจัดโชว์เลย และนอกจากนี้ทางโครงการยังมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ได้มาตรฐานตลอด 24 ชม. ค่ะ

---

:::: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ::::

CALL CENTER : 098 – 981 – 9999

WEBSITE : https://isamr.co.th/pannana/

หากเพื่อน ๆ เห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ

และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ