EP.1635 รีวิว อีโค เฮ้าส์ รามอินทรา-ลำลูกกา บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ราคาเริ่ม 3.39 ล้านบาท

EP.1635 รีวิว บ้านเดี่ยว อีโค เฮ้าส์ รามอินทรา-ลำลูกกา ECO HAUS Ramintra-Lamlukka

Written by : Aun Chaya

สวัสดีผู้อ่านชาว Homenayoo ทุกท่านครับ วันนี้ผมจะพาท่านไปรีวิวกันที่โครงการ Eco Haus รามอินทรา-ลำลูกกา ของทาง SL Estate ตัวโครงการตั้งอยู่บนถนนเลียบมอเตอร์เวย์ เชื่อมต่อได้หลายเส้นทางเช่น ถนนกาญจนาภิเษก, ถนนลำลูกกา, ถนนรังสิต-นครนายก และทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ เป็นต้น ใกล้ห้าง Big C ลำลูกกา-คลอง 5 ในอนาคตมีรถไฟฟ้าสายสีเขียวสถานีวงแหวนตะวันออก

Eco Haus รามอินทรา-ลำลูกกา เป็นโครงการบ้านเดี่ยวและบ้านแนวคิดใหม่ 2 ชั้น บนพื้นที่โครงการ 53-2-43 ไร่จำนวนบ้านพักอาศัย 313 ยูนิต มีแบบบ้านทั้งหมด 4 แบบ บนที่ดินเริ่มต้น 35 ตร.ว. และ 50 ตร.ว. ขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย 139-189 ตร.ม. ฟังก์ชั่น 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พร้อมห้องครัว

ออกแบบภายใต้แนวคิด “The Urban Green Living” สไตล์ Eco Modern สอดรับกับทิศทางลมและแดด ให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก พร้อมระบบระบายอากาศใต้หลังคาแบบ Double ช่วยลดความร้อนในตัวบ้าน พื้นที่ใช้สอยกว้างใช้งานได้หลากหลายฟังก์ชั่น ปัจจุบันพร้อมเข้าอยู่อาศัยแล้วบางส่วน

สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ด้วยคลับเฮ้าส์ทันสมัย พร้อมสระว่ายน้ำ, ฟิตเนส และ Co-working space พร้อมสวนสาธารณะขนาดกว่า 1 ไร่ ความปลอดภัยได้มาตรฐาน เข้าออกระบบ Easy Pass พร้อมรปภ. และ CCTV 24 ชม. ในราคาเริ่มต้น 3.39 ล้านบาท (ก.พ. 63)

---

---

ชื่อโครงการ	อีโค เฮ้าส์ รามอินทรา-ลำลูกกา / ECO HAUS Ramintra-Lamlukka
เจ้าของโครงการ	เอส.แอล.เอสเตท / SL Estate
ลักษณะโครงการ	บ้านเดี่ยว 2 ชั้น บ้านแนวคิดใหม่ 2 ชั้น
พื้นที่โครงการ	53-2-43 ไร่ (แบ่งออกเป็น 4 เฟส)
จำนวนบ้าน	313 ยูนิต
เนื้อที่บ้าน	เริ่มต้น 35-60 ตร.วา.
พื้นที่ใช้สอย	เริ่มต้น 139-189 ตร.ม.
จำนวนห้อง	4 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ
ที่จอดรถทั้งหมด	2 คัน
โซน	รังสิต, ลำลูกกา
ขนส่งสาธารณะ	ถนนกาญจนาภิเษก ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ รถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย หมอชิต-คูคต-ลำลูกกา
ที่ตั้ง	ถ.เลียบมอเตอร์เวย์ (ฝั่งขาเข้า) ม.14 ต.บึงคำพร้อย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี
กำหนดการ	เปิดขาย 2 ก.พ. 2561
ปีที่สร้างเสร็จ	พร้อมเข้าอยู่อาศํยแล้วบางส่วน
ราคา	เริ่มต้น 3.39 ล้านบาท
ค่าส่วนกลาง	30 บาท/ตร.ว./เดือน (ชำระล่วงหน้า 2 ปี)
สถานที่สำคัญใกล้เคียง	ตลาดและห้างสรรพสินค้า Big C (1) ลำลูกกา-คลอง 5 : 5.4 กม. Big C (2) ลำลูกกา-คลอง 4 : 12.7 กม. Big C (3) รังสิต 2 : 20.7 กม. Homepro ลำลูกกา-คลอง 5 : 5.7 กม. Tesco Lotus (1) ลำลูกกา-คลอง 6 : 7.7 กม. Tesco Lotus (2) ลำลูกกา-คลอง 2 : 16.4 กม. Tesco Lotus (3) รังสิต-คลอง 4 : 8.1 กม. ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต : 14.4 กม. Makro รังสิต : 21.9 กม. เซียร์ รังสิต : 17.5 กม. ตลาดเอซีสายไหม : 14.9 กม. สถานศึกษา รร.สารสาสน์วิเทศสายไหม : 11.6 กม. ม.อีสเทิร์นเอเชีย : 6.5 กม. ม.เทคโนโลยีราชมลคลธัญบุรี คลอง 6 : 10.2 กม. ม.นอร์ทกรุงเทพ : 10.0 กม. สถานพยาบาล รพ.สายไหม : 10.6 กม. รพ.บางปะกอกรังสิต 2 : 12.7 กม. รพ.เปาโล รังสิต : 14.9 กม. รพ.ปทุมเวช : 17.4 กม. รพ.แพทย์รังสิต : 16.8 กม. อื่น ๆ Dream World : 8.9 กม. สนามกีฬาธูปะเตมีย์ : 18.6 กม. สนามบินดอนเมือง : 22.7 กม.
สิ่งอำนวยความสะดวก	คลับเฮ้าส์ สระว่ายน้ำ ฟิตเนส พื้นที่เขียวส่วยกลางกว่า 1 ไร่ พื้นที่พักผ่อน กล้องวงจรปิด รปภ. 24 ชม.
จุดเด่นของโครงการ	ECO HAUS รามอินทรา-ลำลูกกา  โครงการบ้านเดี่ยวและบ้านแนวใหม่ ที่ออกแบบภายแนวคิด “The Urban Green Living”  ตัวบ้านเน้นความเป็น ECO ด้วยการออกแบบให้มีช่องระบายอากาศใต้หลังคา แบบ  DOUBLE ลดความร้อนที่จะเข้าสู่ภายในวัสดุและสุขภัณฑ์เลือกใช้แบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ภายในโครงการมีพื้นที่สีเขียวส่วนกลางกว่า 1 ไร่ พื้นที่พักผ่อน Clubhouse รวมถึงสระว่ายน้ำ และห้องฟิตเนสการเดินทางเข้า-ออก สะดวกสบาย เชื่อมต่อได้หลายเส้นทาง ถ.วงแหวนฯ   ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์  ถนนลำลูกกา ถนนรังสิต-นครนายก

---

---

---

---

---

---

::: ที่ตั้งโครงการ :::

ถ.เลียบมอเตอร์เวย์ (ฝั่งขาเข้า) ม.14 ต.บึงคำพร้อย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี

พิกัด : 13.976704, 100.713740

ทำเลที่ตั้งโครงการ Eco Haus รามอินทรา-ลำลูกกา ตั้งอยู่บนถนนเลียบมอเตอร์เวย์ ที่คู่ขนานไปกับถนนกาญจนาภิเษกฝั่งตะวันออก ทำเลดังกล่าวมีลักษณะเป็นที่ดินเปล่าที่เริ่มมีการพัฒนาเป็นแหล่งพักอาศัยมากขึ้น ในปัจจุบันเราจะเห็นสองข้างทางส่วนใหญ่เป็นพื้นที่สวนไร่นาสลับกับหมู่บ้านจัดสรรที่ยังไม่หนาแน่น แต่มีแน้วโน้มที่จะเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการขยายตัว กระจายความหนาแน่นออกมาจากตัวเมือง

สาเหตุที่ส่งผลให้ทำเลดังกล่าวมีความน่าสนใจในการเป็นแหล่งพักอาศัย เนื่องด้วยเป็นทำเลที่สัญจรสะดวกของย่านรังสิต-ลำลูกกา อยู่กึ่งกลางระหว่างถนนลำลูกกา และถนนรังสิต-นครนายก ซึ่งเป็นถนนเส้นเลือดใหญ่ของย่านนี้ สามารถเข้าถึงใช้งานสะดวกทั้งสองฝั่ง โดยถนนทั้งสองเส้นดังกล่าวเป็นแหล่งรวมความอุดมสมบูรณ์ ห้างสรรพสินค้า และสถานที่อำนวยความสะดวกต่าง ๆ รองรับการใช้งานคนในพื้นที่ได้อย่างครบครันทุกรูปแบบ

เรื่องของการเดินทางก็มีความน่าสนใจไม่น้อย เพราะอยู่ติดกับถนนมอเตอร์เวย์ใช้เป็นเส้นทางหลักในการเข้าเมือง ซึ่งตัวโครงการเองอยู่ไม่ไกลจากจุดเชื่อมต่อทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ที่สามารถต่อยอดสู่เครือข่ายทางด่วนชั้นใน เดินทางไปทำงานในเมืองได้จริงในชีวิตประจำวัน ประกอบกับในอนาคตมีรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายอยู่ในระยะทำการอีกด้วย

การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว Eco Haus รามอินทรา-ลำลูกกา ตั้งอยู่ติดถนนเลียบมอเตอร์เวย์ ซึ่งเป็นถนนคู่ขนานด้านนอกกับถนนมอเตอร์เวย์หมายเลข 9 หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อถนนกาญจนาภิเษก แต่คนส่วนใหญ่มักเรียกชื่อเล่นกันว่าถนนวงแหวนรอบนอกตะวันออก ตัวโครงการอยู่ในช่วงที่เชื่อมต่อระหว่างถนนลำลูกกากับถนนรังสิต-นครนายก ในพื้นที่ของคลอง 5 คลอง 6

ในส่วนของการเดินทาง ถ้าใช้ชีวิตประจำวันอยู่ในย่านรังสิต-ลำลูกกา ต้องบอกว่าเป็นทำเลที่สะดวกมากทีเดียว เนื่องจากโครงการอยู่เกือบจะกึ่งกลางเข้าถึงถนนสองเส้นได้ในระยะทางไล่เลี่ยกัน ใช้เวลาประมาณ 5 นาทีเท่านั้น ซึ่งความอุดมสมบูรณ์ส่วนใหญ่ของย่านรังสิตก็จะรวมตัวกันอยู่บนถนนสองเส้นนี้เอง

แต่หากพูดถึงเรื่องของการเดินทางเข้าเมือง ต้องอ้างอิงการใช้งานถนนวงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันออก(ถนนกาญจนาภิเษก)เป็นหลัก จุดขึ้นทางด่วนอยู่บริเวณจุดตัดกับถนนลำลูกกาที่ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 นาทีถึง ถนนดังกล่าวฝั่งมุ่งลงใต้สามารถเดินทางไปยังรามอินทรา, บางนา, ศรีนครินทร์ ต่อเนื่องไปได้ถึงโซนพระราม 2, พระราม 3 และสุขสวัสดิ์ได้เลย อีกหนึ่งความน่าสนใจคือตรงช่วงรามอินทรานั้นมีจุดเชื่อมต่อกับทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ที่ผมมองว่าเป็นปัจจัยสำคัญสู่การเดินทางเข้าตัวเมืองชั้นใน สามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายทางด่วนอย่างทางด่วนศรีรัช ช่วยให้เดินทางได้อย่างรอบคลุมตัวเมืองกรุงเทพ

ส่วนขาออกสู่จังหวัดใกล้เคียงอย่างอยุธยาและนครนายกนั้น ผมคงไม่จำเป็นต้องบรรยายถึงความสะดวกเพราะโซนรังสิตนั้น มีอาณาเขตติดต่อกับจังหวัดดังกล่าวอยู่แล้ว ขับรถไม่เกินหนึ่งชั่วโมงก็ถึงแล้วครับ

ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ อย่างที่ผมได้เกริ่นไปว่าการเข้าเมืองนั้นมีทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์เป็นตัวเลือกที่สำคัญ การไปใช้งานนั้นก็เข้าถึงได้ง่ายมาก จากโครงการวิ่งไปตามถนนเลียบมอเตอร์เวย์จนถึงถนนลำลูกกา จากนั้นไปกลับรถเพื่อเข้าสู่ถนนกาญจนาภิเษก หลังจากนั้นจุดขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์จะอยู่เลยไปเพียงแค่เล็กน้อย  ห่างจากโครงการรวมระยะทางแล้วประมาณ 11.7 กม. ใช้เวลาเดินทางแค่ประมาณ 10 นาทีเท่านั้นเอง

แยกและถนนสำคัญใกล้เคียง

• ถนนลำลูกกา (แยกต่างระดับลำลูกกา) : 4.8 กม.
• ถนนรังสิต-นครนายก (แยกต่างระดับคลอง 5) : 3.8 กม.
• ถนนสายไหม : 8.2 กม.
• ถนนพหลโยธิน (แยกลำลูกกา) : 17.8 กม.
• ถนนพหลโยธิน (แยกรังสิต) : 14.0 กม.

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ โครงการตั้งอยู่ในทำเลที่เหมาะสำหรับรถยนต์ส่วนตัวมากกว่า เนื่องจากว่าด้านหน้าโครงการไม่มีรถสาธารณะวิ่งผ่าน ตัวเลือกอย่างแท๊กซี่ก็หาได้ค่อนข้างยากเพราะไม่ค่อยวิ่งผ่านเข้ามาที่ถนนเส้นนี้ อาจจะต้องใช้แอพพลิเคชั่นอย่าง Grab ในการเรียกใช้วินมอไซค์ หรือ Taxi เป็นช่องทางหลัก

ส่วนเรื่องของรถไฟฟ้า ปัจจุบันโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวหมอชิต-คูคต กำลังก่อสร้างแนวต่อขยายและคาดว่าจะแล้วเสร็จเปิดใช้ในช่วงปลายปี 2563 นี้ ระยะทางจากโครงการถึงสถานีคูคตอยู่ที่ 12 กม. ส่วนแผนเพิ่มเติมส่วนต่อขยายจากคูคตถึงวงแหวนตะวันออกนั้น ปัจจุบันเรื่องการออกแบบโครงการผ่าน EIA แล้ว และตามแผนการคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2565 ซึ่งหากเป็นไปตามกำหนดการถือว่าลูกบ้านไม่ต้องรอกันนานอีกแค่ 2-3 ปีจะได้ใช้รถไฟฟ้าในระยะที่ใกล้โครงการมากขึ้น โดยจากโครงการถึงสถานีวงแหวนตะวันออกมีระยะทางประมาณ 5 กม.

ความอุดมสมบูรณ์ จุดที่น่าสในใจที่สุดในแง่ของการหาเครื่องอุปโภคบริโภคอยู่บนถนนลำลูกกา มีห้างบิ๊กซี, โฮมโปร และโลตัส เป็นตัวเลือกสำคัญเนื่องจากมีระยะทางที่ใกล้โครงการที่สุดประมาณ 5-6 กม. แต่หากมองเป็นแหล่งช้อปปิ้งในวันหยุดสุดสัปดาห์ ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ที่อยู่ในระยะเข้าถึงจากโครงการมี ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ

อันที่จริงแล้วนอกเหนือจากฟิวเจอร์ ห้างที่ไม่ได้อยู่ในแผนที่ข้างต้นก็มีทั้ง เซ็นทรัล อีสต์วิลล์, เมกะ อีเกียบางนา และแฟชั่นไอส์แลนด์ ที่ถึงแม้ว่าระยะทางอาจมากกว่า 20 กม. ดูแค่ตัวเลขเหมือนจะเป็นระยะทางที่ค่อนข้างไกล แต่ด้วยความสะดวกในการสัญจรที่สามารถใช้ถนนกาญจนาภิเษก และทางด่วนฉลองรัชได้ง่าย จึงใช้เวลาไม่มากในการเดินทาง เพียง 20-30 นาทีก็ถึงที่หมายแล้วครับ

สถานที่สำคัญบริเวณโครงการ

ตลาดและห้างสรรพสินค้า

• Big C (1) ลำลูกกา-คลอง 5 : 5.4 กม.
• Big C (2) ลำลูกกา-คลอง 4 : 12.7 กม.
• Big C (3) รังสิต 2 : 20.7 กม.
• Homepro ลำลูกกา-คลอง 5 : 5.7 กม.
• Tesco Lotus (1) ลำลูกกา-คลอง 6 : 7.7 กม.
• Tesco Lotus (2) ลำลูกกา-คลอง 2 : 16.4 กม.
• Tesco Lotus (3) รังสิต-คลอง 4 : 8.1 กม.
• ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต : 14.4 กม.
• Makro รังสิต : 21.9 กม.
• เซียร์ รังสิต : 17.5 กม.
• ตลาดเอซีสายไหม : 14.9 กม.

สถานศึกษา

• รร.สารสาสน์วิเทศสายไหม : 11.6 กม.
• ม.อีสเทิร์นเอเชีย : 6.5 กม.
• ม.เทคโนโลยีราชมลคลธัญบุรี คลอง 6 : 10.2 กม.
• ม.นอร์ทกรุงเทพ : 10.0 กม.

สถานพยาบาล

• รพ.สายไหม : 10.6 กม.
• รพ.บางปะกอกรังสิต 2 : 12.7 กม.
• รพ.เปาโล รังสิต : 14.9 กม.
• รพ.ปทุมเวช : 17.4 กม.
• รพ.แพทย์รังสิต : 16.8 กม.

อื่น ๆ

• Dream World : 8.9 กม.
• สนามกีฬาธูปะเตมีย์ : 18.6 กม.
• สนามบินดอนเมือง : 22.7 กม.

---

::: การเดินทาง :::

เส้นทางที่ใช้เดินทางไปยังโครงการ Eco Haus รามอินทรา-ลำลูกกา ผมใช้ถนนกาญจนาภิเษก เริ่มต้นจากบริเวณหน้าห้าง Ikea บางนา มุ่งหน้าไปทางฝั่งบางปะอิน จากนั้นใช้ทางออกสู่ถนนลำลูกกา ไปวิ่งเลียบถนนกาญจนาภิเษกเพื่อไปยังตัวโครงการ มีภาพประกอบการเดินทางดังนี้ครับ

สรุปการเดินทาง : ถนนกาญจนาภิเษก > ทางออกถ.ลำลูกกา > ถ.ลำลูกกา > ถนนเลียบมอเตอร์เวย์ > Eco Haus รามอินทรา-ลำลูกกา

เริ่นต้นจากบนถนนกาญจนาภิเษก ช่วงบริเวณหน้าห้าง Ikea บางนา มุ่งหน้าไปทางเหนือสู่ถนนลำลูกกา

บนถนนกาญจนาภิเษกมุ่งหน้าตรงเพียงอย่างเดียวไปตามป้ายลำลูกกา

ตรงจุดนี้เป็นทางออกสู่ทางด่วนฉลองรัช ซึ่งเป็นทางด่วนอีกเส้นที่สามารถใช้เดินทางไปยังตัวโครงการได้

หลังจากนั้นพอเราเห็นป้ายลำลูกกาให้เลี้ยวซ้าย เราจึงเริ่มเบี่ยงไปวิ่งที่ช่องทางด้านซ้าย

เบี่ยงซ้ายสู่ถนนลำลูกกา

ก่อนถึงถนนลำลูกกามีทางแยก ให้เราเลี้ยวขวาไปทางฝั่ง อ.ลำลูกกา

พอเราเลี้ยวขวามาจะเป็นการวิ่งลอดใต้ถนนกาญจนาภิเษกที่เราเพิ่งลงมาเมื่อสักครู่นี้

ผ่านถนนกาญจนาภิเษกมาเพียงเล็กน้อย เจอกับแยกสัญญาณไฟจราจร ให้เราเลี้ยวซ้ายเพื่อไปสู่ถนนเลียบกาญจนาภิเษก (เลียบมอเตอร์เวย์) ตรงนี้จะสังเกตเห็นห้าง Big C ได้ทางด้านหน้า

ขับไปตามถนนเลียบกาญจนาภิเษกประมาณ 4-5 กม.

ถึงแล้วครับโครงการ Eco Haue รามอินทรา-ลำลูกกา บริเวณทางเข้าโครงการมีป้ายบิลบอร์ดขนาดใหญ่ให้เราสังเกตเห็นได้แต่ไกล ไม่ต้องกลัวว่าจะขับเลยโครงการไปครับ

ซุ้มทางเข้าโครงการ Eco Haus รามอินทรา-ลำลูกกา

---

::: บริเวณโครงการ :::

ภาพมุมสูงบริเวณโครงการ ลักษณะที่ดินโครงการเป็นผืนที่ดินหน้าแคบแต่ยาวลึกเข้าไปด้านในขนาดกว่า 53 ไร่ แบ่งออกเป็น 4 เฟส ซุ้มทางเข้าออกโครงการอยู่ทางฝั่งตะวันตกทางถนนเลียบกาญจนาภิเษก โดยรอบโครงการทั้งหมดเป็นผืนที่ดินเปล่าบ้าง ปลูกข้าวบ้าง บรรยากาศเปิดโล่งอากาศค่อนข้างดี

ซุ้มทางเข้าโครงการ Eco Haus รามอินทรา-ลำลูกกา

ทางเข้าออกโครงการติดกับถนนเลียบมอเตอร์เวย์

ถนนเลียบมอเตอร์เวย์เป็นถนนขนาด 2 เลนรถวิ่งผ่านสวนกัน เชื่อมต่อระหว่างถนนลำลูกกาและถนนรังสิต-นครนายก

ด้านในเป็นถนนกาญจนาภิเษก ส่วนที่เป็นทางด่วนมอเตอร์เวย์มีค่าธรรมเนียมในการใช้งาน มีจุดเข้าออกทางด่วนได้ทั้งจากถนนลำลูกกา และถนนรังสิต-นครนายก

ซุ้มโครงการขนาดใหญ่ สถาปัตยกรรมโดดเด่นดูสวยงามแปลกตา เป็นโครงสร้างเหล็กตกแต่งด้วยแผ่นสีน้ำตาลให้ตัวซุ้มดูมีลูกเล่นไม่เรียบจนเกินไป

ทางเข้าและทางออก แบ่งช่องทางเดินด้านละ 2 เลน ช่องทางซ้ายสำหรับลูกบ้านที่มีคีย์การ์ด ส่วนช่องทางขวาสำหรับบุคคลภายนอกที่ต้องติดต่อแลกบัตรกับเจ้าหน้าที่

ตรงบริเวณนี้มีระบบรักษาความปลอดภัยตามมาตรฐานด้วยเจ้าหน้าที่ประจำการตลอด 24 ชม. พร้อมกล้องวงจรปิดเก็บภาพรถที่ผ่านเข้าออกโครงการทุกคัน

ระบบสแกนการ์ดเป็นรูปแบบ Easy Pass เพื่อเปิดไม้กระดก

ผ่านซุ้มโครงการ เข้ามาด้านในช่วงต้นเป็นถนนโครงการที่มีเกาะกลางถนน ให้บรรยากาศที่ดูร่มรื่นผ่อนคลาย

ทางด้านซ้ายของถนนเป็นพื้นที่สวนสาธารณะขนาดใหญ่ เปิดโล่งสบายตา ทำให้เวลากลับมาบ้านแล้วมองเห็นสวนแห่งนี้ จะสามารถช่วยปรับอารมณ์ที่เหนื่อยล้า ได้รู้สึกผ่อนคลายสบายใจ

เดินต่อจากพื้นที่สวนสีเขียวเข้าไปด้านใน

อาคารคลับเฮ้าส์ของโครงการตั้งอยู่ช่วงต้นของโครงการ ติดกับสวนสาธารณะเมื่อสักครู่นี้

คลับเฮ้าส์ออกแบบตัวอาคารในสไตล์ Modern ที่มีส่วนผสมของปูนเปลือยและลายไม้ได้อย่างลงตัว

ด้านล่างของอาคารมีสระว่ายน้ำ ส่วนชั้นบนเป็นห้องฟิตเนสและ Co-working space ที่ในปัจจุบันใช้เป็นสำนักงานขายของโครงการด้วย

ด้านข้างของคลับเฮ้าส์มีพื้นที่สวนสีเขียวอีกแห่ง เท่ากับว่าอาคารดังกล่าวถูกโอบล้อมด้วยสวนสีเขียวทั้งสองด้าน เวลาใช้งานอยู่ด้านในอาคารจึงให้ความรู้สึกที่สดชื่นสบายตา

เข้าไปชมด้านในพร้อม ๆ กันครับ

เข้ามาด้านในส่วนแรกเจอกับสระว่ายน้ำก่อนเลยครับ

ส่วนทางด้านซ้ายเป็นบันไดขึ้นสู่ชั้นบน

สระว่ายน้ำมีขนาด 18 x 6 เมตร ซึ่งถือว่าเป็นขนาดที่ยาวพอสำหรับการว่ายเพื่อออกกำลังกาย ไม่มีการแบ่งแยกสระเด็ก แต่ใช้รูปแบบสโลปไล่ระดับความลึกแทน

ระบบของสระว่ายน้ำเป็นระบบคลอรีน ขอบด้านข้างเป็นแบบสระน้ำล้น

บริเวณ pool deck วางเก้าอี้หวายสำหรับนั่งเล่นพักผ่อนริมสระ

ห้องน้ำของคลับเฮ้าส์ จะมีอยู่ที่เฉพาะด้านล่าง แบ่งเป็นชาย-หญิง

ภายในห้องน้ำชาย

ภายในห้องน้ำหญิง

ส่วนต่อไปผมจะพาขึ้นไปชมด้านบนกันต่อครับ

จากบันไดเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ห้องฟิตเนส

ห้องฟิตเนสปูพื้นด้วยลามิเนต รอบด้านเปิดช่องแสงโล่งด้วยกระจกสีเขียวตัดแสง ติดตั้งมู่ลี่กันแดดช่วยตัดแสงในช่วงเวลาที่แดดจัด อุปกรณ์ฟิตเนสมีให้ตามมาตรฐาน เน้นไปทางด้านการคาร์ดิโอ

ลู่วิ่งไฟฟ้า 2 เครื่อง

จักรยานนั่งปั่น 2 เครื่อง

เครื่องเดินวงรี 1 เครื่อง

เสริมสร้างกล้ามเนื้อได้เล็กน้อยด้วยดัมเบลหลายขนาด พร้อมเตียงยกแบบปรับระนาบได้

ด้านนอกฟิตเนส สามารถเดินออกไปสู่ sky deck รับลมชมวิวสวนในบรรยากาศที่แสนผ่อนคลาย

มุมมองลงไปยังสระว่ายน้ำด้านล่าง

ออกจากห้องฟิตเนส ประตูห้องตรงข้ามคือ Co-working space

บรรยากาศภายในห้อง Co-working space ดูเรียบหรู

แบ่งพื้นที่ใช้งานออกเป็นหลายโซน เช่นมุมโต๊ะกลม มุมอาร์มแชร์ และมุมโซฟา เพื่อความเหมาะสมในการใช้งานรูปแบบต่าง ๆ

ปัจจุบันใช้เป็นสำนักงานขายของโครงการ Eco Haus รามอินทรา-ลำลูกกา อีกด้วย

เดินเข้าไปต่อสู่โซนพักอาศัยด้านในโครงการกันครับ ถนนเมนของโครงการกว้าง 16 เมตร

พื้นที่เฟสแรกตั้งอยู่บนถนนเมน โดยบ้าน 4 หลังแรก ทางด้านซ้ายและขวาอย่างละ 2 หลัง เป็นบ้านตัวอย่างที่ทางโครงการเปิดให้ชม

ส่วนนี้ผมพามาดูส่วนที่เป็นโซนบ้านจริง เพื่อชมอุปกรณ์บางอย่างที่ไม่มีให้เห็นในบ้านตัวอย่างครับ

ประตูบ้านเป็นแบบรั้วเหล็กเลื่อนทาสีเทา

หน้าตา mailbox และกริ่ง

ติดตั้งถังขยะไว้ที่มุมรั้วบ้าน สะดวกต่อการเก็บของเจ้าหน้าที่เทศบาล

สวนมาตรฐานที่ทางโครงการตกแต่งให้เป็นพื้นฐานคือตามแบบในภาพเลยครับ สวนปลูกหญ้าจริงให้ รอบด้านมีไม้พุ่ม และลงต้นไม้ใหญ่ให้ที่มุมของสวน

กลับมาที่โซนบ้านตัวอย่าง เพื่อเข้าไปชมภายในบ้านกันครับ

---

::: แบบบ้าน :::

ECO HAUS รามอินทรา-ลำลูกกา มีแบบบ้านให้เลือก 4 แบบ ได้แก่

• แบบบ้าน MALT : พื้นที่ใช้สอย 139 ตร.ม. ขนาด 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 จอดรถ 1 ครัว
• แบบบ้าน OATS : พื้นที่ใช้สอย 149 ตร.ม. ขนาด 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 รับแขก 2 จอดรถ 1 ครัว
• แบบบ้าน RYE : พื้นที่ใช้สอย 159 ตร.ม. ขนาด 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 รับแขก 2 จอดรถ  1 ครัว
• แบบบ้าน BARLEY : พื้นที่ใช้สอย 183 ตร.ม. ขนาด 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ , 2 รับแขก , 2 จอดรถ  1 ครัว

• แบบบ้าน MALT พื้นที่ใช้สอย 139 ตร.ม.
• ขนาด 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 จอดรถ 1 ครัว

แปลนบ้าน Malt ชั้น 1

แปลนบ้าน Malt ชั้น 2

• แบบบ้าน OATS พื้นที่ใช้สอย 149 ตร.ม.
• ขนาด 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 รับแขก 2 จอดรถ 1 ครัว

แปลนบ้าน Oat ชั้น 1

แปลนบ้าน Oat ชั้น 2

 

• แบบบ้าน RYE พื้นที่ใช้สอย 159 ตร.ม.
• ขนาด 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 รับแขก 2 จอดรถ  1 ครัว

แปลนบ้าน Rye ชั้น 1

แปลนบ้าน Rye ชั้น 1

• แบบบ้าน Barley พื้นที่ใช้สอย 183 ตร.ม.
• ขนาด 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ , 2 รับแขก , 2 จอดรถ  1 ครัว

แปลนบ้าน Barley ชั้น 1

แปลนบ้าน Barley ชั้น 2

---

::: บ้านตัวอย่าง :::

แบบบ้านที่เราจะพาไปชมวันนี้มี 2 แบบด้วยกัน ได้แก่

• แบบบ้าน RYE : พื้นที่ใช้สอย 159 ตร.ม. ขนาด 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 รับแขก 2 จอดรถ  1 ครัว
• แบบบ้าน BARLEY : พื้นที่ใช้สอย 183 ตร.ม. ขนาด 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ , 2 รับแขก , 2 จอดรถ  1 ครัว

เริ่มกันที่แบบบ้าน RYE บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 159 ตร.ม. ขนาด 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 รับแขก 2 จอดรถ  1 ครัว ตัวบ้านออกแบบมาในสไตล์ Modern โทนสีขาว-เทา เสริมด้วยระบบระบายอากาศใต้หลังคาแบบ Double ด้วยฟอยล์กันความร้อน และฝ้าระบายอากาศบริเวณชายคาบ้าน

ด้านข้างบ้านทางฝั่งขวา ฝั่งนี้จะปิดเรียบไม่มีช่องแสงทางด้านนี้

ด้านข้างบ้านทางฝั่งซ้าย ฝั่งนี้จะมีโครงสร้างของตัวบ้านยื่นออกมา โดยชั้นล่างเป็นห้องนอนที่ 4 ส่วนด้านบนจะเป็นพื้นที่ส่วนนึงของห้องนอนหลัก

ห้องนอนชั้นล่าง บริเวณประตูด้านหน้ามีพื้นที่สวน สามารถออกแบบเป็นเฉลียงนั่งเล่นที่ทางโครงการทำออกมาให้ดูเป็นตัวอย่าง

ลานจอดรถสำหรับ 2 คัน จอดที่ด้านใต้ชายคาไม่โดนแดดโดนฝน มีประตูทางเข้าบ้านได้จากลานจอดรถช่วยให้สะดวกเวลาซื้อของเข้าบ้าน เปิดท้ายแล้วตรงเข้าสู่ห้องครัวได้เลย

ประตูทางเข้าหลักจากหน้าบ้าน มีเฉลียงสูง 2 สเตปปูด้วยกระเบื้องเซรามิค

ประตูบ้านแบบบานสไลด์อลูมิเนียมสีดำ กระจกสีเขียวตัดแสง เพิ่มช่องแสงเข้ามุมรับแสงได้มากขึ้น รวมถึงเวลาอาศัยอยู่ด้านในก็ช่วยเพิ่มมุมมองที่กว้างโปร่งสบายขึ้น

มือจับประตูมีที่ล็อคในตัว

ผ่านประตูเข้ามาในบ้าน ส่วนแรกเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่น เปิดโล่งเข้าไปด้านในเชื่อมสู่โซนทานอาหาร พื้นชั้นล่างที่เห็นในบ้านตัวอย่างเป็นกระเบื้องยางลายไม้ แต่ที่โครงการให้ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ 60×60 ซม. เพดานบ้านสูง 2.6 เมตร

มุมมองย้อนกลับมาทางฝั่งประตูหน้าบ้าน ด้านหลังโซฟามีหน้าต่างรับแสงเพิ่มเติมอีกหนึ่งจุด บวกกับประตูหน้าบ้านที่มีขนาดใหญ่กว่าปกติ ทำให้พื้นที่ส่วนนี้มีทางรับแสงสองด้าน โปร่งสบายเวลาพักผ่อนบริเวณนี้

ห้องรับแขกมีสเปซการใช้งานในระดับนึง สามารถวางเฟอร์นิเจอร์พื้นฐานอย่าง โซฟา, โต๊ะกลาง และชั้นวางทีวี ยังเหลือทางตรงกลางผ่านเข้าออกได้สะดวก

ขยับเข้าไปด้านในเป็น Dining area วางโต๊ะทานข้าวขนาด 4-6 ที่นั่ง เลือกขนาดได้ตามจำนวนสมาชิกในบ้าน

ทางด้านซ้ายของโต๊ะทานข้าวเป็นห้องนอนชั้นล่าง ซึ่งเป็นห้องนอนที่ 4 อันที่จริงประตูทางเข้าทางโครงการจะติดตั้งฉากบานเลื่อนเอาไว้ให้สำหรับบ้านมาตรฐาน

ในห้องนี้ทางโครงการจัดวางเป็นห้องอเนกประสงค์ สำหรับนั่งเล่น, อ่านหนังสือ หรือจิบกาแฟ ซึ่งหากทำเป็นห้องนอน ขนาดห้องน่าจะเหมาะกับเตียง 3.5 ฟุต สำหรับรองรับผู้สูงอายุที่ไม่เหมาะให้ขึ้นลงบันได

ห้องนอนชั้นล่างนี้สามารถเข้าออกสู่สวนได้โดยตรง ผ่านประตูบานเลื่อน ทำให้เป็นห้องที่มีทำเลใกล้สวนบรรยากาศดี

จากห้องนอนที่ 4 ข้ามฝั่งไปอีกด้านนึงซึ่งเป็นส่วนของห้องครัว, ห้องน้ำ และทางขึ้นชั้นบน

ประตูทางด้านหลังออกสู่ลานซักล้างด้านหลัง

ลานซักล้างด้านหลัง เทพื้นและก่อขอบด้วยคอนกรีต

บริเวณหน้าบันไดมีประตูทางเชื่อมสู่ลานจอดรถ

ทางเดินข้างบันได สุดทางเป็นห้องน้ำชั้นล่าง ส่วนทางซ้ายเป็นห้องครัว

ห้องเก็บของใต้บันได

เข้าไปดูในห้องน้ำกันครับ

ภาพในห้องน้ำมีการแยกโซนแห้ง-เปียก ปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิค ส่วนผนังปูด้วยแกรนิตโต้ที่พื้นผิวมีความมันทำความสะอาดง่าย

อ่างล้างหน้าทรงรีของ Cotto

โถสุขภัณฑ์ประหยัดน้ำแบบ Dual Flush ของ Cotto พร้อมที่แขวนกระดาษชำระ และสายชำระ

พื้นที่อาบน้ำ พื้นลดระดับลงเล็กน้อยเป็นตัวแบ่งส่วนกันน้ำไหล มีช่องแสงทางฝั่งหน้าบ้านเปิดปิดได้แบบบานกระทุ้ง

ไปดูห้องครัวกันต่อครับ

ห้องครัวเป็นแบบครัวปิด ทางโครงการไม่ได้มีเคาน์เตอร์ครัวให้นะครับ เป็นเพียงแนวทางการออกแบบให้ดู ว่าสามารถบิวท์อินเคาน์เตอร์ครัวเป็นทรงตัว U ที่มีพื้นที่การใช้งานได้เยอะ ทำครัวได้สบาย

ด้านข้างเคาน์เตอร์เว้นช่องเอาไว้สำหรับวางตู้เย็น

ด้านหลังออกสู่ลานซักล้างได้เช่นกัน

ขึ้นบันไดไปชมด้านบนกันต่อครับ

โครงสร้างบันไดคสล. เดินเงียบแข็งแรงทนทาน ตรงบริเวณชานพักบันได มีช่องแสงทรงสูงบานฟิกซ์สำหรับรับแสงธรรมชาติ

พื้นชั้นบนปูด้วยลามิเนตหนา 8 มม. ฟังก์ชั่นด้านบน 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ความสูงของเพดานชั้นบนจะสูงกว่าชั้นล่างเล็กน้อยที่ 2.7 เมตร

เริ่มจากห้องนอน 3 ทางฝั่งขวามือ

ห้องนี้ทางโครงการวางเตียงไซส์ 3.5 ฟุตให้ดูเป็นตัวอย่าง

หลังจากวางเตียงแล้ว อีกด้านวางชั้นวางของ เหลือทางตรงกลางพอให้สามารถผ่านเข้าออกสะดวก

ทางด้านปลายเตียงวางตู้เสื้อผ้าได้ซึ่งอาจจะเปลี่ยนมุมการวาง เอาตู้มาวางข้างเตียง ส่วนปลายเตียงสามารถวางเป็นชั้นวางทีวีแทนก็ได้

เดินไปชมห้องนอนถัดไป สำหรับแบบบ้าน Rye นี้ผมนับว่ามีห้องนอน Master Bedroom 2 ห้อง ส่วนสาเหตุเพราะอะไร เดี๋ยวเราไปชมด้านในกันครับ

เริ่มจากห้องนอนหลัก 1 ที่ผมนับว่าเป็นห้องนอนหลัก เนื่องจากว่าห้องน้ำนั้นเป็นลักษณะของ Double access สามารถเข้าออกได้จากโถงและห้องนอนก็ได้ ซึ่งเป็นรูปแบบที่นิยมของ Master bedroom ในโครงการส่วนใหญ่

ประกอบกับเรื่องของขนาดห้องนอนนี้ ที่มีขนาดพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางแบ่งพื้นที่โซนพักผ่อน, โซนนั่งเล่น และ Walk-in closet ได้ครบฟังก์ชั่น

ห้องนอนวางเตียงขนาด 5 ฟุต เหลือทางเดินข้างเตียง 2 ด้านเพียงพอให้วางโต๊ะหัวเตียงได้ทั้ง 2 ฝั่ง และมีหน้าต่างทั้งฝั่งซ้ายและฝั่งขวา

บริเวณปลายเตียงวางเป็นชุดโซฟา และโต๊ะกลางนั่งเล่น ที่อาจจะเพิ่มแนวกำแพงทำเป็นชั้นวาง หรือแขวนทีวีก็มีพื้นที่ให้ทำได้จริง

มุมหน้าห้องน้ำทำเป็น Walk-in closet วางได้ทั้งตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง

ห้องน้ำแบบ Double access เข้าออกได้ 2 ทาง

มีการแบ่งแยกโซนแห้งโซนเปียก โดยมีการติดตั้งฉากกระจกให้ตามแบบในภาพ

สุขภัณฑ์ของ Cotto

ส่วนเปียกอาบน้ำ มีหน้าต่างให้แสงสว่าง และเปิดปิดได้แบบบานกระทุ้ง ติดตั้งฝักบัว แท่นวางสบู่ และวางระบบเครื่องทำน้ำอุ่นให้แล้ว

สุดท้ายเป็นห้องนอนหลักอีก 1 ห้อง ทางฝั่งหน้าบ้าน

ในห้องนอนโครงการวางเตียงขนาด 6 ฟุตไว้เป็นตัวอย่าง จุดเด่นคือหน้าต่างที่โครงการให้นั้นเป็นช่องแสงขนาดใหญ่เกือบเต็มผนัง เปิดปิดแบบบานเลื่อน

สาเหตุที่ผมนับว่าห้องนี้เป็น Master bedroom เช่นกัน เนื่องจากว่าขนาดห้องที่วางเตียงคิงส์ไซส์ได้ ประกอบกับมีห้องน้ำในตัว

พื้นที่ Walk-in closet หน้าห้องน้ำ แบ่งการใช้งานเป็น 2 ฝั่ง ด้านซ้ายบิวท์ตู้เสื้อผ้าเต็มผนัง ฝั่งขวาบิวท์โต๊ะเครื่องแป้ง

ห้องน้ำแยกส่วนแห้งเปียกชัดเจนเช่นกัน

อ่างล้งาหน้าทรงเหลี่ยมแบบมีช่องเก็บของด้านล่าง

โถสุขภัณฑ์ Cotto

ในห้องน้ำรับแสงจากธรรมชาติผ่านหน้าต่างบานกระทุ้ง เปิดปิดระบายอากาศได้

ส่วนเปียกอาบน้ำติดตั้งฉากกระจกนิรภัยให้เช่นกัน ติดตั้งฝักบัว ที่วางสบู่ และวางระบบเครื่องทำน้ำอุ่น

เรามาชมแบบบ้านหลังที่ 2 กันต่อครับ แบบบ้าน BARLEY พื้นที่ใช้สอย 183 ตร.ม. ขนาด 4 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ,  2 ห้องรับแขก , 2 ที่จอดรถ และห้องครัว

ลานจอดรถสำหรับ 2 คันใต้ชายคา มีทางเข้าบ้านได้จากลานจอดรถ

ด้านข้างบ้านทางฝั่งซ้าย

เดินผ่านหน้าบ้านไปดูทางฝั่งขวากันบ้าง

ด้านข้างบ้านทางฝั่งขวา

มีประตูเชื่อมต่อจากสวนเข้าสู่ด้านในตัวบ้าน ตรงช่วงบริเวณห้องทานข้าว

บริเวณทางเข้าหน้าบ้าน ยกพื้นเฉลียงสูงเล็กน้อย ข้างเฉลียงปลูกไม้พุ่มดูร่มรื่น

ประตูทางเข้าบ้านแบบบานสไลด์กรอบอลูมิเนียมสีดำ กระจกสีเขียวตัดแสง

ผ่านประตูเข้ามาเป็นส่วนของห้องนั่งเล่น เชื่อมต่อสู่โซนทานอาหารด้านใน พื้นบ้านชั้นล่างจริง ๆ แล้วจะได้เป็นแกรนิตโต้ 60×60 ซม. แทนพื้นลายไม้ในบ้านตัวอย่าง

บริเวณห้องนั่งเล่นบรรยากาศโปร่งสบาย จัดวางชุดเฟอร์นิเจอร์รับแขกชุดใหญ่ได้แบบในบ้านตัวอย่าง วางโซฟา วางเก้าอี้อาร์มแชร์ และโต๊ะกลาง

สเปซระหว่างโซฟาถึงชั้นวางทีวี กว้างกว่า 4 เมตร เป็นระยะที่ถนอมสายตาได้ดี รวมถึงมีช่องทางเดินผ่านเข้าออกได้สะดวก

ขยับเข้าไปด้านในเป็นโซนรับประทานอาหาร  บ้านตัวอย่างนี้วางโต๊ะสำหรับรองรับ 4 ที่นั่ง ซึ่งอาจปรับเปลี่ยนเป็นขนาด 6 หรืออาจจะถึง 8 ที่นั่งเลยก็ได้ถ้าเปลี่ยนแนวการวาง

ทางด้านขวาเป็นประตูเชื่อมต่อสวนข้างบ้าน ประตูแบบบานสไลด์กรอบอลูมิเนียม กระจกเขียวตัดแสง สเปคเดียวกับประตูหน้าบ้าน

ทางด้านซ้ายของโต๊ะทานข้าว เป็นช่องทางเดินกลางบ้าน และห้องครัว

เข้าไปดูในห้องครัวกันครับ

ห้องครัวที่ได้เป็นครัวแบบปิด โดยติดตั้งประตูบานเลื่อนให้

เคาน์เตอร์ครัววางแนวยาว มีหน้าต่างทางด้านหลังเพื่อช่วยเรื่องแสงสว่าง และสามารถเปิดเพื่อระบายกลิ่นระบายควัน หรือขณะทำครัวอาจจะเปิดประตูหลังบ้านเพื่อช่วยให้ถ่ายเทอากาศได้ดีขึ้น

ลานซักล้างหลังบ้านเป็นลานคอนกรีตก่อขอบ

กลับมาที่ทางเดินกลางบ้านเพื่อไปดูส่วนต่อไปครับ

ทางด้านซ้ายเป็นบันไดทางขึ้นชั้นสอง, ประตูห้องเก็บของด้านล่าง และประตูทางออกสู่ลานจอดรถ

ห้องเก็บของประตูทรงสูงทำให้เข้าเก็บของได้ง่าย ด้านในลดระดับลงตามโครงสร้างบันได

สุดท้างเดินคือห้องนอนที่ 4 ส่วนทางขวาเป็นทางเข้าห้องน้ำ

ห้องน้ำชั้นล่าง มีการแบ่งแยกโซนแห้ง-เปียก ซึ่งทำให้ห้องนอนชั้นล่างมีความสะดวกในการใช้งาน

สุขภัณฑ์ใช้ของ Cotto ด้านในบริเวณพื้นที่อาบน้ำ มีช่องแสงที่สามารถเปิดปิดแบบบานกระทุ้งได้

เข้าไปดูห้องนอนที่ 4 กันต่อครับ

ห้องนี้ทางโครงการจัดวางเป็นห้องทำงาน เพื่อแสดงฟังก์ชั่นให้เห็นว่าห้องนี้มีความอเนกประสงค์ ปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ตามไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย

หากจะเปลี่ยนเป็นห้องนอนขนาดห้องเหมาะสำหรับขนาด 3.5 ฟุต เพื่อให้เหลือพื้นที่ในการวางเฟอร์นิเจอร์พื้นฐานได้ครบถ้วน

ด้านหลังมีประตูทางออกไปยังหลังบ้านได้

ทางเดินหลังบ้านอาจตกแต่งเป็นสวนเล็ก ๆ เพิ่มบรรยากาศสีเขียวให้คนที่อยู่ในห้องดังกล่าวได้รู้สึกผ่อนคลาย

ย้อนกลับไปยังทางเดินกลางบ้านเพื่อขึ้นไปชมด้านบนกันต่อครับ

บันไดโครงสร้างคสล. แข็งแรงทนทาน บริเวณโถงมีความสว่างจากแสงธรรมชาติด้วยหน้าต่างทางฝั่งหน้าบ้าน

ชั้นบนประกอบด้วย 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ

พื้นชั้นบนปูด้วยลามิเนต 8 มม. ความพิเศษของแบบบ้านนี้คือบริเวณโถงชั้นบนมีห้องรับแขกที่ 2 ซึ่งเป็น Family Area อีกหนึ่งจุดให้ครอบครัวมีพื้นที่ใช้งานร่วมกัน

ภายในบ้านมีการติดตั้งสัญญาณกันขโมย ที่จะมีให้เฉพาะในแบบบ้าน Barley ที่มีที่ดินมากกว่า 60 ตร.ว.ขึ้นไป หรืออาจเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขได้ส่วนนี้อยากให้สอบถามกับเจ้าหน้าที่โครงการเพิ่มเติมครับ

เราไปดูฝั่งของห้องนอนรองกันก่อนครับ สำหรับห้องนอนรองทั้งสองห้องจะใช้งานห้องน้ำร่วมกันตรงกลาง

ภาพรวมภายในห้องน้ำ แบ่งแยกโซนแห้ง-เปียก สุขภัณฑ์ Cotto และมีช่องแสงบานกระทุ้ง

ไปดูห้องนอนรองทางฝั่งหน้าบ้าน

ห้องนี้วางเตียงได้ถึงไซส์ 5 ฟุต

ข้างเตียงบิวท์อินเป็นตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ ยังคงมีทางเดินขึ้นลงเตียงได้อย่างพอเพียง

มองไปทางด้านปลายเตียง มีพื้นที่สำหรับวางได้ทั้งชั้นวางทีวี และโต๊ะเขียนหนังสืออเนกประสงค์

ห้องนอนรองอีกห้องที่อยู่ตรงข้ามกัน ตำแหน่งอยู่ทางฝั่งหลังบ้าน

ขนาดของห้องนอนห้องนี้ใกล้เคียงกับห้องเมื่อสักครู่นี้

ทางโครงการวางเตียงไซส์ 3.5 ฟุต แต่อาจขยับเป็นเตียง 5 ฟุตก็ได้ แต่ทางโครงการออกแบบให้เป็นธีมห้องนอนเด็กที่ใช้เตียง 3.5 ฟุตก็พอแล้ว

ด้านข้างเตียงวางโต๊ะเขียนหนังสือขนาดไม่ได้เล็กจนเกินไปใช้งานสะดวก

อีกด้านของห้องเหมาะสำหรับวางตู้เสื้อผ้าเข้ามุม

กลับมาที่โถงชั้นบน ข้ามฝั่งไปดูห้องนอนหลัก

ห้องนอนหลักมีพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวาง เนื่องจากมีความลึกตั้งแต่หน้าบ้านจนถึงหลังบ้าน และมีห้องน้ำในตัว

ฝั่งพักผ่อนวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตเลือกได้ตามความประสงค์

ฝั่งหน้าบ้านมีระเบียงห้องนอน ประตูระเบียงแบบบานเลื่อน

ราวกันตกใช้เป็นแบบแนวกระจกใส ที่ให้ทั้งความสวยงามทันสมัย และการเทควิวออกไปด้านนอก

มองย้อนกลับเข้าไปด้านในบ้าน

ด้านข้างเตียงสามารถวางโต๊ะเขียนหนังสือได้อีกหนึ่งฟังก์ชั่น ทางเดินด้านซ้ายเข้าไปสู่ walk-in closet

walk-in closet ผนังด้านนึงสามารถบิวท์อินตู้เสื้อผ้าได้เต็มผนัง สุดทางเดินมีหน้าต่างสำหรับรับแสงธรรมชาติ รวมถึงเปิดเพื่อให้ลมไหลผ่านเข้าออก อากาศถ่ายเทเย็นสบาย ส่วนด้านซ้ายเป็นห้องน้ำในตัวของห้องนอนหลักนี้

ภายในห้องน้ำมีการแบ่งแยกโซนแห้ง-เปียก แต่ได้ติดตั้งฉากอาบน้ำให้แต่อย่างใด  สุขภัณฑ์ใช้ของ Mogen อ่างล้างหน้ามีตู้เก็บอุปกรณ์เพิ่มเติมด้านล่าง

ส่วนเปียกอาบน้ำ มีช่องรับแสงธรรมชาติเปิดปิดแบบบานกระทุ้ง

---

::: ราคา (ม.ค. 63) :::

ราคาเริ่มต้น : 3.39 – 5.9 ล้านบาท

ค่าส่วนกลาง : 30 บาท/ตร.ว./เดือน (ชำระล่วงหน้า 2 ปี)

*ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดตรวจสอบกับทางสำนักงานขายตามรายละเอียดท้ายรีวิว

---

::: บทสรุปโครงการ :::

ทำเลที่ตั้งโครงการ : ทำเลที่ตั้งของโครงการ อยู่ในทำเลที่รองรับการขยายตัว กระจายความหนาแน่นออกมาจากตัวเมือง สังเกตได้จากพื้นที่โดยรอบที่เป็นผืนนาที่ดินเปล่า สลับกับหมู่บ้านจัดสรรที่ยังไม่หนาแน่นมากนัก สาเหตุที่ทำเลตรงนี้เหมาะสำหรับการเป็นแหล่งพักอาศัยเนื่องจากมีการสัญจรที่สะดวก ใกล้ตัวเมืองรังสิต ใกล้ห้าง และใกล้ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ เส้นทางสำคัญที่จำเป็นสำหรับเข้าเมืองไปทำงาน รวมถึงในอนาคตมีรถไฟฟ้าในระยะห่างจากโครงการแค่ 5 นาที

การเดินทางด้วยรถส่วนตัว : ที่ตั้งโครงการอยู่บนถนนเลียบมอเตอร์เวย์ ที่เข้าออกได้ทั้งฝั่งถนนลำลูกกา และถนนรังสิต-นครนายก แต่จุดเด่นที่ทำให้โครงการดูเดินทางได้สะดวกคือทางด่วน เริ่มจากถนนกาญจนาภิเษกที่อยู่เลียบไปกับโครงการ ใช้เดินทางข้ามโซนได้ง่ายและทำความเร็วได้ดี และตัวช่วยเสริมที่สำคัญคือทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ อยู่ห่างโครงการแค่ระยะ 10 นาที

ผมขอยกตัวอย่างเปรียบเทียบ อย่างโครงการที่อยู่ในทำเลวัชรพล แม้จะอยู่ใกล้กับทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์มากกว่า แต่ระยะเวลาที่ใช้เพื่อเข้าถึงทางด่วนอาจต้องใช้มากกว่า 10 นาที อันเนื่องจากถนนที่เล็กกว่า ทำความเร็วได้น้อยกว่า และมีความหนาแน่นของบ้านพักอาศัยมากกว่าปริมาณรถจึงหนาแน่น ดังนั้นโครงการ Eco Haus รามอินทรา-อาจณรงค์ หากดูแค่เรื่องระยะทางอาจจะไกลออกไปจากตัวเมือง แต่เรื่องการใช้เวลาสำหรับไปทำงานในเมืองแทบจะไม่มีความแตกต่าง

การเดินทางโดยรถสาธารณะ : ทางเลือกนี้ไม่ค่อยตอบโจทย์คนที่อยู่ในโครงการเท่าไรนัก สังเกตง่าย ๆ คือโครงการออกแบบให้บ้านทุกหลังมีที่จอดรถ 2 คัน เพราะเน้นให้ลูกบ้านใช้รถส่วนตัวเป็นหลัก แต่ไม่ได้หมายความว่าพอไม่มีรถจะไปไหนไม่ได้เลย เพียงแต่อาจจะต้องเพิ่มขั้นตอนการใช้แอพพลิเคชั่นต่าง ๆ เรียกรถเข้ามารับเท่านั้นเอง

ในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย ส่วนต่อขยายแรกจากหมอชิต-คูคต โครงการนี้คาดว่าแล้วเสร็จปลายปี 63 นี้ สถานีคูคตห่างโครงการ 12 กม. นอกจากนั้นยังมีส่วนต่อขยายเพิ่มเติมจาก คูคต-วงแหวนตะวันออก โครงการนี้ผ่าน EIA แล้วและคาดว่าแล้วเสร็จปี 2565 ซึ่งถือว่าไม่ต้องรอกันนาน ตัวสถานีวงแหวนตะวันออกอยู่ห่างโครงการประมาณ 5 กม. ทำให้การใช้รถสาธารณะมีความสะดวกมากขึ้น และใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวันอย่างแน่นอน

การออกแบบโครงการ : Eco Haus รามอินทรา-ลำลูกกา เป็นโครงการบ้านเดี่ยวและบ้านแนวคิดใหม่ 2 ชั้น บนพื้นที่โครงการ 53-2-43 ไร่จำนวนบ้านพักอาศัย 313 ยูนิต มีแบบบ้านทั้งหมด 4 แบบ บนที่ดินเริ่มต้น 35 ตร.ว. และ 50 ตร.ว. ขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย 139-189 ตร.ม. ฟังก์ชั่น 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พร้อมห้องครัว

โครงการให้ตัวบ้านขนาดใหญ่ พื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง ออกแบบด้วย สไตล์ Eco Modern ออกแบบโดยใช้แนวคิด “The Urban Green Living” คำนึงถึงทิศทางลมและแดด ให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก เสริมด้วยระบบระบายอากาศใต้หลังคาแบบ Double ด้วยฟอยล์กันความร้อน และฝ้าระบายอากาศบริเวณชายคาบ้าน ช่วยลดความร้อนในตัวบ้านได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญมีความยืดหยุ่นใช้งานได้หลากหลายฟังก์ชั่น มีทั้งห้องนอนชั้นล่างที่ปรับเปลี่ยนได้อย่างอเนกประสงค์ ห้องครัวก็ให้เป็นรูปแบบของครัวปิด ประกอบอาหารได้อย่างมั่นใจไรกลิ่นรบกวน

สิ่งอำนวยความสะดวก : มีอาคารคลับเฮ้าส์ที่ออกแบบได้อย่างทันสมัย โดดเด่นน่าใช้งาน ภายในมีครบทั้งสระว่ายน้ำยาว 18 เมตร, ฟิตเนส และ Co-working space รายล้อมด้วยสวนสีเขียวขนาดกว่า 1 ไร่ พร้อมด้วยระบบรักษาควมปลอดภัยระดับสูง เข้าออกใช้ Easy Pass รปภ. และ CCTV 24 ชม.

---

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่

Tel : 02-026-2366

Website : https://www.ecohaus-ramintra-lamlukka.com/

---

หากเพื่อนๆ เห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณครับ

และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวครับ