EP.1043 รีวิว DISTRICT ดิสทริค เอกมัย-รามอินทรา (รามอินทรา 40) โฮมออฟฟิศ ราคาเร่ิมต้น 7.9 ล้านบาท

EP.1043 รีวิว โฮมออฟฟิศ ดิสทริค เอกมัย-รามอินทรา DISTRICT Ekkamai-Ramintra

สวัสดีค่ะผู้อ่านชาว Homenayoo ที่รักทุกคน วันนี้เราจะพามาชมโครงการ DISTRICT เอกมัย-รามอินทรา จาก เอพี เป็นโครงการโฮมออฟฟิศ ในซอยรามอินทรา 40 แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ เดินทางเข้า-ออกเมืองสะดวก ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีรามอินทรา 40 ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนรามอินทรา อาจณรงค์ เข้าเมืองออกเมืองได้สะดวก ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบสูง ทั้ง ร้านอาหาร, Hyper Market, Community Mall

ดิสทริค เอกมัย-รามอินทรา เป็นโครงการโฮมออฟฟิศ สไตล์ Modern Luxury พร้อมที่จอดรถภายในบ้านจำนวน 2 – 6 คัน จำนวน 36 ยูนิต บนพื้นที่โครงการ 6-0-9.6 ไร่ มีแบบบ้านให้เลือก 2 แบบ เป็นโฮมออฟฟิศ สูง 3.5 – 4 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 และ 10.5 เมตร พื้นที่ใช้สอย 172 – 417 ตร.ม. บนที่ดินเริ่มต้น 24 และ 44.6 ตร.วา สร้างเสร็จพร้อมอยู่มิถุนายน 2560

สิ่งอำนวยความสะดวก ภายในโครงการมี อาคารคลับเฮาส์, ฟิตเนส, สวนสาธารณะ และที่จอดรถสาธารณะรองรับภายในโครงการ มีระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ทั้งกล้อง CCTV และ Easy Pass โฮมออฟฟิศ 3.5 ชั้น ราคาเริ่มต้น 7.9 ล้านบาท และ โฮมออฟฟิศ 4 ชั้น ราคาเริ่มต้น 14.9 ล้านบาท

โดยรายละเอียดที่เราจะพาท่านไปชมจะมีทำเลที่ตั้งโครงการ, สภาพแวดล้อม, ข้อมูลโครงการ และบ้านตัวอย่างแบบเจาะลึก เชิญติดตามอ่านที่ด้านล่างนี้ได้เลยค่า

---

บ้านเอพี ทำเลอื่นๆ
พลีโน่ ราชพฤกษ์
พลีโน่ พหลโยธิน-รังสิต
พลีโน่ รังสิต คลอง 4-วงแหวน
พลีโน่ รามอินทรา-วงแหวน
พลีโน่ ปิ่นเกล้า-จรัญ
พลีโน่ พระราม 9-กรุงเทพกรีฑา (ตัดใหม่)
บ้านกลางเมือง รามอินทรา-วัชรพล
บ้านกลางเมือง วัชรพล
บ้านกลางเมือง ราชพฤกษ์-พระราม 5
DISTRICT ดิสทริค เอกมัย-รามอินทรา

---

---

---

ชื่อโครงการ	ดิสทริค เอกมัย-รามอินทรา DISTRICT Ekkamai-Ramintra
เจ้าของโครงการ	บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) AP Thailand
ลักษณะโครงการ	– โฮมออฟฟิศ 3.5 ชั้น – โฮมออฟฟิศ 4 ชั้น
พื้นที่โครงการ	6-0-9.6 ไร่
จำนวนบ้าน	– โฮมออฟฟิศ 3.5 ชั้น : 12 ยูนิต – โฮมออฟฟิศ 4 ชั้น : 24 ยูนิต
พื้นที่ใช้สอย	– โฮมออฟฟิศ 3.5 ชั้น : 172 ตร.ม. – โฮมออฟฟิศ 4 ชั้น : 417 ตร.ม.
เนื้อที่บ้าน	เริ่มต้น 24 ตร.วา
จำนวนห้อง	3-5 ห้องน้ำ
ที่จอดรถทั้งหมด	– โฮมออฟฟิศ 3.5 ชั้น : 2-3 คัน – โฮมออฟฟิศ 4 ชั้น : 6 คัน
โซน	เอกมัย-รามอินทรา
ขนส่งสาธารณะ	ใกล้ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์
รถโดยสารที่ผ่าน	รถเมล์สาย 26, 95, 150, 156, 520, 554 รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานี รามอินทรา 40
ที่ตั้ง	เลขที่ 77 ซอยรามอินทรา 40 แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ 10230
กำหนดการ	เริ่มก่อสร้าง มกราคา 2559
ปีที่สร้างเสร็จ	มิถุนายน 2560
ราคา	เริ่ม 7.9 ล้านบาท
ค่าส่วนกลางและกองทุน	ค่าส่วนกลาง 120 บาท/ตร.วา/เดือน ชำระล่วงหน้า 2 ปี
สถานที่สำคัญใกล้เคียง	The Walk : 2.8 กม. ตลาดนัดเลียบด่วน : 3.2 กม. ตลาดหัวมุม : 3.9 กม. Ease Park : 4 กม. Crystal Park 4.2 กม. Chic Republic : 4.3 กม. Big C market นวมินทร์ : 4.4 กม. Plearnary mall : 4.5 กม. ตลาดถนอมมิตร : 4.6 กม. CDC : 4.6 กม. Home Pro 5 กม. Central Festival 5 กม. The Junction : 5.2 กม. Tesco Lotus นวมินทร์ : 5.5 กม. Nawamin Festival Walk : 5.6 กม. Nawamin City Avenue : 5.6 กม. Big C extra รามอินทรา : 5.6 กม. Fashion Island : 5.7 กม. The Promanade : 5.8 กม. Chocolate Ville : 6.4 กม. สนามกอล์ฟปัญญา : 7 กม. เซ็นทรัลรามอินทรา : 8.5 กม. Tesco Lotus วังหิน : 8.6 กม. Tesco Lotus extra เลียบทางด่วน : 8.7 กม. Foodland : 8.8 กม. สวนสยาม : 9.4 กม. สนามกอล์ฟนวธานี : 12 กม. เซ็นทรัลลาดพร้าว : 15 กม. รพ.พญาไท นวมินทร์ : 4.8 กม. รพ.สินแพทย์ : 6.9 กม. รพ.นพรัตน์ : 7.9 กม. รพ.วิภาวดี : 11.2 กม. รร.เลิศหล้า : 3.7 กม. รร.บดินทร์เดชา 2 : 5.7 กม. ม.เกริก : 8.5 กม. ม.ศรีปทุม 10.9 กม. ม.เกษตร : 13.1 กม. วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร : 9.1 กม
สิ่งอำนวยความสะดวก	คลับเฮ้าส์ ฟิตเนส สวนสาธารณะ ป้อมยามรักษาความปลอดภัย กล้องวงจรปิดรอบโครงการ ถนนคอนกรีตหลักกว้าง 9 เมตร
จุดเด่นของโครงการ	โฮมออฟฟิศรูปแบบใหม่ เร็วๆ นี้ ที่สรรสร้างอย่างลงตัว เพื่อมุมมองธุรกิจและการใช้ชีวิต บนทำเลใจกลางธุรกิจ เริ่ม 7.9 ล้าน

---

---

---

---

---

---

ที่ตั้งโครงการ

เลขที่ 77 ซอยรามอินทรา40 แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ 10230

พิกัด : 13.838392, 100.637905

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

โครงการ District เอกมัย – รามอินทรา เป็นโครงการโฮมออฟฟิศ ตั้งอยู่ติดถนนซอยรามอินทรา 40 ภาพรวมของย่านนี้นับว่ามีความอุดมสมบูรณ์อยู่พอสมควร เนื่องจากตัวซอยจะเชื่อมกับถนน 2 เส้น คือถนนรามอินทรา และถนนนวลจันทร์ โดยรวมจะเป็นทั้งย่านของที่อยู่อาศัยและออฟฟิศขนาดย่อมๆ มีความอุดมสมบูรณ์ค่อนข้างสูง

และย่านนี้ยังมีการเจริญเติบโตขึ้นเรื่อยๆ มีโครงการเกิดขึ้นอีกมากมายในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นโครงการในแนวราบหรือแนวดิ่ง เพราะการมาถึงของรถไฟฟ้าสายสีชมพู ที่จะทำให้การสัญจรไป-มาสะดวกมากขึ้น มูลค่าของที่ดินในย่านนี้ถีบตัวสูงขึ้นไปด้วย ทำให้โซนนี้เป็นที่น่าจับตามองอีกโซนนึงเลยค่ะ

การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว จากตัวโครงการสามารถเดินทางได้สะดวก ทั้งขาเข้าและออกเมือง โดยจากโครงการจะสามารถเชื่อมต่อถนนเส้นหลักได้ 2 เส้น คือถนนรามอินทราที่สามารถใช้วิ่งไปฝั่งมุ่งหน้าหลักสี่ หรือจะวิ่งเข้าฝั่งมีนบุรีก็สะดวก แต่การจราจรเส้นรามอินทราจะหนาแน่นหน่อยค่ะ

ส่วนอีกเส้นทางจากโครงการจะสามาระเชื่อมกับถนนนวลจันทร์ที่สามารถวิ่งเลียบทางด่วนหรือขึ้นทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ ยาวไปพระราม 9 ที่เป็นหนึ่งในโซน New CBD และเป็นแหล่งรวมออฟฟิศได้เลย ช่วยให้การติดต่อธุรกิจทำได้สะดวกค่ะ

สำหรับจุดขึ้นทางด่วนที่ใกล้โครงการที่สุด จะเป็นจุดขึ้นทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ ฝั่งขาเข้า มุ่งหน้าไปพระราม 9 และเช่ือมกับทางด่วนศรีรัชได้ โดยจะมีระยะทางจากโครงการประมาณ 3.7 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 – 10 นาทีค่ะ

และจุดขึ้นทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ ฝั่งขาออก จะมีระยะทางจากโครงการประมาณ 4 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 – 10 นาทีค่ะ

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ จากตัวโครงการสามารถเรียกรถ Taxi หรือพี่วินที่วิ่งผ่านหน้าโครงการได้ หรือจะออกมาบนเส้นนวลจันทร์ก็จะมีรถสองแถวให้ใช้งาน และถ้าออกไปบนเส้นรามอินทราก็จะมีรถตู้วิ่งผ่านอยู่บ้าง ส่วนป้ายรถเมล์จะอยู่ห่างจากนห้าปากซอยฝั่งรามอินทราไปประมาณ 60 เมตร จะมีรถเมล์สาย 26, 95, 150, 156, 520, 554 วิ่งผ่าน

นอกจากนั้นในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีชมพูช่วงแคราย-มีนบุรี วิ่งผ่านเส้นรามอินทรา โดยสถานีที่อยู่ใกล้โครงการสุดจะเป็นสถานีรามอินทรา 40 ตั้งอยู่บนถนนรามอินทราใกล้หน้าปากซอยรามอินทรา 40 เลย ซึ่งจากตัวโครงการถึงปากซอยรามอินทรา 40 จะมีระยะทางประมาณ 1.6 กม.เท่านั้น เมื่อสร้างเสร็จพร้อมใช้งานจะช่วยอำนวยความสะดวกขึ้นได้อีกมากเลยค่ะ

ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบ ในตัวโครงการเองจะมียูนิตที่ตั้งอยู่ติดถนนซอยหน้าโครงการ เป็นยูนิตที่ตอนนี้มีร้านอาหาร และ Cafe มาเปิดบ้างพอสมควรแล้ว นอกจากนั้นใกล้ๆโครงการก็พอจะมีร้านก๋วยเตี๋ยวและร้านตามสั่งอยู่บ้างค่ะ ส่วนความอุดมสมบูรณ์ในตัวซอยรามอินทรา 40 เอง ก็มีร้านต่างๆมากมาย เพราะมีทั้งที่อยู่อาศัย, รร.สายอักษร และสำนักพิมพ์สยามกีฬา จึงทำให้มีร้านอาหารต่างๆ หลากหลายมากขึ้นตามมาด้วย เรียกได้ว่าไม่ต้องออกไปไหนไกลก็อยู่ได้สบายๆค่ะ

ส่วนความอุดมสมบูรณ์ในวงกว้างก็ถือว่าเป็นโซนที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง เนื่องจากรามอินทราจะมีโครงการที่อยู่อาศัยเยอะ จึงมีทั้งตลาดนัดหลากหลายแห่ง เช่น ตลาดเลียบด่วน, ตลาดถนอมมิตร ส่วนห้างสรรพสินค้า, ไฮเปอร์มาร์เก็ต, คอมมูนิตี้มอลล์, ซุปเปอร์มาร์เก็ต ที่ใช้งานสะดวกจะอยู่ในเส้นเลียบด่วนรามอินทราเป็นหลัก เช่น Chic Republic, CDC, HomePro, The Walk เกษตรนวมินทร์, Index Living Mall, Crystal Park, Central Festival Eastville, Tesco Lotus เป็นต้น

ส่วนห้างใหญ่ในโซนนี้จะเป็น Fashion Island และ The Promanade และโรงพยาบาลในโซนนี้จะมี รพ.สินแพทย์, รพ.พญาไท และรพ.นพรัตน์ค่ะ

การเดินทาง

การเดินทางในวันนี้ เราจะเริ่มต้นกันบนถนนลาดพร้าว ฝั่งมุ่งหน้าถนนประดิษฐ์มนูธรรม วิ่งตรงจนถึงทางเบี่ยง แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนประดิษฐ์มนูธรรมหรือเลียบทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ ขับตรงไปเรื่อยๆ ขึ้นสะพานกลับรถเข้าถนนรามอินทราฝั่งมุ่งหน้ามีนบุรี แล้วเลี้ยวขวาเข้าซอยรามอินทรา 40 ขับตรงต่อไปประมาณ 1.6 กม. จะถึงโครงการ The District เอกมัย – รามอินทรา ทางซ้ายมือค่ะ

สรุปการเดินทาง ถนนลาดพร้าว > ถนนประดิษฐ์มนูธรรม > ถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา > ถนนรามอินทรา > ซอยรามอินทรา 40 > โครงการ The District เอกมัย – รามอินทรา

เริ่มการเดินทางกันบนถนนลาดพร้าว ฝั่งมุ่งหน้าถนนประดิษฐ์มนูธรรม วิ่งตามป้ายมุ่งหน้ารามอินทรา

ขับตรงมาเรื่อยๆ เราจะเห็นป้ายบอกทางเตรียมเลี้ยวซ้ายเข้าถนนประดิษฐ์มนูธรรม เราก็เตรียมชิดเลนซ้ายรอเลยค่ะ

เลี้ยวซ้ายเข้าถนนประดิษฐ์มนูธรรม

เข้าถนนประดิษฐ์มนูธรรมมาแล้ว เราขับตรงกันไปยาวๆ เลียบทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์

ขับตรงตามป้ายรามอินทราไปเรื่อยๆค่ะ

ระหว่างทางเราจะผ่านจุดที่เป็นแหล่งความอุดมสมบูรณ์มากมาย จุดแรกคือ HomePro

ถัดมาจะผ่าน Tesco Lotus

ขับตรงต่อมาอีกหน่อย จะผ่าน Central Festival Eastville

หรือจะแวะเติมน้ำมันที่ปั๊ม Caltex ก่อนได้

ถัดมาจะผ่าน The Crytal Park

ขับตรงต่อมาเรื่อยๆ เราจะเห็นป้ายบอกทางไปถนนรามอินทรา ให้เราใช้เลนขวา

ถัดมาจะผ่านปั๊ม Esso อีกจุด

ขับตรงต่อมา ขึ้นสะพานลอย มุ่งหน้าถนนรามอินทรา

ลงจากสะพานมาแล้ว จะผ่าน The Walk เกษตร – นวมินทร์

และปั๊มบางจาก

นอกจากห้างและคอมมูนิตี้มอลล์ต่างๆแล้ว ก็จะมีตลาดต้นไม้เลียบทางด่วนให้ได้แวะซื้อหากันด้วยค่ะ

ขับตรงต่อมาเรื่อยๆ จะผ่านโรงเบียร์ เยอรมันตะวันแดงทางซ้ายมือ

ขับตรงต่อมาอีกหน่อย ผ่านปั๊ม ปตท.

ชิดขวาเพื่อขึ้นสะพานกลับรถเข้าถนนรามอินทรา

ขับขึ้นสะพานมาแล้วเราใช้เลนซ้าย

ลงจากสะพานปุ๊ป เราจะเข้าสู่ถนนรามอินทราแล้วค่ะ

ขับตรงมาเรื่อยๆ ผ่านปั๊ม ปตท.

ผ่านปั๊มมาไม่ไกล จะถึงจุดเลี้ยวเข้าซอยรามอินทรา 40

เลี้ยวขวามาแล้ว เราจะเข้าสู่ซอยรามอินทรา 40

บรรยากาศในซอยรามอินทรา 40 จะค่อนข้างคึกคักค่ะ มีร้านต่างๆข้างทางหลายร้าน

นอกจากนั้นก็จะมีทั้งรร.สายอักษร และโรงพิมพ์สยามกีฬา

เข้ามาช่วงกลางๆซอยจะมีทั้งอาคารพาณิชย์ และโฮมออฟฟิศ

เมื่อขับมาจนถึงปั๊ม Caltex แสดงว่าเราใกล้จะถึงโครงการแล้ว ให้เราเลนชิดซ้าย

ขับตรงต่อมาอีกหน่อย เราก็จะถึงโครงการ District เอกมัย – รามอินทรา แล้วค่ะ

ถนนและแยกที่สำคัญรอบโครงการ

• ถนนนวลจันทร์ : 200 ม.
• ถนนประดิษฐ์มนูธรรม (เลียบทางด่วนรามอินทรา) : 550 ม.
• ถนนรามอินทรา : 1.5 กม.
• ถนนเกษตร – นวมินทร์ : 2.2 กม.
• แยกมัยลาภ : 3.8 กม.
• ถนนนวมินทร์ : 5.2 กม.
• แยกวัดลาดปลาเค้า : 5.9 กม.
• แยกรพ.นพรัตน์ : 7 กม.
• แยกวังหิน : 8.0 กม.
• ถนนวัชรพล : 11 กม.

สถานที่สำคัญรอบๆโครงการ

• The Walk : 2.8 กม.
• ตลาดนัดเลียบด่วน : 3.2 กม.
• ตลาดหัวมุม : 3.9 กม.
• Ease Park : 4 กม.
• Crystal Park 4.2 กม.
• Chic Republic : 4.3 กม.
• Big C market นวมินทร์ : 4.4 กม.
• Plearnary mall : 4.5 กม.
• ตลาดถนอมมิตร : 4.6 กม.
• CDC : 4.6 กม.
• Home Pro 5 กม.
• Central Festival 5 กม.
• The Junction : 5.2 กม.
• Tesco Lotus นวมินทร์ : 5.5 กม.
• Nawamin Festival Walk : 5.6 กม.
• Nawamin City Avenue : 5.6 กม.
• Big C extra รามอินทรา : 5.6 กม.
• Fashion Island : 5.7 กม.
• The Promanade : 5.8 กม.
• Chocolate Ville : 6.4 กม.
• สนามกอล์ฟปัญญา : 7 กม.
• เซ็นทรัลรามอินทรา : 8.5 กม.
• Tesco Lotus วังหิน : 8.6 กม.
• Tesco Lotus extra เลียบทางด่วน : 8.7 กม.
• Foodland : 8.8 กม.
• สวนสยาม : 9.4 กม.
• สนามกอล์ฟนวธานี : 12 กม.
• เซ็นทรัลลาดพร้าว : 15 กม.

• รพ.พญาไท นวมินทร์ : 4.8 กม.
• รพ.สินแพทย์ : 6.9 กม.
• รพ.นพรัตน์ : 7.9 กม.
• รพ.วิภาวดี : 11.2 กม.

• รร.เลิศหล้า : 3.7 กม.
• รร.บดินทร์เดชา 2 : 5.7 กม.
• ม.เกริก : 8.5 กม.
• ม.ศรีปทุม 10.9 กม.
• ม.เกษตร : 13.1 กม.

• วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร : 9.1 กม.

รอบๆโครงการ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการส่วนใหญ่จะมีความเป็นชุมชนอยู่พอสมควรค่ะ โดยส่วนใหญ่จะเป็นสิ่งก่อสร้างแนวราบ ทั้งบ้านเรือน, โรงเรียน และวัด

• ทิศเหนือ ติดกับถนนซอยรามอินทรา 40 ฝั่งตรงข้ามถนนเป็นโรงงานคอนกรีต
• ทิศใต้ ติดกับศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์วัดนวลจันทร์ และวัดนวลจันทร์
• ทิศตะวันออก ติดกับร้านอะไหล่รถยนต์ และซอยรร.วัดนวลจันทร์
• ทิศตะวันตก ติดกับคลองบางขวด และที่อยู่อาศัยแนวราบข้างเคียง

มาลองเดินดูรอบๆกันต่อ เริ่มจากหน้าโครงการ ติดกับถนนซอยรามอินทรา 40

ฝั่งตรงข้ามเป็นโรงงานคอนกรีต

ติดกับโครงการทางฝั่งซ้ายมือ จะเป็นร้านขายอะไหล่รถยนต์

ถัดมาเป็นซอยโรงเรียนวัดนวลจันทร์

ติดกับปากซอยรร.วัดนวลจันทร์ เป็นร้านอาหาร 1 – 2 ร้าน

ถัดไปเป็นปั๊ม Caltex

บนถนนบริเวณหน้าร้านอาหารจะมีทางม้าลายให้ใช้งาน

เราไปดูพื้นที่ติดกับโครงการทางซ้ายมือกันต่อ

ติดกับโครงการเป็นคลองบางขวด ถัดไปเป็นที่อยู่อาศัยข้างเคียง

ตัวโครงการ

โครงการ District เอกมัย – รามอินทรา เป็นโครงการโฮมออฟฟิศ สูง 3.5 และ 4 ชั้น จำนวน 36 ยูนิต บนที่ดิน 6 – 0 – 9.6 ไร่ จากผังโครงการจะเห็นว่าตัวโครงการมีทางเข้าออกทางเดียว คือจากถนนซอยรามอินทรา 40 แต่จะมียูนิตที่อยู่ติดถนนใหญ่ สามารถเปิดเป็นร้านค้าเหมือนอาคารพาณิชย์ได้ จำนวน 6 ยูนิต

เมื่อเข้ามาภายในโครงการจะต้องผ่านซุ้มทางเข้าหลัก มีระบบรักษาความปลอดภัยโดยใช้รั้วกั้นไม้กระดกและ รปภ.ตรวจตราตลอด 24 ชม. เข้ามาในโครงการจะเจอถนนภายในโครงการ กว้าง 9 เมตร ส่วนกลางหลักจะอยู่ที่อาคาร Club House ซึ่งจะอยู่ติดกับทางเข้าหลัก ประกอบด้วยห้องน้ำและฟิตเนสที่ชั้น 2 นอกจากนั้นจะมีสวนหย่อมติดถนนหลักด้านหลังโครงการค่ะ

ลักษณะโครงการโฮมออฟฟิศจะมีความพิเศษกว่าโครงการที่อยู่อาศัยทั่วๆไป เพราะลูกบ้านส่วนใหญ่จะเป็นผู้ประกอบธุรกิจ ที่ใช้โฮมออฟฟิศเป็นทั้งบ้านและหน้าร้านหรือทำออฟฟิศ ทำให้ภายในโครงการจะต้องมีที่จอดรถรองรับผู้ที่เข้ามาติดต่อเพิ่มเติมจากที่จอดรถส่วนตัวภายในบ้าน ซึ่งเราจะเห็นว่าในโครงการมีจัดมาไว้ให้พอสมควร กระจายตามจุดต่างๆในโครงการค่ะ

มาดูของจริงกันต่อ เริ่มจากหน้าโครงการ จะเป็นซุ้มทางเข้าและส่วนของ Club House ที่ชั้น 2 สำหรับป้ายด้านหน้าโครงการจะมีทั้งป้ายชื่อหลักโครงการ และมีป้ายสี่เหลี่ยมย่อยสำหรับใส่ป้ายชื่อของออฟฟิศหรือร้านของลูกบ้านในโครงการค่ะ

ติดกับซุ้มทางเข้าหลักทางขวามือ จะเป็นยูนิตติดถนนด้านหน้า จำนวน 6 ยูนิต

ซูมเข้ามาดูตัวซุ้มทางเข้าใช้เป็นสีขาวล้วน ส่วนบนชั้น 2 จะมี Facade บังส่วนฟิตเนสให้เป็นส่วนตัว

ส่วนทางเข้าหลักจะแบ่งเป็นทางเข้า – ออก ตรงกลางเป็นป้อมรปภ.

ติดกับทางเข้าหลักจะเป็นส่วนของ Sale Office

ด้านในจะมีทางเข้าสำหรับคนเดินเท้าแยกต่างหาก

ภายใน Sale Office ตกแต่งด้วยโทนสีขาวและน้ำตาลทอง ผนังตกแต่งด้วยหินอ่อน สำหรับพื้นที่ส่วนนี้ในอนาคตจะเป็นโถงพักผ่อนสำหรับลูกบ้านค่ะ

ใน Sale Office จะจัดชุดที่นั่งมารับรองหลายชุด

ป้ายสำหรับออฟฟิศภายในโครงการจะแบ่งเป็นช่องย่อยๆ 20 ช่อง สำหรับตอนนี้ก็จะเห็นว่ามีป้ายชื่อใส่มาแล้ว 4 ช่องนะคะ

ในส่วนของยูนิตด้านหน้าโครงการ ปัจจุบัน Sold Out ไปแล้ว ตอนนี้ก็จะมีเปิดเป็นร้านอาหารและคลินิกเสริมความงาม

ระบบรักษาความปลอดภัยที่ทางเข้าหลัก ใช้ประตูรั้วอัตโนมัติ เข้าออกโครงการด้วย Access Card แบบ Easy Pass ส่วนลูกค้าขอลูกบ้าน จะใช้ระบบ Bit-Visitor ต้องผ่าน รปภ. ก่อนถึงจะเข้าไปในโครงการได้ โดยจะใช้วิธีถ่ายรูปบัตร เก็บประวัติ ผู้มาติดต่อ โดยที่ไม่ต้องแลกบัตรค่ะ

ติดตั้งกล้องวงจรปิด ฝั่งละ 2 ตัว สำหรับส่องหน้ารถและป้ายทะเบียน

เข้ามาในโครงการจะเจอกับถนนกว้าง 9 เมตร โซนแรกจะเป็นโฮมออฟฟิศ 4 ชั้น ยูนิตตรงหน้าเราจะเป็นบ้านตัวอย่างที่ตกแต่งไว้ให้ชม

ติดกับทางเข้าหลักทางขวามือจะเป็นทางเข้าส่วน Clubhouse

ภาพรวมอาคาร Clubhouse จะเป็นอาคาร สูง 2 ชั้น เชื่อมอยู่กับซุ้มทางเข้าหลัก

ทางขึ้นส่วน Clubhouse จะใช้บันไดแบบกึ่ง Outdoor ข้างบันไดมีบอร์ดประชาสัมพันธ์ของนิติโครงการ

ขึ้นมาบนชั้น 2 จะเจอโถงทางเดินเชื่อมส่วนห้องน้ำ, สำนักงานนิติ และฟิตเนส

ห้องน้ำจะแยกชาย – หญิง

เข้ามาดูภายในห้องน้ำชาย จะมีอ่างล้างมือ 1 จุด และด้านในจะเป็นส่วนห้องน้ำและโถปัสสาวะชาย

ส่วนอ่างล้างมือจะติดตั้งกระจกเงามาให้ 1 บาน

ด้านในเป็นห้องน้ำ 1 ห้อง และโถสุขภัณฑ์ชาย 1 จุด

ภายในห้องน้ำติดตั้งสุขภัณฑ์มาให้ 1 ชุด และมีหน้าต่างระบายอากาศ 1 บาน

ภายในส่วนห้องน้ำหญิงจะเหมือนๆกับที่ห้องน้ำชายค่ะ เพียงแต่จะมีห้องน้ำเพิ่มเป็น 2 ห้อง

ภายในห้องน้ำติดตั้งชุดสุขภัณฑ์มาให้ และมีหน้าต่างระบายอากาศ 1 บาน เช่นกัน

เข้าไปดูในส่วนฟิตเนสกันต่อ

ส่วนนี้จะมีช่วงเวลาใช้งาน 8.30 – 17.30 น.

ภายในฟิตเนสจะเป็นกระจกใสรอบห้อง ทำให้ห้องสว่าง และสามารถเปิดเพื่อระบายอากาศได้ ติดตั้งเครื่องออกกำลังกายมาให้พอสมควร

อีกฝั่งของห้องมีกระจกเงาบานใหญ่ติดตั้งมาให้ค่ะ

อุปกรณ์ที่ได้มาจะมีดัมเบลคละน้ำหนัก จำนวน 10 ชิ้น

เครื่อง Eliptical 1 เครื่อง

จักรยานไฟฟ้า 1 ตัว

เครื่องบริหารกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ 1 เครื่อง

เบาะออกกำลังกายแบบปรับระดับได้ 1 เบาะ

ลู่วิ่งไฟฟ้า 1 เครื่อง

กลับมาที่ถนนภายในโครงการ โดยจากภาพจะเป็นถนนโซนแรกถัดจากทางเข้าหลัก เราจะเห็นยูนิตโฮมออฟฟิศ 4 ชั้น ทางซ้ายมือ และด้านหลังของยูนิตติดถนนทางขวามือ

ฝั่งขวามือจะเห็นที่ว่างระหว่างอาคาร Clubhouse และยูนิตติดถนนจะจัดเป็นที่จอดรถ 1 จุด

ฝั่งซ็ายมือเราจะเห็นหน้าตาส่วนโฮมออฟฟิศ 4 ชั้น ทำออกมาสวยเลยค่ะ

ถนนด้านข้างจะมีจะสวนมาให้ตลอดทาง

ถนนหลักจะเชื่อมไปยังซอยย่อยอีก 2 ซอย ทางซ้ายมือ

บรรยากาศภายในซอยย่อย จะมีทั้งแบบ 3.5 ชั้นและ 4 ชั้น หันหน้าเข้าหากัน

เข้ามาถึงซอยด้านหลัง จะจัดที่จอดรถมาให้อีก 2 จุด ติดกับสวนหย่อม

ที่จอดรถฝั่งซ้ายมือจัดแบ่งเป็นช่องจอดมาให้ 4 ช่องจอด ด้านหลังก็จัดสวนมาให้ดูไม่แห้งแล้งค่ะ

ฝั่งขวามือจัดที่จอดมาให้ 3 ช่องจอด

ติดกันเป็นสวนหย่อม

ภายในสวนลงต้นไม้ จัดสวนและทางเดินมาให้ร่มรื่นค่ะ

ด้านในมีจุดนั่งพักผ่อน

ที่นั่งพักผ่อนเป็นม้านั่งยาว ตกแต่งด้วยบ่อน้ำพุเล็กๆ

มุมนั่งพักผ่อนจากในสวนจะมองเห็นวิวออกไปทางถนนโครงการ

บรรยากาศในซอยย่อยที่ 3 หรือซอยสุดท้ายในโครงการจะเป็นบ้านแบบ 3.5 ชั้นทั้งหมดค่ะ

สุดซอยจะมียูนิตที่มีพื้นที่ถนนหน้าบ้านกว้างกว่าหลังอื่น 2 ยูนิต

แบบบ้าน

ในโครงการจะมีแบบบ้านทั้งหมด 2 แบบ คือ

• Triump โฮมออฟฟิศ 3.5 ชั้น 3 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 172 ตร.ม. ที่จอดรถ 2-3 คัน
• Fortune โฮมออฟฟิศ 4 ชั้น 5 ห้องน้ำ 2 ห้องนอน 1 ห้องรับแขก 1 ห้องครัว พร้อมส่วนรับประทานอาหาร พื้นที่ใช้สอย 417 ตร.ม. ที่จอดรถ 6 คัน

• Triump โฮมออฟฟิศ 3.5 ชั้น 3 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 172 ตร.ม. ที่จอดรถ 2-3 คัน

แปลนบ้านชั้น 1 และชั้นลอย

แปลนบ้านชั้น 2 และ ชั้น 3

• Fortune โฮมออฟฟิศ 4 ชั้น 5 ห้องน้ำ 2 ห้องนอน 1 ห้องรับแขก 1 ห้องครัว พร้อมส่วนรับประทานอาหาร พื้นที่ใช้สอย 417 ตร.ม. พร้อมที่จอดรถ 6 คัน

แปลนบ้านชั้น 1 และชั้น 2

แปลนบ้านชั้น 3 และชั้น 4

บ้านตัวอย่าง

สำหรับบ้านในโครงการตอนนี้จะมีพร้อมให้เข้าชมทั้ง 2 แบบ แต่จะมีเฉพาะแบบทาวน์โฮม 4 ชั้น (Fortune) เท่านั้นที่ตกแต่งภายในให้ดูเป็นตัวอย่าง ส่วนแบบทาวน์โฮม 3.5 ชั้น (Triump) จะเป็นบ้านมาตรฐาน และในวันนี้เราจะพาชมกันทั้ง 2 แบบเลยค่ะ

เริ่มกันที่บ้านแบบ Fortune โฮมออฟฟิศ 4 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 417 ตร.ม. ฟังก์ชั่นภายในบ้าน 5 ห้องน้ำ 2 ห้องนอน 1 ห้องรับแขก 1 ห้องครัว พร้อมส่วนรับประทานอาหาร ที่จอดรถ 4-6 คัน

หน้าตาการออกแบบภายนอกสไตล์โมเดิร์น ใช้โทนสีครีม ตัดกับเส้นสายสีน้ำเงิน ตกแต่งด้วย Facade เป็น Perforated Metal ฉลุลายปิดบริเวณพื้นที่บนชั้น 3 และตกแต่งให้ดูอบอุ่นเพิ่มเติมด้วยลายไม้ค่ะ

ฟังก์ชั่นภายในตัวบ้าน ที่แปลนบ้านชั้น 1 หน้าบ้านจะเป็นที่จอดรถ 4 จอด และพื้นที่สวนข้างบ้านที่เราสามารถทำเป็นที่จอดรถเพิ่มได้อีก 2 คันค่ะ ส่วนพื้นที่ภายในบ้านตั้งแต่ชั้น 1 – 3 จะเป็นที่โล่งทั้งหมด หรือแบบ Bare Shell ให้เจ้าของมาตกแต่งเพิ่มเติมกันเองตามความต้องการของธุรกิจของแต่ละคน

ในส่วนของชั้น 1 จะมีพื้นที่ลานซักล้างด้านหลังมาให้ ส่วนพื้นที่ชั้น 2 จะมีระเบียงเล็กๆ ทั้งฝั่งหน้าบ้านและหลังบ้าน โดยส่วนหลังบ้านจะเป็นระเบียงของบันไดหนีไฟค่ะ และทั้งชั้น 1 และ 2 จะมีห้องน้ำมาให้ชั้นละ 1 ห้อง เป็นห้องน้ำแบบสำหรับรับรอง ไม่มีส่วนอาบน้ำ

แปลนบ้านชั้น 3 จะเป็น Bare Shell เช่นเดียวกัน มีระเบียงฝั่งหน้าบ้าน ส่วนห้องน้ำจะมีพื้นที่สำหรับส่วนอาบน้ำมาให้ด้วย และแปลนชั้น 4 จะจัดเป็นพื้นที่ส่วนที่มีความเป็นส่วนตัวที่สุด สำหรับเจ้าของบ้านเป็นชั้นพักอาศัย ที่จะกั้นห้องมาให้เป็น 2 ห้องนอน และ 2 ห้องน้ำ โดยห้องน้ำทั้ง 2 ห้องจะมีส่วนพื้นที่อาบน้ำมาให้ค่ะ พร้อมพื้นที่โถงพักผ่อนและพื้นที่สำหรับทำครัวเพิ่มเติมได้

มาดูของจริงกันต่อ เริ่มที่พื้นที่หน้าบ้าน ในบ้านมาตรฐานจะเป็นพื้นคอนกรีตปาดเรียบ ส่วนหน้าตาตัวบ้านที่ทางเข้าหลักนี้ก็ถือเป็นส่วนสำคัญกับภาพลักษณ์ของธุรกิจที่เราจะแสดงให้ลูกค้าที่ได้เห็นเช่นกัน ซึ่งการออกแบบส่วนนี้ก็ทำออกมาได้ดีพอสมควรค่ะ คือจะใช้เป็นประตูบานเลื่อนกระจกทั้งหมด มีช่องเสากั้นบางส่วน ทำให้เราสามารถที่จะโชว์การตกแต่งภายในซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละธุรกิจได้

สำหรับฟังก์ชั่นของประตูทางเข้าหลักก็ติดตั้งแบบเปิดใช้ได้หลายทางมาให้ สามารถปรับเปลี่ยนตามคาแรคเตอร์การตกแต่งภายในได้

สำหรับบ้านตัวอย่าง ทางโครงการจัด Concept มาเป็นโชว์รูมเสื้อผ้าของดีไซน์เนอร์สาว โดยที่ชั้น 1 นี้จะเป็นส่วนหน้าร้าน มีเคาน์เตอร์ต้อนรับ และพื้นที่จัดแสดงสินค้า

ทางซ้ายมือมีการตกแต่งด้วยหุ่นลองเสื้อ

และทางขวามือจะจัดเป็นพื้นที่โชว์สินค้าหลัก

จากพื้นที่ส่วนโชว์รูมด้านหน้าจะเชื่อมไปยังพื้นที่ส่วนหลังบ้าน ซึ่งตรงนี้ถ้าเราอยากจะจัดให้เป็นส่วน Private มากขึ้นก็สามารถที่จะกั้นเพิ่มเติมได้ค่ะ

ติดกับพื้นที่ส่วนโชว์รูมจะมีห้องน้ำรับรอง

ภายในค่อนข้างกว้างขวาง แต่ขายแบบ Bare Shell มไ่มีสุขภัณฑ์ติดตั้งมาให้นะคะ สามารถตกแต่งเพิ่มเติมเพื่อรองรับสำหรับแขกที่เข้ามาใช้บริการ

ตัวอ่างล้างมือเป็นแบบมาตรฐาน ทรงกลมแบบลอยตัว พร้อมก๊อกน้ำเย็น

ให้ดูระยะติดตั้งส่วนตัวโถสุขภัณฑ์ ที่มีระยะการใช้งานค่อนข้างกว้างขวาง สามารถวางถังขยะไว้ข้างๆได้ค่ะ

เข้ามาที่ส่วนหลังบ้าน เราจะเห็นประตูเชื่อมออกไปลานซักล้างหลังบ้าน และพื้นที่ ที่ถูกจัดเป็นห้องครัวทางขวามือ

ภายในพื้นที่ครัวนี้สามารถที่จะจัดเป็นพื้นที่พักผ่อนของพนักงาน หรือเป็นพื้นที่เตรียมของว่างให้แขกได้ ซึ่งจากแปลน มุมนี้จะถูกจัดแยกออกมาไว้ค่อนข้างเป็นสัดส่วนดีแล้วค่ะ ไม่ไปปะปนกับส่วนหน้าร้าน

ตัวอย่างการตกแต่งพื้นที่ครัว สามารถติดตั้งเคาน์เตอร์ครัวขนาดกลางๆได้ และมีช่องแสงสำหรับระบายอากาศบานใหญ่ติดตั้งมาให้

ถัดมาเราออกไปดูที่ลานซักล้างหลังบ้านกันต่อ โดยประตูจะได้เป็นบานเลื่อนเดี่ยว บานกรอบอลูมิเนียมสีน้ำตาล

มือจับแบบเซาะร่องพร้อมตัวล็อคแบบก้นหอย

พื้นที่ลานซักล้างหลังบ้านจะติดไฟติดผนังมาให้ 1 ดวง

ออกมาดูหลังบ้านจะมีติดตั้งบันไดหนีไฟทุกชั้น เป็นมาตรฐานความปลอดภัย

กลับเข้ามาภายในตัวบ้าน มาดูบริเวณโถงบันไดกันต่อ ติดกับโถงบันไดจะมีช่องเก็บของใต้บันไดค่ะ

ช่องเก็บของใต้บันไดจะมีประตูปิดมาเป็นสัดส่วน

ภายในสามารถเก็บของได้พอสมควร

มาที่ตัวบันได โครงการนี้จะให้บันไดที่ชั้น 1 มาค่อนข้างกว้างเลย บันไดชั้นนี้จะกว้างกว่าชั้นบนๆ ช่วยให้ลูกค้าที่ต้องขึ้นไปดีลงานบนชั้น 2 หรือการขนสินค้าขึ้นลงทำได้สะดวกค่ะ

ชานพักบันไดกว้าง แบบสี่เหลี่ยมและสามเหลี่ยม

ขึ้นมาบนชั้น 2 จะเจอกับส่วนห้องน้ำ และโถงโล่งทั้งชั้น

หันกลับมาดูบริเวณโถงบันได เราจะเห็นช่องแสงที่ช่วยให้ความสว่างกับพื้นที่โถงส่วนนี้

ติดกันเป็นประตูออกไปยังบันไดหนีไฟมาตรฐาน

เราเข้าไปดูภายในห้องน้ำกันก่อนค่ะ

พื้นที่ห้องน้ำบนชั้น 2 นี้ก็ยังจัดมาให้ดูเป็นห้องน้ำรับรองเช่นกัน แต่ด้วยความที่มีขนาดค่อนข้างกว้าง จึงสามารถที่จะติดตั้งฝักบัวเป็นส่วนอาบน้ำสำหรับพนักงานเพิ่มได้ค่ะ

ระยะการใช้งานส่วนอ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์ใช้งานได้สะดวกค่ะ

ถัดมาเราจะไปดูในส่วนพื้นที่โถงหลักของชั้นนี้กันต่อ อย่างที่บอกไปตอนต้นว่าในบ้านมาตรฐานจะได้แบบ Bare Shell ซึ่งจะไม่มีผนังใดๆกั้นมาให้เลย ทำให้เราสามารถตกแต่งได้เต็มที่นะคะ

สำหรับในบ้านตัวอย่าง ที่ชั้น 2 จะตกแต่งเป็นพื้นที่จัดวางสินค้าสำหรับจำหน่ายทางขวาและห้องลองเสื้อทางซ้ายมือ

พื้นที่โถงสำหรับให้ลูกค้าเลือกสินค้าทางฝั่งนี้จะมีช่องแสงมาให้เยอะทางฝั่งหน้าบ้าน ทำให้โถงส่วนนี้สว่างได้ด้วยแสงธรรมชาติค่ะ

พื้นที่อีกฝั่งเป็นมุมลองเสื้อ

จะเห็นว่าเป็นการจัดพื้นที่ด้วยการใช้ช่วงสแปนเสาในการแบ่งโซน สามารถใช้เป็นไอเดียในการตกแต่งได้ค่ะ

ภายในส่วนพื้นที่สำหรับลองเสื้อ

มุมจากภายในส่วนห้องลองเสื้อมองย้อนไปทางห้องโถงอีกฝั่ง

ถัดมาเราจะขึ้นไปดูบนชั้น 3 กันต่อ จะเห็นว่าตัวบันไดจะลดหน้ากว้างลงมานิดหน่อย เป็นการจัดแบ่งโซนที่มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

โถงบันไดแบ่งชานพักเป็น 2 ช่วง

มีช่องแสงติดตั้งมาให้ 1 บาน เป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง สามารถเปิดระบายอากาศบริเวณโถงบันได

ขึ้นมาบนชั้น 3 จะเจอกับพื้นที่ห้องน้ำก่อน ซึ่งในบ้านตัวอย่างจะมีการเพิ่มเติมมุม Pantry เตรียมอาหารเล็กๆด้วยการกั้นกำแพงขึ้นมาตามภาพ

ติดกับโถงบันไดทางซ้ายมือเป็นช่องแสง หน้าต่างบานเลื่อนและประตูหนีไฟ

ภายในมุม Pantry จะจัดเป็นส่วนอาหารว่างและเครื่องดื้ม พร้อมมุมล้างจาน มาให้ดูเป็นตัวอย่าง

เข้าไปดูภายในส่วนห้องน้ำ

ห้องน้ำที่ชั้น 3 ที่ชั้นนี้จะมีจัดมุมอาบน้ำมาให้

ตัวอย่างการติดตั้งส่วนโถสุขภัณฑ์จัดเข้ามุมพร้อมราวแขวนผ้าเช็ดตัว

ส่วนมุมห้องอาบน้ำจะมีช่องแสงมาให้ 1 จุดค่ะ

สำหรับชั้นนี้จะตกแต่งมาเป็นออฟฟิศของทีมดีไซน์เนอร์

ฝั่งขวามือเป็นพื้นที่นั่งทำงาน มีช่องแสงฝั่งหน้าบ้านพอสมควร

ช่องแสงฝั่งหน้าบ้านเป็นบานกระทุ้งและมีประตูเชื่อมออกไประเบียงภายนอก

พื้นที่ระเบียงด้านนอกไม่กว้างนักค่ะ เหมาะกับการวางกระถางต้นไม้เพื่อสร้างบรรยากาศร่มรื่น

จากตัวระเบียงจะเห็น Facade ฉลุที่เราเห็นจากหน้าบ้าน

ตัวอย่างการตกแต่งพื้นที่ทำงาน

อีกฝั่งของห้องจะเป็นพื้นที่ทำงานอีกจุด

จัดมาเป็นโต๊ะยาวขนาดใหญ่

การแบ่งจัดสรรพื้นที่บนชั้นนี้ก็จะใช้เสาเป็นตัวแบ่งเช่นกัน ซึ่งเป็นการกตกแต่งที่ใช้เฟอร์นิเจอร์ในการแบ่งพื้นที่โดยไม่ต้องกั้นห้อง สามารถเก็บไว้เป็นไอเดียได้ค่ะ

ถัดมาเราจะขึ้นไปดูบนชั้น 4 กันต่อ

โถงบันไดบนชั้นนี้จะสูงกว่าชั้นล่างๆ เพราะเป็นชั้นบนสุดแล้วค่ะ

ให้ดูการตกแต่งพื้นที่โถงพักผ่อนที่น่าสนใจ เป็นการปรับเปลี่ยนผนังที่เชื่อกับโถงบันได โดยใช้ผนังกระจกนิรภัยแทน และเพิ่มความแปลกใหม่ด้วยการใช้เป็นสีต่างๆ อย่างสีน้ำตาลก็เป็นตัวเลือกที่สามารถตกแต่งบรรยากาศให้มีทั้งความอบอุ่นและดูหรูขึ้นมาได้อย่างไม่มากไม่น้อยเกินไป

พื้นที่บนชั้น 4 จะเป็นชั้นพักอาศัยของเจ้าของบ้าน ส่วนแรกจะเป็นโถงพักผ่อน โดยในบ้านตัวอย่างนี้จะแบ่งพื้นที่เป็นห้องนั่งเล่นและห้องครัว

ภายในส่วนห้องนั่งเล่นสามารถวางเฟอร์นิเจอร์ได้ครบชุดแบบสบายๆ พื้นที่เหลือเฟือค่ะ

สังเกตว่าการเปลี่ยนผนังเป็นกระจกจะช่วยให้ห้องดูโปร่งขึ้นมาได้อีกหน่อย

ในส่วนของพื้นที่ห้องครัว เราจะทำเป็นครัวเปิดเก๋ๆแบบในบ้านตัวอย่างก็ได้ หรือจะกั้นให้เป็นสัดส่วนก็ได้ค่ะ

ภายในส่วนห้องครัวสามารถติดตั้งชุดเคาน์เตอร์ และโต๊ะทานอาหารขนาดกระทัดรัดได้

จากส่วนโถงพักผ่อนด้านนอก เราจะไปดูภายในส่วนห้องนอนกันต่อ

โดยห้องนอนที่ชั้นนี้จะกั้นมาให้เป็น 2 ห้อง

ภายในห้องนอนรองจะมีช่องแสงบานใหญ่ติดตั้งมาให้ ส่วนขนาดพื้นที่ใช้สอย สามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ต่างๆได้ครบถ้วน ระยะการใช้งานสะดวก ไม่อึดอัดค่ะ

ขนาดเตียง สามารถใช้เตียง 3.5 ฟุต ถึงควีนไซส์ได้

มีพื้นที่เหลือปลายเตียงพอให้เดินผ่านได้

ข้างเตียงอีกฝั่ง สามารถวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง แต่ถ้าใช้เตียงควีนไซส์อาจจะต้องลดขนาดโต๊ะลงไปอีกหน่อยค่ะ

ถัดมาเป็นห้อง ​Master Bedroom

เข้ามาภายในห้องจะแบ่งเป็นโซนห้องนอนและห้อง Walk – in Closet

ภายในส่วนห้องนอนกว้างพอให้ใช้เตียงคิงส์ไซส์ได้ค่ะ และมีช่องแสงบานใหญ่เป็นประตูเชื่อมระเบียงภายนอก

ในบ้านตัวอย่าง ทางโครงการจัดเป็นเตียงควีนไซส์มาให้ดู ซึ่งจะเหลือพื้นที่ข้างเตียงพอให้วางโต๊ะหัวเตียงได้

ฝั่งปลายเตียงมีกั้นเป็นฉากติดทีวีมาให้ดูเป็นตัวอย่าง

ระเบียงภายนอกเป็นระเบียงเล็กๆค่ะ ไม่เหมาะออกไปยืนใช้งาน

ด้านหลังฉากกั้นวางทีวีจะเป็นส่วน Walk – in Closet

พื้นที่ส่วน Walk – in Closet จะสามารถวางตู้เสื้อผ้าได้ประมาณ 2 – 3 ตู้

พื้นที่การใช้งานพอให้ยืนแต่งตัวได้

ติดกับส่วน Walk – in Closet จะเป็นห้องน้ำในตัว

ภายในติดตั้งสุขภัณฑ์มาให้ครบชุด แยกส่วนแห้งส่วนเปียก

อ่างล้างมือได้แบบติดตั้งมาพร้อมเคาน์เตอร์ใต้อ่าง ภายในแบ่งเป็น 2 ชั้น สำหรับเก็บของ

ด้านหลังอ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์มี Low Wall สามารถใช้วางของได้

พื้นที่ส่วนห้องอาบน้ำจะแยกเป็นสัดส่วน แต่ในบ้านมาตรฐานจะไม่มี Shower Box ติดตั้งมาให้นะคะ

ภายในห้องอาบน้ำติดตั้งฝักบัวแบบ Hand Shower ปรับระดับได้ ยี่ห้อ Englefield

ขนาดห้องอาบน้ำประมาณ 1.7 x 0.9 เมตร พอให้ยืนอาบน้ำได้สบายๆ

กลับออกมาที่โถงด้านนอก ติดกับห้อง Master Bedroom จะเป็นห้องน้ำที่สามารถเข้าได้จากส่วนห้องโถงค่ะ

ภายในห้องน้ำกว้างขวาง แยกส่วนแห้ง ส่วนเปียก

อ่างล้างมือได้แบบลอยตัวพร้อมกระจกเงา

พื้นที่ส่วนห้องอาบน้ำมีพื้นลดระดับลงไปประมาณ 3 ซม. ติดตั้งฝักบัวมาให้พร้อมใช้งาน

บ้านตัวอย่างแบบที่ 2 บ้านแบบ Triump โฮมออฟฟิศ 3.5 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 172 ตร.ม. 3 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 – 3 คัน การออกแบบโดยรวมจะเหมือนๆกับบ้านแบบที่แล้ว เพียงแต่จะลดทอนรายละเอียดลงจามขนาดบ้านค่ะ

รั้วด้านหน้าจะได้เป็นรั้วเหล็กสีดำ เปิดแบบพับเข้าหากันได้เต็มหน้ากว้างบ้าน

พื้นที่จอดรถในบ้านขนาด 2 – 3 คัน

รั้วระหว่างบ้านจะเป็นรั้วทึบต่อโปร่งนิดหน่อย ส่วนรั้วอีกฝั่งจะเป็นรั้วทึบครึ่งนึง โปร่งอีกครึ่งนึงค่ะ

ประตูทางเข้าหลักหน้าบ้าน จะได้เป็นประตูแบบเดียวกับบ้านแบบที่แล้ว พร้อมช่องแสงด้านบน

ภายในบ้านส่วนแรกจะเป็นพื้นที่โถงโล่งกว้าง ฝ้าเพดานสูง 3.5 เมตร

พื้นที่โถงด้านบนจะสามารถมองเห็นพื้นที่ส่วนชั้นลอยได้

พื้นที่ชั้นล่างสามารถจัดเป็นส่วนต้อนรับหรือส่วนสำนักงานได้

พื้นที่ด้านในมีห้องน้ำและประตูเชื่อมออกไปลานซักล้างหลังบ้าน

บานประตูห้องน้ำได้เป็นบานสำเร็จสีขาว มือจับก้านโยก ดูดีเลยค่ะ

ออกไปดูพื้นที่ลานซักล้างหลังบ้านกันต่อ

ลานซักล้างหลังบ้านเป็นพื้นคอนกรีตขัดเรียบ พร้อมเดินระบบน้ำรับรองสำหรับติดตั้งเครื่องซักผ้าหรือทำเป็นครัวด้านหลัง

มีโคมไฟภายนอกติดมาให้ความสว่าง 1 ดวง

กลับเข้ามาภายในตัวบ้าน บริเวณโถงบันไดจะมีห้องเก็บของใต้บันได

โถงบันไดจะมีช่องแสง 1 บาน ให้แสงสว่างส่วนโถงในเวลากลางวัน

พื้นชั้นลอยมีตัวจบติดตั้งมาให้เรียบร้อย

พื้นที่บนชั้นลอยสามารถจัดเป็นพื้นที่ทำงานหรือมุมพักผ่อนของพนักงานได้ หรือถ้าใครจัดชั้นล่างเป็นพื้นที่หน้าร้าน บนชั้นลอยก็สามารถที่จะเปลี่ยนเป็นติดกระจกใสเพื่อทำเป็นส่วนโชว์สินค้าได้

จากบนชั้นลอยจะมองลงไปเห็นชั้นล่างแบบนี้ค่ะ

หันไปทางฝั่งโถงบันไดขึ้นชั้น 2

โถงบันไดติดไฟมาให้ 2 ดวง

ขึ้นมาบนพื้นที่ชั้น 2 มีส่วนระเบียงฝั่งหน้าบ้าน 1 จุด

โดยรวมชั้นที่ 2 ก็จะไม่มีกั้นห้องให้ แต่จะมีห้องน้ำมาให้ 1 ห้องค่ะ

ประตูที่เชื่อมระเบียงภายนอก เป็นประตูบานเลื่อนเดี่ยว บานกรอบอลูมิเนียม

ขนาดระเบียงภายนอกพอให้เปิดระบายอากาศ หรือวางกระถางต้นไม้ค่ะ

ราวกันตกระเบียงได้เป็นราวเหล็กซี่ สีขาว และมี Facade ด้านบน

ส่วนของห้องน้ำจะอยู่ติดกับโถงบันได

ภายในห้องน้ำติดตั้งสุขภัณฑ์มาให้ครบชุด แยกส่วนแห้ง ส่วนเปียก

สุขภัณฑ์ที่ได้ จะได้อ่างล้างมือทรงกลมแบบลอยตัว และโถสุขภัณฑ์ Kohler ระยะการใช้งานพอให้ใช้งานสะดวก

พื้นที่ส่วนห้องอาบน้ำ มีช่องแสง 1 บาน เป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง พื้นจะลดระดับลงไปประมาณ 2 ซม. ภายในติดตั้งฝักบัวแบบ Hand Shower

ขนาดห้องอาบน้ำประมาณ 0.8 x 0.8 ม.

เราขึ้นไปดูบนชั้น 3 กันต่อ โดยพื้นที่โถงบันไดจะมีช่องแสงมาให้ 1 จุด เหมือนโถงบันไดชั้นล่าง

พื้นที่บนชั้น 3 จะมีความเป็นส่วนตัวที่สุด เหมาะจะใช้เป็นพื้นที่พักผ่อนของเจ้าของบ้าน โดยบนชั้น 3 นี้จะมีช่องแสงทั้งหมด 3 บาน ฝั่งขวามือที่เราเห็นจะมีหน้าต่างบานเลื่อน และประตูเชื่อมออกไปยังระเบียงภายนอก

ประตูเชื่อมระเบียงภายนอกเป็นประตูบานเลื่อน พร้อมช่องแสงเพิ่มด้านบน

ขนาดระเบียงด้านนอกจะพอๆกันกับที่ชั้น 2 ค่ะ

อีกฝั่งของห้อง เราจะเห็นส่วนห้องน้ำ และช่องแสงอีก 1 บาน

เข้าไปดูภายในห้องน้ำกันต่อ

ภายในห้องน้ำแยกส่วนแห้ง ส่วนเปียก พร้อมสุขภัณฑ์ครบชุด มีช่องแสง 1 บาน บริเวณห้องอาบน้ำ

ขนาดห้องอาบน้ำประมาณ 0.8 x 0.8 ม.

ภาพอีกมุม มองย้อนไปทางโถงบันไดค่ะ

---

ราคา

• โฮมออฟฟิศ 3.5 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 172 ตร.ม. ที่ดิน 23.9 ตร.วา ราคา 8.9 ล้านบาท
• โฮมออฟฟิศ 4 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 417 ตร.ม. ที่ดิน 44.6 ตร.วา ราคา 15.9 ล้านบาท

• จอง + ทำสัญญา 100,000 บาท
• ค่าส่วนกลาง 120 บาท/ตร.วา/เดือน ชำระล่วงหน้า 2 ปี

Promotion : รับส่วนลด 100,000 บาท สำหรับลูกค้าที่ลงทะเบียน

***ข้อมูลราคา และโปรโมชั่นอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

---

สรุป

ทำเล : District เอกมัย – รามอินทรา ตั้งอยู่ติดถนนซอยรามอินทรา 40 เชื่อมกับถนน 2 เส้น คือถนนรามอินทรา และถนนนวลจันทร์ เป็นโซนที่พักอาศัยในแนวราบเกือบทั้งหมด เป็นโครงการบ้านจัดสรร ทั้งบ้านเดี่ยว, ทาวน์โฮม, และโฮมออฟฟิศ โดยรวมจะเป็นทั้งย่านของที่อยู่อาศัยและออฟฟิศขนาดย่อมๆ ในภาพรวมมีความอุดมสมบูรณ์ค่อนข้างสูง และยังมีการเจริญเติบโตขึ้นเรื่อยๆ เพราะการมาถึงของรถไฟฟ้าสายสีชมพู ที่จะทำให้การสัญจรไป-มาสะดวกมากขึ้น

ความอุดมสมบูรณ์ในย่านนี้ก็นับว่ารองรับการอยู่อาศัยให้มีความสะดวกสบายพอสมควรทั้งในระยะใกล้และในวงกว้าง เพราะในย่านนี้จะมีทั้งห้างสรรพสินค้า, Community mall, Hypermarket, ร้านอาหาร ให้เลือกไปได้ตามถนนเส้นต่างๆใกล้เคียงกับตัวโครงการ โดยจะสามารถเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวไปได้สะดวก

การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว : ถือว่าสะดวกสบายแต่อาจจะมีการจราจรหนาแน่นหน่อยในบางช่วงเวลา เพราะตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยรามอินทรา 40 ที่เชื่อมกับถนนเส้นหลักคือถนนรามอินทราใช้วิ่งไปทางหลักสี่ หรือมีนบุรีได้สะดวก และถนนนวลจันทร์ซึ่งสามารถเชื่อมไปเส้นเลียบด่วน รามอินทราได้ หรือขึ้นทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ วิ่งยาวไปพระราม 9 ที่เป็นหนึ่งในโซน New CBD และเป็นแหล่งรวมออฟฟิศได้เลย ช่วยให้การติดต่อธุรกิจทำได้สะดวกค่ะ

การเดินทางโดยรถสาธารณะ : สามารถใช้รถสองแถวบนเส้นนวลจันทร์ และมีพี่วินอยู่ที่ปากซอยให้ใช้บริการ และถ้าออกไปบนเส้นรามอินทราก็จะมีรถตู้วิ่งผ่านอยู่บ้าง ส่วนป้ายรถเมล์จะอยู่ห่างจากหน้าปากซอยฝั่งรามอินทราไปประมาณ 60 เมตร จะมีรถเมล์สาย 26, 95, 150, 156, 520, 554 วิ่งผ่าน

นอกจากนั้นในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีชมพูช่วงแคราย-มีนบุรี วิ่งผ่านเส้นรามอินทรา โดยสถานีที่อยู่ใกล้โครงการสุดจะเป็นสถานีรามอินทรา 40 ตั้งอยู่บนถนนรามอินทราใกล้หน้าปากซอยรามอินทรา 40 เลย ซึ่งจากตัวโครงการถึงปากซอยรามอินทรา 40 จะมีระยะทางประมาณ 1.6 กม.เท่านั้น เมื่อสร้างเสร็จพร้อมใช้งานจะช่วยอำนวยความสะดวกขึ้นได้อีกมากเลยค่ะ

การออกแบบโครงการและแบบบ้าน : ตัวโครงการ District เอกมัย – รามอินทรา เป็นโครงการโฮมออฟฟิศ สูง 3.5 และ 4 ชั้น จำนวน 36 ยูนิต บนที่ดิน 6 – 0 – 9.6 ไร่ ภายในโครงการมีที่จอดรถส่วนรวมจัดมาให้เพื่อรองรับลูกค้าของลูกบ้าน เนื่องจากลักษณะโครงการโฮมออฟฟิศ และส่วนใหญ่จะเป็นผู้ประกอบธุรกิจ ที่ใช้โฮมออฟฟิศเป็นทั้งบ้านและหน้าร้านหรือทำออฟฟิศ ทำให้ภายในโครงการจะต้องมีที่จอดรถรองรับผู้ที่เข้ามาติดต่อเพิ่มเติมจากที่จอดรถส่วนตัวภายในบ้าน ซึ่งเราจะเห็นว่าในโครงการมีจัดมาไว้ให้พอสมควร กระจายตามจุดต่างๆในโครงการค่ะ

แบบบ้านในโครงการจะมี 2 แบบ คือ

• Triump โฮมออฟฟิศ 3.5 ชั้น 3 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 172 ตร.ม. ที่จอดรถ 2-3 คัน
• Fortune โฮมออฟฟิศ 4 ชั้น 5 ห้องน้ำ 2 ห้องนอน 1 ห้องรับแขก 1 ห้องครัว พร้อมส่วนรับประทานอาหาร พื้นที่ใช้สอย 417 ตร.ม. ที่จอดรถ 6 คัน

การออกแบบตัวบ้านทั้ง 2 แบบ จะจัดมาแบบรองรับการทำออฟฟิศที่ชั้นล่าง คือจะให้มาแบบเป็นพื้นที่โถงโล่งๆ ให้ผู้อยู่อาศัยตกแต่งเพิ่มเติมตามประเภทของแต่ละธุรกิจเอง ส่วนความแตกต่างของแบบ 3.5 ชั้น และ แบบ 4 ชั้น คือ แบบโฮมออฟฟิศ 3.5 ชั้น จะมีชั้นลอยที่เชื่อมกับชั้น 1 ทำให้โถงได้ฝ้าเพดานสูงโปร่ง เหมาะกับการทำพื้นที่จัดแสดงสินค้าในอาคารและจะไม่มีกั้นห้องไว้ให้ทั้ง 3 ชั้น

ส่วนแบบโฮมออฟฟิศ​ 4 ชั้น จะได้พื้นที่ใช้สอยกว้างขึ้น และมีการแบ่งฟังก์ชั่นการใช้งานที่ชั้น 4 ไว้ให้ค่อนข้างชัดเจน คือชั้น 4 จะใช้เป็นที่อยู่อาศัยของเจ้าของบ้าน มีการแบ่งส่วนห้องนอน ห้องน้ำ ห้องโถงไว้ให้เรียบร้อย เหมือนคอนโดที่มีพื้นที่ใช้สอยเยอะๆค่ะ

สาธารณูปโภค : เนื่องจากเป็นโครงการโฮมฟฟิศจึงไม่จำเป็นต้องเน้นส่วนกลางเท่าไหร่ แต่ทางโครงการก็มีจัดมารองรับสำหรับลูกบ้านอยู่พอสมควร คือมีอาคาร Club House ที่มีส่วนนิติ, ห้องน้ำ และฟิตเนส นอกจากนั้นก็ยังมีสวนหย่อมตามจุดต่างๆในโครงการ และลงต้นไม้ให้ความร่นรื่นตามจุดต่างๆด้วยค่ะ และที่สำคัญคือมีการจัดที่จอดรถส่วนกลางไว้ให้ นอกเหนือจากที่จอดรถภายในตัวบ้านเอง

ส่วนความปลอดภัยภายในโครงการจะมีทั้งซุ้มทางเข้าหลัก ใช้รั้วกั้นไม้กระดก และระบบ Easy Pass พร้อมกล้อง CCTV ฝั่งละ 2 ตัว พร้อมมีรปภ.24 ชม.

คะแนน

ทำเลที่ตั้งโครงการ	8.5	ตั้งอยู่ภายในซอยรามอินทรา 40 เชื่อมทั้งถนนรามอินทรา และถนนนวลจันทร์ มีความอุดมสมบูรณ์สูง และเป็นโซนที่พักอาศัยที่ไปไหนมาไหนสะดวก
การเดินทาง ใช้รถ	8.0	เดินเข้าออกเมืองสะดวก ใกล้เลียบด่วน รามอินทรา วิ่งเข้าพระราม 9 หลักสี่ ดอนเมืองสะดวกแต่รถติดหน่อย
การเดินทาง ไม่ใช้รถ	7.5	มีรถสองแถวบนเส้นนวลจันทร์ และวินมอเตอร์ไซค์แถวหน้าซอย มีรถตู้บนเส้นรามอินทรา และในอนาคตจะมีรถไฟฟ้ารถไฟฟ้าสายสีชมพูช่วงแคราย-มีนบุรี และสถานีรามอินทรา 40 จะใกล้โครงการที่สุดค่ะ
บ้านและวัสดุ	8.0	ภายในบ้านฟังก์ชั่นเหมาะกับผู้ที่จะทำธุรกิจ พื้นที่ใช้สอยเยอะ ครบครัน พื้นที่ใช้สอยเยอะ แต่เนื่องงจากขายแบบ Bare shell วัสดุก็จะมีแค่ปิดผิวแบบมาตรฐาน
สิ่งอำนวยความสะดวก	7.8	Club House มีห้องน้ำ, ส่วนนิติและห้องฟิตเนส สวนสาธารณะ และพื้นที่สีเขียวทั่วโครงการ ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม. เข้า-ออกโครงการด้วย Easy Pass
ความคุ้มค่ากับราคา	8.5	เหมาะสำหรับ ผู้ที่มองหาที่อยู่อาศัยหรือโฮมออฟฟิศ โซนรามอินทรา ชอบพื้นที่ใช้สอยเยอะหน่อย ไม่เน้นส่วนกลาง และสามารถเดินทางเข้าออกเมืองได้สะดวก เน้นการใช้รถยนต์เป็นหลัก
คะแนนรวมเฉลี่ย	8.05	ดีมาก

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 02-170-8795, 1623

Website : http://www.apthai.com/

หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ

และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ