[Mini Review] The Vision ลาดพร้าว-นวมินทร์ ทาวน์โฮมทำเลบ้านเดี่ยว ศูนย์กลาง 3 ทำเลฮอต เชื่อมต่อรถไฟฟ้า 3 สาย

[Mini Review] เดอะ วิชั่น ลาดพร้าว-นวมินทร์ ทาวน์โฮมทำเลบ้านเดี่ยว ศูนย์กลาง 3 ทำเลฮอต เชื่อมต่อรถไฟฟ้า 3 สาย

Written by : Nin Yanin

สวัสดีค่ะคุณผู้อ่าน Homenayoo วันนี้เราบทความฉบับพิเศษของเราเป็นโครงการทาวน์โฮมไซส์ XL บนทำเลศักยภาพ สำหรับคนที่กำลังมองหาบ้านโซนในเมือง ใกล้ทางด่วน ใกล้รถไฟฟ้า และสามารถเชื่อมต่อการใช้ชีวิตบน 3 ย่านดังหลัก ๆ ได้ ทั้งลาดพร้าว, รามอินทรา และบางกะปิ มาฝากกันค่ะ

และนั่นก็คือโครงการ The Vision ลาดพร้าว – นวมินทร์ จาก All Inspire Development PCL ที่ตั้งอยู่ในซอยนวมินทร์ 85 เชื่อมต่อ 3 ทำเลหลักผ่านเส้น ลาดพร้าว, รามอินทรา, รามคำแหง, เลียบด่วน และขึ้นทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ ได้สะดวก นอกจากนี้ยังอยู่ใกล้ห้างสรรพสินค้าชั้นนำขนาดใหญ่ เช่น Fashion Island, Central Festival Eastville และ The Mall บางกะปิ รวมถึงรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล ที่ตัดผ่านหน้าซอยโครงการอีกด้วย

เดอะวิชั่น ลาดพร้าว – นวมินทร์ เป็นโครงการทาวน์โฮม 2 – 3 ชั้น บนพื้นที่โครงการขนาด 33 – 0 – 08 ไร่ จำนวนบ้าน 308 ยูนิต มีแบบบ้านให้เลือก 3 แบบ ที่ดินบ้าน เริ่มต้น 21 ตร.ว. ขึ้นไป พื้นที่ใช้สอยแบบ XL Space เริ่มต้น 138 – 220 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 – 4 ห้องนอน, 2 – 4 ห้องน้ำ พร้อมที่จอดรถ 2 คัน ปัจจุบันโครงการสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่บางส่วนแล้วค่ะ

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ ให้มาในระดับเดียวกับโครงการบ้านเดี่ยวหลัก 10 ล้าน เป็น คลับเฮาส์ 2 ชั้น พร้อม สระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด Half Olympic, สระเด็ก, ห้องออกกำลังกาย, Co – Working Space, สวนส่วนกลางขนาดใหญ่, สนามเด็กเล่น, Jogging Track, ถนนในโครงการกว้าง 12 เมตร และ ระบบการรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ในราคาเริ่มต้นเพียง 3.49 ล้านบาท* แต่ยังได้บ้านทำเลในเมือง

เรามาดูกันเลยดีกว่าค่ะว่าทำเลและบ้านของโครงการนี้มีดีและมีความน่าสนใจอย่างไรบ้าง

ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์พิเศษ คลิก https://bit.ly/2BtBUHd

---

---

---

แผนที่จากทางโครงการ The Vision ลาดพร้าว – นวมินทร์

พิกัด Google Map : 13.796384, 100.643892

สำหรับคนที่กำลังมองหาบ้านโซนในเมืองมีร้องเฮแน่นอนค่ะ เพราะโครงการ The Vision ลาดพร้าว – นวมินทร์ ที่เรานำมาเสนอในวันนี้ เป็นโครงการทาวน์โฮมไซส์ XL ที่มีพื้นที่ใช้สอยเทียบเท่าบ้านเดี่ยว ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพที่เป็นส่วนตัว ในซอยนวมินทร์ 85 ซึ่งเข้ามาจากถนนนวมินทร์เพียง 900 เมตร โดยถนนนวมินทร์นี้เป็นถนนเส้นหลักที่สามารถเชื่อมตรงถึงย่านที่คนคุ้นเคยอย่าง ลาดพร้าว, รามอินทรา และบางกะปิ ได้สบาย ๆ

---

---

---

---

---

---

ทำเลนี้สะดวกสบายทั้งคนที่ใช้รถยนต์ส่วนตัวและคนที่ใช้ระบบขนส่งสาธารณะ เพราะใกล้รถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล เข้า – ออกเมืองชั้นในได้สะดวกเพราะใกล้ทางด่วน เหมาะสำหรับคนที่เคยอาศัยหรือทำงานอยู่ในแถบรามอินทรา, ลาดพร้าว, รามคำแหง, รัชดา, พระราม 9 ไปจนถึง เอกมัย, อโศก และสุขุมวิทค่ะ

โดยถนนนวมินทร์นั้นเชื่อมตรงมาจากถนนรามอินทรา บริเวณช่วง กม. 8 ตัดผ่านถนนเกษตร – นวมินทร์ ลงไปจนถึงแยกบางกะปิ เชื่อมกับถนนลาดพร้าว, ถนนเสรีไทย และถนนพ่วงสิริ ซึ่งเชื่อมลงไปถึงถนนรามคำแหง และยังมีถนนโพธิ์แก้วที่เชื่อมกับถนนลาดพร้าวผ่านซอยลาดพร้าว 101 (ไม่ต้องกลับรถ) และเชื่อมกับถนนประดิษฐ์มนูธรรม (เลียบด่วน) ใช้วิ่งไปขึ้นทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์เพื่อเข้าตัวเมืองชั้นในได้

ซึ่งทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์นี้ถือว่าเป็นตัวส่งเสริมการเดินทางโดยตรงเลยค่ะ ฝั่งขาเข้า (ฝั่งเดียวกับโครงการ) จะมุ่งหน้าไปยังใจกลางเมืองทางพระราม 9 – เอกมัย ซึ่งจะใช้เวลาเพียง 15 – 20 นาทีเท่านั้น และยังเชื่อมต่อกับทางด่วนศรีรัชซึ่งสามารถใช้เดินทางไปได้ทุกที่ในกรุงเทพ ฯ

จากภาพกราฟิกจะเห็นได้ว่าทำเลของโครงการนั้นล้อมรอบด้วยรถไฟฟ้าถึง 4 สายคือ สายสีน้ำตาล, สายสีเหลือง, สายสีส้ม และสายสีชมพู ซึ่งสายสีน้ำตาล (ช่วงแคราย – ลำสาลี) นั้นจะเป็นสายที่อยู่ใกล้กับตัวโครงการมากที่สุด เพราะจะตัดผ่านถนนนวมินทร์และผ่านหน้าปากซอยนวมินทร์ 85 เลยค่ะ จากโครงการเดินทางมาที่ปากซอยก็แค่เพียง 900 เมตรเท่านั้น ซึ่งจุดนั้นอยู่ห่างจาก สถานีลำสาลี ที่เป็น Interchange Station ระหว่างรถไฟฟ้าสายสีส้ม, สีเหลือง และสีน้ำตาล บริเวณแยกลำสาลี ราว ๆ 4 กม. เองค่ะ

โดยปัจจุบัน รถไฟฟ้าสายสีเหลือง, สายสีส้ม และสายสีชมพู กำลังอยู่ในระหว่างขั้นตอนการก่อสร้าง พอจะเห็นเป็นรูปเป็นร่างกันแล้ว เมื่อทั้งรถไฟฟ้าทั้ง 4 โครงการนี้สร้างแล้วเสร็จ ก็จะช่วยให้เราสามารถเดินทางเชื่อมต่อเข้าเมือง – ออกเมืองระหว่างกรุงเทพฯ และปริมณฑลได้อย่างสะดวกรวดเร็วมากขึ้น

นอกจากการเดินทางของระบบรถและระบบรางจะง่ายและสะดวกสบายแล้ว โครงการ The Vision ลาดพร้าว – นวมินทร์ ยังอยู่ใกล้กับสิ่งอำนวยความสะดวกอีกมากมาย ดังที่กล่าวไปข้างต้นแล้วว่า ทำเลของโครงการนี้เชื่อมตรงถึง 3 ย่านใหญ่อย่าง ลาดพร้าว – รามอินทรา – บางกะปิ ที่ล้วนแล้วแต่เป็น Well – known Quarter ขึ้นชื่อเรื่องความอุดมสมบูรณ์สูง จากโครงการขับรถไปเพียง 10 – 15 นาทีก็ถึงแล้ว

อย่างฝั่งรามอินทราก็จะมีห้างใหญ่อย่าง Fashion Island และ The Promenade ที่มี Sky Walk เชื่อมต่อกัน มี Shop เยอะมากจนสามารถเดินชอปปิงได้ทั้งวัน และมีร้านอาหารให้เลือกทานได้หลายร้านมาก ๆ บางครั้งที่ชั้นบนของห้าง Fashion Island จะนำร้านอาหารชื่อดังร้านเด็ด ๆ มาเปิดซุ้มขายอยู่เป็นระยะ ๆ ด้วย

หันมาทางเส้นประดิษฐ์มนูธรรมก็จะมี Tesco Lotus, The Crystal, CDC, The Walk, ตลาดนัดเลียบด่วน และ Central Festival Eastville ที่มีความพิเศษกว่า Central สาขาอื่นตรงที่ เป็น Pet Friendly Shopping Mall สามารถพาสัตว์เลี้ยงมาเดินเล่นได้ โดยมีการตกแต่งแบบป่าฝนเขตร้อน ในห้างมีร้านอาหาร บาร์ และคาเฟ่อยู่เยอะเกินห้างทั่วไปมาก ๆ  แถมยังมีบาร์ชื่อดังจากโซนทองหล่อมาเปิดที่นี่อีกมากมาย

สำหรับสายรักสุขภาพ ที่นี่มี Jogging Track แบบลอยฟ้าให้ไปวิ่งออกกำลังกายกันได้ หรือใครชอบอ่านหนังสือก็มี Think Space B2S ขนาดใหญ่ ออกแบบจากบริษัทชื่อดังอย่าง Klein Dytham Architecture ที่เคยฝากผลงานออกแบบภายในให้กับหลายแบรนด์ดังมาแล้ว เช่น Nike และ Uniqlo ค่ะ

ลงไปทางบางกะปิก็จะมี The Mall บางกะปิ, Makro ลาดพร้าว, ตะวันนา, Tesco Lotus, Happyland Center, N Mark Plaza และตลาดบางกะปิ ล้วนแล้วแต่อยู่ในทำเลติดกัน แบบที่สามารถเดินข้ามถนนก็ถึงอีกห้างแล้ว

นอกจากนี้ยังอยู่ใกล้กับสถานศึกษาชื่อดังหลายแห่ง เช่น รร.บดินทรเดชา 2, รร.เลิศหล้า, ม.รัตนบัณฑิต, ม.รามคำแหง, ม.อัสสัมชัญ, NIDA และ Stamford International University โรงพยาบาลที่ไปได้สะดวกภายในเวลาเพียง 10 – 15 นาทีก็มีนะคะ มีทั้ง รพ.พญาไท นวมินทร์, รพ.สินแพทย์, รพ.นพรัตนราชธานี, รพ.เวชธานี, รพ.ลาดพร้าว และ รพ.รามคำแหง นับว่ายังอุ่นใจดีค่ะ

ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะมีแหล่งถิ่นฐานเดิมอยู่ที่ไหน หากต้องการขยับขยายพื้นที่การอยู่อาศัยจากคอนโดหรือทาวน์โฮมเก่าให้กว้างขวางขึ้น ทำเลของโครงการ The Vision ลาดพร้าว – นวมินทร์ นับว่าตอบโจทย์คนที่รักความสะดวกสบาย แต่ก็ยังต้องการความเป็นส่วนตัว และคนที่คุ้นชินกับการใช้ชีวิตในทำเลเดิม เพราะทำเลนี้เชื่อมต่อตรงถึง 3 ย่านดังกล่าว

ให้คุณยังสามารถใช้ชีวิตอย่างที่คุณคุ้นเคย ไม่ว่าจะเป็นการไปเดินห้างชอปปิง หรือการไปทานอาหารที่ร้านอาหารร้านโปรด ก็จะยังสะดวกสบายเหมือนเดิม ไม่ต้องปรับไลฟ์สไตล์หรือปรับการใช้ชีวิตในย่านใหม่ แล้วก็ไม่ต้องย้ายออกไปไกลถึงปลายเสรีไทยหรือโซนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ด้วยค่ะ

:: สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ ::

ห้างสรรพสินค้า

• ตะวันนา : 5.5 กม.
• N Mark Plaza : 5.5 กม.
• Makro : 5.5 กม.
• ตลาดหัวมุม : 5.5 กม.
• The Walk : 5.7 กม.
• ตลาดบางกะปิ : 5.9 กม.
• The Mall บางกะปิ : 6.3 กม.
• ตลาดนครไทย : 6.3 กม.
• The Crystal : 6.7 กม.
• Food Land : 7 กม.
• CDC : 7.4 กม.
• Tesco Lotus ประดิษฐ์มนูธรรม : 8 กม.
• Central East Ville : 8 กม.
• Fashion Island : 8.8 กม.
• The Promenade : 8.8 กม.
• Big C ลาดพร้าว : 9.4 กม.
• Home Pro : 11.1 กม.

สถานศึกษา

• รร.เลิศหล้า : 4 กม.
• NIDA : 4.9 กม.
• รร.บดินทรเดชา 2 : 4.7 กม.
• ม.รัตนบัณฑิต : 6.5 กม.
• ม.รามคำแหง : 8.3 กม.
• ม.อัสสัมชัญ : 9.7 กม.
• Stamford International University : 11.8 กม.

ศูนย์การแพทย์

• รพ.พญาไท นวมินทร์ : 5.3 กม.
• รพ.สินแพทย์ : 6.6 กม.
• รพ.เวชธานี : 6.9 กม.
• รพ.รามคำแหง : 7.0 กม.
• รพ.ลาดพร้าว : 7.2 กม.
• รพ.นพรัตนราชธานี : 8.8 กม.

---

:::: ตัวโครงการ ::::

โครงการ The Vision ลาดพร้าว – นวมินทร์ เป็นโครงการทาวน์โฮม 2 – 3 ชั้น บนพื้นที่โครงการขนาด 33 – 0 – 08 ไร่ มีจำนวนบ้าน 308 ยูนิต พร้อมแบบบ้านให้เลือก 3 แบบ ที่ดินบ้าน เริ่มต้น 21 ตร.ว. ขึ้นไป ซึ่งบ้านเน้นพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่แบบ XL Space ไม่แพ้บ้านเดี่ยว เริ่มต้น 138 – 220 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 – 4 ห้องนอน, 2 – 4 ห้องน้ำ พร้อมที่จอดรถ 2 คัน

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ ให้มาในระดับเดียวกับโครงการบ้านเดี่ยวหลัก 10 ล้าน มีคลับเฮาส์ 2 ชั้น พร้อม สระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด Half Olympic, สระเด็ก, ห้องออกกำลังกาย, Co – Working Space, สวนส่วนกลางขนาดใหญ่, สนามเด็กเล่น และ Jogging Track รวมพื้นที่กว่า 1 ไร่

เดี๋ยวเราเข้าไปดูภาพบรรยากาศภายในโครงการกันเลยค่ะ

เริ่มจากซุ้มทางเข้าโครงการมีดีไซน์สไตล์โมเดิร์น แบ่งทางเข้า – ออกอย่างชัดเจน โดยตรงกลางเป็นป้อม รปภ. ที่ทางเข้า – ออกจะมีไม้กระดก แบ่งแยกเลนสำหรับ Resident และ Visitor โดย Resident จะเข้า – ออกโดยใช้ระบบ RFID เหมือนด่านบนทางด่วนที่สามารถขับผ่านไปได้เลย ส่วน Visitor จะต้องแลกบัตรและถูกตรวจความปลอดภัยตามมาตรฐานโครงการก่อนทุกครั้ง

ถ้าเรามองผ่านซุ้มทางเข้าไปด้านใน จะเห็นบริเวณสวนส่วนกลางของโครงการ มีบรรยากาศที่ร่มรื่นน่าอยู่มากเลยค่ะ

ถนนภายในโครงการที่ตัดผ่านหน้าบ้านทุกหลังมีความกว้างถึง 12 เมตรทั้งหมดเลย รองรับเวลาที่มาญาติหรือมีแขกมาหาที่บ้านให้พอจอดรถหน้าบ้านชั่วคราวได้ แม้จะจอดรถทั้ง 2 ฝั่งของถนนแล้วก็ยังเหลือพื้นที่ถนนที่สามารถขับรถสวนกันได้สะดวกค่ะ

ซ้ายมือเป็นสำนักงานขายและบ้านตัวอย่างแบบทาวน์โฮม 3 ชั้น

ขวามือนี้เองเป็นพื้นที่ส่วนกลางที่ตั้งอยู่โซนด้านหน้าโครงการ ประกอบด้วยคลับเฮาส์ 2 ชั้นและสวนส่วนกลางขนาดใหญ่กว่า 1 ไร่

ภายในสวนสาธารณะมีพื้นที่สนามหญ้าขนาดใหญ่ รองรับกิจกรรมนันทนาการของครอบครัวและเพื่อนบ้าน ถูกล้อมด้วยไม้ยืนต้นให้ร่มเงา, ไม้พุ่มตกแต่ง และไม้คลุมดิน มี Jogging Track ให้สามารถเดินหรือวิ่งออกกำลังกายรอบ ๆ สวนได้

บรรยากาศบริเวณมุมนั่งพักผ่อนภายในสวนใต้ร่มเงาไม้

สำหรับสนามเด็กเล่นนั้นปูพื้นด้วยแผ่นยางกันกระแทก เพื่อป้องกันการบาดเจ็บเวลาเด็ก ๆ หกล้ม ทางโครงการจัดเครื่องเล่นเอาไว้ให้หลายชิ้น ทั้งบ้านม้าลื่น, ไม้กระดก และม้าโยก

คลับเฮาส์เป็นอาคาร 2 ชั้นขนาดใหญ่ ที่ประกอบด้วย สระว่ายน้ำ, Co – working Space และห้องออกกำลังกาย

สระว่ายน้ำของโครงการเป็นสระระบบเกลือขนาดใหญ่แบบ Half Olympic หรือยาวกว่า 25 เมตร โดยมีการแบ่งสระเด็กแยกเอาไว้ให้เพื่อความปลอดภัย และมีที่นั่งภายในสระพร้อม Bubble Jet สำหรับนั่งนวดหลังได้ด้วย

บริเวณโดยรอบสระจะมี Pool Deck พร้อมเก้าอี้และ Sunbed สำหรับพักผ่อนชมวิว

โดยพื้นที่ข้างสระนี้เองก็จะมี Shower สำหรับล้างตัวก่อนลงเล่นน้ำ และมีห้องน้ำแยกชาย – หญิงเอาไว้ให้เรียบร้อย

นอกจากนี้ยังมีพื้นที่นั่งพักผ่อนข้างสระแบบ Semi – outdoor เป็นมุมนั่งสบาย ๆ สำหรับหลบแดดและดื่มน้ำทานของว่างได้

เข้ามาภายในอาคารชั้น 1 เป็นส่วนของ Co – working Space มีพื้นที่ขนาดใหญ่ จัดชุดโต๊ะเก้าอี้เอาไว้ให้หลายชุด รองรับการนั่งทำงานหรืออ่านหนังสือทั้งแบบกลุ่มและแบบเดี่ยว ดูโปร่งโล่งด้วยผนังกระจกทุกด้าน และช่องของโถงบันไดตรงกลางที่เปิดโล่งแบบ Open to Below ที่ช่วยทำให้ Space ดูน่าสนใจมากขึ้น

พอขึ้นมาบนชั้น 2 ส่วนแรกจะเป็น Co – working Space แบบ Semi – outdoor สำหรับคนที่ชอบรับลมธรรมชาติ พร้อมไอกลิ่นจากต้นไม้

ส่วนพื้นที่อีกฝั่งหนึ่งจะเป็นห้องออกกำลังกาย โดยทางโครงการเลือกใช้อุปกรณ์ออกกำลังกายมาตรฐานเดียวกับโรงยิม ผนังรอบด้านเป็นกระจกทำให้สามารถชมวิวสวนด้านนอกเวลาออกกำลังกายได้

เครื่องออกกำลังกายมีมาให้อย่างครบครันค่ะ ไม่ว่าจะเป็นแบบ Cardio หรือ Weight Training โดยที่ผนังฝั่งหนึ่งติดกระจกเงาเอาไว้ให้ สามารถเช็กท่าทางในการออกกำลังกายได้

และภายในห้องออกกำลังกายจะเชื่อมกับห้องเกม ภายในมีโต๊ะโกล์จัดเอาไว้ให้เล่นกันค่ะ

---

:::: บ้านตัวอย่าง ::::

โครงการ Vision ลาดพร้าว – เกษตรนวมินทร์ มีแบบบ้านให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 3 แบบ ได้แก่

• แบบบ้าน Vision Smart ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5 ม. พื้นที่ใช้สอย 138 ตร.ม.
• แบบบ้าน Vision Wise ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5 ม. พื้นที่ใช้สอย 180 ตร.ม.
• แบบบ้าน Vision Live ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 ม. พื้นที่ใช้สอย 220 ตร.ม.

โดยมาตรฐานทุกหลังจะติดตั้งปั๊มน้ำและถังสำรองน้ำที่หลังบ้านมาให้ครบทุกยูนิต

 

ในส่วนของบ้านตัวอย่างที่เราจะพาไปชมนั้น จะเป็นแบบบ้าน Vision Smart ขนาด 138 ตร.ม. และแบบบ้าน Vision Live ขนาด 220 ตร.ม. โดยจะมีการตกแต่ง และจัดฟังก์ชันเสริมมาให้ดูเป็นไอเดียค่ะ

เริ่มกันที่แบบบ้าน Vision Smart ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5 เมตร ที่ดิน เริ่มต้น 21 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 138 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ พร้อมที่จอดรถหน้าบ้าน 2 คัน ใช้วัสดุบ้านเกรดพรีเมียมเทียบเท่าบ้านเดี่ยว มีการออกแบบบ้านในสไตล์โมเดิร์น ใช้สีเอิร์ธโทนอย่างสีเทาเข้ม, เทาอ่อน และสีน้ำตาลจากผนังไม้ระแนง ตัดด้วยบัวผนังสีขาว พร้อมช่องแสงประตู – หน้าต่างบานใหญ่

แปลนชั้น 1 หน้าบ้านกว้าง 5 เมตร สามารถจอดรถได้ 2 คัน พอเข้ามาภายในบ้านจะเป็น Living Area ขนาดใหญ่ ประกอบด้วยส่วนนั่งเล่น, ส่วนรับประทานอาหาร และส่วนครัว เชื่อมต่อกับห้องน้ำ, ห้องนอนชั้นล่าง และบันไดทางขึ้นชั้น 2 และจากส่วนครัวเปิดออกไปหลังบ้านจะเป็นลานซักล้างค่ะ

แปลนชั้น 2 เป็นส่วนของห้องนอน 2 ห้อง และห้องน้ำสำหรับใช้ร่วมกันอีก 1 ห้อง Master Bedroom จะอยู่ฝั่งหน้าบ้าน ส่วนห้องนอนรองจะอยู่หลังบ้าน ทั้ง 2 ห้องนี้มีขนาดใหญ่พอ ๆ กัน มีความยาวห้องเท่ากับหน้ากว้างบ้าน แต่แตกต่างกันตรงที่ Master Bedroom จะมีระเบียงให้ด้วย

เข้ามาภายในที่จอดรถสามารถจอดรถได้ 2 คันค่ะ พื้นเป็นคอนกรีตปาดเรียบ ติดดวงโคมดาวน์ไลต์ให้ 1 ดวง สังเกตหลังคาโปร่งแสงของที่จอดรถ จะเป็นส่วนที่ทางโครงการต่อเติมมาให้ลูกบ้านแล้ว

พื้นเฉลียงทางเข้าบ้านยกระดับขึ้นมาปูด้วยกระเบื้องเซรามิก เป็นส่วนที่สามารถวางตู้เก็บรองเท้าและวางม้านั่งเพื่อเปลี่ยนรองเท้าได้ ประตูทางเข้าบ้านเป็นชุดประตูบานเลื่อนอะลูมิเนียม ติดกระจกเขียวตัดแสง

ภายในบ้านมีการวางแปลนแบบ Open Plan เป็นส่วนของ Living Area ขนาดใหญ่ดูโปร่งโล่งอยู่สบาย เชื่อมต่อฟังก์ชันระหว่าง ส่วนนั่งเล่น, ส่วนรับประทานอาหาร และส่วนครัว พื้นบ้านมาตรฐานชั้นล่างปูด้วยกระเบื้องแกรนิโตสีครีม ผนังและฝ้าเพดานบ้านฉาบเรียบทาสีพื้น ติดดวงโคมดาวน์ไลต์ทั้งหลัง โดยที่มีฝ้าเพดานสูงถึง 2.7 เมตรค่ะ

ถ้าเป็นบ้านแปลงมุมเหมือนบ้านตัวอย่างนี้ ก็จะมีหน้าต่างบานกระทุ้งติดตั้งมาให้เพิ่มถึง 3 บาน

ภาพบรรยากาศส่วนนั่งเล่น สามารถวางโซฟาขนาด 3 ที่นั่ง หรือวางโซฟา L Shape ขนาดใหญ่ พร้อมโต๊ะกาแฟได้

ข้างกันเป็นส่วนรับประทานอาหาร วางชุดโต๊ะ – เก้าอี้ ขนาด 4 – 6 ที่นั่ง จะกำลังพอดี

มองไปที่ฝั่งตรงข้ามระหว่างชั้นวางทีวีคือห้องน้ำและโถงบันไดค่ะ

ห้องน้ำชั้นล่างเป็นห้องน้ำพร้อมส่วน Shower แยกส่วนแห้ง – ส่วนเปียกออกกจากกันอย่างเป็นสัดส่วน มีระยะการใช้งานแบบสบาย ๆ ต่างจากห้องน้ำในทาวน์โฮมของหลาย ๆ โครงการ ที่มีพื้นที่ห้องน้ำชั้นล่างค่อนข้างเล็ก ภายในตกแต่งพื้นและผนังด้วยกระเบื้องเซรามิก พร้อมสุขภัณฑ์จากแบรนด์ชั้นนำอย่าง Hafele ทั้งหมด และที่ฝ้าเพดานติดพัดลมระบายอากาศมาให้ 1 เครื่องด้วยค่ะ

เดินเข้าไปด้านใน จัดเป็นโต๊ะสำหรับนั่งทำงาน 2 ที่ เชื่อมต่อกับลานซักล้างหลังบ้านที่ต่อเติมเป็นครัวให้ดูเป็นไอเดีย แต่บ้านมาตรฐานจะมีประตูบานเลื่อนกั้นส่วนเอาไว้ให้ ส่วนทางฝั่งขวามือนี้คือห้องนอนชั้นล่างค่ะ

ห้องนอนชั้นล่างเป็นห้องที่ตอบโจทย์ครอบครัวที่มีผู้สูงอายุได้เป็นอย่างดี ส่วนใหญ่แล้วห้องนอนชั้นล่างของทาวน์โฮมมักจะเป็นห้องขนาดเล็ก วางเตียงนอนได้ใหญ่สุดขนาดไม่เกิน 3.5 ฟุต แต่ห้องนี้มีขนาดใหญ่พอที่จะวางเตียงนอนขนาด 5 ฟุตได้เลยค่ะ

พอวางเตียงขนาด 5 ฟุตแล้ว ก็ยังเหลือพื้นที่ด้านข้างให้สามารถวางตู้เสื้อผ้าขนาดมาตรฐานได้อีก 1 ตู้

ลานซักล้างหลังบ้านมีความกว้างถึง 2.5 เมตรเป็นมาตรฐาน ซึ่งถือว่าใหญ่กว่าทาวน์โฮมของโครงการทั่ว ๆ ไปเยอะทีเดียวนะคะ บ้านตัวอย่างต่อเติมเป็นห้องครัวได้แบบ Full Function เป็นเคาน์เตอร์ครัว L Shape มี Hob, Hood และ Sink เหลือพื้นที่ในการยืนปรุงอาหารกว้างขวางทีเดียว

บ้านตัวอย่างแบ่งพื้นที่ลานซักล้างอีกครึ่งหนึ่งเป็นสวนหย่อมสำหรับนั่งพักผ่อน ปูพื้นด้วยกระเบื้องดินเผา ก่อม้านั่งหินเข้ามุม และจัดสวนแนวตั้งมาให้ดูเป็นไอเดีย

เราขึ้นไปดูพื้นที่ใช้สอยบนชั้น 2 กันต่อเลยค่ะ โดยบันไดบ้านใช้โครงสร้าง คสล. แข็งแรงทนทาน ปิดผิวลูกตั้ง – ลูกนอนด้วยไม้ยางพาราอัดประสาน ราวจับเป็นโครงเหล็กฝังผนังติดมือจับไม้ยางพาราอัดประสาน ต่อเนื่องไปถึงชั้นบน

จุดเด่นอีกอย่างของโครงการก็คือมีความกว้างของบันไดถึง 1.2 เมตร ซึ่งถือว่ากว้างกว่าทาวน์โฮมหรือแม้กระทั่งบ้านเดี่ยวขนาดเล็กโครงการอื่น ๆ  ทำให้เดินขึ้น – ลง หรือเคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ ๆ ได้สะดวก

ชั้น 2 เป็นส่วนของห้องนอน 2 ห้องและห้องน้ำค่ะ โดยห้อง Master Bedroom อยู่ฝั่งหน้าบ้าน ห้องนอนรองอยู่ฝั่งหลังบ้าน และห้องน้ำอยู่ตรงกลางระหว่างห้องนอน 2 ห้อง พื้นชั้นบนปูด้วยลามิเนตหนา 8 มม. ผนังและฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสีพื้น ฝ้ามีความสูง 2.7 เมตรเท่ากับชั้นล่าง และติดดวงโคมดาวน์ไลต์มาให้ทั้งหมด

ห้อง Master Bedroom มีขนาดใหญ่เท่ากับหน้ากว้างของบ้าน สามารถจัดห้องได้ง่ายและลงตัวด้วยเฟอร์นิเจอร์ไซส์ใหญ่ ทั้งยังสว่างและโปร่งโล่งเพราะมีช่องแสงขนาดใหญ่ติดมาให้เต็มผนังทั้งฝั่ง

บ้านตัวอย่างวางเตียงนอนขนาด 6 ฟุต, โต๊ะข้าง และทำตู้เสื้อผ้า Built – in ขนาดใหญ่ ลงตัวกับพื้นที่ใช้สอย มีพื้นที่เหลือโดยรอบไม่อึดอัด

พื้นที่อีกฝั่งจัดเป็นโต๊ะทำงานและโต๊ะเครื่องแป้งแบบโล่ง ๆ สบาย ๆ ซึ่งทางฝั่งขวามือจะมีประตูบานเลื่อนเปิดออกสู่ระเบียงห้องได้

ห้องนอนรองมีขนาดใหญ่ไม่แพ้ Master Bedroom เลยค่ะ แต่จะต่างกันตรงที่ไม่มีระเบียงห้องมาให้

บ้านตัวอย่างจัดเป็นห้องนอนสำหรับเด็ก 2 คน โดยวางเตียงนอนขนาด 3.5 ฟุต, โต๊ะทำงาน และตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ สามารถแบ่งโซนได้เป็นอย่างดี หรือเราจะจัดเป็นห้องนอนใหญ่อีกห้องก็ทำได้ค่ะ

ห้องน้ำชั้นบนเป็นห้องที่ใช้ร่วมกันระหว่าง Master Bedroom และห้องนอนรอง มีขนาดใหญ่ แบ่งโซนแห้ง – เปียกทำให้ใช้งานได้สะดวก พื้นและผนังตกแต่งด้วยกระเบื้องเซรามิกผิวด้านกันลื่น สุขภัณฑ์ใช้ของ Hafele เหมือนเดิมแต่อัปเกรดเป็นรุ่นที่พรีเมียมขึ้น

นอกจากจะมีหน้าต่างระบายอากาศมาให้แล้ว (เฉพาะบ้านแปลงมุม) ทางโครงการยังติดพัดลมระบายอากาศเหนือโถสุขภัณฑ์มาให้เพิ่มเติมด้วยค่ะ

---

แบบบ้าน Vision Live ทาวน์โฮม 3 ชั้น บ้านหน้ากว้าง 5.5 ม. พื้นที่ใช้สอย 220 ตร.ม. ขนาด 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ ที่จอดรถ 2 คัน ภายนอกบ้านรูปทรงคล้าย ๆ กับแบบแรก แต่จะมีลูกเล่นของ Facade ที่เพิ่มขึ้นมา

แปลนชั้น 1 หน้าบ้านกว้าง 5.5 เมตร สามารถจอดรถได้ 2 คันแบบสบาย ๆ พอเข้ามาภายในบ้านจะเป็น Living Area ขนาดใหญ่ ประกอบด้วยส่วนนั่งเล่น, ส่วนรับประทานอาหาร และส่วนครัว เชื่อมต่อกับห้องน้ำ, ห้องนอนชั้นล่าง (ห้องอเนกประสงค์) และบันไดทางขึ้นชั้น 2 และจากส่วนครัวเปิดออกไปหลังบ้านจะเป็นลานซักล้างค่ะ

แปลนชั้น 2 มีห้องนอน 3, ห้องนอน 4 และห้องน้ำสำหรับใช้ร่วมกันอีก 1 ห้อง

แปลนชั้น 3 เป็นส่วนของห้อง Master Bedroom (อยู่ฝั่งหน้าบ้าน) และห้องนอน 2 (อยู่ฝั่งหลังบ้าน) โดยภายในห้องนอนทั้ง 2 ห้องนี้จะมีห้องน้ำให้ในตัวค่ะ

เข้ามาภายในที่จอดรถสามารถจอดรถได้ 2 คันค่ะ พื้นเป็นคอนกรีตปาดเรียบ ติดดวงโคมดาวน์ไลต์ให้ 1 ดวง สังเกตหลังคาโปร่งแสงของที่จอดรถ จะเป็นส่วนที่ทางโครงการต่อเติมมาให้ลูกบ้านแล้ว

พื้นเฉลียงทางเข้าบ้านยกระดับขึ้นมาปูด้วยกระเบื้องเซรามิก สามารถวางตู้เก็บรองเท้าและวางม้านั่งเพื่อเปลี่ยนรองเท้าได้ สังเกตประตูสีขาวด้านข้างจะเป็นช่องเก็บของใต้บันไดค่ะ ส่วนประตูทางเข้าบ้านเป็นชุดประตูบานเลื่อนอะลูมิเนียม ติดกระจกเขียวตัดแสง

ภายในบ้านมีการวางแปลนแบบ Open Plan เป็นส่วนของ Living Area ขนาดใหญ่ เชื่อมต่อฟังก์ชันระหว่าง ส่วนนั่งเล่น, ส่วนรับประทานอาหาร และส่วนครัว พื้นบ้านมาตรฐานชั้นล่างปูด้วยกระเบื้องแกรนิโต ผนังและฝ้าเพดานบ้านฉาบเรียบทาสีพื้น ติดดวงโคมดาวน์ไลต์ทั้งหลัง และมีฝ้าเพดานสูงถึง 2.7 เมตร

ภาพบรรยากาศส่วนนั่งเล่น สามารถวางโซฟาแบบตัว L หรือวางเป็นตัว U ได้สบาย ๆ ค่ะ

ถัดไปเป็นส่วนรับประทานอาหาร ขวามือจะเป็นห้องน้ำ และห้องนอนชั้นล่าง (ห้องอเนกประสงค์)

ส่วนรับประทานอาหาร วางชุดโต๊ะ – เก้าอี้ขนาด 6 – 8 ที่นั่งได้ กำลังพอดีค่ะ

ห้องน้ำชั้นล่างพร้อม Shower รองรับเวลาเร่งรีบ หรือแขกที่มาค้างที่บ้าน ใช้สุขภัณฑ์ของ Hafele ทั้งหมด โดยจะมีพัดลมระบายอากาศติดมาให้เหนือโถสุขภัณฑ์

ห้องนอนชั้นล่างสำหรับรองรับ ผู้สูงอายุภายในครอบครัว, รองรับแขกคนสนิท หรือจะจัดเป็นห้องอเนกประสงค์ อย่างห้องทำงาน, ห้องเลี้ยงเด็ก, ห้องออกกำลังกาย, สตูดิโอสำหรับขายของออนไลน์ ก็ทำได้ทั้งหมด

จากส่วนรับประทานอาหาร เชื่อมต่อกับลานซักล้างหลังบ้านที่ต่อเติมเป็นครัวให้ดูเป็นไอเดีย แต่บ้านมาตรฐานจะมีประตูบานเลื่อนกั้นส่วนเอาไว้ให้

เราสามารถต่อเติมห้องครัวได้แบบ Full Function เป็นเคาน์เตอร์ครัว U Shape มี Hob, Hood และ Sink เหลือพื้นที่ในการยืนปรุงอาหารกว้างขวาง

และแบ่งพื้นที่ลานซักล้างอีกครึ่งหนึ่งเป็นสวนหย่อมสำหรับนั่งพักผ่อน

เราขึ้นไปดูพื้นที่ใช้สอยบนชั้น 2 และชั้น 3 กันต่อเลยค่ะ

ชั้น 2 เป็นส่วนของห้องนอน 3 และห้องนอน 4 โดยจะมีห้องน้ำสำหรับใช้ร่วมกันอยู่ตรงกลาง ตั้งแต่พื้นชั้น 2 ขึ้นไปจะปูด้วยลามิเนตหนา 8 มม. เพื่อให้สัมผัสอบอุ่น เหมาะสำหรับการพักผ่อนมากยิ่งขึ้น

ห้องนอน 4 จะอยู่ฝั่งหน้าบ้านค่ะ เลยได้ระเบียงหน้าบ้านมาด้วย ขนาดของห้องนอนใหญ่เท่ากับ Master Bedroom ของทาวน์โฮมโครงการอื่นเลย โดยบ้านตัวอย่างตกแต่งห้องเป็นห้องทำงานให้ดูเป็นไอเดีย

สามารถวางโต๊ะทำงานขนาดใหญ่, ม้านั่งพักผ่อนหรือ Daybed และ ชั้นวางของด้านหลัง ได้สบาย

ฝั่งที่ติดระเบียงจัดเป็นมุมพักผ่อนจิบกาแฟ ด้านหลังสามารถทำตู้เก็บของหรือเอกสารได้อีกด้วย

ห้องนอน 3 จะมีขนาดใหญ่กว่าห้องนอน 4 เล็กน้อยค่ะ พื้นที่ห้องสามารถวางเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ได้ทั้งหมด

เตียงนอนวางขนาด 6 ฟุต หรือขนาด Oversize ก็ได้ไม่มีปัญหาค่ะ

พื้นที่ข้างเตียงนอนสามารถจัดเป็นมุมนั่งทำงานขนาดใหญ่ได้

ส่วนฝั่งปลายเตียงนอนก็ทำตู้เสื้อผ้า Built – in ขนาดใหญ่ได้แบบนี้ ซึ่งเรายังสามารถทำชั้น Built – in เพื่อกั้นส่วน แล้วติดตั้งทีวีเพิ่มได้ค่ะ

ภาพบรรยากาศภายในห้องน้ำชั้น 2 สำหรับการใช้งานระหว่างห้องนอน 3 และห้องนอน 4

ชั้น 3 เป็นส่วนของห้อง Master Bedroom และห้องนอน 2 พื้นที่โถงบันไดระหว่างห้องยังสามารถจัดเป็นจุดนั่งพักผ่อนและวางหิ้งพระได้

ห้อง Master Bedroom จะอยู่ฝั่งหน้าบ้านค่ะ ขนาดห้องที่ได้มาคือเทียบเท่าห้องนอนใหญ่ในบ้านเดี่ยวเลย

เตียงนอนไม่ว่าจะขนาด 6 ฟุตหรือขนาด Oversize ก็วางได้ค่ะ รอบ ๆ เตียงยังสามารถวางโต๊ะข้าง, ชั้นวางของ และโต๊ะทำงานได้อีกด้วย

บ้านตัวอย่างทำ Partition กั้นส่วนขึ้นมา ทำให้สามารถติดตั้งทีวีได้ อีกฝั่งหนึ่งก็ใช้วางโต๊ะเครื่องแป้ง และทำตู้เสื้อผ้า Built – in ขนาดใหญ่

ฝั่งนี้จะอยู่ติดกับระเบียงห้องค่ะ พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิก ส่วนราวกันตกใช้โครงอะลูมิเนียมติดลูกฟักกระจกนิรภัย

และจะเชื่อมกับห้องน้ำในตัวค่ะ

พื้นที่ภายในห้องน้ำมีขนาดใหญ่ สามารถใช้งานได้สะดวกไม่ต่างจากห้องน้ำห้องอื่น ๆ ในบ้าน แต่สังเกตวัสดุตกแต่งของห้องน้ำจะพรีเมียมและสวยขึ้น

ห้องนอน 2 ก็เป็นห้องนอนที่มีขนาดใหญ่อีก 1 ห้องค่ะ บ้านตัวอย่างจัดเป็นห้องนอนเด็กพร้อมเตียงนอนขนาด 3.5 ฟุต แต่จริง ๆ แล้วจะวางเตียงขนาด 5 ฟุตก็ทำได้สบาย ๆ

อีกฝั่งหนึ่งของห้องจัดเป็นมุมแต่งตัวอยู่บริเวณหน้าทางเข้าห้องน้ำ

ภาพบรรยากาศภายในห้องน้ำในตัวห้องนอน 2

---

The Vision ลาดพร้าว – เกษตรนวมินทร์ เป็นโครงการทาวน์โฮม 2 – 3 ชั้น บนทำเลศักยภาพในเมือง ในซอยนวมินทร์ 85 ที่สามารถเชื่อมต่อไลฟ์สไตล์ของ 3 ย่านใหญ่ที่ทุกคนคุ้นเคยกันดี อย่าง ลาดพร้าว, รามอินทรา และบางกะปิ ได้ภายในเวลาเพียง 10 – 15 นาที ด้วยความที่ถนนนวมินทร์นั้นเป็นถนนที่เชื่อมต่อตรงกับ ถนนรามอินทรา – ถนนเกษตรนวมินทร์ – ถนนลาดพร้าว – ถนนเสรีไทย – ถนนพ่วงสิริ

แถมยังใกล้จุดขึ้นทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ สามารถใช้ไปทางตัวเมืองชั้นในอย่าง พระราม 9 – เอกมัย – สุขุมวิท – อโศก ได้เพียง 15 – 20 นาที รถไฟฟ้าก็ใกล้จะมีให้ใช้งานกันแล้ว โดยสายสีน้ำตาลจะตัดผ่านถนนนวมินทร์ และผ่านหน้าปากซอยนวมินทร์ 85 ด้วยค่ะ

เนื่องจากว่าโครงการตั้งที่ศูนย์กลางของ 3 ย่านใหญ่ จึงสามารถไปใช้ชีวิตตามห้างสรรพสินค้าและสิ่งอำนวยความสะดวกของย่านนั้น ๆ ได้ง่ายมาก ไม่ว่าจะเป็น Fashion Island, The Promenade, Central Festival Eastville, The Mall บางกะปิ, ตลาดบางกะปิ และอื่น ๆ อีกมากมาย ที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว ถ้าใครทำการบ้านมาจะรู้เลยว่า ตอนนี้ถ้าจะหาซื้อบ้านจะต้องออกไปแถวปลายเสรีไทยหรือโซนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่กันแล้วค่ะ

โครงการนี้จึงเหมาะมาก ๆ สำหรับคนที่ทำงานในเมือง และคนที่ต้องการซื้อบ้านเพื่อขยับขยายพื้นที่จากคอนโดหรือทาวน์โฮมเก่าที่มีพื้นที่จำกัด แต่ยังคงได้ใช้ไลฟ์สไตล์ที่คุ้นเคย กับทำเลที่คุ้นชิน และมีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

แม้ว่าโครงการจะขึ้นชื่อว่าเป็นทาวน์โฮม แต่ก็เป็นทาวน์โฮมแบบ XL Space ที่มีพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านเหนือกว่าทาวน์โฮมโครงการทั่วไป และไม่แพ้บ้านเดี่ยวบางโครงการ เพราะมีพื้นที่ใช้สอยถึง 135 – 220 ตร.ม. ขนาด 3 – 4 ห้องนอน 2 – 4 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 2 คัน มีจุดที่โดดเด่นหลายส่วน ไม่ว่าจะเป็น ลานจอดรถที่ทำหลังคากันแดดกันฝนมาให้พร้อมใช้งาน ภายในบ้านโปร่งโล่ง ฝ้าเพดานสูง วางฟังก์ชันได้ดี ทำให้จัดเฟอร์นิเจอร์ได้ง่าย

ห้องน้ำชั้นล่างมีขนาดใหญ่ แบ่งโซนแห้ง – เปียกอย่างเป็นสัดส่วน ใช้สุขภัณฑ์จากแบรนด์คุณภาพ พร้อมติดพัดลมระบายอากาศในห้องน้ำให้ ห้องนอนชั้นล่างสามารถวางเตียงนอนขนาด 5 ฟุตได้ ห้องนอนชั้นบนมีขนาดใหญ่เทียบเท่า Master Bedroom ทุกห้อง และยังมีโถงบันไดที่กว้างถึง 1.2 เมตร ซึ่งถือว่าหายากมากในทาวน์โฮมโครงการอื่น ๆ

นอกจากนี้ ส่วนกลางของโครงการยังให้มาแบบไซส์ XL เช่นกัน เรียกว่าเทียบเท่าหรือให้มากกว่าโครงการบ้านเดี่ยวบางโครงการ ไม่ว่าจะเป็น คลับเฮาส์, สระว่ายน้ำขนาด Half Olympic, Co – working Space, ห้องออกกำลังกาย พร้อมอุปกรณ์คุณภาพเดียวกับโรงยิม, สนามเด็กเล่น, สวนสาธารณะ, Jogging Track สำหรับวิ่งออกกำลังกายโดยรอบสวน พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ในขณะที่ราคายังเริ่มต้นอยู่ที่ 3.49 ล้านบาท เทียบกับการซื้อบ้านเดี่ยวในทำเลแบบนี้คงต้องจ่ายที่หลักสิบล้านกันแล้วค่ะ

ผู้อ่านสามารถเข้าไปอ่านรีวิวโครงการอย่างละเอียดจากทางเราได้ ที่นี่

ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์พิเศษ คลิก https://bit.ly/2BtBUHd

---

:::: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ::::

CALL CENTER : 02 – 029 – 9999

WEBSITE : https://bit.ly/2BtBUHd

หากเพื่อน ๆ เห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ

และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ