EP.2142 รีวิว THE GENTRY เกษตร-นวมินทร์ บ้านหรูหลังใหญ่ 3 ชั้น ความเป็นส่วนตัวสูง เพียง 57 ยูนิต มาพร้อมส่วนกลางขนาดใหญ่ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Amangiri โรงแรมระดับ 6 ดาว ท่ามกลางทะเลทราย ในรัฐ Utah, USA เริ่ม 25-45 ล้านบาท*

EP.2142 รีวิว เดอะ เจนทริ เกษตร-นวมินทร์ THE GENTRY Kaset-Nawamin บ้านหรูหลังใหญ่ 3 ชั้น ความเป็นส่วนตัวสูง เพียง 57 ยูนิต มาพร้อมส่วนกลางขนาดใหญ่ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Amangiri โรงแรมระดับ 6 ดาว ท่ามกลางทะเลทราย ในรัฐ Utah, USA เริ่ม 25-45 ล้านบาท*

Written by Gift Pannida

สวัสดีผู้อ่าน HOMENAYOO ทุกคนค่ะ วันนี้ทีมงานเราพามารีวิวโครการบ้านหรู The Gentry เกษตร-นวมินทร์  จาก SC Asset ที่ตั้งโครงการอยู่ซอยโพธิ์แก้ว แยก 4 หรือซอยบ้านยลประภา ถนนนวมินทร์ แขวงนวมินทร์ เขตบึงกุ่ม กทมฯ

เดินทางสะดวก เชื่อมต่อถนนเส้นหลักโดยรอบได้ 4 เส้นทาง คือ ถนนนวมินทร์, ถนนประเสริฐมนูกิจ, ถนนประดิษฐ์มนูธรรม (เลียบด่วนรามอินทรา) และถนนลาดพร้าว ใกล้ทางพิเศษฉลองรัช จุดขึ้นทางด่วนห่างจากโครงการแค่ประมาณ 5 กม. เท่านั้น

รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น สถานศึกษา สถานพยาบาล ห้างสรรพสินค้า อยู่ห่าง Crystal Design Center เพียง 10 นาที* และรถไฟฟ้าสายสีเหลืองเพียง 4.3 กม. เท่านั้น

เดอะ เจนทริ เกษตร-นวมินทร์ เป็นโครงการบ้านเดี่ยวหรู 3 ชั้น สไตล์ Modern Luxury บนพื้นที่โครงการ 16-0-8.3 ไร่ เป็นส่วนตัวด้วยบ้านเพียง 57 หลัง บนพื้นที่ดินเริ่มต้น 57.7-94.5 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 360-550 ตร.ม. ฟังก์ชันบ้าน ขนาด 3-5 ห้องนอน 4-6 ห้องน้ำ และ 3-4 ที่จอดรถ

ตัวบ้านมาพร้อมระบบ Home Automation เชื่อมต่อ Application รู้ใจ รวมถึงสัญญาณกันขโมย Magnetic & Shock Sensor, รองรับ Ev Charger ในบ้านทุกหลัง คาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งโครงการบางส่วน ภายใน ธันวาคม 2567

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการครบครัน อาทิ คลับเฮาส์, Lobby, ฟิตเนส, สระว่ายน้ำระบบเกลือ, สวนสาธารณะ, Co-Working Space, Meeting Room, Rooftop Relaxing Area

รักษาความปลอดภัยด้วยระบบ Triple Security เข้า-ออก โครงการด้วยระบบ Auto Gate และ VDO Door Phone พร้อมกล้องวงจรปิด CCTV พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคาเริ่มต้น 25-45 ล้าน* (ต.ค.65)

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ คลิก : https://m.scasset.com/ADFp

---

สำหรับรายละเอียดทำเลที่ตั้งโครงการ, บ้านตัวอย่าง และสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการจะมีความน่าสนใจอย่างไรบ้างนั้นไปติดตามต่อได้ที่เนื้อหาด้านล่างเลยค่ะ

---

The Gentry ทำเลอื่นๆ ที่น่าสนใจ…
The Gentry สุขุมวิท-บางนา
The Gentry Cultivar พระราม 9
The Gentry พัฒนาการ 2
The Gentry เกษตร-นวมินทร์

---

---

---

ชื่อโครงการ	เดอะ เจนทริ เกษตร-นวมินทร์ / THE GENTRY Kaset-Nawamin
เจ้าของโครงการ	บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด มหาชน / SC Asset
ลักษณะโครงการ	บ้านเดี่ยวหรู 3 ชั้น
พื้นที่โครงการ	ประมาณ 16-0-8.3 ไร่
จำนวนบ้าน	57 หลัง
เนื้อที่บ้าน	เริ่มต้น 57.7-94.5 ตร.ว.
พื้นที่ใช้สอย	เริ่มต้น 360-550 ตร.ม.
จำนวนห้อง	3-5 ห้องนอน 4-6 ห้องน้ำ
ที่จอดรถทั้งหมด	3-4 คัน
โซน	เกษตร-นวมินทร์
เส้นทางคมนาคม	ถนนนวมินทร์ ถนนประเสริฐมนูกิจ ถนนเสรีไทย ถนนลาดพร้าว ถนนกาญจนาภิเษก ทางพิเศษฉลองรัช
ที่ตั้ง	ซอยโพธิ์แก้ว แยก 4 ถนนนวมินทร์ แขวงนวมินทร์ เขตบึงกุ่ม กทม. 10230
กำหนดการ	พร้อมชมบ้านตัวอย่าง
ปีที่สร้างเสร็จ	คาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งโครงการบางส่วน ภายใน ธันวาคม 2567
ราคา	เริ่มต้น 25-45 ล้านบาท* (ต.ค.65)
ค่าส่วนกลาง	83 บาท/ตร.วา/เดือน
สถานที่สำคัญใกล้เคียง	ตลาดและห้างสรรพสินค้า Marketplace นวมินทร์ : 2.4 กม. Happy Avenue ลาดพร้าว 101 : 2.9 กม. ตลาดปัฐวิกรณ์ : 4.1 กม. ตลาดหัวมุม : 4.8 กม. The Walk นวมินทร์ : 5.1 กม. Chic Republic ประดิษฐ์มนูธรรม : 5.2 กม. CDC ประดิษฐ์มนูธรรม : 5.2 กม. The Crystal เอกมัย-รามอินทรา : 5.3 กม. Big C Extra รามคำแหง : 5.6 กม. Central EastVille : 5.7 กม. The Paseo รามคำแหง : 6.5 กม. นวมินทร์ ซิตี้ อเวนิว : 6.8 กม. Nawamin Festival Walk : 6.9 กม. Fashion Island และ The Promenade : 8.1 กม. ตลาดนัดเลียบด่วนรามอินทรา : 8.4 กม. Big C ลาดพร้าว : 9.4 กม. ตลาดโชคชัย 4 : 10.3 กม. Big C Extra รามอินทรา : 10.6 กม. The Jas ลาดปลาเค้า : 11.2 กม. Big C Extra ลาดพร้าว : 12.5 กม. Central รามอินทรา : 13.5 กม. Union Mall : 13.8 กม. Central ลาดพร้าว : 13.8 กม. สวนจตุจักร : 16.9 กม. สถานศึกษา Thinkberry International School : 4.6 กม. SISB School : 9.7 กม. KIS International School : 10.9 กม. ม.ศรีปทุม : 11.8 กม. ม.ราชภัฏจันทรเกษม : 12.4 กม. ม.เกษตรศาสตร์ บางเขน : 14.6 กม. รร.เซนต์จอห์น : 15.3 กม. ศูนย์การแพทย์ รพ.เวชธานี : 5.2 กม. รพ.ลาดพร้าว : 5.4 กม. รพ.พญาไท นวมินทร์ : 5.5 กม. รพ.สินแพทย์ รามอินทรา : 6 กม. รพ.อินทรารัตน์ : 7.2 กม. รพ.นพรัตน์ : 7.3 กม. รพ.เกษมราษฎร์ รามคำแหง : 8.2 กม. รพ.เปาโล โชคชัย 4 : 9.1 กม. รพ.เปาโล เกษตร : 11.5 กม. รพ.วิภาวดี : 12.4 กม. สถานที่ราชการและหน่วยงานอื่น ๆ สนามกอล์ฟนวธานี : 6.4 กม. สวนสยาม : 9.5 กม. สนามกอล์ฟ ปัญญาอินทรา : 9.7 กม. Safari World : 12.7 กม. สนามกอล์ฟ Legacy Golf Club : 14.7 กม.
สิ่งอำนวยความสะดวก	คลับเฮาส์ ฟิตเนส สระว่ายน้ำระบบเกลือ สวนสาธารณะ Co-Working Space Meeting Room Rooftop Relaxing Area เข้า-ออก ด้วยระบบ Auto Gate, VDO Door Phone กล้องวงจรปิด CCTV ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.
Tel	065-919-0999 / Line@ : @GTKN
Website	https://m.scasset.com/ADFp

---

---

---

---

---

---

ที่ตั้งโครงการ

ซอยโพธิ์แก้ว แยก 4 ถนนนวมินทร์ แขวงนวมินทร์ เขตบึงกุ่ม กทมฯ 10230

พิกัดโครงการ : 13.801416, 100.641908

โครงการ The Gentry เกษตร-นวมินทร์ ตั้งอยู่ในซอยบ้านยลประภา หรือซอยโพธิ์แก้ว แยก 4 เป็นทำเลศักยภาพทางฝั่งกรุงเทพตอนเหนือ ที่มีการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยมาอย่างต่อเนื่อง โดยสภาพแวดล้อมโดยรอบโครงการจะเป็นโครงการแนวราบประเภทบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมเป็นส่วนใหญ่

แต่ในภาพรวมของทำเลนี้บนซอยลาดพร้าว 101 เรามีแนวโน้มจะเห็นการพัฒนาโครงการคอนโดที่มากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากราคาที่ดินมีการปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงการปรับผังสีเมืองเป็นผังเมืองสีส้ม และการมาถึงของรถไฟฟ้าโดยรอบทั้งสายสีเหลือง สายสีเทา และสายสีน้ำตาล ซึ่งเมื่อมองตามแนวโน้มแล้วก็เป็นหนึ่งในทำเลที่มีอนาคตมากเลยทีเดียว

การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว อยู่บนทำเลที่เดินทางได้สะดวก จากตัวโครงการสามารถวิ่งลัดเลาะเชื่อมต่อกับถนนเส้นหลักได้หลายเส้นทางค่ะ โดยเส้นทางหลักจะใช้ซอยลาดพร้าว 101 วิ่งเชื่อมออกมาทางฝั่งถนนลาดพร้าว หรือจะวิ่งทะลุซอยโพธิ์แก้วก็จะสามารถเชื่อมกับถนนนวมินทร์ และถนนประดิษฐ์มนูธรรม(เลียบด่วนรามอินทรา)

ถ้าขับออกมาทางซอยแจ่มจันทร์ เชื่อมออกมาสู่ถนนประเสริฐมนูกิจ และยังสามารถวิ่งออกมาทางซอยลาดพร้าว 87 เชื่อมกับถนนประดิษฐ์มนูธรรม และสามารถใช้เส้นทางนี้เข้า CDC ได้เลย

ทางด่วนที่ใกล้โครงการที่สุดจะเป็นจุดขึ้นทางด่วนฉลองรัชที่มีระยะทางจากโครงการประมาณ 5.1 กม. หรือใช้เวลาจากโครงการถึงจุดขึ้นทางด่วนประมาณไม่เกิน 10 นาที ค่ะ

สรุปแยก และถนนสำคัญรอบโครงการ

• ถนนคู้บอน : 8.3 กม.
• ถนนปัญญาอินทรา : 8.3 กม.
• ถนนรัชดา-รามอินทรา : 3.5 กม.
• ถนนนวมินทร์ : 800 ม.
• ถนนเสรีไทย : 5.9 กม.
• แยกวัชรพล : 6.1 กม.
• ถนนประดิษฐ์มนูธรรม : 6.3 กม.
• ถนนรามคำแหง : 8.3 กม.
• ถนนพหลโยธิน : 11.5 กม.
• ถนนลาดพร้าว : 13.5 กม.

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ เนื่องจากตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยที่อยู่ถัดเข้ามาจากถนนหลักพอสมควร จึงทำให้ได้ในเรื่องของความสงบและความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย การจะใช้งานรถสาธารณะจากตัวโครงการจึงมีตัวเลือกไม่มากนัก ถ้าจะให้สะดวกที่สุดในปัจจุบันจะเป็นการกดเรียกรถจาก Application ต่าง ๆ ค่ะ

แต่ในอนาคตอันใกล้นี้จะมีตัวเลือกการเดินทางที่จะช่วยให้สามารถเดินทางไปยังโซนต่าง ๆ สะดวกขึ้น ด้วยรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-บางกะปิ-สำโรง) ซึ่งถ้าโครงการเสร็จสมบูรณ์จะมี สถานีลาดพร้าว 101 ที่อยู่บริเวณหน้าปากซอยลาดพร้าว 101 ห่างจากโครงการแค่ 4.3 กม. (คาดว่าช่วงรัชดา-ศรีกรีฑา จะพร้อมใช้งานช่วงกลางปี 2566 ค่ะ) เป็นตัวเลือกในการเดินทางที่จะช่วยหลบเลี่ยงการจราจรที่หนาแน่นในบางช่วงเวลาได้เป็นอย่างดี และยังสามารถคาดหวังในการช่วยลดการจราจรที่ติดขัดบนเส้นลาดพร้าว ถนนศรีนครินทร์ และเทพารักษ์ได้อีกด้วย

ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบ เป็นที่ทราบกันอยู่แล้วนะคะ ว่าโซนนี้มีความอุดมสมบูรณ์ในวงกว้างสูงมาก ๆ ทั้งร้านเล็กแนว Local ไปจนถึงร้านบรรยากาศดี และแหล่ง Hang out มีให้เลือกในละแวกบ้านมากมายหลายร้าน แค่ออกมาในซอยลาดพร้าว 101 ก็มีของครบ ใช้ชีวิตประจำวันได้สบาย ๆ แล้วค่ะ มีทั้งร้านอาหาร, ร้านสะดวกซื้อ, Community Mall อย่าง Happy Avenue ก็ห่างจากโครงการแค่ 2.9 กม. เท่านั้นเอง

จากตัวโครงการวิ่งออกมานิดเดียวก็เข้าถนนประดิษฐ์มนูธรรม ซึ่งเป็นโซน Lifestyle หลักของย่านนี้เลย ออกมาทางซอยลาดพร้าว 87 เข้า CDC ได้เลย และยังมีห้างใหญ่ให้เลือกอีกมากมาย ทั้ง Central รามอินทรา, Big C Extra, Ease Park และ Food Land, The Crystal, Central EastVille, ร้านอาหารบรรยากาศดี รวมถึงตลาดนัดเลียบด่วนขนาดใหญ่ให้เราได้เลือกไปเดินเล่น ซื้อของกินของใช้ได้

หรือถ้าอยากเปลี่ยนบรรยากาศก็วิ่งมาทางเส้นรามอินทราได้ค่ะ โซนนี้ก็ถือเป็นแหล่งความเจริญขนาดใหญ่ของย่านนี้มาก ๆ เพราะมีห้างใหญ่ คือ Fashion Island และ The Promenade ที่ไม่ไกลจากโครงการ 

ส่วนบนเส้นนวมินทร์ก็มีทั้ง Lotus’s, Makro และ Big C Market มาอีกด้านบนเส้นเกษตร-นวมินทร์ก็มีหลายอย่างที่น่าสนใจ มี Community Mall อย่าง นวมินทร์ ซิตี้ อเวนิว, Nawamin Festival Walk, The Walk นวมินทร์, Index Living Mall

ในระยะอุ่นใจก็มีโรงพยาบาลอยู่ใกล้หลายแห่ง ที่ใกล้โครงการก็จะมี รพ.สินแพทย์, รพ.อินทรารัตน์, รพ.นพรัตน์ และบนเส้นนวมินทร์เองก็ยังมี รพ.พญาไท นวมินทร์ อยู่อีก 1 สาขาค่ะ

นอกจากนี้ ในย่านนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวและกิจกรรมอย่าง Safari World, สวนสยาม, สนามกอล์ฟปัญญารามอินทรา, สนามกอล์ฟนวธานี และ สนามกอล์ฟ Legacy Golf Club นับว่าย่านนี้ตอบโจทย์ได้ครบทุกรสชาติของการอยู่อาศัยเลยทีเดียว

สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ

ตลาดและห้างสรรพสินค้า

• Marketplace นวมินทร์ : 2.4 กม.
• Happy Avenue ลาดพร้าว 101 : 2.9 กม.
• ตลาดปัฐวิกรณ์ : 4.1 กม.
• ตลาดหัวมุม : 4.8 กม.
• The Walk นวมินทร์ : 5.1 กม.
• Chic Republic ประดิษฐ์มนูธรรม : 5.2 กม.
• CDC ประดิษฐ์มนูธรรม : 5.2 กม.
• The Crystal เอกมัย-รามอินทรา : 5.3 กม.
• Big C Extra รามคำแหง : 5.6 กม.
• Central EastVille : 5.7 กม.
• The Paseo รามคำแหง : 6.5 กม.
• นวมินทร์ ซิตี้ อเวนิว : 6.8 กม.
• Nawamin Festival Walk : 6.9 กม.
• Fashion Island และ The Promenade : 8.1 กม.
• ตลาดนัดเลียบด่วนรามอินทรา : 8.4 กม.
• Big C ลาดพร้าว : 9.4 กม.
• ตลาดโชคชัย 4 : 10.3 กม.
• Big C Extra รามอินทรา : 10.6 กม.
• The Jas ลาดปลาเค้า : 11.2 กม.
• Big C Extra ลาดพร้าว : 12.5 กม.
• Central รามอินทรา : 13.5 กม.
• Union Mall : 13.8 กม.
• Central ลาดพร้าว : 13.8 กม.
• สวนจตุจักร : 16.9 กม.

สถานศึกษา

• Thinkberry International School : 4.6 กม.
• SISB School : 9.7 กม.
• KIS International School : 10.9 กม.
• ม.ศรีปทุม : 11.8 กม.
• ม.ราชภัฏจันทรเกษม : 12.4 กม.
• ม.เกษตรศาสตร์ บางเขน : 14.6 กม.
• รร.เซนต์จอห์น : 15.3 กม.

ศูนย์การแพทย์

• รพ.เวชธานี : 5.2 กม.
• รพ.ลาดพร้าว : 5.4 กม.
• รพ.พญาไท นวมินทร์ : 5.5 กม.
• รพ.สินแพทย์ รามอินทรา : 6 กม.
• รพ.อินทรารัตน์ : 7.2 กม.
• รพ.นพรัตน์ : 7.3 กม.
• รพ.เกษมราษฎร์ รามคำแหง : 8.2 กม.
• รพ.เปาโล โชคชัย 4 : 9.1 กม.
• รพ.เปาโล เกษตร : 11.5 กม.
• รพ.วิภาวดี : 12.4 กม.

สถานที่ราชการและหน่วยงานอื่น ๆ

• สนามกอล์ฟนวธานี : 6.4 กม.
• สวนสยาม : 9.5 กม.
• สนามกอล์ฟ ปัญญาอินทรา : 9.7 กม.
• Safari World : 12.7 กม.
• สนามกอล์ฟ Legacy Golf Club : 14.7 กม.

---

การเดินทาง

การเดินทางในวันนี้ เริ่มจากถนนลาดพร้าว > ซอยลาดพร้าว 101 > ซ.โพธิ์แก้ว > ซ.บ้านยลประภา > โครงการ The Gentry เกษตร-นวมินทร์

เราเริ่มต้นการเดินทางกันบนถนนลาดพร้าว ฝั่งมุ่งหน้าบางกะปิ เราจะผ่านเส้นทางเดินรถไฟฟ้าสายสีเหลือง โดยสถานีที่เราจะผ่านก่อนถึงซอยลาดพร้าว 101 คือสถานีมหาดไทยค่ะ

พอเราเลี้ยวเข้าซอยลาดพร้าว 101 มาแล้ว เราจะเจอความอุดมสมบูรณ์ทั้งร้านค้า ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ และเราจะขับผ่าน Happy Avenue ลาดพร้าว 101 ซึ่งเป็น Community Mall ขนาดย่อมที่รวมร้านค้าและบริการภายในหลายร้าน เป็นศูนย์ที่ใกล้โครงการที่สุดค่ะ

เราขับตรงกันตามทางมาเรื่อย ๆ ให้เราสังเกตวัดบึงทองหลาง แล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนโพธิ์แก้ว

ขับตรงมาเรื่อย ๆ จนถึง KFC Drive Thru และปั๊ม PTT

เลี้ยวซ้ายเข้าซอยบ้านยลประภา

จขากปากซอยบ้านยลประภา เราขับเข้าซอยต่อปอีกประมาณ 130 ม. ก็จะถึงที่ตั้งโครงการทางซ้ายมือค่ะ

เข้าซอยมาแล้วจะรู้สึกถึงความเป็นส่วนตัวที่มากขึ้น เพราะในซอยส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัยส่วนบุคคลที่ไม่พลุกพล่านค่ะ

จากปากซอย 130 ม. ก็จะถึงที่ตั้งโครงการ The Gentry เกษตร-นวมินทร์ ทางซ้ายมือค่ะ

---

สภาพแวดล้อมโดยรอบโครงการ

สภาพแวดล้อมโดยรอบโครงการเป็นบ้านพักอาศัยส่วนบุคคลและที่ดินเปล่า ทำให้บรรยากาศการอยู่อาศัยของโครงการนี้มีความ Privacy ในขณะที่ยังอยู่ในทำเลที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงค่ะ

• ทิศเหนือ ติดกับที่ดินเปล่า และที่อยู่อาศัยข้างเคียง
• ทิศใต้ ติดกับที่ดินเปล่า และปั๊ม PTT
• ทิศตะวันออก ติดกับถนนซอยบ้านยลประภา และหมู่บ้าน The Classic Place
• ทิศตะวันตก ติดกับคลองตาหยัง และที่ดินเปล่า

บรรยากาศหน้าโครงการจะเป็นโครงการหมู่บ้านข้างเคียง The Classic Place เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ส่วนบรรยากาศรอบ ๆ จะค่อนข้างเงียบบสงบ ไม่มีรถผ่านไปมากนัก ส่วนใหญ่จะเป็นคนที่อยู่อาศัยในซอยค่ะ ทำให้ตัวโครงการได้รับเสียงรบกวนจากรถที่ผ่านไปมาน้อยมาก ๆ

---

ตัวโครงการ

โครงการ The Gentry เกษตร-นวมินทร์ พัฒนาอยู่บนที่ดิน ขนาดประมาณ 16 ไร่ มีความเป็นส่วนตัวสูง เพียง 57 ยูนิต เท่านั้น โดยโครงการนี้จะได้รับแรงบันดาลใจจาก Amangiri เป็นโรงแรมระดับ 6 ดาว ตั้งอยู่ท่ามกลางทะเลทราย ในรัฐ Utah, USA ที่มีบรรยากาศสงบเป็นส่วนตัวและโอบล้อมด้วยธรรมชาติ

Main Gate ด้านหน้าโครงการดูโดดเด่น ด้วยการใช้โทนสี Sand หรือสีแบบทะเลทราย ดูสว่างและมีลูกเล่นด้วยลายบนตัวกระเบื้องที่เลือกใช้ พื้นที่ด้านหน้าจัดเป็นสวนหย่อมที่มีระยะ Set เข้ามาจากถนนสาธารณะด้านนอกนิดหน่อย ทำให้มีระยะชะลอรถก่อนถึง Main Gate

ตัวโครงการเน้นเรื่องความ Privacy และความปลอดภัยจึงมีการเลือกใช้ระบบ Triple Security ตัว Main Gate ประตูเลื่อนไฟฟ้า 3 ตอน ใช้ระบบ Auto Gate  

ส่วน Visitor จะมีตัว VDO Door Phone ต้องติดต่อกับเจ้าของบ้านก่อน เพื่อรับการคอนเฟิร์มแล้วลูกบ้านเองก็จะสามารถเปิดให้ Visitor เข้ามาได้ พร้อมกล้อง CCTV และ รปภ 24 ชม.

ผ่านจุดแรกที่เป็น Main Gate แล้วเข้ามาภายในโครงการจะมีกล้อง CCTV ติดตั้งไว้ทั่วโครงการรวม 20 จุด ส่วนถนนเมนกจะปูพื้นด้วยคอนกรีตสแตมป์ สวยงาม ความกว้างถนนเมน 12 ม. ส่วนถนนซอย 9 ม.

เข้ามาในโครงการส่วนแรกที่เราสังเกตได้คือสภาพแวดล้อมจะดูเป็นระเบียบไม่มีสายไฟเกะกะสายตา เพราะทางโครงการเอาสายไฟลงดินทั้งหมด มองไปก็จะเห็นแต่ต้นไม้ที่ทำให้โครงการดูร่มรื่น

พื้นที่ส่วนแรกจะจัดวาง Facilities หลักไว้หน้าโครงการเลยค่ะ เหมือนจุดต้อนรับทั้งลูกบ้านและ Visitor ที่เข้ามาเยี่ยมชมโครงการ โดยตัวคลับเฮาส์ก็จะใช้โทนสีที่ล้อมากับ Main Gate 

ตัวอาคารคลับเฮาส์ใช้โทนสี Sand ทั้งหลัง ส่วนตัวชอบโทนสีที่ดูแปลกตาแบบนี้นะ ดูแตกต่างและมี Charector ที่ชัดเจน

บริเวณชั้น 1 จะมีสระว่ายน้ำเปิดโล่งขนาดค่อนข้างใหญ่เลยค่ะ โดยจะแบ่งเล่นระดับ 

โซนด้านล่างเป็นสระผู้ใหญ่ ขนาดสระใหญ่ล่าง 4.3×15.2 ม. 

ส่วนด้านบนแบ่งเป็นสระเด็กและสระ Jacuzzi ขนาด ขนาดสระข้างบน 4.47×7.12 ม. ขนาดสระเด็ก 2.31×3.55 ม.

พร้อมพื้นที่นั่งพักผ่อนริมสระเล่นระดับ 2 ส่วน

พร้อมจุดล้างตัวก่อนลงสระ

ด้านหลังจะมีห้องน้ำแยกชาย-หญิง มีล็อกเกอร์ไว้ให้ใช้งานพร้อมห้องอาบน้ำ และห้องน้ำสำหรับ Disabled อยู่ติดกับบริเวณสระว่ายน้ำ ใช้งานได้สะดวกเลย

ภายในห้องน้ำแยกโซนอ่างล้างมือ

ด้านในกั้น Partition แบ่งห้องอาบน้ำและห้องน้ำ ส่วนห้องน้ำชายก็จะมีโซนโถปัสสาวะชายเพิ่มเข้ามาด้วย

มี Locker เตรียมไว้ให้ใช้งานเรียบร้อย

ทางเข้าตัวอาคารคลับเฮาส์ดีไซน์เป็นขั้นบันได ประกบสองฝั่งด้วยบ่อน้ำตื้นให้ความรู้สึกชุ่มฉ่ำ

เข้ามาด้านในจะเป็นทางเดินเชื่อมไปยังส่วนสระว่ายน้ำทางซ้ายมือ

ส่วนพื้นที่ด้านในจะมี Lobby ขนาดใหญ่ ที่มีการจัดชุดที่นั่งรับรองแขก

ห้องดูโปร่งโล่งด้วยการใช้ผนังกระจกรอบห้อง ซึ่งในปัจจุบันจะยังคงเป็น Sale Office นะคะ แต่ในอนาคตก็จะถูกโอนให้เป็นกรรมสิทธิ์ของลูกบ้านค่ะ

ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะมีการดีไซน์โถงบันไดให้มีความเปิดโล่ง ลม Flow ภายในตัวอาคารได้ดี ตรงจุดที่เป็นโถงบันไดจะเจาะเชื่อมถึงกันเป็นช่องกลางอาคาร ลงต้นไม้ไว้ด้วย ช่วยระบายอากาศได้

ฟังก์ชันที่ชั้น 2 จะมีห้องฟิตเนสที่จัดอุปกรณ์มาให้ครบทั้ง ลู่วิ่ง, Elliptical, จักรยานไฟฟ้า และอุปกรณ์เวทเทรนนิ่ง อย่างดัมเบล และตัว Multi Machine พร้อมบรรยากาศการออกกำลังกายที่โปร่งโล่ง ด้วยช่องแสงขนาดใหญ่รอบห้องเลยค่ะ

จัดลู่วิ่งมาให้ 2 ตัว

อีกฝั่งเป็น Elliptical และจักรยานไฟฟ้า

Free Weight มีดัมเบลและเบาะออกกำลังกาย

และ Multi Machine ขนาดใหญ่

อีกส่วนจะเป็นพื้นที่สำหรับทำงาน เป็นห้อง Co-Working Space ที่แบ่งโซนสำหรับคนมานั่งทำงานคนเดียว มีโต๊ะที่มี Partition แบ่งให้เป็นสัดส่วน พร้อมตรียมเคาน์เตอร์ Service เครื่องดื่มเบา ๆ ไว้ให้ด้วยค่ะ

และมีห้อง Meeting Room แยก สำหรับคนที่ต้องการประชุมร่วมกันหลาย ๆ คนแยกมาให้อีก 1 ห้อง

สำหรับชั้น 2 ก็จะมีเตรียมห้องน้ำรับรองไว้ให้ด้วยค่ะ เมื่อต้องใช้ก็ไม่ต้องวิ่งขึ้นลงไปใช้ที่ชั้นล่าง

ที่ชั้น 3 จะเป็นดาดฟ้า Rooftop บรรยากาศดีเลยค่ะ ทางโครงการจะจัดชุดโต๊ะนั่งพักผ่อนมาให้หลาย ๆ ชุด ก็สามารถมานั่งชิลล์ ๆ จิบ ชา/กา เปลี่ยนบรรยากาศ สามารถมองเห็นวิวเมืองรอบ ๆ ได้ ซึ่งอาคารคลับเฮาส์ 3 ชั้นก็ถือว่าสูงกว่าทั่ว ๆ ไป ทำให้ได้วิวที่ดูสูงกว่าระดับบ้าน 2 ชั้นข้างเคียง

---

แบบบ้าน

มีแบบบ้านทั้งหมด 3 แบบ คือ

• HYDE (S)  : 360 ตร.ม. ที่ดินเริ่ม 57.7 ตร.วา 3 นอน 4 น้ำ 3 จอด (รองรับลิฟต์)
• HAVEN (M) : 440 ตร.ม. ที่ดินเริ่ม 63 ตร.วา : 4 นอน 5 น้ำ 3 จอด 1 แม่บ้าน ลิฟต์
• HIDEAWAY (L) : 550 ตร.ม. ที่ดินเริ่ม 74.5 ตร.วา : 5 นอน 6 น้ำ 4 จอด 1 แม่บ้าน ลิฟต์

• HYDE (S)  : พื้นที่ใช้สอย 360 ตร.ม. ที่ดินเริ่ม 57.7 ตร.วา ฟังก์ชัน 3 นอน 4 น้ำ 3 จอด (รองรับลิฟต์)

แปลนชั้น 1, แปลนชั้น 2 และ แปลนชั้น 3

• HAVEN (M) : 440 ตร.ม. ที่ดินเริ่ม 63 ตร.วา : 4 นอน 5 น้ำ 3 จอด 1 แม่บ้าน ลิฟต์

แปลนชั้น 1, แปลนชั้น 2 และ แปลนชั้น 3

• HIDEAWAY (L) : 550 ตร.ม. ที่ดินเริ่ม 74.5 ตร.วา : 5 นอน 6 น้ำ 4 จอด 1 แม่บ้าน ลิฟต์

แปลนชั้น 1, แปลนชั้น 2 และ แปลนชั้น 3

---

บ้านตัวอย่าง

วันนี้เรามีบ้านตัวอย่างมาให้ชม 2 แบบด้วยกัน คือ

• HYDE (S)  : 360 ตร.ม. ที่ดินเริ่ม 57.7 ตร.วา 3 นอน 4 น้ำ 3 จอด (รองรับลิฟต์)
• HIDEAWAY (L) : 550 ตร.ม. ที่ดินเริ่ม 74.5 ตร.วา : 5 นอน 6 น้ำ 4 จอด 1 แม่บ้าน ลิฟต์

เริ่มที่บ้านตัวอย่างแบบแรก คือบ้านไซซ์เริ่มต้น แบบบ้าน HYDE (S)  พื้นที่ใช้สอย 360 ตร.ม. ที่ดินเริ่ม 57.7 ตร.วา หน้าตาภายนอกออกแบบมาในสไตล์ Modern Luxury โทนสีสว่าง ขาวและเทาอ่อน และหยิบ Element ที่ชวนให้นึกถึงธรรมชาติทั้งกระเบื้องลายหินและระแนงโทนสีน้ำตาล ส่วน Facade ดีไซน์ให้ได้ Shading Effect มุมตกกระทบของแสง

สำหรับในบ้านมาตรฐาน หน้าบ้านจะติดตั้งประตูรั้วบ้านเป็นแบบรางเลื่อนโปร่ง วัสดุเป็นเหล็กสีดำ แยกประตูสำหรับเดินเข้าบ้านไว้อีกชุด ส่วนอุปกรณ์อื่น ๆ ที่ติดตั้งมาให้จะมีกริ่ง, ไฟหน้าบ้าน,  ตู้จดหมายและถังขยะ โดยตัวถังขยะจะมีถังอยู่ด้านหลังรั้วทำให้บ้านและภาพรวมทั้งโครงการดูสะอาดเรียบร้อย

แปลนชั้น 1 โซนหน้าบ้านเป็นที่จอดรถ 3 จอด ส่วนฟังก์ชันในบ้านจะแบ่งโซน Common Area เป็นโถงห้องทานอาหารเชื่อมต่อไปยังห้องทานอาหารที่ดีไซน์ออกมาเป็นห้องโถงฝ้าเพดานสูง Double Volume เชื่อมต่อกับส่วน Pantry เป็น Space ที่ให้ความยืดหยุ่นในการจัดฟังก์ชันภายในบ้าน และจากห้องทานอาหารก็จะเชื่อมออกไปยังส่วนครัวไทยและ Maid Area บริเวณลานซักล้างหลังบ้านได้

ส่วนฝั่งปีกซ้ายของตัวบ้านจะเป็นพื้นที่ของโถงบันไดและพื้นที่รองรับการติดตั้งลิฟต์โดยสาร และห้องน้ำรับรองชั้นล่างค่ะ

แปลนชั้น 2 เป็นส่วนห้อง Master Bedroom พร้อมห้องน้ำขนาดใหญ่ ภายในแบ่งกั้นเป็นส่วน Family Room และฟังก์ชันพิเศษคือพื้นที่ห้อง Collection Room ติดกับบริเวณโถงทางเดินชั้น 2 ค่ะ

แปลนชั้น 3 แบ่งเป็นส่วนห้องนอนรอง 2 ห้อง ที่มาพร้อมห้องน้ำในตัวและห้องนอนทางฝั่งหน้าบ้านจะได้ระเบียงขนาดใหญ่

เข้ามาภายในตัวบ้านส่วนแรกเป็นที่จอดรถ 3 คัน โครงสร้างเป็นแบบ Slab on Beam ใช้โครงสร้างเดียวกับตัวบ้าน วัสดุพื้นเป็นแสตมป์คอนกรีตสวย ๆ แบบในบ้านตัวอย่างเลย ส่วน Slope ด้านนอกจะเทแยกจากตัวบ้าน 

บริเวณที่จอดรถมีจุด Ev Charger รองรับรถยนต์ไฟฟ้า, รอบบ้านมีระบบรักษาความปลอดภัยทั้ง CCTV และ สัญญาณกันขโมย Magnetic & Shock Sensor

ประตูทางเข้าจากที่จอดรถจะได้เป็นบานไม้สักแท้ ที่มีความสูงถึง 2.75 ม. เปิดได้ 2 ฝั่ง พร้อม Digital Door Lock ยี่ห้อ Samsung ที่ใช้งานได้ถึง 3 ระบบ คือ Passcode, Key Card และลายนิ้วมือ

ถ้าเราเข้ามาจากที่จอดเราจะเจอโถงทางเข้าที่มีพื้นที่เตรียมไว้สำหรับตู้เก็บรองเท้าไว้ให้เป็นสัดส่วนแบบนี้

ตรงนี้จะเป็นจุดติดตั้งหน้าจอที่ใช้ควบคุมระบบความปลอดภัยต่างๆ ในบ้าน โดยจะมี ระบบ Smart Home ที่เป็น Signature ของ SC Asset คือระบบ Home Automation และสามารถคุมผ่าน Application รู้ใจได้ด้วย ใช้ควบคุมระบบต่างๆ ภายในบ้าน ที่เราสามารถ Sync ได้ทั้งระบบ ไฟ, แอร์, CCTV และ Smart Device ต่างๆ ภายในบ้าน ซึ่งตัวจอควบคุมตัวนี้ก็สามารถใช้งานได้ทั้ง Touch Screen และ ตัว Touch Switch ใช้งานได้ตามความถนัดค่ะ

อีกส่วน คือ หน้าจอ inim แสดงผลติดตั้งไว้ในตัวบ้านบริเวณโถงบันไดชั้น 1 และหน้าห้อง Master Bedroom ถ้ามีการงัดแงะระบบดังที่ตัวบ้าน และส่งสัญญาณเตือนไปที่ป้อม รปภ.รวมถึงแจ้งเตือนไปยังเบอร์มือถือที่ลงทะเบียนไว้ และด้านบนเป็นหน้าจอ VDO Door Phone สามารถเห็นหน้าผู้ติดต่อได้ตั้งแต่ Main Gate เลย

ส่วนประตูทางเข้าบ้านอีกฝั่งจะใช้เป็นบานสไลด์ บานกรอบอลูมิเนียมสีเทา ตัวบานประตูและหน้าต่างเป็นแบบเก็บเสียง แน่นหนา ใช้ชีวิตในบ้านได้แบบแทบไม่ได้ยินเสียงรบกวนทั่ว ๆ ไปนอกบ้านเลยค่ะ

เข้ามาภายในบ้านจะเจอพื้นที่ส่วนห้องรับแขก ความสูงฝ้าเพดานมาตรฐานของตัวบ้าน 3 ม. ส่วนสเปกพื้นใช้กระเบื้อง Marble Pocelain Amo (นำเข้าจากอิตาลี) แผ่นใหญ่ ขนาด 60*120 ซม. ปูชั้น 1 ทั้งชั้น พอวางต่อกันแล้วจะดูสวยกว่าไซซ์ธรรมดาทั่ว ๆ ไป ดูหรูหราสมราคา

ในห้องนั่งเล่นส่วนหน้าบ้านเราจะเห็นว่ามีความโปร่งสบายที่ได้จากทั้งประตูหน้าบ้านและหน้าต่างบานใหญ่ฝั่งข้างบ้าน ส่วนการจัดฟังก์ชันก็สามารถปรับขยับขยายได้ตามความพอใจเลยค่ะ รองรับโซฟา ขนาดประมาณ 5-6 ที่นั่ง พร้อมชุดโต๊ะรับแขก และชั้นวางทีวีหรือชั้นวางของได้สบาย ๆ

เข้ามาด้านในก็จะเจอกับ Space ที่เปิดโล่งแบบ Double Space เป็นพื้นที่ของห้องทานอาหารและ Pantry

ในห้องทานอาหารนี้ได้ความสูงฝ้าเพดานถึง 7 ม. พร้อมเจาะช่องแสงทั้ง 2 ช้ัน ได้ความโปร่งสบาย และ Space ที่เปิดโล่งเป็นส่วนตัวในบ้าน และยังสามารถเชื่อมกับพื้นที่สวนส่วนตัวข้างบ้านได้อีกด้วย

จากโถง Double Space จะเชื่อมต่อกับพื้นที่บนชั้น 2 ได้ด้วยการเลือกใช้ผนังกระจกแบบนี้ค่ะ ไม่ว่าจะมองไปฝั่งไหนก็ได้ความโปร่งสบาย

อีกฝั่งของตัวบ้านเป็น Pantry หรือครัวฝรั่ง

มุมนี้เราเอาไว้ทำครัวสวย ๆ ไว้ทำอาหารเบา ๆ รับแขก หรือใครชอบถ่ายภาพ/วิดีโอ อาหารนี่เหมาะเลย ได้แสงธรรมชาติจากโถงห้องทานอาหารมาช่วยยิ่งทำให้ภาพออกมาสวย อาหารดูน่าทานยิ่งขึ้นค่ะ

ติดกับส่วน Pantry เป็นห้องครัวไทย

ห้องครัวที่นี่จะแยกเป็นสัดส่วนของครัวไทยไว้ให้เรียบร้อยแล้วนะคะ แต่จะไม่ได้เน้นขนาดใหญ่มากนัก พอให้แม่บ้านทำงานได้สะดวก

ภายในครัวจะมีหน้าต่างระบายอากาศและประตูที่เปิดเชื่อมออกไปยังลานซักล้างหลังบ้านได้

ส่วนพื้นโซนด้านหลังและด้านข้างของตัวบ้านจะเป็น Service Area ที่เค้าทำแยกไว้เป็นสัดส่วน เป็นโซน Maid Area มีห้องพักและห้องน้ำของแม่บ้าน, ห้องเก็บของ รวมถึงลานซักล้างที่เตรียมพื้นที่สำหรับการติดตั้งเครื่องซักและอบผ้าไว้ให้เรียบร้อยค่ะ

เข้าไปโซนด้านในของตัวบ้าน

บริเวณข้างโถงบันไดจะมีห้องน้ำรับแขก หรือ Powder Room ใช้สุขภัณฑ์ของ Kasch เป็นยี่ห้อนำเข้าจากยุโรป โดยจะได้อ่างล้างมือพร้อมลิ้นชักเก็บของ, กระจกเงา และโถสุขภัณฑ์กึ่ง Auto พร้อมสายชำระและที่แขวนกระดาษชำระ

ด้านในสุดเป็นโถงบันไดและโถงลิฟต์ โดยในแบบบ้านขนาดเริ่มต้นหลังนี้จะมีการเตรียมพื้นที่โถงลิฟต์ไว้ให้นะคะ ไม่ได้มีตัวลิฟต์ติดตั้งมาให้แบบนี้ ซึ่งถ้าเราไม่ต้องการใช้ลิฟต์ก็สามารถใช้เป็นห้องเก็บของได้ ส่วนแบบบ้านที่มีลิฟต์ติดตั้งมาให้จะเป็นบ้านไซซ์กลางและไซซ์ใหญ่ คือแบบบ้าน Hideaway กับ Haven

สำหรับแบบบ้าน Haven และ Hideaway จะมีลิฟต์โดยสารแบบนี้ติดตั้งมาให้ ใช้ลิฟต์ของ Hitachi 

ภายในลิฟต์โดยสารหน้าตาแบบนี้เลยค่ะ มีราวจับช่วยพยุงสำหรับผู้สุงอายุ

บันไดกว้าง โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ใช้วัสดุเป็นไม้แดง สีโอ๊คเข้ม ส่วนพื้นชั้น 2-3 จะใช้เป็น Engineering Wood ระหว่างขั้นจะมีติดตั้งไฟส่องสว่างมาให้ด้วย

และตัวโถงบันไดแต่ละชั้นก็จะมีช่องแสงที่ช่วยให้โถงยังได้รับแสงธรรมชาติในช่วงกลางวัน ส่วนชานพักในแต่ละชั้นจะให้พื้นที่มาค่อนข้างกว้าง มีระยะให้พักขา เดินขึ้น-ลง ไม่เหนื่อยมาก

ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเป็นฟังก์ชันห้องนอน และห้องอเนกประสงค์

ในส่วนห้องอเนกประสงค์นี้เราสามารถใช้เป็นพื้นที่ห้องเก็บของสะสม หรือของแบรนด์เนมที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษได้ค่ะ

เข้ามาภายในส่วนห้องนอนจะมีแยกพื้นที่สำหรับเป็นมุมพักผ่อน และส่วนห้องนอนที่มีความเป็นส่วนตัวแยกจากกัน

ในพื้นที่ส่วนโซนด้านนอกจะเป็นห้องพักผ่อน

จุดเด่นของห้องนี้คือช่องแสงขนาดใหญ่ทั้งจากช่องแสงข้างบ้านและช่องแสงที่เจาะเชื่อมอยู่กับโถง Double Volume

พื้นที่ในห้องนี้เราสามารถทำเป็นห้องพักผ่อนขนาดใหญ่ หรือเป็นห้องทำงานส่วนตัวก็ได้

อีกฝั่งของห้องเป็นส่วน Walk-in Closet

พื้นที่ในห้องกว้างขวาง สามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่พร้อมโต๊ะเครื่องแป้งได้สบาย ๆ

ติดกับส่วน Walk-in Closet เป็นห้องน้ำในตัวค่ะ

ภายในห้องน้ำจัดเต็มครบทุกฟังก์ชันการใช้งาน พร้อมช่องแสงสำหรับระบายอากาศและความชื้น 2 จุด คือบริเวณอ่างอาบน้ำและในห้อง Shower

อ่างล้างมือติดตั้งมาให้พร้อมเคาน์เตอร์และลิ้นชักเก็บของใต้อ่าง รวม 4 ช่อง

กระจกเงาแบบซ่อนช่องเก็บของด้านหลัง

โถสุขภัณฑ์แบบกึ่ง Automatic

ได้อ่างอาบน้ำแบบฝัง ขนาดใหญ่พอให้ลงไปนอนแช่น้ำได้สบาย ๆ

ในห้องอาบน้ำติดตั้งฝักบัวแบบ Hand Shower และ Rain Shower พร้อมชั้นวางของ

เข้ามาดูในส่วนห้องนอนค่ะ พื้นที่ในห้องจะมีความกว้างขวาง และดูโปร่งสบายจากช่องแสง 2 ฝั่งเลย

จากมุมนี้เราจะเห็นความเชื่อมต่อของการเจาะช่องแสงจากในห้องพักผ่อนด้านนอกและห้องนอนด้านใน

สำหรับผนังกระจกตรงนี้เราสามารถที่จะติดตั้งม่านหรือมู่ลี่ไว้ปิดเวลาที่ต้องการความเป็นส่วนตัวได้

อีกฝั่งเป็นหน้าต่างบานใหญ่ที่ช่วยรับแสงธรรมชาติเข้าสู่ภายในห้องได้แบบเต็ม ๆ

ขึ้นมาที่ชั้น 3 เป็นฟังก์ชันห้องนอนรอง 2 ห้องค่ะ

เข้ามาดูในห้องแรก

พื้นที่ห้องนอนท้ัง 2 ห้องจะมีขนาดที่ใช้งานได้สบาย ๆ พร้อมห้องน้ำในตัวค่ะ

ไอเดียการตกแต่งห้องนี้ทำออกมาเป็นห้องทำงาน หรือ Studio สำหรับคนที่ทำงานออนไลน์ แต่จริง ๆ ถ้าเราต้องการทำเป็นห้องนอนก็สามารถวางเตียงคิงส์ไซซ์พร้อมกับชุดเฟอร์นิเจอร์ได้ครบชุดแบบสบาย ๆ นะคะ

ห้องน้ำในตัวของห้องนอนรองก็จัดพื้นที่มาให้ใช้งานได้สะดวก แยกโซนแห้งโซนเปียกมาให้เรียบร้อย แต่จะไม่มีตัว Shower Screen ติดตั้งมาให้นะ ซึ่งตรงนี้เราหาช่างมาติดตั้งให้ได้ไม่ยากเลยค่ะ

มาที่ห้องนอนรองห้องที่ 2 ห้องนี้จะมีห้องน้ำและระเบียงส่วนตัว

การจัดเฟอร์นิเจอร์ในห้องก็สามารถวางได้ครบ ทั้งเตียงคิงส์ไซซ์, โต๊ะหัวเตียง และชุดตู้เสื้อผ้าพร้อมโต๊ะเครื่องแป้ง

ห้องน้ำในตัวจะแยกโซนแห้ง โซนเปียกมาให้เรียบร้อย พร้อมช่องแสงบานกระทุ้งสำหรับระบายอากาศ โดยในห้องนี้จะใช้กระเบื้องลายหินทั้งห้อง ก็ดูสวยแปลกตาไปอีกแบบค่ะ

ระเบียงที่ได้จะเป็นระเบียงในร่มค่ะ จึงสามารถออกมาใช้งานได้บ่อย

ขนาดระเบียงกว้าง เป็นระเบียงที่มีรูปทรงเข้ามุมไปกับห้องนอนแบบนี้

ริมระเบียงอีกฝั่งเตรียมพื้นที่ Pocket Garden มาให้เรียบร้อย ใครอยากมีพื้นที่สีเขียวที่ชั้น 3 ก็สามารถลงต้นไม้ตรงนี้ได้เลย

บ้านตัวอย่างแบบที่ 2 เป็นบ้านไซซ์ใหญ่สุด คือ แบบบ้าน HIDEAWAY (L) พื้นที่ใช้สอย 550 ตร.ม. ที่ดินเริ่ม 74.5  ตร.วา หน้าตาภายนอกออกแบบมาในสไตล์ Modern Luxury ใช้โทนสีและ Material ที่ Match กันทั้ง 3 แบบบ้าน คือ โทนสีสว่าง ขาว, เทาอ่อน, กระเบื้องลายหินและระแนงโทนสีน้ำตาล

และจุดเด่นของบ้าน Type นี้คือมีการสอดแทรกธรรมชาติไว้ภายในตัวบ้านด้วย Pocket Garden บริเวณระเบียงที่พร้อมรองรับการปลูกต้นไม้ในทุกห้องนอน

แปลนชั้น 1 โซนหน้าบ้านจอดรถได้ 4 คัน ภายในตัวบ้านแบ่งพื้นที่ Common Area ขนาดใหญ่ ที่สามารถเปิดเชื่อมออกไปส่วนคอร์ทกลางบ้านได้ และมีพื้นที่เตรียมไว้สำหรับการปรับกั้นห้องเพิ่มเป็นห้องอเนกประสงค์หรือห้องนอนผู้สูงอายุ พร้อมห้องน้ำในตัว ส่วนอีกฝั่งของตัวบ้านจะเป็นโซน Service คือครัวไทย, ห้องน้ำรับรอง และ Maid Area

แปลนชั้น 2 จะประกอบด้วยห้องนอน 2 ห้อง ที่มาพร้อมระเบียงและห้องน้ำในตัว และ Family Area ขนาดใหญ่ที่มีระเบียงในตัวด้วยเช่นกัน

แปลนชั้น 3 มี 3 ห้อง คือ Collection Room และห้องนอน 2 ห้อง แบ่งเป็นห้อง Grand Master Bedroom มีพื้นที่ห้องพักผ่อน, Walk-in Closet ขนาดใหญ่ มาพร้อมห้องน้ำในตัวและระเบียงขนาดใหญ่ และห้องนอนรองที่มาพร้อมห้องน้ำและระเบียงในตัวเช่นกัน

เข้ามาภายในตัวบ้านส่วนแรกเป็นที่จอดรถ 4 คัน โครงสร้างเป็นแบบ Slab on Beam ใช้โครงสร้างเดียวกับตัวบ้าน ส่วนด้านนอกเทแยกจากตัวบ้าน

วัสดุพื้นเป็นแสตมป์คอนกรีต เตรียมจุด Ev Charger รองรับรถยนต์ไฟฟ้า, รอบบ้านมีระบบรักษาความปลอดภัยทั้ง CCTV และ สัญญาณกันขโมย Magnetic & Shock Sensor

บ้าน Type นี้จะมีประตูทางเข้าหลักทางเดียวนะคะ เน้นความเป็นส่วนตัวมาก ๆ

โดยตัวประตูจะได้เป็นบานไม้สักแท้ สูงถึง 2.75 ม. เปิดได้ 2 ฝั่ง พร้อม Digital Door Lock ที่ใช้งานผ่าน Passcode, Key Card และลายนิ้วมือ

เข้ามาภายในตัวบ้านส่วนแรกเป็นพื้นที่โถง Foyer ที่มีเตรียมพื้นที่เป็นตู้เก็บรองเท้ามาให้เรียบร้อยค่ะ ในบ้านมาตรฐานจะมีบานตู้มาให้เป็นแบบมาตรฐาน ซึ่งเราก็สามารถปรับเปลี่ยนให้เข้ากับสไตล์การตกแต่งของเราเองได้ ขนาดตู้ด้านในถือว่าใหญ่เลยทีเดียว จุรองเท้าได้หลายคู่มาก ๆ

จาก Foyer จะเชื่อมเข้ามาถึงโถงขนาดใหญ่ ให้ความรู้สึกที่ดูโอ่อ่ามาก ๆ โดยการดีไซน์พื้นที่ส่วนนี้จะรวม Common Area พวกฟังก์ชันที่สมาชิกในบ้านใช้ร่วมกันไว้ในพื้นที่เดียวกันทั้งหมด เวลาใครทำอะไรอยู่มุมไหนก็สามารถมองเห็นกันได้ โดยจะมีส่วนแรกเป็น Pantry ค่ะ เราสามารถทำเป็นครัวสวย ๆ โชว์ หรือจะเป็นมุมบาร์เครื่องดื่ม/Coffee Station ได้หมดเลย

จากมุม Pantry จะเช่ือมต่ออกมายังโถงรับแขก ที่เป็น Double Volume ที่มีความสูงฝ้าเพดาน 7.35 ม. พร้อมช่องแสงขนาดใหญ่สูงถึงชั้น 2 ทำให้ห้องนี้ดูโปร่งสบายและดูหรูหรามาก ๆ  

และจากห้องนี้ยังสามารถเชื่อมกับพื้นที่เฉลียงข้างบ้านได้อีกด้วย

ซึ่งตัวเฉลียงข้างบ้านนี้ก็จะเป็น Space ที่เป็นมุมอเนกประสงค์ ใช้นั่งพักผ่อนได้ ออกกำลังกาย หรือเป็นลาน BBQ เล็กๆ เวลาเพื่อนมาปารตี้ที่บ้านก็ได้ 

และเนื่องจาก The Gentry จะเป็นบ้านในเมืองที่เน้นใช้พื้นที่ดินให้คุ้มค่าที่สุด เลยสร้างตัวบ้านเกือบเต็มผืนที่ดินแต่ละแปลง ทำให้มีพื้นที่รอบบ้านเหลือไม่เยอะ เค้าเลยใส่พื้นที่ข้างบ้านตรงนี้เข้ามาช่วยให้บ้านยังได้ความโปร่งสบายจากทุกชั้น เราจะทำมุมนี้ให้เป็นสระน้ำไว้นั่งพักผ่อน ติดระบบ Jacuzzi ก็ได้บรรยากาศนอนพักผ่อนในสวนไปอีกแบบค่ะ

ติดกับส่วนห้องรับแขกเป็นห้องทานอาหาร ในบ้านมาตรฐานจะไม่ได้มีตัวผนังกั้นมาให้ค่ะ เป็นพื้นที่ห้องโถงโล่ง ๆ เชื่อมถึงกันเลย ถ้าใครชอบให้บ้านโปร่ง ๆ เราจะไม่กั้นพื้นที่แบบนี้ก็ได้นะ 

สำหรับห้องทานอาหาร ความสูงฝ้ามาตรฐานจะอยู่ที่ระดับ 3 ม. ขนาดพื้นที่จะวางชุดโต๊ะทานข้าวได้ 5-6 ที่นั่ง แบบสบายๆ 

ส่วนพื้นที่ที่เชื่อมต่อมาจากห้องทานอาหาร จริง ๆ แล้วเป็นพื้นที่ที่เตรียมไว้สำหรับห้องนอนชั้นล่างค่ะ ถ้าเราจะทำเป็นห้องนอนก็กั้นพื้นที่เอาได้เลย 

โดยเค้าจะมีห้องน้ำในตัวเตรียมไว้ให้เรียบร้อย เป็นฟังก์ชันที่รองรับผู้สูงอายุแบบเต็มรูปแบบ สุขภัณฑ์ใช้ยี่ห้อ Kasch เป็นยี่ห้อน้ำเข้าจากยุโรป พร้อมอุปกรณ์ราวจับต่าง ๆ 

ฟังก์ชั่นในห้องน้ำมีพื้นที่โซนอาบน้ำมาให้เรียบร้อย พื้นห้องน้ำก็ทำเป็น Step Free ตัว Floor Drain เป็นระนาบเดียวกับพื้นทั้งหมด ป้องกันการสะดุดของเด็ก ๆ หรือผู้สูงอายุที่ใช้ไม้เท้า ส่วนกระเบื้องในห้องน้ำก็ใช้แผ่นใหญ่เช่นกันค่ะ เป็นขนาด 90*90 ซม

อีกฝั่งของตัวบ้านเป็นครัวไทยมีประตูกั้นแยกเป็นสัดส่วน มีขนาดกำลังพอดีใช้งาน สามารถทำเคาน์เตอร์ครัวได้เลย มีเดินระบบมาให้เรียบร้อยแล้ว ส่วนการระบายอากาศในห้องจะมีช่องแสงเป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง และเราก็สามารถเปิดประตูหลังบ้านออกไปเพื่อช่วยเพิ่มการระบายอากาศได้ด้วย

ขนาดครัวกว้าง มีพื้นที่ยืนหยุ่นในการใช้งานให้เราปรับเปลี่ยนตำแหน่งการวางตู้เย็นหรืออยากเพิ่มพื้นที่เตรียมอาหารก็สามารถทำได้เช่นกัน

ถัดมาที่อีกฝั่งของตัวบ้านจะเป็นบริเวณโถงบันไดและโถงลิฟต์ โดยสเปกของแบบบ้าน Hideaway และ Haven บันไดโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ใช้วัสดุเป็นไม้สักสีโอ๊คเข้ม

บ้าน Type นี้ติดตั้งลิฟต์โดยสารมาให้เรียบร้อย

สำหรับห้องน้ำรับรองหรือ Powder Room จะอยู่ติดกับบริเวณโถงบันได มีเฉพาะโซนแห้งเท่านั้น

โถงบันไดบ้าน Type นี้ดูดีมาก มีทิ้งระยะให้เดินได้แบบสบาย ๆ เป็นส่วนที่ผู้เขียนแอบชอบเป็นพิเศษ

ที่ชั้น 1 จะเป็นพื้นที่ที่ใช้งานร่วมกันของคนในครอบครัว แต่พอเราขึ้นมาบนชั้น 2 ก็จะเป็นพื้นที่พักผ่อนที่เป็นส่วนตัวของแต่ละคนค่ะ 

ชั้นนี้จะแบ่งเป็นห้องนอน 2 ห้อง ตรงกลางเป็นโถงทางเดินเชื่อมกัน โดยที่โถงชั้นล่างเป็น Double Volume ที่ชั้น 2 จึงมีช่องเปิดให้เราสามารถมองลงไปเห็นชั้นล่างได้ด้วย ส่วนพื้นชั้น 2 จะปูด้วยไม้สักแท้

เราเข้ามาที่ห้องแรกค่ะ ส่วนแรกจะเป็นพื้นที่โถงทางเข้า

มีพื้นที่สำหรับทำเป็น Walk-in Closet ขนาดกลาง ๆ Built-in ตู้เสื้อผ้าได้ทั้ง 2 ฝั่ง

ติดกันเป็นห้องน้ำในตัวขนาดใหญ่ ซึ่งจะมีกั้นโซนแห้งโซนเปียกมาให้เรียบร้อย มีให้ใช้งานครบทั้งโซนอ่างล้างมือ, โถสุขภัณฑ์, Shower พร้อม Bathtub และช่องแสงขนาดใหญ่สำหรับระบายอากาศและความชื้นภายในห้อง

การออกแบบ Interior ในบ้านตัวอย่าง จะตกแต่งห้องให้ออกมาในรูปแบบของ Art Space เพื่อจะสะท้อนไลฟ์สไตล์ของแต่ละ Generation ค่ะ ห้องแรกนี้จะตกแต่งด้วยแบรนด์ Paul Smith เป็นตัวแทนของชาว Baby Boomer 

โดยพื้นที่ในห้องจะสามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์หลัก ๆ ได้ครบทั้งเตียงคิงส์ไซซ์ โต๊ะทำงาน หรือจะเพิ่มเป็นมุมนั่งพักผ่อนส่วนตัวในห้องก็มีพื้นที่เหลือเฟือ

นอกจากนั้นห้องนี้ยังมีระเบียงในตัวที่สามารถเชื่อมต่อกับคอร์ทกลางบ้านได้ค่ะ 

ห้องนี้ได้ระเบียงในร่ม ที่มีตัว Pocket Garden เน้นพื้นที่สีเขียว เราสามารถลงต้นไม้ไซซ์กลางได้เลย นอกจากนั้นพื้นที่ระเบียงเองก็ค่อนข้างกว้าง ใครจะปลูกเพิ่มก็ได้ หรือไว้นั่งพักผ่อนก็ได้ค่ะ

และเราก็สามารถมองเห็นต้นไม้จากในห้องได้ด้วย เป็นวิวเขียวๆ สบายตา หรือจะมองลงไปตรงคอร์ทกลางบ้านก็ได้ความโล่ง เป็นจุดที่เราจะได้ความ Flow ของอากาศที่หมุนเวียนรอบ ๆ ตัวบ้าน

อีกฝั่งของบ้านเป็นห้องนอนและโถง Family Area ค่ะ

ในส่วนห้องนอนเค้าจะจัดเป็น Show Room ใช้แบรนด์ Seletti  จัดวางศิลปะแบบ Pop Art เป็นตัวแทนจากคนยุค Gen Y ส่วนพื้นที่ในห้องจริง ๆ แล้วเราสามารถจัดวางเตียงเดี่ยว หรือควีนไซซ์ก็กำลังดีค่ะ ในห้องจะมีระเบียงและห้องน้ำในตัวมาให้เรียบร้อย ซึ่งในห้องจริงผนังฝั่งห้องน้ำก็จะเป็นแนวเฉียงแบบนี้เลย ซึ่งเกิดจากการดีไซน์ให้มีช่องแสงในห้องน้ำนั่นเองค่ะ

ในห้องน้ำก็จะแยกโซนแห้งโซนเปียก แต่ห้องนี้จะไม่ได้มี Shower Sceen ติดตั้งมาให้นะคะ แต่เราก็หาช่างมากั้นเพิ่มได้ไม่ยาก เพราะจัดแยกพื้นที่เป็นสัดส่วนอยู่แล้วค่ะ

เข้ามาที่โถงอเนกประสงค์ หรือ Family Room 

เป็นห้องที่เหมาะกับการจัดเป็น Home Theatre  หรือห้องพักผ่อนที่มีความเป็นส่วนตัว เผื่อวันไหนที่มีแขกมาหาที่บ้านอาจจะนั่งคุยกันอยู่ที่ชั้นล่าง ส่วนสมาชิกในครอบครัวก็สามารถมานั่งพักผ่อนร่วมกันในห้องนี้แทนได้

โดยตัวห้องจะมีความโปร่งสบาย จากช่องแสงรอบห้องที่เปิดเชื่อมกับระเบียงด้านนอกได้ด้วย

ประตูระเบียงเป็นบานสไลด์พร้อมกระจกแบบเข้ามุมที่เปิดมุมมองจากให้ห้องให้ดูกว้างขึ้นได้

ระเบียงในส่วนนี้ก็จะมี Pocket Garden ใส่มาให้ด้วยอีก 1 จุด พร้อมพื้นที่ระเบียงกว้าง ๆ ที่วางชุดโต๊ะนั่งพักผ่อนได้ด้วย 

สามารถเทควิวคอร์ทกลางบ้านที่เป็นวิวส่วนตัวของเราเองได้อีก เป็นมุม Relaxing Area อีกจุดนึงในตัวบ้าน

ขึ้นมาที่ชั้น 3 จะเป็นฟังก์ชัน 2 ห้องนอนใหญ่ค่ะ พื้นที่บนชั้นนี้จะเชื่อมต่อกันด้วยโถงทางเดิน มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

ห้องแรกติดกับโถงลิฟต์เป็นห้อง Collection Room หรือห้องเก็บของสะสม สำหรับคนที่ชอบงานศิลป์ มี Art Piece ของศิลปินที่ชื่นชอบก็สามารถเก็บในห้องนี้ไว้ได้อย่างเป็นสัดส่วน และปลอดภัย หรือในการใช้งานทั่ว ๆ ไป ห้องนี้ก็สามารถปรับเป็นห้องพระได้ หรือมุม Meditaion Corner นะคะ

ถัดมาเป็นห้อง Master Bedroom  ห้องนี้เป็นห้องนอนที่มีขนาดใหญ่มาก เข้ามาส่วนแรกเค้าทำมาให้ดูเป็น Walk-in Closet แบ่งโซนห้องแต่งตัวทางซ้ายมือ และห้องน้ำทางขวามือ ส่วนตรงกลางเป็นโถงทางเดินเชื่อมเข้าไปยังส่วนห้องนอนด้านใน

พื้นที่ในห้อง Walk-in Closet มีขนาดใหญ่มากเช่นกัน จัดสัดส่วนแบ่งใช้งาน 2 คน ได้สบายๆ

ฝั่งตรงข้าม Walk-in Closet เป็นห้องน้ำขนาดใหญ่ ติดตั้งสุขภัณฑ์มาให้ตามนี้เลย ที่พิเศษคือตัวอ่างอาบน้ำ Kasch ที่เค้าติดตั้งมาให้จะมีลูกเล่นต่าง ๆ อย่างทำบับเบิ้ล, ม่านน้ำ และมีระบบโทนสีของไฟในอ่างด้วย และโถสุขภัณฑ์ได้แบบกึ่ง Automatic

นอกจากนั้นเค้าก็ยังแยกโซนแห้ง โซนเปียกโดยได้อ่างล้างมือแบบฝังเคาน์เตอร์ มีพื้นที่กว้างๆ His&Her ใช้วางอุปกรณ์ต่างๆ ได้ และมีลิ้นชักเก็บของขนาดใหญ่ด้านล่างด้วย ส่วนห้องอาบน้ำติดตั้งฝักบัวทั้งแบบ Rain Shower และ Hand Shower พร้อมเจาะช่องวางขวดสบู่/แชมพู มาให้เรียบร้อย

ภายในพื้นที่ส่วนพักผ่อนจะเป็นห้องนอนขนาดใหญ่ห้องนี้จะเห็นการตกแต่งห้องด้วย ผลงานจากแกลเลอรี่ร่วมสมัย Lalanta Fine Art ที่เน้นผสมผสานความแตกต่างของงานศิลป์ที่ใช้เทคนิคที่แตกต่างกัน เป็นตัวแทนของชาว Gen X

โดยพื้นที่ในห้องนี้จัดแบ่งได้ 2 ฟังก์ชันอย่างชัดเจน คือส่วนห้องนอน ที่วางเตียงขนาดคิงส์ไซซ์พร้อมโต๊ะหัวเตียงและชุดชั้นวางทีวีได้

และมุมห้องพักผ่อนส่วนตัว ที่มีช่องแสงขนาดใหญ่ในห้อง ทำให้ห้องดูโปร่งมากขึ้น เป็นกระจกเข้ามุมที่เชื่อมกับระเบียงภายนอกได้ 

โดยระเบียงจะมีขนาดใหญ่ มีระยะให้จัดวางชุดโต๊ะริมระเบียง หรือจัดส่วนเพิ่มความร่มรื่นให้กับห้องก็ได้

ห้องนอนห้องสุดท้าย ห้องนี้ก็ถือว่าเป็นห้องนอนที่มีขนาดใหญ่เหมือนกันค่ะ เป็น Master Bedroom อีกห้องได้เลยนะ

ห้องนี้ตกแต่งมาด้วยผลงานจาก Give Me Museum เป็นงานเพ้นท์แนวอิมเพรสชั่นนิสม์ แสดงถึงตัวตนของ Gen Z โดยส่วนแรกจะเป็นพื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่

พื้นที่ในห้องจัดวางเฟอร์นิเจอร์หลัก ๆ ได้ครบ ทั้งเตียงคิงส์ไซซ์, โต๊ะทำงาน และมีพื้นที่สำหรับติดตั้งตู้เสื้อผ้าได้ 2 มุม

ห้องน้ำในตัวแยกโซนแห้ง โซนเปียกมาให้เรียบร้อย พร้อมหน้าต่างระบายอากาศ ส่วน Shower Screen ก็จะต้องติดตั้งเองเช่นกัน

ในส่วนระเบียงได้เป็นระเบียงในร่ม ขนาดก็ถือว่ากว้าง วางชุดเก้าอี้นั่งพักผ่อนริมหน้าต่าง หรือเอาเสื่อโยคะมาปูก็ยังได้ค่ะ

---

ราคา (ต.ค.65)

• HYDE (S)  : 360 ตร.ม. ที่ดินเริ่ม 57.7 ตร.วา ราคาเริ่มต้น 25 ล้านบาท*
• HIDEAWAY (L) : 550 ตร.ม. ที่ดินเริ่ม 74.5 ตร.วา ราคาเริ่มต้น 40 ล้านบาท*

• ค่าส่วนกลาง 83 บาท/ตร.ว./เดือน

***ข้อมูลราคา และโปรโมชันอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ คลิก : https://m.scasset.com/ADFp

---

สรุป

ทำเลที่ตั้งโครงการ : ทำเลที่ตั้งโครงการ The Gentry เกษตร-นวมินทร์ เหมาะกับคนที่มีงบประมาณสูงที่มองหาบ้านหลังใหญ่บนทำเลโซนเกษตรนวมินทร์, ลาดพร้าว, รามอินทรา อาจจะเป็นคนที่ทำงานในเมือง หรือเจ้าของธุรกิจที่ต้องเดินทางติดต่องานในเมืองเป็นประจำ ซึ่งที่ตั้งโครงการ อยู่ในโซนที่เชื่อมต่อได้ทั้ง นวมินทร์, ลาดพร้าว, ประดิษฐ์มนูธรรม ซึ่งเป็นย่านที่อยู่อาศัยที่มีความเจริญสูง ใช้ชีวิตง่าย และเดินทางเชื่อมต่อเข้า-ออกตัวเมืองได้สะดวก ทั้งโซนพระราม 9 รัชดาภิเษก หรือถ้าขึ้นทางด่วนเข้าทองหล่อ-เอกมัย รถไม่ติดก็ไม่เกิน 30 นาที ค่ะ 

การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว : จากที่ตั้งของตัวโครงการเองจะลัดเลาะเชื่อมกับถนนเส้นทางหลักรอบ ๆ ได้ทั้ง 4 ด้าน คือ ถนนลาดพร้าว, ถนนนวมินทร์, ถนนประเสริฐมนูกิจ และ ถนนประดิษฐ์มนูธรรม ซึ่งทำให้สามารถเดินทางเชื่อมต่อไปยังถนนเส้นหลัก หรือโซนในเมืองได้ง่าย และมีตัวเลือกเป็นทางด่วนฉลองรัชให้ใช้งาน

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ : ในอนาคตอันใกล้ก็จะถือเป็นบ้านหรูทำเลศักยภาพที่ใกล้รถไฟฟ้าอีก 1 โครงการเลยทีเดียวค่ะ เพราะมีรถไฟฟ้าสายสีเหลืองที่คาดว่าจะพร้อมให้ใช้งานในช่วงปีหน้า 2566 แล้ว โดยตัวโครงการจะใกล้กับสถานีลาดพร้าว 101 ระยะทางจากโครงการประมาณ 4.3 กม. เท่านั้น จะให้คนที่บ้านขับรถมาส่งที่สถานีก็สบาย ๆ ค่ะ

การออกแบบโครงการและตัวบ้าน : ตัวโครงการจะมีความเป็นส่วนตัวสูงด้วยยูนิตพักอาศัยเพียง 57 ยูนิต เท่านั้น โดยการออกแบบบ้าน The Gentry จะเน้นพื้นที่ใช้สอยในตัวบ้าน จึงทำให้ได้บ้านหลังใหญ่ พื้นที่ใช้สอยเยอะ พื้นที่ชั้นล่างค่อนข้างยืดหยุ่นในการปรับใช้งาน เพราะฉะนั้นจึงสามารถที่จะรองรับครอบครัวใหญ่ และผู้สูงอายุ ได้สบายๆ 

มีการเลือกใช้ Material ต่างๆ รวมถึงการใส่ความเป็น Smart Home ไปในตัวบ้าน ให้คนทุกวัยใช้งานได้ง่ายและปลอดภัยรองรับทุก Generation ไม่ว่าจะเป็นลิฟต์โดยสารในตัวบ้าน ในพื้นที่ส่วนกลาง, ห้องนอนผู้สูงอายุ และระบบรักษาความปลอดภัย Triple Security ตั้งแต่หน้าโครงการ ถึงตัวบ้านที่มีระบบ Magnetic&Shock Sensor และ VDO Door Phone

สิ่งอำนวยความสะดวก : การออกแบบบรรยากาศของโครงการนี้ใช้แรงบันดาลใจจาก Amangiri ใช้โทนสี Sand ที่ดูสว่าง แปลกตา ทั้งคลับเฮาส์ และปรับโทนสี Facade บ้านให้ดูสว่างเข้ากันทั้งโครงการ โดยส่วนกลางที่นี่มีครบฟังก์ชั่น ทั้ง ฟิตเนส, Co-Working Space, สระว่ายน้ำ และ พื้นที่นั่งพักผ่อนบนชั้น rooftop 

---

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 065-919-0999

Line : @GTKN

Website : https://m.scasset.com/ADFp

หากเพื่อน ๆ เห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ

และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ