7 Checklists เตรียมพร้อมก่อนลงมือสร้างบ้าน !

7 Checklists เตรียมพร้อมก่อนลงมือสร้างบ้าน !

จะสร้างบ้านสักหนึ่งหลัง จำเป็นต้องใช้งบก้อนใหญ่ และ มีขั้นตอน รายละเอียดต่าง ๆ ที่ค่อนข้างซับซ้อน และ ใช้เวลาในการก่อสร้างค่อนข้างนาน การตัดสินใจที่จะสร้างบ้าน ก็ควรมีความพร้อมในทุก ๆ ด้าน เพื่อที่เราจะได้ที่อยู่อาศัยที่ดีที่สุด และ ตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้มากที่สุด ลองมาเช็กลิสความพร้อม ก่อนลงมือสร้างบ้านกันค่ะ

1. ชัดเจนในความต้องการ

ก่อนจะไปถึงขั้นตอนก่อสร้างสร้างบ้าน สำหรับขั้นตอนแรกที่เจ้าของบ้านต้องตอบให้ได้คือ ความต้องการที่ชัดเจนในด้านต่างๆ เช่น สไตล์บ้านเป็นแบบไหน จำนวนชั้นที่อากได้ การตกแต่งที่ชอบ ความต้องการของผู้จะเข้าอยู่อาศัยทุกคนเป็นอย่างไร ต้องจัดเตรียมพื้นที่พิเศษสำหรับผู้สูงอายุ หรือเด็กหรือไม่

เมื่อความต้องการชัดเจนในด้านต่างๆ มีพร้อมแล้ว จึงนำรายละเอียดดังกล่าวปรึกษาบริษัทรับสร้างบ้าน และทีมออกแบบ เพื่อค้นหาแบบมาตรฐานของบริษัทที่ใงกล้เคียงกับความต้องการ หรือออกแบบใหม่ตามที่เจ้าของบ้านอยากได้

2. งบประมาณมีพร้อมจ่ายอย่างครอบคลุม

งบประมาณถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เจ้าของบ้านรู้ว่าจะสร้างบ้านได้ตามความต้องการแค่ไหน ขาดหรือเกินหรือไม่ ซึ่งโจทย์ข้อนี้เจ้าของบ้านอาจนำแบบที่ต้องการปรึกษาบริษัทรับสร้างบ้าน เพื่อทำการประเมิณราคาคร่าวๆ หากงบที่มีพอสำหรับการสร้างบ้านตามแบบนั้นก็สามารถดำเนินการในขั้นตอนต่อไปได้เลย

แต่หากงบประมาณไม่เพียงพอ บริษัทรับสร้างบ้าน อาจมีทางออกที่เหมาะสมให้เจ้าของบ้านเลือก เช่น ปรับเรื่องขนาดพื้นที่ใช้สอย ปรับเปลี่ยนแบบบ้าน หรือปรับสเป็ควัสดุที่จะใช้ และนี่ถือเป็นข้อดีของการใช้บริการบริษัทรับสร้างบ้านเพราะทำให้เห็นราคาค่าใช้จ่ายโดยรวมทั้งหมด ก่อนลงมือสร้างบ้าน

3. มีที่ดินเปล่าพร้อมสร้างบ้าน

ถือเป็นการสำรวจอย่างแรกๆ เลยก็ได้สำหรับเรื่องที่ดินที่จะใช้สร้างบ้าน ซึ่งในที่นี้จะหมายรวมถึงการปรับเตรียมหน้าดินให้สม่ำเสมอพร้อมสำหรับการสร้าง หรือบางแห่งอาจต้องมีการถมที่ให้ได้ระดับความสูงที่เหมาะสม รวมถึงความพร้อมของสาธารณูปโภคด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ถนน ประปา ไฟฟ้า เพื่อให้พร้อมสำหรับการสร้างบ้าน เพราะเมื่อลงมือสร้างแล้ว จะต้องมีเรื่องการขนส่งวัสดุ และการใช้น้ำ-ไฟ ในการก่อสร้างด้วย หากเจ้าของบ้านเตรียมพร้อมทั้งไว้ดีแล้วจะทำให้งานสร้างต่างๆ เป็นไปอย่างราบรื่น

4. เลือกแบบบ้านที่เหมาะสม

แบบบ้านที่เหมาะสมนั้นต้องเหมาะสมทั้งกับขนาดที่ดิน สิ่งแวดล้อม สภาพอากาศ ที่สำคัญคือเหมาะสมกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย เพราะคงจะไม่ดีนักหากแบบบ้านเหมาะสมกับปัจจัยต่างๆ แต่ไม่มีฟังก์ชั่นที่ไม่รองรับการใช้ชีวิตและความต้องการของเจ้าของบ้านอย่างสมบูรณ์ ซึ่งหมายความว่าบ้านนั้นไม่ได้สร้างขึ้นเพื่อผู้อยู่อาศัยอย่างแท้จริง

5. ความรู้เบื้องต้นเรื่องการสร้างบ้าน

จริงอยู่ที่เจ้าของบ้านไม่ได้ลงมือออกแบบบ้าน หรือก่อสร้างเอง จึงไม่ต้องรู้เรื่องรายละเอียดเรื่องการสร้างบ้านมากนัก แต่หากมีความรู้เบื้องต้นไว้บ้าง เช่น ขั้นตอนการสร้าง การติดต่อขออนุญาตก่อสร้าง กฎหมายก่อสร้าง หรือศัพท์เบื้องต้นที่จำเป็นเรื่องงานสร้าง จะทำให้เจ้าของบ้านรู้เท่าทันขั้นตอนการสร้าง และสามารถที่จะคุยโต๊ะตอบกับทีมงานทั้งสถาปนิก วิศวกร และช่างก่อสร้างได้อย่างเข้าใจตรงกัน

6. รู้เรื่องวัสดุและราคาในท้องตลาด

การสร้างบ้านยิ่งใช้วัสดุคุณภาพดี มีคุณสมบัติเหมาะสมกับการใช้งาน ย่อมทำให้บ้านนั้นยิ่งแข็งแรงปลอดภัยต่อการอยู่อาศัยในระยะยาว หากเจ้าของบ้านรู้เรื่องเกี่ยวกับวัสดุไว้บ้าง รวมทั้งรู้ราคาในตลาด จะทำให้สามารถบอกความต้องการกับผู้ออกแบบได้และสามารถเลือกใช้วัสดุที่เข้ากับความชอบ เข้ากับแบบบ้าน ในราคาที่เหมาะสมได้

​​​​7. เลือกบริษัทรับสร้างบ้านที่น่าเชื่อถือและเป็นมืออาชีพ

ปัญหาการสร้างบ้านที่เจ้าของบ้านส่วนใหญ่พบเจอคือการเลือกใช้ผู้รับเหมาทั่วไป ที่ไม่มีสถานที่ติดต่อเป็นหลักแหล่ง ไม่มีความเป็นมืออาชีพ ทำให้ผลที่ตามมาคือโดนทิ้งงานบ้าง หรือได้งานสร้างที่ไม่ตรงตามแบบ

ดังนั้นหากเจ้าของบ้านเลือกใช้บริษัทรับสร้างบ้านที่น่าเชื่อถือ จะช่วยลดปัญหาการทิ้ง เท หนีงาน เพราะสามารถตามงานได้โตยตรงกับบริษัท รวมทั้งยังมีฝีมือทีมช่างที่มีความเชี่ยวชาญ มีผลงานสร้างบ้านที่สามารถตรวจสอบได้ ซึ่งสำหรับเจ้าของบ้านที่กำลังมองหาบริษัทรับสร้างบ้านอยู่ อาจลองหาข้อมูลหลายๆ บริษัทมาเปรียบเทียบกัน แล้วเลือกที่ที่ตรงความต้องการมากที่สุด

การเตรียมความพร้อมก่อนสร้างบ้านเป็นเรื่องสำคัญ หากเจ้าของบ้านมีการวางแผน ศึกษาหาข้อมูลความรู้อย่างรอบด้าน จะทำให้การวางรากฐานชีวิตด้วยการสร้างบ้านเป็นไปอย่างราบรื่น มั่นคง และได้บ้านพร้อมอยู่อย่างยั่งยืนในอนาคต

ขอขอบคุณบทความจาก : สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน