EP.1267 รีวิว ศุภาลัย วิลล์ เพชรเกษม 69 Supalai Ville Phetkasem 69
Written by : Gift Pannida Chayasit
สวัสดีผู้อ่าน HOMENAYOO ทุกคนค่ะ วันนี้เราจะขอพาชมโครงการ “ศุภาลัย วิลล์ เพชรเกษม 69” จาก ศุภาลัย โครงการที่รวมทั้ง บ้านเดี่ยว, บ้านรุ่นใหม่(บ้านแฝด) และทาวน์โฮม ไว้ด้วยกัน บนทำเลศักยภาพโซนเพชรเกษม ตัวโครงการตั้งอยู่บนถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งเหนือ เขตหนองแขม สามารถเข้า-ออกได้ 2 ทาง ทั้งจากซอยเพชรเกษม 69 และ ซอยเพชรเกษม 81 รองรับส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (สถานีทวีวัฒนา) เชื่อมถนนได้หลายสาย ทั้งถนนเพชรเกษม ถนนเอกชัย และถนนกาญจนาภิเษก
ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อาทิ ตลาดคุณตาพลอย, ตลาดคุณพ่อ, 7-11, Mini Big C, ซุปเปอร์มาร์เก็ต, วิคตอเรีย การ์เด้น, Big C เพชรเกษม, The Mall บางแค และ รพ.เกษมราษฎร์ บางแค
ศุภาลัย วิลล์ เพชรเกษม 69 เป็นโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบ จำนวน 353 ยูนิต บนที่ดิน 52 – 0 – 39.4 ไร่ มีแบบบ้านให้เลือกทั้งหมด 7 แบบ มีตั้งแต่บ้านเดี่ยว, บ้านรุ่นใหม่และทาวน์โฮม โดยจะมีพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้นที่แบบบ้านทาวน์โฮม ขนาด 113 ตร.ม., บ้านรุ่นใหม่ ขนาด 122 ตร.ม. และบ้านเดี่ยว ขนาด 150 – 213 ตร.ม. บนที่ดินเริ่มต้น 19 ตร.วา สร้างเสร็จพร้อมอยู่ทั้งโครงการ ธันวาคม 2561
สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ สวนสาธารณะขนาดเกือบ 2 ไร่, อาคารคลับเฮ้าส์, ห้องฟิตเนส และสระว่ายน้ำระบบเกลือรถยนต์ผ่านเข้า-ออกด้วยระบบ Access Card Control, ติดตั้งกล้อง CCTV พร้อมเจ้าหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.ราคาเริ่มต้น 2.59 ล้านบาท*
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 1720
ทาวน์โฮม ศุภาลัย โซนเพชรเกษม-พุทธมณฑล โครงการที่น่าสนใจ…
บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ศุภาลัย โซนเพชรเกษม-พุทธมณฑล โครงการที่น่าสนใจ…
| ชื่อโครงการ | ศุภาลัย วิลล์ เพชรเกษม 69 Supalai Ville Phetkasem 69 |
| เจ้าของโครงการ | บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) Supalai |
| ลักษณะโครงการ | – บ้านเดี่ยว 2 ชั้น – บ้านรุ่นใหม่ 2 ชั้น – ทาวน์โฮม 2 ชั้น |
| พื้นที่โครงการ | ประมาณ 52-0-39.4 ไร่ |
| จำนวนบ้าน | 353 ยูนิต |
| พื้นที่ใช้สอย |
|
| เนื้อที่บ้าน | – บ้านเดี่ยว 2 ชั้น เริ่มต้น 53 ตร.วา. ขึ้นไป – บ้านรุ่นใหม่ 2 ชั้น เริ่มต้น 36 ตร.วา. ขึ้นไป – ทาวน์โฮม 2 ชั้น เริ่มต้น 19 ตร.วา. ขึ้นไป |
| จำนวนห้อง | 3-4 ห้องนอน, 2-3 ห้องน้ำ |
| ที่จอดรถทั้งหมด | 2 คัน |
| โซน | เพชรเกษม 69 |
| ขนส่งสาธารณะ |
|
| รถโดยสารที่ผ่าน |
|
| ที่ตั้ง | ถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งเหนือ แขวงหนองแขม เขตหนองแขม กทม. 10160 |
| กำหนดการ | เริ่มก่อสร้าง ต.ค.2558 |
| ปีที่สร้างเสร็จ | ธ.ค.2561 |
| ราคา | เริ่มต้น 2.59 ล้านบาท (ต.ค.2561) |
| ค่าส่วนกลางและกองทุน |
|
| สถานที่สำคัญใกล้เคียง |
|
| สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
| จุดเด่นของโครงการ | ศุภาลัย วิลล์ เพชรเกษม 69 “Living With Convenience สะดวกทุกการอยู่อาศัย ต่อติดชีวิตเมือง” |
โครงการใกล้เคียง
ที่ตั้งโครงการ
ถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งเหนือ แขวงหนองแขม เขตหนองแขม กทม. 10160
พิกัด : 13.685959, 100.358946
จากแผนที่ข้างต้นจะเห็นได้ว่าการเข้าถึงโครงการสามารถเข้า – ออก ได้ทั้งจากเส้นเพชรเกษมมุ่งหน้านครปฐมโดยเข้าซอยเพชรเกษม 69 หรือ ซอยเพชรเกษม 81 เพื่อเข้าสู่ถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งเหนือ ส่วนถ้ามาจากถนนพระราม 2 ก็สามารถเข้าสู่ถนนเอกชัยฝั่งมุ่งหน้าจอมทองเพื่อเข้าถนนบางบอน 3 และ 5 ตรงทะลุมาออกถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งเหนือได้เช่นกันค่ะ

โครงการ ศุภาลัย วิลล์ เพชรเกษม 69 ตั้งอยู่ติดถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งเหนือ ตัวทำเลนี้จะอยู่ในย่านชานเมืองระหว่างนครปฐมและกรุงเทพ บรรยากาศรอบๆโครงการมีความเป็นชุมชนดั้งเดิม พื้นที่ติดถนนส่วนใหญ่จะเป็นตึกแถวเปิดเป็นห้างร้านต่างๆ และที่อยู่อาศัยแนวราบ นอกจากนั้นก็จะมีโรงงานขนาดกลางแทรกอยู่บ้างเป็นระยะๆ
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งเหนือเป็นถนนเส้นรองลงมาจากถนนเพชรเกษม 69 และเพชรเกษม 81 ค่ะ โดยอาศัยถนนเส้นหลักที่จะเข้าถึงตัวโครงนี้ได้คือถนนเพชรเกษมที่ถือเป็นถนนเส้นที่อยู่ในเขตศักยภาพทั้งจากรถยนต์ส่วนตัวและการขนส่งสาธารณะ นอกจากนั้นยังมีถนนสายสำคัญๆอย่าง ถนนกาญจนาภิเษก ถนนราชพฤกษ์ และถนนพุทธมณฑล ตัดผ่านอีกด้วย
การเดินทางสำหรับคนที่ทำงานในเมือง โซนสาทร สีลม มีให้เลือกหลักๆ 4 ทาง คือ ใช้เส้นเพชรเกษมขาเข้า วิ่งตรงไปแล้วเลี้ยวขึ้นวงแหวนกาญจนาภิเษก ก่อนเดอะมอลล์ บางแค ขับตรงไปแล้วเลี้ยวซ้าย ก็จะเชื่อมกับถนนกัลปพฤกษ์ วิ่งตรงสู่ราชพฤกษ์ เชื่อมสาทร สีลมได้เลย เว้นทางที่ 2 ให้ใช้เส้นเพชรเกษมขาเข้า วิ่งตรงไปจนถึงแยกถนนเพชรเกษม ตัดถนนราชพฤกษ์ แล้วเลี้ยวซ้ายขึ้นสะพาน ก็จะเชื่อมต่อกับถนนราชพฤกษ์ขาเข้า โดยเส้นราชพฤกษ์ขาเข้า จะผ่านทั้งรัชดา-ท่าพระ, แนวรถไฟฟ้าสายสีเขียว (ตากสิน-บางหว้า) จวบจนถึงสะพานตากสิน สาทร-สีลมได้อย่างสะดวกรวดเร็วเช่นเดียวกัน
เส้นทางที่ 3 สามารถใช้ถนนหน้าโครงการ เชื่อมต่อสู่ถนนเอกชัย วิ่งเข้าถนนกาญจนาภิเษก เส้นทางนี้ก็จะตัดเข้าสู่ถนนกัลปพฤกษ์ ออกไปยังสาทร-สีลมได้เลย ส่วนเส้นทางสุดท้าย สามารถใช้ถนนเส้นหน้าโครงการ วิ่งตัดเข้าเอกชัย หรือถนนพระราม 2 มุ่งหน้าขึ้นทางด่วนกาญจนาภิเษก ด่านบางพลี-สมุทรปราการ ทางด่วนนี้จะสามารถใช้ได้ทั้งเข้าเมืองไปสาทร-สีลม-พระราม 3 หรือจะออกเมืองไปยังโซนบางพลี-สมุทรปราการ ได้เลยค่ะ
ส่วนคนที่ทำงานในโซนสมุทรสาคร นครปฐม ก็สามารถใช้ถนนเพชรเกษม ฝั่งขาออก ขับตรงไปบนถนนเพชรเกษม ก็จะเชื่อมสู่อ้อมน้อย, อ้อมใหญ่, กระทุ่มแบน ยาวไปจนถึงนครปฐม, ราชบุรี, กาญจนบุรี ได้เลย หรือจะใช้พวกเส้นทางลัดอย่างถนนเอกชัย, ถนนพระราม 2 มุ่งหน้าเข้าสู่ตัวเมืองสมุทรสาคร
หากต้องการไปโซนมหาชัย, พุทธมณฑลสาย 4, ศาลายา แนะนำให้ใช้เส้นพุทธสาคร ซึ่งเป็นถนนใหญ่ 8 เลน การสัญจรใช้งานได้สะดวก ใครที่ทำงานโรงงานย่านมหาชัย หรือ เรียนโซนศาลายา สามารถใช้เส้นทางนี้ได้เลย รถไม่ติด สะดวกรวดเร็วดีค่ะ
ส่วนการจราจรแถวนี้จะติดเป็นบางช่วงเวลาโดยเฉพาะช่วงเวลาเร่งด่วนบนเส้นเพชรเกษม และพระราม 2 รถค่อนข้างวิ่งเยอะเนื่องจากเป็นเส้นท่ีเชื่อมออกไปยังเส้นต่างๆนั่นเองค่ะ

จากตัวโครงการขับไปยังถนนเพชรเกษมระยะทางประมาณ 4.4 กม. หรือขับไปเพียงไม่เกิน 10 นาทีก็ออกสู่ถนนใหญ่แล้ว
สำหรับทางด่วน โครงการนี้อยู่ไม่ไกลจากวงแหวนกาญจนาภิเษกฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ สะดวกสำหรับคนที่ต้องเดินทางไปยังบางบัวทองหรือทางบางพลีเป็นกิจวัตร รวมระยะทางไปสู่จุดขึ้นวงแหวนฯ ได้ประมาณ 10.7 กม. หรือขับรถประมาณ 15 นาทีค่ะ
จากวงแหวนกาญจนาภิเษก จะสามารถใช้เชื่อมต่อไปยังจุดขึ้นทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอกได้ โดยทางนี้สามารถใช้ไปยังแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด หรือเข้ารามอินทราก็สะดวก

จาก ถ.กาญจนาภิเษกกลับรถใต้สะพาน วิ่งเข้า ถ.พระราม 2 ตรงนั้นจะมีทางด่วนดาวคะนอง หรือทางพิเศษเฉลิมมหานคร สามารถใช้วิ่งไปทาง พระราม 4 จนไปถึงบางนา และชลบุรีได้เลยค่ะ

นอกจากนี้ ตัวโครงการยังอยู่ใกล้กับโครงการถนนเส้นพระเทพตัดใหม่ (พรานนก-พุทธมณฑลสาย 4) อีกหนึ่งโครงข่ายสำคัญเพื่อรองรับการเดินทางที่สะดวกสบายในอนาคต ซึ่งถูกแบ่งออกเป็น 2 ช่วง ช่วงแรกคือ โครงการก่อสร้างถนนบริเวณสามแยกไฟฉายหรือ จรัญสนิทวงศ์ (พรานนก)-วงแหวนกาญจนาภิเษก ขนาด 6 ช่องจราจร ระยะทาง 8.4 กม. และช่วงที่ 2 จากถ.กาญจนาภิเษก-พุทธมณฑลสาย 4 ระยะทาง 8 กม.
สำหรับโครงการช่วง 1 (จรัญสนิทวงศ์-กาญจนาภิเษก ) ได้เปิดให้บริการแล้ว จะช่วยระบายการจราจรออกสู่ถนนกาญจนาภิเษกเพื่อไปยังจังหวัดใกล้เคียงได้รวดเร็วขึ้นโดยไม่ต้องกระจุกตัวบริเวณถ.จรัญสนิทวงศ์, ถ.ปิ่นเกล้า และ ถ.บรมราชชนนี และโครงการช่วงที่ 2 (กาญจนาภิเษก-พุทธมลฑลสาย 4) จะช่วยให้การเดินทางออกนอกเมืองสะดวกรวดเร็วขึ้นโดยไม่มีปัญหาจราจรติดขัดเลยค่ะ (ปัจจุบันโครงการช่วงที่ 2 ยังอยู่ในขั้นตอนการดำเนินงานค่ะ)

สำหรับการเดินทางด้วยรถสาธารณะ จากตัวโครงการก็พอมีทางเลือกอยู่บ้าง เดินทางได้ไม่ลำบากค่ะ โดยหน้าโครงการจะมีรถสองแถวและพี่วินวิ่งผ่านอยู่เป็นระยะๆ หรือถ้าออกมาบนถนนเพชรเกษม 69 ก็จะมีป้ายรถเมล์ มีรถเมล์ สาย 7 วิ่งผ่าน สามารถนั่งไปรถไฟฟ้า BTS บางหว้า
หรือจะนั่งพี่วินให้ไปส่งตรงท่าเรือเพชรเกษม 69 ได้ ซึ่งท่าเรือนี้จะมีเรือวิ่งไปถึง BTS บางหว้า เปิดบริการ 2 ช่วงเวลา ได้แก่ ช่วงเช้า 06.00-09.00 น. และช่วงเย็น 16.00-19.30 น รองรับผู้โดยสาร 900 คน/วัน มีเรือให้บริการ 12 ลำ ค่ะ
เรือโดยสารคลองภาษีเจริญ ซึ่งท่าเรือเพชรเกษม 69 ท่าเรือนี้เป็นท่าเรือต้นทางด้วยนะ เส้นทางการเดินเรือมีทั้งหมด 15 ท่า ต้นทางคือท่าเรือเพชรเกษม 69 สิ้นสุดที่ท่าเรือประตูน้ำภาษีเจริญ
นอกจากนั้นในอนาคตสามารถใช้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีหลักสอง (ตรง The Mall บางแค) ได้ค่ะ

ความอุดมสมบูรณ์ของตัวโครงการ ที่อยู่ในระยะไม่ไกลจะมีตลาดคุณตาพลอย และตลาดคุณพ่อ มีของขายหลากหลายทั้งของสดและอาหารพร้อมทาน รวมไปถึงของใช้ราคาย่อมเยา นอกจากนั้นยังมี 7-11 และซุปเปอร์มาร์เก็ตใกล้ๆตลาดด้วย ก็ถือว่ามีของกินของใช้ในชีวิตประจำวันในระยะไม่ไกลให้ได้พึ่งพาอยู่ โดยเราสามารถนั่งรถสองแถวหรือพี่วินไป – กลับตลาดได้ ง่ายๆค่ะ
มองวงกว้างออกมาอีกหน่อย ก็มีความอุดมสมบูรณ์มาเต็ม ทั้งตลาดคลองขวาง, Lotus Express, Big C mini และ 7-11 ก็มีเป็นระยะไม่ขาดเลยค่ะ หรือแม้แต่ Community mall อย่าง Victoria Garden ก็อยู๋ไม่ไกล แค่ตรงปากทางเข้าเพชรเกษม 69 เท่านั้น ส่วนขา Shop ห้างใหญ่ๆก็ต้องออกมาไกลนิดนึงอย่าง The Mall บางแค, Seacon บางแค หรือจะไปไกลอีกหน่อยลงมาทางเส้นพระราม 2 ก็มี Cental พระราม 2 ค่ะ
การเดินทาง

การเดินทางในวันนี้ เราจะเริ่มต้นกันบนบนถนนกาญจนาภิเษก เข้าถนนเพชรเกษม ฝั่งขาออกมุ่งหน้าพุทธมณฑล สาย3 เลี้ยวซ้ายเข้าซอยเพชรเกษม 69 ตรงไป 1.8 กม.เลี้ยวขวาตรงแยกไฟแดงเข้าสู่ถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งเหนือ ตรงไป 2.5 กม.โครงการอยู่ทางด้านขวามือ
สรุปการเดินทาง ถนนกาญจนาภิเษก > ถนนเพชรเกษม > แยกเพชรเกษม 69 > ถนนเพชรเกษม 69 > ถนนเลียบคลองภาษีเจริญ ฝั่งเหนือ > ศุภาลัย วิลล์ เพชรเกษม 69
การเดินทางเรามาจากถนนกาญจนาภิเษก วงแหวนรอบนอกตะวันตก เบี่ยงซ้ายเข้าทางขนานตามป้ายไปถนนเพชรเกษม, นครปฐมค่ะ
เบี่ยงซ้ายออก ผ่านแยกต่างระดับเพชรเกษมเข้าสู่ถนนเพชรเกษม
ตรงไปเรื่อย ๆ ตามป้ายไปหนองแขม ผ่านแยกพุทธมณฑลสาย 2
ผ่านซอยเพชรเกษม 63 (ซอยวัดม่วง) ที่สามารถลัดไปออกถนนกาญจนาภิเษกได้ด้วยคะ
ผ่าน Power Center เพชรเกษม
ผ่าน Victoria Gardens เพชรเกษม จากนั้นให้ชิดซ้ายเราจะเลี้ยวไปถนนเพชรเกษม 69 กันคะ
ถึงแยกเพชรเกษม 69 แล้วเลี้ยวซ้าย

ระยะทางจากต้นซอยเพชรเกษม 69 ถึงตัวโครงการจะมีระยะทางประมาณ 5.3 กิโลเมตร สำหรับซอยเพชรบุรี 69 นี้สภาพแวดล้อมโดยรวมจะเป็นชุมชุนที่มีหมู่บ้านอยู่หลายหมู่บ้านมาก มีโรงงานปะปนอยู่บ้านประปราย นอกจากนั้นยังมีโรงเรียนและวัดซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจอยู่ด้วย จึงไม่แปลกที่ด้านในซอยจะมีความอุดมสมบูรณ์ค่อนข้างสูง ทั้งตลาด และ Hyper market อย่าง BigC mini, Tesco Lotus express เรียงราย
ผ่านวัดราษฎร์บำรุง ตรงไปอีก 900 ม.ถึงแยกคลองขวาง
ถึงแยกแล้วเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนเลียบคลองภาษีเจริญ ฝั่งเหนือ
ตรงไปประมาณ 2.4 กม.ถึงโครงการแล้วค่ะ
ถึงโครงการศุภาลัย วิลล์ เพชรเกษม 69

ถนนและแยกรอบๆโครงการ

สถานที่สำคัญรอบๆโครงการ
รอบๆโครงการ
พื้นที่รอบๆโครงการเป็นที่อยู่อาศัยแนวราบและที่ดินเปล่าซะส่วนใหญ่ค่ะ บรรยากาศโดยรวมมีความเป็นชุมชนดั้งเดิม มีทั้งร้านค้าติดถนน, โรงเรียน, ร้านสะดวกซื้อ ในละแวกใหล้ๆโครงการ โดยที่ดินดินถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งเหนือจะเป็นทั้งตึกแถว และทางเข้าหมู่บ้านต่างๆ นอกจากนั้นก็จะมีโรงเรียน และโรงงานขนาดเล็กถึงขนาดกลางแทรกอยู่บ้างเป็นระยะๆ
มาลองดูบรรยากาศจริงรอบๆตัวโครงการกันบ้างค่ะ เริ่มจากหน้าโครงการเลย จะอยู่ติดกับถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งเหนือฝั่งตรงข้ามเป็นบ้างข้างเคียง
ฝั่งซ้ายมือของโครงการติดกับอาคารพาณิชย์ สูง 4 ชั้น ถัดไปเป็นบ้านข้างเคียงและตึกแถวค่ะ
เราเดินไปดูบรรยากาศทางขวามือกันต่อ โดยที่เราจะเดินไปจนถึงตลาดคุณตาพลอย กับตลาดคุณพ่อที่อยู่ไม่ไกลจากโครงการกันค่ะ
ติดกับโครงการทางฝั่งขวามือเป็นที่ดินเปล่า ล้อมรั้วไว้ตามภาพค่ะ
ฝั่งตรงข้ามจะเป็นที่อยู่อาศัยของชาวบ้านแถวนี้ ถัดไปที่เห็นล้อมรั้วเขียวๆไว้ก็เป็นที่ดินเปล่า ถัดเข้าไปด้านในลึกหน่อยจะเป็นบ้านเดี่ยว
เดินต่อมาอีกหน่อยจะเจอซอยทางเข้าหมู่บ้านพฤกษา วิลล์ 4 หน้าทางเข้ามีร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ดเยาวราช มีคนทานเยอะเชียวน่าจะอร่อยนะคะ
หันไปมองฝั่งตรงข้ามก็จะมีร้านขายของชำเล็กๆน้อยๆ
ถัดมาอีกหน่อย ฝั่งตรงข้ามก็จะเจอโรงเรียนพิชญ์ชนกหนองแขม
ส่วนทางฝั่งเดียวกับโครงการจะเป็นคล้ายๆห้องแถว เปิดเป็นร้านต่างๆ เช่น ร้านซ่อมเครื่องยนต์, ร้านเสริมสวย, ร้านก๋วยเตี๋ยวโฮเด้ง เป็นต้น
ส่วนฝั่งตรงข้ามเป็นโรงงานเสาเข็ม
ถัดมามีร้านขายอุปกรณ์จัดสวนและจิปาถะ
เดินมาอีกหน่อยมีร้านก๋วยเตี๋ยวอีกร้าน
เดินจากโครงการมาแค่ประมาณ 600 เมตร ก็ถึงบริเวณตลาดแล้วค่ะ โดยจะมีตลาด 2 แห่ง อยู่ติดกัน คือตลาดคุณตาพลอยและตลาดคุณพ่อ ข้างๆตลาดมี 7-11 ด้วย
ตลาดคุณตาพลอยเป็นเต็นท์ใหญ่ๆ ขายของกินทั้งของสด และปรุงพร้อมทาน
ถัดไปอีกหน่อยเป็นตลาดคุณพ่อเน้นเปิดเป็นห้องๆ มีของกิน ของใช้ขาย
ติดกันก็มี Mini BigC
ตรงข้ามตลาดมีซุปเปอร์ด้วย ครบครันทีเดียวค่ะ
นอกจากร้านสะดวกซื้อและซุปเปอร์มาร์เก็ตแล้วก็จะมีร้านอาหารเปิดอยู่รอบๆบ้างค่ะ เช่น ร้านก๋วยเตี๋ยว,ข้าวหมูแดง หมูกรอบ เป็นต้น
ตัวโครงการ
โครงการศุภาลัย วิลล์ เพชรเกษม 69 เป็นโครงการบ้านเดี่ยว, บ้านรุ่นใหม่และทาวน์โฮม จำนวน 353 ยูนิต ที่ดิน 52 – 0 – 5.8 ไร่ ถือว่าเป็นโครงการที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ ตัวโครงการจะมีทางเข้าจากถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งเหนือค่ะ ทางเข้าโครงการจะมี Main Gate แยกทางเข้า – ออก ใช้ระบบรั้วกั้น ไม้กระดก แบบ Access Card พร้อมติดตั้งกล้อง CCTV
โดยช่วงต้นโครงการจะเป็นที่ดินแนวแคบและยาว แบ่งพื้นที่ทางฝั่งขวามือเป็นพื้นที่ส่วนกลาง ทั้งสวนสาธารณะและอาคารคลับเฮ้าส์, ฟิตเนส, ห้องน้ำและห้องอาบน้ำ และสระว่ายน้ำ ระบบเกลือ 8 x 20 ลึก 1 เมตร ส่วนฝั่งซ้ายมือจะมียูนิตพักอาศัยแบบบ้านเดี่ยว 2 ชั้น เกาะถนนหลักเข้าไปจนถึงที่ดินผืนใหญ่ของโครงการด้านหลัง ที่จะเริ่มมีแบ่งเป็นซอยย่อยๆ และมีบ้านให้เลือก 3 แบบ ทั้งบ้านเดี่ยว, บ้านรุ่นใหม่ และทาวน์โฮมค่ะ
สำหรับถนนโครงการจะมีถนนหลัก กว้าง 16 เมตร และถนนซอยที่มีความกว้าง 9 เมตร ซึ่งถือว่ากว้าง ขับรถสวนกันได้สะดวก ส่วนรั้วโครงการ สูง 3 เมตร และรั้วระหว่างบ้านสูงประมาณ 1.5 เมตร
เรามาดูตัวบรรยากาศของจริงกันต่อเลย เริ่มจาก Main Gate หน้าโครงการ แยกทางเข้า – ออก ตรงกลางเป็นป้อมรปภ. มีพี่รปภ.ประจำการ 24 ชม.
ฝั่งขวามือติดกับ Main Gate เป็นสวนหย่อมและป้ายโครงการ
สวนนี้จะเชื่อมเข้าไปในตัวโครงการได้ เพราะฉะนั้นลูกบ้านที่เดินออกไปซื้อของเล็กๆน้อยๆก็สามารถเดินเข้าโครงการทางนี้ได้เช่นกันค่ะ
ส่วนฝั่งซ้ายมือจาก Main Gate ก็จะเป็นป้ายชื่อหลักโครงการ
กลับมาที่ซุ้มทางเข้าใช้ระบบ Access Card Control พื้นถนนช่วงแรกปูคอนกรีตสแตมป์เป็นลายดอกไม้
แต่ละฝั่งติดตั้งกล้อง CCTV ฝั่งละ 2 ตัว ส่องหน้ารถและป้ายทะเบียน
เข้ามาภายในโครงการจะเจอถนนกว้าง 16 เมตร
ฝั่งซ้ายมือเป็นพื้นที่ก่อสร้างในอนาคต
ฝั่งขวามือจะเป็นส่วนกลางหลักของโครงการ ยาวไปจนถึงประมาณกลางๆโครงการเลยค่ะ
ส่วนแรกเป็นที่จอดจักรยาน
ถัดเข้ามาเป็นสวนสาธารณะ มีทางเดินและฟุตบาทเชื่อมยาวไปจนถึงอาคารคลับเฮ้าส์
ระหว่างทางจะมีม้านั่งไว้ให้นั่งพักผ่อนเป็นระยะๆ
ฝั่งตรงข้ามสวนก็จะเริ่มเป็นยูนิตของบ้านเดี่ยว
เดินต่อมาเรื่อยๆถึงช่วงกลางๆสวนจะมีศาลพระภูมิของโครงการ
ถัดมาอีกหน่อยเป็นส่วนสนามเด็กเล่น พื้นปูหญ้า วางเครื่องเล่นขนาดใหญ่มาให้ 1 ชิ้น สีสันสดใส
สวนนี้พาน้องหมาน้องแมวมาเดินเล่นได้ แต่ห้ามขับถ่ายบริเวณพื้นที่ส่วนกลางนะจ๊ะ
มองย้อนไปในสวนจากสนามเด็กเล่น
ขยับมาอีกหน่อยจะเป็นวงเวียนกลางสวน ตกแต่งไว้ให้ตัวสวนดูไม่เรียบจนเกินไป
ฝั่งตรงข้ามสวนสาธารณะและสนามเด็กเล่นจะเป็น Sale Office ของโครงการ ซึ่งตอนนี้ใช้บ้านเดี่ยวของเป็นที่ประจำการนะคะ ถ้าใครขับรถเข้าโครงการมาก็สังเกตง่ายๆ ด้านหน้าจะมีป้ายติดไว้ว่าบ้านหลังนี้เป็น Sale Office ค่ะ
กลับมาทางพื้นที่ส่วนกลาง ถัดมาจากตรงวงเวียนก็จะมีที่จอดรถสำหรับลูกค้าที่เข้ามาเยี่ยมชมโครงการ หรือในอนาคตก็จะเป็นที่จอดรถส่วนกลาง สำหรับคนที่มาใช้งานคลับเฮ้าส์ และสวนนะคะ
ถัดมาจะเป็นส่วนของอาคารคลับเฮ้าส์ สีสันสดใส เป็นอาคารชั้นเดียว มีส่วนกลางทั้งภายในอาคารและ Outdoor
โดยส่วน Outdoor จะเป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือ อยู่ด้านหน้าอาคารคลับเฮ้าส์เลยค่ะ
ตัวสระเป็นสระระบบเกลือ ขนาด 8 x 20 เมตร ไม่มีแยกสระเด็กนะคะ และรอบๆสระจะมีไม่พุ่มตัดแต่งเรียบร้อย ความสูงพอจะช่วยบังสายตาจากส่วนสวนและถนนในโครงการได้ ทำให้เวลาเราเล่นน้ำอยู่ก็จะมีความเป็นส่วนตัวค่ะ
สระเป็นระบบน้ำล้น มีพื้นที่รองรับน้ำข้างสระ ตกแต่งด้วยหินกรวด
ข้างสระมีจุดล้างตัว ติดตั้งฝักบัวมาให้ 3 จุดเลยทีเดียว
พื้นที่ริมสระ จัดมาให้เป็น Pool Terrace พร้อมลงชุดโต๊ะนั่งริมสระและร่มกันแดดมาให้ 2 ชุด หรือประมาณ 8 ที่นั่ง
มุมจากสระว่ายน้ำมองย้อนไปทางอาคารคลับเฮ้าส์
ด้านหน้าอาคารติดกับสระจะมี Sun Bed ไว้ให้นั่งชิลๆอีก 4 ตัว
ถัดมา เรามาดูภายในส่วนอาคารคลับเฮ้าส์กันต่อ โดยทางเข้าแต่ละห้องของคลับเฮ้าส์จะอยู่ข้างๆอาคารนะคะ
มีกฎระเบียบที่ต้องใช้ร่วมกัน และเวลาทำการตั้งแต่ 6.00 – 22.00 น. ติดไว้ให้อ่านเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยของโครงการ
ระเบียบการใช้ห้องฟิตเนสก็มีติดไว้ให้ด้วย
ภายในห้องฟิตเนสเป็นห้องที่มีขนาดกลางๆ ไม่ใหญ่มาก แต่ก็มีความโปร่งพอสมควร เพราะมีช่องแสงรอบห้องและอีกฝั่งติดกระจกเงา ฝ้าเพดานไล่ระดับตามโครงหลังคา
ผนังฝั่งสระว่ายน้ำเป็นช่องแสงขนาดใหญ่ มองเห็นวิวสระว่ายน้ำด้วย
อีกฝั่งเป็นกระจกเงาเป็นแนวยาวเต็มผนัง ไว้ใช้เช็คฟอร์มเวลาเราเล่นเครื่องเล่นต่างๆค่ะ
อุปกรณ์ที่ทางโครงการจัดมาให้ มีบอลและเสื่อโยคะ 2 ชุด พร้อมเครื่องชั่งน้ำหนัก
ดัมเบลคละน้ำหนัก 20 ชิ้น
เบาะปรับระดับได้ 1 เบาะ
จักรยานไฟฟ้า 1 เครื่อง
Eliptical 1 เครื่อง
ลู่วิ่งไฟฟ้า 2 เครื่อง
เครื่องบริการกล้ามเนื้อ 1 เครื่อง
วิวจากลู่วิ่งไฟฟ้ามองออกไปเห็นสระว่ายน้ำ
ออกมาจากห้องฟิตเนส ติดกันเป็นส่วนของห้องนิติฯนะคะ เราเลยข้ามมาดูด้านหลังที่เป็นส่วนห้องน้ำกันต่อ โดยจะแยกเป็นห้องน้ำชาย – หญิง
เข้ามาดูในห้องน้ำชายกันก่อน ทำออกมาสวยน่าใช้งาน กว้างขวางและมีฟังก์ชั่นครบค่ะ โดยเข้ามาปุ๊ปก็จะเจอพื้นที่อเนกประสงค์ ขวามือเป็นกระจกเงาและเคาน์เตอร์สำหรับแต่งตัว
ขวามือเป็นล็อคเกอร์ มีให้ใช้งานทั้งหมด 18 ช่อง พร้อมกุญแจ
ถัดเข้ามาด้านในเป็นอ่างล้างมือและกระจกเงา
ติดกันเป็นโถปัสสาวะชาย 2 โถ
อีกฝั่งเป็นห้องน้ำ 2 ห้องและห้องอาบน้ำ 2 ห้อง
ภายในห้องน้ำติดตั้งโถสุขภัณฑ์มาให้ครบชุด
ในห้องอาบน้ำติดตั้งฝักบัวและเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้ด้วยค่ะ
เข้ามาในห้องน้ำหญิงจะตกแต่งมาเหมือนห้องน้ำชาย แต่จะไม่มีโถปัสสาวะ เลยจะมีห้องน้ำและอ่างล้างมือมากขึ้นเข้ามาแทน ซ้ายมือเป็นล็อคเกอร์พร้อมกุญแจ 18 ช่อง
ขวามือเป็นกระจกเงาบานใหญ่และเคาน์เตอร์แต่งหน้าแต่งตัว
ด้านในมีอ่างล้างมือ 3 อ่างพร้อมกระจกเงาบานใหญ่
ขวามือเป็นห้องน้ำ 2 ห้อง และห้องอาบน้ำ 2 ห้อง
ภายในห้องน้ำ
ภายในห้องอาบน้ำ มีเครื่องทำน้ำอุ่นให้ด้วยนะจ๊ะ
แบบบ้าน
บ้านในโครงการนี้มีให้เลือกทั้งบ้านเดี่ยว, ทาวน์โฮม และบ้านรุ่นใหม่ ซึ่งจะมีความแตกต่างกันทั้งในเรื่องของขนาดและฟังก์ชั่นที่รองรับครอบครัวทุกรูปแบบ
โดยบ้านเดี่ยวจะมีทั้งหมด 5 แบบ คือ
แบบบ้านทาวน์โฮม 1 แบบ คือ
แบบบ้านรุ่นใหม่ 1 แบบ คือ
แปลนบ้านชั้น 1 | แปลนบ้านชั้น 2
แปลนบ้านชั้น 1 | แปลนบ้านชั้น 2
แปลนบ้านชั้น 1 | แปลนบ้านชั้น 2
แปลนบ้านชั้น 1 | แปลนบ้านชั้น 2
แปลนบ้านชั้น 1 | แปลนบ้านชั้น 2
แปลนบ้านชั้น 1
แปลนบ้านชั้น 2
แปลนบ้านชั้น 1
แปลนบ้านชั้น 2
บ้านตัวอย่าง
บ้านตัวอย่างที่เราจะพาชมกันในวันนี้เป็นบ้านเดี่ยว 2 แบบ คือ
เริ่มกันที่บ้านตัวอย่างแบบแรก เป็นบ้านเดี่ยวขนาดเริ่มต้น แบบบ้านศุภดำรง พื้นที่ใช้สอย 167 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องทำงาน 1 ส่วนพักผ่อน 2 ที่จอดรถ
หน้าตาการออกแบบภายนอกของบ้านโครงการนี้จะมาในโทนเดียวกันหมดค่ะ คือจะใช้สีโทนอ่อน ทำให้ตัวบ้านดูสว่าง งานดีไซน์เรียบๆ สำหรับบ้านแบบนี้จะมีลูกเล่นที่โถงบันไดมีช่องแสงขนาดใหญ่ที่เราเห็นจากหน้าบ้านได้เลยค่ะ
แปลนของตัวบ้าน ชั้น 1 พื้นที่ส่วนแรกเป็นที่จอดรถขนาด 2 คัน ส่วนทางเข้าตัวบ้านจะมีทางเดียว เป็นประตูทางเข้าหน้าบ้าน เมื่อเข้าไปในตัวบ้านพื้นที่ส่วนแรกจะเป็นโถงกว้าง รวมพื้นที่โถงบันได, ห้องรับแขก, ห้องทานอาหารและส่วนเตรียมอาหารเข้าไว้ด้วยกัน ถัดเข้าไปจากส่วนโถงจะเป็นพื้นที่ห้องครัว เป็นครัวปิด และห้องน้ำชั้นล่างจะอยู่ติดกับห้องอเนกประสงค์ค่ะ
แปลนบ้านชั้น 2 ขึ้นมาจะเจอพื้นที่โถงบันไดเป็นโถงพักผ่อน จากโถงนี้จะแจกไปยังห้องนอน 3 ห้อง โดยห้อง Master Bedroom จะอยู่ฝั่งหน้าบ้าน มีห้องน้ำและระเบียงในตัว ส่วนห้องนอนรองอีก 2 ห้องจะอยู่ฝั่งหลังบ้านและห้องนอนรองทั้ง 2 ห้องนี้จะแชร์ห้องน้ำที่อยู่ติดกับโถงบันไดค่ะ
เข้ามาดุรายละเอียดภายในตัวบ้านกันต่อเลย เริ่มจากหน้าบ้านส่วนแรกเป็นที่จอดรถ พื้นบ้านมาตรฐานปูกระเบื้องมาให้ในส่วนที่จอดรถด้วยค่ะ
จากที่จอดรถเราจะเห็นช่องแสง 2 บาน เป็นช่องแสงจากโถงหน้าบ้านและช่องแสงของห้องน้ำชั้น 1
พื้นที่ข้างบ้านจะเป็นสวนที่ทางโครงการจัดมาให้ในบ้านมาตรฐานด้วย
พื้นที่หลังบ้านเป็นลานซักล้าง ปูพื้นมาให้บางส่วนโดยจะปูพื้นแยกจากตัวบ้านนะคะ ส่วนรั้วระหว่างบ้านจะสูง 1.5 เมตร เป็นรั้วทึบสีขาว
พื้นที่ข้างบ้านอีกฝั่งจะจัดเป็นสวนมาให้เช่นกัน
กลับมาที่ประตูทางเข้าหน้าบ้าน จะมีเฉลียงทางเข้าบ้าน มีหลังคาคลุมช่วยบังแดดกันฝนได้
พื้นเฉลียงหน้าบ้านปูกระเบื้องเซรามิคและทรายล้างรอบๆ ขนาดเฉลียงสามารถวางชั้นวางรองเท้าได้แต่ต้องเผื่อระยะประตูไว้ด้วยนะคะ
สำหรับประตูทางเข้าตัวบ้านจะได้เป็นบานสวิง เปิดออกนอกตัวบ้าน บานกรอบอลูมิเนียมอบขาว และกระจกเขียวตัดแสงจะช่วยตัดแสงที่จะเข้าไปในตัวบ้านได้
มือจับแบบก้านโยกและตัวล็อคจากด้านนอกและด้านในตัวบ้าน
เข้ามาในตัวบ้านจะเจอกับห้องรับแขกเป็นส่วนแรก เชื่อมต่อไปยังส่วนห้องรับประทานอาหาร ในบ้านจริง พื้นชั้น 1 ทั้งชั้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 เซนติเมตร ความสูงฝ้าเพดาน 2.45 – 2.50 เมตร ผนังได้เป็นคอนกรีตฉาบเรียบทาสี
มองย้อนกลับมาทางประตูทางเข้าหน้าบ้านจะเห็นพื้นที่โถงบันไดและพื้นที่ห้องเก็บของใต้บันได
ซึ่งมุมหน้าห้องเก็บของตรงนี้ก็สามารถที่จะปรับเป็นพื้นที่สำหรับวางตู้เก็บรองเท้าแบบนี้ได้พอดีเลย
กลับมาดูพื้นที่ภายในห้องรับแขก พื้นที่ส่วนนี้จะเป็นโถงกว้างๆ มีช่องแสงขนาดใหญ่ติดฝั่งสวน
ช่องแสงขนาดใหญ่ในห้องรับแขกเป็นหน้าต่างบานสไลด์และบานฟิกซ์ รับแสงธรรมชาติเข้ามาในห้องช่วยให้ห้องดูโปร่ง และสว่างในเวลากลางวัน แล้วยังสามารถเปิดเพื่อระบายอากาศได้ด้วย แต่ถ้าหากใครชอบเปิดหน้าต่างทิ้งไว้นานๆก็แนะนำให้ติดมุ้งลวดที่ประตูและหน้าต่างด้วยค่ะ
พื้นที่ห้องรับแขกที่มีขนาดกว้าง สามารถวางโซฟาตัวใหญ่ๆ ขนาด 4 – 6 ที่นั่งได้สบายๆ หรือจะวางเป็นโซฟาทรง L – Shape เพิ่มที่นั่งหรือนอนเหยียดขาได้อีก
ฝั่งตรงข้ามโซฟาจะเป็นพื้นที่สำหรับติดตั้งชั้นวางทีวี โดยในบ้านมาตรฐานจะเป็นพื้นที่โล่งๆ เราสามารถวางชั้นวางง่ายๆ หรือจะ Built – in เป็นชั้นวางไว้โชว์ของเพิ่มก็ได้ค่ะ
ระยะดูทีวีเหลือประมาณ 2.5 เมตร สามารถวางทีวีขนาด 50″ – 60″ จะได้ระยะดูทีวีที่สบายตา
ถัดจากห้องรับเแขกเข้ามาก็จะเป็นโถงยาวต่อเนื่องมาเลยค่ะ พื้นที่ส่วนด้านหลังจะจัดเป็นห้องทานอาหาร และส่วนเตรียมอาหาร
สำหรับพื้นที่ห้องทานอาหารจะมีช่องแสงทั้งจากฝั่งข้างบ้านและหลังบ้าน โดยช่องแสงฝั่งข้างบ้านจะเป็นประตูบานสไลด์ เวลาเพื่อนๆมาปาร์ตี้ก็สามารถที่จะเปิดเพื่อเชื่อมพื้นที่ข้างบ้านและห้องทานอาหารได้
ขนาดพื้นที่ในห้องทานอาหารสามารถวางโต๊ะทานอาหารขนาด 4 – 6 ที่นั่งได้พอดีๆ มีระยะเลื่อนเก้าอี้ข้างโต๊ะได้สะดวก
ติดกับห้องทานอาหารจะเป็นพื้นที่เตรียมอาหาร กั้นห้องมาด้วยประตูบานสไลด์ลูกฟักกระจก เป็นครัวปิด ช่วยกันกลิ่นอาหารและคราบมันไม่ให้ไปติดโซฟาและเฟอร์นิเจอร์ในห้องอื่นๆ
ภายในห้องครัวของจริงจะได้เป็นห้องเปล่า มีเดินระบบท่อมาให้เรียบร้อยพร้อมติดตั้ง
ช่องแสงในห้องครัวจะมีทั้งหน้าต่างบานสไลด์และบานกระทุ้ง สามารถเปิดเพื่อระบายอากาศและรับแสงธรรมชาติเข้ามาเพื่อฆ่าเชื้อโรคภายในห้องได้ดี เพราะฉะนั้นบริเวณนี้จึงเหมาะที่จะวางซิ้งค์ล้างจานและที่พักจานค่ะ
ขนาดพื้นที่ใช้สอยในห้องครัวถือว่ากว้างขวางเลย สามารถ Built – in เคาน์เตอร์ครัวได้ทั้ง 2 ฝั่ง แล้วยังมีพื้นที่ให้เข้ามาช่วยกันทำอาหารได้ 2 – 3 คน สบายๆ
กลับออกมาที่ห้องทานอาหาร ให้ดูภาพรวมจากพื้นที่ส่วนห้องทานอาหารย้อนไปทางประตูทางเข้าหน้าบ้านค่ะ
ติดกับพื้นที่ทานอาหารและห้องครัวจะเป็นส่วนห้องอเนกประสงค์ และห้องน้ำที่ชั้น 1
มีโถงทางเดินเล็กๆแยกเข้าไปแบบนี้ ถ้าใช้เป็นห้องนอนชั้นล่างก็จะมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นค่ะ
ภายในห้องอเนกประสงค์สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นได้ตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละบ้านเลย ไม่ว่าจะเป็นห้องนอนชั้นล่าง, ห้องทำงาน, ห้องอ่านหนังสือก็ได้ค่ะ โดยห้องนี้จะมีช่องแสงเป็นหน้าต่างบานสไลด์ 1 จุด
ถ้าจะจัดเป็นห้องนอนก็สามารถที่จะวางเตียงขนาดควีนไซส์ได้ แต่ถ้าอยากได้ระยะสบายๆก็วางเตียงเดี่ยว 3.5 ฟุต กับชุดเฟอร์นิเจอร์ครบชุดก็เหมาะพอดีๆค่ะ
ประตูกั้นห้องที่เป็นบานทึบจะได้ตัว Stopper ติดตั้งมาให้ด้านหลังทุกบานแบบนี้นะคะ เพื่อป้องกันการเปิดประตูกระแทกผนังด้านหลัง
ติดกับห้องอเนกประสงค์เป็นห้องน้ำชั้น 1
ภายในห้องน้ำมีพื้นที่อาบน้ำไว้รองรับสำหรับการจัดห้องอเนกประสงค์เป็นห้องนอนชั้นล่างด้วย ส่วนช่องแสงในห้องน้ำจะได้เป็นบานกระทุ้งแนวยาว 1 บาน พร้อมมุ้งลวดกันแมลง
สุขภัณฑ์ใช้ของ Cotto ติดตั้งมาให้ครบชุด โดยอ่างล้างมือจะได้เป็นอ่างลอยตัว สีขาว ไม่มีที่เก็บของใต้อ่าง เพราะฉะนั้นถ้าหากมีอุปกรณ์อาบน้ำหลายชิ้นก็แนะนำให้หาชั้นวางหรือติดตั้งเคาน์เตอร์ใต้อ่างเพิ่มนะคะ
ส่วนโถสุขภัณฑ์ก็จะใช้ของ Cotto เช่นกัน เป็ฯแบบ Dual Flush ช่วยประหยัดน้ำ พร้อมสายชำระและที่วางกระดาษชำระ
พื้นที่ส่วนอาบน้ำติดตั้งฝักบัวมาให้เป็นแบบ Hand Shower แต่ไม่มีกั้นพื้นที่แยกส่วนแห้งส่วนเปียกนะคะ ซึ่งตรงนี้เราสามารถกั้นม่านอาบน้ำเพิ่มได้ค่ะ
ขนาดพื้นที่ยืนอาบน้ำประมาณ 1.2 x 0.8 เมตร
ออกมาที่ส่วนโถงบันได เราขึ้นไปดูบนชั้น 2 กันต่อค่ะ
ตัวโถงบันไดของบ้านแบบนี้จะพิเศษหน่อยตรงที่เป็นโถงสูง พร้อมช่องแสงขนาดใหญ่เต็มพื้นที่ เข้ามุมพอดีกับพื้นที่หน้าบ้านช่วยให้ตัวโถงนี้สว่างโดยไม่ต้องเปิดไฟได้เลยค่ะ ในเวลากลางวัน
ชานพักบันไดเป็นแบบเข้ามุมพอดีกับพื้นที่ กว้าง เดินขึ้น – ลง ได้อย่างปลอดภัย
ขึ้นมาบนชั้น 2 จะเจอพื้นที่โถงพักผ่อนเป็นส่วนแรก
สำหรับพื้นที่โถงพักผ่อนที่ชั้น 2 นี้ จะเป็นโถงกว้างๆ ซึ่งจะแจกไปยังห้องนอนทั้ง 3 ห้องและห้องน้ำ 1 ห้อง
ขนาดของโถงพักผ่อนที่ชั้น 2 นี้ ถือว่ามีขนาดกว้างพอสมควรเลยค่ะ สามารถวางชุดโซฟานั่งพักผ่อนขนาด 3 – 4 ที่นั่งได้สบายๆ หรือจะวางเป็นพื้นที่นั่งทำงานอดิเรกหรือพื้นที่ทำกิจกรรมร่วมกันของครอบครัวก็ได้
โดยช่องแสงในส่วนโถงนี้ก็ให้เป็นบานใหญ่มาอีกเช่นกัน โดยจะได้เป็นชุดหน้าต่างบานสไลด์และบานฟิกซ์เต็มพื้นที่ผนังด้านหลังมาแบบนี้เลย สามารถรับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ และเปิดระบายอากาศได้ดีด้วย
มุมจากพื้นที่นั่งพักผ่อนมองไปอีกฝั่งก็จะเห็นประตูของห้องนอนทั้ง 3 ห้องและห้องน้ำ 1 ห้อง
เรามาดูในส่วนห้องนอนรองห้องแรกกันก่อนค่ะ
ภายในห้องมีช่องแสง 2 บาน เป็นหน้าต่างบานสไลด์พร้อมมุ้งลวด 1 ฝั่ง สามารถเปิดพร้อมกันเพื่อระบายอากาศได้ดี
ขนาดพื้นที่ห้องนี้สามารถวางเตียงควีนไซส์ได้ หรือถ้าเป็นห้องเด็กจะวางเตียงเดี่ยวก็ได้ จะได้มีพื้นที่วางของเล่นเด็กๆอีกหน่อย
พื้นที่ฝั่งปลายเตียงมีระยะเหลือให้จัดเป็นโต๊ะทำการบ้านและตู้เสื้อผ้า ที่มีพื้นที่การใช้งานพอดีๆเลยค่ะ
อีกมุมของห้อง
ถัดมาที่ห้องนอนรอง 2 ที่อยู่ติดกับห้องน้ำ
ภายในห้องนี้จะมีขนาดใหญ่กว่าห้องที่แล้วนิดหน่อย จัดมาให้ดูเป็นสไตล์ห้องเด็กวัยรุ่นที่โตขึ้นมาหน่อยนะคะ ส่วนช่องแสงของห้องนี้ก็มีมาให้ 2 บานเช่นกัน สามารถเปิดพร้อมกันเพื่อช่วยระบายอากาศได้ดี
ห้องนี้วางเตียงควีนไซส์พร้อมเฟอร์นิเจอร์ครบชุดได้สบายๆค่ะ
มีพื้นที่เหลือข้างเตียงให้วางโต๊ะเครื่องแป้งหรือโต๊ะหัวเตียงได้ทั้ง 2 ฝั่ง
ระยะที่เหลือปลายเตียงสามารถวางชั้นวางเล็กๆได้ หรือจะติดตั้งทีวีแบบแขวนก็ได้นะจะได้ไม่เกะกะทางเดิน
อีกมุมของห้องทางโครงการจัดเป็นตู้เสื้อผ้ามาให้ดูเป็นตัวอย่าง มีระยะการใช้งานที่พอให้ยืนแต่งตัวได้ และถ้าใครเสื้อผ้าเยอะกว่านี้ก็สามารถเพิ่มขนาดตู้ได้ แต่แนะนำให้ใช้เป็นตู้บานสไลด์จะช่วยประหยัดพื้นที่การใช้งานค่ะ
ออกมาดูที่ส่วนห้องน้ำกันต่อ โดยห้องน้ำจากโถงพักผ่อนนี้จะเป็นห้องน้ำที่ห้องนอนรองทั้ง 2 ห้องใช้ร่วมกันนะคะ
ภายในห้องน้ำแยกส่วนแห้งส่วนเปียกมาให้เรียบร้อย มีช่องแสงเป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง 1 บาน พร้อมมุ้งลวดกันแมลง
ตัวอ่างล้างมือให้แบบฝังเคาน์เตอร์มา มีพื้นที่ให้วางของเหนือเคาน์เตอร์พอสมควร ติดกันเป็นโถสุขภัณฑ์ ใช้ของ Cotto แบบ Dual Flush พร้อมอุปกรณ์ครบชุด
ภายในห้องอาบน้ำติดตั้งฝักบัว Hand Shower มาให้ พร้อมม้านั่งมาให้ด้วย อาจจะใช้วางของ หรือใช้นั่งพักระหว่างหมักผม, สครับผิวก็ได้ค่ะ
พื้นห้องอาบน้ำจะลดระดับลงไปนิดหน่อยเพื่อป้องกันน้ำไหลออกมาพื้นที่ส่วนแห้ง ส่วนขนาดพื้นที่ยืนอาบน้ำประมาณ 1.1 – 0.8 เมตร พอให้ยืนอาบได้สะดวก นอกจากนั้นยังมีก๊อกน้ำติดตั้งมาให้ด้วย เผื่อซักผ้าเล็กๆน้อยๆค่ะ
ถัดมาดูที่ห้อง Master Bedroom กันต่อ
ห้อง Master Bedroom จะเป็นห้องนอนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในบ้าน มีพื้นที่ให้แบ่งเป็น Walk – in Closet สำหรับห้องนี้จะอยู่ทางฝั่งหน้าบ้านนะคะ มีห้องน้ำและระเบียงในตัวด้วย
เรามาดูทางฝั่งห้องนอนกันก่อนนะคะ
พื้นที่ห้องนอนมีขนาดกว้าง สามารถวางเตียงคิงส์ไซส์ได้สบายๆ มีระยะข้างเตียงพอให้วางโต๊ะหัวเตียงได้
ส่วนพื้นที่ฝั่งปลายเตียง จริงๆแล้วจะเป็นห้องโล่งๆ แต่ในบ้านตัวอย่างจะแบ่งพื้นที่เป็นห้อง Walk – in Closet มาให้ดูเป็นตัวอย่าง ก็จะเหลือพื้นที่ปลายเตียงพอให้วาง Bench Bed และชั้นวางทีวีได้
ด้านหลังที่แบ่งพื้นที่เป็น Walk – in Closet ก็จะสามารถจัดวางตู้เสื้อผ้าหลังใหญ่ๆกับโต๊ะเครื่องแป้งได้
นอกจากนั้นก็จะมีช่องแสง 1 จุด เป็นหน้าต่างทรงกลม รับแสงธรรมชาติเข้าห้อง เวลาเราแต่งหน้าจะได้เห็นสีตามจริงค่ะ
พื้นที่การใช้งาน Walk – in Closet เราสามารถเลือกได้เลยว่าจะเอากว้างแค่ไหน เพราะห้องจริงจะเป็นพื้นที่โล่งๆให้เรากั้นเอง ถ้าใครมีเสื้อผ้าเยอะๆก็สามารถขยายให้ใหญ่กว่านี้ได้ แต่อย่าลืมดูระยะฝั่งห้องนอนด้วยนะคะ
พื้นที่ห้องนอนจะอยู่ติดกับระเบียง ซึ่งประตูระเบียงจะได้เป็นบานสไลด์ ลูกฟักกระจก จึงเหมือนได้ช่องแสงบานใหญ่ไปด้วยในตัว
พื้นที่ระเบียงด้านนอกเป็นแนวยาวแต่ไม่ลึกเท่าไหร่ พอให้ออกมายืนกินลมชมวิว หรือปลูกไม้กระถางขนาดไม่ใหญ่มากได้ค่ะ
กลับเข้ามาในห้อง อีกฝั่งของห้องจะมีห้องน้ำในตัวค่ะ
พื้นที่ห้องน้ำใน Master Bedoom แยกส่วนแห้ง – ส่วนเปียกมาให้ ส่วนสุขภัณฑ์ใช้ของ Cotto เช่นกัน
อ่างล้างมือได้แบบฝังเคาน์เตอร์ ส่วนโถสุขภัณฑ์แบบ Dual Flush พร้อมอุปกรณ์ครบชุด
ภายในห้องอาบน้ำติดตั้งฝักบัว Hand Shower พร้อมเดินระบบรองรับเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อย
มีม้านั่งแบบก่อและก๊อกน้ำมาให้ ส่วนพื้นที่ยืนอาบน้ำประมาณ 1.2 x 0.8 เมตร พอให้ยืนอาบได้สบายๆค่ะ
บ้านแบบตัวอย่างแบบที่ 2 เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น แบบ บ้านศุภฤทธิ์ พื้นที่ใช้สอย 175 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ส่วนพักผ่อน 2 ที่จอดรถ
การออกแบบภาพนอกจะใช้สีโทนเดียวกับบ้านแบบที่แล้ว อย่างที่บอกว่าจะใช้สีมาในโทนๆเดียวกันทั้งโครงการนะคะ แต่หน้าตาบ้านแบบนี้จะดูเรียบๆกว่าแบบที่แล้วหน่อย
มาดูรายละเอียดบ้านตัวอย่างกันต่อเลยค่ะ เริ่มจากพื้นที่หน้าบ้าน แบ่งเป็นที่จอดรถขนาด 2 จอดทางซ้ายมือ และประตูทางเข้าหน้าบ้านทางขวามือ
ที่จอดรถจะเป็นที่จอดในร่มทั้ง 2 คัน พื้นที่จอดรถจะปูพื้นกระเบื้อง ส่วนไฟได้โคมซาลาเปา 1 ดวง และมีห้องเก็บของติดกับที่จอดรถ 1 ห้อง
ห้องเก็บของที่จอดรถสามารถใช้เก็บอุปกรณ์ทำสวนและอุปกรณ์สำหรับรถยนต์ได้ มีประตูบานทึบปิดแยกสัดส่วนเรียบร้อย
พื้นที่สวนข้างบ้านจะปูหญ้าจัดสวนมาให้ในบ้านมาตรฐานทุกหลัง
พื้นที่หลังบ้านแบ่งเป็นลานซักล้างบางส่วน
พื้นลานซักล้างปูพื้นกระเบื้องแยกโครงสร้างจากตัวบ้าน
พื้นที่สวนข้างบ้านอีกฝั่ง
ประตูทางเข้าบ้านได้เป็นบานสไลด์ เปิดสลับด้านได้ กรอบอลูมิเนียมสีขาว ลูกฟักกระจกเขียวตัดแสง ประตูเข้าบ้านหลักที่เป็นกระจกเต็มบานแบบนี้อาจจะมีความปลอดภัยน้อยกว่ากระจกบานทึบแนะนำให้ติดประตูเหล็กดัดเพิ่มด้านในนะคะ
หน้าบ้านมีเฉลียงยกระดับขึ้นมา 1 สเต็ป ปูพื้นกระเบื้องและทรายล้าง นอกจากนั้นยังมีม้านั่งแบบก่อมาให้ด้วย สามารถใช้นั่งใส่รองเท้าตรงนี้ได้
มือจับและตัวล็อคของประตูหน้าบ้าน
เข้ามาในตัวบ้านจะเจอกับห้องรับแขกเป็นส่วนแรก เชื่อมต่อไปยังส่วนห้องรับประทานอาหาร ในบ้านจริง พื้นชั้น 1 ทั้งชั้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 เซนติเมตร ความสูงฝ้าเพดาน 2.45 – 2.50 เมตร
ผนังได้เป็นคอนกรีตฉาบเรียบทาสี ส่วนฝ้าในบ้านจริงก็จะดรอปลงไปตามแบบนี้เลยค่ะ
ระยะนั่งดูทีวีประมาณ 2.5 เมตร สามารถวางทีวีขนาด 55″ – 60″ ได้ค่ะ
ห้องรับแขกจะได้แสงธรรมชาติมาจากชุดหน้าต่างบานเลื่อนด้านข้างและประตูทางเข้าหลักของบ้าน
ห้องรับแขกในบ้านตัวอย่างวางโซฟาขนาด 3 ที่นั่ง มาให้ดูซึ่งก็เหมาะสมกับพื้นที่และช่องแสงด้านหลังดี แต่ถ้าเราอยากจะขยับขนาดขึ้นเป็น 4 – 5 ที่นั่งก็ยังได้อยู่ค่ะ
ฝั่งตรงข้ามเป็นโต๊ะวางทีวีมาให้ดูเป็นไอเดีย ส่วนของจริงจะได้เป็นผนังเรียบทาสี ซึ่งเราสามารถจะหาชั้นวางทีวีขนาดใหญ่พร้อมชั้นวางของมาใส่ก็ได้หรือจะติดทีวีไว้กับผนังเลยก็ได้ค่ะ จะได้เพิ่มระยะการนั่งดูทีวีด้วย
ถัดจากห้องนั่งเล่นเป็นส่วนรับประทานอาหาร ซึ่งบ้านจริงจะเป็นพื้นที่โล่งๆเชื่อมต่อกันไปซึ่งจริงๆเราสามารถที่จะกั้นเพื่อแบ่งพื้นที่ให้เป็นสัดเป็นส่วนได้ด้วยฉากกั้นโปร่งๆ บ้านจะได้ไม่ทึบ
สำหรับส่วนทานอาหารจะมีช่องแสงมา 1 จุด คือชุดประตูบานเลื่อนบานใหญ่ข้างบ้าน
พื้นที่ส่วนทานอาหารสามารถวางโต๊ะทานอาหารขนาด 4 – 6 ที่นั่งได้สบายๆ
อีกด้านของห้องทานอาหารจะเป็นส่วนของห้องครัว บันไดขึ้นชั้นบน,ห้องอเนกประสงค์ และห้องน้ำรับรองที่ชั้น 1 นี้ค่ะ
เรามาดูในส่วนของห้องครัวกันก่อน โดยห้องครัวที่ได้จะเป็นครัวปิด มีชุดประตูบานเลื่อน บานกรอบ UPVC สีขาว กระจกเขียวตัดแสงเป็นตัวกั้นพื้นที่
เข้ามาภายในห้องครัวขนาดกว้างขวาง มีช่องแสง 2 จุด บ้านจริงจะได้เป็นห้องเปล่าที่เดินท่อและสายไฟที่จำเป็นไว้ให้ครบถ้วนค่ะ
บ้านตัวอย่างจัดเคาน์เตอร์ครัวมาให้ดูเป็นตัวอย่าง 2 ฝั่ง แต่จริงๆเราสามารถ Built ให้เต็มพื้นที่ได้เลย จะได้มีพื้นที่เตรียมอาหารกว้างๆ
ช่องแสงภายในห้องครัวจะได้เป็นหน้าต่างบานเลื่อนเดี่ยว พร้อมมุ้งลวด
จากห้องครัวจะมีประตูเชื่อมออกไปลานซักล้างภายนอก
ออกจากห้องครัวมา ถัดมาจะเป็นบันไดขึ้นชั้นสอง ขวามือเป็นห้องอเนกประสงค์และตรงกลางเป็นห้องน้ำกับห้องเก็บของใต้บันไดค่ะ
มาดูในส่วนห้องอเนกประสงค์กันก่อน จากบ้านตัวอย่างจัดเป็นห้องนอน ซึ่งห้องนอนชั้นล่างนี้เหมาะจะเป็นห้องนอนผู้สูงอายุค่ะ เพราะไม่ต้องเดินขึ้นลงบันไดนั่นเองค่ะ และห้องนี้ยังมีช่องแสงมาให้ 3 จุด ทำให้ห้องสว่างและระบายอากาศได้ดี
สำหรับพื้นที่ใช้สอยในห้องนี้ก็ถือว่ากว้างอยู่นะคะ สามารถวางเตียงขนาดควีนไซส์ได้สบายๆเลย และยังเหลือพื้นที่ข้างเตียงให้วางโต๊ะหัวเตียงได้ทั้ง 2 ฝั่ง
พื้นที่ฝั่งปลายเตียงสามารถจัดวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งได้
กลับออกมาที่โถงภายนอก เรามาดูในส่วนห้องน้ำชั้น 1 กันต่อค่ะ
ภายในห้องน้ำจะมีแยกส่วนแห้งส่วนเปียกมาให้เรียบร้อย โดยพื้นที่ทางขวามือตามภาพที่เราเห็นจะเป็นพื้นที่ส่วนแห้ง ติดตั้งอ่างล้างมือแบบฝังเคาน์เตอร์ และโถสุขภัณฑ์มาให้พร้อมใช้งาน
ขนาดอ่างล้างมือพอดีๆ ใช้งานได้สะดวก มีพื้นที่ข้างอ่างให้วางของได้พอสมควร
สายชำระขนาดพอดีมือ
ช่องแสงในห้องน้ำมี 2 บาน เป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง
พื้นที่ห้องอาบน้ำแยกเป็นสัดส่วน มีช่องแสง 1 จุด ติดตั้งฝักบัว Hand Shower พร้อมเดินระบบรองรับเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อย ด้านล่างมีม้านั่งและก๊อกน้ำติดตั้งมาให้พร้อมใช้งาน
ขนาดฝักบัวพอดีๆ
พื้นที่ห้องอาบน้ำสามารถยืนอาบได้สบายๆ
ติดกับห้องน้ำเป็นห้องเก็บของใต้บันได มีประตูบานทึบปิดเรียบร้อย ด้านในสามารถใช้เก็บของได้พอสมควร
ถัดมาเราจะขึ้นไปดูบนชั้น 2 กันต่อค่ะ โดยตัวบันไดเป็นโครงสร้างคอนกรีต ปิดหน้าลูกนอนด้วยบันไดไม้ประสานปิดผิวไม้แดง ราวจับเป็นคอนกรีตปิดหน้าด้วยวัสดุชนิดเดียวกับลูกนอน
โถงบันไดสูงโปร่งแต่ไม่มีช่องแสง แนะนำให้ติดโคมไฟเก๋ๆ เพิ่มเพื่อแสงสว่างที่เพียงพอในตอนกลางคืน
ตัวชานพักบันไดเป็นสี่เหลี่ยมเต็มหน้ากว้าง เดินได้สะดวกและปลอดภัยดีค่ะ
พื้นที่บนชั้น 2 นี้จะถูกแบ่งเป็นโถงพักผ่อนขนาดใหญ่ตรงกลาง และพื้นที่ฝั่งหน้าบ้านกับฝั่งหลังบ้าน โดยฝั่งหน้าบ้านจะเป็นส่วนของ Master Bedroom ส่วนพื้นที่หลังบ้านจะเป็นส่วนของห้องนอนรองทั้ง 2 ห้องและห้องน้ำที่ใช้ร่วมกันระหว่างห้องนอนรองและห้องนอนเล็กทั้ง 2 ห้องค่ะ
ขึ้นมาบนชั้น 2 มองย้อนไปทางโถงบันไดจะเห็นราวกันตกตามภาพ
พื้นที่โถงพักผ่อนสามารถจัดเป็นพื้นที่ห้องทำงาน, พื้นที่ห้องกิจกรรมครอบครัว เป็นต้น
ช่องแสงขนาดใหญ่เป็นบานสไลด์และบานฟิกซ์
ถัดมาเราจะไปดูส่วนห้องนอนกันต่อ
เริ่มห้องแรกที่ Master Bedroom
พื้นชั้น 2 ปูด้วยลามิเนตทั้งชั้น
ภายในห้อง Master Bedroom มีห้องน้ำและระเบียงในตัว พื้นที่ห้องนอนกว้างขวาง สามารถแบ่งเป็น Walk – in Closet ขนาดใหญ่
เรามาดูพื้นที่ทางฝั่งห้องนอนกันก่อน พื้นที่ทางฝั่งนี้มีช่องแสง 3 จุด คือช่องแสงประตูระเบียง และช่องแสงบานกระทุ้งฝั่งหัวเตียง
พื้นที่ในห้องนอนสามารถวางเตียงคิงส์ไซส์ได้สบายๆ
มีพื้นที่เหลือข้างเตียงเหลือให้วางโต๊ะหัวเตียงได้สบายๆ
พื้นที่ฝั่งปลายเตียงแบ่งพื้นที่เป็น Walk – in Closet มีระยะเหลือปลายเตียงให้วางชั้นวางทีวีและ Bench Bed
ตัวอย่างการแบ่งพื้นที่ใน Walk – in Closet ทางโครงการใช้การกั้นด้วยผนังกระจกตกแต่งเข้ามุมมาให้ดูเป็นไอเดีย
ด้านหลังผนังกระจกจัดเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง ซึ่งถ้าจัดพื้นที่ตามนี้ ก็สามารถวางโต๊ะเครื่องแป้งตัวใหญ่กว่านี้ได้เลยนะคะ
พื้นที่อีกฝั่งสามารถ Built – in ตู้เสื้อผ้าหลังใหญ่ๆได้ เหมาะกับสาวๆที่มีเสื้อผ้าเยอะเลยค่ะ
ติดกับ Walk – in Closet จะเป็นห้องน้ำในตัวของ Master Bedroom แยกพื้นที่ส่วนแห้งส่วนเปียกมาให้เรียบร้อย
พื้นที่ส่วนแห้งติดตั้งอ่างล้างมือแบบฝั่งเคาน์เตอร์ยาวมาให้ มีพื้นที่วางของข้างอ่างเยอะเลยค่ะ ติดกันเป็นโถสุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ครบชุด
ช่องแสงในห้องนี้เป็นบานกระทุ้งและบานฟิกซ์พร้อมมุ้งลวด
พื้นที่ห้องอาบน้ำติดตั้งฝักบัวและม้านั่งแบบก่อมาให้
ขนาดห้องอาบน้ำพอให้ยืนอาบได้สะดวก
ตัวระเบียงในห้องนี้จะมีประตูบานสไลด์กั้น
พื้นที่ระเบียงจะเป็นทรงโค้งตามดีไซน์ของตัวบ้าน
ขนาดพื้นที่สามารถออกมายืนกินลมชมวิวหรือปลูกไม้กระถางเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับตัวบ้านได้
กลับออกมาที่โถงพักผ่อนด้านนอก เราไปดูส่วนห้องนอนรองและห้องน้ำทางฝั่งหลังบ้านกันต่อ
พื้นที่ฝั่งหลังบ้านจะมีโถงทางเดินเล็กๆแบบนี้ เชื่อมห้องนอนรองสองฝั่งซ้ายและขวา ส่วนตรงกลางเป็นห้องน้ำที่ห้องนอนรองทั้ง 2 ห้องใช้ร่วมกันค่ะ
เรามาดูห้องนอนรองทางฝั่งขวามือกันก่อน
ห้องนี้เป็นห้องนอนรองที่ถือว่ามีขนาดค่อนข้างกว้างเลย สามารถจัดวางเตียงขนาดควีนไซส์พร้อมเฟอร์นิเจอร์หลักๆได้ครบ
ในบ้านตัวอย่าง ทางโครงการจัดมาเป็นห้องนอนลูกชาย built – in ฐานเตียงยกพื้น และวางฟูกไว้ด้านบน ช่วยแบ่งพื้นที่ให้สามารถจัดเป็นมุมนั่งเล่นด้านบนได้
ส่วนพื้นที่อีกฝั่งของห้องก็สามารถวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะทำการบ้านได้ มีระยะเหลือให้ใช้งานได้สบายๆ
ถัดมาเป็นห้องนอนรองห้องที่ 2
ห้องนอนรองห้องนี้จะมีขนาดเล็กกว่าห้องที่แล้วนิดหน่อย แต่ก็ยังสามารถจัดฟังก์ชั่นได้ครบและใช้งานได้สะดวกอยู่ค่ะ
ห้องนี้วางเตียงเดี่ยว 3.5 ฟุต มาให้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งเป็นขนาดที่เหมาะสมกับพื้นที่ในห้องนี้นะคะ แต่ถ้าอยากนอนเตียงกว้างหน่อย จะใช้เตียงควีนไซส์ก็ยังได้อยู่ค่ะ
พื้นที่ข้างเตียงที่เหลือสามารถวางโต๊ะทำการบ้านได้ แต่ถ้าวางเตียงควีนไซส์อาจจะไม่มีพื้นที่เหลือสำหรับวางโต๊ะแล้วค่ะ
พื้นที่ฝั่งปลายเตียงสามารถจัดวางตู้เสื้อผ้าได้ มีระยะเหลือใช้งานได้พอดีๆ แต่ถ้าใช้เป็นตู้แบบบานสไลด์จะใช้งานได้สะดวกกว่านะ
กลับออกมาที่โถงด้านนอก เรามาดูในส่วนห้องน้ำกันต่อ
พื้นที่ภายในห้องน้ำแยกส่วนแห้งส่วนเปียก มีช่องแสง 1 บาน เป็นหน้าต่างบานกระทุ้งพร้อมมุ้งลวด
ติดตั้งอ่างล้างมือแบบลอยตัวและโถสุขภัณฑ์มาให้พร้อมใช้งาน
พื้นที่ห้องอาบน้ำกั้นกำแพงมาให้บางส่วน เราสามารถติดม่านอาบน้ำเพิ่มหรือฉากกั้นกระจกเพิ่มเองได้ไม่ยากค่ะ ส่วนด้านในห้องอาบน้ำก็ติดตั้งฝักบัว Hand Shower มาให้พร้อมเดินระบบรองรับเครื่องทำน้ำอุ่นด้วย
พื้นที่สำหรับยืนอาบน้ำ สามารถยืนอาบได้สบายๆ
ราคา (ธ.ค. 2561)
ค่าส่วนกลาง
มี่ดินเพิ่ม – ลด : 54,000 บาท/ตร.วา
สรุป
ทำเลโดยรอบ : โครงการ ศุภาลัย วิลล์ เพชรเกษม 69 เป็นโครงการทาวน์โฮมตั้งอยู่ติดถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งเหนือ ถือว่าอยู่ในย่านชานเมืองระหว่างนครปฐมและกรุงเทพบรรยากาศสงบ รวมๆมีความเป็นชุมชนดั้งเดิม ความอุดมสมบูรณ์ในระยะไม่ไกลจากโครงการมีตลาดคุณตาพลอยกับตลาดคุณพ่อ, ร้านสะดวกซื้อ, ซุปเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งอยู่ในระยะที่เดินได้ (600 เมตร) หรือจะนั่งรถสองแถว/พี่วินก็ได้ ถือว่าใช้ชีวิตประจำวันได้สบายๆเลย ส่วนความอุดมสมบูรณ์ในวงกว้างก็ถือว่าค่อนข้างสูงเลย
ออกมาบนเส้นเพชรเกษม 69 จะมีตลาด, ร้านอาหาร และ Victoria Garden รวมไปถึง Hyper Market อย่าง Big C mini, Tesco Lotus express และร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-11 ที่มีอยู่ค่อนข้างถี่เลยค่ะ หรือถ้าออกมาตรงถนนเพชรเกษมมีห้างสรรพสินค้าอย่าง Big C, โลตัส, The Mall หรือถ้าไปฝั่งพระราม 2 มี Big C และเซ็นทรัลพระราม 2
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว : ตัวโครงการตั้งอยู่บนถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งเหนือ การเดินทางหลักๆใช้ได้ทั้งถนนเพชรเกษมที่สามารถวิ่งยาวตั้งแต่ในเมืองออกต่างจังหวัดได้ นอกจากนั้นยังมีถนนเส้นสำคัญๆตัดผ่านเส้นเพชรเกษมอีกเพียบจึงทำให้สามารถแยกย่อยไปที่ต่างๆได้อีก นอกจากนั้นทั้งเพชรเกษม 69 และ 81 ยังสามารถเชื่อมออกมายังถนนเอกชัยและพระราม 2 ซึ่งสามารถใช้เข้า – ออกเมือง และต่างจังหวัดได้เช่นเดียวกัน โดยที่เส้นพระราม 2 จะมีจุดขึ้นทางด่วนเฉลิมมหานครให้ใช้กันด้วยค่ะ
การเดินทางโดยรถสาธารณะ : เดินทางได้ไม่ลำบากค่ะ โดยหน้าโครงการจะมีรถสองแถวที่วิ่งจาก วัดหนองแขม – BigC เพชรเกษม เราสามารถนั่งรถสองแถวเพื่อไปต่อรถเมล์ที่ถนนเพชรเกษม 69 มีรถเมล์ สาย 7 วิ่งผ่าน สามารถนั่งไปรถไฟฟ้า BTS บางหว้า นอกจากนั้นหน้าโครงการก็จะมีทั้งพี่วินและ Taxi วิ่งผ่านอยู่เป็นระยะๆ
นอกจากนั้นก็จะมีท่าเรือเพชรเกษม 69 ซึ่งท่าเรือนี้จะมีเรือวิ่งไปถึง BTS บางหว้า เปิดบริการ 2 ช่วงเวลา ได้แก่ ช่วงเช้า 06.00-09.00 น. และช่วงเย็น 16.00-19.30 น. และในอนาคตอันใกล้นี้ก็จะสามารถใช้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินสถานีทวีวัฒนาได้ การเดินทางจะสะดวกมากขึ้นค่ะ
การออกแบบโครงการ : โครงการ ศุภาลัย วิลล์ เพชรเกษม 69 เป็นโครงการที่ถือว่ามีขนาดค่อนข้างใหญ่ จำนวนยูนิตทั้งโครงการประมาณ 353 ยูนิต บนที่ดินประมาณ 52 ไร่ มีแบบบ้านให้เลือกหลายแบบ ทั้งบ้านเดี่ยว, บ้านรุ่นใหม่ และทาวน์โฮม ซึ่งสามารถตอบโจทย์กับครอบครัวทุกๆขนาด
ส่วนการออกแบบตัวบ้าน การออกแบบโดยรวมดูเรียบง่ายไม่หวือหวา ใช้สีโทนอ่อนทั้งโครงการ ฟังก์ชั่นครบถ้วน เหมาะสำหรับการอยู่อาศัยเป็นครอบครัว 3 – 5 คน ความสูงฝ้าเพดาน 2.45 – 2.5 เมตร
วัสดุ(บ้านเดี่ยว) รายการวัสดุปานกลางมาตรฐาน ที่จอดรถหน้าบ้านเป็นปูกระเบื้อง พื้นภายในบ้านชั้นล่างเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60×60 ซม. ส่วนลานซักล้างด้านหลังแยกโครงสร้างจากตัวบ้าน เป็นพื้นปูนปูกระเบื้อง
ชั้น 2 ได้เป็นพื้นลามิเนต บันไดเป็นบันไดสำเร็จรูปโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดลูกตั้งลูกนอนไม้ประสานปิดผิวไม้แดง โคมไฟซาลาเปาและดาวน์ไลท์ มี Drop ฝ้าตามบ้านตัวอย่างบางแบบ สุขภัณฑ์ COTTO
สาธารณูปโภค : ระบบรักษาความปลอดภัยใช้ Access Card Control ที่ Main Gate พร้อมระบบ CCTV ที่ซุ้มด้านหน้าฝั่งละ 2 ตัว ที่ทางเข้าและทางออก ถนนหลักในโครงการกว้าง 16 เมตร และถนนซอยกว้าง 9 เมตร มีระยะที่สามารถขับรถสวนกันได้สบายๆค่ะ
สำหรับส่วนกลางมีมาให้ครบเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นอาคารคลับเฮ้าส์ พร้อมสระว่ายน้ำระบบเกลือ, ห้องฟิตเนส มีเครื่องเล่นหลากหลายชนิด ห้องฟิตเนสโปร่งสบายน่าใช้งาน
และสวนสาธารณะ ที่จัดสวนไว้ค่อนข้างดี มีสนามเด็กเล่น และทางเดินกับที่นั่งพักผ่อนในสวน ต้นไม้เยอะดีค่ะ
คะแนน
| ทำเลที่ตั้งโครงการ | 8.0 | เป็นทำเลที่ออกมาชานเมืองหน่อยแต่มีความเป็นชุมชนและยังเดินทางได้สะดวก มีข้อดีตรงที่มีความเป็นส่วนตัวสูงขึ้น ราคาบ้านยังไม่แพงมาก ความอุดมสมบูรณ์สูงทั้งในระยะใกล้และในวงกว้าง |
| การเดินทาง ใช้รถ | 8.0 | เข้า – ออกเมืองได้สะดวกโดยถนนเส้นเพชรเกษมและพระราม 2 |
| การเดินทาง ไม่ใช้รถ | 7.75 | มีตัวเลือกทั้งรถสองแถว, พี่วินและ Taxi ให้สามารถออกมาต่อรถได้ที่ถนนเพชรเกษม 69 หรือไป BTS บางหว้า ก็มีตัวเลือกการเดินทางหลากหลาย ทั้งรถเมล์, รถสองแถวและท่าเรือ |
| บ้านและวัสดุ | 7.75 | บ้านเรียบๆ ฟังก์ชั่นครบ วัสดุมาตรฐาน |
| สิ่งอำนวยความสะดวก | 7.0 | ระบบรักษาความปลอดภัย Easy Pass ถนนภายในโครงการกว้าง มีส่วนกลางมาให้ครบทั้งฟิตเนส สระว่ายน้ำ และสวนสาธารณะ แต่ช่วงวันหยุดหรือตอนเย็นๆอาจจะมีคนใช้เยอะหน่อย |
| ความคุ้มค่ากับราคา | 7.5 | ราคาเริ่มต้น 2.59 ล้านบาท ถือว่ามาตรฐานกับวัสดุที่ได้ ฟังก์ชั่นครบ Facilities พอใช้ เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดเล็ถึงขนาดกลาง |
| คะแนนรวมเฉลี่ย | 7.66 | ดี |
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 1720, 02-489-1455
Website : http://www.supalai.com
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ