EP.1736 รีวิว โฮมออฟฟิศ พรีเมี่ยมเพลส เกษตร-นวมินทร์ 2 / Premium Place Kaset-Nawamin 2
Written by : Chaya Kaewcheychit
สวัสดีผู้อ่านชาว Homenayoo ทุกท่านครับ วันนี้เราจะพาทุกท่านเปลี่ยนแนวกันสักหน่อยด้วยการพาไปชมที่พักอาศัยในรูปแบบของ Home Office กันบ้าง ซึ่งโครงการที่เราจะไปชมกันในรีวิวฉบับนี้ก็คือ Premium Place เกษตร-นวมินทร์ 2 ต้องบอกว่าเป็นโฮมออฟฟิศ โครงการที่สองแล้วของทาง Premium Group ซึ่งหลังจากที่โครงการแรกได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจน Sold Out ปิดโครงการไปเรียบร้อยแล้ว เพราะฉะนั้นเราจึงไม่พลาดที่จะมาเก็บรีวิวในโครงการใหม่นี้มาฝากคุณผู้ชมครับ
ตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยมัยลาภ เดินทางสะดวกเชื่อมต่อถนนเส้นสำคัญได้หลากหลาย ทั้งถนนถนนเกษตร-นวมินทร์, ถนนประดิษฐ์มนูธรรม และถนนรามอินทรา ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนรามอินทรา อยู่ในแนวรถไฟฟ้า 2 สาย และใกล้ห้างเซ็นทรัล อีสต์วิลล์
พรีเมี่ยม เพลส เกษตร-นวมินทร์ 2 เป็นโครงการโฮมออฟฟิศ 4 ชั้น หน้ากว้าง 5-6 เมตรที่ออกแบบด้วยนวัตกรรม Design Space ผสมผสานพื้นที่การใช้งานสำหรับการทำธุรกิจ และการอยู่อาศัยได้อย่างลงตัว บนพื้นที่โครงการ 3-0-35 ไร่ จำนวนบ้านพักอาศัย 23 ยูนิตที่ดินเริ่มต้น 21.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 215-255 ตร.ม. ฟังก์ชั่นการใช้งานมี 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ปัจจุบันพร้อมเข้าอยู่อาศัยแล้ว
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ ด้วยรูปแบบของโฮมออฟฟิศ พื้นที่ส่วนกลางจึงเน้นไปในด้านของการทำธุรกิจ ด้วยลานจอดรถส่วนกลางรองรับได้กว่า 50 คัน และระบบรักษาความปลอดภัยภายในบ้านด้วย Digital Door Lock พร้อม CCTV ในบ้านทุกหลัง ส่วนซุ้มทางเข้าใช้ระบบ Security มาตรฐานสูงด้วยการเข้าออกรแบบ Auto Card Access และเจ้าหน้าที่ รปภ., CCTV 24 ชม ในราคาเริ่มต้น 9.8 ล้านบาท*
ชื่อโครงการ | พรีเมี่ยมเพลส เกษตร-นวมินทร์ 2 / Premium Place Kaset-Nawamin 2 |
เจ้าของโครงการ | บริษัท พรีเมี่ยมเพลส กรุ๊ป จำกัด / Premium Place Group |
ลักษณะโครงการ | โฮมออฟฟิศ 4 ชั้น / หน้ากว้าง 5 เมตร และ 6 เมตร |
พื้นที่โครงการ | 3-0-35 ไร่ |
จำนวนบ้าน | 23 ยูนิต |
เนื้อที่บ้าน | เริ่มต้น 21.9 ตร.วา ขึ้นไป |
พื้นที่ใช้สอย | 215-255 ตร.ม. |
จำนวนห้อง | 3 ห้องนอน, 4 ห้องน้ำ |
ที่จอดรถทั้งหมด | 2 คัน |
โซน | รามอินทรา, เกษตร-นวมินทร์, ลาดพร้าว |
ขนส่งสาธารณะ |
|
ที่ตั้ง | ถนนมัยลาภ แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กทม. |
กำหนดการ | n/a |
ปีที่สร้างเสร็จ | สร้างเสร็จพร้อมอยู่ปี 2563 |
ราคา | เริ่มต้น 9.8 ล้านบาท (ก.ค.63) |
ค่าส่วนกลางและกองทุน | ค่าส่วนกลาง : 100 บาท/ตร.วา/เดือน |
สถานที่สำคัญใกล้เคียง | ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
สถานพยาบาล
อื่นๆ
|
สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
จุดเด่นของโครงการ | Premium Place เกษตร-นวมินทร์ 2 โดดเด่นด้วยนวัตกรรมการ DESIGN SPACE ให้ตอบโจทย์การใช้งานได้เต็มที่ทุกตารางเมตร ทั้งธุรกิจและพื้นที่พักอาศัยที่เป็นสัดส่วน ไร้กังวลกับปัญหาเรื่องที่จอดรถ ด้วยที่จอดรถส่วนตัว และพื้นที่จอดรถส่วนกลางที่เพียงพอต่อความต้องการ พร้อมระบบรักษาความปลอดภัย บนแนวคิดเพื่อความเป็นส่วนตัว ด้วยจำนวนยูนิตที่เหมาะสม หนึ่งเดียวกับความลงตัวบนสังคมสมบูรณ์แบบ |
::: ที่ตั้งโครงการ :::
ถนนมัยลาภ แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กทม.
พิกัด Google Map : 13.842467, 100.618467
Premium Place เกษตร-นวมินทร์ 2 ตั้งอยู่ภายในซอยมัยลาภ หรือซอยรามอินทรา 14 ที่สามารถเข้าออกได้หลายทางจากถนนเส้นหลักของโซนรามอินทรา บริบทของทำโซนนี้ส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัยในแนวราบ แต่ก็เริ่มมีการเข้ามาทำตลาดของคอนโดมากขึ้น แต่จะเป็นคอนโดรูปแบบ Low-Rise
สาเหตุที่ทำเลแห่งนี้เป็นทำเลพักอาศัยที่ได้รับความนิยม เนื่องจากเป็นทำเลที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในแง่ของการคมนาคม ที่ปัจจุบันมีรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายมาจนถึงสถานีเกษตร และกำลังจะมีรถไฟฟ้าสายสีชมพูในอนาคตอันใกล้ช่วยเสริมตัวเลือกในการเดินทาง รวมถึงยังอยู่ในแผนงานของรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล และสายสีเทา ที่ส่งผลดีโดยตรงต่อตัวโครงการอีกด้วย
พร้อมทั้งมีความอุดมสมบูรณ์รองรับการเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีทั้งห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่, ไฮเปอร์มาร์เก็ต, คอมมูนิตี้มอลล์, ซุปเปอร์มาร์เก็ต รวมถึงตลาดนัดเดินเล่นในยามค่ำคืน
การเดินทางด้วยรถส่วนตัว ตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยมัยลาภที่สามารถเชื่อมต่อสู่ถนนใหญ่ได้ถึง 3 เส้นทาง ได้แก่ ถนนเกษตร-นวมินทร์, ถนนรามอินทรา และถนนประดิษฐ์มนูธรรม
การเข้าเมืองสามารถเลือกได้ว่าต้องการเข้าเมืองไปยังย่านใด สำหรับถนนประดิษฐ์มนูธรรมสามารถเข้าเมืองไปทางฝั่งของพระราม 9, เพชรบุรีตัดใหม่ และสุขุมวิท เหมาะสำหรับคนที่ทำงานอยู่ใน New CBD ส่วนถ้าเข้าเมืองทางฝั่งพหลโยธินจะมุ่งหน้าไปทางฝั่งของห้าแยกลาดพร้าว, จตุจักร และรัชดาภิเษก
โดยด้านบนของถนนประดิษฐ์มนูธรรม มีทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์คู่ขนานกันไป เป็นทางเลือกในเวลาที่ต้องการความเร่งด่วนในการเดินทาง ที่จะไปเชื่อมกับทางด่วนอื่นได้ทั้งทางด่วนศรีรัชบริเวณพระราม 9 และทางด่วนเฉลิมมหานคร บริเวณสุขุมวิท-บางนา
สำหรับถนนรามอินทรา เป็นถนนที่สามารถเชื่อมต่อจากโครงการไปยังถนนแจ้งวัฒนะ, พหลโยธิน และวิภาวดีรังสิตทางฝั่งตะวันตก ส่วนอีกด้านของถนนรามอินทราไปทางฝั่งตะวันออกจะไปตัดกับถนนกาญจนาภิเษกบริเวณหน้าห้างแฟชั่นไอส์แลนด์ และสามารถวิ่งยาวต่อเนื่องไปสู่ย่านมีนบุรีได้เลย
ส่วนการออกนอกเมืองไปทางด้านทิศเหนือ จะเป็นการเข้าสู่ย่านวัชรพล-สายไหม-ลำลูกกา ต่อเนื่องออกไปสูโซนรังสิตได้โดยง่าย
การเชื่อมต่อสู่ถนนใหญ่ จากโครงการสามารถออกสู่ถนนเส้นหลักที่อยู่โดยรอบได้ถึง 3 เส้นทาง ตามที่ผมได้มีกล่าวถึงไปแล้ว แต่ผมจะเพิ่มเติมกราฟิกให้เห็นได้ชัดเจนขึ้นว่าแต่การเข้าถึงถนนแต่ละเส้นมีระยะทางเท่าไร
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ ภายในซอยรามอินทรา 14 หารถสาธารณะได้หลากหลายประเภท ทั้งรถสองแถว, วินมอเตอร์ไซค์ และรถแท็กซี่วิ่งผ่านอยู่ตลอดทั้งวัน แต่จุดที่เป็นไฮไลท์น่าสนใจคือรถไฟฟ้า เนื่องจากโครงการอยู่ใกล้แนวรถไฟฟ้าถึง 2 สายด้วยกัน
สำหรับรถไฟฟ้าที่เปิดให้บริการแล้วจะเป็นรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-คูคต ที่ปัจจุบันเปิดใช้งานแล้วจนถึงสถานีม.เกษตร สำหรับรถไฟฟ้าสายนี้เป็นสายที่ต่อขยายออกมาจากรถไฟฟ้า BTS สายหลักที่มุ่งหน้าไปยังสุขุมวิท-สยามได้โดยตรง ไม่ต้องมีการเปลี่ยนสถานี
ส่วนรถไฟฟ้าอีกสายที่จะเปิดให้บริการในเร็วๆ นี้คือรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี สถานี้ที่ใกล้ที่สุดคือสถานีมัยลาภ ห่างจากโครงการราว 2.1 กม. สำหรับกำหนดการล่าสุดคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในช่วงเดือนตุลาคม ปี 2564
ความอุดมสมบูรณ์ ในระยะเดินเท้าจากโครงการ ถือว่ามีความอุดมสมบูรณ์เบื้องต้นที่ดีในระดับนึง เนื่องจากฝั่งตรงข้ามโครงการเป็นแนวอาคารพาณิชย์ที่มีร้านอาหารเปิดอยู่ 2-3 ร้าน ประกอบกับถัดจากโครงการมีร้านกาแฟอเมซอน และ 7-11 อยู่ในปั๊มปตท. ที่เดินจากโครงการในระยะเพียง 50-100 เมตรเท่านั้น
แต่หากเป็นภาพกว้างต้องบอกว่าเป็นทำเลที่ครบครันมากทีเดียว มีห้างสรรพสินค้ารอบรับการใช้งานหลากหลายประเภท อย่างเช่น นวมินทร์ ซิตี้ อเวนิว และ Ease Park เป็นคอมมูนิตี้มอลล์ ที่เข้าถึงง่ายจอดรถง่าย หรือหากเป็น ซุปเปอร์มาร์เก็ต ไฮเปอร์มาร์เก็ต มี Foodland, Big C และ Tesco Lotus บนเส้นรามอินทราไม่ไกลจากโครงการ
และถ้ามองหาห้างใหญ่ที่ครบวงจรมากขึ้นมี เซ็นทรัล อีสต์วิลล์, เซ็นทรัล รามอินทรา และเซ็นทรัล ลาดพร้าว เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ นอกจากนั้นยังมีโรงเรียน มหาวิทยาลัย และโรงพยาบาลชั้นนำอีกหลายแห่ง ตอบโจทย์คนทุกช่วงวัยได้อย่างเหมาะสม
แยกและถนนสำคัญใกล้เคียง
สถานที่สำคัญบริเวณโครงการ
ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
สถานพยาบาล
อื่นๆ
::: การเดินทาง :::
เส้นทางที่ผมใช้เดินทางมายังโครงการ Premium Place เกษตร-นวมินทร์ 2 ผมเลือกใช้ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ มุ่งหน้าฝั่งขาออก จากนั้นลงทางด่วนที่ทางออก 17 ถนนรามอินทรา เพื่อลงไปยังถนนประดิษฐ์มนูธรรม จากนั้นเมื่อถึงแยกต่างระดับวัชรพลให้เลี้ยวซ้ายไปยังถนนรามอินทรา ฝั่งที่มุ่งหน้าไปยังหลักสี่ บนถนนรามอินทราให้ชิดซ้ายเอาไว้เนื่องจากเราจะเลี้ยวซ้ายเข้าซอยรามอินทรา 14 (ถนนมัยลาภ) ขับเข้าไปภายในซอยประมาณ 2 กม. ก็จะถึงตัวโครงการที่ตั้งอยู่ด้านซ้ายมือครับ
สรุปการเดินทาง : ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ > ทางออก 17 ถนนรามอินทรา > ถนนประดิษฐ์มนูธรรม > แยกต่างระดับวัชรพล > ถนนรามอินทรา > ซฮยรามอินทรา 14 (ถนนมัยลาภ) > Premium Place เกษตร-นวมินทร์ 2
เริ่มต้นภาพประกอบการเดินทางจากด้านบนทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ บริเวณหน้าห้าง Central Eastville มุ่งหน้าทางฝั่งขาออกไปยังรามอินทรา
บนทางด่วนให้สังเกตป้ายรามอินทราเป็นหลัก
ลงจากทางด่วนที่ทางออกหมายเลข 17 ถนนรามอินทรา
ลงจากทางด่วนมาเราจะอยู่บนถนนประดิษฐ์มนูธรรม ที่คนส่วนใหญ่เรียกว่าถนนเลียบด่วนรามอินทรา
บนถนนประดิษฐ์มนูธรรม ให้อยู่ช่องทางด้านซ้าย เพื่อเตรียมเลี้ยวซ้ายไปยังฝั่งหลักสี่
เลี้ยวซ้ายที่แยกต่างระดับวัชรพล เข้าสู่ถนนรามอินทรา ฝั่งที่มุ่งหน้าไปยังหลักสี่
ขับมาตามถนนรามอินทรา ผ่านรถไฟฟ้าสายสีชมพูสถานีมัยลาภ ที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง
ผ่านจากสถานีมัยลาภมาเพียงเล็กน้อย เราจะเลี้ยวซ้ายเข้าซอยรามอินทรา 14 หรือถนนมัยลาภ
ขับเข้าไปด้านในซอยรามอินทรา 14 ประมาณ 2 กม.
ถึงแล้วครับ โครงการ Premium Place เกษตร-นวมินทร์ 2 ตั้งอยู่ทางด้านซ้ายมือ
::: บริเวณโครงการ :::
ภาพมุมสูงบริเวณโครงการ องค์ประกอบส่วนใหญ่ในซอยรามอินทรา 14 เป็นบ้านพักอาศัยในแนวราบ ไม่มีตึกสูงใดๆ ทำให้เรื่องของทัศนียภาพ โดยเฉพาะบนชั้น 3-4 จากตัวโครงการค่อนข้างเปิดโล่ง เทควิวออกไปได้ไกลสุดลูกหูลูกตา จุดที่น่าสนใจที่ผู้อาศัยในโครงการสามารถเดินเท้าไปใช้บริการได้คือภายในปั๊ม PT และ ปั๊ม ปตท. มีทั้ง Max Mart, 7-11, กาแฟพันธ์ุไทย และคาเฟ่ อเมซอน
ส่วนต่อไปผมจะพาเดินชมบรรยากาศบริเวณโครงการ เริ่มจากด้านหน้า ทางซ้ายมือเป็นตัวยูนิตประเภทหน้ากว้าง 6 เมตร จำนวน 3 ยูนิตอยู่ติดถนนใหญ่ ส่วนทางขวาเป็นซุ้มทางเข้าไปยังด้านในโครงการ
ถัดจากซุ้มทางเข้า เป็นที่ตั้งของปั๊ม PT และ ปั๊ม ปตท. ซึ่งไม่ได้ถือว่าติดโครงการเสียทีเดียว แต่จะมีซอยทางเข้าบ้านบุญบาลี รีสอร์ตคั่นอยู่ ซึ่งภายในปั๊มมีร้านค้าให้เราใช้บริการได้ตามที่ผมกล่าวไปแล้วในภาพก่อนหน้านี้
ซอยรามอินทรา 14 หรือคนแถวนี้มักจะนิยมเรียกว่าซอยมัยลาภ เป็นถนนที่มีขนาดกว้าง 4 เลน ปริมาณรถที่ผ่านไปมาถือว่าไม่พลุกพล่าน เดินทางสัญจรสะดวก
ฝั่งตรงข้ามโครงการ เป็นแนวอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น ซึ่งมีร้านค้าร้านบริการหลากหลายประเภท อย่างเช่น ร้านอาหาร, ร้านวัสดุก่อสร้าง, ร้านขายยา, ร้านนวด, ร้านกาแฟ และร้านซักอบรีด เป็นต้น
สถานีบริการน้ำมัน PT ด้านในมีร้านกาแฟพันธุ์ไทย และ Max Mart
สถานีบริการน้ำมัน ปตท. ด้านในมี คาเฟ่ อเมซอน และ 7-11
กลับมาที่บริเวณซุ้มทางเข้าโครงการ เพื่อเข้าไปชมด้านในกันต่อครับ
ระบบ Security ของโครงการจัดว่าอยุ่ในมาตรฐานที่สูง การเข้าออกของลูกบ้านใช้ระบบ Auto Access Card เพื่อเปิดไม้กระดกโดยอัตโนมัติคล้าย Easy Pass บนทางด่วน ส่วนบุคคลภายนอกต้องแลกบัตรกับเจ้าหน้าที่ก่อน มีรปภ. และ CCTV 24 ชม.
ผ่านซุ้มทางเข้าโครงการเข้ามาด้านใน จุดเด่นแรกที่มองเห็นเลยคือ ยูนิตพักอาศัยนั้นจะมีเพียงทางด้านซ้ายเท่านั้น ส่วนทางด้านขวาเป็นพื้นที่ของลานจอดรถ เพราะฉะนั้นมุมมองจากตัวอาคารออกมาด้านนอกจะไม่มีตัวอาคารมาบดบังทัศนียภาพ
สำหรับยูนิตแบบหน้ากว้าง 6 เมตรนั้น จะมีเพียง 3 ยูนิต ซึ่งด้านหน้าจะอยู่ติดถนนใหญ่ ส่วนทางด้านหลังจะเป็นถนนโครงการกว้าง 8 เมตร
ขยับเข้าไปทางด้านในกันต่อครับ ซึ่งส่วนที่เหลือจะเป็นแบบหน้ากว้าง 5 เมตรทั้งหมด อีกจำนวน 20 ยูนิต รวมทั้งหมดภายในโครงการมีโฮมออฟฟิศ เพียง 23 ยูนิตเท่านั้น ได้ความเงียบสงบ และมีความเป็นส่วนตัวสูง
สำหรับพื้นที่จอดรถของ Visitor ทางโครงการเคลมว่าสามารถจอดได้ทั้งหมดประมาณ 50 คัน เฉลี่ยแล้วมีที่จอดรถมากกว่า 2 คันต่อ 1 ยูนิต ไม่รวมที่จอดรถส่วนตัวของบ้านพักอาศัย รวมถึงลานจอดรถนั้นมีหลังคาที่ช่วยบังแดดบังฝนให้แก่ผู้มาติดต่ออีกด้วย
ช่องว่างระหว่างคลัสเตอร์ ใช้สำหรับเป็นจุดกลับรถ และยังช่วยให้ตัวอาคารดูไม่ติดกันจนเกินไป มีช่องให้ลมพัดไหลเวียนผ่านถ่ายเทได้ดี
ทุกๆ 2 ยูนิต ทางโครงการจะมีการลงต้นไม้ให้ที่บริเวณตรงกลางระหว่างยูนิต ช่วยเพิ่มความร่มรื่นและให้ร่มเงา ต้นดังกล่าวคือต้นแคนา ซึ่งมีความเชื่อตามลักษณะของชื่อที่เป็นมงคล ใครผ่านไปผ่านมาก็ให้ความแคร์ ที่แปลว่าห่วงใยนั่นเอง
ขยับเข้าไปด้านในกันต่ออีกนิดครับ
สุดถนนโครงการจะมีแนวโฮมออฟฟิศอีก 1 คลัสเตอร์ ส่วนนี้มีพื้นที่จอดรถให้เช่นกัน แต่จะไม่ได้มีหลังคากันแดดให้แบบช่วงด้านหน้า
หลังจากที่เดินสำรวจบริเวณโครงการกันไปแล้ว ส่วนต่อไปผมจะพาไปดูตัวบ้านกันบ้างครับ
::: แบบบ้าน :::
ภายในโครงการมีแบบบ้าน 2 แบบด้วยกันได้แก่
แปลนชั้น 1 : พื้นที่ด้านหน้าเป็นพื้นที่จอดรถสำหรับ 2 คัน ภายในออกแบบให้เน้นการเปิดโล่ง Open Plan ตอบรับการใช้งานแบบ Home Office หรือถ้าใช้เป็นบ้านพักอาศัยปกติก็ทำเป็นมุมรับแขก มุมนั่งเล่นได้เช่นกัน ด้านข้างเป็นมุม Pantry และห้องน้ำแบบ Powder Room (ไม่มีส่วนอาบน้ำ) ด้านหลังบ้านเป็นลานซักล้างที่มีขนาดกว้าง สามารถทำเป็นห้องรองรับการทานข้าวของพนักงานก็ได้ หรือจะเป็นมุมสวนพักผ่อนหย่อนใจช่วงพักกลางวันก็ดี
แปลนชั้น 2 : ยังคงเน้นการเปิดโล่งแบบ Open Plan เพื่อใช้เป็นพื้นที่หลักของ Office Area ทางด้านหน้าเน้นการเปิดช่องแสงด้วยบานหน้าต่างแบบ Full Height เพิ่มความสว่าง เสริมสร้างบรรยากาศการทำงานให้ดูสดชื่นมีพลัง มุมด้านหลังวางระบบ Pantry และห้องน้ำแบบ Powder Room
แปลนชั้น 3 : เปลี่ยนบริบทในการใช้งานพอสมควร ด้วยการเน้นความเป็น Residential เพื่ออยู่อาศัยมากขึ้น โดยแบ่งเป็น 1 โถงนั่งเล่น 1 ห้องนอน และ 1 ห้องน้ำ ซึ่งการใช้งานมีความยืดหยุ่น จะทำเป็น Office Area อีกชั้นก็ได้ ส่วนห้องนอนจะเหมาะกับทำเป็นห้องทำงานของผู้บริหารที่มีความเป็นส่วนตัว สำหรับห้องน้ำก็ตอบโจทย์การอยู่อาศัยด้วยการแยกโซนแห้ง-เปียก ที่มีพื้นที่อาบน้ำเพิ่มเติมเข้ามา
แปลนชั้น 4 : ชั้นนี้เป็นชักพักอาศัยสำหรับครอบครัว แบ่งเป็น 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอยแบ่งเป็นสัดส่วนทั้งสองห้องพื้นที่ใช้สอยใกล้เคียงกัน สำหรับห้องนอนทางฝั่งหลังบ้าน ขนาดกว้างพอให้เป็นห้องนอน 2 คน ส่วนห้องนอนหลัก มีขนาดพื้นที่ใช้สอยกว้างและเป็นห้องที่อยู่ด้านหน้าบ้าน เน้นการรับแสงที่โปร่งสบาย ชั้นนี้มีห้องน้ำห้องเดียว แต่มีฟังก์ชั่น Double Access ที่ให้ห้องนอนหลักคล้ายว่ามีห้องน้ำในตัว
ฟังก์ชั่นโดยรวมของบ้านหน้ากว้าง 6 เมตร คล้ายคลึงกับแบบหน้ากว้าง 5 เมตร เพียงแต่เพิ่มขนาดให้การใช้งานในพื้นที่ต่างๆ กว้างขึ้น และในส่วนของลานจอดรถจะย้ายไปอยู่ทางฝั่งหลังบ้านที่ติดถนนโครงการแทน ส่วนทางฝั่งหน้าบ้านจะติดกับถนนใหญ่ให้ลูกค้าที่มาติดต่อธุรกิจสามารถเข้าถึงได้ง่ายตามแบบฉบับของโฮมออฟฟิศ
แปลนชั้น 1 : พื้นที่ด้านหน้าติดกับถนนใหญ่จึงเหมาะทำเป็นทางเดินเชื่อมเข้าสู่ตัวบ้านโดยตรง ส่วนพื้นที่หลังบ้านมีลานจอดรถสำหรับ 2 คัน ภายในออกแบบให้เน้นการเปิดโล่ง Open Plan ตอบรับการใช้งานแบบ Home Office หรือถ้าใช้เป็นบ้านพักอาศัยปกติก็ทำเป็นมุมรับแขก มุมนั่งเล่นได้เช่นกัน ด้านข้างเป็นมุม Pantry และห้องน้ำแบบ Powder Room (ไม่มีส่วนอาบน้ำ) ด้านหลังบ้านเป็นลานซักล้างที่มีขนาดกว้าง สามารถทำเป็นห้องรองรับการทานข้าวของพนักงานก็ได้ หรือจะเป็นมุมสวนพักผ่อนหย่อนใจช่วงพักกลางวันก็ดี
แปลนชั้น 2 : ยังคงเน้นการเปิดโล่งแบบ Open Plan เพื่อใช้เป็นพื้นที่หลักของ Office Area ทางด้านหน้าเน้นการเปิดช่องแสงด้วยบานหน้าต่างแบบ Full Height เพิ่มความสว่าง เสริมสร้างบรรยากาศการทำงานให้ดูสดชื่นมีพลัง มุมด้านหลังวางระบบ Pantry และห้องน้ำแบบ Powder Room
แปลนชั้น 3 : เปลี่ยนบริบทในการใช้งานพอสมควร ด้วยการเน้นความเป็น Residential เพื่ออยู่อาศัยมากขึ้น โดยแบ่งเป็น 1 โถงนั่งเล่น 1 ห้องนอน และ 1 ห้องน้ำ ซึ่งการใช้งานมีความยืดหยุ่น จะทำเป็น Office Area อีกชั้นก็ได้ ส่วนห้องนอนจะเหมาะกับทำเป็นห้องทำงานของผู้บริหารที่มีความเป็นส่วนตัว สำหรับห้องน้ำก็ตอบโจทย์การอยู่อาศัยด้วยการแยกโซนแห้ง-เปียก ที่มีพื้นที่อาบน้ำเพิ่มเติมเข้ามา
แปลนชั้น 4 : ชั้นนี้เป็นชักพักอาศัยสำหรับครอบครัว แบ่งเป็น 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอยแบ่งเป็นสัดส่วนทั้งสองห้องพื้นที่ใช้สอยใกล้เคียงกัน สำหรับห้องนอนทางฝั่งหลังบ้าน ขนาดกว้างพอให้เป็นห้องนอน 2 คน ส่วนห้องนอนหลัก มีขนาดพื้นที่ใช้สอยกว้างและเป็นห้องที่อยู่ด้านหน้าบ้าน เน้นการรับแสงที่โปร่งสบาย ชั้นนี้มีห้องน้ำห้องเดียว แต่มีฟังก์ชั่น Double Access ที่ให้ห้องนอนหลักคล้ายว่ามีห้องน้ำในตัว
::: บ้านตัวอย่าง :::
บ้านตัวอย่างที่จะไปชมกันวันนี้เป็นแบบ Type A โฮมออฟฟิศสูง 4 ชั้น หน้ากว้าง 5 เมตร พื้นที่ใช้สอย 215 ตร.ม. บนที่ดินเริ่ม 21.9 ตร.ว.
พื้นที่หน้าบ้านเป็นพื้นที่สำหรับจอดรถ ด้วยขนาดหน้ากว้าง 5 เมตร สามารถจอดรถได้ 2 คัน มีไฟส่องสว่างแบบดาวน์ไลท์ 4 ดวง
ระหว่างที่ชมบ้านตัวอย่างแบบที่ทางโครงการตกแต่ง ผมจะตัดสลับกับภาพของแบบบ้านเปล่ามาตรฐานให้ชมไปด้วย เพื่อเปรียบเทียบให้เห็นความแตกต่างว่าบ้านของจริงที่ได้เป็นอย่างไร สำหรับรั้วบ้านจะเป็นรั้วบ้านพับเหล็กทาสีดำ พื้นลานจอดรถคอนกรีตฉาบเรียบ
บริเวณรั้วข้างบ้านทางโครงการให้แนวกระถางต้นไม้พร้อมต้นไทรเกาหลี เป็นแนวที่ช่วยบังสายตาจากยูนิตที่ติดกัน ให้ความเป็นส่วนตัวเพิ่มขึ้น
ป้ายบ้านเลขที่สแตนเลส รูปแบบทันสมัย พร้อมกริ่ง
ทางเข้าบ้านก่อพื้นเฉลียงยกสูง 1 สเตปปูด้วยกระเบื้องเซรามิค อีกหนึ่งความพิเศษของโครงการคือเรื่องความปลอดภัย มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดให้รวมทั้งหมด 3 จุด ได้แก่หน้าบ้าน, ชั้น 1 และชั้น 2 ซึ่งเป็นจุดที่ออกแบบมาสำหรับเป็นพื้นที่โซนออฟฟิศ
ประตูบ้านกรอบอลูมิเนียมเคลือบ Powder Coat สีดำ กระจกเขียวตัดแสง เปิดปิดแบบบานสวิง
กลอนประตู Digital Door Lock ของ Samsung ใช้งานได้ 3 ระบบคือ คีย์การ์ด, กุญแจ และรหัสผ่าน
เข้ามาภายในบ้าน ทางโครงการตกแต่งเป็นรูปแบบของโฮมออฟฟิศ ซึ่งตามแปลนนั้นชั้น 1 และ ชั้น 2 จะเป็นแปลนที่เปิดโล่งเหมาะสำหรับทำเป็น Office Area แต่ไม่ได้หมายความว่าจะบ้านทุกหลังในโครงการต้องทำเป็นโฮมออฟฟิศเท่านั้น จะทำเป็นบ้านพักอาศัยก็ได้เช่นกัน
สำหรับบ้านมาตรฐานพื้นชั้น 1 ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม. ผนังฉาบเรียบทาสีขาว โคมไฟทั้งหมดเป็นแบบดาวน์ไลท์ และที่เป็นจุดเด่นสำคัญคือ ความสูงของฝ้าเพดานของชั้น 1 และชั้น 2 สูงถึง 3 เมตร ทำให้เมื่อเข้ามาภายในบ้านจะรู้สึกกว้าง และโปร่งสบายเป็นพิเศษ
ทางโครงการตกแต่งตัวอย่างสไตล์โฮมออฟฟิศให้ดูเป็นตัวอย่าง ด้วยการแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกฝั่งหน้าบ้านเป็นพื้นที่ของ Reception Area
ออกแบบมาให้มีพนักงานคอยต้อนรับเวลามีแขกมาที่ออฟฟิศ ด้านข้างวางที่นั่งสำหรับการรอติดต่อธุระ
สำหรับบันไดขึ้นชั้น 2 อยู่ใกล้กับประตูฝั่งหน้าบ้าน
พื้นที่ส่วนถัดไปทางโซนด้านใน ทางโครงการออกแบบเป็นที่นั่งสำหรับทานอาหาร โดยวางตัวอย่างเป็นโต๊ะทานอาหารที่รอบรับได้ 6 ที่นั่ง
แต่หากว่าต้องการที่จะทำเป็นออฟฟิศที่สามารถรองรับจำนวนพนักงานได้มากขึ้น อาจต่อเติมพื้นที่หลังบ้านทำเป็นห้องทานอาหาร แล้วใช้พื้นที่โซนนี้เป็น Office Area เพิ่มเติมก็ได้เช่นกัน
Pantry Area ซึ่งเหมาะทำเป็นมุมชงชากาแฟ สำหรับพนักงาน และแขกที่มาติดต่อธุระ
ในบ้านมาตรฐานจะเห็นว่ามีการวางระบบประปา เดินท่อน้ำดีน้ำทิ้ง และปลั๊กไฟให้สะดวกพร้อมต่อเติมเพื่อใช้งานได้อย่างสะดวก ทางซ้ายเป็นห้องน้ำชั้นล่าง ส่วนทางขวาเป็นห้องเก็บของ
ประตูห้องเก็บของบานสำเร็จแบบมีช่องระบายอากาศด้านล่าง เพื่อป้องกันไม่ให้ภายในมีกลิ่นอับ ประตูแบบทรงสูงเข้าออกเก็บของได้ง่าย
พื้นที่เก็บของด้านในกว้างพอประมาณ เก็บอุปกรณ์สำนักงานก็ได้ หรือจะเป็นอุปกรณ์ทำความสะอาดของทางแม่บ้านก็ดี
ภายในห้องเก็บของยังเป็นจุดติดตั้งระบบเบรคเกอร์ไฟฟ้า และระบบอินเตอร์เน็ต เป็นระเบียบเรียบร้อย
เข้าไปดูห้องน้ำชั้น 1 กันต่อครับ
ห้องน้ำจะเป็นแบบ Unisex ไม่มีห้องสำหรับอาบน้ำ เพื่อให้สอดคล้องกับรูปแบบการใช้งานสไตล์โฮมออฟฟิศ
อ่างล้างหน้าทรงเหลี่ยม American Standard ด้านล่างมีตู้เก็บของ
อย่างที่บอกว่าเป็นห้องน้ำแบบ Unisex ติดตั้งโถสุขภัณฑ์ให้ทั้ง 2 ประเภท โดยโถปัสสาวะชายเป็นของ Cotto ส่วนโถสุขภัณฑ์ปกติของ American Standard ด้านหลังมีแนวบ่า Low Wall หินแกรนิต สำหรับวางของได้
ติดตั้งบานกระจกให้ขนาดใหญ่เต็มผนังแนวยาว เสริมด้วยช่องแสงแบบที่สามารถเปิดปิดบานกระทุ้งได้ ช่วยป้องกันการอับชื้นได้เป็นอย่างดี
ในห้องน้ำใช้ไฟส่องสว่างแบบดาวน์ไลท์
ส่วนต่อไปเราจะไปดูพื้นที่หลังบ้านที่ผ่านโซนทานอาหารไปยังด้านหลัง
ประตูหลังบ้านเป็นวัสดุแบบเดียวกับหน้าบ้าน อลูมิเนียม Powder Coat กระจกเขียวตัดแสง แต่เปลี่ยนเป็นการเปิดปิดแบบบานสไลด์แทน
ทางโครงการออกแบบให้ดูเป็นไอเดีย สำหรับนั่งเล่นพักผ่อน ทานอาหาร ซึ่งอาจจะจัดวางให้สามารถรองรับการทานอาหารพร้อมกันจำนวน 6-10 คนได้สบาย เพื่อให้พื้นที่ด้านในบ้านทำเป็นโซนออฟฟิศได้อย่างเต็มที่
เปรียบเทียบให้เห็นว่าแบบบ้านมาตรฐาน พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ผนังกำแพงมีความสูงกว่าปกติ เพื่อให้การต่อเติมนั้นง่ายขึ้น พร้อมทั้งติดตั้งปั๊มน้ำแทงค์น้ำพร้อมใช้งาน
ส่วนต่อไปเราขึ้นไปชมด้านบนชั้น 2 กันต่อครับ
โครงสร้างบันไดแบบคอนกรีตเสริมเหล็ก ลูกนอนไม้ประสาน แข็งแรงทนทาน เดินขึ้นลงไม่ส่งเสียงดังรบกวนพนักงานที่กำลังทำงาน
บริเวณชั้นพักบันได มีช่องแสงบานฟิกซ์ เพิ่มความสว่างจากแสงธรรมชาติบริเวณโถงบันได
ชั้น 2 ยังคงเป็นพื้นที่แบบ Open Plan เปิดโล่ง สำหรับทำเป็น Office Area ทางโครงการจัดวางโต๊ะทำงานสำหรับพนักงานจำนวน 8 ที่นั่ง แต่ทางโครงการเคลมว่าด้วยขนาดพื้นที่ใช้สอย สามารถรองรับพนักงานที่ชั้น 2 นี้ได้ถึง 10-15 คน
พื้นชั้น 2 ปูด้วยแกรนิตโต้ 60 x 60 ซม. ผนังฉาบเรียบทาสีขาว โคมไฟดาวน์ไลท์ และเพดานสูง 3 เมตรเท่ากันกับชั้น 1
ทางโครงการตกแต่งพื้นที่ตรงส่วนหน้าบ้านเป็นมุมพักผ่อน นั่งเล่น ด้วยการวางโซฟาขนาดใหญ่ อย่างที่บอกว่าหากตัดฟังก์ชั่นนี้ออกไป แล้วเปลี่ยนเป็นพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทำงานเพิ่ม จะสามารถรองรับพนักงานได้มากกว่า 10 คนขึ้นไป
จุดเด่นของหน้าต่างทางฝั่งหน้าบ้านของชั้น 2 เป็นหน้าต่างแบบ Full Height ที่สามารถมองวิวออกไปสู่ด้านนอกได้อย่างกว้างขวาง รวมถึงรับแสงธรรมชาติเพิ่มความสว่างสู่ด้านใน เสริมสร้างบรรยากาศในการทำงานได้เป็นอย่างดี
ทางฝั่งด้านหลังเป็นมุม Pantry และห้องน้ำ
บ้านหน้าต่างแบบบานสไลด์ เสริมด้วยช่องแสงด้านล่างเพิ่มความสว่าง
ภายในห้องน้ำชั้น 2 ยังคงเป็นแบบ Unisex ที่รอบรับการใช้งานทั้งหญิง-ชาย ส่วน Layout และวัสดุเหมือนกับห้องน้ำชั้น 1
ขึ้นไปชมด้านบนชั้น 3 กันต่อ
สำหรับชั้น 3 รูปแบบจะแตกต่างออกไปพอสมควร เนื่องจากเป็นชั้นที่มีฟังก์ชั่นความเป็น Resident มากขึ้น ประกอบด้วย 1 ห้องนอน 1 ห้องอเนกประสงค์ และ 1 ห้องน้ำ
พื้นปูด้วยลามิเนตหนา 12 มม. ช่วยดูดซับเสียงเวลาเดินได้ดีขึ้น ความสูงเพดานของชั้น 3 และชั้น 4 อยู่ที่ 2.8 เมตร
ห้องอเนกประสงค์นี้ ทางโครงการทำตัวอย่างเป็นห้องนั่งเล่น วางโซฟา และชั้นวางทีวีคนละด้าน ซึ่งแน่นอนว่าในการใช้งานจริงสามารถปรับเปลี่ยนได้อย่างยืดหยุ่น อาจจะใช้งานโซนนี้เป็นออฟฟิศเสริมก็ได้ ส่วนในห้องนอนของชั้น 3 ก็เหมาะสำหรับเป็นห้องทำงานของผู้บริหาร เจ้าของบริษัทที่ต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
พื้นที่หลังบ้านออกแบบให้รองรับสำหรับการทำเป็น Pantry Area เพิ่มเติมด้วยพื้นที่ระเบียงด้านนอก
ระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาด 30×30 ซม.ราวกันตกระแนงเหล็กสีดำ
เข้าไปดูภายในห้องน้ำชั้น 3 กันบ้างครับ
ห้องน้ำชั้น 3 เป็นรูปแบบที่สอดคล้องฟังก์ชั่นความเป็น Residential ด้วยห้องที่สามารถอาบน้ำได้ และแยกฟังก์ชั่นโซนแห้ง-เปียก
อ่างล้างหน้าวางบนเคาน์เตอร์หินแกรนิตสีดำหรูหราสวยงาม และโถสุขภัณฑ์ของ American Standard
โซนเปียกแบ่งพาร์ติชั่นด้วยฉากอาบน้ำ กระจกนิรภัยมีความปลอดภัยในการใช้งาน ด้านในติดตั้งฝักบัวสายอ่อนวางบนราวแขวนปรับระดับความสูงได้ พร้อมวางระบบรองรับเครื่องทำน้ำอุ่น
ไปดูในส่วนของห้องนอนที่ชั้น 3 กันต่อครับ
ภายในห้องนอนลองตกแต่งด้วยการวางเตียงขนาด 5 ฟุตให้ดูเป็นตัวอย่าง
ด้านปลายเตียงเหลืองสเปซกว้างขวางสำหรับชั้นวางทีวี ในขณะที่ยังเหลือทางเดินผ่านเข้าออกได้อย่างสะดวก
หน้าต่างห้องให้เป็นรูปแบบของหน้าต่าง Full Height กว้างและสูงเต็มผนังช่นกัน
อันที่จริงขนาดห้องนั้นจะกว้างกว่าที่เห็นในภาพ แต่ทางโครงการมีการกั้นพื้นที่ส่วนหนึ่งบริเวณหัวเตียงทำเป็น Walk-in Closet
Walk-in Closet และมุมโต๊ะเครื่องแป้ง ด้านหลังหัวเตียง มีพื้นที่ใช้สอยที่พอเหมาะสำหรับการใช้งานจริง
ขึ้นไปชมด้านบนกันต่อซึ่งเป็นชั้นที่ 4
ชานพักเป็นแบบสามเหลี่ยม มีราวจับให้ตลอดแนวเพื่อความสะดวกปลอดภัยในการขึ้นลง
ฟังก์ชั่นของชั้น 4 ประกอบด้วย 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พื้นเป็นลามิเนตลายไม้หนา 12 มม. ความสูงเพดานเท่ากับชั้น 3 ที่ 2.8 เมตร
เข้าไปดูห้องนอนทางฝั่งหลังบ้าน ใกล้บันได้ก่อนครับ
ภายในห้องนอนกว้างขวาง ทางโครงการทำเป็นธีมห้องนอนเด็กสำหรับ 2 คนพี่น้อง วางเตียงขนาด 3.5 ฟุตคนละด้าน บนฐานเตียงยกสูงเล่นระดับ
อีกด้านของห้องทำเป็นมุมเก็บของและพืนที่นั่งเล่น
เปรียบเทียบกับแบบบ้านเปล่า
กลับมาที่ห้องโถงชั้น 4 เพื่อไปดูห้องนอนทางฝั่งหน้าบ้านกันต่อครับ
สำหรับห้องนอนนี้ หากดูจากขนาดและฟังก์ชั่น นับว่าเป็น Master Bedroom เนื่องจนากขนาดห้องที่กว้างขวางที่สุด อยู่ที่ชั้นบนสุด และมีทางเข้าห้องน้ำได้โดยตรง สำหรับเตียงนอนสามารถเลือกใช้เตียงขนาด 5-6 ฟุต
พื้นที่ฝั่งปลายเตียงเป็นโซน Walk-in Closet บิวท์อินตู้เสื้อผ้าอยู่ใกล้กับประตูทางเข้าห้องน้ำ
มองย้อนกลับไปยังทางเข้าห้อง จะเห็นว่าทางเข้าห้องน้ำอยู่ใกล้กับประตูทางเข้าห้อง
ทางฝั่งหน้าบ้านมีพื้นที่ระเบียง
สำหรับระเบียงทางฝั่งหน้าบ้านจะใช้ราวกันตกแบบแผ่นกระจก ที่นอกจากจะช่วยเสริมเรื่องของความสวยงามหรูหรา ยังสามารถเพิ่มมุมมองจากภายในสู่ภายนอก ต่างจากแนวกันตกระแนงเหล็กที่ใช้กันทั่วไป
ตัวอย่างมุมมองจากชั้น 4 จะเห็นว่าสามารถเทควิวออกไปได้โดยไม่มีอะไรมาบดบังทัศนียภาพ ด้วยจุดเด่นของโครงการที่มีแนวบ้านพักอาศัยเพียงด้านเดียวของถนน
สำหรับห้องน้ำบนชั้น 4 จะเป็นห้องน้ำแบบ Double Access ที่เข้าออกได้จากห้องนอนหลัก และโถงชั้น 4
รูปแบบของห้องน้ำแบ่งแยกโซนแห้ง-เปียกชัดเจน
อ่างล้างหน้า American Standard วางบนเคานฺเตอร์หินแกรนิตสีดำ
โถสุขภัณฑ์ American Standard
ติดตั้งบานกระจกเงาขนาดใหญ่ กว้างเต็มพื้นที่โซนแห้ง พร้อมเพิ่มลูกเล่นด้วยกระเบื้องลายโมเสก
แบ่งพาร์ติชั่นระหว่างโซนแห้ง-เปียกด้วยฉากกระจกนิรภัย ภายในห้องอาบน้ำติดตั้งฝักบัวสายอ่อนแขวนบนราวปรับระดับได้
::: ราคา ::: (ก.ค. 63)
โฮมออฟฟิศ 4 ชั้น Type A หน้ากว้าง 5 เมตร : ราคาเริ่มต้น 9.8 ล้านบาท
ที่ดินเริ่ม 21.9 ตร.ว./ พื้นที่ใช้สอย 215 ตร.ม. / 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พร้อม Office Area ขนาดใหญ่ที่ชั้น 1 และ ชั้น 2
ค่าส่วนกลาง : 100 บาท/ตร.ว./เดือน
*ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดตรวจสอบกับทางสำนักงานขายตามรายละเอียดท้ายรีวิวครับ*
::: บทสรุปโครงการ :::
ทำเลที่ตั้งโครงการ : Premium Place เกษตร-นวมินทร์ 2 ตั้งอยู่ภายในซอยมัยลาภ ที่เข้าได้จากถนนสำคัญรอบด้านทั้ง ถนนรามอินทรา, ถนนเกษตร-นวมินทร์ และถนนประดิษฐ์มนูธรรม ภาพรวมของทำเลนี้จะเป็นบ้านพักอาศัยในแนวราบเสียเป็นส่วนใหญ่ มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะด้านการคมนาคม ด้วยการขนส่งในระบบราง ปัจจุบันมีงานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพูอยู่บนถนนรามอินทรา ยังไม่รวมกับแผนงานรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล และสายสีเทาในอนาคต ซึ่งล้วนแต่เป็นปัจจัยที่ส่งเสริมเรื่องการเดินทางของคนในพื้นที่ได้อย่างมีนัยสำคัญ
การเดินทางด้วยรถส่วนตัว : การสัญจรของโครงการมีความสะดวกจากการที่สามารถเข้าออกได้หลากหลายเส้นทาง และแต่ละเส้นทางล้วนเป็นถนนเส้นหลักของย่านนี้ทั้งสิน การเข้าออกเมืองจึงมีความยืดหยุ่นสามารถเลือกใช้ได้อย่างเหมาะสมกับจุดมุ่งหมายในแต่ละเส้นทาง ประกอบกับมีทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ในระยะที่เข้าถึงง่าย และสามารถต่อยอดไปเชื่อมกับทางด่วนอื่นได้ทั้ง ทางด่วนศรีรัชบริเวณพระราม 9 และทางด่วนเฉลิมมหานครบริเวณสุขุมวิท-บางนา รวมถึงทางฝั่งของวิภาวดีรังสิต-พหลโยธินก็มีทางด่วนอุตราภิมุข ใช้สำหรับเข้าเมืองไปทางฝั่งดินแดงได้เช่นกัน
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ : หน้าโครงการเองมีรถสาธารณะผ่านหลายรูปแบบทั้งรถสองแถว, วินมอไซค์ และรถแท๊กซี่ แต่จุดเด่นที่สำคัญคือเรื่องของรถไฟฟ้า ที่อยู่ใกล้ถึง 2 สายได้แก่รถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีม.เกษตร ที่สามารถนั่งเข้าเมืองไปยังสยาม-สุขมวิทได้โดยตรง ไม่ต้องเปลี่ยนสาย ส่วนรถไฟฟ้าอีกสายที่กำลังก่อสร้างและใกล้เสร็จในช่วงปลายปี 64 คือสายสีชมพู แคราย-มีนบุรี ตัวโครงการอยู่ห่างจากสถานีมัยลาภเพียง 2 กม. ตอบโจทย์ความเป็นโฮมออฟฟิศ ที่พนักงานสามารถนั่งรถไฟฟ้าเข้าถึงได้ง่าย
การออกแบบโครงการและวัสดุ : โครงการโฮมออฟฟิศ 4 ชั้น หน้ากว้าง 5-6 เมตรที่ออกแบบด้วยนวัตกรรม Design Space ผสมผสานพื้นที่การใช้งานสำหรับการทำธุรกิจ และการอยู่อาศัยได้อย่างลงตัว บนพื้นที่โครงการ 3-0-35 ไร่ จำนวนบ้านพักอาศัย 23 ยูนิตที่ดินเริ่มต้น 21.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 215-255 ตร.ม.
เน้นพื้นที่ใช้สอยในบ้านกว้าง โดยจะแบ่งชั้น 1-2 เป็นออฟฟิศ และชั้น3-4 เป็นชั้นพักอาศัย แต่ยังมีความ Flexible สามารถปรับเปลี่ยนสัดส่วนของออฟฟิศ และการพักอาศัยให้สอดคล้องกับการใช้งานจริง อย่างเช่นชั้น 3 ที่โครงการทำเป็นชั้นพักอาศัยให้ดู จะเปลี่ยนเป็นพื้นที่สำนักงานเพิ่มเติมเพื่อรองรับธุรกิจที่มีขนาดใหญ่ จำนวนพนักงานมากขึ้นได้อย่างลงตัว ส่วนห้องนอนนั้น ก็ปรับเปลี่ยนเป็นห้องทำงานของผู้บริหารที่ได้ความเป็นส่วนตัวสูงขึ้น บ้านทุกหลังในโครงการประตูด้านหน้ามี Digital Door Lock และติดตั้งกล้องวงจรปิดที่หน้าบ้าน ชั้น 1 และชั้น 2 ที่เป็นส่วนของงานธุรกิจ
พื้นบ้านชั้นที่เป็นออฟฟิศ ปูด้วยแกรนิตโต้ขนาด 60×60 ซม. พื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้องเซรามิคขนาด 30×30 ซม. ชั้นพักอาศัยที่เป็นห้องนอนพื้นเป็นลามิเนตลายไม้หนา 12 มม. กรอบประตูหน้าต่างอลูมิเนียม Powder Coat สีดำ, กระจกเขียวตัดแสง, ประตูห้องภายในเป็นบานไม้สำเร็จ มือจับแบบก้านโยก , ผนังฉาบเรียบทาสี, ไฟดาวน์ไลท์ พร้อม Digital Door Lock และ CCTV ทุกหลัง
สิ่งอำนวยความสะดวก : ด้วยความเป็นรูปแบบโครงการโฮมออฟฟิศ ส่วนกลางจึงเน้นไปทางด้านการติดต่อธุรกิจเป็นหลักด้วยการให้ที่จอดรถส่วนกลางกว่า 50 คัน เพื่อรองรับลูกค้าที่มาติดต่อ เสริมด้วยระบบความปลอดภัยขั้นสูงด้วย ระบบ Auto Access Card พร้อมรปภ.และ CCTV 24 ชม.
::: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ :::
Tel : 02-907-1199
Website : https://www.premiumplacegroup.com/project/premium-12/#opening
หากท่านเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ โปรดกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณครับ
หากท่านมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวครับ
EP.2500 รีวิว ศุภาลัย ไพร์ด วงแหวน-พระราม 2 / Supalai Pride Wongwaen-Rama 2 บ้านเดี่ยว, บ้านแฝด และทาวน์โฮมซีรีส์ใหม่สไตล์ Tropical Modern ทำเลดี ใกล้ถนนพระราม 2 และทางด่วนใหม่ เริ่ม 2.29-6 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่า คุณผู้อ่านทุกคน
EP.2499 รีวิว นารา โบทานิค ราชพฤกษ์-345 Nara Botanic Ratchaphruek-345 บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Luxury ใจกลางธรรมชาติ วิวทะเลสาบ ติดถนนใหญ่ราชพฤกษ์ ราคาเริ่ม 6.9 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พามาชมโครงการ Nara Botanic ราชพฤกษ์-345 จาก Narai Property ที่ตั้งโครงการอยู่บนทำเลศักยภาพ ติดถนนราชพฤกษ์
EP.2498 รีวิว เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน Setthasiri Ngamwongwan บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Georgian ใกล้ทางด่วน เพียง 2 นาที* และ The Mall งามวงศ์วาน เริ่มต้น 18-40 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่ะ วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน บ้านเดี่ยวหรู
EP.2497 รีวิว ศุภาลัย แกรนด์ เอสเซ้นส์ อรุณอมรินทร์ Supalai Grand Essence Arun-Amarin บ้านหรูกลางเมือง 3.5 ชั้น พร้อม Double Space เอกสิทธิ์เพียง 36 ครอบครัว ใกล้ ICONSIAM ทางด่วน และรถไฟฟ้า 3 สาย เริ่ม 22.9-40 ล้านบาท* Written by
EP.2496 รีวิว เดอะ แกรนด์ ปิ่นเกล้า-วงแหวนกาญจนา The Grand Pinklao-Wongwaen Kanchana บ้านเดี่ยวหรูสไตล์ Modern European พร้อม Pool Villa สระว่ายน้ำส่วนตัวทุกหลัง เพียง 39 ครอบครัวเท่านั้น ทำเลดีติดถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วน และรถไฟฟ้า MRT ราคาเริ่มต้น 30-70 ล้าน* Written by : Nan
EP.2495 รีวิว บารานี บลิซ รังสิต-วงแหวน / Baranee Bliss Rangsit-Wongwaen บ้านเดี่ยวสไตล์ Modern British Luxury ทำเลศักยภาพ ติด ถ.รังสิต-นครนายก ใกล้วงแหวนกาญจนาภิเษก เอกสิทธิ์เพียง 87 ครอบครัว เริ่ม 8-17 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีคุณผู้อ่านทุกคนค่ะ วันนี้
EP.2494 รีวิว ศุภาลัย พาร์ควิลล์ กาญจนาภิเษก-ซ.กันตนา Supalai Park Ville Kanchanapisek-Soi Kantana บ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ Tropical ใกล้ Central Westgate เริ่ม 5.69 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ Supalai Park
EP.2493 รีวิว อณาสิริ สรงประภา Anasiri Songprapha บ้านเดี่ยวและบ้านแฝด สไตล์ญี่ปุ่น ใกล้ทางด่วน 2 สาย ใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดง เพียง 15 นาที* ถึงสนามบินดอนเมือง เริ่ม 5.99-9 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่ะ วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ Anasiri สรงประภา บ้านสไตล์ญี่ปุ่น
EP.2492 รีวิว เสนา แกรนด์โฮม บางนา กม.29 Sena Grand Home Bangna KM.29 บ้านเดี่ยว สไตล์ Modern Japanese ติดถนนใหญ่บางนา-ตราด ใกล้ทางด่วน นิคมฯ และสนามบิน ราคา 7-10 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo จะพาไปชมบ้านเดี่ยวโครงการใหม่
EP.2491 รีวิว เสนา วีว่า เทพารักษ์-บางบ่อ SENA VIVA Thepharak-Bangbo ทาวน์โฮมแนวคิดพลังงานเป็น 0 ฟังก์ชันคุ้มค่า ส่วนกลางครบ พร้อมสังคมคุณภาพ ใกล้นิคมฯ บางพลี ใกล้ทางด่วนบูรพาวิถี เริ่ม 2.59 ล้านบาท* Written by : THAnATH สวัสดีผู้อ่านชาว Homenayoo ทุกคน วันนี้ผมพามาชมโครงการ SENA VIVA เทพารักษ์-บางบ่อ ทาวน์โฮมคุ้มค่า
แสดงความคิดเห็น