EP.xxxx รีวิว SALA ลาดพร้าว-รัชโยธิน ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น สไตล์ Courtyard ในซอยลาดพร้าววังหิน 80 ใกล้ BTS เสนานิคม เป็นส่วนตัวเพียง 6 ยูนิต เริ่ม 14.9 ล้าน* - HOMENAYOO
homenayoo

EP.xxxx รีวิว SALA ลาดพร้าว-รัชโยธิน ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น สไตล์ Courtyard ในซอยลาดพร้าววังหิน 80 ใกล้ BTS เสนานิคม เป็นส่วนตัวเพียง 6 ยูนิต เริ่ม 14.9 ล้าน*

โพสโดย : pure / วันที่ : 14 October 2022

***กรุณาไฮไลท์ จุดที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม เพื่อความรวดเร็วในการตรวจสอบงานค่ะ***

CAPTION FOR FACEBOOK :

*ข้อความข้างต้นจะอยู่ใน Caption บน Facebook เท่านั้น ไม่รวมอยู่ในเนื้อหารีวิวบนเว็บไซต์

🌿 Rare Item แห่งลาดพร้าว-รัชโยธิน ทาวน์โฮมที่หลายคนเห็นแล้วต้องหยุดมอง… เพราะนี่ไม่ใช่ทาวน์โฮมธรรมดา แต่คือ “บ้านดีไซน์ใหม่” ที่ออกแบบให้ทุกพื้นที่เชื่อมต่อกับธรรมชาติ และตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้จริงในทุกวัน
.
วันนี้เราจะพาไปชมโครงการ ‘SALA ลาดพร้าว-รัชโยธิน’ จาก Sirilert Development ทาวน์โฮม 3 ชั้นครึ่งสุดพิเศษ ภายใต้แนวคิด “Biophilic Living with Nature จาก Sirilert Development ที่ตั้งใจให้ธรรมชาติกลายเป็นส่วนหนึ่งของบ้านอย่างแท้จริง 🌳
.
🏡 ตัวบ้านดีไซน์ Modern Minimal ผสานกลิ่นอาย Tropical เรียบ เท่ และสงบ โดดเด่นด้วยโทนสีขาวสะอาดตา เสริมลายไม้ธรรมชาติที่ให้ความอบอุ่นและผ่อนคลาย ทุกเส้นสายผ่านการออกแบบอย่างประณีต เพื่อให้บ้านดูเรียบหรูแต่ไม่เรียบง่ายเกินไป
.
ภายนอกใช้กระจกบานใหญ่เปิดรับแสงธรรมชาติเต็มที่ พร้อม Perforated Aluminium เลื่อนเปิด-ปิดได้ และ Aluminium Composite ลายไม้แนวตั้ง ที่ช่วยกรองแสง ลดความร้อน และยังคงความเป็นส่วนตัวในพื้นที่อยู่อาศัยได้อย่างลงตัว 🌤️
.
🌳 ภายในแต่ละหลังออกแบบให้มี Courtyard กลางบ้าน และ Pocket Garden กระจายอยู่ในทุกชั้น ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Modern Rainforest” ที่เลือกพรรณไม้เขียวสดทนแดด ดูแลง่าย ให้ความรู้สึกสดชื่นทุกครั้งที่กลับถึงบ้าน
.
☀️ ด้านบนสุดติดตั้ง Skylight โครงเหล็กสีขาวกับวัสดุ Polycarbonate โปร่งแสง ช่วยให้แสงธรรมชาติส่องทั่วบ้านโดยไม่ร้อน พร้อมช่องระบายอากาศลดความอับชื้น ทำให้ทุกชั้นโปร่งโล่ง และทุกห้องสามารถเปิดหน้าต่างได้สองด้าน เป็นจุดเด่นที่แตกต่างจากทาวน์โฮมทั่วไปอย่างชัดเจน
.
📍 ทำเลโครงการตั้งอยู่ในซอยลาดพร้าววังหิน 80 ย่านสงบแต่เดินทางสะดวก เชื่อมต่อถนนหลักได้หลายสาย ทั้ง ลาดพร้าว พหลโยธิน เกษตร-นวมินทร์ และรัชดาภิเษก ใกล้ทั้งทางด่วนและรถไฟฟ้า 3 สาย
.
🍜🍰 รายล้อมด้วยคาเฟ่ ร้านอาหารชื่อดัง และห้างใหญ่ เช่น Major รัชโยธิน, Central ทั้ง 3 สาขา รวมถึงย่านธุรกิจสำคัญอย่าง ลาดพร้าว-รัชดา-พหลโยธิน ที่ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีถึง 🚗✨
.
โครงการมีเพียง 6 ยูนิตเท่านั้น ให้ความเป็นส่วนตัวสูง บนที่ดินเริ่มต้น 36-47.7 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอยกว่า 350 ตร.ม. ฟังก์ชันครบ 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ชั้นลอย และที่จอดรถ 4 คัน พร้อม Junction Box รองรับ EV Charger ทุกหลัง ⚡
.
🔐 มาพร้อม Smart Living with Innovative Technology ยกระดับชีวิตด้วยระบบบ้านอัจฉริยะ ทั้งประตูโรงรถอัตโนมัติ, IP Camera, Smoke & Heat Detector และ Magnetic Sensor ที่เชื่อมต่อผ่าน Application ได้โดยตรง
.
รวมถึงระบบ Smart Lighting & Smart Home Control ที่ควบคุมแสงสว่าง ผ้าม่าน และระบบรักษาความปลอดภัยด้วย Application หรือคำสั่งเสียง เพื่อการใช้ชีวิตที่สะดวก ยืดหยุ่น และปลอดภัยในทุกวัน

✨ ราคาเริ่มต้น 14.9 ล้านบาท* (ต.ค. 68)
.
บ้านพร้อมอยู่ ที่ออกแบบให้ “ธรรมชาติอยู่ใกล้คุณทุกลมหายใจ” 🌿
.
📍 ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ : https://sirilert.co.th/sala/
.
สอบถามข้อมูลและโปรโมชันเพิ่มเติม
📞 Tel : 081-553-5555
💬 Line OA : https://line.me/ti/p/~@sirilert
.
อ่านรีวิวฉบับเต็มได้ที่ 👉 https://www.homenayoo.com/sala-ladprao-ratchayothin/
.
________________
📌 ติดตาม Homenayoo เพิ่มเติม
💻 Website ▶ www.Homenayoo.com
💬 Facebook ▶ Facebook.com/homenayoo.fc
🎬 YouTube ▶ Youtube.com/@Homenayoo
🎶 Tiktok ▶ Tiktok.com/@homenayoo


รีวิว สาละ ลาดพร้าว-รัชโยธิน / SALA Ladprao-Ratchayothin ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น สไตล์ Courtyard ในซอยลาดพร้าววังหิน 80 ใกล้ BTS เสนานิคม เป็นส่วนตัวเพียง 6 ยูนิต เริ่ม 14.9 ล้าน*

Written by : Pure Thitapa

สวัสดีค่ะ คุณผู้อ่าน Homenayoo ทุกคน วันนี้เราจะพาไปชมโครงการSALA ลาดพร้าว-รัชโยธิน’ จาก Sirilert Development ทาวน์โฮม 3 ชั้นครึ่งที่ออกแบบให้ “ธรรมชาติอยู่ใกล้คุณในทุกพื้นที่ของชีวิต” ผ่าน Courtyard ใจกลางบ้าน ที่เป็นเหมือนหัวใจสำคัญของการอยู่อาศัย ให้บ้านหายใจได้ และให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกผ่อนคลายในทุกช่วงเวลา

โครงการตั้งอยู่ภายในซอยลาดพร้าววังหิน 80 เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ ถือเป็นทำเลที่เดินทางสะดวกมาก เพราะอยู่ใกล้ถนนหลักอย่างลาดพร้าว พหลโยธิน เกษตร-นวมินทร์ และรัชดาภิเษก อีกทั้งยังใกล้ทางด่วนและรถไฟฟ้าถึง 3 สาย ทำให้การเชื่อมต่อเข้า-ออกเมืองเป็นเรื่องง่าย

รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบทุกด้าน ทั้งร้านค้า ร้านอาหารชื่อดังในย่านลาดพร้าววังหิน-โชคชัย 4 ใกล้ Major รัชโยธิน และห้างใหญ่ 3 สาขาในเครือ Central รวมถึงอยู่ใกล้แหล่งงานสำคัญฝั่งลาดพร้าว-รัชดา และพหลโยธิน เพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น

สาละ ลาดพร้าว-รัชโยธิน เป็นโครงการทาวน์โฮม 3.5 ชั้น สไตล์ Modern Minimal + Tropical ที่เน้นความเรียบง่ายแต่เปี่ยมด้วยฟังก์ชันและรายละเอียดของการออกแบบ เหมาะกับการใช้ชีวิตยุคใหม่ ให้ความเป็นส่วนตัวด้วยจำนวนเพียง 6 ยูนิต บนที่ดินเริ่มต้น 36-47.7 ตร.ว. พร้อมพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางถึง 350 ตร.ม.

ฟังก์ชันภายในบ้านตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ที่ต้องการทำเป็นที่อยู่อาศัย หรือโฮมออฟฟิศ ด้วยจำนวน 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ชั้นลอย และที่จอดรถ 4 คัน โดยทุกหลังติดตั้ง Junction Box รองรับการชาร์จ EV Charger และปัจจุบันโครงการสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่

ภายในบ้านยังมาพร้อมระบบ Smart Living with Innovative Technology ที่ช่วยยกระดับการอยู่อาศัยให้สะดวก ปลอดภัย และประหยัดพลังงานมากยิ่งขึ้น ทั้งระบบประตูไฟฟ้าอัตโนมัติ IP Camera ตรวจสอบความปลอดภัย รวมถึง Sensor ตรวจจับควัน และการเปิด-ปิดประตูหน้าต่างที่เชื่อมต่อกับ Application บนมือถือ

ผู้อยู่อาศัยยังสามารถควบคุมไฟ แสงสว่าง ผ้าม่าน และระบบรักษาความปลอดภัยภายในบ้านได้ง่าย ๆ ผ่าน Smart Phone หรือคำสั่งเสียง พร้อมด้วยการออกแบบบ้านที่เน้นการถ่ายเทอากาศตามธรรมชาติ และติดตั้งระบบ Smart Lighting เพื่อช่วยประหยัดพลังงานและสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นน่าอยู่ตลอดทั้งวัน / ราคาเริ่มต้น 14.9 ล้านบาท* (ต.ค. 68)

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ คลิก : https://sirilert.co.th/sala/

รายละเอียดโครงการจะมีอะไรน่าสนใจบ้าง ไปติดตามกันต่อได้เลยค่ะ

ชื่อโครงการ สาละ ลาดพร้าว-รัชโยธิน / SALA Ladprao-Ratchayothin
เจ้าของโครงการ บริษัท ศิริเลิศ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด / Sirilert Development
ลักษณะโครงการ
  • ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น สไตล์ Courtryard
พื้นที่โครงการ 237 ตร.ว.
จำนวนบ้าน 6 ยูนิต
เนื้อที่บ้าน เริ่มต้น 36-47.70 ตร.ว.
พื้นที่ใช้สอย เริ่มต้น 350 ตร.ม.
จำนวนห้อง 3 ห้องนอน, 4 ห้องน้ำ
ที่จอดรถทั้งหมด 4 คัน
โซน ลาดพร้าววังหิน
เส้นทางคมนาคม
  • ถนนพหลโยธิน
  • ถนนลาดพร้าว
  • ถนนรัชดาภิเษก
  • ทางพิเศษฉลองรัช
  • รถไฟฟ้า BTS เสนานิคม
  • รถไฟฟ้า MRT ภาวนา
ที่ตั้ง ซอยลาดพร้าววังหิน 80 แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กทม. 10230
กำหนดการ
ปีที่สร้างเสร็จ ก่อสร้างแล้วเสร็จ 2566
ราคา เริ่มต้น 14.9 ล้านบาท* (ต.ค. 68)
ค่าส่วนกลาง
สถานที่สำคัญใกล้เคียง ศูนย์การค้า

  • The Jas วังหิน : 1 กม.
  • Lotus’s วังหิน : 1 กม.
  • Nawamin City Avenue : 3 กม.
  • Major Cineplex รัชโยธิน : 3.7 กม.
  • The Walk เกษตร-นวมินทร์ : 5.2 กม.
  • Lotus’s พหลโยธิน : 5.2 กม.
  • The Central พหลโยธิน : 5.8 กม.
  • Big C Extra ลาดพร้าว 2 : 5.9 กม.
  • Central ลาดพร้าว : 6.3 กม.
  • Makro Food Service ประดิษฐ์มนูธรรม : 6.5 กม.
  • Central Eastville : 6.5 กม.
  • บุญถาวร รัชดาภิเษก : 6.8 กม.
  • The Crystal เอกมัย-รามอินทรา : 7.2 กม.
  • CDC : 7.4 กม.
  • Home Pro เอกมัย-รามอินทรา : 8.1 กม.
  • Lotus’s รามอินทรา-อาจณรงค์ : 8.4 กม.
  • The Street รัชดา : 8.8 กม.
  • Imperial World ลาดพร้าว : 9 กม.
  • Esplanade รัชดา : 9.4 กม.

ตลาดและอื่น ๆ

  • Green Plaza วังหิน : 1 กม.
  • Plaza Lagoon : 1.6 กม.
  • ตลาดหัวมุม : 3.4 กม.
  • ตลาดภาวนา : 4.2 กม.
  • The Shelter โชคชัย 4 : 4.5 กม.
  • ตลาดโชคชัย 4 : 4.9 กม.
  • ตลาดอินดี้โชคชัย 4 : 4.9 กม.
  • ตลาดเมืองไทยภัทร : 6.6 กม.

สถานศึกษา

  • มรภ.จันทรเกษม : 3.4 กม.
  • Firefly Forest School : 4.2 กม.
  • Oakbury International School : 4.3 กม.
  • รร.สตรีวิทยา 2 : 4.7 กม.
  • รร.หอวัง : 5.6 กม.
  • รร.บีคอนเฮาส์ แย้มสอาดลาดพร้าว : 5.8 กม.
  • ม.เซนต์จอห์น : 5.8 กม.
  • ม.เกษตรศาสตร์ : 7.4 กม.
  • รร.นวมินทราชินูทิศ บดินทรเดชา 3 : 7 กม.
  • รร.บดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) : 10.7 กม.

โรงพยาบาล

  • รพ.เปาโลเกษตร : 2.9 กม.
  • รพ.เปาโลโชคชัย 4 : 4 กม.
  • รพ.ลาดพร้าว : 8.9 กม.
  • รพ.เวชธานี : 10.2 กม.

อาคารสำนักงานและหน่วยงานอื่น ๆ

  • คปภ. : 3.3 กม.
  • กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ : 3.7 กม.
  • ตึกช้าง : 3.8 กม.
  • กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) : 4.6 กม.
  • SCB Park Plaza : 4.4 กม.
  • ศาลยุติธรรม รัชดา : 5.5 กม.
  • สน.โชคชัย 4 : 5.5 กม.
  • สำนักงานเขตลาดพร้าว : 5.5 กม.
  • กองคลังแผนที่ กรมแผนที่ทหารฯ : 6 กม.
  • TTB Bank Head Office : 6 กม.
  • Thai Airways Head Office : 6.2 กม.
  • เมืองไทยภัทร คอมเพล็กซ์ : 6.5 กม.
  • Town in Town : 10 กม.
  • PTT Head Office, Energy Complex : 15.8 กม.

สวนสาธารณะ

  • สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) : 6.7 กม.
  • สวนจตุจักร : 7.3 กม.

**ระยะทางวัดจากการโครงการไปยังจุดหมายปลายทาง**

สิ่งอำนวยความสะดวก
  • กล้อง IP Camera
  • Home Automation สั่งการผ่านมือถือ : Lighting Control, Door Window Magnetic, Smoke & Heat Detector, Siren, Digital Door Lock, Automatic Garage Door
  • รองรับ EV charger
Tel 081-553-5555
Line https://line.me/ti/p/~@sirilert
Website https://sirilert.co.th/sala/

ที่ตั้งโครงการ

ซอยลาดพร้าววังหิน 80 แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กทม. 10230

พิกัดโครงการ : https://goo.gl/maps/UTfsrUgD3mmkAz1K7

SALA ลาดพร้าว-รัชโยธิน ตั้งอยู่ภายในซอยลาดพร้าววังหิน 80 บนทำเลศักยภาพใจกลางโซนลาดพร้าวตอนเหนือ ถือเป็นอีกหนึ่งทำเลที่เชื่อมต่อเมืองได้สะดวกที่สุดของกรุงเทพฯ ตอนบน เพราะรายล้อมด้วยถนนสายหลักสำคัญ ทั้งถนนลาดพร้าว ถนนพหลโยธิน และถนนเกษตร-นวมินทร์ อีกทั้งยังมีทางลัดหลายเส้นที่สามารถเชื่อมต่อไปยังโซนรัชดาภิเษกได้อย่างรวดเร็ว

การเดินทางยิ่งสะดวกมากขึ้นด้วยโครงข่ายรถไฟฟ้าและทางด่วน โดยโครงการอยู่ใกล้ทั้ง BTS สถานีเสนานิคม บนเส้นพหลโยธิน และ MRT สถานีภาวนา บนเส้นลาดพร้าว ซึ่งสามารถต่อเชื่อมเข้าสู่สายสีน้ำเงินได้ง่าย ช่วยให้การเดินทางเข้า-ออกเมืองทำได้สะดวกในทุกทิศทาง และยังอยู่ใกล้ทางด่วนฉลองรัช ใช้เวลาเข้าสู่ย่านธุรกิจกลางเมืองเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น

รอบ ๆ โครงการเป็นโซนที่เต็มไปด้วยสีสันของการใช้ชีวิต ทั้งศูนย์การค้า แหล่งไลฟ์สไตล์ และคอมมูนิตี้มอลล์มากมาย อาทิ Central ลาดพร้าว, Union Mall, Major รัชโยธิน, The Jas วังหิน รวมถึงโครงการ Mixed-Use ขนาดใหญ่แห่งใหม่อย่าง The Central พหลโยธิน ที่คาดว่าจะเปิดให้บริการปลายปี 2569 ซึ่งจะยิ่งเพิ่มความคึกคักให้กับย่านนี้มากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ บนเส้นลาดพร้าววังหินและโชคชัย 4 ยังขึ้นชื่อเรื่องร้านอาหาร คาเฟ่ และคอมมูนิตี้มอลล์บรรยากาศดีที่เรียงรายตลอดสองข้างทาง มีให้เลือกกว่า “ร้อยร้าน” ตั้งแต่ร้านอร่อยเจ้าดังไปจนถึงคาเฟ่สไตล์มินิมอล บอกเลยว่าออกจากบ้านแค่ไม่กี่นาทีก็หาของกินได้ครบทุกแนว ทำให้พื้นที่นี้เหมาะทั้งกับการอยู่อาศัยจริงและการลงทุน เพราะรวมครบทั้ง “ความสะดวก-ความมีชีวิตชีวา-และศักยภาพการเติบโต” ในอนาคตอย่างแท้จริงค่ะ

การเดินทางโดยรถส่วนตัว : จาก SALA ลาดพร้าว-รัชโยธิน ถือว่าสะดวกมาก เพราะโครงการตั้งอยู่ภายในซอยลาดพร้าววังหิน 80 ห่างจากถนนหลักเพียง 350 ม.* เท่านั้น สามารถเชื่อมต่อสู่ถนนสายสำคัญได้หลายเส้น ทั้งลาดพร้าว, พหลโยธิน, เกษตร-นวมินทร์ และรัชดาภิเษก ทำให้เดินทางเข้า-ออกเมืองได้คล่องตัว ทั้งฝั่งเหนือและฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ

จากโครงการสามารถใช้ถนนลาดพร้าววังหิน เชื่อมออกเสนานิคม 1 ได้ในระยะเพียง 550 ม.* แล้วลัดออกถนนพหลโยธินได้อย่างรวดเร็ว ใช้เวลาไม่นานก็ถึง Major รัชโยธิน, ม.เกษตรศาสตร์, ม.ศรีปทุม หรือขึ้นทางด่วนศรีรัชได้ที่ ด่านรัชโยธิน และ ด่านลาดพร้าว เพื่อมุ่งหน้าสู่ย่านอโศก-สาทร-พระราม 9 ได้ภายในประมาณ 20-30 นาที* เท่านั้น

อีกหนึ่งเส้นทางยอดนิยมคือถนนเกษตร-นวมินทร์ ซึ่งสามารถเชื่อมต่อไปยังถนนลาดปลาเค้า, ถนนรามอินทรา และถนนประดิษฐ์มนูธรรม (เลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา) เส้นนี้เหมาะมากสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางสู่โซนเอกมัย-ทองหล่อ โดยไม่ต้องย้อนเข้าเมือง ช่วยเลี่ยงการจราจรในชั่วโมงเร่งด่วนได้ดี


สำหรับเส้นทางลัดในย่านลาดพร้าว-วังหิน ก็มีให้เลือกหลากหลาย สามารถลัดออกถนนโชคชัย 4 หรือตรงเข้าสู่ถนนลาดพร้าวได้สะดวก อีกทั้งยังเชื่อมต่อสู่ถนนรัชดาภิเษกผ่าน ซอยรัชดา 30, ซอยรัชดา 32 และ รัชดา 36 ได้โดยตรง เส้นทางนี้ถือว่าเหมาะกับคนทำงานในโซนรัชดา-ห้วยขวาง-พระราม 9 เพราะช่วยร่นเวลาเดินทางได้มากในช่วงเร่งด่วน และจากรัชดาภิเษกยังสามารถวิ่งต่อไปยังแยกรัชดา-ลาดพร้าว หรือไปถึงห้าแยกลาดพร้าว เพื่อเชื่อมเข้าสู่ถนนวิภาวดีรังสิต และดอนเมืองโทลล์เวย์ได้ทันที


ส่วนการเดินทางออกนอกเมืองก็ไม่ยุ่งยาก โดยสามารถใช้ทางด่วนฉลองรัชมุ่งหน้าไปยังวงแหวนกาญจนาภิเษก ออกไปลำลูกกา-ปทุมธานี ได้สะดวก หรือจะใช้ถนนพหลโยธินเพื่อเชื่อมต่อไปยังงามวงศ์วาน, บางเขน, หลักสี่, แจ้งวัฒนะ, คูคต, และ รังสิต ก็เดินทางได้ง่ายไม่แพ้กัน

โดยรวมแล้ว เส้นทางรอบโครงการนี้สามารถ “ลัด-เชื่อม-ต่อ” ได้ครบทุกทิศทาง ทั้งเข้าเมือง ออกเมือง และเชื่อมต่อย่านเศรษฐกิจหลักของกรุงเทพฯ ได้รอบด้าน ทำให้ SALA ลาดพร้าว-รัชโยธิน เป็นทำเลที่ตอบโจทย์ผู้ใช้รถส่วนตัวได้ดีที่สุด ทั้งในแง่ความรวดเร็ว ความคล่องตัว และศักยภาพในการเชื่อมต่อของทำเลอย่างแท้จริงค่ะ

โครงการ SALA ลาดพร้าว-รัชโยธิน จะอยู่ใกล้กับ ทางด่วนฉลองรัช ด่านโยธินพัฒนา (ขาเข้าเมือง) มากที่สุดค่ะ มีระยะทางจากโครงการไปประมาณ 7.8 กม.* หรือใช้เวลาเดินทางเพียง 10 นาที* ถือเป็นเส้นทางหลักที่ช่วยให้เข้าเมืองได้รวดเร็วและสะดวกมากขึ้น

จุดเด่นอีกอย่างของโครงการนี้ ก็คือเป็นทาวน์โฮมที่อยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า 3 สาย ใกล้ที่สุดจะเป็นรถไฟฟ้า BTS เสนานิคม ที่ใช้ถนนเสนานิคม 1 ในการลัดไปสถานีรถไฟฟ้าได้ ในระยะทางประมาณ 3 กม.*

อีกสายจะเป็นรถไฟฟ้าสายสีเหลือง MRT ภาวนา ที่ใช้ถนนลาดพร้าววังหิน ตัดอออกซอยลาดพร้าว 41 ไปโผล่สถานีรถไฟฟ้าได้เลย สายนี้จะอยู่ห่างจากโครงการไปประมาณ 4.3 กม.* ถือว่าเป็นเส้นทางที่เฉลี่ยใกล้ ๆ กัน

และทั้ง 2 สายนี้ จะใช้นั่งไปเชื่อมกับ รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ได้ง่ายมาก ๆ ถ้านั่งจาก BTS เสนานิคม ลงมา 3 สถานี จะถึง BTS ห้าแยกลาดพร้าว ที่มี Skywalk ให้เดินไปเชื่อมกับ MRT พหลโยธินได้ ส่วนฝั่งภาวนา จะสะดวกกว่า เพราะนั่งไปแค่ 1 สถานี ก็เชื่อมกับ MRT ลาดพร้าวได้เลย

และในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าใกล้ ๆ โครงการเพิ่มมาอีก 2 สาย คือ รถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล ช่วงแคราย-ลำสาลี บนถนนเกษตร-นวมินทร์ และรถไฟฟ้าสายสีเทา ช่วงลาดพร้าว-วัชรพล ทางฝั่งถนนเลียบด่วน เรียกได้ว่าทำเลนี้ครบทั้งรถไฟฟ้า ทางด่วน และถนนสายสำคัญรอบทิศทาง เดินทางเข้าเมืองได้ง่ายในทุกโหมดการเดินทาง ตอบโจทย์ทั้งคนใช้รถและไม่ใช้รถได้ลงตัวสุด ๆ ค่ะ

สถานที่สำคัญโดยรอบโครงการ SALA ลาดพร้าว-รัชโยธิน รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบทุกด้าน ตอบโจทย์ทั้งการใช้ชีวิตประจำวัน ไลฟ์สไตล์คนเมือง และความสะดวกสบายในการอยู่อาศัยจริงในระยะใกล้

เริ่มจากกลุ่มศูนย์การค้าและแหล่งไลฟ์สไตล์ ที่อยู่ใกล้โครงการเพียงไม่กี่นาที ทั้ง The Jas วังหิน และ Lotus’s วังหิน เพียง 1 กม.* เป็นแหล่งรวมร้านอาหาร คาเฟ่ และซูเปอร์มาร์เก็ตที่เปิดให้บริการทุกวัน

ส่วนใครชอบบรรยากาศแบบชิล ๆ ก็มี Nawamin City Avenue เพียง 3 กม.* และ Major Cineplex รัชโยธิน ที่อยู่ในระยะ 3.7 กม.* ให้เลือกพักผ่อนในวันหยุดได้ง่าย ๆ

หากต้องการช้อปปิ้งเต็มรูปแบบ สามารถขับรถไม่กี่นาทีก็ถึง The Walk เกษตร-นวมินทร์, Central ลาดพร้าว, The Central พหลโยธิน (เปิดให้บริการ ธ.ค. 69), Central Eastville, CDC, The Crystal เอกมัย-รามอินทรา รวมถึง The Street รัชดา และ Esplanade รัชดา ซึ่งถือเป็นโซนรวมไลฟ์สไตล์ครบวงจรของคนเมืองในย่านนี้

ในส่วนของตลาดและคอมมูนิตี้มอลล์ ก็มีให้เลือกหลากหลายทั้งแนว Local และ Modern ใกล้ที่สุดคือ Green Plaza วังหิน และ Plaza Lagoon ที่รวมร้านอาหาร คาเฟ่ และร้านสะดวกซื้อไว้ครบในระยะไม่ถึง 2 กม.*

ขยับออกไปหน่อยก็มี ตลาดหัวมุม, ตลาดภาวนา, ตลาดโชคชัย 4 และตลาดอินดี้โชคชัย 4 ที่เป็นแหล่งของกินชื่อดังย่านลาดพร้าว รวมถึง The Shelter โชคชัย 4 ที่มีทั้งร้านอาหารและคาเฟ่บรรยากาศดีให้เลือกนั่ง


ด้านสถานศึกษารอบโครงการก็ครบทุกระดับ ตั้งแต่อนุบาลไปจนถึงมหาวิทยาลัยชั้นนำ เช่น มรภ.จันทรเกษม, รร.สตรีวิทยา 2, รร.หอวัง, ม.เกษตรศาสตร์ และ ม.ศรีปทุม นอกจากนี้ยังมีโรงเรียนนานาชาติอย่าง Oakbury International School และ Firefly Forest School สำหรับครอบครัวที่มองหาทางเลือกการศึกษาที่หลากหลาย


ส่วนของโรงพยาบาล ก็อยู่ในรัศมีเดินทางไม่เกิน 15 นาที* เช่น รพ.เปาโล เกษตร, รพ.เปาโล โชคชัย 4, รพ.ลาดพร้าว และ รพ.เวชธานี ช่วยให้การดูแลสุขภาพของครอบครัวเป็นเรื่องง่ายและใกล้บ้าน


ขยับมาที่โซนอาคารสำนักงานและหน่วยงานราชการ ย่านนี้ก็ถือว่าครบเช่นกัน อยู่ใกล้ศูนย์รวมธุรกิจและหน่วยงานสำคัญของกรุงเทพฯ ตอนเหนือ เช่น คปภ., กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ, ตึกช้าง, SCB Park Plaza, เมืองไทยภัทร คอมเพล็กซ์, TTB Bank Head Office และ Thai Airways Head Office รวมถึงศาลยุติธรรมรัชดา และสำนักงานเขตลาดพร้าว ก็อยู่ไม่ไกลจากโครงการ

และสำหรับคนที่ชอบออกกำลังกายหรือพักผ่อนในพื้นที่สีเขียว ทำเลนี้ยังใกล้กับ สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) และสวนจตุจักร ใช้เวลาเดินทางเพียง 10-15 นาที* ก็สามารถไปวิ่งออกกำลังกาย เดินเล่น หรือปั่นจักรยานได้อย่างสะดวก

โดยรวมแล้ว SALA ลาดพร้าว-รัชโยธิน รายล้อมด้วยทุกองค์ประกอบของการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นแหล่งช้อปปิ้ง แหล่งอาหาร สถานศึกษา โรงพยาบาล หรือหน่วยงานราชการ อยู่ในระยะที่เข้าถึงได้ง่ายภายในไม่กี่นาทีจากโครงการ ทำให้ที่นี่เป็นทำเลที่ตอบโจทย์ครบทั้งความสะดวกและคุณภาพชีวิตของคนเมืองได้อย่างลงตัวค่ะ


การเดินทาง

พิกัดโครงการ : https://goo.gl/maps/UTfsrUgD3mmkAz1K7

แยกรัชโยธิน ⇒ ถนนพหลโยธิน ⇒ แยกเสนานิคม ⇒ ถนนเสนานิคม 1 ⇒ แยกวังหิน ⇒ ถนนลาดพร้าววังหิน ⇒ ซอยลาดพร้าววังหิน 80 ⇒ 350 ม.* ถึงโครงการ SALA ลาดพร้าว-รัชโยธิน

การเดินทางวันนี้มาจากทางด่วนศรีรัช ขับตรงมาบนถนนรัชดาภิเษก มุ่งหน้าไปแยกรัชโยธิน และขับผ่านทางเข้า Avenue รัชโยธินไป

ตรงมาจนถึงแยกรัชโยธิน ให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนพหลโยธิน

เลี้ยวซ้ายมาบนถนนพหลโยธิน ผ่านด้านหน้า Major รัชโยธินไป

ผ่าน BTS รัชโยธิน

ผ่าน BTS รัชโยธินมาแล้ว ให้วิ่งไปตามป้ายเสนานิคม ไม่ต้องขึ้นสะพานข้ามแยก

ตรงมาจนถึงแยกเสนานิคม แล้วเลี้ยวขวาไปถนนเสนานิคม 1

ขับตรงไปภายในถนนเสนานิคม 1

ตรงมาตามทางแล้วข้ามสะพานข้ามคลองลาพร้าวไป

ลงสะพานมาแล้วให้เลี้ยวขวาตรงแยกวังหิน ตามป้ายไปโชคชัย 4

เลี้ยวขวามาจะเป็นถนนลาดพร้าววังหิน จากนั้นให้ชิดซ้ายไว้ได้เลยค่ะ

จากแยกวังหิน ตรงมาแค่ 200 ม.* จะเจอกับซอยลาดพร้าววังหิน 80 ให้เราเลี้ยวซ้ายเข้าไปได้เลยค่ะ

จากหน้าปากซอยตรงเข้าไปประมาณ 350 ม.*

ขับเข้าไปในในซอยลาดพร้าววังหินอีก 350 ม.* ถึงโครงการ

ตรงมาจะเจอกับที่ดินโครงการ ให้เลี้ยวซ้ายอีกที

ถึงโครงการ SALA ลาดพร้าว-รัชโยธิน ทาวน์โฮม 3 ชั้นครึ่งพร้อมอยู่ ที่มีบ้านเพียง 6 ยูนิต เท่านั้น


ภาพมุมสูงของโครงการ SALA ลาดพร้าว-รัชโยธิน ตั้งอยู่ภายในซอยลาดพร้าว-วังหิน 80 ที่เข้าจากหน้าปากซอยมาถึงโครงการประมาณ 350 ม.* และเห็นได้ชัดว่าโครงการตั้งอยู่ท่ามกลางย่านพักอาศัยแนวราบเป็นหลัก รายล้อมด้วยบ้านเดี่ยวและอะพาร์ตเมนต์ขนาดเล็ก ทำให้บรรยากาศโดยรอบมีความสงบ เงียบ และเป็นส่วนตัว เหมาะกับการพักผ่อนอย่างแท้จริง

แม้จะอยู่ในโซนที่เงียบสงบ แต่ก็ยังคงเดินทางสะดวก สามารถเชื่อมต่อออกไปยังโซนหลักของลาดพร้าว-รัชโยธิน รวมถึงถนนเส้นสำคัญอื่น ๆ ได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นถนนลาดพร้าว พหลโยธิน หรือรัชดาภิเษก ทำให้ผู้อยู่อาศัยได้ทั้งความสงบของการใช้ชีวิตในบ้าน และความคล่องตัวในการเดินทางในทุกวันค่ะ

รอบโครงการ

  • ทิศเหนือ : ที่อยู่อาศัยแนวราบและที่ดินเปล่า
  • ทิศใต้ : ซอยลาดพร้าววังหิน 80
  • ทิศตะวันออก : อะพาร์ตเมนต์
  • ทิศตะวันตก : ที่อยู่อาศัยแนวราบ

แปลนโครงการ

โครงการ SALA ลาดพร้าว-รัชโยธิน ตั้งอยู่บนที่ดินขนาดประมาณ 237 ตร.ว. พัฒนาเป็นทาวน์โฮม 3 ชั้นครึ่ง จำนวน 6 ยูนิต โดยที่ดินบ้านจะเริ่มต้นที่ 36-47.70 ตร.ว. และได้พื้นที่ใช้สอยภายในบ้านเท่ากันที่ 350 ตร.ม. ค่ะ


แบบบ้าน

โครงการ SALA ลาดพร้าว-รัชโยธิน มีบ้านทั้งหมด 6 ยูนิต และมีให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ ดังนี้ค่ะ

แบบบ้าน Type A หลังริม ด้านนอก หน้ากว้าง 5 ม. ความสูง 3.5 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 350 ตร.ม. จอดรถได้ 4 คัน มีสระว่ายน้ำด้านข้างบ้าน กว้าง 2.6 ม. หลังบ้านกว้าง 2.8 ม. ฟังก์ชันภายในบ้าน 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ชั้นลอย

แบบบ้าน Type B หลังกลาง หน้ากว้าง 5.8 ม. ความสูง 3.5 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 350 ตร.ม. จอดรถได้ 4คัน หลังบ้านกว้าง 2.8 ม. ฟังก์ชันภายในบ้าน 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ชั้นลอย

แบบบ้าน Type C หลังริม ด้านใน ความสูง 3.5 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 350 ตร.ม. จอดรถได้ 4 คัน มีสระว่ายน้ำด้านข้างบ้าน หลังบ้านกว้าง 2.8 ม. ฟังก์ชันภายในบ้าน 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ชั้นลอย


บ้านตัวอย่าง

โครงการมีบ้านตัวอย่างให้ชม 1 หลัง คือ Type B หลังกลาง ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 5.8 ม.  พื้นที่ใช้สอยมากถึง 350 ตร.ม. มาพร้อมฟังก์ชันครบสำหรับครอบครัวขนาดกลางถึงใหญ่ ประกอบด้วย 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ชั้นลอย และ ที่จอดรถ 4 คัน

ชั้น 1 : หน้าบ้านจอดรถได้ 4 คัน มีโถงสูง 6.8 ม. ก่อนทางเข้าหลัก ผ่านประตูไม้ระแนงขนาดใหญ่พร้อมระบบ Digital Door Lock ภายในเป็นโถงทางเข้าที่สามารถจัดวางตู้รองเท้าได้

พื้นที่ชั้นนี้ออกแบบแบบ Open Plan เชื่อมต่อกันตั้งแต่ Living Area ที่มีโถงสูง Double Volume สูง 6.6 ม. ต่อเนื่องถึง Dining Area และส่วนซักล้างด้านหลัง ซึ่งจัดเป็นสวนสีเขียวขนาดเล็ก พร้อมฟังก์ชันปรับเป็น Home Office หรือโต๊ะขนาด 6-8 ที่นั่งได้


ชั้นลอย : ออกแบบเป็นมุมทำงานส่วนตัว มองเห็นโถงสูงและสวนชั้นล่างได้ชัดเจน สามารถกั้นเพิ่มเป็นห้องซักผ้าหรือ Laundry Room ได้ตามต้องการ


ชั้น 2 : จัดเป็นโซน Private Area ประกอบด้วย Master Bedroom ขนาดใหญ่ เชื่อมต่อกับ Walk-in Closet แบบมีกระจกบานเลื่อนแยกสัดส่วน ด้านหลังเป็น Master Bathroom พร้อมอ่างล้างหน้า His & Her, Rain Shower และอ่างอาบน้ำทรงกลมที่มองเห็นสวน Pocket Garden


ชั้น 3 : เป็นพื้นที่พักอาศัยชั้นบนสุด มีห้องนอนด้านหน้าบ้าน และห้องอเนกประสงค์ด้านหลัง (Function Room / Passion Room) ที่สามารถปรับเป็นห้องนอนหรือห้องทำงานได้ตามต้องการ

ทั้งสองห้องมีห้องน้ำในตัว พื้นที่โถงกลางรับแสงธรรมชาติจากหลังคา Skylight ซึ่งในบ้านตัวอย่างจัดเป็นโซนโล่งสำหรับวางเครื่องออกกำลังกาย


ชั้นดาดฟ้า : พื้นคอนกรีตสำหรับติดตั้งงานระบบเครื่องปรับอากาศ สามารถขึ้นไปดูแลและซ่อมบำรุงได้จากช่อง Service ขนาด 0.60 × 1.20 ม. ที่เชื่อมต่อจากชั้น 3

แนวคิดการออกแบบ

แรงบันดาลใจของโครงการมาจากคอนเซ็ปต์ “Biophilic-ชีวิตที่ผูกพันกับธรรมชาติ” ถ่ายทอดความหมายผ่านสัญลักษณ์ของ “ต้นสาละ” ไม้มงคลตามคติพุทธศาสนา ซึ่งสื่อถึงความสงบ ความอ่อนโยน และความงามจากภายในจิตใจ แนวคิดนี้ถูกถ่ายทอดออกมาในรูปแบบสถาปัตยกรรมที่เรียบง่ายแต่เปี่ยมอารมณ์ สร้างบรรยากาศสงบและผ่อนคลายตั้งแต่แรกพบ

ตัวอาคารออกแบบในสไตล์ Modern Minimal + Tropical โดยความ Minimal ถ่ายทอดความเรียบหรูแบบเมืองร่วมสมัย ส่วน Tropical สะท้อนการออกแบบให้เหมาะกับภูมิอากาศเมืองไทย ทั้งในด้านทิศทางลม แสงแดด และการระบายความร้อน เพื่อให้ทุกมุมของบ้านโปร่ง เย็น และอยู่สบายตลอดวัน

ในส่วนของ Facade Design เลือกใช้โทนสีขาวสะอาดตา ผสมผสานกับลายไม้ธรรมชาติ ช่วยเพิ่มความอบอุ่นและสมดุลกับภาพรวมของอาคาร เส้นสายแนวตั้งแนวนอนที่เรียบคม ทำให้ตัวบ้านดูโดดเด่นในความเรียบง่าย ขณะเดียวกันก็กลมกลืนไปกับบริบทโดยรอบอย่างลงตัว

อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับแนวคิด Energy Efficiency ผ่านการออกแบบช่องเปิดขนาดใหญ่เพื่อรับแสงธรรมชาติ พร้อมเสริมแผงบังตาเลื่อนเปิด-ปิดได้ และครีบผนังแนวตั้งลายไม้ เพื่อกรองแสงและเพิ่มความเป็นส่วนตัว

ขณะเดียวกันยังช่วยให้การระบายอากาศภายในบ้านเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ลดการใช้พลังงานไฟฟ้าและเครื่องปรับอากาศในชีวิตประจำวัน

โครงสร้างและวัสดุมาตรฐาน

โครงสร้างของบ้านใช้ระบบ Conventional แข็งแรงทนทานในระยะยาว และรองรับการต่อเติมได้ในอนาคต ผนังภายนอกและภายในก่อด้วยอิฐมวลเบา 2 ชั้น ช่วยป้องกันความร้อนและลดเสียงรบกวนจากภายนอกได้ดี ทำให้ภายในบ้านเงียบสงบ เหมาะกับการพักผ่อนอย่างแท้จริง

นอกจากนี้ยังออกแบบให้โครงสร้างไร้เหลี่ยมเสาทำให้ผนังดูเรียบเนียนเป็นระนาบเดียวกันทั่วทั้งหลัง ช่วยให้การตกแต่งและการวางเฟอร์นิเจอร์ หรือทำงาน Built-in เป็นไปอย่างลงตัว ไม่เสียพื้นที่ใช้สอยแม้แต่น้อย

หลังคาใช้โครงสร้างเหล็กคุณภาพสูง มุงด้วยแผ่น Metal Sheet เคลือบสารกันสนิม เสริมด้วย ฉนวน PU Foam พร้อมฟอยล์กันความร้อน เพื่อช่วยลดการสะสมความร้อนจากแสงแดด ทำให้บ้านเย็นสบายตลอดวัน

อีกจุดเด่นคือหลังคา Skylight บริเวณชั้นบนสุด ใช้โครงเหล็กสีขาวคู่กับวัสดุ Polycarbonate Sheet แบบโปร่งแสง เพื่อให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาได้อย่างพอดีโดยไม่ร้อนเกินไป พร้อมติดตั้งเกล็ดระบายอากาศช่วยหมุนเวียนอากาศภายใน ลดความอับชื้น และเพิ่มความโปร่งโล่งให้บ้านทั้งหลัง

โครงการมาพร้อม Smart Living with Innovative Technology เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้งานและการใช้ชีวิตประจำวันของผู้อยู่อาศัย ได้แก่

  • Automatic Garage Door : ประตูโรงรถระบบบานม้วนไฟฟ้าอัตโนมัติ เพิ่มความสะดวกและปลอดภัยในการเข้า-ออกบ้าน

  • CCTV Security : ติดตั้งกล้อง CCTV ภายในบ้านแต่ละหลัง เพื่อช่วยตรวจสอบความเคลื่อนไหวและรักษาความปลอดภัยตลอดเวลา

  • Smoke & Heat Detector : ระบบตรวจจับควันไฟและอุณหภูมิ เพื่อป้องกันอัคคีภัย พร้อมส่งสัญญาณเตือนผ่าน Mobile Application

  • Magnetic Door & Window Sensor : ระบบรักษาความปลอดภัยที่ตรวจจับการเปิด-ปิดของประตูและหน้าต่าง หากมีการบุกรุกจะส่งสัญญาณเตือนผ่าน Mobile Application

  • Smart Home : ควบคุมระบบไฟฟ้า แสงสว่าง ผ้าม่าน และระบบรักษาความปลอดภัย ผ่าน Mobile Application หรือสั่งการด้วยเสียง เพิ่มความสะดวกสบายในทุกการใช้งาน

  • Natural Air Ventilation : ออกแบบให้มีการไหลเวียนของอากาศแบบธรรมชาติ เพื่อให้ภายในบ้านรับอากาศบริสุทธิ์และถ่ายเทได้ดี

  • Smart Lighting : ระบบจัดการแสงสว่างที่ช่วยประหยัดพลังงานและปรับระดับแสงได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถควบคุมจากระยะไกลผ่านอุปกรณ์อัจฉริยะ

ในส่วนของระบบปรับอากาศ จะติดตั้งเครื่องปรับอากาศ Ceiling Concealed Type ที่ซ่อนตัวเครื่องไว้เหนือฝ้าเพดาน เพื่อความเรียบร้อยและเงียบในการทำงาน โดยติดตั้งให้ในพื้นที่ ชั้น 1 และ Master Bedroom

นอกจากนี้ยังมีการเดินงานระบบรองรับการติดตั้งแอร์ครบทุกห้อง ทั้งจุดท่อน้ำยา ท่อน้ำทิ้ง และไฟฟ้า พร้อมใช้งานทันทีโดยไม่ต้องดัดแปลงเพิ่มเติมเลยค่ะ


ประตูรั้วทางเข้าของบ้านทุกหลังติดตั้งเป็น ประตูบานม้วนไฟฟ้า (Automatic Garage Door) เพิ่มทั้งควารั้ว จะมีมสะดวกสบายและความปลอดภัยในการใช้งานในชีวิตประจำวัน

เจ้าของบ้านสามารถ สั่งเปิด-ปิดได้ผ่าน Application บนมือถือ ไม่ว่าจะขณะกำลังกลับเข้าบ้าน หรือหลังออกจากบ้านไปแล้ว ก็สามารถตรวจสอบและควบคุมได้แบบเรียลไทม์ ช่วยให้ทุกการเข้า-ออกบ้านเป็นไปอย่างสะดวก มั่นใจ และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

ด้านข้างประตูรั้วจะมีประตูสำหรับคนเดินแยกออกมาให้ ได้เป็นประตูอะลูมิเนียมสีดำ มือจับก้านโยก พร้อมชายคาคลุมกันแดดกันฝน และมีช่องสำหรับเก็บขยะจากด้านนอกแยกไว้ให้แบบนี้

ด้านในตัวบ้านจะมีถังขยะฝังกำแพง พร้อมฝาปิดสแตนเลส ที่สามารถทิ้งขยะจากในตัวบ้านได้สะดวก

สำหรับพื้นลานจอดรถ ซุ้มประตู และรั้วรอบโครงการ ใช้โครงสร้างเข็มสั้น 6 ม. วางทุกระยะ 1 ม. ทำให้มีความมั่นคงและการทรุดตัวน้อย ส่วนโครงสร้างบ้านและพื้นที่จอดรถถูกออกแบบให้แยกโครงสร้างและมี Joint เผื่อการทรุดตัวที่ไม่เท่ากันของแต่ละส่วน เพื่อความปลอดภัยและยืดอายุการใช้งานของอาคาร

พื้นที่จอดรถได้มีการทำพื้นแสตมป์คอนกรีตมาให้เต็มพื้นที่ ดูสวยงาม แข็งแรง ทำความสะอาดได้ง่าย และที่กำแพงหน้าบ้านจะติดตั้งโคมไฟกิ่งให้ทั้งหมด 6 ดวง

เข้ามาด้านในจะมีชายคาคลุมกันแดดดกันฝน ที่มาพร้อมความสูงถึง 6.8 ม.

ที่กำแพงด้านขวามือภายในร่มจะมี Junction Box รองรับการติดตั้ง EV Charger ได้เลย และด้านล่างจะมีปลั๊กไฟติดมาให้อีก 1 จุด

ด้านหน้าทางเข้ามีชานพักยกสูงขึ้นมา 1 Step เป็นพื้นที่แนวยาว เหมาะสำหรับวางม้านั่งใส่รองเท้าและตู้เก็บรองเท้า ขวามือมีห้องเก็บของ 1 ห้อง พร้อมติดตั้ง IP Camera ที่ผนังด้านบน สามารถจับภาพรวมหน้าบ้านได้ทั้งหมด เพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกในการใช้งาน

ประตูทางเข้าหลัก เป็นบานคู่ทึบ  Engineering Wood ปิดผิวโอ๊ค ตกแต่งด้วยเซาะร่องระแนง ความสูง 2.4 ม. กว้าง 1.7 ม. ให้ความรู้สึก หรูหราและแกรนด์ มาพร้อม Digital Door Lock ของ Samsung ใช้งานสะดวกทั้งผ่าน Application บนมือถือ, Pin Code และ Key Card Access พร้อมมือจับก้านโยก ดีไซน์ทันสมัย

เปิดประตูเข้ามาภายในบ้าน จะเจอกับ Foyer และ Courtyard ใจกลางบ้าน ที่มีความสูงโปร่งไปจนถึงชั้นบนสุด ด้านขวามือจะเชื่อมต่อกับ Living Area ได้อีกที

Foyer หน้าบ้านปูพื้นแกรนิตโต้ลายหินธรรมชาติสีเทาไว้ให้ และตรงนี้จะมีพื้นที่ให้จัดเป็นตู้วางรองเท้าได้ด้วย

Landscape Design : แนวคิดและการเลือกพันธุ์ไม้

พื้นที่สีเขียวของโครงการได้รับแรงบันดาลใจจากแนวคิด Modern Rainforest ที่เน้นความเขียวชุ่มฉ่ำและบรรยากาศแบบป่าร้อนชื้น ให้ความรู้สึกเสมือนนำธรรมชาติเข้ามาอยู่ในบ้านจริง ๆ

โดยโซนหลักของสวนจะอยู่บริเวณ ชั้น 1 ซึ่งสามารถมองเห็นได้จากห้องรับแขกที่เป็นหัวใจของบ้าน ออกแบบให้เป็นสวนชั้นล่างที่ใช้ไม้ใบและพันธุ์ไม้ที่ต้องการแสงน้อย เช่น ไทรใบสัก เสน่ห์จันทร์แดง ว่านลูกไก่ และเฟิร์นหลากชนิด เพื่อสร้างมิติของความเขียวอย่างเป็นธรรมชาติ

และในบ้านจริงจะได้กระบะต้นไม้เป็นกระบะคอนกรีตผสมกันซึม ที่มีการคำนวนโครงสร้างและเตรียมพื้นที่สำหรับการปลูกต้นไม้ไว้ให้โดยเฉพาะแล้วค่ะ

Living Area ที่ชั้นล่างจะได้บรรยากาศที่สดชื่น จาก Courtyard กลางบ้านแบบนี้

มุมมองภายในบ้านมาตรฐาน พื้นชั้นล่างปูแกรนิตโต้ลายหินอ่อนสีขาว ขนาด 60 x 120 ซม. ดูเรียบหรู สว่าง ทำความสะอาดง่าย

เมื่อเดินเข้ามาภายในตัวบ้านจะพบกับ Living Area ที่เปิดโล่งและโปร่งสบายด้วย โถงสูง Double Volume สูงถึง 6.6 ม. ให้ความรู้สึกหรูหราและเชื่อมต่อทุกมุมมองภายในบ้านได้อย่างลงตัว พื้นที่ชั้น 1 ถูกออกแบบในสไตล์ Open Plan ที่ไหลต่อเนื่องจากโซนรับแขกไปยัง Dining Area ด้านใน ทำให้บ้านดูกว้างขวางและเชื่อมโยงกันอย่างเป็นธรรมชาติ

ภาพจากบ้านมาตรฐานภายใน Living & Dining Area ชั้น 1

Living Area สามารถจัดวางโซฟาเซ็ตใหญ่ 6-8 ที่นั่ง และ Built-in ชั้นวางทีวีขนาดใหญ่ได้เต็มพื้นที่

รองรับการนั่งเล่นพักผ่อน ดูซีรีส์ได้ในบรรยากาศโปร่งสบาย เพราะได้โถงบ้านสูงโปร่งถึง 6.6 ม. พร้อมช่องแสงธรรมชาติขนาดใหญ่หลายจุด

บ้านจริงได้เป็นฝ้าและผนังฉาบเรียบทาสีขาว พร้อมติดตั้งโคมไฟ และเครื่องปรับอากาศ Ceiling Concealed Type มาให้เรียบร้อย

จาก Living Area มองขึ้นไปจะเห็นพื้นที่ชั้นลอย ที่ออกแบบให้เปิดมุมมองเชื่อมโยงถึงกันได้อย่างสวยงาม พื้นที่ส่วนนี้ช่วยสร้างความต่อเนื่องของสายตาระหว่างชั้นบนและชั้นล่าง เพิ่มความโปร่งโล่งให้กับตัวบ้าน และทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกเชื่อมถึงกันแม้อยู่คนละชั้น

ถัดเข้ามาด้านหลัง จะเป็นพื้นที่ Dining Area ที่ออกแบบให้สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้อย่างยืดหยุ่น จะใช้เป็นมุมทานอาหารของครอบครัว หรือปรับเป็น Home Office สำหรับทำงานก็ได้อย่างลงตัว โดยพื้นที่กว้างพอรองรับโต๊ะขนาด 6-8 ที่นั่ง เหมาะกับทั้งการใช้งานประจำวันและการจัดกิจกรรมร่วมกันภายในครอบครัว

ในบ้านตัวอย่างได้จัดวาง Long Table ขนาด 6 ที่นั่ง มาให้ชมเป็นแนวทาง จะเห็นได้ว่าระยะใช้งานรอบโต๊ะค่อนข้างกว้าง เดินสะดวกและยังเหลือพื้นที่สำหรับตกแต่งเพิ่มเติมได้อีก

ต่อเนื่องจาก Dining Area จะเป็นส่วนของ ครัวฝรั่งในบ้าน (Pantry) ที่ตกแต่งไว้อย่างอบอุ่นและลงตัว โดยวางเคาน์เตอร์ครัวรูปตัว I ชิดผนังบ้าน ส่วนกลางห้องจัดเป็น Island Counter สำหรับเตรียมอาหาร ชงกาแฟ หรือใช้งานอเนกประสงค์เป็นที่เก็บของเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ด้วย เหมาะสำหรับบ้านที่ต้องการพื้นที่ครัวสวยใช้งานจริง และยังเป็นมุมที่เชื่อมโยงบรรยากาศของการใช้ชีวิตร่วมกันในทุกวัน

Dining Area ภายในบ้านมาตรฐาน ที่มีการเดินงานระบบน้ำ ระบบไฟรองรับการต่อเติม

ถัดไปด้านหลังจะเป็นพื้นที่ซักล้าง ความลึกประมาณ 2.8 ม. ซึ่งออกแบบให้ใช้งานได้จริงพร้อมจัดสวนตกแต่งเพิ่มความสดชื่น เติมบรรยากาศสีเขียวให้กับตัวบ้าน พื้นที่บางส่วนของโซนนี้อยู่บน โครงสร้างเดียวกันกับตัวบ้านหลัก ช่วยเพิ่มความแข็งแรงและสามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง

พื้นบริเวณซักล้างบางส่วนปูด้วยกระเบื้องเซรามิกลายหินธรรมชาติสีเทาผิวหยาบ ขนาด 15 x 60 ซม. ช่วยกันลื่นและทำความสะอาดได้ง่าย พร้อมเตรียมระบบน้ำ ระบบไฟไว้ให้เรียบร้อย รวมถึงติดตั้งปั๊มน้ำและถังสำรองน้ำบนดินแบบชิ้นเดียวมาให้ครบทุกหลัง ใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องติดตั้งเพิ่ม

จากหลังบ้านมองกลับเข้ามาดูภาพรวมภายในบ้านชั้นล่าง

ติดกับ Pantry จะเป็นที่ตั้งของห้องเก็บของในบ้านและห้องน้ำชั้นล่าง

ห้องน้ำชั้นล่างได้เป็นแบบ Powder Room จัดฟังก์ชันเป็นห้องน้ำ Unisex ติดตั้งสุขภัณฑ์มาตรฐานของ American Standard ตกแต่งพื้นและผนังด้วยกระเบื้องพอร์ชเลน ลายหินสีเทา ขนาด 60 x 60 ซม. และมีหน้าต่างกระจกฝ้าบานกระทุ้งติดมาให้ 2 บาน ใช้เป็นช่องแสงและเปิดระบายกลิ่น ระบายอากาศให้หมุนเวียนได้ดีมากขึ้น

พื้นที่โถงบันไดกลางบ้าน ถือเป็นหัวใจของการออกแบบ โดยออกแบบให้รายล้อมด้วยสวนแนวตั้งและ Pocket Garden ที่ช่วยเติมความเขียวชอุ่มให้ภายในบ้าน โถงส่วนนี้ตั้งอยู่บริเวณกึ่งกลางของอาคาร เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยสามารถรับประโยชน์จากทั้งแสงธรรมชาติและการระบายอากาศได้อย่างเต็มที่

การจัดวางลักษณะนี้ทำให้ทุกห้องสามารถ เปิดมุมมองออกสู่สวนได้จากภายในบ้านเอง เสมือนอยู่ในบ้านเดี่ยวที่มีพื้นที่สีเขียวส่วนตัว ไม่อึดอัดเหมือนทาวน์โฮมทั่วไปที่เปิดหน้าต่างได้เพียงด้านเดียว จึงช่วยสร้างความรู้สึกโปร่งโล่ง เชื่อมโยงทุกชั้นเข้าหากันด้วยบรรยากาศของธรรมชาติอย่างกลมกลืน

ที่บ้านตัวอย่างจะติดตั้งลิฟต์บ้านระบบสลิงมาให้ดูเป็นไอเดีย

ส่วนบ้านจริงหลังอื่น ๆ จะมีการเตรียม Pit Lift รองรับการติดตั้งลิฟต์บ้านมาให้เรียบร้อย

บันไดบ้านจากชั้น 1 ไปถึงชั้น 2 เป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ลูกนอน-ชานพักเป็นไม้ Engineering Wood ปิดผิวโม้โอ๊ค หนา 3 ซม. พร้อมหน้าต่างกระจกบานผสมฝั่งหลังบ้าน 1 บาน

สำหรับพื้นบ้านในโซนพักอาศัย ตั้งแต่ชั้นลอยขึ้นไปจนถึงชั้น 3 จะปูพื้นวัสดุ SPC ลายไม้สีอ่อน ที่ให้สัมผัสอบอุ่นและดูเป็นธรรมชาติ ช่วยเพิ่มความรู้สึกผ่อนคลายภายในบ้าน โดยเฉดสีของพื้นถูกเลือกให้ สอดรับกับคอนเซ็ปต์การออกแบบโดยรวมของโครงการ เพื่อให้ภาพลักษณ์ของบ้านดูต่อเนื่องกลมกลืน และคงไว้ซึ่งบรรยากาศเรียบหรูในทุกชั้นของการอยู่อาศัย

ชั้นลอยจะถูกจัดให้เป็นพื้นที่ทำงานส่วนตัว ที่ให้บรรยากาศโปร่งโล่ง สามารถมองเห็นวิวสวนชั้นล่าง และมุมโถงสูง Double Volume ได้อย่างต่อเนื่อง เป็นมุมที่เหมาะสำหรับการทำงาน อ่านหนังสือ หรือใช้เป็นพื้นที่พักผ่อนในบรรยากาศเงียบสงบ

 

พื้นที่ชั้นลอยในบ้านจริงจะเป็นพื้นที่เปิดโล่งกว้าง มีการเล่นระกับพื้นให้บางส่วน ด้านหน้าติดราวกันตกกระจก Tempered โดยลูกค้าสามารถปรับฟังก์ชันด้านในเพิ่มเติมให้เป็นห้องซักผ้าได้ด้วย โดยออกแบบให้รองรับการกั้นห้องเป็นสัดส่วน เพื่อให้ใช้งานได้หลากหลายตามความต้องการของแต่ละครอบครัว

จากชั้นลอยมองออกมาจะได้ช่องแสงขนาดใหญ่รอบด้าน และถ้ามองลงมาจะเจอกับ Living Area ที่ชั้นล่างแบบนี้ค่ะ

โครงสร้างบันไดตั้งแต่ชั้นลอยต่อเนื่องขึ้นไปจนถึงชั้น 3 ใช้โครงสร้างเหล็กแข็งแรง พร้อมราวระแนงเหล็กทาสีขาวน้ำมัน ดูเรียบสะอาดตาและเข้ากับโทนบ้านโดยรวม

พื้นลูกนอนและชานพักบันได ใช้วัสดุ ไม้ Engineering Wood ปิดผิวโอ๊คธรรมชาติ หนา 3 ซม. ให้ผิวสัมผัสอบอุ่นสบายเท้า ดีไซน์เป็นชิ้นเดียวรวมจมูกบันไดในตัว ช่วยเพิ่มความเนียนสวยและให้ความรู้สึกกลมกลืนกับวัสดุปูพื้นโซนพักอาศัยด้านบนอย่างลงตัว

สำหรับการจัดสวนในพื้นที่ชั้นบน ได้ออกแบบให้มีกระบะปลูกต้นไม้ตามแนว ริมหน้าต่างของแต่ละห้อง เพื่อให้ทุกมุมมองจากภายในบ้านยังคงเชื่อมโยงกับธรรมชาติภายนอก โดยเลือกใช้ พันธุ์ไม้เขตร้อนชื้น ที่มีความต้องการแสงแตกต่างกันตามตำแหน่ง เพื่อให้พืชแต่ละชนิดเติบโตได้เหมาะสมและดูมีชีวิตชีวาตลอดปี

พันธุ์ไม้ที่ใช้จะมีทั้งไม้ใบขนาดเล็กและขนาดใหญ่สลับลดหลั่นกันไป สร้างความลึกและมิติแบบสวนป่าธรรมชาติ เช่น ต้นโมก ปาล์มจีบ รวมถึงไม้ห้อยอย่าง พลูด่าง ที่ช่วยเติมเส้นสายและความพลิ้วไหวให้กับแนวสวน

ส่วนการเลือกพรรณไม้จะเน้นชนิดที่มี ลักษณะเกาะติดคล้ายพืชบนยอดไม้หรือริมหน้าผาในป่าร้อนชื้น ผสมผสานกับความหลากหลายของ สีสันและ Texture ใบไม้ เพื่อให้สวนดูมีชีวิตและกลมกลืนไปกับโครงสร้างบ้านอย่างลงตัว

ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเจอกับลิฟต์โดยสาร และสวนด้านหลังบ้านติดกับห้องน้ำ Master Bedroom และโถงบ้านชั้นนี้

ทางฝั่งขวามือของชั้นนี้จะเป็นตำแหน่งของ Master Bedroom โดยประตูภายในบ้านทั้งหมด จะเป็นประตูโครงไม้ Hollow Core กรุไม้อัด ปิดผิวลามิเนต ให้ผิวสัมผัสเรียบเนียนและดูทันสมัย มาพร้อมมือจับก้านโยกแบบ Mortise Lock ที่ใช้งานง่าย แข็งแรง และให้ความรู้สึกพรีเมียมในทุกการเปิด-ปิดประตู

ชั้น 2 ออกแบบให้เป็นโซน Private Area สำหรับการพักผ่อนอย่างแท้จริง โดยพื้นที่ของ Master Bedroom จะขยายกินพื้นที่ตั้งแต่ด้านหน้าบ้านจนถึงสุดแนวที่ดินด้านหลัง ให้ความรู้สึกโปร่งโล่งและเชื่อมต่อกันอย่างต่อเนื่อง ภายในจัดสรรฟังก์ชันครบทั้งโซนพักผ่อน มุมทำงาน และพื้นที่แต่งตัวในห้องเดียว

บริเวณกลางห้อง ถูกตกแต่งเป็นมุมทำงานขนาดใหญ่ เปิดรับวิวสวนกลางบ้านได้อย่างสบายตา ผ่านผนังกระจกบานฟิกซ์แบบ Full Height เข้ามุมห้อง ทำให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาได้เต็มที่ ขณะเดียวกันด้านหลังยังมีพื้นที่แนวยาวให้สามารถ Built-in ตู้เก็บของหรือชั้นตกแต่งได้เต็มผนัง เพิ่มทั้งความสวยงามและฟังก์ชันการใช้งาน

ขยับเข้ามาทางด้านหน้า จะเป็นโซน พักผ่อนหลักของห้องนอน ที่รองรับเตียงขนาด King Size พร้อมพื้นที่ปลายเตียงที่สามารถทำเป็นมุมพักผ่อนในห้องนอนได้

มุมนั่งเล่นในห้องนอน สามารวางโซฟา Love Seat คู่กับโต๊ะกลาง และ Built-in ชั้นวางทีวีแนวยาวเต็มผนังได้ครบ ซึ่งภายในห้องยังมีการเดินระบบไฟฟ้าเตรียมไว้สำหรับ Smart TV พร้อมใช้งาน

ถัดไปด้านหน้าสุดของห้อง จะเป็นระเบียงพักผ่อนส่วนตัว กั้นแยกจากภายในห้องด้วยประตูกระจกใสบานเลื่อนกรอบอะลูมิเนียมสีดำแบบ Powder Coat เปิดตรงกลางได้เต็มบาน ช่วยให้ลมธรรมชาติถ่ายเทเข้าสู่ห้องนอนได้ดี พร้อมเป็นอีกมุมหนึ่งที่สามารถออกมานั่งพักผ่อนยามเช้าได้อย่างเป็นส่วนตัว

เปิดออกมาจะเจอกับระเบียงแนวยาว ปูพื้นแกรนิตโต้ลายหินธรรมชาติสีเทาผิวหยาบ 60 x 60 ซม. ให้เต็มพื้นที่ เราสามารถใช้ระเบียงตรงนี้จัดสวนต้นไม้กระถางเพิ่มเติมได้

บริเวณระเบียงของ Master Bedroom จะติดตั้งราวระแนงกันตกทาสีขาว ความสูงประมาณ 1 ม. เพื่อความปลอดภัยและให้รับกับเส้นสายของอาคารอย่างลงตัว ด้านนอกเพิ่มความเป็นส่วนตัวด้วย Perforated Aluminium ลวดลายสั่งพิเศษของทางโครงการ ที่สามารถเลื่อนเปิด-ปิดได้

ช่วยกรองแสงแดดไม่ให้ส่องเข้ามารบกวนโดยตรง ทั้งยังทำหน้าที่เป็นองค์ประกอบตกแต่งทางสถาปัตยกรรม ช่วยเพิ่มมิติและความโดดเด่นให้กับ Facade ของอาคารได้อย่างสวยงามและมีเอกลักษณ์

มองกลับเข้ามาดูภาพรวมภายใน Master Bedroom

กลับมาที่ด้านหลังของ Master Bedroom จะมีพื้นที่สำหรับ ต่อเติมเป็น Walk-in Closet ขนาดใหญ่ ที่สามารถจัดแบ่งพื้นที่ His & Her แยกฝั่งกันได้อย่างเป็นสัดส่วน ช่วยให้ใช้งานสะดวกและดูเป็นระเบียบมากขึ้น

ตรงกลางยังมีพื้นที่เหลือเพียงพอสำหรับการวาง Island Accessories เพิ่มเติม ใช้จัดเก็บเครื่องประดับหรือของใช้ส่วนตัวได้อย่างลงตัว เสริมบรรยากาศห้องแต่งตัวให้ดูหรูหราเหมือนห้องแฟชั่นบูทีคในบ้าน

จาก Walk-in Closet จะเชื่อมต่อกับ Master Bathroom แบบ Full Bath ได้ใกล้ ๆ

Master Bathroom ถูกออกแบบให้มีหน้ากว้างและพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ แบ่งฟังก์ชันการใช้งานไว้อย่างเป็นสัดส่วนชัดเจน ทั้งโซนแห้ง, ห้องโถสุขภัณฑ์, ห้องอาบน้ำ, และอ่างอาบน้ำ โดยจัดผังให้แต่ละส่วนแยกออกจากกันอย่างลงตัว เพื่อความเป็นส่วนตัวและความสะดวกสูงสุดในทุกการใช้งาน

พื้นและผนังภายในตกแต่งด้วยกระเบื้องพอร์ซเลนลายหินสีเทา ขนาด 60 x 60 ซม. สลับกับกระเบื้องโมเสกสีดำ เพิ่มมิติและความหรูหราให้กับบรรยากาศห้องน้ำ ส่วนฉากกั้นระหว่างพื้นที่อาบน้ำและโซนแห้งใช้ กระจก Tempered หนา 10 มม. พร้อม มือจับและ Door Stopper อย่างดี เพื่อความปลอดภัยและทนทานในระยะยาว

ด้านสุขภัณฑ์ทั้งหมดเลือกใช้แบรนด์คุณภาพจาก American Standard (รุ่นตามมาตรฐานโครงการ) ติดตั้งครบชุด พร้อมใช้งานได้ทันที ทั้งดีไซน์ที่เรียบหรูและฟังก์ชันที่ตอบโจทย์การพักผ่อนในทุกวันอย่างสมบูรณ์แบบ

ส่วนแห้งได้เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าแบบ His & Her ท็อปหินแกรนิตสีดำขนาดใหญ่ ผนังตกแต่งกระเบื้องโมเสกสีดำ พร้อมติดกระจกเงาบานใหญ่ไว้ให้ ส่วนตู้เก็บของด้านล่างจะเป็นการตกแต่งเพิ่มเติมมาให้ดูเป็นไอเดียค่ะ

เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าในบ้านจริง ใต้อ่างจะเปิดโล่ง สามารถซื้อตู้เก็บของมาติดเพิ่มเติมเหมือนในบ้านตัวอย่าง หรือจะวางเป็นชั้นวางของล้อเลื่อนแทนก็ได้ค่ะ

ขวามือเป็นโซนโถสุขภัณฑ์ สำหรับชายและหญิง

ด้านนอกติดตั้งโถสุขภัณฑ์ชายรุ่นมาตรฐานของโครงการไว้ให้

ด้านในห้องกระจกได้พื้นที่ใช้งานกว้าง ๆ พร้อมติดตั้งโถสุขภัณฑ์รุ่นมาตรฐานโครงการ พร้อมอุปกรณ์ประกอบมาให้ครบ ทั้งสายฉีดชำระและที่แขวนกระดาษทิชชู

สุขภัณฑ์มาตรฐานในบ้านจริงที่ลูกค้าได้รับ หน้าตาแบบนี้

ด้านซ้ายของห้องน้ำ จะแยกส่วนอาบน้ำไว้เป็นสัดส่วน ภายในได้พื้นที่มากว้างขวาง ยืนอาบน้ำ ขัดผิวได้สบาย ๆ อีกทั้งยังมีช่องแสงแนวสูงติดมาให้ 1 บาน และติดตั้งฝักบัวให้ 2 แบบ ทั้ง Hand Shower และ Rain Shower ก๊อกผสมน้ำร้อน-น้ำเย็น พร้อมชั้นวางของที่ผนัง 1 ชั้น

ตรงข้ามกันเป็นพื้นที่เข้ามุมห้องลึกลงไป ทางโครงการให้เป็นอ่างอาบน้ำทรงกลม ที่มองออกไปเห็นสวน Pocket Garden ตรงโถงบ้านชั้น 2 ได้

หน้าตาอ่างอาบน้ำ ก๊อกน้ำ และฝักบัวที่ได้รับ

ภาพ Master Bedroom ภายในบ้านมาตรฐาน

ขึ้นมาต่อกันที่ชั้น 3 ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนบนสุดของบ้าน จากมุมมองในภาพจะเห็นได้ชัดว่า ทุกห้องบนชั้น 2 และชั้น 3 ถูกออกแบบให้สามารถมองเห็นโถงบันไดสูงโปร่งที่อยู่บริเวณกลางบ้านได้ทั้งหมด ทำให้ทุกพื้นที่เชื่อมต่อถึงกัน และยังได้รับแสงธรรมชาติจากช่องเปิดขนาดใหญ่ที่ทอดผ่านแนวโถงบันไดลงมาสู่ชั้นล่าง

พื้นที่ส่วนนี้ถือเป็นหัวใจของบ้าน เพราะโถงบันไดถูกออกแบบให้รายล้อมด้วยสวนแนวตั้งและ Pocket Garden สร้างบรรยากาศสดชื่นตลอดแนวการเดินขึ้นลง แสงธรรมชาติและลมภายนอกสามารถถ่ายเทเข้าสู่ตัวบ้านได้ดี

ผู้อยู่อาศัยสามารถเปิดหน้าต่างชมสวนได้จากภายในแต่ละห้อง เสมือนทุกห้องเป็นบ้านเดี่ยวของตัวเอง ไม่อึดอัดเหมือนโฮมออฟฟิศทั่วไปที่เปิดหน้าต่างได้เพียงด้านเดียว

หลังคาชั้นบนสุด ออกแบบให้เป็น Skylight โครงสร้างเหล็กทาสีขาว ดูเรียบโปร่งและกลมกลืนกับตัวอาคาร โดยใช้วัสดุ Polycarbonate Sheet ช่วยเปิดรับแสงธรรมชาติให้ส่องลงมาถึงพื้นที่ภายในบ้านด้านล่าง เพิ่มความสว่างแบบนุ่มนวลโดยไม่ต้องพึ่งแสงไฟตลอดทั้งวัน

นอกจากนี้ ยังมีการออกแบบเกล็ดระบายอากาศบริเวณแนวหลังคา เพื่อช่วยให้อากาศภายในบ้านหมุนเวียนได้ดี ลดความร้อนสะสมในช่องอากาศใต้หลังคา และทำให้บ้านคงอุณหภูมิที่สบายในทุกช่วงเวลา

ชั้น 3 ถูกออกแบบให้เป็นพื้นที่พักอาศัยส่วนบนสุดของบ้าน แบ่งฟังก์ชันหลักออกเป็นสองส่วน คือ ห้องนอนด้านหน้าบ้าน และห้องอเนกประสงค์ด้านหลัง ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นห้องนอนเพิ่มเติม ห้องทำงานส่วนตัว หรือสตูดิโอเล็ก ๆ สำหรับทำกิจกรรม ทั้งสองห้องยังมีห้องน้ำในตัว เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน

บริเวณโถงกลางชั้น 3 จะได้รับแสงธรรมชาติจากหลังคา Skylight ที่ออกแบบไว้ด้านบนสุดของตัวบ้าน ทำให้พื้นที่ส่วนนี้สว่างและโปร่งโล่งตลอดวัน ในบ้านตัวอย่างได้ตกแต่งพื้นที่นี้ให้เป็นมุมโล่งอเนกประสงค์ ซึ่งสามารถจัดวางเครื่องออกกำลังกายหรือมุมพักผ่อนเบา ๆ ได้

ภาพโถงกลางชั้น 3 ในบ้านจริง จะมีช่อง Service สำหรับงานระบบเครื่องปรับอากาศ ขนาด 1.2 × 0.60 ม. อยู่บริเวณดาดฟ้าชั้นบนสุด เพื่อให้ลูกค้าสามารถขึ้นไปทำการบำรุงรักษาระบบได้โดยตรงจากชั้น 3 เพิ่มความสะดวกในการดูแลอุปกรณ์และระบบภายในบ้านในระยะยาว

พาเข้าไปดูรายละเอียดภายในห้องอเนกประสงค์ฝั่งหลังบ้าน หรือนอน 3 กันต่อค่ะ

ในบ้านจริงจะเป็นผนังทึบฉาบเรียบทาสี ติดประตูลายไม้สีอ่อนตามแบบมาตรฐานโครงการให้เหมือนกับห้องนอนห้องอื่น ๆ

สำหรับใครที่ต้องการปรับฟังก์ชันให้เป็นห้องนอนรอง ห้องนี้สามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุต ได้สบาย ๆ พร้อมพื้นที่หน้าห้องน้ำที่เหลือพอให้จัดเป็น มุมแต่งตัว ได้อย่างลงตัว หรือหากเป็นครอบครัวที่มีลูกเล็กในวัยไล่เลี่ยกัน ก็สามารถจัดวาง เตียงเดี่ยวขนาด 3.5 ฟุต 2 เตียง หรือเตียงสองชั้นได้อย่างไม่อึดอัดเลยค่ะ

สำหรับคนที่ต้องการทำเป็นห้องนอนรอง ห้องนี้สามารถวางเตียงนอน 5-6 ฟุต และมีพื้นที่ไว้ทำเป็นมุมแต่งตัวหน้าห้องน้ำได้ และถ้าบ้านไหนทำเป็นห้องนอนเด็ก ที่มีลูกในวัยไล่เลี่ยกัน ก็สามารถวางเตียงนอน 3.5 ฟุต 2 เตียง หรือเตียง 2 ชั้น ได้สบาย ๆ เลยค่ะ

ห้องนี้มาพร้อมห้องน้ำในตัว เพื่อความสะดวกในการใช้งาน ภายในแบ่งสัดส่วนระหว่างส่วนแห้งและส่วนอาบน้ำไว้อย่างเป็นระเบียบ พื้นและผนังตกแต่งด้วยกระเบื้องพอร์ซเลนลายหินสีเทา สลับกับกระเบื้องโมเสกสีดำ เพิ่มความหรูหราแบบเรียบเท่ และติดตั้งสุขภัณฑ์ครบชุดจาก American Standard

ภายในมีอ่างล้างหน้าฝังเคาน์เตอร์ พร้อมก๊อกน้ำก้านโยก ผนังด้านบนติดกระจกเงาทรงสูง และยังมีพื้นที่รอบอ่างสำหรับวางของใช้ได้สะดวก

ถัดไปเป็นโถสุขภัณฑ์แบบ 2 Piece ระบบ Dual Flush รุ่น Comfort Clean พร้อมอุปกรณ์ครบชุด และมี Low Wall ด้านหลังสำหรับวางของใช้จุกจิกได้

ด้านในสุดเป็นโซนอาบน้ำที่ติดตั้งฉากกั้นกระจก Tempered หนา 10 มม. พร้อมมือจับและ Door Stopper อย่างดี ภายในมีฝักบัวแบบ Hand Shower ชั้นวางของ และหน้าต่างกระจกบานผสมทรงสูง 1 บาน เพื่อช่วยระบายอากาศ พื้นที่อาบน้ำกว้างขวาง ยืนอาบได้สบายไม่รู้สึกอึดอัด

ภาพห้องนอน 3 ฝั่งหลังบ้าน ภายในบ้านมาตรฐาน

เมื่อเดินออกจากห้องนี้จะเชื่อมต่อไปยังห้องนอน 2 ด้านหน้าบ้าน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งห้องไฮไลต์ของชั้น 3

ห้องนอน 2 มีพื้นที่กว้างขวางเทียบเท่ากับ Master Bedroom ในทาวน์โฮมทั่วไป ภายในสามารถจัดแบ่งโซนพักผ่อนและแต่งตัวแยกกันได้อย่างลงตัว อีกทั้งยังมีช่องแสงขนาดใหญ่ทั้งฝั่งหน้าบ้านและแนวกลางบ้าน ช่วยให้ห้องดูโปร่ง โล่ง และมองเห็นวิวสวนแนวตั้งบริเวณโถงกลางบ้านได้อย่างสบายตา

บ้านตัวอย่างจัดวางเตียงนอนขนาด King Size ไว้กลางห้อง รอบ ๆ ยังมีพื้นที่เหลือให้ใช้งานได้สะดวก โดยบริเวณปลายเตียงมีพื้นที่กว้างพอสำหรับวางม้านั่งตัวยาว หรือโซฟา Love Seat เพื่อใช้เป็นมุมนั่งพักผ่อนหรือนั่งดูหนังภายในห้องได้อย่างสบาย

ข้างเตียงบริเวณริมผนังกระจกด้านในบ้าน มีพื้นที่ให้จัดวางโต๊ะทำงาน หรือปรับเป็นมุมอเนกประสงค์อื่นๆ ตามความต้องการได้

ส่วนผนังปลายเตียงเป็นแนวยาวโล่ง รองรับการวางชั้นวางทีวีลอยตัว หรือเลือกติดตั้ง Smart TV ที่ผนังก็ลงตัวพอดี

ถัดเข้ามาด้านหลังเป็นมุมแต่งตัว สามารถต่อเติม Partition เพื่อกั้นโซนให้เป็นสัดส่วนมากขึ้นได้ ภายในมีพื้นที่เพียงพอสำหรับวางหรือติดตั้งตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่เต็มผนัง และจากจุดนี้สามารถเชื่อมต่อเข้าสู่ห้องน้ำในตัวได้สะดวก

จากมุมนี้จะเชื่อมต่อกับห้องน้ำในตัวได้สะดวก

ห้องน้ำของห้องนอน 2 ตกแต่งพื้นและผนังด้วยกระเบื้องลายหิน พร้อมติดตั้งสุขภัณฑ์มาตรฐานคุณภาพดีในสไตล์เดียวกับห้องก่อนหน้า

ส่วนสิ่งที่เพิ่มเติมเข้ามาคือช่อง Skylight เหนือโซนแห้ง เพื่อเปิดรับแสงธรรมชาติ และติดตั้งพัดลมระบายอากาศอีก 1 เครื่องเพื่อช่วยให้อากาศหมุนเวียนได้ดี

มองกลับออกมาจะเห็นภาพรวมของห้องนอน 2 ที่ให้ความรู้สึกโปร่ง โล่ง และเป็นพื้นที่พักผ่อนที่สามารถปรับฟังก์ชันได้หลากหลายตามไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย

ภาพห้องนอน 2 ฝั่งหน้าบ้าน ภายในบ้านมาตรฐาน


ราคา (ต.ค. 68)

  • ราคาเริ่มต้น 14.9 ล้านบาท*
  • ไม่มีค่าใช้จ่ายส่วนกลาง

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ คลิก : https://sirilert.co.th/sala/

*หมายเหตุ : ข้อมูลราคาและโปรโมชันอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม*


สรุป

⇒ ทำเลที่ตั้งโครงการ : SALA ลาดพร้าว-รัชโยธิน ตั้งอยู่ภายในซอยลาดพร้าววังหิน 80 ในเขตลาดพร้าว ถือเป็นทำเลศักยภาพที่เชื่อมต่อได้หลายเส้นทาง รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบทั้งห้าง ร้านอาหาร คาเฟ่ โรงเรียน และโรงพยาบาล ตัวโครงการอยู่ในซอยย่อยที่สงบ เป็นส่วนตัว แต่ยังคงใกล้โซนธุรกิจสำคัญของลาดพร้าวและรัชโยธิน เหมาะกับคนเมืองที่ต้องการความเงียบสงบโดยไม่ห่างจากใจกลางเมืองมากนัก และรองรับการทำเป็นโฮมออฟฟิศ รวมกับพื้นที่พักอาศัยได้อย่างลงตัวมาก ๆ


⇒ การเดินทางโดยรถส่วนตัว : จากโครงการสามารถเชื่อมต่อออกสู่ถนนหลักได้หลายเส้น ทั้งถนนลาดพร้าว พหลโยธิน เกษตร-นวมินทร์ และรัชดาภิเษก ทำให้เดินทางเข้า-ออกเมืองได้สะดวก สามารถใช้เส้นทางไปยังรัชโยธิน สะพานควาย หรือพระราม 9 ได้อย่างคล่องตัว อีกทั้งยังใกล้ทางด่วนฉลองรัชและทางพิเศษศรีรัช ที่ช่วยให้เข้าสู่ย่านธุรกิจใจกลางเมืองได้ภายในเวลาไม่นาน


⇒ การเดินทางโดยรถสาธารณะ-รถไฟฟ้า : สำหรับผู้ที่ใช้ระบบขนส่งสาธารณะ สามารถเดินทางไปยังสถานีรถไฟฟ้าได้ไม่ยาก โดยโครงการอยู่ไม่ไกลจาก BTS เสนานิคม และ MRT ลาดพร้าว ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางไปยังโซนรัชดาฯ-พระราม 9 หรือเข้าเมืองฝั่งสาทร-สีลมได้สะดวก นอกจากนี้ยังมีเส้นทางรถเมล์ รถสองแถว และวินมอเตอร์ไซค์ให้เลือกใช้อยู่รอบโครงการ ทำให้การเดินทางในชีวิตประจำวันไม่ติดขัด


⇒ การออกแบบโครงการ แบบบ้าน และวัสดุที่ได้รับ : SALA ลาดพร้าว-รัชโยธิน เป็นโครงการทาวน์โฮม 3 ชั้นครึ่ง ดีไซน์สไตล์โมเดิร์นที่ผสมผสานแนวคิด Biophilic Design ให้ธรรมชาติและแสงสว่างเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ตัวบ้านออกแบบโปร่งสูงด้วยโถง Double Volume และมีช่องแสง-ช่องลมรอบอาคาร เพื่อให้บ้านเย็นสบายโดยไม่ต้องพึ่งแอร์มาก

วัสดุที่ใช้เน้นคุณภาพและความคงทน เช่น พื้นไม้ SPC ลายธรรมชาติ วัสดุปิดผิวลามิเนต พื้นที่สวนแนวตั้งและ Pocket Garden ที่เชื่อมต่อกับโถงบันไดกลางบ้าน นอกจากนี้ยังมีระบบ Smart Living ที่ควบคุมไฟฟ้า แสงสว่าง ผ้าม่าน และความปลอดภัยผ่านแอปพลิเคชันมือถือ เพิ่มความสะดวกสบายและความทันสมัยในทุกมิติของการอยู่อาศัย


⇒ สิ่งอำนวยความสะดวกและระบบรักษาความปลอดภัย : แม้จะเป็นโครงการขนาดเล็ก แต่ SALA ลาดพร้าว-รัชโยธิน ก็ให้สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม. พร้อมกล้อง IP Camera ในตัวบ้าน, ระบบประตูไฟฟ้าอัตโนมัติที่ช่วยให้เข้า-ออกได้สะดวกและปลอดภัย ภายในบ้านติดตั้ง Smoke Detector และ Magnetic Sensor ตรวจจับการเปิด-ปิดของประตูและหน้าต่าง

นอกจากนี้ ยังมีแนวคิดการออกแบบ Natural Air Ventilation ที่ช่วยให้บ้านถ่ายเทอากาศได้ดี และระบบ Smart Lighting ที่สามารถปรับแสงสว่างและประหยัดพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการจัดสวนแนวตั้งและ Pocket Garden ภายใน ช่วยเติมความร่มรื่นให้ทุกชั้นของบ้านมีมุมมองที่เชื่อมโยงกับธรรมชาติอย่างแท้จริง


สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 081-553-5555

Line : https://line.me/ti/p/~@sirilert

Website :  https://sirilert.co.th/sala/


หากเพื่อน ๆ เห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ


สนใจลงโฆษณากับทาง Homenayoo ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่
คุณวันเฉลิม  086-1290293 
LINE ID : 123456786205
Email : wanchalearm.t@gmail.com
ทางเราเป็นเว็บไซต์ให้ข้อมูล ไม่ใช่เจ้าของโครงการนะครับ

แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " EP.xxxx รีวิว SALA ลาดพร้าว-รัชโยธิน ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น สไตล์ Courtyard ในซอยลาดพร้าววังหิน 80 ใกล้ BTS เสนานิคม เป็นส่วนตัวเพียง 6 ยูนิต เริ่ม 14.9 ล้าน* "

Comments are closed.