EP.1885 รีวิว บ้านเดี่ยว นันทวัน รามอินทรา-พหลโยธิน 50 Nantawan Ramintra-Paholyothin 50
Written by : Nin Yanin
สวัสดีค่ะคุณผู้อ่าน วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการบ้านเดี่ยวหรูจากแบรนด์คุณภาพอย่าง Land & Houses กับโครงการ Nantawan รามอินทรา-พหลโยธิน 50 บนทำเลศักยภาพถนนตัดใหม่เทพรักษ์ ตำบลท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. ใกล้ทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา และรถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีสายหยุด
ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อาทิ Plearnary Mall, Venice Di Iris, Fashion Island, CDC และ Central Eastville
นันทวัน รามอินทรา-พหลโยธิน 50 โครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ Tuscany Mediterranean จำนวน 205 ยูนิต บนพื้นที่โครงการขนาด 98-0-50 ไร่ เป็นบ้านขนาดใหญ่ บนขนาดที่ดินตั้งแต่ 85-134 ตร.วา. ขึ้นไป พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 278-403 ตร.ม.
ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 4-5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ พร้อม ห้องพักผ่อนชั้นบน, ห้องพระ, ห้องแม่บ้าน รวมถึง Built-in Function, ระบบ Heat Detector, Motion Sensor และ Magnetic Sensor คาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จปลายปี 2564 นี้ค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการครบครัน โอ่อ่า หรูหรา สวยงาม มีคลับเฮาส์ขนาดใหญ่สไตล์ Tuscany พร้อมสระว่ายน้ำระบบเกลือ, ห้องออกกำลังกาย, ห้องนั่งเล่น, Co-working Space, สวนสวยล้อมรอบทะเลสาบกลางโครงการ, สนามเด็กเล่น, ศาลาพักผ่อน, บรรยากาศภายในโครงการสวยงาม เปิดโล่ง ด้วยระบบสายไฟฟ้าใต้ดินทั้งโครงการ และระบบรักษาความปลอดภัยแบบ Triple Security System ราคา 20-40 ล้านบาท
เราไปดูรายละเอียดที่น่าสนใจของโครงการกันเลยค่า
ติดต่อสอบถามและนัดเยี่ยมชมโครงการ คลิก : https://www.lh.co.th
| ชื่อโครงการ | นันทวัน รามอินทรา-พหลโยธิน 50 Nantawan Ramintra-Paholyothin 50 |
| เจ้าของโครงการ | แลนด์แอนด์เฮ้าส์ / Land & Houses |
| ลักษณะโครงการ | บ้านเดี่ยวหรู 2 ชั้น / แบบบ้าน 3 แบบ |
| พื้นที่โครงการ | 98-0-50 ไร่ |
| จำนวนบ้าน | 205 ยูนิต |
| เนื้อที่บ้าน | 85-134 ตร.วา. |
| พื้นที่ใช้สอย | 278-403 ตร.ม. |
| จำนวนห้อง | 4 ห้องนอน 4-5 ห้องน้ำ |
| ที่จอดรถทั้งหมด | 3 คัน |
| โซน | รามอินทรา-พหลโยธิน |
| การคมนาคม | - ถนนเทพรักษ์
- ถนนพหลโยธิน
- ถนนรามอินทรา
- ถนนสุขาภิบาล 5
- ถนนวัชรพล
- จุดขึ้นลงทางด่วนฉลองรัช ด่านสุขาภิบาล 5-1
- รถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีสะพานใหม่
|
| รถโดยสารที่ผ่าน | n/a |
| ที่ตั้ง | ถนนเทพรักษ์ (ตัดใหม่) แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร 10220 |
| กำหนดการ | n/a |
| ปีที่สร้างเสร็จ | คาดว่าแล้วเสร็จปลายปี 2564 |
| ราคา | เริ่มต้น 20-40 ล้านบาท* |
| ค่าส่วนกลาง | n/a |
| สถานที่สำคัญใกล้เคียง | ห้างสรรพสินค้า - Venice Di Iris : 3.1 กม.
- ตลาดถนอมมิตร : 3.3 กม.
- Big C Market ถ.สุขาภิบาล 5 : 3.4 กม.
- Plearnary Mall : 3.5 กม.
- Tesco Lotus วัชรพล : 4.0 กม.
- ตลาดออเงิน : 4.4 กม.
- Foodland รามอินทรา : 5.0 กม.
- ตลาดนัดเลียบด่วน : 5.4 กม.
- The Promenade : 8.3 กม.
- Fashion Island : 8.5 กม.
- Central รามอินทรา : 8.7 กม.
- The Crystal : 9.9 กม.
- Chic Republic : 10.0 กม.
- CDC : 10.2 กม.
- Central Festival Eastville : 11.0 กม.
สถานศึกษา - รร.นานาชาติ KPIS : 1 กม.
- รร.นานาชาติกีรพัฒน์ : 6.7 กม.
- รร.สารสาสน์วิเทศสายไหม : 7.5 กม.
- รร.เลิศหล้า : 10.1 กม.
- รร.บดินทร์เดชา 2 : 10.3 กม.
- ม.ศรีปทุม : 10.5 กม.
- ม.เกษตรศาสตร์ : 13.7 กม.
ศูนย์การแพทย์ - รพ.เซ็นทรัลเยนเนอรัล : 6.4 กม.
- รพ.สายไหม : 8.6 กม.
- รพ.สินแพทย์ : 10.0 กม.
อื่นๆ - สนามบินดอนเมือง : 18.1 กม.
|
| สิ่งอำนวยความสะดวก | - คลับเฮาส์หรู
- สระว่ายน้ำระบบเกลือ
- ห้องออกกำลังกาย
- Co-working Space
- สวนสาธารณะ
- สนามเด็กเล่น
- ระบบไฟฟ้าใต้ดินทั้งโครงการ
- Triple Security System
|
| จุดเด่นของโครงการ | โครงการบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ สไตล์ Tuscany Mediterranean พร้อมคลับเฮาส์หรู บนทำเลติดถนนใหญ่เทพรักษ์ ใกล้ทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา และรถไฟฟ้าสายสีเขียว |
โครงการใกล้เคียง
:::: ที่ตั้งโครงการ ::::
ถนนเทพรักษ์ (ตัดใหม่) แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร 10220
พิกัด : 13.876231, 100.659334
ทำเลที่ตั้ง นันทวัน รามอินทรา-พหลโยธิน 50 ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่เทพรักษ์ (ตัดใหม่) หรือซอยพหลโยธิน 50 ย่านนี้เป็นทำเลของโครงการบ้านเดี่ยว ระดับราคา 7 ล้านขึ้นไป และถือเป็นทำเลทองแห่งอนาคต เพราะจะมีการตัดขยายถนนเส้นนี้ออกไปอีกทั้ง 2 ฝั่ง คือจากถนนพหลโยธิน เชื่อมต่อกับถนนวิภาวดี-รังสิต ระดับถนนสุขาภิบาล 5 ผ่านหน้าโครงการไปเชื่อมกับถนนหทัยราษฎร์ และถนนนิมิตใหม่
โดยจะเป็นถนนใหญ่ขนาด 6 เลน ส่งผลให้ในอนาคตจะมีความคึกคักมากขึ้น มีการเกิดใหม่ของธุรกิจและห้างร้านต่าง ๆ ซึ่งจะอำนวยให้การอยู่อาศัยสะดวกสบายมากขึ้น รวมถึงการมาถึงของรถไฟฟ้าสายสีเขียวและสายสีชมพู ทำให้มูลค่าที่ดินของทำเลนี้สูงขึ้นอีกอย่างแน่นอน อีกทั้งยังทำให้การเดินทางสะดวกมากขึ้นด้วย ที่สำคัญโครงการยังอยู่ใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วนฉลองรัช (สุขาภิบาล 5) จึงเดินทางได้สะดวกอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ต้องไปทำงานในเมืองค่ะ
การเดินทางด้วยรถยนต์ นับว่าสะดวกสบาย เพราะตัวโครงการอยู่ติดกับถนนเทพรักษ์ ซึ่งเป็นถนนใหญ่ที่เชื่อมต่อถนนสุขาภิบาล 5, ถนนวัชรพล และถนนพหลโยธิน และด้วยความที่โครงการอยู่ใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วนฉลองรัชมาก ๆ จึงสามารถใช้ทางด่วนนี้วิ่งเข้า-ออกเมืองได้สบาย
ถ้าจะวิ่งเข้าเมือง จากหน้าโครงการออกไปยูเทิร์นที่ถนนสุขาภิบาล 5 เพื่อขึ้นทางด่วนได้ในระยะทางเพียง 3.4 กม. และจากทางลงทางด่วนวิ่งกลับไปโครงการก็ไม่ถึง 3 กม. โดยทั้งหมดนี้เราแทบไม่ต้องขับผ่านถนนที่มีการจราจรที่ติดขัดเลยค่ะ นั่นหมายความว่าเพียง 20 นาที เราสามารถวิ่งไปถึงพระราม 9 ได้แล้ว หรือถ้าจะไปห้างใหญ่ ๆ แถวเลียบด่วนรามอินทรา (ถ.ประดิษฐ์มนูธรรม) ก็สามารถขึ้นทางด่วน ไปลงใกล้ ๆ หน้า CDC จากตรงนั้นจะมีจุดกลับรถ กลับมาอีกฝั่งก็ถึง Central Festival Eastville และ The Crystal แล้วค่ะ
นอกเหนือจากการใช้ทางด่วนแล้ว จากถนนสุขาภิบาล 5 และถนนวัชรพล ก็สามารถเชื่อมสู่ถนนรามอินทราได้ ในระยะทางประมาณ 5 กม. จากเส้นรามอินทรา สามารถวิ่งตรงเข้าสู่ถนนแจ้งวัฒนะไปทางปากเกร็ด เชื่อมสู่ ถนนพหลโยธิน และถนนวิภาวดี-รังสิตได้เลย (หรือจะใช้เส้นเทพรักษ์เชื่อมสู่ถนนพหลโยธินโดยตรงเลยก็สะดวกค่ะ)
ทางด่วน เรามาดูจุดขึ้น-ลงทางด่วนกันชัด ๆ เลยค่ะ ว่าอยู่ใกล้กับโครงการมาก และสามารถไปได้สะดวกจริง ๆ โดยให้เราไปกลับรถที่ถนนสุขาภิบาล 5 แล้วชิดขวาเข้าจุดขึ้นทางด่วน
มาดูจุดลงทางด่วนกันบ้าง พอเราขับลงมาจากทางด่วน ทางออกจะนำเข้าสู่ถนนสุขาภิบาล 5 จากนั้นเราก็เพียงชิดซ้ายและเลี้ยวเข้าถนนเทพรักษ์ค่ะ
:: สรุปแยก และ ถนนสำคัญรอบโครงการ ::
- ถนนสุขาภิบาล 5 : 1.3 กม.
- ถนนวัชรพล : 1.9 กม.
- ห้าแยกวัชรพล : 2.2 กม.
- ถนนรามอินทรา : 4.8 กม.
- ถนนประดิษฐ์มนูธรรม : 5.3 กม.
- ถนนพหลโยธิน : 6.2 กม.
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ ยังไม่สะดวกเท่ารถยนต์ส่วนตัวนะคะ เพราะบริเวณหน้าโครงการจะไม่มีรถสาธารณะวิ่งผ่าน การเรียกแท็กซี่จาก Application อย่าง Grab Taxi หรือ Line Taxi จะสะดวกกว่ามาก แต่ถ้าวันไหนไม่รีบเร่งมาก อยากใช้รถสาธารณะแทน สามารถไปขึ้นได้ที่เส้นสุขาภิบาล 5 เพราะเส้นนั้นจะมีป้ายรถเมล์ และมีรถสาธารณะหลายสายวิ่งผ่าน
จากกราฟิกข้างต้นจะเห็นโครงข่ายรถไฟฟ้าทั้ง 3 สาย ปัจจุบันสายสีเขียว ช่วงหมอชิด-คูคต ได้เปิดให้ใช้บริการแล้ว สถานีที่อยู่ใกล้ที่สุดก็คือ สถานีสายหยุด อยู่ห่างจากโครงการออกไปประมาณ 6.5 กม. ส่วนสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี กำลังก่อสร้างกันอยู่ มีความคืบหน้าพอสมควร เมื่อสร้างเสร็จแล้วสถานีที่ใกล้ที่สุดจะเป็นสถานีวัชรพล เป็นสถานี Interchange ระหว่างรถไฟฟ้าสายสีชมพู กับรถไฟฟ้าสายสีเทา (ช่วงวัชรพล-ทองหล่อ) ใครที่อยากเดินทางเข้าเมืองแต่ไม่อยากหาที่จอดรถให้วุ่นวาย ในอนาคตสะดวกแน่นอนค่ะสำหรับทำเลนี้
ความอุดมสมบูรณ์ จากภาพรวมของย่านนี้นับว่ามีความอุดมสมบูรณ์อยู่พอสมควร เนื่องจากตัวโครงการอยู่ใกล้กับถนนสายหลัก ซึ่งเป็นทั้งย่านของที่อยู่อาศัยและออฟฟิศขนาดย่อม ๆ มีตั้งแต่ ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่, Hypermarket, Community Mall, Supermarket รวมถึงตลาดนัดตอนกลางคืน ในย่านนี้มีครอบคลุมทั้งหมด
(ที่มาภาพ : https://www.wongnai.com, http://www.toptenthailand.com)
ใกล้กับตัวโครงการมากที่สุด ห่างออกไปเพียง 1.5 กม. หรือขับรถเพียงแค่ 2 นาที ก็จะมี Venice Di Iris, Tesco Lotus และ Plearnary Mall บนถนนวัชรพล มี Big C Market บนถนนสุขาภิบาล 5 ถ้าออกไปที่ถนนสายหลักบ้าง เริ่มจากเส้นรามอินทรา ที่เด่น ๆ เลยก็คือ ตรง กม.2 มี Central รามอินทรา และตรง กม.10 มีห้าง Fashion Island และ The Promenade ภายในก็จะมีทั้ง Shopping Center, ห้าง Big C, ร้านอาหาร, รร.ติวเตอร์, คลีนิกเสริมความงาม และ อื่น ๆ อย่างครบวงจร
เส้นเลียบด่วนรามอินทราก็จะมีทั้ง The Crystal, CDC, Central Festival Eastville, ร้านอาหารบรรยากาศดี รวมถึงตลาดนัดเลียบด่วนขนาดใหญ่ เชื่อมจากเส้นรามอินทราไปเกษตร-นวมินทร์ ก็มี Community Mall, ตลาดนัดหัวมุม เป็นตลาดนัดกลางคืนกับสินค้าในราคาย่อมเยา, ร้านอาหาร และร้านนั่งชิว ที่สามารถมา Hangout กับเพื่อน ๆ ได้ในยามค่ำคืนค่ะ
:: สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ ::
ห้างสรรพสินค้า
- Venice Di Iris : 3.1 กม.
- ตลาดถนอมมิตร : 3.3 กม.
- Big C Market ถ.สุขาภิบาล 5 : 3.4 กม.
- Plearnary Mall : 3.5 กม.
- Tesco Lotus วัชรพล : 4.0 กม.
- ตลาดออเงิน : 4.4 กม.
- Foodland รามอินทรา : 5.0 กม.
- ตลาดนัดเลียบด่วน : 5.4 กม.
- The Promenade : 8.3 กม.
- Fashion Island : 8.5 กม.
- Central รามอินทรา : 8.7 กม.
- The Crystal : 9.9 กม.
- Chic Republic : 10.0 กม.
- CDC : 10.2 กม.
- Central Festival Eastville : 11.0 กม.
สถานศึกษา
- รร.นานาชาติ KPIS : 1 กม.
- รร.นานาชาติกีรพัฒน์ : 6.7 กม.
- รร.สารสาสน์วิเทศสายไหม : 7.5 กม.
- รร.เลิศหล้า : 10.1 กม.
- รร.บดินทร์เดชา 2 : 10.3 กม.
- ม.ศรีปทุม : 10.5 กม.
- ม.เกษตรศาสตร์ : 13.7 กม.
ศูนย์การแพทย์
- รพ.เซ็นทรัลเยนเนอรัล : 6.4 กม.
- รพ.สายไหม : 8.6 กม.
- รพ.สินแพทย์ : 10.0 กม.
อื่นๆ
- สนามบินดอนเมือง : 18.1 กม.
:::: การเดินทางสู่โครงการ ::::
วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo มีภาพการเดินทางไปสู่ตัวโครงการโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวมาฝากกันค่ะ โดยเราจะเริ่มการเดินทางจาก
ถนนรามอินทรา > ทางด่วนฉลองรัช > ถนนสุขาภิบาล 5 > ถนนเทพรักษ์ > นันทวัน รามอินทรา-พหลโยธิน 50
เราเริ่มต้นการเดินทางบนถนนรามอินทรา มุ่งหน้าไปทางถนนกาญจนาภิเษกค่ะ
ก่อนถึงทางขึ้นทางด่วนเราจะผ่านกองบินตำรวจทางฝั่งซ้ายมือ
ให้เราสังเกตป้ายทางขึ้นทางด่วนเอาไว้ค่ะ ตรงนี้เราสามารถชิดซ้ายเลี้ยวเข้าถนนวัชรพลเพื่อไปโครงการได้เช่นกัน
ชิดซ้ายเพื่อเลี้ยวเข้าทางขึ้นทางด่วน
จากนั้นจะมีทางแยก 2 ฝั่ง ให้เราชิดซ้ายเพื่อขึ้นทางด่วนฉลองรัชไปทางกาญจนาภิเษกค่ะ
เราวิ่งบนทางด่วนฉลองรัชไปเรื่อย ๆ แล้วลงที่ทางออก 22 จะออกที่ถนนสุขาภิบาล 5
ลงจากทางด่วนมาแล้ว ให้เราชิดขวาเพื่อเลี้ยวเข้าถนนสุขาภิบาล 5 ไปทางวัชรพลค่ะ
วิ่งตรงไปเรื่อย ๆ บนถนนสุขาภิบาล 5 ให้เราสังเกตป้ายพหลโยธินเอาไว้ มองไปข้างหน้าเราจะมีสะพานข้ามถนนเทพรักษ์ เราไม่ต้องข้ามสะพาน
ให้เราชิดซ้ายเพื่อเข้าถนนเทพรักษ์แทน
จากนั้นให้เราเลี้ยวซ้ายเข้าถนนเทพรักษ์ค่ะ
ขับตรงไปบนถนนเทพรักษ์ สังเกตทั้งฝั่งซ้ายมือจะมีป้ายโครงการขนาดใหญ่ ให้เราวิ่งตรงไปตามป้ายได้เลย
ในอนาคตถนนเทพรักษ์ส่วนนี้จะถูกขยายออกเป็นถนนใหญ่ขนาด 6 เลน ซึ่งจะตัดผ่านหน้าโครงการด้วย
ทางโครงการได้ปรับทัศนียภาพของถนนให้ดูร่มรื่นด้วยแนวต้นไม้ใหญ่พร้อมปูสนามหญ้า
และตอนนี้เราก็มาถึงโครงการ นันทวัน รามอินทรา-พหลโยธิน 50 กันแล้วค่ะ
ภาพบรรยากาศบริเวณทางเข้าโครงการ นันทวัน รามอินทรา-พหลโยธิน 50
:::: สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ::::
โดยรอบโครงการส่วนใหญ่จะเป็นโครงการบ้านจัดสรรขนาดใหญ่ค่ะ และยังมีพื้นที่ดินเปล่าผืนใหญ่ที่ยังสามารถพัฒนาต่อได้ในอนาคต ปัจจุบันค่อนข้างมีความเงียบสงบและเป็นส่วนตัว ซึ่งก็ถือว่าเป็นข้อดีข้อหนึ่ง แต่เมื่อมีการตัดถนนในอนาคตแล้ว ทำเลนี้ก็จะมีมูลค่าที่สูงขึ้นไปโดยปริยาย ทิศเหนือ ติดกับ ถนนเทพรักษ์ ทิศใต้ ติดกับ โครงการบ้านจัดสรร และที่ดินเปล่า ทิศตะวันออก ติดกับ ที่ดินเปล่า ทิศตะวันตก ติดกับ โครงการบ้านจัดสรร
เรามาดูบรรยากาศโดยรอบโครงการกันค่ะ อย่างที่บอกไปข้างต้นแล้วว่าหน้าโครงการจะอยู่ติดกับถนนเทพรักษ์ โดยปัจจุบันถนนเทพรักษ์จะสิ้นสุดที่บริเวณหน้าโครงการ ภายหลังการขยายถนนแล้วจะเชื่อมไปถึงถนนนิมิตใหม่เลยค่ะ
เรามองย้อนออกไปทางถนนสุขาภิบาล 5 กันบ้าง
นอกจากโครงการบ้านจัดสรรแล้ว บริเวณนี้เองก็ยังมีบ้านพักอาศัยส่วนตัวของคนในพื้นที่
บรรยากาศในตอนนี้คนไม่ค่อยพลุกผ่านเท่าไหร่
ถัดออกไปสักระยะก็มีโครงการใหญ่อีกโครงการค่ะ
:::: ตัวโครงการ ::::
::: ทางเข้าโครงการ :::
เราเข้าไปดูภาพบรรยากาศของโครงการกันค่ะ เริ่มจากที่ทางเข้าโครงการขนาดใหญ่รองรับการตัดถนนใหม่ พร้อมทัศนียภาพที่สวยงาม
โครงการออกแบบโดยใช้รูปแบบสถาปัตยกรรมสไตล์ Tuscany จากประเทศอิตาลี มีจุดเด่นที่ซุ้มประตูโค้ง หลังคาทรงโดม หินกรุตกแต่งผนังอาคาร รวมถึงการใช้สีโทน Sand Stone ซึ่งก็ได้ถูกนำมาใช้ออกแบบตั้งแต่ทางเข้าโครงการเลย
ด้านหน้าโครงการมีป้ายโครงการขนาดใหญ่เชื่อมต่อกับอาคารส่วนกลาง ตกแต่งด้วยสระน้ำและน้ำพุอย่างสวยงาม
ทางเข้าโครงการถูกแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งอย่างชัดเจน เป็นฝั่งขาเข้าและฝั่งขาออก ขั้นด้วยซุ้ม รปภ. ตรงกลางดูแลความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ซึ่งรวมแล้วมีความกว้างถึง 32 เมตรค่ะ
ลักษณะของประตูทางเข้าโครงการจะเป็นประตูรั้วเหล็กเลื่อนอัตโนมัติแบบ Double Gate ใช้ระบบ Easy Pass ในการเข้า-ออก ซึ่งประตูที่อยู่ข้างหน้าเรานี้จะเป็น Gate แรก มีการติดกล้อง CCTV เอาไว้สำหรับบันทึกภาพป้ายทะเบียนและภาพรถด้วย
::: GUEST ZONE :::
ระหว่าง Gate แรกและ Gate 2 จะมีอาคารส่วนกลางหรือ Co-working Space ที่สามารถใช้รับรองแขกจากภายนอกโครงการได้ เป็นการแบ่งพื้นที่ระหว่าง Guest และ Resident ออกจากกันอย่างชัดเจนเพื่อความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยค่ะ
บริเวณพื้นที่ด้านหน้าอาคารมีที่จอดรถรับรองแขกเตรียมเอาไว้ให้เรียบร้อย สะดวกสบายสำหรับแขกที่เดินทางมาหา
ตัวอาคารเองเป็นอาคารชั้นเดียว มีฟังก์ชันหลัก ๆ เป็น Co-working Space หรือว่าห้องรับรองนั่นเองค่ะ
บรรยากาศภายในห้องรับรองถูกตกแต่งอย่างหรูหรา มีการจัดชุดโซฟาขนาดใหญ่เอาไว้ให้ สามารถใช้รับรองแขกได้ดีเลยค่ะ หรือลูกบ้านจะมาใช้นั่งพักผ่อนหย่อนใจ ทำงาน หรือทำการจองห้องล่วงหน้ากับนิติบุคคลสำหรับงานเลี้ยงสังสรรค์ก็ทำได้
ชุดโซฟารองรับการนั่งทำงานอ่านหนังสือแบบส่วนตัวก็มี
ซึ่งจากห้องรับรองจะเชื่อมต่อกับพื้นที่ระเบียงภายนอก ออกไปดูวิวสระน้ำและน้ำพุภายนอกได้ ถ้าใช้จัดงานเลี้ยงคือบรรยากาศดีทีเดียวค่ะ ไม่ต้องตกแต่งเองเยอะ
คราวนี้เราจะผ่าน Gate ที่ 2 เข้าไปยังพื้นที่โซน Resident กันต่อ
::: RESIDENT ZONE :::
เข้ามาในโซน Resident แล้วจะถูกรับด้วยถนนหลักกว้าง 16 เมตร เป็นซุ้มต้นจามจุรีตรงเข้าไปยังใจกลางโครงการ 
จากถนนหลัก 16 เมตรตัดมาเจอวงเวียนกลางสี่แยกเพื่อลดความเร็วของการขับรถ อยากให้สังเกตทัศนียภาพภายในโครงการว่ามีความเปิดโล่งเป็นพิเศษ ไม่ใช่เพราะแค่ว่าโครงการนี้มีพื้นที่เยอะ แต่เป็นการเก็บสายไฟไฟ้าลงใต้ดินทั้งหมดค่ะ
มองไปด้านหลังวงเวียนเราจะเห็นพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ ขนาดกว่า 7.5 ไร่เลยค่ะ
ภาพบรรยากาศถนนภายในโครงการเลียบทะเลสาบ
อีกฝั่งเป็นแนวต้นจามจุรีให้ร่มเงา ดูร่มรื่นทั้งโครงการ
ตรงไปด้านในอีกก็จะมีพื้นที่สนามหญ้าขนาดใหญ่และสนามเด็กเล่นค่ะ
::: FACILITIES :::
สำหรับพื้นที่ส่วนกลางของโครงการจะเป็นคลับเฮาส์ในสไตล์ Tuscany มีสวนพักผ่อนและทะเลสาบเป็นแลนด์สเคปอยู่ด้านหน้า
บริเวณฝั่งทางเข้าอาคารมีพื้นที่จอดรถรองรับเอาไว้ให้แล้ว
พอเข้ามาภายในคลับเฮาส์จะมีโถงพักคอยขนาดใหญ่ที่เชื่อมสู่ฟังก์ชันการใช้งานต่าง ๆ ทางฝั่งขวามือเป็นห้องนั่งเล่น ตรงกลางทะลุออกสระว่ายน้ำ และทางฝั่งซ้ายทะลุไปยังห้องน้ำและทางขึ้นชั้น 2 ไปยังห้องออกกำลังกายค่ะ
เราเข้ามาดูภายในห้องนั่งเล่น หรือก็คือ Co-working Space อีกส่วนหนึ่งค่ะ ซึ่งปัจจุบันนี้ถูกใช้เป็นสำนักงานขายด้วยในตัว
ภายในถูกออกแบบตกแต่งให้อิงกับแนวสถาปัตยกรรมสไตล์ Tuscany ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพหรือ Art Object ที่ใช้ตกแต่งก็ตาม รวมถึงยังมีการใช้ฤดูต่าง ๆ มาเป็น Mood&Tone ในการตกแต่งแต่ละโซนในห้องอีกด้วย
มีชุดโต๊ะ-เก้าอี้นั่งสบาย ๆ ใช้ทำงาน คุยงาน ทำการบ้านได้ และรองรับเวลามีลูกค้า Walk-in เข้ามาในโครงการ
มุมฝั่งตรงข้ามถูกออกแบบด้วยแรงบันดาลใจจาก Museum ค่ะ เหมาะสำหรับการนั่งทำงานส่วนตัวพอดี
และโซนด้านในสุดถูกออกแบบให้มีความผ่อนคลายมากขึ้น ด้วยชุดโซฟาขนาดใหญ่และอาร์มแชร์ 
เราเดินออกมาที่ฝั่งปีกขวากันบ้าง จะเป็นส่วนของห้องน้ำแยกชาย-หญิงค่ะ
ภายในห้องน้ำก็ยังถูกตกแต่งโดยอิงสไตล์ Tuscany มีพื้นที่ขนาดใหญ่ ดูโปร่งและสวยงาม น่าใช้งานทีเดียว
ภาพบรรยากาศภายในห้องอาบน้ำ
ภาพบรรยากาศภายในห้องน้ำ ที่นี่ใช้ฝารองนั่งอัจฉริยะด้วย เป็นมาตรฐานของทาง Land & Houses เลยค่ะ 
เราเดินผ่านหน้าห้องน้ำมาจะมีบันไดทางขึ้นชั้น 2 ไปยังห้องออกกำลังกาย
ภายในห้องออกกำลังกายถูกแบ่งออกเป็น 2 โซนค่ะ คือโซนคาร์ดิโอและโซนเวทเทรนนิ่ง โดยโซนคาร์ดิโอจะได้วิวของสระว่ายน้ำและทะเลสาบแบบเต็ม ๆ 
โซนเวทเทรนนิ่งติดตั้งกระจกเงามาให้สำหรับใช้เช็กท่าทางในการออกกำลังกาย
นอกจากนี้ยังมีตู้กดน้ำและสเปรย์แอลกอฮอล์เอาไว้ให้บริการด้วย
จากบริเวณโถงกลางเราเดินออกไปยังพื้นที่สระว่ายน้ำกันต่อ มองออกไปแล้วจะเห็นว่าสระว่ายน้ำจะเชื่อมต่อกับวิวทะเลสาบและสวนหย่อมอย่างสวยงาม
สระว่ายน้ำเป็นสระระบบเกลือ มีขนาดถึง 10 x 25 เมตร สามารถใช้ว่ายน้ำออกกำลังกายได้สบายค่ะ 
โดยพื้นที่ภายในสระเองมีการกั้นส่วนเป็นสระเด็กให้ด้วย
พื้นที่ข้างสระอีกฝั่งจะมีศาลาสำหรับนั่งพักผ่อนหย่อนใจ
และมีพื้นที่พักผ่อนแบบ Semi-outdoor จัดเอาไว้ให้ มีทั้งโซฟาและโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ ใครที่ชอบรับลมธรรมชาติจุดนี้เป็นจุดที่ดีเลยค่ะ
ภาพบรรยากาศโดยรวมของคลับเฮาส์และสระว่ายน้ำ ทางโครงการออกแบบมาได้สวยงามทีเดียว ได้กลิ่นอายเหมือนไปพักผ่อนที่ Tuscany อยู่นะ
มองจากบริเวณสระว่ายน้ำออกไปยังทะเลสาบที่ล้อมรอบด้วยสวนพักผ่อน
จากสระว่ายน้ำจะมีทางเป็นสนามหญ้าเดินเชื่อมลงไปยังสวนพักผ่อนได้เลย
พื้นที่ภายในสวนมีการทำทางเดินอย่างเป็นกิจลักษณะเลยค่ะ สามารถใช้วิ่ง Jogging ได้ด้วยในตัว
ภายในสวนพักผ่อนนี้เองจะมีส่วนที่เรียกว่า Gazebo เป็นศาลาอเนกประสงค์
Gazebo นั้นจะเป็นงานสถาปัตยกรรมทางฝั่งตะวันตก ซึ่งจะเลือกวางในตำแหน่งที่เป็นจุดสำคัญ อย่างจุดที่ทางโครงการเลือกวางเอาไว้นั้นจะเป็นจุดที่เราสามารถรับวิวของทะเลสาบได้โดยรอบ มองขึ้นไปบนเพดานนี้จะเป็นภาพที่เพ้นท์ด้วยมือนะคะ
เรามองออกไปก็จะได้วิวของทะเลสาบ ถูกตกแต่งด้วยน้ำพุ มี Background เป็นคลับเฮาส์สไตล์ Tuscany บรรยากาศดีทีเดียว
เราเดินมายังพื้นที่ส่วนกลางอีกส่วนที่อยู่ด้านในโซนคลับเฮาส์ ก็คือพื้นที่สนามเด็กเล่นนั่นเอง ทางโครงการได้ให้ความสำคัญกับพื้นที่ส่วนนี้มากพอสมควร มีการออกแบบเครื่องเล่นให้หลากหลายที่ช่วยสร้างพัฒนาการของกล้ามเนื้อและความคล่องตัว รวมถึงปูพื้นด้วยพื้นยางกันกระแทกสลับกับสนามหญ้า เพื่อความปลอดภัยของเด็ก ๆ
ติดกับสนามเด็กเล่นเป็นพื้นที่สนามหญ้าขนาดใหญ่รองรับการวิ่งเล่นของเด็ก ๆ รวมถึงกิจกรรมนันทนาการของครอบครัวและเพื่อนบ้าน
ในส่วนนี้เองจะมี Gazebo เป็นศาลาอเนกประสงค์ขนาดใหญ่
พื้นที่ภายในทั้ง 2 ฝั่งถูกออกแบบให้เป็นพื้นที่นั่งพักผ่อน โดยตรงกลางโถงเปิดเป็นช่องลมขนาดใหญ่ให้ลมสามารถพัดผ่านได้
:::: แบบบ้านของโครงการ ::::
โครงการ นันทวัน รามอินทรา-พหลโยธิน 50 จะมีแบบบ้านทั้งหมด 3 แบบด้วยกันดังนี้ค่ะ
- แบบบ้าน Precise พื้นที่ใช้สอย 278 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ, ห้องพักผ่อนชั้นบน และ ห้องแม่บ้าน
- แบบบ้าน Grandiose พื้นที่ใช้สอย 338 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ, ห้องพักผ่อนชั้นบน, ห้องพระ และ ห้องแม่บ้าน
- แบบบ้าน Prudento-A พื้นที่ใช้สอย 403 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ, ห้องพักผ่อนชั้นบน, ห้องพระ และ ห้องแม่บ้าน
- แบบบ้าน Precise บ้านเดี่ยว 2 ชั้น
- พื้นที่ใช้สอย 278 ตร.ม.
- ขนาดที่ดิน 85.1 ตร.ว.
- ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ, ห้องพักผ่อนชั้นบน และ ห้องแม่บ้าน
แปลนชั้น 1
แปลนบ้านชั้น 2
- แบบบ้าน Grandiose บ้านเดี่ยว 2 ชั้น
- พื้นที่ใช้สอย 338 ตร.ม.
- ขนาดที่ดิน 116.5 ตร.ว.
- ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ, ห้องพักผ่อนชั้นบน, ห้องพระ และ ห้องแม่บ้าน
แปลนชั้น 1
แปลนชั้น 2
- แบบบ้าน Prudento-A บ้านเดี่ยว 2 ชั้น
- พื้นที่ใช้สอย 403 ตร.ม.
- ขนาดที่ดิน 135.9 ตร.ว.
- ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ, ห้องพักผ่อนชั้นบน, ห้องพระ และ ห้องแม่บ้าน
แปลนชั้น 1
แปลนชั้น 2
:::: บ้านตัวอย่าง ::::
วันนี้เราจะพาคุณผู้อ่านไปชมบ้านตัวอย่างกัน 2 หลังอีกเช่นเคยค่ะ นั่นก็คือแบบบ้าน Precise ขนาด 278 ตร.ม. และแบบบ้าน Grandiose ขนาด 338 ตร.ม. ไปชมกันเลยค่า
::: Precise ขนาด 278 ตร.ม. :::
แปลนชั้น 1 เริ่มจากที่หน้าบ้านมีพื้นที่จอดรถให้ 3 คัน และมีประตูทางเข้าบ้านรองสามารถเปิดเข้าบ้านได้เลย ส่วนทางเข้าหลักจะอยู่ตรงทางเฉลียงหน้าบ้าน ภายในบ้านมีการวางแปลนแบบ Open Plan ส่วนแรกเป็นโถงใหญ่ประกอบด้วย ห้องนั่งเล่น, ห้องรับประทานอาหาร และแพนทรี่ พื้นที่โถงใหญ่จะเชื่อมต่อกับ ห้องนอนชั้นล่าง, ห้องน้ำชั้นล่าง, ห้องครัว และโถงบันได โดยจากห้องครัวจะเชื่อมกับ Maid Plaza หลังบ้าน ซึ่งประกอบด้วยลานซักล้าง พร้อมห้องนอนและห้องน้ำแม่บ้านแยกให้ต่างหาก พื้นที่แต่ละส่วนสามารถวางเฟอร์นิเจอร์พอสำหรับครอบครัวขนาด 5 – 6 คนค่ะ
แปลนบ้านชั้น 2 เป็นส่วนของห้องนอนทั้งหมด 3 ห้อง และห้องพักผ่อนครอบครัวชั้นบน โดย Master Bedroom จะอยู่ฝั่งหน้าบ้าน มีขนาดกว้างขวาง เป็นสัดส่วน พร้อม Walk-in Closet และห้องน้ำในตัว ส่วนห้องนอน 2 และ 3 จะอยู่ฝั่งหลังบ้านค่ะ ภายในห้องนอนสามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้วางเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ได้อย่างลงตัว และมีห้องน้ำให้ในตัวทุกห้อง
บ้านของโครงการจะมีสีสันให้เลือกอยู่ 3 สีคละกันไป โดยจะเป็นสีโทนสว่างและสีเอิร์ธโทน ยังคุมให้อยู่ในสไตล์ Tuscany สังเกตว่าบ้านมีการตกแต่งด้วยหน้าต่างที่เป็นทรงซุ้มโค้ง พร้อมบานเปิดแบบตกแต่ง ตกแต่งผนังบางส่วนด้วยหินกรุ และมีการประดับด้วยขอบบัว เป็นสไตล์ที่ดูอบอุ่นและน่าอยู่
ประตูรั้วจะเป็นเหล็กดัดทาสีดำแบบรางเลื่อนสลิง สามารถควบคุมได้ด้วยรีโมทคอนโทรล บริเวณหน้าบ้านติดตั้งไฟกิ่ง, เลขที่บ้าน, กล่องจดหมาย แต่ตู้เก็บขยะมาให้เรียบร้อย
เข้ามาภายในบ้านส่วนแรกเป็นพื้นที่จอดรถค่ะ ตรงนี้ทางโครงการจะทำพื้น Slope เอาไว้ให้และลงเสาเข็มแบบปูพรม เวลาฝนตกหรือล้างรถ น้ำก็จะไหลลงไปที่ทางระบายน้ำหน้าบ้านค่ะ
ถัดเข้าไปด้านในพื้นจะเป็นโครงสร้างแบบ On Beam พื้นตกแต่งด้วยทรายล้างและกระเบื้องตามนี้เลยค่ะ สามารถจอดรถได้ถึง 3 คันในร่ม
จากบริเวณลานจอดรถเองจะมีประตูทางเข้าบ้านรองให้ สะดวกเวลาต้องการขนของเข้าบ้าน หรือเวลาที่ฝนตก ฝนจะสาดไม่ถึง ทำขั้นบันไดยกระดับให้ ปูด้วยกระเบื้องลายหินอ่อน ส่วนประตูใช้ประตูบานสำเร็จรูปติดลูกฟักกระจก
สังเกตบริเวณโดยรอบบ้าน ทางโครงการจะทำการจัดสวนมาให้เป็นมาตรฐาน ซึ่งจะแตกต่างกันออกไปตามที่ดินของบ้านแต่ละหลังนะคะ
ทางเข้าบ้านหลักจะมีพื้นที่เฉลียงที่ถูกเซ็ตเข้าไปให้อยู่ในร่ม กันแดดกันฝนได้ รวมถึงยังช่วยให้พื้นที่ด้านในบ้านฝั่งนี้ไม่โดนแดดจัง ๆ
พื้นเฉลียงปูด้วยกระเบื้องแบบผิวด้านกันลื่น ส่วนประตูทางเข้าบ้านเป็นประตูบานเปิดคู่ของ Tostem เปิด-ปิดเสียงเบา สามารถเปิดได้กว้าง สะดวกเวลาที่ต้องการขนเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ ๆ เข้า-ออกบ้าน และยังสามารถล็อกได้ถึง 3 ชั้นอีกด้วยค่ะ
เปิดประตูเข้ามาด้านในจะเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ ประกอบด้วย ห้องนั่งเล่น, ห้องรับประทานอาหาร และแพนทรี่ สำหรับวัสดุหลัก ๆ ของบ้าน พื้นปูด้วยกระเบื้องลายหินอ่อน ขนาด 80 x 80 ซม. ผนังของบ้านติดวอลเปเปอร์มาให้เรียบร้อยแล้ว ฝ้าเพดานเป็นฝ้าฉาบเรียบทาสี ติดดวงโคม Downlight และเครื่องปรับอากาศทั้งแบบฝังฝ้าและ Wall Type ให้เรียบร้อย มีความสูงอยู่ที่ 2.7 เมตร
โดยรอบบ้านมีหน้าต่างเป็นช่องแสงขนาดใหญ่มาให้ จึงทำให้บ้านดูโปร่งโล่ง อยู่สบาย
เรามาดูการจัดพื้นที่ภายในบ้านกันต่อเลยค่ะ เริ่มจากห้องนั่งเล่น ทางโครงการจัดชุดโซฟาขนาด 3 ที่นั่ง พร้อมอาร์มแชร์ และโต๊ะกาแฟมาให้ ตกแต่งพื้นด้วยพรมช่วยสร้างความสบายเวลานั่งพักผ่อนได้ดี
ระยะดูทีวีของบ้านหลังนี้กว้างประมาณ 3 เมตรเลยค่ะ สามารถเลือกจอทีวีขนาด 50-60 นิ้วมาดูได้เลย ที่ผนังฝั่งนี้สามารถทำ Built-in เป็นชั้นเก็บของได้
ถัดจากห้องนั่งเล่นจะเป็นห้องรับประทานอาหาร ทางโครงการจัดชุดโต๊ะรับประทานอาหารเอาไว้ 6 ที่นั่ง ซึ่งจริง ๆ แล้วพื้นที่ของบ้านสามารถรองรับได้ถึง 8 ที่นั่งเลยค่ะ เผื่อในวันที่มีแขกคนสนิทมาทานอาหารด้วย บนฝ้าตกแต่งด้วยโคมระย้าสร้างบรรยากาศให้เจริญอาหารได้เป็นอย่างดี
ทางฝั่งซ้ายของห้องรับประทานอาหารจะเชื่อมต่อกับแพนทรี่ เป็นพื้นที่สำหรับเตรียมอาหาร
ในส่วนของ Pantry ที่เห็นอยู่นี้ ไม่ว่าจะเป็น Island, เคาน์เตอร์ และตู้เก็บของ Built-in ทั้งหมด จะเป็นส่วนที่ทางโครงการตกแต่งมาให้พร้อมกับบ้านเลยค่ะ
ทางโครงการใช้วัสดุอย่างดี มีการออกแบบที่สวยงามและแข็งแรง อย่าง Top ของเคาน์เตอร์ก็จะใช้ Composite Marble เป็นต้น
ที่ใต้ Island ติดตั้งเตาอบมาให้ เป็นของ Teka
ส่วนที่เคาน์เตอร์อีกฝั่งจะมีอ่างล้างจาน และมีช่องสำหรับวางตู้เย็นขนาดใหญ่แบบประตูคู่ได้
จากแพนทรี่เชื่อมต่อกับห้องครัว สามารถกั้นส่วนได้ด้วยประตูบานเลื่อนทึบ
ทางโครงการจะทำ Built-in ห้องครัวมาให้แบบนี้เลยค่ะ ฟังก์ชันการใช้งานลงตัว ใช้งานได้สะดวก พร้อมติดตั้งพัดลมดูดอากาศ เพื่อการระบายอากาศที่ดี
มีอ่างล้างจานขนาด 2 หลุมของ Teka ติดตั้งมาให้ ตำแหน่งอยู่ตรงกับหน้าต่างพอดี สามารถเปิดระบายความชื้นได้
เคาน์เตอน์อีกฝั่งทำลดระดับในจุดสำหรับการวางเตาปรุงอาหาร พร้อมติดตั้งเครื่องดูดควันของ Teka มาให้แล้ว
จากห้องครัวมีประตูเปิดออกสู่ลานซักล้างหรือ Maid Plaza จะทำเคาน์เตอร์ภายนอกไว้ให้อีกจุด สำหรับการซักล้าง หรือการเตรียมล้างอาหารหนัก ๆ เช่น ปลา และ อาหารทะเล บนเคาน์เตอร์กรุกระเบื้อง ข้อดีก็คือสามารถเช็ดล้างทำความสะอาดได้ง่าย บนเคาน์เตอร์วางอ่างล้างมือมาให้พร้อมก๊อกน้ำทรงสูง มีขนาดใหญ่ ใช้งานได้ถนัด สังเกตประตูที่อยู่ข้าง ๆ เคาน์เตอร์ จะเป็นห้องน้ำและห้องนอนของแม่บ้านแยกส่วนออกมาจากพื้นที่ของเจ้าของบ้านค่ะ
เรากลับเข้ามาภายในห้องโถง มองไปทางฝั่งขวาของห้องรับประทานอาหารจะเป็นส่วนของห้องนอนและห้องน้ำชั้นล่าง ซึ่งห้องนอนชั้นล่างจะกั้นส่วนด้วยประตูบานเลื่อนกระจกตามที่เห็นที่เลยค่ะ
พื้นที่ภายในห้องนอนชั้นล่างมีขนาดใหญ่ สามารถวางเตียงนอนขนาด 5 ฟุต พร้อมตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งได้พอดี นอกจากนี้ก็ยังสามารถจัดเป็นห้องอเนกประสงค์ได้ ไม่ว่าจะเป็นห้องทำงาน, Home Gym หรือ Home Theatre และอื่น ๆ ได้ตามไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย
โดยห้องนี้เองก็จะมีประตูเชื่อมต่อกับห้องน้ำชั้นล่างในตัวเลย
ภายในห้องน้ำถูกตกแต่งเอาไว้อย่างสวยงามด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนทั้งพื้นและผนัง ส่วนสุขภัณฑ์จะได้ตามที่เห็นนี้เลย
อ่างล้างมือแบบแขวนผนัง และก๊อกน้ำมีขนาดกำลังดี ด้านหลังมี Lower Wall ก่อขึ้นมาสามารถใข้วางของได้
ถัดมาเป็นโถสุขภัณฑ์แบบแยกชิ้นระบบ Single Flush
ด้านในเป็นโซนอาบน้ำ ติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำแบบบานเลื่อนมาแล้ว ผนังฝั่งด้านในติดหน้าต่างรับแสงและระบายอากาศ
ภายในก่อม้านั่งให้ ที่ผนังเจาะช่องสำหรับวางขวดสบู่ และติดตั้ง Hand Shower พร้อมราวปรับระดับเอาไว้ให้แล้ว 
ก่อนที่เราจะขึ้นไปบนชั้น 2 เรามาดูที่ฝั่งประตูทางเข้าบ้านจากที่จอดรถกันก่อน
บริเวณนี้เองทางโครงการจะติดตั้งแผงควบคุมสัญญาณกันขโมย ทั้งระบบ Magnetic Sensor ซึ่งจะมีการตรวจจับความเคลื่อนไหวที่บริเวณประตู-หน้าต่างบ้านทั้งชั้น 1 และชั้น 2
และยังมีระบบ Motion Sensor เป็นการตรวจจับความเคลื่อนไหวบริเวณกลางบ้านที่ชั้น 1 ค่ะ
และบริเวณพื้นที่ใต้บันไดจะถูกออกแบบให้เป็นห้องสำหรับเก็บพวกตู้ไฟฟ้าค่ะ
สำหรับบันไดบ้านใช้โครงการคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวลูกตั้งและลูกนอนด้วยพื้นไม้สัก ติดตั้งราวมือจับเหล็กทั้งแบบฝังพื้นบันไดและฝังผนัง ออกแบบลวดลายให้เข้ากับดีไซน์โดยรวมของบ้าน
ภาพมองขึ้นไปยังบนชานพักบันได มีหน้าต่างขนาดใหญ่เป็นช่องแสงให้ส่วนโถงบันไดให้ดูโปร่งโล่ง
ขึ้นมาบนชั้น 2 จะมีพื้นอยู่ 2 ระดับ ระดับแรกเป็นห้องพักผ่อน และอีกระดับเป็นห้องนอนทั้ง 3 ห้อง ที่พื้นปูด้วยลามิเนตนำเข้า หนา 12 มม.
สำหรับห้องพักผ่อนชั้นบนก็ถือเป็นพื้นที่อเนกประสงค์อีกจุดที่เราสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามไลฟ์สไตล์ของเราเลยค่ะ
สำหรับห้องนอน 2 ห้องฝั่งซ้ายจะเป็นห้องนอน 2 และห้องนอน 3 ส่วนฝั่งทางขวาจะเป็น Master Bedroom นอกจากนี้จะมีแผงควบคุมสัญญาณกันขโมยติดตั้งเอาไว้ให้อีก 1 จุดที่โถงนี้ ส่วนอีกจุดจะอยู่ภายในห้อง Master Bedroom ค่ะ
รวมถึงระบบ Air Flow ซึ่งเป็นนวัตกรรมการอยู่อาศัยของทางแบรนด์ Land & Houses ด้วย
เราเข้าไปดูภายใน Master Bedroom กันก่อน เริ่มจากประตูทางเข้าห้องเป็นประตูบานทึบ ที่ติดตั้งช่อง Air Pass เป็นส่วนหนึ่งของระบบ Air Plus เพื่อรับอากาศจากโถงนอกห้อง หรือจะเลื่อนปิดเพื่อกันแอร์ออกจากห้องก็ได้ค่ะ
พื้นที่ภายในห้องมีขนาดกว้างขวางมาก ทำให้สามารถจัดเฟอร์นิเจอร์ได้ง่ายและเป็นสัดส่วน ที่ฝ้าเพดานสูง 2.7 เมตร ติดตั้งดวงโคม Down Light พร้อมเครื่องปรับอากาศแบบฝังฝ้ามาให้
ส่วนแรกทางโครงการจัดให้เป็นมุมนั่งทำงานและมุมนั่งพักผ่อน มีพื้นที่แบบกว้าง ๆ สบาย ๆ
ด้านในเป็นส่วนพักผ่อนอยู่ติดกับระเบียงหน้าบ้าน สามารถวางเตียงนอนขนาด 6 ฟุตและชั้นวางทีวีได้พอดี
พื้นที่ข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่งก็ยังวางโต๊ะข้างได้
เรามองขึ้นไปบนฝ้าจะเห็นพัดลมดูดอากาศ ต่อท่อลมออกสู่ชายคาภายนอกบ้าน ช่วยลดความร้อน, ความชื้น และกลิ่นอับภายในบ้าน รวมถึงเป็นการช่วยถ่ายเทอากาศเก่าออกไป และดึงอากาศบริสุทธิ์เข้ามาภายในบ้าน
เราเปิดออกไปยังระเบียงพักผ่อนหน้าบ้านสำหรับออกมารับลมชมวิว โดยพื้นที่ของระเบียงจะสามารถวางม้านั่งตัวเล็ก ๆ ทรงยาวได้อยู่ค่ะ
ภาพบรรยากาศภายในห้องนอนจากฝั่งระเบียงหน้าบ้าน
จากพื้นที่ห้องนอนจะมีประตูบานเลื่อนกระจกกั้น ซึ่งเป็นส่วนของ Walk-in Closet และห้องน้ำในตัวค่ะ
พิเศษสำหรับ Master Bedroom ก็คือทางโครงการจะทำ Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้แบบนี้พร้อมใช้งาน มีการออกแบบมาเป็นอย่างดี โดยมีการคิดแล้วว่าต้องมีฟังก์ชันสำหรับเก็บของอะไรบ้าง
ห้องน้ำของ Master Bedroom ก็จะมีความหรูหรากว่าห้องอื่น ๆ พื้นและผนังตกแต่งด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนอย่างสวยงาม
สำหรับเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าก็สวยงามชนะเลิศไปแล้วค่ะ ทางโครงการตกแต่งมาให้แบบนี้เลย ไม่ว่าจะเป็นกระจก ไฟกิ่ง หรือเคาน์เตอร์ Top ลายหินอ่อน พร้อมอ่างแบบฝังบนเคาน์เตอร์
ส่วนโถสุขภัณฑ์ก็จะอัปเกรดให้เป็นรุ่นอัตโนมัติของ Kasch
ฝั่งตรงข้ามเป็นโซนอาบน้ำ บนฝ้าติดตั้งพัดลมดูดอากาศมาให้
และฝั่งด้านในสุดเป็นอ่างอาบน้ำแบบฝัง ขนาดสามารถนอนเอนแช่น้ำได้พอดี
ซึ่งอ่างอาบน้ำจะอยู่ติดกับหน้าต่างบานใหญ่ เปิดออกไปพื้นที่ระเบียงที่มีผนังสูงล้อมรอบ โดยจะได้ประโยชน์ทั้งในแง่ของแสงสว่างและความเป็นส่วนตัวในเวลาเดียวกัน และยังสามารถจัดเป็นมุมสวนหย่อมเล็ก ๆ เพื่อความสวยงามได้
เรามาดูห้องนอน 2 กันต่อค่ะ ส่วนแรกของห้องจะเป็นโถงทางเดินผ่านห้องน้ำ และเข้าไปยังพื้นที่ส่วนพักผ่อน
ภาพบรรยากาศภายในห้องน้ำ มีการตกแต่งต่างจากห้องน้ำชั้นล่างด้วยการใช้กระเบื้องสีเอิร์ธโทน ส่วนสุขภัณฑ์และการวางผังห้องน้ำจะเหมือนกันหมดเลยค่ะ
เข้ามาในส่วนพักผ่อนมีพื้นที่กำลังดี สามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ได้อย่างลงตัว
พื้นที่ห้องกำลังพอเหมาะกับเตียงขนาด 5 ฟุต สามารถวางโต๊ะข้างเพิ่มได้อีกฝั่ง
ส่วนพื้นที่อีกฝั่งสามารถวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งได้พอดี
นอกจากนี้ห้องนอน 2 ก็ยังได้พื้นที่ระเบียงส่วนตัวมาอีกด้วย
ตามด้วยห้องสุดท้ายของบ้านคือห้องนอน 3 มีขนาดใกล้เคียงกับห้องนอน 2 เลยค่ะ แต่จะไม่มีระเบียงมาให้
จริง ๆ แล้วห้องนี้ก็สามารถวางเตียงนอนขนาด 5 ฟุตได้นะคะ ด้านข้างวางตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่พอดี ส่วนโต๊ะเครื่องแป้งหรือโต๊ะทำงานสามารถวางฝั่งปลายเตียงได้ค่ะ เหลือพื้นที่ค่อนข้างเยอะทีเดียว
และยังมีห้องน้ำให้ในตัวเหมือนห้องนอน 2
::: แบบบ้าน Grandiose ขนาด 338 ตร.ม. :::
แปลนชั้น 1 เริ่มจากที่หน้าบ้านมีพื้นที่จอดรถให้ 3 คัน และมีประตูทางเข้าบ้านรองสามารถเปิดเข้าบ้านได้เลย ส่วนทางเข้าหลักจะอยู่ตรงทางเฉลียงหน้าบ้าน ภายในบ้านมีการวางแปลนแบบ Open Plan ส่วนแรกเป็นโถงใหญ่ประกอบด้วย ห้องนั่งเล่น, ห้องรับประทานอาหาร และแพนทรี่ พื้นที่โถงใหญ่จะเชื่อมต่อกับ ห้องนอนชั้นล่าง, ห้องน้ำชั้นล่าง, ห้องครัว และโถงบันได โดยจากห้องครัวจะเชื่อมกับ Maid Plaza หลังบ้าน ซึ่งประกอบด้วยลานซักล้าง พร้อมห้องนอนและห้องน้ำแม่บ้านแยกให้ต่างหาก พื้นที่แต่ละส่วนสามารถวางเฟอร์นิเจอร์พอสำหรับครอบครัวขนาด 5-8 คนค่ะ
แปลนชั้น 2 เป็นส่วนของห้องนอนทั้งหมด 3 ห้อง, ห้องพระ และห้องพักผ่อนครอบครัวชั้นบน โดย Master Bedroom จะอยู่ฝั่งหน้าบ้าน มีขนาดกว้างขวาง เป็นสัดส่วน พร้อม Walk-in Closet, ห้องน้ำในตัว และระเบียงพักผ่อนขนาดใหญ่ ส่วนห้องนอน 2 และ 3 จะอยู่ฝั่งหลังบ้าน ภายในห้องนอนสามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุตได้วางเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ได้อย่างลงตัว และมีห้องน้ำให้ในตัวทุกห้อง
หน้าตาของบ้านมีการตกแต่งในสไตล์ Tuscany จะเห็นว่าหน้าบ้านหลังนี้มีความกว้างมากขึ้น และยังมีซุ้มประตูสำหรับคนเดินเข้าแยกให้ต่างหากด้วย
สำหรับที่จอดรถของบ้านหลังนี้ก็สามารถจอดได้ 3 คันในร่มค่ะ จากที่จอดรถจะเชื่อมต่อยังยังเฉลียงหน้าบ้านและพื้นที่สวนข้างบ้าน
โดยทางโครงการจะทำการจัดสวนมาให้เป็นมาตรฐาน ซึ่งจะแตกต่างกันออกไปตามที่ดินของบ้านแต่ละหลัง
ถ้าบ้านหลังไหนมีที่ดินเหลือเยอะ ก็สามารถตกแต่งเพิ่มเติมเป็นศาลาพักผ่อน หรือสระน้ำเลี้ยงปลาคาร์ฟเพิ่มเติมได้
พื้นที่สวนข้างบ้านจะเชื่อมต่อกับพื้นที่พักผ่อนข้างบ้านแบบ Semi-outdoor ซึ่งเชื่อมมาจากบริเวณห้องรับประทานอาหารค่ะ
กลับมาที่บริเวณเฉลียงหน้าบ้าน เราเข้าไปดูพื้นที่ภายในบ้านกันเลย
บ้านหลังนี้มีการออกแบบให้เป็น Open Plan เช่นกัน แต่จะมีพื้นที่ที่กว้างขวางกว่าพอสมควรเลย ส่วนแรกคือ ห้องนั่งเล่น, ห้องรับประทานอาหาร และแพนทรี่ สำหรับวัสดุหลัก ๆ ของบ้าน พื้นปูด้วยกระเบื้องลายหินธรรมชาติ ขนาด 80 x 80 ซม. ผนังของบ้านติดวอลเปเปอร์มาให้ ฝ้าเพดานเป็นฝ้าฉาบเรียบทาสี ติดดวงโคม Downlight และเครื่องปรับอากาศทั้งแบบฝังฝ้าและ Wall Type มีความสูงอยู่ที่ 2.7 เมตร
เรามาดูการจัดพื้นที่ภายในบ้านกันต่อเลยค่ะ เริ่มจากห้องนั่งเล่น ทางโครงการจัดชุดโซฟาขนาด 3 ที่นั่ง พร้อมอาร์มแชร์ และโต๊ะกาแฟมาให้ แต่จริง ๆ แล้วจะวางโซฟา L Shape ขนาดใหญ่ ๆ เลยก็มีที่พอ
ฝั่งตรงข้ามทำ Built-in เป็นตู้เก็บของได้ตามใจชอบเลยค่ะ ตรงนี้มีระยะดูทีวีที่กว้างทีเดียว ใช้ทีวีจอ 70 นิ้วน่าจะกำลังพอดีไม่ใหญ่ไปแน่นอน
ถัดจากห้องนั่งเล่นจะเป็นห้องรับประทานอาหาร ทางโครงการจัดชุดโต๊ะรับประทานอาหารเอาไว้ 8 ที่ กำลังลงตัวกับพื้นที่เลย
ก่อนที่เราจะไปดูในส่วนของแพนทรี่ เรามองมาทางฝั่งซ้ายมือของห้องรับประทานอาหาร จะมีโถงทางเดินเข้าไปยังห้องนอนชั้นล่างค่ะ
ทางโครงการได้ก่อกำแพงขึ้นมาเป็นส่วนตกแต่ง เพื่อทำให้ฟังก์ชันภายในบ้านมีความเป็นสัดส่วนมากขึ้น ซึ่งส่วนนี้ก็ช่วยทำให้ห้องนอนชั้นล่างมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นค่ะ 
พื้นที่ภายในห้องนอนชั้นล่างมีขนาดใหญ่ สามารถวางเตียงนอนขนาด 6 ฟุต พร้อมตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งได้พอดี นอกจากนี้ก็ยังสามารถจัดเป็นห้องอเนกประสงค์ได้ตามไลฟ์สไตล์ของเราค่ะ
สำหรับบ้านหลังนี้ ห้องนอนชั้นล่างก็จะมีห้องน้ำให้ในตัวด้วย
ภายในห้องน้ำมีการตกแต่งอย่างสวยงามด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนพร้อมสุขภัณฑ์ ส่วนอ่างล้างมือจะอัปเกรดให้เป็นอ่างแบบฝังบนเคาน์เตอร์แทน
กลับออกมาที่ห้องรับประทานอาหาร จะเชื่อมต่อกับ Pantry ทางฝั่งขวามือค่ะ
ในส่วนของ Pantry ที่เห็นอยู่นี้ ไม่ว่าจะเป็น Island, เคาน์เตอร์ และตู้เก็บของ Built-in ทั้งหมด จะเป็นส่วนที่ทางโครงการตกแต่งมาให้พร้อมกับบ้าน
นอกเหนือจากอ่างล้างจานและเตาอบ เราจะได้เตาเซรามิกขนาด 4 หัวพร้อมเครื่องดูดควันของ Teka เพิ่มมาด้วยค่ะ 
ชั้นเก็บของสไตล์ Breakfast Corner ถูกออกแบบอย่างสวยงาม พร้อมพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นแบบบานเปิดคู่
ห้องครัวก็เช่นกันค่ะ เราจะได้เคาน์เตอร์ครัวพร้อมอ่างล้างจานและเครื่องดูดควันมาพร้อมใช้งาน
จากห้องครัวมีประตูเปิดออกสู่ Maid Plaza พร้อมเคาน์เตอร์ภายนอกอีกจุด
กลับเข้ามาภายในบ้าน ก่อนขึ้นไปดูฟังก์ชันบนชั้น 2 สังเกตพื้นที่ข้างบันได จะเป็นห้องน้ำชั้นล่างและตู้ไฟฟ้าค่ะ
ห้องน้ำชั้นล่างจะเป็นแบบ Powder Room ค่ะ ถูกตกแต่งอย่างสวยงามทีเดียว เวลาแขกไปใครมาคือไม่อายแน่นอน
อ่างล้างมือเป็นแบบฝังบนเคาน์เตอร์ลายหิน พร้อมลิ้นชักเก็บของ, กระจกเงา และไฟกิ่งตกแต่ง
ถัดไปด้านในเป็นโถสุขภัณฑ์ค่ะ
สำหรับบันไดบ้านใช้โครงการคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวลูกตั้งและลูกนอนด้วยพื้นไม้สัก ติดตั้งราวมือจับเหล็กทั้งแบบฝังพื้นบันไดและฝังผนัง ออกแบบลวดลายให้เข้ากับดีไซน์โดยรวมของบ้าน
บริเวณชานพักบันไดจะมีฝ้าเพดานสูงอยู่ที่ 2.3 เมตร เพราะว่าชั้นบนถูกออกแบบให้เป็นฟังก์ชันห้องพระค่ะ อยากให้สังเกตที่หน้าต่างตรงนี้ จะมีช่องเปิดที่รับอากาศบริสุทธิ์จากสวนนอกบ้านให้หมุนเวียนเข้ามาในบ้าน เป็นอีกส่วนหนึ่งของระบบ Air Flow นั่นเอง
ขึ้นมาบนชั้น 2 จะมีพื้นอยู่ 2 ระดับ ระดับแรกเป็นห้องพักผ่อนและห้องนอน และอีกระดับเป็นห้องพระ มองไปทางห้องพระ ฝั่งขวามือเป็นส่วนของห้องพักผ่อนและ Master Bedroom
และฝั่งขวามือเป็นห้องนอน 2 และห้องนอน 3 ค่ะ
ห้องพระเป็นฟังก์ชันที่เพิ่มขึ้นมาจากบ้านหลังที่แล้ว ถูกยกระดับขึ้นมาอยู่บนชั้นลอย ซึ่งจริง ๆ แล้วก็ถือเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ที่เราสามารถจัดฟังก์ชันได้ตามใจชอบเลยค่ะ อย่างที่บ้านตัวอย่างเองก็จัดเป็นมุมนั่งเล่นสบาย ๆ
ถัดมาในส่วนของห้องพักผ่อนชั้นบน สามารถกั้นปิดเพื่อติดตั้งเครื่องปรับอากาศได้ พื้นที่ห้องก็มีประสิทธิ์ภาพที่สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้หลายรูปแบบ โดยห้องนี้จะมีระเบียงนั่งพักผ่อนหน้าบ้านมาให้ด้วยค่ะ
ทางโครงการได้ก่อม้านั่งเอาไว้ให้แล้ว ช่วงเย็น ๆ ก็ออกมานั่งรับลมได้นะคะ
เรามาดู Master Bedroom กันต่อค่ะ พื้นที่ภายในห้องมีขนาดกว้างขวางมาก ทำให้สามารถจัดเฟอร์นิเจอร์ได้ง่ายและเป็นสัดส่วน
ส่วนแรกทางโครงการจัดให้เป็นมุมโต๊ะทำงาน ทำตู้ Built-in เก็บของได้เยอะเลย
ด้านในเป็นส่วนพักผ่อนอยู่ติดกับระเบียงหน้าบ้าน สามารถวางเตียงนอนขนาด 6 ฟุตและชั้นวางทีวีได้พอดี
พื้นที่ข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่งก็ยังวางโต๊ะข้างได้
ความพิเศษของ Master Bedroom ก็คือมีพื้นที่ระเบียงขนาดใหญ่ สามารถจัดเป็นมุมนั่งพักผ่อนพร้อม Day Bed แบบ Semi-outdoor ได้เลย ใครที่ชอบต้นไม้ก็จัดสวนในร่มได้ค่ะ
มองไปที่ฝั่งปลายเตียงจะมีประตูเชื่อมสู่ Walk-in Closet และห้องน้ำในตัว
Walk-in Closet มีขนาดใหญ่ขึ้นพอสมควรเลย ทางโครงการทำ Built-in ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งมาให้แบบนี้พร้อมใช้งาน
ส่วนห้องน้ำในตัวก็มีความ Grand และกว้างขวางมากขึ้น
เคาน์เตอร์อ่างล้างมือสวยงามทีเดียว
อ่างอาบน้ำของห้องนี้จะได้แบบลอยตัว หรูหรามากขึ้น
ถัดเข้าไปด้านในเป็นส่วนอาบน้ำและโถสุขภัณฑ์แบบอัตโนมัติ จะมีพื้นที่ระเบียงมาให้เหมือนเดิม สามารถใข้จัดสวนได้ค่ะ
เรามาดูห้องนอน 2 กันต่อค่ะ ส่วนแรกของห้องจะเป็นโถงทางเดินผ่านห้องน้ำ และเข้าไปยังพื้นที่ส่วนพักผ่อน
ภาพบรรยากาศภายในห้องน้ำ มีการตกแต่งที่สวยงามมากขึ้นจากบ้านหลังก่อน
บริเวณหน้าห้องน้ำเองสามารถทำ Built-in เป็นตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้
พื้นที่ส่วนพักผ่อนด้านในมีขนาดกว้่างขวางมากขึ้น รองรับเตียงนอนขนาด 6 ฟุตได้สบาย
บ้านตัวอย่างวางเตียงนอนขนาด 5 ฟุตมาให้ดูเป็นไอเดียค่ะ
แต่จะเห็นว่าพื้นที่ใช้สอยภายในห้องยังเหลืออีกเยอะเลยค่ะ สามารถจัดเฟอร์นิเจอร์ได้อิสระระดับนึงเลย
สุดท้ายคือห้องนอน 3 พื้นที่ห้องก็สามารถรองรับเตียงนอนขนาด 6 ฟุตได้เช่นกัน
แต่ถ้าอาศัยอยู่เพียงคนเดียว เตียงขนาด 5 ฟุตก็ตอบโจทย์แล้ว และยังทำให้พื้นที่ภายในห้องเหลือเยอะมากขึ้น
พื้นที่ฝั่งปลายเตียงนอนสามารถจัดเป็นมุมโต๊ะเครื่องแป้งและโต๊ะทำงานได้
ส่วนผนังอีกฝั่งวางตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้พอดี ซึ่งจะอยู่บริเวณหน้าทางเข้าห้องน้ำค่ะ
ภาพบรรยากาศภายในห้องน้ำของห้องนอน 3
:::: ราคา (พฤษภาคม 2564) ::::
- ราคา 20-40 ล้านบาท
- ค่าส่วนกลาง n/a บาท/เดือน/ตร.ว.
ติดต่อสอบถามและนัดเยี่ยมชมโครงการ คลิก : https://www.lh.co.th
***ข้อมูลราคา และโปรโมชันอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
:::: สรุป ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ นันทวัน รามอินทรา-พหลโยธิน 50 ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพติดถนนใหญ่เทพรักษ์ (ตัดใหม่) มีความสะดวกสบายในการเดินทาง เพราะอยู่ติดถนนใหญ่และอยู่ใกล้ทางด่วน มีสิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบโครงการแบบครบครัน ไม่ว่าจะเป็น ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่, Hypermarket, Community Mall, Supermarket รวมถึงตลาดนัดตอนกลางคืน เช่น Fashion Island, CDC และ Central Eastville จึงใช้ชีวิตได้ง่าย
อีกทั้งยังถือเป็นทำเลทอง เนื่องจากการมาถึงของรถไฟฟ้าสายสีเขียวและสายสีชมพู และการตัดขยายถนนเส้นนี้ออกไปอีกทั้ง 2 ฝั่ง เชื่อมต่อกับถนนวิภาวดี-รังสิต และถนนนิมิตใหม่ ซึ่งจะส่งผลให้มูลค่าของที่ดินทำเลนี้ดีดตัวสูงขึ้น เพราะแน่นอนว่าจะเป็นการดึงความเจริญและธุรกิจต่าง ๆ เข้ามาสู่ในย่านนี้มากขึ้นค่ะ
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว เดินทางได้สะดวกสบาย เข้า-ออกเมืองได้สะดวกด้วยทางด่วนฉลองรัช มีจุดขึ้น-ลงทางด่วนที่อยู่ใกล้ประมาณ 3 กม. เท่านั้น ไม่ต้องผ่านการจราจรที่ติดขัดมากมายก็ขึ้นทางด่วนได้แล้ว รวมถึงการเชื่อมต่อกับถนนสายหลักเส้นต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ถนนรามอินทรา, ถนนประดิษฐ์มนูธรรม, ถนนพหลโยธิน และถนนวิภาวดี-รังสิตด้วยค่ะ
การเดินทางโดยรถสาธารณะ สามารถเรียกเรียก Grab Taxi และ Line Taxi ได้สะดวก เพราะมีขับผ่านไปมาตลอด ถ้าอยากเข้าเมืองโดยไม่ต้องขับรถก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีสายหยุด ที่สามารถเดินทางไปยังตัวสถานีได้สะดวก รวมถึงในอนาคตยังมีรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเทา ยิงตรงทีเดียวก็ถึงทองหล่อแล้วค่ะ
การออกแบบโครงการ และวัสดุ เป็นโครงการขนาดใหญ่ระดับบน ๆ ของทาง Land & House ที่มีคุณภาพและใส่รายละเอียดของการอยู่อาศัย รวมถึงสไตล์ในการออกแบบ โดยโครงการนี้เป็นโครงการสุดท้ายที่ใช้สไตล์ Tuscany สำหรับคนที่ชอบบรรยากาศและสถาปัตยกรรมของเมืองนี้น่าจะถูกใจ เพราะทางโครงการได้ใช้สไตล์นี้ในการออกแบบพื้นที่ตั้งแต่ทางเข้าโครงการ อาคารคลับเฮาส์ ศาลาพักผ่อน รวมไปถึงตัวบ้านในโครงการเอง
บ้านภายในโครงการเป็นบ้านเดี่ยวที่มีขนาดใหญ่ รองรับครอบครัวขนาดกลาง-ขนาดใหญ่ได้เลยค่ะ ฟังก์ชันภายในบ้านถูกออกแบบอย่างลงตัว มีพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวาง ใช้งานได้จริง สามารถอยู่อาศัยได้สะดวกสบาย สำหรับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัวมาก ๆ บ้านนี้ก็ตอบโจทย์ในแง่ของการแยกส่วนแม่บ้านออกไปจากพื้นที่ของเจ้าของบ้าน ไม่ปะปนกัน มีห้องนอนชั้นล่างรองรับผู้สูงอายุ มีแพนทรี่ขนาดใหญ่พร้อม Built-in และ Island รองรับการทำอาหารฝรั่งและเบเกอรี่ มีครัวไทยแยกให้ต่างหากใช้งานได้สะดวก
นอกจากนี้ห้องนอนทุกห้องยังรองรับเตียงนอนขนาด 5-6 ฟุตได้ และมีห้องน้ำในตัวให้ โดยที่ห้อง Master Bedroom จะมีขนาดกว้างขวางเป็นพิเศษ ได้ Walk-in Closet พร้อม Built-in มีอ่างอาบน้ำและโถสุขภัณฑ์แบบอัตโนมัติให้ในห้องน้ำในตัว ส่วนวัสดุภายในบ้านก็ได้มาตรฐานและมีความสวยงามดีตามที่เห็นในภาพเลยค่ะ มาพร้อมกับระบบ Air Plus, สัญญาณกันขโมย และเครื่องปรับอากาศจาก Daikin
สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัย ทางโครงการให้พื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่กว่า 7.5 ไร่มาเลยค่ะ ประกอบด้วยคลับเฮาส์ขนาดใหญ่ในสไตล์ Tuscany พร้อมห้องนั่งเล่น, สระว่ายน้ำระบบเกลือ และ ห้องออกกำลังกาย มีทะเลสาบขนาดใหญ่อยู่หน้าคลับเฮาส์ ล้อมรอบด้วยสวนและศาลาพักผ่อน ด้านหลังคลับเฮาส์ยังมีสนามเด็กเล่น, สนามหญ้าขนาดใหญ่ และศาลาพักผ่อน ภายในเพ้นท์ภาพด้วยมืออย่างสวยงาม เข้ากับบรรยากาศโดยรวม และยังมีจุดรับรองแขกหรือ Co-working Space บริเวณหน้าโครงการระหว่าง Double Gate เพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกบ้าน รวมถึงระบบรักษาความปลอดภัยของทางแบรนด์ Land & House ที่ขึ้นชื่อว่าละเอียดรอบคอบ ตลอด 24 ชม.
:::: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ::::
CALL CENTER : 1198
WEBSITE : https://www.lh.co.th
หากเพื่อน ๆ เห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
แสดงความคิดเห็น