EP.379 รีวิว โฮมออฟฟิศ ฮอลล์มาร์ค สุขุมวิท 54 Hallmark Sukhumvit 54
สวัสดีชาว Homenayoo ทุกคนค่าา วันนี้เราจะพาไปชมโครงการ Hallmark Sukhumvit 54 (ฮอล์ลมาร์ค สุขุมวิท 54) โฮมออฟฟิศ 4 ชั้น หน้ากว้างกว่า 6 เมตร ตัวโครงการเป็นโครงการขนาดเล็กโดยมีเพียง 12 ยูนิต เท่านั้นค่ะ ซึ่งตัวโครงการนี้ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 54 มี BTS ที่ใกล้ที่สุดที่เปิดใช้ในปัจจุบันคือ BTS อ่อนนุช ซึ่งมีระยะประมาณ 950 เมตรจากโครงการ กับราคาเริ่มต้น 7.9 ล้านบาท รายละเอียดส่วนอื่นจะเป็นอย่างไรนั้น ติดตามกันต่อด้านล่างได้เลยค่าา
ชื่อโครงการ | ฮอล์ลมาร์ค สุขุมวิท 54 / HALLMARK SUKHUMVIT 54 |
เจ้าของโครงการ | – |
ลักษณะโครงการ | โฮมออฟฟิศ 4 ชั้น |
พื้นที่โครงการ | ประมาณ 1 ไร่ |
จำนวนบ้าน | 12 ยูนิต |
พื้นที่ใช้สอย | 222 – 307 ตร.ม. |
เนื้อที่บ้าน | 19 – 37 ตร.ว. |
จำนวนห้อง | 3 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 ห้องรับแขก |
ที่จอดรถทั้งหมด | 2 คัน |
โซน | อ่อนนุช, สุขุมวิท |
ขนส่งสาธารณะ | BTS อ่อนนุช |
รถโดยสารที่ผ่าน | n/a |
ที่ตั้ง |
124/1 ซอยสุขุมวิท 54 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร 10260 |
กำหนดการ | n/a |
ปีที่สร้างเสร็จ | พ.ค. 2559 |
ราคา | เริ่มต้น 7.9 ล้านบาท |
สถานที่สำคัญใกล้เคียง |
|
สิ่งอำนวยความสะดวก | ถนนในโครงการ 6 เมตร |
จุดเด่นของโครงการ | การผสมผสานที่ลงตัวระหว่างการใช้ชีวิต และการทำงาน… ทาวน์โฮมสูง 4 ชั้น หน้ากว้าง 6 เมตร เพดานสูงโปร่ง วัสดุคุณภาพ ออกแบบอย่างลงตัว ห้องนอนใหญ่ Master Bedroom แบบ Penthouse เต็มพื้นที่ชั้น 2 มี 3 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 2 ห้องรับแขก พร้อมครัวภายในและภายนอกบ้าน จอดรถได้ 2 คัน ในทำเลที่พร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก และการเดินทาง |
124/1 ซอยสุขุมวิท 54 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร 10260
พิกัด : 13.700965, 100.597451
จากแผนที่ของทางโครงการจะเห็นว่าตัวโครงการสามารถเข้าถึงได้จากหลากหลายเส้นทางเลยค่ะ เริ่มจากเส้นทางหลักบนถนนสุขุมวิทเข้าซอยสุขุมวิท 54 , ซอยสุขุมวิท 50 ลัดเข้าซอยสวัสดี 4 เข้าซอยสุขุมวิท 54, และจากซอยสุขุมวิท 62 ลัดผ่านซอยสุขุมวิท 56 เข้าซอยสุขุมวิท 54
โครงการ Hallmark สุขุมวิท 54 ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 54 แยก 2 หรือซอยหมู่บ้านทองไทยทาวน์เฮ้าส์ ซึ่งเป็นซอยย่อยของสุขุมวิท 54 อีกทีค่ะ ตัวโครงการนี้ถือว่าอยู่ในโซน อ่อนนุช ไม่ไกลจาก BTS อ่อนนุชเท่าไหร่ ซึ่งจริงๆแล้วถนนสุขุมวิทช่วงอ่อนนุชนี้จะคึกคักมาก และรถติดหนักมากเช่นกัน เพราะมีทั้งโรงเรียนและคอนโดที่ผุดขึ้นมามากมาย ทำให้คนอยู่อาศัยแถวนี้เยอะขึ้นทุกวันๆ
แต่ในซอยสุขุมวิท 54 นั้นจะเงียบกว่าหน่อยเนื่องจากตัวซอยเป็นซอยตันแต่ก็ไม่ถึงกับเงียบมากนะคะ เพราะซอยนี้เป็นหนึ่งในซอยที่ใช้ลัดเลาะหลบเลี่ยงรถติดบนถนนใหญ่ได้ค่ะ ส่วนในซอยย่อยที่โครงการตั้งอยู่นั้นจะเงียบลงไปอีก จนอาจจะถึงเปลี่ยวในเวลากลางคืน เพราะตัวซอยเป็นซอยตันและส่วนใหญ่จะเป็นบ้านเดี่ยวที่มีบริเวณรอบบ้านพร้อมรั้วสูงเป็นของตัวเอง และมีทาวน์โฮมตึกแถวที่ให้บรรยากาศความเป็นชุมชนขึ้นมาบ้างแต่ก็อยู่ช่วงท้ายๆซอยค่ะ แต่ก็ยังมีข้อดีของซอยตันอยู่ คือมีความเป็นส่วนตัว ผู้คนไม่พลุกพล่านค่ะ
การเดินทางด้วยรถยนต์ถือว่าสะดวกเลยค่ะ เพราะนอกจากเส้นทางหลักบนถนนสุขุมวิทแล้วยังมีเส้นทางลัดหนีรถติดได้หลากหลายเส้นทาง คือจากซอยสุขุมวิท 54 เราสามารถลัดเลาะไปโผล่ที่ซอยสุขุมวิท 50 ที่เป็นซอยที่เชื่อมต่อทั้งถนนสุขุมวิทและถนนทางรถไฟสายเก่าปากน้ำซึ่งสามารถพาเรามุ่งหน้าไปกล้วยน้ำไท, ปู่เจ้าสมิงพราย, พระราม 3, ลุมพินีได้ค่ะ นอกจากนั้นยังเป็นเส้นที่มีทางขึ้น – ลงทางด่วนทั้ง 2 ทางด่วนด้วยกันคือ เฉลิมมหานคร และ รามอินทรา – อาจณรงค์ และเนื่องจากความสะดวกของซอยนี้ที่ทะลุไปได้เยอะนั้นก็ทำให้มีปริมาณรถเป็นจำนวนมากเช่นเดียวกันค่ะ นอกจากนั้นซอยสุขุมวิท 54 ยังสามารถลัดไปยังซอยสุขุมวิท 56 และ 62 ซึ่งซอยสุขุมวิท 62 นี้ก็สามารถเชื่อมถนนสุขุมวิทไปถนนทางรถไฟสายเก่าปากน้ำได้เช่นเดียวกัน และมีจุดขึ้นลงทางด่วนเฉลิมมหานครให้เลือกใช้อีกเส้นทางค่ะ
จากโครงการถึงจุดขึ้นทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ โดยลัดไปทางซอยสุขุมวิท 50 มีระยะทางประมาณ 3.1 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 นาทีค่ะ
จุดขึ้นทางด่วนเฉลิมมหานครโดยมาทางซอยสุขุมวิท 62 มีระยะทางประมาณ 2.4 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 นาทีค่ะ
ส่วนการเดินทางโดยรถสาธารณะจากตัวโครงการเลยจะมีตัวเลือกเพียง 2 ทางเท่านั้นคือ ใช้บริการพี่วินที่ขับผ่านหน้าโครงการบ้างนานๆที หรือจะเดินลึกเข้าไปในซอยอีกหน่อยจะมีคิวพี่วินให้บริการอยู่ค่ะ ไม่แนะนำให้เดินเท้าออกจากซอยนะคะ เพราะไม่มีทางเท้าและยิ่งในเวลากลางคืนในซอยจะค่อนข้างเปลี่ยวค่ะ
ส่วนการเดินทางอื่นๆ ที่เด่นๆเลยจะเป็นการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า ซึ่งสถานีที่ใกล้ที่สุดจะเป็น BTS อ่อนนุช มีระยะจากตัวโครงการถึงสถานีประมาณ 900 เมตร หรือเกือบๆ 1 กม. ซึ่งระยะขนาดนี้ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ระยะสบายที่คนส่วนใหญ่จะเดินถึงแต่ก็ยังถือว่ายังอยู่ใกล้แนวรถไฟฟ้าเมื่อเทียบกับโครงการทาวน์โฮมด้วยกันเองค่ะ
ความอุดมสมบูรณ์ในระยะเดินไม่มีเลยค่ะ เพราะในซอยจะเป็นบ้านคนซะส่วนใหญ่ จะมีก็เพียงร้านชำเล็กๆร้านเดียวเท่านั้น แต่ถ้ามองในวงกว้างออกมาหน่อย ความอุดมสมบูรณ์ที่ใกล้โครงการที่สุดจะอยู่หน้าปากซอยสุขุมวิท 54 คือจะมี The Phyll ซึ่งเป็น Community Mall ที่บรรจุร้านอาหาร, ร้านกาแฟและร้านสะดวกซื้อเอาไว้เพียบ ส่วนถ้าจะพูดถึงความอุดมสมบูรณ์โดยรวมของย่านอ่อนนุชนั้นก็เรียกได้ว่ามีความอุดมสมบูรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ครบครันและราคาถูกค่ะ ยิ่งบริเวณรอบๆ BTS จะมีทั้ง Tesco Lotus และ ร้านอาหารข้างทาง หรือจะไปในถนนอ่อนนุชก็จะมีตลาดอ่อนนุชและ BigC ขึ้นไปในเมืองหน่อยก็จะเป็นโซนเอกมัย, ทองหล่อ ที่มีร้านอาหารและแหล่งช้อปปิ้งมากมายค่ะ
โครงการ The Phyll ที่ตั้งอยู่หน้าปากซอยสุขุมวิท 54 ค่ะ
การเดินทางวันนี้เราจะเริ่มจากถนนพระราม 4 บริเวณ MRT คลองเตย มุ่งหน้าแยกพระราม 4 เมื่อถึงแยกพระราม 4 แล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนพระราม 3 ตรงมาตามทางเรื่อยๆจนถึงแยก ณ ระนองแล้วเลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าถนนสุนทรโกษา วิ่งตรงผ่านแยกศุลกากรเข้าถนนอาจณรงค์ ตามทางไปเรื่อยๆจะเข้าสู่ถนนทางรถไฟสายเก่าปากน้ำ แล้วซ้ายเข้าซอยสุขุมวิท 50 วิ่งลอดใต้ทางด่วนมา 3 จุด แล้วเลี้ยวเข้าซอยสวัสดี 4 ขับตามทางไปจนสุดซอยจะถึงซอยสุขุมวิท 54 แล้วเลี้ยวซ้าย วิ่งไปในซอยสุขุมวิท 54 ฝั่งมุ่งหน้าถนนสุขุมวิทไปประมาณ 390 เมตร จะถึงซอยเล็กเที่ยง เข้าซอยไปแล้วเลี้ยวซ้ายอีกครั้งเข้าซอยหมู่บ้านทองไทย ทาวน์เฮ้าส์ ตรงไปอีกไม่ไกลจะเจอโครงการ Hallmark สุขุมวิท 54 ค่ะ
สรุปการเดินทาง ถนนพระราม 4 > แยกพระราม 4 > ถนนพระราม 3 > แยก ณ ระนอง > ถนนสุนทรโกษา > แยกศุลกากร > ถนนอาจณรงค์ > ถนนทางรถไฟสายเก่าปากน้ำ > สุขุมวิท 50 > ซอยสวัสดี 4 > ซอยสุขุมวิท 54 > ซอยเล็กเที่ยง > ซอยหมู่บ้านทองไทย ทาวน์เฮ้าส์ > Hallmark สุขุมวิท 54
เริ่มการเดินทางจากถนนพระราม 4 บริเวณ MRT คลองเตยค่ะ
ตรงมาอีกหน่อยจะเจอแยกที่เราสามารถเลี้ยวขวาไปถนนสุนทรโกษาได้ค่ะ
ผ่านแยกพระราม 4 สามารถเลี้ยวซ้ายเพื่อไปถนนรัชดาภิเษกได้ ส่วนเราเลี้ยวขวาเข้าถนนพระราม 3 ค่ะ
ผ่านตลาดสดคลองเตยทางซ้ายมือ ที่มีของขายทุกอย่างตั้งแต่ของสดสำหรับทำกับข้าวไปจนถึงขนมนมเนย
ตรงมาบนถนนพระราม 3 หน่อยเดียวก็จะถึงแยก ณ ระนอง เราก็เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสุนทรโกษาค่ะ ส่วนสะพานที่เห็นด้านบนนั้นคือสะพานข้ามแยกพระราม 4 และแยก ณ ระนองค่ะ
ตรงมาบนถนนสุนทรโกษาเรื่อยๆจะถึงแยกศุลกากร ซึ่งแยกนี้สามารถเลี้ยวซ้ายกลับเข้าถนนพระราม 4 ได้ หรือจะเลี้ยวขวาไปท่าเรือก็ได้ ส่วนเรายังคงตรงข้ามแยกไปค่ะ
ผ่านกรมศุลกากรซึ่งเป็นที่มาของชื่อแยกนี้ ตอนนี้เราข้ามแยกศุลกากรมาวิ่งบนถนนอาจณรงค์แล้วนะคะ
ผ่านผนังที่มีภาพเพ้นท์ผนังน่ารักๆอยู่คือโรงเรียนศูนย์รวมน้ำใจ คลองเตยค่ะ
ผ่านแฟลตคลองเตย
วิ่งลอดใต้ทางด่วนเฉลิมมหานคร
ผ่านสถานีตรวจสอบสินค้าท่าเรือกรุงเทพ
ถึงแยกกล้วยน้ำไท เลี้ยวซ้าย
และเลี้ยวขวาเพื่อเข้าถนนทางรถไฟสายเก่าปากน้ำ
ถนนทางรถไฟสายเก่าปากน้ำเป็นถนนขนาด 2 ช่องทางจราจรสวนทาง วิ่งขนานไปกับทางพิเศษเฉลิมมหานคร
ขับตามทางมาเรื่อยๆ ลอดใต้ทางพิเศษเฉลิมมหานคร
ออกมาปุ๊ปจะเจอสะพานพระโขนง
และวัดสะพานพระโขนง
ตรงมาอีกประมาณ 290 เมตรจะเห็นป้ายบอกทางลัดไปสุขุมวิท หรือก็คือซอยสุขุมวิท 50 นั่นเอง เราก็เลี้ยวซ้ายตามป้ายไปเลยค่ะ
เมื่อเราเลี้ยวเข้ามาบนสุขุมวิท 50 แล้ว จะต้องขับตรงมาประมาณ 440 เมตร จุดสังเกตุง่ายๆคือเราจะต้องขับลอดใต้ทางด่วนมา 3 จุด พอลอดใต้ทางด่วนจุดสุดท้ายมาปุ๊ป จะเจอซอยสวัสดี 4 เราก็เลี้ยวเข้าซอยและขับตามทางไปจนสุดซอย ซึ่งก็มีระยะทางประมาณ 650 เมตร
พอเราขับมาจนสุดซอยสวัสดี 4 แล้วก็จะถึงซอยสุขุมวิท 54 เราก็เลี้ยวซ้าย ขับตรงมาอีกประมาณ 390 เมตร จะถึงซอยเล็กเที่ยง เลี้ยวซ้ายเข้าซอยไป พอเราเข้ามาในซอยแล้วก็ตรงมาอีกนิดหน่อย จะเห็นซอยแรกทางซ้ายมือ นั่นคือซอยหมู่บ้านทองไทย ทาวน์เฮ้าส์ เลี้ยวซ้ายเข้าไป ตรงไปอีกนิดก็จะเจอโครงการแล้วค่ะ
สรุปจากปากซอยสุขุมวิท 50 ถึง ตัวโครงการ 1.7 กม. ค่ะ
ตอนนี้เราอยู่บนซอยสุขุมวิท 50 เตรียมลอดใต้ทางด่วนจุดเแรก ซึ่งเป็นทางพิเศษเฉลิมมหานครค่ะ
ทางด่วนที่เราจะต้องลอดผ่านไปจะเป็นจุดขึ้นทางด่วนอาจณรงค์ 2 ค่ะ
ตรงมาเรื่อยๆลอดทางด่วนจุดที่ 3 อันนี้เป็นทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ค่ะ
ลอดใต้ทางด่วนมาปุ๊ป เราจะเจอซอยทางขวามือ คือซอยสวัสดี 4 สังเกตุ ตึกส้มๆทางซ้ายมือก็ได้ค่ะ
เข้ามาในซอยสวัสดี 4 สภาพแวดล้อมภายในซอยก็เป็นกลุ่มโครงการแนวราบทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ที่อยู่มาดั้งเดิมค่ะ
ขับตามทางมาเรื่อยๆจนสุดซอยสวัสดี 4 ก็จะถึงซอยสุขุมวิท 54 แล้วค่ะ เราก็เลี้ยวซ้าย ส่วนทางขวาก็ยังเป็นซอยสุขุมวิท 54 เหมือนกัน แต่จะเป็นซอยตันนะคะ
ตรงมาเรื่อยๆจะเจอซอยที่สามารถลัดไปสุขุมวิท 56 ได้
ขับมาไม่นานก็จะเห็นป้ายบอกทางของโครงการแล้วค่ะ ต้องสังเกตุกันดีๆนิดนึงเพราะทางโครงการเค้าติดป้ายไว้แค่จุดเดียวนะคะ
เลี้ยวซ้ายเข้าซอยเล็กเที่ยง
เข้ามาในซอยแล้วสภาพแวดล้อมในซอยจะเงียบๆ เพราะเกือบทั้งหมดเป็นที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยว หรือเป็นทาวน์เฮ้าส์ที่อยู่กันมานานแล้ว ริมถนนก็เป็นกำแพงสูงๆ ซึ่งเป็นรั้วบ้านของคนที่นี่นั่นเองค่ะ
จากปากซอยตรงมาประมาณ 120 เมตร จะเจอซอยแรกทางซ้ายมือ คือซอยหมู่บ้านทองไทย ทาวน์เฮ้าส์ เราก็เลี้ยวเข้าซอยไปเลยค่ะ
บรรยากาศในซอยนี้จะเงียบๆกว่าต้นซอยหน่อยนึง นอกจากนั้นข้างทางก็จะมีรถจอดทิ้งแบบนี้ทำให้การขับรถสวนกันอาจจะลำบากนิดนึงนะคะ
จากปากซอยหมู่บ้านทองไทย ทาวน์เฮ้าส์ ตรงเข้ามาประมาณ 85 เมตร จะเห็นโครงการ Hallmark สุขุมวิท 54 อยู่ทางขวามือค่าา
สถานที่สำคัญใกล้เคียง เช่น
รอบๆโครงการ
ภาพรวมในซอยส่วนใหญ่จะเป็นโครงการแนวราบ โดยช่วงต้นซอยเล็กเที่ยงจะเป็นบ้านเดี่ยวสูง 1 – 2 ชั้น ที่มีบริเวณบ้านและรั้วสูง ถนนในซอยไม่มีฟุตบาท ทำให้ถนนในซอยเป็นถนนที่เหมาะกับการขับรถผ่าน บรรยากาศไม่เหมาะจะเดินเท้าค่ะ
เมื่อเข้ามาในซอยหมู่บ้านทองไทย ทาวน์เฮ้าส์ ส่วนใหญ่ก็ยังเป็นที่พักอาศัยสูง 1 – 3 ชั้น และมีร้านขายของชำกับคิวพี่วินที่บริเวณซอยย่อย ส่วนซอยย่อยด้านในจะเป็นชุมชนเล็กเที่ยง มีลานกีฬาและกลุ่มออมทรัพย์ชุมชนเล็กเที่ยงด้วยค่ะ
มาดูของจริงกันค่ะ ฝั่งตรงข้ามโครงการเลยจะเป็นที่ดินเปล่าและบ้านที่ยังสร้างไม่เสร็จสูง 2 ชั้น
ออกจากโครงการเดินไปดูทางขวามือ ซึ่งจะเป็นการเดินลึกเข้าไปในซอยหมู่บ้านทองไทย ทาวน์เฮ้าส์ค่ะ
ระยะระหว่างตัวโครงการกับพื้นที่ของบ้านข้างเคียง
บ้านเดี่ยวสูง 2 ชั้นที่อยู่ติดกับโครงการค่ะ
ฝั่งตรงข้ามเป็นบ้านเดี่ยวสูง 2 ชั้น
ติดกับบ้านเดี่ยว เป็นโรงงานดัชมิลล์
ตัวโรงงานดัชมิลล์นี้จะมีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง แต่ตัวอาคารจะไม่ได้เป็นตึกใหญ่ จะเป็นแค่อาคารเตี้ยๆสูง 1 – 2 ชั้นเท่านั้นค่ะ
ถัดมาจะเป็นบ้านเดี่ยวทั้ง 2 ฝั่งถนน
เดินมาจนถึงช่วงซอยย่อยมีร้านขายของชำทางซ้ายมือ และคิวพี่วินตรงมุมถนนค่ะ
เข้ามาในซอยย่อย ซ้ายมือจะเป็นที่ดินเปล่า
ส่วนขวามือเป็นบ้านเดี่ยวสูง 2 ชั้น ถ้าเข้าไปในซอยนี้อีกก็จะเป็นชุมชนเล็กเที่ยงส่วนถนนข้างทางก็ยังมีรถมาจอดไว้แบบนี้ทำให้ขับรถสวนกันได้ลำบากค่ะ
กลับมาที่โครงการลองเดินไปดูทางซ้ายมือซึ่งเป็นทางที่เราจะออกไปด้านหน้าปากซอยค่ะ
ระยะระหว่างตัวโครงการกับพื้นที่ของบ้านข้างเคียง
บ้านเดี่ยวที่อยู่ติดกับโครงการ ต้นไม้เยอะ ร่มรื่นเชียวค่ะ
ฝั่งตรงข้ามเป็นทาวน์โฮมสูง 1 – 3 ชั้น
ถัดมาในซอยซ้ายมือเป็นบ้านเดี่ยว และขวามือเป็นทาวน์โฮมสูง 3 ชั้น
ถนนในซอยไม่มีทางเท้า ส่วนข้างทางจะมีรถถูกจอดทิ้งไว้ ทั้งจอดชั่วคราวและทิ้งไว้นานแล้วค่ะ
ออกมาถึงปากซอยเล็กเที่ยง
ซ้ายมือเป็นซอยตัน ด้านในซอยจะมีทั้งบ้านเดี่ยวสูง 2 ช้ัน และทาวน์โฮมสูง 3 ชั้นค่ะ
ขวามือเป็นทางออกไปยังซอยสุขุมวิท 54 ค่ะ
ตัวโครงการ
โครงการ Hallmark สุขุมวิท 54 เป็นโครงการโฮมออฟฟิศขนาดเล็ก 12 ยูนิต ไม่มีส่วนกลาง มีความเป็นส่วนตัวค่อนข้างมากเพราะตั้งอยู่ในซอยตันผู้คนจึงไม่พลุกพล่าน ไม่มีคนขาจรผ่านไปมา จะมีแค่ผู้ที่มาติดต่อหรืออยู่อาศัยในซอยนี้อยู่แล้วค่ะ พื้นที่ของโครงการประมาณ 1 ไร่ แบบบ้านของโครงการนี้จะมี 3 แบบที่จะมีการจัดวางฟังก์ชั่นที่เหมือนกัน ต่างกันแค่หน้ากว้างเท่านั้น โดยบ้านขนาดมาตรฐานจะมีหน้ากว้าง 6 เมตร จำนวน 8 ยูนิต ส่วนบ้านแปลงมุมมีหน้ากว้าง 5.5 เมตร จำนวน 3 ยูนิต และแปลงมุมพิเศษที่มีหน้ากว้าง 7 เมตร อีก 1 ยูนิต ค่ะ
ที่ดินของโครงการเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า แบ่งแปลงที่ดินเป็น 12 แปลง ผังดูง่ายๆค่ะ โดยมีทางเข้าออกทางเดียวเป็นถนนหลักของโครงการ กว้างประมาณ 6 เมตร แปลงบ้านจะวางหน้าบ้านหันเข้าหากัน สุดถนนโครงการจะไม่มีที่กลับรถนะคะ ต้องกลับรถในพื้นที่หน้าบ้านของตัวเองค่ะ
ภาพบรรยากาศโครงการโดยรวม ถนนโครงการกว้าง 6 เมตรและบ้านทั้ง 2 ฝั่งหันหน้าเข้าหากันค่ะ
บ้านตัวอย่าง
สำหรับบ้านตัวอย่างที่เราจะพาทุกคนมาดูกันในวันนี้จะเป็นบ้านแปลงมุมติดทางเข้าโครงการนะคะ ตัวบ้านเน้นโทนสีน่ารักๆอย่างสีขาวนวล สีส้ม และสีฟ้าเทา จุดเด่นที่เห็นได้ชัดเลยคือช่องแสงขนาดใหญ่ที่ให้มาทุกชั้นค่ะ สำหรับบ้านแปลงมุมจะมีที่จอดรถ 2 คัน เท่าแบบมาตรฐาน แต่จะเปลี่ยนจากที่จอดรถหน้าบ้าน มาเป็นจอดบนพื้นที่ข้างบ้านแทน ซึ่งตัวรถอาจจะโดนแดดมากหน่อย ดังนั้นถ้าใครกังวลเรื่องรถร้อนหรือสีรถจะซีดก็สามารถต่อเติมหลังคาออกมาเพื่อบังแดดได้นะคะ
รั้วเป็นรั้วทึบต่อรั้วเหล็กโปร่ง ประตูเป็นรางเลื่อนลักษณะการเปิดปิดตามภาพค่ะ
พื้นที่จอดรถข้างบ้านปูกระเบื้องสีฟ้าอ่อน
สำหรับบ้านหลังมาตรฐาน จะได้ที่จอดรถอยู่บริเวณหน้าประตูทางเข้าบ้านแบบนี้ ขนาด 2 จอด สามารถจอดรถเก๋งขนาดมาตรฐานได้แบบเหลือๆค่ะ
พื้นที่ลานซักล้างหลังบ้านจะติดกับรั้วหลักของโครงการ พื้นลานซักล้างปูด้วยกระเบื้องสีฟ้าชนิดเดียวกับที่ลานจอดรถ
มีเคาน์เตอร์ล้างจานแบบก่อมาให้ 1 ชุด ซึ่งถ้าเราไม่ชอบก็สามารถทำใหม่ได้ค่ะ
มองไปดูด้านบนจะเห็นว่ามีที่วางคอมเพรสเซอร์แอร์ไว้ให้ทุกชั้น
ส่วนทางเข้าหลักของบ้านมีเฉลียงหน้าบ้านที่ปูพื้นมาด้วยกระเบื้องสีฟ้าแยกจากส่วนจอดรถ
เฉลียงทางเข้ายกระดับขึ้นมาประมาณ 10 ซม. ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60 x 60 ซม.
ส่วนพื้นชั้น 1 ก็จะยกระดับขึ้นมาอีกประมาณ 13 ซม. รางเลื่อนติดตั้งแบบลดระดับแล้วทำให้ลดโอกาสการเดินสะดุด
ประตูทางเข้าหลักเป็นประตูบานเลื่อนคู่ ประกบด้านข้างด้วยบานฟิกซ์กระจกอีก 2 บาน บานกรอบอลูมิเนียมอบขาว กระจกเขียวตัดแสง บานประตูค่อนข้างใหญ่ จากภาพเราลองเปิดประตูจนสุดให้ดูว่าสามารถขนของชิ้นใหญ่เข้าไปได้ค่ะ แต่ประตูกระจกแบบนี้อาจจะมีความปลอดภัยต่ำกว่าประตูบานทึบ แต่ข้อดีคือช่วยให้แสงธรรมชาติส่องเข้าไปในบ้านได้ ช่วยให้บ้านดูโปร่งขึ้นค่ะ ซึ่งถ้าใครกังวลเรื่องความปลอดภัย แนะนำให้ติดเหล็กดัดด้านในและสัญญาณกันขโมยหรือกล้องวงจรปิดไว้ด้วยจะปลอดภัยขึ้นค่ะ
เข้ามาดูด้านในบ้านจะเจอกับพื้นที่โล่งๆแบบนี้ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งข้อดีของโฮมออฟฟิศ เพราะเราจะจัดห้องให้เป็นแบบไหนก็ได้ สามารถจัดเป็นส่วนต้อนรับ, ส่วนนั่งรับรอง หรือพื้นที่นั่งทำงานก็ได้ค่ะ สำหรับตัวพื้นจะปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม. ผนังฉาบเรียบทาสีขาวนวลๆพร้อมบัวเชิงผนังสีขาว
ตัวฝ้าจะมีการดรอปลงมาบางจุด ตำแหน่งการดรอปฝ้าตามภาพเลยค่ะ ซึ่งความสูงฝ้าเพดานส่วนที่ไม่ดรอปฝ้าลงมาจะอยู่ที่ 2.65 เมตร และส่วนที่ดรอปฝ้าลงมีจะมีความสูงฝ้าเพดาน 2.45 เมตร ส่วนดวงไฟส่องสว่างจะได้เป็นไฟดาวน์ไลท์ 3 ดวง และโคมซาลาเปาอีก 1 ดวง
หันมาดูฝั่งทางขวากันก่อน จะเห็นว่าโครงการให้ช่องแสงมาค่อนข้างเยอะและบานใหญ่ช่วยให้มีแสงธรรมชาติส่องเข้ามาในบ้านได้มาก ทำให้บ้านได้ความโปร่งและช่วยในการระบายอากาศ แต่ในบางช่วงเวลาอาจจะมีแสงแดดส่องเข้ามาในตัวบ้านมากเกินไปจนทำให้ห้องร้อน แนะนำให้ติดเป็นฟิล์มกันรังสี UV พร้อมม่านหรือมู่ลี่เพื่อลดปริมาณแสงที่ส่องเข้ามาในบ้านและเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับเจ้าของบ้านด้วย ยิ่งเป็นแปลงมุมยิ่งควรติดไว้ค่ะ
นอกจากนั้นที่อยากให้สังเกตุคือทางโครงการเค้าให้เต้าเสียบมาค่อนข้างเยอะ เฉพาะผนังด้านนี้ก็มี 3 – 4 จุดแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดีค่ะ เพราะส่วนใหญ่แล้วโฮมออฟฟิศจะมีเครื่องใช้ไฟฟ้าเยอะ การมีเต้าเสียบมารองรับในลักษณะนี้ถือว่าทางโครงการใส่ใจพอสมควรค่ะ
สำหรับบานหน้าต่างของบ้านที่ชั้นนี้จะเป็นหน้าต่างบานเลื่อนคู่ บานกรอบอลูมิเนียมอบขาวและกระจกเขียวตัดแสง ผสมบานฟิกซ์ด้านล่าง มีความสูงเกือบเต็มผนังทำให้สามารถรับแสงธรรมชาติเข้าบ้านได้เต็มๆ กลางวันไม่ต้องเปิดไฟยังได้เลยค่ะ
อีกด้านของบ้านมีพื้นที่เว้าเข้าไป เป็นผนังทึบมีช่องสัญญาณทีวีมาให้ ตรงนี้เหมาะที่จะวางชุดรับแขกและติดตั้งทีวีไว้ให้ลูกค้าดูเพลินๆ หรือจะจัดเป็นส่วนจัดแสดงสินค้าก็ได้ไม่ว่ากันค่ะ
ขยับมาทางฝั่งหลังบ้านกันบ้างพื้นที่หลังบ้านตรงนี้เชื่อมต่อกับลานซักล้าง สำหรับใครที่ทั้งทำงานและพักอาศัยที่นี่อยู่แล้ว พื้นที่หลังบ้านตรงนี้จึงเหมาะที่จะจัดเป็นครัว โดยกั้นห้องให้เป็นสัดส่วนแยกจากส่วนออฟฟิศให้เรียบร้อย หรือถ้าใครจะจัดชั้น 1 ให้เป็นออฟฟิศเต็มพื้นที่ก็สามารถทำเป็นเคาน์เตอร์ครัวเล็กๆให้พนักงานพักผ่อนนั่งทานกาแฟได้นิดๆหน่อยๆค่ะ แต่ยังไงก็แนะนำให้กั้นให้เป็นสัดส่วนนิดนึงเพราะตรงนี้แขกไปใครมา ก็เห็นหมดนะคะ
มาดูพื้นที่ส่วนหลังบ้านกันสักหน่อย ถ้าใครตัดสินใจแล้วว่าจะทำเป็นครัว พื้นที่ตรงนี้ก็เหมาะที่จะจัดเป็นห้องทานอาหารที่สามารถวางโต๊ะทานอาหารขนาดประมาณ 3 – 4 ที่นั่งได้แบบพอดีๆ หรือถ้ามีสมาชิกในบ้านเยอะก็สามารถขยับเป็น 5 – 6 ที่นั่งก็ยังพอได้ แต่จะแน่นๆนิดนึงนะคะ
ส่วนที่เชื่อมต่อครัวกับลานซักล้างหลังบ้านจะเป็นหน้าต่างบานเลื่อนคู่ บานกรอบอลูมิเนียมอบขาว กระจกเขียวตัดแสง และประตูบานทึบที่มีช่องแสงด้านบนมาให้อีกจุด
ส่วนทางซ้ายมือจะเป็นห้องน้ำของชั้น 1 ซึ่งจะเป็นห้องน้ำที่ต้องใช้รับรองทั้งพนักงานและลูกค้าค่ะ บานประตูเป็นบาน UPVC สีขาว
พื้นห้องน้ำด้านในปูด้วยกระเบื้องสีส้มอิฐขนาด 30 x 30 ซม. พื้นลดระดับลงไปประมาณ 5 ซม. ป้องกันน้ำกระเซ็นออกมาเลอะด้านนอกค่ะ
ผนังห้องน้ำกรุด้วยกระเบื้องตกแต่งตามภาพ
อ่างล้างหน้า American Standard ขนาดค่อนข้างเล็ก ไม่มีบ่าวางของ, ชั้นใต้อ่าง หรือเคาน์เตอร์มาให้ ดูจากพื้นที่ที่ได้แล้วก็ไม่น่าจะ Build-in อะไรได้มากเท่าไหร่ ถ้าของเยอะอาจจะต้องหาชั้นวางหรือตู้เก็บของมาใส่ไว้กันเองนะคะ
โถสุขภัณฑ์ของ American Standard พร้อมสายชำระและที่วางกระดาษชำระ ตำแหน่งติดตั้งอยู่ระยะที่ใช้สะดวก
สำหรับส่วนอาบน้ำจะอยู่ตรงข้างกับโถสุขภัณฑ์ มีช่องแสงมาให้ 1 จุด เป็นหน้าต่างบานกระทุ้งบานกรอบอลูมิเนียมอบขาว แต่ส่วนอาบน้ำนี้ไม่ได้แยกส่วนแห้งส่วนเปียกมาให้ และพื้นที่ก็เล็กเกินกว่าจะกั้นห้องอาบน้ำได้ เพราะฉะนั้นเวลาอาบน้ำ โถลุขภัณฑ์ก็จะเปียกไปด้วยแบบเลี่ยงไม่ได้ แต่ก็ไม่เป็นปัญหาเท่าไหร่ค่ะ เพราะส่วนอาบน้ำที่ชั้นนี้อาจจะได้ใช้ไม่บ่อยนักค่ะ
พื้นที่อาบน้ำขนาดประมาณ 80 x 80 ซม.
ไปต่อกันที่ชั้น 2 ค่ะ ตัวบันไดเป็นบันไดโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ใต้บันไดมีห้องเก็บของ บานประตูห้องเก็บของค่อนข้างใหญ่ สามารถเก็บของชิ้นใหญ่ๆได้ค่ะ
ลูกตั้งและลูกนอนปิดด้วยไม้สีน้ำตาลเข้ม
ราวบันไดเหล็กมือจับไม้ยาวไปตลอดแนวบันได
ชานพักบันได 2 ช่วง ช่วงแรกเป็นชานพักสามเหลี่ยมซึ่งชานพักแบบนี้ต้องเดินระวังนิดนึงนะคะ ถ้ารีบๆเดี๋ยวจะสะดุดล้มตกบันไดเอาได้ ส่วนชานพักช่วงที่สองเป็นชานพักสี่เหลี่ยมมีความปลอดภัยมากกว่าแบบแรกหน่อย
ขึ้นมาที่ชั้น 2 พื้นปูด้วยลามิเนตลายไม้ทั้งชั้น
ที่ชั้น 2 นี้ก็จะได้มาเป็นพื้นที่โล่งๆ ไม่มีการกั้นห้องอะไรมาให้เช่นเคย
มาดูที่ฝั่งหน้าบ้านกันก่อน ที่ชั้น 2 นี้ก็ยังได้ช่องแสงบานใหญ่เต็มผนังมาอีกเช่นกัน รับแสงธรรมชาติกันได้เต็มๆ แต่อย่าลืมติดม่านหรือมู่ลี่บังสายตาด้วยนะคะ เพราะฝั่งตรงข้ามเขามองมาเห็นข้างในบ้านแน่นอน สำหรับการจัดพื้นที่ชั้น 2 นี้ ถ้าใครคิดว่าพื้นที่ชั้น 1 ยังไม่เพียงพอต่อการจัดเป็นออฟฟิศ ก็สามารถขยายอาณาเขตขึ้นมาที่ชั้น 2 นี้ได้ โดยสามารถจัดเป็นห้องประชุมหรือโซนคุยธุรกิจที่เป็นทางการขึ้นมานิดนึง หรือจะจัดเป็นห้องทำงานของพนักงานก็สามารถวางโต๊ะทำงานได้หลายชุดค่ะ
สำหรับหน้าต่างบานใหญ่หน้าบ้านจะเป็นหน้าต่างบานเลื่อนคู่ บานกรอบอลูมิเนียม กระจกเขียวตัดแสง พร้อมหน้าต่างบานฟิกซ์อีก 6 บาน รับแสงธรรมชาติเข้าบ้านได้แบบเต็มๆ และด้วยความที่หน้าต่างบานใหญ่นี้อยู่ฝั่งหน้าบ้าน เราก็สามารถจะจัดเป็น โชว์รูมสำหรับจัดงานของบริษัทโชว์ ก็จะมีคนเห็นได้ง่ายค่ะ
มือจับแบบเซาะร่องและตัวล็อคค่ะ
สำหรับส่วนหน้าบ้านจะมีไฟดาวน์ไลท์มาให้ 2 ดวง
อีกฝั่งของห้องจะมีเต้าเสียบและช่องสัญญาณโทรทัศน์ สามารถวางทีวีไว้เพื่อให้ลูกค้าดูระหว่างรอเจรจางานได้ค่ะ
อีกด้านของห้อง จะเป็นฝั่งทางหลังบ้าน พื้นที่ส่วนนี้เราสามารถจัดเป็นพื้นที่พักผ่อนของพนักงานได้ หรือจะกั้นให้เป็นพื้นที่นั่งเล่นของครอบครัวก็ได้ค่ะ แต่ควรกั้นให้เป็นสัดเป็นส่วนแยกออกจากส่วนทำงานนะคะ
ห้องน้ำที่ชั้น 2 จะมีเพียง 1 ห้องไว้รองรับการใช้งานในส่วนของสำนักงานในกรณีที่จัดพื้นที่ชั้น 2 ให้เป็นพื้นที่ทำงานด้วย
พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องสีและลายตามรูป ขนาด 30 x 30 ซม. และพื้นลดระดับลงไปประมาณ 5 ซม.
ผนังกรุด้วยกระเบื้องลายตารางสี่เหลี่ยมเล็กๆๆ โทนสีน้ำตาล รูปแบบการจัดวางสุขภัณฑ์เหมือนกับห้องน้ำชั้นล่างค่ะ
อ่างล้างมือทรงกลมของ American Standard ก๊อกน้ำ Victor
โถสุขภัณฑ์ American Standard
สายชำระขนาดพอดีๆ
พื้นที่อาบน้ำติดกับโถสุขภัณฑ์ ฝักบัวอาบน้ำของ Victor ขนาดค่อนข้างเล็กไปนิด
มีช่องแสง 1 จุด เป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง
พื้นที่อาบน้ำขนาดประมาณ 80 x 80 ซม.
ได้ไฟดาวไลท์และโคมซาลาเปามาอย่างละ 1 ดวง
ไปต่อกันที่ชั้น 3 ค่ะ
บันไดขึ้นชั้น 2 จะมีสเปคเดียวกันกับบันไดที่ขึ้นมาจากล่าง
โถงบันไดที่ขึ้นไปชั้น 3 ค่อนข้างสูงโปร่ง แต่ไม่มีดวงไฟมาให้ แนะนำให้ติดเพิ่มเติม อาจจะเป็นไฟติดผนัง ติดไปตามทางเดินสัก 2 – 3 ดวงก็ได้ค่ะ เพราะลักษณะฝ้าเพดานแบบนี้ไม่เหมาะกับการติดโคมไฟเท่าไหร่
ชานพักบันไดแบ่งเป็น 2 ช่วง ช่วงแรกเป็นชานพักสามเหลี่ยม ช่วงที่สองเป็นชานพักแบบสี่เหลี่ยมค่ะ
ตรงบริเวณชานพักบันไดช่วงที่ 2 จะมีช่องแสง 1 จุด เป็นหน้าต่างบานเกล็ด ซึ่งช่องแสงตรงนี้เป็นช่องแสงจากส่วนระเบียงของชั้น 3 ค่ะ
ขึ้นมาถึงชั้น 3 จะเจอโถงหน้าห้องแบบนี้
ด้านบนมีไฟดาวน์ไลท์มาให้ 2 ดวง
บานประตูห้องเป็น HDF สีขาว มือจับก้านโยก
พื้นห้องด้านในปูด้วยลามิเนต มีตัวจบสีเข้ากับพื้นเก็บงานไว้เรียบร้อย
เข้ามาในห้องจะเจอห้องโล่งๆแบบนี้
ฝ้าเพดานมีการดรอปลงไป 20 ซม. และมีดวงโคมซาลาเปามาให้ 1 จุด
เรามาดูพื้นที่ฝั่งหน้าบ้านกันก่อน เนื่องจากพื้นที่บนชั้น 3 นี้ จะมีความ Privacy มากกว่าที่ชั้น 1 และชั้น 2 สำหรับใครที่ทำงานและพักอาศัยที่นี่ ชั้นนี้จึงเหมาะที่จะเป็นส่วนของที่พักอาศัย ห้องนี้สามารถเป็น Master Bedroom ของบ้านหลังนี้ได้เลยค่ะ เพราะเป็นห้องที่มีขนาดใหญ่ สามารถจัดเป็น Walk – in Closet ได้ หรือถ้าจัดสรรพื้นที่ดีๆก็สามารถกั้นเป็น 2 ห้องนอนย่อยๆก็ยังได้ ส่วนใครที่ตั้งใจว่าจะทำเป็นออฟฟิศล้วนๆ ห้องนี้ก็เหมาะที่จะเป็นห้องประชุมที่ต้องการความเป็นส่วนตัวสูงหน่อยค่ะ
พื้นที่ฝั่งหน้าบ้านจะได้ไฟดาวน์ไลท์มา 2 ดวง
อีกด้านเป็นพื้นที่เชื่อมต่อไปยังระเบียง
ประตูเชื่อมออกไประเบียง เป็นประตูบานเลื่อน บานกรอบอลูมิเนียมอบขาว กระจกฝ้าช่วยกรองแสง
รางเลื่อนของประตูบานนี้จะอยู่ด้านบน ลดโอกาสการสะดุดที่พื้นค่ะ
พื้นระเบียงลดระดับลงมาประมาณ 15 ซม. และปูด้วยกระเบื้องขนาด 30 x 30 ซม.
ระเบียงรูปทรงสี่เหลี่ยม ขนาดประมาณ 1.5 x 1.95 เมตร สามารถวางโต๊ะกาแฟเล็กๆ หรือใครชอบต้นไม้ก็สามารถลงไม้กระถางเพื่อเพิ่มความร่มรื่นให้กับตัวบ้านก็ได้ค่ะ
พื้นที่ระเบียงจะได้ไฟดาวน์ไลท์มา 1 ดวง
ราวกันตกเป็นราวเหล็กทาสีน้ำตาล มุมมองจากระเบียงออกไปอีกฝั่งค่ะ
อีกด้านเป็นช่องแสงที่เราเห็นกันจากโถงบันได
กลับเข้ามาในห้อง ไปดูฝั่งหลังบ้านกันบ้าง สำหรับพื้นที่ฝั่งหลังบ้านนี้ถ้าใครที่ตัดสินใจทำเป็น Master Bedroom แล้ว พื้นที่ตรงนี้ก็สามารถที่จะทำเป็น Walk – in Closet ได้สบายๆเลยค่ะ
สำหรับพื้นที่ฝั่งหลังบ้านจะได้ไฟดาวน์ไลท์มา 2 ดวง
ช่องแสงจะมี 1 จุด เป็นหน้าต่างบานกระทุ้งคู่ บานกรอบ UPVC สีขาว เปิดได้จนสุดแบบนี้ค่ะ
มือจับเป็นก้านโยกสีขาว
ห้องน้ำห้องเดียวที่ชั้น 3 บานประตู UPVC สีขาว
พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องขนาด 30 x 30 ซม. และลดระดับลงไปประมาณ 5 ซม.
ห้องน้ำที่ชั้นนี้จะใหญ่กว่าห้องน้ำที่ชั้น 1 และชั้น 2 ค่ะ โดยมีการแยกส่วนแห้งส่วนเปียกเพิ่มเข้ามา มีช่องแสง 1 จุดเหนือโถสุขภัณฑ์ เป็นหน้าต่างบานกระทุ้งคู่เพื่อรับแสงธรรมชาติ และสามารถเปิดเพื่อระบายอากาศได้
อ่างล้างมือ American Standard และก๊อกน้ำ Victor
โถสุขภัณฑ์พร้อมสายชำระและที่วางกระดาษชำระของ American Standard มีระยะการใช้งานค่อนข้างเยอะ นั่งได้ไม่อึดอัดค่ะ
ส่วนอาบน้ำมีธรณีก่อสูงขึ้นมาประมาณ 12 เซนติเมตร ไม่มีฉากกั้นอาบน้ำมาให้แต่สามารถติดเพิ่มเองได้นะคะ
ธรณีที่ก่อขึ้นมาจะมีช่องสำหรับให้น้ำที่ขังในพื้นที่ส่วนแห้งระบายมายังส่วนเปียกค่ะ
พื้นที่อาบน้ำขนาด 1.7 x 0.9 เมตร ค่อนข้างกว้าง อาบน้ำได้สบายๆเลยค่ะ
ออกมายังโถงบันได เราจะขึ้นไปดูชั้น 4 กันต่อเลยค่ะ
โถงบันไดขึ้นไปชั้น 4 ยังคงไม่มีดวงไฟตามทางเดินมาให้ คงต้องติดตั้งเพิ่มเติมกันเองนะคะ
ชานพักบันไดเป็นชานพักสี่เหลี่ยมทั้ง 2 ช่วง เดินได้แบบปลอดภัยดีค่ะ
ขึ้นมาที่ชั้น 4 จะเจอโถงบันไดเล็กๆที่แจกไปยัง 2 ห้องย่อยแบบนี้
พื้นที่โถงแบบแค่พอยืนและเปิดประตูเข้าห้องไปเท่านั้นค่ะ
หันกลับไปดูที่โถง มีไฟดาวน์ไลท์มาให้ 1 ดวง
เข้าไปดูห้องแรกทางขวามือกันก่อน พื้นห้องปูด้วยลามิเนตลายไม้สีอ่อน มีตัวจบสีเข้ากับพื้นห้องกั้นไว้ให้เรียบร้อย
ห้องแรกนี้จะเป็นห้องฝั่งหน้าบ้านนะคะ มีช่องแสงทั้งหมด 2 จุด คือประตูกระจกบานใหญ่เชื่อมพื้นที่ในห้องกับระเบียงหน้าบ้าน และหน้าต่างบานเลื่อนฝั่งข้างบ้าน ซึ่งถ้าเป็นบ้านแปลงมาตรฐานก็จะไม่มีหน้าต่างบานนี้ค่ะ
สำหรับห้องนี้เราสามารถจัดเป็นห้องนอนเล็กได้ โดยขนาดเตียงที่เหมาะสมสำหรับห้องนี้คือเตียงขนาด 3.5 ฟุต หรือถ้าอยู่ 2 คนจะวางตียงขนาดควีนไซส์ก็ยังพอได้อยู่ค่ะ แต่จะแน่นๆนิดนึง
แต่ถ้าใครที่จะทำเป็นส่วนออฟฟิศ ห้องนี้ก็เหมาะสำหรับเป็นห้องของผู้จัดการหรือผู้บริหาร เพราะมีความเป็นส่วนตัวค่อนข้างมากและมีการแบ่งห้องไว้ให้เรียบร้อยแล้ว โดยพื้นที่ในห้องสามารถวางชุดโต๊ะเก้าอี้สำนักงาน และตู้เก็บของได้สบายๆค่ะ
ได้ไฟดาวน์ไลท์ 4 ดวง
พื้นที่ระเบียงแคบๆ กว้างแค่ประมาณ 30 ซม. คงพอแค่ออกไปยืนรับลมชมวิวเท่านั้น หรือถ้าอยากปลูกต้นไม้ก็พอให้วางกระถางเล็กๆได้ และดูแลรดน้ำจากในห้องนี่แหละค่ะ
อีกด้านมีระแนงที่ใช้ตกแต่ง สามารถบังแดดให้ห้องได้นิดหน่อย
อีกด้านของห้อง ฝั่งขวาคือประตูออกไปยังโถงบันได ส่วนประตูบานซ้ายมือเป็นห้องน้ำส่วนตัวของห้องนี้ค่ะ
ภายในห้องน้ำจะมีฟังก์ชั่นครบคือมีส่วนอาบน้ำด้วย แต่ไม่ได้แยกส่วนแห้งส่วนเปียกไว้ให้
มีช่องแสง 1 จุด เป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง ตำแหน่งติดตั้งอยู่เหนือโถสุขภัณฑ์ค่ะ
ได้ไฟดาวน์ไลท์ และโคมซาลาเปาอย่างละ 1 ดวง
อ่างล้างมือ American Standard
โถสุขภัณฑ์พร้อมสายชำระและที่วางกระดาษชำระ ระยะการติดตั้งใช้งานได้สะดวก แต่ที่วางกระดาษชำระจะอยู่ใกล้กับพื้นที่อาบน้ำ อาจจะโดนน้ำกระเซ็นเปียกบ้าง
พื้นที่อาบน้ำไม่ได้กั้นส่วนแห้งส่วนเปียกมาให้ แต่เราสามารถใช้ม่านกั้นอาบน้ำมาติดตั้งได้เอง เพื่อแยกให้เป็นสัดเป็นส่วนและป้องกันไม่ให้น้ำกระเซ็นไปเปียกโถสุขภัณฑ์และกระดาษชำระค่ะ
พื้นที่อาบน้ำค่อนข้างกว้าง ขนาดประมาณ 1.2 x 1.2 เมตร
ต่อมาเราไปดูห้องที่อยู่ติดกันค่ะ
ห้องนี้จะเป็นห้องฝั่งหลังบ้าน เข้ามาในห้องเราจะเห็นประตูทางฝั่งซ้ายซึ่งเป็นห้องน้ำก่อน ขนาดของห้องนี้ประมาณ 3.45 x 3.7 เมตร สามารถจัดวางเตียงขนาด 3.5 ฟุต ไปจนถึงควีนไซส์ได้ และยังมีพื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้าได้ แต่ไม่มีพื้นที่พอสำหรับจะทำเป็น Walk – in Closet นะคะ
ห้องนี้จะมีช่องแสงเพียง 1 จุด เป็นหน้าต่างบานเลื่อนคู่ บานกรอบอลูมิเนียมอบขาว
ภายในห้องจะได้ไฟดาวน์ไลท์ 4 ดวง
อีกมุมนึงของห้อง
สำหรับห้องน้ำในห้องนอนห้องสุดท้ายนี้ จะมีช่องแสง 2 จุด เป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง แต่ตำแหน่งที่ติดตั้งไว้ดูจะสู้งงง เกินมือเอื้อมถึงค่ะ ตามปกติคงจะเป็นได้แค่ช่องแสง ถ้าอยากจะเปิดระบายอากาศอาจจะต้องเรียกให้เพื่อนตัวสูงๆมาช่วยเปิดค่ะ
สำหรับไฟส่องสว่างจะได้ไปดาวน์ไลท์ และโคมซาลาเปาอย่างละ 1 ดวง
พื้นห้องน้ำลดระดับลงไปประมาณ 5 ซม.
อ่างล้างมือ American Standard
โถสุขภัณฑ์ สายชำระและที่วางกระดาษชำระ American Standard
ส่วนอาบน้ำไม่มีการกั้นแยกส่วนแห้งส่วนเปียก แต่เราสามารถติดตั้งม่านอาบน้ำเองได้ค่ะ
พื้นที่สำหรับอาบน้ำประมาณ 1.1 x 1.2 เมตร
สวิทช์ไฟและเต้าเสียบยี่ห้อ Panasonic ค่ะ
สำหรับแบบบ้านแปลงมาตรฐานจะมีรูปลักษณ์ภายนอกเหมือนๆกันกับบ้านแปลงริมค่ะ ส่วนข้อแตกต่างก็คือ มีหน้ากว้างมากกว่าคือ 6 เมตร และไม่มีช่องแสงฝั่งข้างบ้านค่ะ
และรั้วบ้านที่ได้จะเป็นบานพับ 6 ตอนแบบนี้
รั้วกั้นระหว่างบ้านค่ะ
**รายละเอียด Spec ของวัสดุต่างๆอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงเป็นรุ่นที่เทียบเท่า สามารถสอบถามที่โครงการเพิ่มเติมได้ค่ะ **
ราคา (มีนาคม 2559)
** เงินจอง : 50,000 บาท / ทำสัญญา : 150,000 บาท
**ค่าสาธารณูปโภคในโครงการ : –
โปรโมชั่นอื่นๆ โปรดสอบถามทางโครงการ*
บทสรุปโครงการ
ทำเลโดยรอบ : โครงการ Hallmark สุขุมวิท 54 ถือว่ายังอยู่ในโซนอ่อนนุช ซึ่งหลังจากที่มีรถไฟฟ้ามาถึงก็กลายเป็นอีกหนึ่งทำเลที่มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องทั้งคอนโดและทาวน์โฮมหลายๆโครงการก็ตามมากับแนวรถไฟฟ้าด้วย เป็นผลให้มีความอุดมสมบูรณ์เกิดขึ้นมากมาย สภาพแวดล้อมโดยรวมบนถนนใหญ่ค่อนข้างคึกคัก แต่ในซอยหมู่บ้านทองไทย ทาวน์เฮ้าส์ ซึ่งเป็นซ่อยในซอยสุขุมวิท 54 อีกทีที่ตัวโครงการตั้งอยู่นั้นจะมีบรรยากาศที่เงียบกว่า(จนถึงเปลี่ยวในเวลากลางคืน) มีความเป็นส่วนตัวมากกว่า เพราะเป็นซอยที่มีแต่ที่อยู่อาศัยแนวราบ เป็นบ้านเดี่ยวซะส่วนใหญ่ และก็ตามมาด้วยความอุดมสมบูรณ์ในระยะเดินที่น้อยจนเกือบจะเป็นศูนย์ มีแค่ร้านขายของชำเล็กๆให้พึ่งพา แต่เรื่องความสมบูรณ์จริงๆก็ไม่น่าเป็นห่วงอะไรมากเพราะแค่ขับออกไปหน้าปากซอยก็จะมี The Phyll ที่มีร้านอาหารหลายร้านรวมไปถึงร้านสะดวกซื้อ บนถนนใหญ่ก็อุดมสมบูรณ์ช่วงเที่ยงมีร้านอาหารเปิดหลายร้านค่ะ
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว : การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวถือว่าสะดวกสบายเพราะมีเส้นทางลัดเลาะหนีรถติดได้หลายเส้นทางทั้งซอยสุขุมวิท 50 ที่เป็นซอยที่เชื่อมต่อทั้งถนนสุขุมวิทและถนนทางรถไฟสายเก่าปากน้ำและเป็นเส้นที่มีทางขึ้น – ลงทางด่วนทั้ง 2 จุด ด้วยกันคือ เฉลิมมหานคร และ รามอินทรา – อาจณรงค์แต่ซอยนี้รถจะติดหน่อยค่ะ นอกจากนั้นซอยสุขุมวิท 54 ยังสามารถลัดไปยังซอยสุขุมวิท 56 และ 62 ซึ่งซอยสุขุมวิท 62 นี้ก็สามารถเชื่อมถนนสุขุมวิทไปถนนทางรถไฟสายเก่าปากน้ำได้เช่นเดียวกัน และมีจุดขึ้นลงทางด่วนเฉลิมมหานครให้เลือกใช้อีกเส้นทางค่ะ
การเดินทางโดยรถสาธารณะ การเดินทางออกจากโครงการต้องพึ่งพี่วินเท่านั้น เพราะจากโครงการถึงปากซอยมีระยะประมาณ 600 เมตร ซึ่งเกินระยะเดินสบายไปแล้ว แต่ถ้าใครฟิตๆจะเดินมาก็ได้ไม่ว่ากัน แต่แนะนำให้เดินเฉพาะเวลากลางวันนะคะ ตอนกลางคืนไม่แนะนำให้เดินโดยเฉพาะสาวๆ เพราะในซอยค่อนข้างเงียบ ตกกลางคืนแล้วอันตรายค่ะ เมื่อออกมาถึงถนนใหญ่ได้แล้วก็สบายค่ะ มีให้เลือกทั้งรถเมลล์และรถไฟฟ้า BTS อ่อนนุช ซึ่งมีระยะจากหน้าปากซอยสุขุมวิท 54 ถึงตัวสถานีประมาณ 250 เมตร ซึ่งเป็นระยะที่พอเดินได้สบายๆค่ะ
แบบบ้านและวัสดุ วัสดุของที่นี่ให้มาแบบกลางๆ เฉลียงหน้าบ้าน, ลานซักล้างหลังบ้าน, พื้นที่จอดรถและห้องน้ำเป็นกระเบื้องเซรามิค พื้นชั้นล่างได้เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 เซนติเมตร มาตรฐาน ส่วนชั้นบนได้พื้นไม้ลามิเนตสีเข้ากับตัวบ้าน ประตู, หน้าต่างชนิดบานเลื่อนต่างๆใช้อลูมิเนียมอบขาวและ UPVC ส่วนบานประตูห้องภายในบ้านเป็นบาน HDF สีขาว ประตูห้องน้ำ UPVC อ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์ได้ของ American Standard ฝักบัวและก๊อกน้ำของ Victor ส่วนดวงไฟได้แบบดาวน์ไลท์และโคมซาลาเปาค่ะ
สาธารณูปโภค โครงการมีถนนหลักกว้าง 6 เมตร ไม่มีส่วนกลางค่ะ
คะแนน
ทำเลที่ตั้งโครงการ | 8.0 | อยู่ในซอยค่อนข้างลึก ความอุดมสมบูรณ์ในระยะเดินไม่มี แต่ได้ประโยชน์จากความเป็นส่วนตัวที่มากขึ้น และความอุดมสมบูรณ์รอบนอกค่อนข้างเยอะ |
การเดินทาง ใช้รถ | 8.0 | สะดวก มีทางลัดเลาะเพื่อหลีกเลี่ยงรถติดหลายเส้นทาง และไม่ไกลจากจุดขึ้นทางด่วน |
การเดินทาง ไม่ใช้รถ | 7.5 | ถึงจะอยู่ในซอยลึกแต่ยังดีที่มีคิวพี่วินไม่ไกลจากโครงการ และมี BTS อ่อนนุชให้เลือกใช้ |
บ้านและวัสดุ | 7.5 | รูปแบบภายนอกดูเรียบร้อยดี การจัดพื้นที่ภายในยืดหยุ่นให้จัดฟังก์ชั่นการใช้งานเองได้สะดวก |
สิ่งอำนวยความสะดวก | – | เนื่องจากโครงการนี้เป็นโครงการโฮมออฟฟิศขนาดเล็กที่ไม่มี Facility และเก็บค่าส่วนกลางใดๆ ดังนั้นโครงการนี้จึงไม่มีคะแนนสาธารณูปโภคค่ะ |
ความคุ้มค่ากับราคา | 7.5 | เหมาะกับคนที่กำลังมองหาโฮมออฟฟิศ หรือทาวน์โฮมในโซนอ่อนนุช ราคาเริ่มต้น 6.9 ล้านบาท ถือว่ากลางๆในโซนนี้ |
คะแนนรวมเฉลี่ย | 7.77 | พอใช้ |
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
TEL : 085-100-9080, 092-759-8825
WEBSITE : คลิกที่นี่
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
EP.2497 รีวิว ศุภาลัย แกรนด์ เอสเซ้นส์ อรุณอมรินทร์ Supalai Grand Essence Arun-Amarin บ้านหรูกลางเมือง 3.5 ชั้น พร้อม Double Space เอกสิทธิ์เพียง 36 ครอบครัว ใกล้ ICONSIAM ทางด่วน และรถไฟฟ้า 3 สาย เริ่ม 22.9-40 ล้านบาท* Written by
EP.2496 รีวิว เดอะ แกรนด์ ปิ่นเกล้า-วงแหวนกาญจนา The Grand Pinklao-Wongwaen Kanchana บ้านเดี่ยวหรูสไตล์ Modern European พร้อม Pool Villa สระว่ายน้ำส่วนตัวทุกหลัง เพียง 39 ครอบครัวเท่านั้น ทำเลดีติดถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วน และรถไฟฟ้า MRT ราคาเริ่มต้น 30-70 ล้าน* Written by : Nan
EP.2495 รีวิว บารานี บลิซ รังสิต-วงแหวน / Baranee Bliss Rangsit-Wongwaen บ้านเดี่ยวสไตล์ Modern British Luxury ทำเลศักยภาพ ติด ถ.รังสิต-นครนายก ใกล้วงแหวนกาญจนาภิเษก เอกสิทธิ์เพียง 87 ครอบครัว เริ่ม 8-17 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีคุณผู้อ่านทุกคนค่ะ วันนี้
EP.2494 รีวิว ศุภาลัย พาร์ควิลล์ กาญจนาภิเษก-ซ.กันตนา Supalai Park Ville Kanchanapisek-Soi Kantana บ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ Tropical ใกล้ Central Westgate เริ่ม 5.69 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ Supalai Park
EP.2493 รีวิว อณาสิริ สรงประภา Anasiri Songprapha บ้านเดี่ยวและบ้านแฝด สไตล์ญี่ปุ่น ใกล้ทางด่วน 2 สาย ใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดง เพียง 15 นาที* ถึงสนามบินดอนเมือง เริ่ม 5.99-9 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่ะ วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ Anasiri สรงประภา บ้านสไตล์ญี่ปุ่น
EP.2492 รีวิว เสนา แกรนด์โฮม บางนา กม.29 Sena Grand Home Bangna KM.29 บ้านเดี่ยว สไตล์ Modern Japanese ติดถนนใหญ่บางนา-ตราด ใกล้ทางด่วน นิคมฯ และสนามบิน ราคา 7-10 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo จะพาไปชมบ้านเดี่ยวโครงการใหม่
EP.2491 รีวิว เสนา วีว่า เทพารักษ์-บางบ่อ SENA VIVA Thepharak-Bangbo ทาวน์โฮมแนวคิดพลังงานเป็น 0 ฟังก์ชันคุ้มค่า ส่วนกลางครบ พร้อมสังคมคุณภาพ ใกล้นิคมฯ บางพลี ใกล้ทางด่วนบูรพาวิถี เริ่ม 2.59 ล้านบาท* Written by : THAnATH สวัสดีผู้อ่านชาว Homenayoo ทุกคน วันนี้ผมพามาชมโครงการ SENA VIVA เทพารักษ์-บางบ่อ ทาวน์โฮมคุ้มค่า
EP.2490 รีวิว เซนโทร วิภาวดี-รังสิต / CENTRO Vibhavadi-Rangsit บ้านเดี่ยวซีรีส์ใหม่จาก AP ทำเลติดถนนใหญ่ 345 ใกล้ทางด่วน, รถไฟฟ้า, Future Park และ ม.รังสิต เริ่ม 7.29 ล้าน* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่ะ เพื่อน ๆ Homenayoo ทุกคน
EP.2489 รีวิว เฌอ พหลโยธิน-สายไหม / CHER Phahonyothin-Saimai ทาวน์โฮมใหม่ ตอบโจทย์ทุกการเดินทาง ใกล้ทางด่วน รถไฟฟ้าสายสีเขียว และสนามบินดอนเมือง เริ่ม 2.9 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่ะ เพื่อน ๆ Homenayoo ทุกคน วันนี้เราจะพาไปชมโครงการ ‘CHER พหลโยธิน-สายไหม‘ พรีเมียมทาวน์โฮมโครงการใหม่จาก Peace
EP.2488 รีวิว พลีโน่ วิภาวดี-รังสิต Pleno Vibhavadi-Rangsit ทาวน์โฮมและบ้านแฝด ฟิตเนส 24 ชม. ทำเลดีติดถนนใหญ่ ใกล้ Future Park รังสิต, ทางด่วน และรถไฟฟ้าสายสีแดง เริ่ม 2.79 ล้านบาท* Written by : Nan Kanyaratthp สวัสดีเพื่อน ๆ Homenayoo ทุกคนค่ะ วันนี้เราจะพาไปชมโครงการ
ทาวน์โฮม 4 ชั้น Hallmark Sukhumwit 54 ใจกลางเมือง สุขุมวิท BTS อ่อนนุช
– ทาวน์โฮมกลางเมือง เชื่อมต่อทุกการเดินทาง
– Hallmark สุขุมวิท 54 ทาวน์โฮมสไตล์บูทีค ขนาด 4 ชั้น
– 4 ห้องนอน
– 5 ห้องน้ำ
– พื้นที่ใช้สอย 192 ตารางเมตร
– หน้ากว้าง 6 เมตร
– ใกล้สถานีรถไฟฟ้า BTS อ่อนนุช
– ใกล้ทางด่วน 2 สาย
– เดินทางจาก สนามบินสุวรรณภูมิ เพียง 15 นาที
– ราคาเริ่มต้น 7.9 ล้านบาท
Hallmark สุขุมวิท 54 เป็นโครงการทาวน์โฮม ที่มีการออกแบบให้พื้นที่ใช้สอยสามารถปรับเป็นที่พักอาศัยหรูหรา
สะดวกสบายหรือเป็นโฮมออฟฟิศทันสมัยกลางเมือง ด้วยพื้นที่ใช้สอยกว่า 200 ตารางเมตร หน้ากว้าง 6 เมตร สูง 4 ชั้น
จอดรถได้ 2 คัน ทำให้สามารถปรับฟังก์ชั่นการใช้งานได้หลากหลายตามความต้องการ
Hallmark เป็นโครงการทาวน์โฮมที่ตั้งอยู่บนทำเลที่ดีที่สุดบนถนนสุขุมวิท สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสะบาย
ใกล้สถานีรถไฟฟ้าอ่อนนุช ทางด่วน 2 สาย เพียง 15 นาทีจากสนามบินสุวรรณภูมิ แวดล้อมด้วยห้างสรรพสินค้า
ขนาดใหญ่ และ 200 เมตรจาก The Phyll คอมมูนิตี้มอลล์ ใหม่ศูนย์ชอปปิ้งและร้านอาหารนานาชาติ
สนใจติดต่อ คุณบอมบ์ ธัชกร Estatecorner : 097-918-4296 , 091-809-7557
ยินดีจัดหาสินเชื่อให้ฟรี สามารถกู้ได้เต็ม 100%
https://www.facebook.com/kaibancondo/posts/365667570224034