
รีวิว พรีเมี่ยม เพลส พหลโยธิน-เทพรักษ์ / Premium Place Phahonyothin-Theparak ทาวน์โฮมใหม่ 3.5 ชั้น พร้อม Double Volume สูง 6 ม.* บนถนนวัชรพล ใกล้ทางด่วนฉลองรัช, สนามบินดอนเมือง และรถไฟฟ้า 2 สาย เริ่ม 6.19 ล้าน* (ก.ค. 68)
Written by : Pure Thitapa
สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ Homenayoo วันนี้เราจะพาไปชมทาวน์โฮมโครงการใหม่ “ใหญ่เกินบ้านเดี่ยว” บนทำเลศักยภาพย่านวัชรพล กับโครงการ ‘Premium Place พหลโยธิน-เทพรักษ์‘ จาก Premium Place Group ที่ไม่เพียงแค่โดดเด่นเรื่องขนาดพื้นที่ใช้สอย แต่ยังให้ความคุ้มค่าในการอยู่อาศัยและการลงทุนบน Location ที่กำลังมาแรงที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ฝั่งเหนือ
ตัวโครงการตั้งอยู่บนถนนวัชรพล แขวงคลองถนน เขตสายไหม กทม. ซึ่งเป็นย่านที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง สามารถเชื่อมต่อถนนเส้นหลักได้หลายสาย ทั้งถนนเทพรักษ์ ถนนเพิ่มสิน ถนนพหลโยธิน และใกล้ทางด่วนฉลองรัช เดินทางเข้าเมืองหรือออกนอกเมืองก็สะดวก ใช้เวลาไปสนามบินดอนเมืองเพียง 10-15 นาที* เท่านั้น
ที่สำคัญยังใกล้กับรถไฟฟ้าถึง 3 สาย ทั้งสายสีเขียว สายสีชมพู และสายสีแดงเข้ม เดินทางสะดวกในทุกทิศทาง รอบโครงการยังอัดแน่นไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้ง Market Place เทพรักษ์, ร้านสะดวกซื้อ 24 ชม., ตลาดสด, ร้านอาหารเจ้าดัง, โรงเรียน และโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำ ครบครันทุกด้านของการใช้ชีวิตในระยะที่เข้าถึงง่าย
พรีเมี่ยม เพลส พหลโยธิน-เทพรักษ์ เป็นโครงการทาวน์โฮม 3.5 ชั้น สไตล์ Modern บนที่ดินกว่า 4 ไร่ พัฒนาขึ้นในรูปแบบของ “สังคมส่วนตัว” ด้วยจำนวนยูนิตเพียง 41 หลังเท่านั้น โดยมีให้เลือก 2 แบบ คือหน้ากว้าง 5 ม. และ 5.4 ม. บนที่ดินเริ่มต้น 20 ตร.ว. ขึ้นไป พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 205-220 ตร.ม. รองรับฟังก์ชันครบ 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ พร้อมโถง Double Volume Living & Dining สูง 6 ม. และที่จอดรถหน้าบ้าน 2 คัน
โครงสร้างและวัสดุของบ้านถูกออกแบบมาให้รองรับการอยู่อาศัยในระยะยาว ตัวบ้านใช้ระบบก่อสร้างแบบ Conventional ก่อด้วยอิฐมวลเบา ผนังห้องน้ำใช้อิฐมอญแดง พื้นห้องน้ำหล่อในที่พร้อมน้ำยากันซึม
และที่สำคัญคือหน้าบ้านและหลังบ้านลงเสาเข็มลึกเท่าตัวบ้าน ช่วยรองรับการต่อเติมในอนาคตได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นโรงจอดรถ ครัวไทย หรือ Glass House ลดภาระค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงได้หลักแสนเลยทีเดียว / โครงการพร้อมอยู่บางส่วนในปี 2568*
แม้จะเป็นโครงการ Private แต่ Premium Place พหลโยธิน-เทพรักษ์ ก็จัดเต็มสิ่งอำนวยความสะดวกให้ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น Clubhouse สไตล์ Modern ที่มีทั้ง Lobby Lounge สำหรับรับรองแขก, Co-Working Space สำหรับนั่งทำงานหรือพักผ่อนในบรรยากาศแสงธรรมชาติ, สระว่ายน้ำระบบเกลือแบบ Lap Pool พร้อมวิวสวน และ Fitness ขนาดใหญ่ที่สามารถมองเห็นวิวสวนได้แบบ 180 องศา พร้อมเครื่องออกกำลังกายครบทั้งสาย Cardio และ Weight Training
ยังไม่หมดเท่านั้น ภายในโครงการยังมีสวนส่วนกลางร่มรื่น พร้อมสนามเด็กเล่น มุมนั่งเล่นใต้ต้นไม้ใหญ่ ถนนเมนกว้างถึง 18 ม. และมีพื้นที่จอดรถส่วนกลางช่วยลดปัญหาการจอดซ้อนหน้าบ้าน ตอบโจทย์การอยู่อาศัยของครอบครัวได้อย่างลงตัว
ด้านระบบรักษาความปลอดภัยก็จัดเต็มไม่แพ้กัน จะมีระบบเข้า-ออกแบบ Double Gate, Easy Pass พร้อมกล้อง CCTV รอบโครงการ และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยดูแลตลอด 24 ชม. เพื่อความมั่นใจของผู้อยู่อาศัยในทุกวัน
ทั้งหมดนี้มาในราคาเริ่มต้น 6.19 ล้านบาท* (ก.ค. 68) ใครที่กำลังมองหาทาวน์โฮมพื้นที่ใหญ่ ฟังก์ชันครบ ทำเลดี ใกล้ทางด่วน ใกล้รถไฟฟ้า และใกล้ธรรมชาติในบรรยากาศที่เป็นส่วนตัว ลองแวะมาดูบ้านตัวอย่าง แล้วคุณอาจจะเจอบ้านที่ใช่…ที่เหมือนสร้างมาเพื่อคุณโดยเฉพาะ
ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ คลิก : https://bit.ly/425FpAJ
รายละเอียดโครงการจะมีความน่าสนใจอย่างไรบ้างนั้น ไปติดตามกันต่อได้เลยค่ะ
ชื่อโครงการ | พรีเมี่ยม เพลส พหลโยธิน-เทพรักษ์ / Premium Place Phahonyothin-Theparak |
เจ้าของโครงการ | บริษัท พรีเมี่ยมเพลส กรุ๊ป จำกัด / Premium Place Group |
ลักษณะโครงการ |
|
พื้นที่โครงการ | ประมาณ 4-1-0.6 ไร่ |
จำนวนบ้าน | 41 ยูนิต |
เนื้อที่บ้าน | เริ่มต้น 20 ตร.ว. ขึ้นไป |
พื้นที่ใช้สอย | เริ่มต้น 205-220 ตร.ม. |
จำนวนห้อง | 4 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ |
ที่จอดรถทั้งหมด | 2 คัน พร้อมที่จอดรถส่วนกลาง* |
โซน | เทพรักษ์-วัชรพล-เพิ่มสิน |
เส้นทางคมนาคม |
|
ที่ตั้ง | ถนนวัชรพล แขวงคลองถนน เขตสายไหม กทม. 10220 |
กำหนดการ | เริ่มก่อสร้าง 20 พ.ย. 67 |
ปีที่สร้างเสร็จ | คาดว่าก่อสร้างแล้วเสร็จปี 2569 |
ราคา | เริ่มต้น 6.19 ล้านบาท* (ก.ค. 68) |
ค่าส่วนกลาง | 77 บาท/ ตร.ม./ เดือน |
สถานที่สำคัญใกล้เคียง | ศูนย์การค้า
ตลาด
สถานศึกษา
โรงพยาบาล
อื่น ๆ
**ระยะทางวัดจากการเดินทางสู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด** |
สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
Tel | 02-579-2255 |
Line | https://lin.ee/ppRH5iN |
Website | https://bit.ly/425FpAJ |
ที่ตั้งโครงการ
ถนนวัชรพล แขวงคลองถนน เขตสายไหม กทม. 10220
พิกัดโครงการ : https://maps.app.goo.gl/DKprPgrEa26PCers5
ใครที่อยากได้ทาวน์โฮมที่ให้พื้นที่ใหญ่เท่าบ้านเดี่ยว เดินทางง่าย อยู่ในทำเลที่กำลังโต และมีศักยภาพครบทั้งอยู่อาศัยและลงทุน “Premium Place พหลโยธิน-เทพรักษ์” เป็นอีกหนึ่งโครงการน่าสนใจ
ตัวโครงการเป็นทาวน์โฮมสูง 3.5 ชั้น จาก Premium Place Group ตั้งอยู่ในซอยวัชรพล ห่างจากถนนเทพรักษ์ เพียงแค่ 3 นาที* เดินทางสะดวกทั้งการเข้าเมืองและออกนอกเมือง
ที่นี่อยู่ใกล้ทั้งถนนเส้นหลักและทางด่วน โดยเฉพาะทางด่วนฉลองรัช ด่านสุขาภิบาล 5 ที่ใช้เวลาไม่กี่นาทีก็ถึง ใครเดินทางด้วยรถไฟฟ้าก็สะดวก เพราะอยู่ใกล้ถึง 3 สาย ทั้งสายสีเขียว สีชมพู และสายสีแดง ครอบคลุมทุกเส้นหลักของกรุงเทพฯ
รอบโครงการรายล้อมด้วยความอุดมสมบูรณ์ ทั้งตลาดสด คาเฟ่ ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต และใกล้กับ Market Place เทพรักษ์ & เทพรักษ์ มาร์เก็ต ที่รวมร้านอาหารและบริการไว้ครบ จัดการชีวิตประจำวันได้ง่าย ไม่ต้องขับรถออกไปไกล
ย่านนี้ยังเป็นแหล่งอยู่อาศัยของกลุ่มข้าราชการ โดยเฉพาะจากหน่วยงานทหาร บรรยากาศโดยรอบจึงดูเป็นระเบียบและปลอดภัย มีโรงเรียนให้เลือกหลายแห่ง ทั้งรัฐบาลและเอกชน ส่วนโรงพยาบาลก็มีอยู่รอบด้านมากกว่า 10 แห่ง เดินทางถึงได้รวดเร็วหากมีเหตุฉุกเฉิน
อีกหนึ่งข้อได้เปรียบคือใกล้สนามบินดอนเมือง ใช้เวลาขับรถประมาณ 10-15 นาที* เหมาะมากสำหรับคนที่ต้องบินบ่อย ไม่ว่าจะไปทำงานหรือเดินทางต่างจังหวัด
โดยรวมแล้วทำเลของ Premium Place พหลโยธิน-เทพรักษ์ ตอบโจทย์ทั้งการอยู่อาศัยและการลงทุนได้ดี ด้วยความพร้อมของพื้นที่บ้านที่ให้เยอะ ฟังก์ชันที่ครบ และราคาที่ถือว่าคุ้มมากเมื่อเทียบกับสิ่งที่ได้ในทำเลแบบนี้
การเดินทางด้วยรถส่วนตัว : จากโครงการ Premium Place พหลโยธิน-เทพรักษ์ ถือว่าสะดวกและคล่องตัวมาก เหมาะกับคนที่ต้องขับรถเข้า-ออกเมืองอยู่เป็นประจำ เพราะตัวโครงการตั้งอยู่บนถนนวัชรพล สามารถเชื่อมต่อออกถนนเทพรักษ์ได้เพียง 3 นาที* เท่านั้น
ซึ่งถนนเทพรักษ์ ถือเป็นเส้นทางใหม่ที่ช่วยเลี่ยงรถติดจากถนนพหลโยธินได้ดี โดยเชื่อมต่อถนนรามอินทรา-พหลโยธิน-วิภาวดีรังสิตได้แบบต่อเนื่อง และในอนาคตยังจะมีส่วนต่อขยายที่เชื่อมไปถึงวงแหวนกาญจนาภิเษก ยิ่งเพิ่มความสะดวกในการเดินทางไปได้อีกหลายทิศทาง
จากหน้าโครงการ หากเลี้ยวออกไปทางถนนเทพรักษ์ จะสามารถวิ่งออกถนนพหลโยธิน หรือใช้ขึ้นทางด่วนฉลองรัช ด่านสุขาภิบาล 5 ได้ในระยะทางไม่ไกล ขับรถไปราว ๆ 5-10 นาที* ก็สามารถขับเข้าสู่โซนเมืองชั้นใน เช่น พระราม 9, สุขุมวิท, พระราม 2 ได้อย่างสะดวก หรือจะออกนอกเมืองไปทางบางนา มอเตอร์เวย์ และอยุธยาก็เชื่อมต่อได้ง่ายไม่แพ้กัน
อีกหนึ่งจุดเชื่อมสำคัญ คือ ถนนวัชรพล ซึ่งสามารถวิ่งต่อไปยังถนนเพิ่มสิน ถนนสุขาภิบาล 5 และถนนจตุโชติ ทำให้เดินทางเชื่อมไปยังโซนสายไหม หทัยราษฎร์ หรือลัดไปถึงถนนลำลูกกาได้โดยไม่ต้องผ่านเส้นหลักที่รถติดมาก
ในฝั่งของถนนรามอินทรา ก็สามารถเดินทางจากโครงการผ่านห้าแยกวัชรพล หรือแยกต่างระดับวัชรพล ซึ่งเป็นจุดเชื่อมสำคัญที่ไปยังถนนเส้นหลักอื่น ๆ ได้อีกหลายสาย เช่น ถนนประดิษฐ์มนูธรรม (เลียบด่วน), ถนนประเสริฐมนูกิจ (เกษตร-นวมินทร์), ถนนคู้บอน และถนนนวมินทร์ ทำให้คนที่ต้องเดินทางหลากหลายโซนสามารถเลือกเส้นทางได้ตามความสะดวกและตามสภาพจราจรในช่วงเวลานั้น ๆ
โดยรวมแล้ว การเดินทางด้วยรถส่วนตัวจากโครงการนี้จัดว่าครบเครื่อง มีเส้นทางเลือกหลากหลาย เชื่อมต่อได้ทั้งในเมืองและนอกเมือง แถมยังใกล้ทางด่วนหลัก ๆ หลายสาย จึงช่วยประหยัดทั้งเวลาและลดความเหนื่อยล้าจากการขับรถได้ในทุกวันจริง ๆ ค่ะ
หนึ่งในจุดเด่นสำคัญของโครงการ Premium Place พหลโยธิน-เทพรักษ์ คือการอยู่ใกล้จุดขึ้นทางด่วนทั้งฝั่งขาเข้าและขาออกเมือง ทำให้เดินทางได้สะดวกไม่ว่าจะไปโซนไหนของกรุงเทพฯ หรือจะขับรถออกนอกเมืองก็ตาม
ใกล้ที่สุดจะเป็นทางด่วนฉลองรัช ด่านสุขาภิบาล 5-1 ฝั่งขาเข้า อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 3.6 กม.* หรือใช้เวลาขับรถเพียง 5-10 นาที* แล้วแต่ช่วงเวลาและสภาพการจราจร จุดนี้สามารถใช้วิ่งตรงเข้าเมืองได้หลากหลายเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นลาดพร้าว, พระราม 9, เอกมัย หรือพระราม 4 และยังสามารถเชื่อมต่อกับทางด่วนสายอื่นได้อย่างต่อเนื่อง เช่น ทางด่วนศรีรัช หรือทางด่วนเฉลิมมหานคร
อีกจุดจะเป็นทางด่วนฉลองรัช ด่านสุขาภิบาล 5-2 ฝั่งขาออก อยู่ห่างออกไปประมาณ 5 กม.* ใช้เวลาขับรถราว 5-10 นาที* เช่นกัน ซึ่งฝั่งนี้จะเหมาะกับการวิ่งออกนอกเมือง โดยเชื่อมต่อกับวงแหวนกาญจนาภิเษก มุ่งหน้าไปยังโซนลำลูกกา รังสิต ปทุมธานี อยุธยา หรือนครนายกได้สะดวก
การที่โครงการอยู่ใกล้ด่านทั้งสองฝั่งนี้ช่วยให้การเดินทางด้วยรถยนต์ยืดหยุ่นมากขึ้น ไม่ว่าจะต้องเข้าเมืองไปทำงานในวันธรรมดา หรือออกต่างจังหวัดในวันหยุดก็ประหยัดเวลาและขับสบายขึ้นอีกระดับ
ถนนและแยกสำคัญใกล้เคียง
**ระยะทางวัดจากการเดินทางสู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด**
การเดินทางโดยรถไฟฟ้า : ใครที่เน้นเดินทางด้วยรถไฟฟ้า บอกเลยว่าโครงการนี้ตอบโจทย์มากค่ะ เพราะอยู่ใกล้รถไฟฟ้าถึง 3 สายด้วยกัน ใกล้ที่สุดคือ รถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ สถานีสายหยุด ซึ่งห่างจากโครงการประมาณ 10 นาที* เท่านั้น สถานีนี้ตั้งอยู่บนถนนพหลโยธิน ใกล้แยกสะพานใหม่ ถือเป็นสถานีหลักของคนทำงานที่ต้องเข้าเมืองทุกวัน
ยังไม่หมดแค่นั้น เพราะจากสถานีสายหยุดสามารถนั่งยาวไปถึง ห้าแยกลาดพร้าว เพื่อเปลี่ยนไปใช้ MRT พหลโยธิน ได้ง่าย ๆ ตอนนี้มี Sky Walk เชื่อม BTS กับ MRT เดินสบาย ไม่ต้องง้อรถต่อ และยังเชื่อมต่อกับห้าง Central ลาดพร้าว และ Union Mall ได้ในระยะเดินถึงอีกด้วย
โครงการยังสามารถใช้รถไฟฟ้าสายสีชมพูแคราย-มีนบุรีได้ โดยไปเปลี่ยนสายที่สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ ซึ่งเป็น Interchange Station จากจุดนั้นจะต่อไปยัง รถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม ที่สถานีหลักสี่ได้แบบไม่สะดุด ใครทำงานโซนรังสิต หรือเดินทางไปบางซื่อบ่อย ๆ จะยิ่งสะดวก
นอกจากรถไฟฟ้าแล้ว บนถนนวัชรพลหน้าโครงการจะมีรถสองแถว วิ่งวนลูปผ่านจุดสำคัญโดยรอบ สามารถนั่งไปต่อรถเมล์ หรือรถไฟฟ้าบนถนนพหลโยธินได้สะดวก ไม่ต้องเดินไกล
ส่วนใครที่ใช้มอเตอร์ไซค์รับจ้าง หรือ Taxi เป็นประจำ ก็อุ่นใจได้เลยค่ะ เพราะมีวิ่งผ่านหน้าโครงการทั้งวัน หรือถ้าอยากเรียกผ่าน Application ก็ทำได้ง่าย ๆ ไม่ว่าจะเป็น Grab, Line หรือ Bolt กดปุ๊บก็รอหน้าบ้านได้เลย สบายสุด ๆ
รอบโครงการเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน เพราะตั้งอยู่ในย่านที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่ รายล้อมด้วยชุมชน หน่วยงานราชการ และพื้นที่ของทหารที่มีคนอยู่อาศัยหนาแน่น ภายในระยะใกล้ ๆ
โดยเฉพาะบนถนนวัชรพล จะพบกับร้านค้าจำเป็นในชีวิตประจำวันมากมาย ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร, ร้านขายยา, ร้านสะดวกซื้อ 24 ชม., ปั๊มน้ำมัน, คาร์แคร์, รวมถึงธนาคารต่าง ๆ ที่กระจายตัวอยู่รายทาง ช่วยให้การใช้ชีวิตสะดวกสบายยิ่งขึ้น
ใกล้ ๆ โครงการ และในระยะเดินไม่เกิน 500 ม.* ยังมีร้านอาหารเจ้าดังอย่างขาหมูเล่าคุงกี่, ก๋วยเตี๋ยวเรือ ป.ประทีบ, ข้าวหมกไก่สยาม รวมถึง Cafe Amazon ให้แวะเติมคาเฟอีนช่วงเช้า นอกจากนี้ยังมีร้านสะดวกซื้อและซูเปอร์มาร์เก็ตอย่าง 7-Eleven, CJ More, Lotus’s go fresh และ MR D.I.Y. ที่พร้อมรองรับทุกไลฟ์สไตล์แบบใกล้บ้านสุด ๆ
สายช้อปหรือครอบครัวที่ต้องการพื้นที่พักผ่อนสุดสัปดาห์ก็ไม่ผิดหวัง เพราะมี Market Place เทพรักษ์ ห่างจากโครงการเพียง 1.9 กม.* ภายในมี Tops Supermarket, ร้านอาหารคาว-หวานเจ้าดัง, ร้านค้า ร้านงานบริการต่าง ๆ ทั้งร้านเสริมสวย, ร้านนวด, คลินิกทำฟัน และโซนอาหารขนาดใหญ่ เทพรักษ์มาร์เก็ต ให้เลือกอิ่มได้ทุกมื้อ
นอกจากนี้ยังมีศูนย์การค้าและห้างค้าปลีกหลายแห่งที่สามารถขับรถไปถึงในไม่กี่นาที* ทั้งเพลินนารี่มอลล์, Lotus’s สายไหม, ICON 56, Foodland สายไหม, Makro Food Service เทพรักษ์, Big C สะพานใหม่, Big C Food Place สุขาภิบาล 5, Lotus’s หลักสี่, Central รามอินทรา, Zeer รังสิต, Fashion Island, Fashion Island, The Promenade, CDC และ Central EastVille ให้เลือกจับจ่ายได้แบบไม่มีเบื่อ
ถ้าเน้นบรรยากาศแบบท้องถิ่น ตลาดสดก็มีให้เลือกหลากหลายทั้ง ตลาดเอสที เพิ่มสิน, ตลาดนัดเลียบด่วน 2, ตลาดออเงิน, ตลาดถนอมมิตร, ตลาดเอซี สายไหม, ตลาดยิ่งเจริญ, ตลาดเซฟวันโก, ตลาดนัดเลียบด่วน และตลาดสี่มุมเมือง ที่เรียกได้ว่าครอบคลุมทั้งของกิน ของใช้ และของฝากในราคาสบายกระเป๋า
ในด้านการศึกษาก็ครบถ้วนไม่แพ้กันค่ะ ใกล้กับโรงเรียนรัฐบาลและเอกชนชั้นนำมากมาย เช่น รร.จารุวรรณ, รร.ศิริวัฒน์วิทยา, รร.รัตนโกสินทร์สมโภชบางเขน, รร.ฤทธิยะวรรณาลัย (มัธยม), รร.ฤทธิยะวรรณาลัย 2, รร.สารสาสน์วิเทศสายไหม, รร.นวมินทราชินูทิศ เบญจมราชาลัย และ รร.สาธิตพัฒนา
ใครที่มองหาหลักสูตรนานาชาติก็มีตัวเลือกอย่าง KPIS International School, Ruamrudee International School (Early Years Campus) และ Harrow International School Bangkok อีกด้วย
สำหรับระดับอุดมศึกษา ยังใกล้กับมหาวิทยาลัยชื่อดังหลายแห่ง เช่น ม.ราชภัฏพระนคร, ม.ศรีปทุม, Western University และ ม.เกษตรศาสตร์ บางเขน ตอบโจทย์ทั้งครอบครัวที่มีลูกวัยเรียน หรือแม้แต่คนที่ต้องการศึกษาต่อในย่านนี้
ด้านบริการสาธารณสุขก็มั่นใจได้ เพราะรอบโครงการมีโรงพยาบาลชั้นนำหลายแห่ง เช่น รพ.ภูมิพลอดุลยเดช, รพ.ซีจีเอช พหลโยธิน, รพ.ซีจีเอช สายไหม, รพ.บี.แคร์ เมดิคอลเซ็นเตอร์, รพ.อินทรารัตน์, รพ.สินแพทย์ รามอินทรา, รพ.พญาไท นวมินทร์, รพ.ราชวิถี 2 และ รพ.แพทย์รังสิต
ไม่ว่าจะเป็นกรณีฉุกเฉินหรือการดูแลสุขภาพระยะยาวก็มีทางเลือกมากมาย และหากใครมีคุณหมอประจำอยู่ในเมือง ก็สามารถเดินทางด้วยทางด่วนฉลองรัชหรือถนนพหลโยธินได้สะดวก
สุดท้ายคือแหล่งงานและหน่วยงานราชการต่าง ๆ ที่ถือเป็นจุดแข็งอีกหนึ่งด้านของโครงการ เพราะตั้งอยู่ใกล้กับสำนักงานเขตสายไหม รวมถึงพื้นที่สำคัญของกองทัพอากาศอย่างสํานักงานการบิน, อุทยานการบิน, พิพิธภัณฑ์ และกองบัญชาการกองทัพอากาศ ภายในรัศมีไม่เกิน 5 กม.* ทำให้เหมาะกับครอบครัวข้าราชการหรือพนักงานที่ทำงานในหน่วยงานเหล่านี้เป็นพิเศษ
และในช่วงวันหยุดยังสามารถพาครอบครัวไปเที่ยว Safari World ได้ง่าย ๆ หรือหากต้องเดินทางไปต่างจังหวัดหรือต่างประเทศบ่อย ๆ ก็นับว่าเป็นทำเลที่ตอบโจทย์ เพราะอยู่ห่างจากสนามบินดอนเมืองเพียงประมาณ 10-15 นาที* เท่านั้น
ศูนย์การค้า
ตลาด
สถานศึกษา
โรงพยาบาล
อื่น ๆ
**ระยะทางวัดจากการเดินทางสู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด**
พิกัดโครงการ : https://maps.app.goo.gl/DKprPgrEa26PCers5
เริ่มจากถนนพหลโยธิน ⇒ เลี้ยวซ้ายกลับรถใต้สะพานเชื่อมใหม่ (ถนนวิภาวดี-ถนนพหลโยธิน) ⇒ เข้าถนนเทพรักษ์ ตรงไปประมาณ 4 กม.* ⇒ เบี่ยงซ้ายเข้าถนนวัชรพล มุ่งหน้าเพิ่มสิน ประมาณ 1.7 กม. ⇒ ถึงโครงการ โครงการ Premium Place พหลโยธิน-เทพรักษ์ (อยู่ซ้ายมือ)
การเดินทางในวันนี้เราเริ่มจากถนนพหลโยธิน ฝั่งขาออก ตรง BTS สายหยุด
ผ่าน BTS สายหยุด ไปทางแยกสะพานใหม่ แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนเทพรักษ์ ถนนตัดใหม่เชื่อมพหลโยธิน-วิภาวดีรังสิต
เลี้ยวซ้ายมาแล้วให้ชิดขวา
เบี่ยงขวาไปตามป้ายสุขาภิบาล เพื่อกลับรถใต้สะพาน
กลับรถมาแล้วให้ขึ้นสะพานข้ามแยกไป
ขับลงมายังถนนเทพรักษ์
ขับตรงไปผ่านปั๊มน้ำมันบางจาก และ Makro Food Service เทพรักษ์ ทางฝั่งขวามือ
จากสะพานข้ามแยกตรงมาประมาณ 4 กม.* สังเกต B-Quik ให้เราชิดซ้ายไว้ค่ะ
ชิดซ้ายเลี้ยวเข้าสู่ถนนวัชรพล
ตรงไปประมาณ 1.7 กม.* ถึงโครงการ
ขับเข้ามาบนถนนวัชรผล อีกประมาณ 1.7 กม.* โดยจะผ่าน 7-Eleven และ รร.จารุวรรณ ทางฝั่งซ้ายมือ
ขับตรงไปเรื่อย ๆ จะผ่านร้านค้า ร้านอาหาร ตลาดแพนด้า และเวนิช ดิ ไอริชไป
ผ่านตลาดมูมารวย
ตรงมาเรื่อย ๆ จนเจอกับซอยวัชรพล 3 และ 7-Eleven ให้เราชิดซ้าย
ชิดซ้ายแล้วเลี้ยวเข้าสู่โครงการได้เลยค่ะ
ด้านหน้าโครงการ Premium Place พหลโยธิน-เทพรักษ์
ภาพมุมสูงของโครงการ Premium Place พหลโยธิน-เทพรักษ์ สะท้อนถึงการวางผังที่ลงตัวบนทำเลศักยภาพ โครงการตั้งอยู่ติดถนนวัชรพล บนพื้นที่กว่า 4 ไร่ ถูกพัฒนาให้เป็นทาวน์โฮมสูง 3.5 ชั้น รวมเพียง 41 ยูนิต ให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัว เหมาะสำหรับทั้งการอยู่อาศัยและการทำโฮมออฟฟิศ โดยทำเลนี้สามารถเชื่อมต่อถนนเทพรักษ์ และถนนเพิ่มสิน-สุขาภิบาล 5 ได้อย่างสะดวก ช่วยให้การเดินทางเข้าออกเมืองหรือไปยังโซนรามอินทรา-สายไหมทำได้ง่าย
โครงการแวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันในระยะเดินถึง ไม่ว่าจะเป็น 7-Eleven ที่ตั้งอยู่ติดปากซอยวัชรพล 3 ซึ่งอยู่ฝั่งเดียวกับตัวโครงการ ช่วยให้การใช้ชีวิตประจำวันสะดวกมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีตลาดทรัพย์อนันต์ ที่รวมร้านอาหารชื่อดังไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นขาหมูเล่าคุงกี่, ก๋วยเตี๋ยวเรือ ป.ประทีป หรือจะนั่งจิบกาแฟที่ Cafe Amazon ก็มีให้บริการภายในพื้นที่เดียวกัน
หากมองไปทางด้านซ้ายของโครงการ จะพบกับเต้นท์ขายรถ คาร์แคร์ ร้านค้าขนาดกลางและซูเปอร์มาร์เก็ตต่าง ๆ เช่น CJ More, Lotus’s go fresh, MR.DIY และร้านข้าวหมกไก่สยาม รวมถึงปั๊ม PT ที่เปิดให้บริการตลอดวันในระยะเดินถึง ช่วยเติมเต็มความสะดวกสบายได้แบบไม่ต้องพึ่งรถยนต์
ในขณะที่ฝั่งทิศตะวันตกและทิศใต้ของโครงการยังเป็นที่ดินเปล่าและพื้นที่สีเขียวของบุคคลอื่น ซึ่งนอกจากจะเพิ่มความเป็นส่วนตัวแล้ว ยังช่วยให้บรรยากาศภายในโครงการดูร่มรื่นและสงบมากยิ่งขึ้น
ทั้งหมดนี้ทำให้ Premium Place พหลโยธิน-เทพรักษ์ กลายเป็นโครงการแนวราบที่โดดเด่นทั้งในแง่ของทำเล การเดินทาง และสิ่งแวดล้อมรอบข้าง ที่ผสานความเป็นเมืองและความเป็นส่วนตัวได้อย่างกลมกลืน
รอบโครงการ
รอบโครงการ
พาเดินดูรอบ ๆ โครงการกันสักเล็กน้อยนะคะ จาก Main Gate โครงการมองตรงออกมาจะติดกับถนนวัชรพล ตรงข้ามเป็นตลาดทรัพย์อนันต์ ที่มีร้านค้า ร้านอาหารเปิดอยู่หลายร้าน
เดินมาข้างโครงการ ตรงปากซอยวัชรพล 3 จะมี 7-Eleven ขนาดใหญ่ พร้อมร้านอาหาร และที่จอดรถสำหรับลูกค้าให้บริการ
ข้าง ๆ กันเป็นซอยวัชรพล 3 หน้าปากซอยจะมีคิวมอเตอร์ไซค์รับจ้างให้บริการ ถัดไปอีกหน่อยจะมีป้ายรถเมล์ และร้านอาหารเปิดเรียงรายตลอดสองข้างทางถนนวัชรพล
ด้านหน้าซอยวัชรพล 3 จะมีทางม้าลายใช้ข้ามไปฝั่งตรงข้ามได้
ตรงข้ามโครงการเลย จะมีร้านอาหารเปิดอยู่หลายร้านเลยนะค ทั้ง ป.ประทีป ก๋วยเตี๋ยวเรือ, เล่าคุงกี่ ข้าวขาหมู, Cafe Amazon และมีร้านซ่อมรถมอเตอร์ไซค์ ร้านเสริมสวย พร้อมที่จอดรถให้บริการทางด้านหลังด้วยค่ะ
มองกลับมาจะเห็นตัวโครงการริมถนนแบบนี้
จากโครงการเดินขึ้นไปทางถนนเพิ่มสิน จะมีคาร์แคร์ และเต้นท์รถมือสองเปิดอยู่
ถัดมาจะมี CJ More พร้อมที่จอดรถลูกค้า และมีร้านสะดวกซื้อ 24 ชม. รวมถึงร้านอาหารเปิดอยู่
ถัดไปจะมี Lotus’s go fresh ร้านอาหาร ด้านหน้ามีตู้ ATM และที่จอดรถลูกค้าให้บริการ
ถัดมาจะมีร้านข้าวหมกไก่สยาม และ MR D.I.Y.
มองตรงไปจะเป็นถนนวัชรพล ที่เชื่อมต่อกับถนนเพิ่มสิน และสุขาภิบาล 5 ซึ่งตลอดสองข้างทางจะมีร้านค้า ร้านอาหาร และปั๊มน้ำมันเปิดอยู่เยอะมาก ๆ เลยค่ะ
ตัวโครงการ
ด้านหน้าโครงการ Premium Place พหลโยธิน-เทพรักษ์ ออกแบบมาอย่างเรียบหรูและมีสไตล์ ด้วยการวางผังที่ติดถนนวัชรพล ช่วยให้เข้า-ออกสะดวก พร้อมยังคงความเป็นส่วนตัวสูง เนื่องจากทั้งโครงการมีเพียง 41 ยูนิตเท่านั้น
Main Gate และ Clubhouse ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้า ตัวอาคารใช้สถาปัตยกรรมแบบ Modern ที่ดูเรียบง่ายแต่ทันสมัย ด้วยการเลือกใช้โทนสีเทาและสีเบจเป็นหลัก ให้ความรู้สึกอบอุ่นและมีความเรียบร้อยในแบบบ้านระดับพรีเมียม
ผนังภายนอกตกแต่งด้วยวัสดุหินเทียมที่ช่วยเพิ่มความหรูหราให้กับภาพรวมของอาคาร เสริมความโอ่อ่า และสร้างมิติที่น่าสนใจโดยไม่ต้องพึ่งรายละเอียดที่ซับซ้อน ทำให้ Clubhouse ของที่นี่กลายเป็นทั้งจุดต้อนรับ และศูนย์กลางของโครงการที่สะท้อนภาพลักษณ์ของความมีระดับได้อย่างชัดเจน
ทางเข้า-ออกโครงการถูกออกแบบมาอย่างเป็นสัดส่วน โดยแยกช่องทางสำหรับรถยนต์และทางเดินเท้าไว้อย่างชัดเจน ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้อยู่อาศัย และยังส่งเสริมให้บรรยากาศหน้าโครงการดูเป็นระบบระเบียบ ไม่วุ่นวาย
ถนนเมนบริเวณโซนหน้าโครงการปูพื้นด้วย แสตมป์คอนกรีต ที่ให้ผิวสัมผัสสวยงาม และเสริมภาพลักษณ์ของความเรียบร้อย ตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาในโครงการ ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มมูลค่าภาพรวมของพื้นที่แล้ว ยังให้ความรู้สึกที่พรีเมียม สะท้อนถึงความตั้งใจในการออกแบบทุกมุมของโครงการได้เป็นอย่างดี
ลูกบ้านเข้า-ออกแบบ Double Gate ผ่านระบบ Easy Pass ที่ช่วยให้การเดินทางราบรื่นโดยไม่ต้องจอดทุกครั้ง พร้อมกล้อง CCTV ที่ติดตั้งไว้ฝั่งละ 2 ตัว เพื่อจับภาพทั้งตัวรถและป้ายทะเบียนอย่างชัดเจน เสริมความปลอดภัยให้กับทุกยูนิตตลอด 24 ชม.
ในส่วนของผู้มาติดต่อหรือ Visitor จะต้องแลกบัตรและผ่านการตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก่อนเข้าโครงการทุกครั้ง ซึ่งเป็นมาตรการมาตรฐานที่ช่วยคัดกรองผู้เข้า-ออก และรักษาความเป็นส่วนตัวของลูกบ้านในระดับที่มั่นใจได้
ติดกับทางรถออกจะจะเป็นพื้นที่ของ Clubhouse โดยชั้นล่างจะเป็น Lobby Lounge ที่ใช้เป็นสำนักงานขายในปัจจุบันค่ะ
ตรงกลางโครงการเป็นถนนเมนขนาดกว้างถึง 18 ม. ไม่เพียงแต่ให้ความสะดวกในการสัญจร แต่ยังสามารถใช้เป็นพื้นที่จอดรถส่วนกลางสำหรับลูกบ้านได้อีกด้วย รองรับการอยู่อาศัยที่คล่องตัวในทุกวัน
บรรยากาศบ้านโซนหน้าโครงการ
มองกลับมาทางด้านหน้าโครงการ จะเห็น Main Gate และ Clubhouse ขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บริเวณหน้าสุดของโครงการ โดยภายในจะประกอบด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้ง Lobby Lounge, สระว่ายน้ำ, และห้องน้ำแยกชาย-หญิง
สำหรับชั้น 2 ของอาคารจะเป็นที่ตั้งของ ห้องนิติบุคคล, Co-Working Space และ Fitness ขนาดใหญ่ ที่พร้อมรองรับทุกไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยได้อย่างเต็มที่
เข้าไปดู Facilities ของโครงการกันต่อค่ะ
ตรงเข้ามาจะเจอกับ Lobby Lounge ทางฝั่งขวามือ
ภายในโซน Lobby Lounge ของโครงการ ถูกออกแบบให้เป็นห้องรับรองที่ให้ความรู้สึกโอ่อ่าสบายตา ด้วยเพดานที่สูงโปร่ง และผนังกระจกแบบ Full Height รอบด้าน ช่วยเปิดรับแสงธรรมชาติและมุมมองแบบ 180 องศา ทั้งภายในและภายนอกโครงการ ทำให้บรรยากาศภายในดูโปร่งโล่งและอบอุ่น
พร้อมตกแต่งด้วยชุดโซฟาสำหรับรองรับแขกที่เข้ามาติดต่อหรือนั่งพักผ่อนอย่างเป็นกันเอง ในปัจจุบันพื้นที่ส่วนนี้ถูกใช้เป็น สำนักงานขาย ที่พร้อมต้อนรับลูกค้าทุกวัน ตั้งแต่เวลา 9:30-18:30 น. โดยสามารถนัดหมายล่วงหน้าหรือ Walk-in เข้ามาเยี่ยมชมโครงการได้ตามความสะดวกค่ะ
ถัดจาก Lobby Lounge เข้าไป จะเจอกับสระว่ายน้ำ และบันไดทางขึ้นชั้น 2
ด้านนอกจะเป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือ แบบ Lap Pool รอบสระมีการจัดสวนสวยให้ความร่มรื่นและสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายขณะออกมาใช้งาน
ท้ายสระว่ายน้ำเป็น Pool Terrace ที่มี Sunbed จัดวางไว้ให้ 2 ตัว
อีกด้านของสระเป็นห้องน้ำส่วนกลาง แยกชาย-หญิงไว้อย่างละ 1 ห้อง และจุดล้างตัวก่อนลงสระว่ายน้ำ
จุดล้างตัวจะติดตั้งฝักบัวให้ 2 แบบ ทั้ง Hand Shower และ Rain Shower
ห้องน้ำหญิงแบบ Powder Room ติดตั้งสุขภัณฑ์มาตรฐานให้ครบ
ห้องน้ำชายแบบ Powder Room พร้อมติดตั้งสุขภัณฑ์มาตรฐานให้ครบเช่นกันค่ะ
ริมสระว่ายน้ำจะมีบันไดทางขึ้นไปชั้น 2
ชั้น 2 จะประกอบไปด้วยห้องนิตบุคคล, Co-Working Space และ Fitness ที่อยู่เหนือ Main Gate
Co-Working Space ถูกออกแบบมาอย่างใส่ใจในทุกรายละเอียด ตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินเข้าไปจะรู้สึกได้ถึงความโปร่งโล่งจากเพดานสูง และผนังกระจกขนาดใหญ่ที่หันหน้าออกสู่ด้านหน้าโครงการ เปิดรับแสงธรรมชาติและวิวโดยรอบได้เต็มสายตา บรรยากาศภายในจึงดูสว่าง สบาย และเหมาะกับการใช้งานในทุกช่วงเวลา
ภายในตกแต่งเน้นความเรียบหรูในโทนสีอ่อน ดูอบอุ่นและทันสมัย เฟอร์นิเจอร์ถูกจัดวางไว้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นโซฟารับรองแบบกลุ่ม โต๊ะกลมสำหรับนั่งทำงาน หรือมุมที่นั่งเดี่ยว-คู่อเนกประสงค์ ทุกจุดถูกออกแบบมาเพื่อให้รองรับได้ทั้งการทำงาน เรียนหนังสือ หรือพักผ่อนในบรรยากาศแอร์เย็นสบาย เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่ช่วยเติมเต็มชีวิตประจำวันให้ลงตัวมากยิ่งขึ้น
อีกด้านหนึ่งของโครงการจะเป็นโซน สวนส่วนกลางขนาดกลาง ที่ออกแบบให้กลมกลืนกับขนาดของที่ดินและจำนวนยูนิตเพียง 41 หลัง บรรยากาศในสวนให้ความรู้สึกสงบ ร่มรื่น เหมาะสำหรับการพักผ่อนในทุกช่วงเวลา
งานจัดสวนเน้นเส้นสายที่โค้งมน พริ้วไหว ช่วยสร้างความรู้สึกผ่อนคลายตั้งแต่แรกเห็น พร้อมทั้งจัดวางฟังก์ชันใช้งานได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นมุมนั่งเล่นในสวนสำหรับพักผ่อน หรือพื้นที่สำหรับเด็ก ๆ ได้วิ่งเล่นปลอดภัยในพื้นที่สีเขียว โซนนี้จึงเป็นอีกหนึ่งจุดเติมเต็มความสุขของครอบครัวได้อย่างอบอุ่น หรือจะใช้เป็นพื้นที่พักสายตาจากการทำงานมาตลอดทั้งวันก็ได้
ภายในสวนจะมีม้านั่งฟรีฟอร์ม และมุมนั่งเล่นพักผ่อนหย่อนใจใต้ต้นไม้ใหญ่ให้แบบนี้
อีกด้านจะเป็นสนามหญ้าขนาดย่อม ๆ พร้อมชิงช้าสำหรับเด็ก ๆ ในโครงการอีก 1 คู่ค่ะ
บรรยากาศภาพรวมภายในสวนส่วนกลางด้านหน้าโครงการ
แบบบ้าน
โครงการ Premium Place พหลโยธิน-เทพรักษ์ มีแบบบ้านให้เลือก 2 ขนาด คือ แบบหน้ากว้าง 5 ม. พื้นที่ใช้สอย 205 ตร.ม. และแบบหน้ากว้าง 5.4 ม. พื้นที่ใช้สอย 220 ตร.ม. ซึ่งทั้งสองแบบถูกออกแบบมาในดีไซน์เดียวกันทั้งภายนอกและภายใน ไม่ว่าจะเป็นสไตล์ของตัวบ้าน หรือฟังก์ชันการใช้งานภายในแต่ละชั้น
ความแตกต่างหลักจะอยู่ที่ขนาดของพื้นที่ใช้สอย โดยบ้านหน้ากว้าง 5.4 ม. จะมีพื้นที่ภายในที่กว้างขวางขึ้นในแต่ละจุด ทั้งห้องนั่งเล่น ห้องนอน หรือพื้นที่ส่วนกลางภายในบ้าน ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งานให้มากยิ่งขึ้น
ขณะที่ฟังก์ชันหลักและวัสดุที่ได้รับยังคงเหมือนกันทุกประการ ทำให้ลูกค้าสามารถเลือกแบบบ้านให้เหมาะกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของแต่ละครอบครัวได้อย่างลงตัว
แปลนบ้านชั้น 1 / ชั้นลอย / ชั้น 2 / ชั้น 3
แปลนบ้านชั้น 1 / ชั้นลอย / ชั้น 2 / ชั้น 3
บ้านตัวอย่าง
วันนี้เราจะพาไปชมบ้านตัวอย่าง 1 หลัง คือ
จุดเด่นของบ้านโครงการ Premium Place พหลโยธิน-เทพรักษ์ คือ เป็นทาวน์โฮม 3.5 ชั้น ที่มาพร้อมพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่เทียบเท่าบ้านเดี่ยว ภายในบ้านมีพื้นที่กว้างขวาง สามารถแบ่งฟังก์ชันสำหรับทำงานและที่อยู่อาศัยในหลังเดียวกันได้อย่างสบาย ๆ โดยมาพร้อมโครงสร้างบ้านที่แข็งแรง และวัสดุคุณภาพสูง ดังนี้ :
ตัวบ้านก่อสร้างด้วยระบบ Conventional ใช้อิฐมวลเบา ซึ่งช่วยป้องกันความร้อนได้ดี ทำให้ภายในบ้านเย็นสบาย อีกทั้งยังง่ายต่อการต่อเติมและดัดแปลงฟังก์ชันต่าง ๆ ได้โดยไม่กระทบโครงสร้างหลักของบ้าน
ผนังห้องน้ำก่อด้วยอิฐมอญแดง ที่มีความแข็งแรง ทนทาน และทนต่อความชื้นได้ดี เหมาะสำหรับการใช้งานในระยะยาว รวมถึงง่ายต่อการเสริมฟังก์ชันหรือปรับเปลี่ยนภายหลัง
พื้นห้องน้ำเป็นแบบหล่อในที่ โดยมีการผสมน้ำยากันซึมลงไปในขั้นตอนการก่อสร้าง ช่วยป้องกันปัญหาการรั่วซึมเมื่อใช้งานในระยะยาว
หน้าบ้านและหลังบ้านลงเสาเข็มลึกเท่าตัวบ้าน เพื่อรองรับการต่อเติม ไม่ว่าจะเป็นหลังคาโรงจอดรถด้านหน้า หรือครัวไทยด้านหลัง ช่วยลดต้นทุนในการต่อเติมได้หลักแสนบาท และมั่นใจในความมั่นคงแข็งแรงของโครงสร้างในระยะยาว
บ้านตัวอย่าง
บ้านตัวอย่างของโครงการ Premium Place พหลโยธิน-เทพรักษ์ เป็นทาวน์โฮม 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 5.4 ม. ตั้งอยู่บนที่ดินเริ่มต้นประมาณ 20 ตร.ว. ขึ้นไป พร้อมพื้นที่ใช้สอยกว้างถึง 220 ตร.ม. เทียบเท่าบ้านเดี่ยว ฟังก์ชันภายในบ้านจัดเต็ม ตอบโจทย์ทั้งการอยู่อาศัยและการทำธุรกิจ โดยมี 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และ Living & Dining Area แบบ Double Volume สูง 6 ม. ที่ช่วยให้บ้านดูโปร่งโล่งมากขึ้น รองรับการใช้งานที่หลากหลาย พร้อมที่จอดรถส่วนตัว 2 คัน
ภายนอกบ้านมาในสไตล์ Modern ที่ดูเรียบหรูแต่ทันสมัย มีการใช้ผนังกระจกขนาดใหญ่ช่วยเปิดรับแสงธรรมชาติเข้าสู่ตัวบ้านในเวลากลางวัน ทำให้อาคารดูสว่างและโปร่งสบาย การตกแต่ง Façade ใช้เส้นสายที่ชัดเจน มีมิติ เพิ่มความโดดเด่นให้ตัวบ้านในทุกมุมมอง โทนสีที่ใช้เป็น สีเอิร์ธโทน อย่างเทา ขาว และน้ำตาล ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น สะอาดตา และลงตัวกับบริบทของโครงการ
ด้านโครงสร้างบ้าน ใช้ระบบ Conventional ก่อด้วยอิฐมวลเบาที่มีคุณสมบัติกันความร้อน และเก็บเสียงได้ดี ทำให้บ้านเย็นสบายและเป็นส่วนตัว อีกทั้งยังสามารถ ต่อเติมหรือปรับเปลี่ยนผังภายใน ได้ในอนาคตโดยไม่กระทบต่อโครงสร้างหลัก ประตู-หน้าต่างเลือกใช้กรอบอะลูมิเนียม Powder Coat สีดำ พร้อมกระจกเขียวตัดแสง ช่วยกรองแสงร้อนและลดการใช้พลังงานภายในบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แปลนบ้านชั้น 1 ถูกออกแบบมาอย่างลงตัว เริ่มตั้งแต่พื้นที่หน้าบ้านที่สามารถจอดรถได้ 2 คัน ถัดไปมีตู้เก็บของให้ 1 ตู้ พร้อมประตูทางเข้าหลัก กลอน Digital Door Lock ซึ่งเชื่อมเข้าสู่โถง Foyer ภายในบ้าน โซนนี้เป็นจุดกลางที่เชื่อมต่อไปยังห้องนอนชั้นล่าง, ห้องน้ำ, โถงบันได และ Double Volume Living & Dining Area ขนาดใหญ่ เพดาสูง 6 ม. ที่เปิดโล่งรับแสงธรรมชาติได้ดี
ด้านหลังบ้านเป็นลานซักล้างขนาดใหญ่ ที่โครงการเตรียมโครงสร้างไว้ให้เรียบร้อย ทั้งการลงเสาเข็มให้ลึกเท่าตัวบ้าน เทพื้นปูกระเบื้อง ก่อกำแพงสูง พร้อมติดตั้งปั๊มน้ำและถังสำรองน้ำให้ครบ รองรับการต่อเติมเป็นฟังก์ชันเสริม เช่น ครัวไทย มุมนั่งเล่น หรือ Glass House ได้ทันที โดยรวมแล้วพื้นที่ในชั้นนี้เหมาะสำหรับ ครอบครัวขนาด 4-5 คน ที่ต้องการความยืดหยุ่นในการอยู่อาศัย
แปลนบ้านชั้นลอย เป็นพื้นที่ Family Area ขนาดใหญ่ ที่สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้อเนกประสงค์ ไม่ว่าจะเป็นมุมนั่งเล่น มุมทำงาน หรือจัดกิจกรรมร่วมกันของครอบครัว ก็ทำได้อย่างลงตัวในบรรยากาศโปร่งสบาย
แปลนบ้านชั้น 2 ประกอบด้วย ห้องนอนขนาดใหญ่ 2 ห้อง และห้องน้ำส่วนกลาง 1 ห้อง สำหรับแชร์การใช้งาน โดยห้องฝั่งหน้าบ้านจะมีระเบียงส่วนตัว เพิ่มความเป็นส่วนตัวและพื้นที่พักผ่อนให้กับผู้อยู่อาศัย
แปลนบ้านชั้น 3 ถูกจัดให้เป็นพื้นที่ของ Penthouse แบบเต็มชั้น พร้อมฟังก์ชันครบครัน ทั้งมุมพักผ่อนขนาดใหญ่ มุมทำงานส่วนตัว ห้องน้ำในตัว และระเบียงส่วนตัวในห้อง ที่ให้ความรู้สึกหรูหรา เป็นส่วนตัว และใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่
หน้าบ้านจริงติดตั้งประตูรั้วระแนงเหล็กสีดำ แบบพับ 4 ตอน หน้าบ้านติดตั้งกล่องจดหมาย และกริ่งไร้สายมาให้ครบ
ที่จอดรถโครงสร้างแข็งแรง มีการลงเสาเข็มมาให้ลึกเท่าตัวบ้าน เทพื้นด้านบนแบบหล่อในที่ รองรับการจอดรถยนต์ได้ 2 คัน ชายคาด้านในติดตั้งโคมไฟ Downlight ให้ 2 ดวง
กลับมาที่บริเวณหน้าบ้านตัวอย่าง โซนที่จอดรถถูกตกแต่งด้วยพื้นแสตมป์คอนกรีต ที่ให้ทั้งความสวยงามและความแข็งแรง พร้อมจัดสวนหน้าบ้านเล็ก ๆ ไว้เป็นไอเดียเพิ่มบรรยากาศความร่มรื่น ตั้งแต่ก้าวแรกก่อนเข้าสู่ตัวบ้าน
พื้นที่ใต้ชายคาถูกใช้ประโยชน์ได้อย่างคุ้มค่า ซ้ายมือเป็นตู้เก็บของหน้าบ้าน ตรงกลางของพื้นที่คือ ประตูทางเข้าหลักของบ้าน ขณะที่ด้านขวามือจะเป็นบานเลื่อนกระจกใส ที่เปิดรับแสงธรรมชาติเข้าสู่ ห้องนอน 4 ซึ่งตั้งอยู่ชั้นล่างสุดของบ้าน ให้บรรยากาศโปร่ง โล่ง และน่าอยู่
หน้าบ้านมีตู้เก็บของแนวสูง พร้อมประตูบานทึบที่จัดสรรให้มาเป็นสัดส่วน สามารถใช้เก็บอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้อย่างเป็นระเบียบ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ล้างรถ อุปกรณ์ทำสวน ของใช้ทำความสะอาด หรือเครื่องมือช่างพื้นฐานประจำบ้าน เพื่อการหยิบใช้งานได้ง่ายในชีวิตประจำวัน
ในส่วนของงานระบบ ด้านข้างบ้านมีการติดตั้ง ปลั๊กไฟพร้อมฝาครอบกันน้ำ มาให้ 1 จุด รองรับการใช้งานไฟฟ้าภายนอกได้อย่างปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นการใช้เครื่องมือไฟฟ้า หรือชาร์จอุปกรณ์ขณะทำงานนอกบ้าน
สำหรับ ประตูทางเข้าหลัก ใช้เป็นประตูไม้สำเร็จรูปสีเทาเรียบหรู เสริมด้วยช่องแสงกระจกบานฟิกซ์ที่ช่วยรับแสงธรรมชาติ และสามารถมองเห็นคนที่เดินผ่านหน้าบ้านได้ ช่วยเพิ่มทั้งความปลอดภัยและความสว่างให้กับภายในตัวบ้าน พร้อมติดตั้ง Digital Door Lock แบบครบฟังก์ชัน ใช้งานได้ทั้งการกดรหัส, แตะ Key Card หรือ Finger Scan ก็สะดวก ปลอดภัย และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ได้อย่างลงตัว
เปิดประตูเข้ามาภายในบ้าน จะเจอกับ Foyer หรือพื้นที่ต้อนรับทางด้านหน้าบ้าน ฝ้าเพดานสูง 2.75 ม. พื้นบ้านชั้นล่างในบ้านจริงจะปูเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้สีเบจ 60 x 60 ซม. ผนังและฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสีขาว พร้อมติดโคมไฟ Downlight ให้มาตรฐานทั้งหลังค่ะ
บริเวณ Foyer จะประกอบไปด้วยห้องนอน 4 ทางด้านหน้าบ้าน, ห้องน้ำชั้นล่าง และโถงบันได โดยพื้นที่ใต้โถงบันไดบางส่วนเราสามารถทำ Built-in เป็นตู้เก็บของหรือตู้เก็บรองเท้าเพิ่มได้ค่ะ
ห้องนอน 4 ตั้งอยู่ทางด้านหน้าบ้าน รองรับการทำเป็นห้องนอนผู้สูงอายุ หรือปรับฟังก์ชันเป็นห้องอเนกประสงค์ตามไลฟ์สไตล์ได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะทำเป็นห้องทำงาน ห้องเด็กเล่น ห้องสำหรับสัตว์เลี้ยง หรือ Live Studio สำหรับคนทำงาน Online ก็ลงตัวค่ะ
ภายในบ้านตัวอย่างตกแต่งเป็นห้องนอนรอง โดยวางเตียงนอน 3 ฟุต และตู้เสื้อผ้าแบบเปิดที่ข้างเตียงมาให้ดูเป็นแนวทาง
ผนังฝั่งหน้าบ้านติดตั้งหน้าต่างกระจกบานเลื่อนมาให้ 1 บาน
ผนังข้างประตู มีพื้นที่เหลือให้ติดชั้นวางของ หรือติด Smart TV ที่ผนังได้เลยค่ะ
ติดกันจะเป็นห้องน้ำชั้นล่าง เป็นห้องแบบตอนลึก ตกแต่งผนังด้วยกระเบื้องลายหินอ่อน และปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิกกันลื่นสีเทา แบ่งฟังก์ชันส่วนแห้งและส่วนอาบน้ำมาให้เรียบร้อย สุขภัณฑ์มาตรฐานในห้องน้ำใช้เป็นของ Cotto และมี Low-Wall สำหรับวางของใช้ พร้อมกระจกเงาขนาดใหญ่ติดมาให้ 1 บาน
ส่วนแห้งติดตั้งอ่างล้างมือทรงเหลี่ยม พร้อมชั้นวางของลายไม้ใต้อ่าง ก๊อกน้ำเป็นแบบก้านโยก เปิดใช้งานได้สะดวก และมีพื้นที่หน้าอ่างให้วางของใช้เล็ก ๆ น้อย ๆ ได้
ติดกันเป็นโถสุขภัณฑ์ 1 Piece ระบบ Dual Flush พร้อมสายฉีดชำระและที่แขวนกระดาษทิชชูครบเซ็ต
เพดานด้านบนติดตั้งพัดลมระบายอากาศให้ 1 เครื่อง ผนังซ้ายมือติดราวแขวนผ้าให้ 1 ชิ้น
ภายในส่วนอาบน้ำได้พื้นที่มากว้างกำลังดี มีการลดระดับลงไปให้เล็กน้อย พร้อมติดฉากกั้นกระจกนิรภัยแบบบานเปลือยแยกโซนมาให้ด้วยค่ะ
ด้านในจะได้ฝักบัว Hand Shower ก๊อกน้ำก้านโยก ผนังเจาะช่องทำชั้นวางของให้ 1 ชั้น และอีกฝั่งจะมี Junction Box ที่รองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นได้เลยค่ะ
ถัดจากโถง Foyer ทางเข้าบ้าน เมื่อเดินเข้ามาภายในจะพบกับ Living & Dining Area ที่ให้ความรู้สึกกว้างขวางและโอ่อ่า ด้วยการออกแบบเพดานแบบ Double Volume สูงถึง 6 ม. ช่วยขยายมิติของพื้นที่ให้ดูโปร่งโล่ง รับแสงธรรมชาติได้ดี โดยเฉพาะในบ้านแปลงมุมที่จะมี ช่องแสงเพิ่มเติมทางฝั่งข้างบ้าน ยิ่งทำให้พื้นที่ตรงนี้ดูสว่างและอบอุ่นมากยิ่งขึ้น
บรรยากาศภายในบ้านตัวอย่างถูกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์อย่างลงตัว เพื่อใช้เป็นไอเดียในการจัดวางพื้นที่ใช้งานจริง
ทางฝั่งขวามือของบ้านจะเป็นโซน Dining Area ที่มีพื้นที่กว้างขวางพอสำหรับวาง โต๊ะทานข้าวขนาดใหญ่ รองรับได้ถึง 6–8 ที่นั่ง เหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่ หรือใช้จัดมื้อพิเศษกับแขกในบรรยากาศที่เป็นกันเองและอบอุ่น
ด้วยความสูงของ ฝ้าเพดานแบบ Double Volume ยังเปิดโอกาสให้สามารถ ติดตั้ง Chandelier สวย ๆ เพื่อเพิ่มความหรูหราและสร้างบรรยากาศให้กับมื้ออาหารได้อย่างโดดเด่น ช่วยยกระดับพื้นที่รับประทานอาหารให้ดูพิเศษขึ้นอีกระดับ ทั้งในแง่ของดีไซน์และการใช้งาน.
สำหรับบ้านแปลงมุม จะมีประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ ที่เปิดออกไปยังสวนด้านข้างของบ้าน เพิ่มมิติของพื้นที่ภายในและเชื่อมต่อกับพื้นที่สีเขียวภายนอกได้อย่างราบรื่น ไม่เพียงแค่ช่วยเพิ่มความสวยงาม แต่ยังทำให้บ้านดูปลอดโปร่ง รับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ และถ่ายเทอากาศได้ดีอีกด้วย
อีกด้านของบ้านจะเป็นพื้นที่สำหรับทำครัว ที่อยู่ใกล้กันกับ Dining Area สะดวกต่อการเคลื่อนย้ายจัดเสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่มเป็นอย่างดี
Kitchen Area ภายในบ้านถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้อย่างคล่องตัว ด้วยหน้ากว้างประมาณ 3 ม.* และเพดานสูงถึง 6 ม. เท่ากับโซน Double Volume ช่วยให้พื้นที่ตรงนี้ดูโปร่งโล่ง ไม่อึดอัด พร้อมรองรับการ Built-in เคาน์เตอร์ครัวแนวยาว ได้เต็มผนัง ไม่ว่าจะวางตู้เย็น หรือออกแบบตู้เก็บของในแนวสูงเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอย ก็สามารถจัดสรรให้ดูเป็นระเบียบและใช้งานได้จริง
ด้วยสัดส่วนพื้นที่ที่พอดี และความสูงของฝ้าเพดานที่พิเศษกว่าทาวน์โฮมทั่วไป ครัวในบ้านหลังนี้จึงสามารถปรับฟังก์ชันให้ตอบโจทย์ได้ทั้งครัวเบาแบบฝรั่ง หรือจะต่อเติมฟังก์ชันอื่น ๆ ก็ทำได้อย่างยืดหยุ่นตามไลฟ์สไตล์ของเจ้าของบ้าน
ต่อเนื่องจากโซนกลางบ้านไปจะเป็นพื้นที่ ซักล้างหลังบ้าน ซึ่งถูกออกแบบให้ใช้งานได้จริงและแยกเป็นสัดส่วน บ้านจริงจะมีการกั้นผนังด้วยอิฐมวลเบา เพื่อความเป็นส่วนตัวและเพิ่มความแข็งแรง ในส่วนล่างจะติดตั้งเป็นประตูกระจกบานเลื่อน ควบคู่กับหน้าต่างบานเลื่อน เพื่อช่วยให้แสงธรรมชาติและลมสามารถถ่ายเทได้สะดวก
สำหรับด้านบนของพื้นที่ Double Volume ยังมีการเจาะ ช่องแสงกระจกเพิ่มเติมอีก 1–2 จุด (จำนวนขึ้นอยู่กับตำแหน่งของแปลงบ้าน) ซึ่งช่วยดึงแสงธรรมชาติให้เข้ามาเติมเต็มบ้านได้อย่างทั่วถึง ทำให้โซนนี้ไม่เพียงแค่ใช้งานได้ดี แต่ยังให้ความรู้สึกปลอดโปร่งและไม่อับทึบ เหมาะสำหรับปรับเป็นมุมซักล้าง ตากผ้า หรือจะต่อเติมครัวไทยในภายหลังก็สามารถทำได้อย่างสะดวก
พื้นที่ซักล้างหลังบ้านของโครงการนี้มีความพิเศษตรงที่ ทางโครงการได้ลงเสาเข็มลึกเท่าตัวบ้านมาให้เรียบร้อยแล้ว ช่วยรองรับการต่อเติมในอนาคตได้อย่างมั่นคง ไม่ว่าจะต่อเติมเป็น ห้องครัวไทย สำหรับการทำอาหารหนัก หรือจะจัดเป็น Glass House สำหรับนั่งเล่น จัดมุมปาร์ตี้สังสรรค์กับครอบครัวและเพื่อนฝูง ก็สามารถทำได้อย่างสบายใจ
ด้วยโครงสร้างที่แข็งแรงตั้งแต่ต้น จึงเปิดโอกาสให้เจ้าของบ้านสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้อย่างอิสระ ทั้งยังช่วยประหยัดงบการลงเสาเข็มเพิ่มในภายหลัง ถือเป็นอีกหนึ่งรายละเอียดเล็ก ๆ ที่สะท้อนถึงความใส่ใจของโครงการได้เป็นอย่างดี
ในบ้านตัวอย่างจะมีการ ต่อเติม Glass House ด้านหลังให้ชมเป็นไอเดีย โดยออกแบบเป็น มุมนั่งเล่นในร่ม ที่บรรยากาศโปร่งโล่งและน่าใช้งาน พื้นที่ภายในกว้างพอสำหรับวาง โซฟาขนาดใหญ่ 4-6 ที่นั่ง เหมาะสำหรับเป็นมุมพักผ่อนของครอบครัว หรือจัดเป็นมุมรับรองแขกในบรรยากาศสบาย ๆ
นอกจากนี้ยังมีการใช้พื้นที่ข้างบ้านตกแต่งเป็น Mini Bar ขนาดย่อม สำหรับจัดเตรียมเครื่องดื่ม หรือเป็นมุมเสิร์ฟของว่างในงานเลี้ยงเล็ก ๆ ได้อย่างลงตัว
สำหรับบ้านแปลงมุม ยังสามารถรองรับการทำ ประตูกระจกบานเลื่อนเพิ่มเติมเพื่อเปิดเชื่อมพื้นที่ภายในกับสวนข้างบ้านได้ด้วย ช่วยขยายมุมมอง เพิ่มแสงธรรมชาติ และเชื่อมต่อทุกฟังก์ชันภายในบ้านให้ลื่นไหลมากยิ่งขึ้น
ภาพห้องครัวในบ้านมาตรฐานที่ลูกค้าจะได้รับ มีการปูพื้นกระเบื้อง ก่อกำแพงสูงรอบด้าน ติดตั้งปั๊มน้ำ + ถังสำรองน้ำให้ครบ พร้อมเดินงานระบบน้ำ ระบบไฟรองรับการต่อเติมได้ทันทีค่ะ
มองกลับเข้ามาดูภาพรวมทางฝั่งหน้าบ้าน
หากมองขึ้นไปยังชั้นลอย จากโซน Living Area จะเห็นการตกแต่งที่เติมลูกเล่นให้บ้านดูมีมิติมากขึ้น ด้วยการติดตั้งหน้าต่างไม้สานบานเฟี้ยม ที่ช่วยเพิ่มกลิ่นอายอบอุ่นแบบร่วมสมัย พร้อมให้ความรู้สึกเชื่อมโยงกับธรรมชาติได้อย่างลงตัว
อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจคือการเปลี่ยนราวกันตกจากแบบเหล็กมาตรฐาน มาเป็นราวกระจกนิรภัยใส ซึ่งนอกจากจะให้ความรู้สึกหรูหราและโปร่งโล่งแล้ว ยังช่วยเปิดมุมมองระหว่างพื้นที่ชั้นล่างและชั้นลอยให้เชื่อมถึงกันได้มากขึ้น ทำให้บ้านดูเปิดกว้าง น่าอยู่ และเกิดความต่อเนื่องในทุกฟังก์ชันของการใช้ชีวิตภายในบ้าน
ขึ้นไปดูฟังก์ชันด้านบนกันต่อเลยค่ะ
โครงสร้างบันไดของบ้านทั้งหลังใช้เป็น คอนกรีตเสริมเหล็ก ให้ความแข็งแรง มั่นคง และรู้สึกปลอดภัยทุกครั้งที่ใช้งาน ตัวบันไดออกแบบให้ เดินขึ้น-ลงได้เต็มเท้า ลดเสียงรบกวน ไม่กระทบต่อการพักผ่อนของสมาชิกในบ้าน
บริเวณลูกนอนและชานพักบันไดใช้เป็นไม้ Joint ที่ผ่านการทำสีและเคลือบผิวอย่างประณีต ให้สัมผัสที่อบอุ่นและดูสวยงามสไตล์โมเดิร์น พร้อมติดตั้งราวจับตลอดแนวผนัง ตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนถึงโถงชั้นบน เพื่อเสริมความปลอดภัยในการใช้งาน เหมาะสำหรับทุกวัยในครอบครัว ทั้งยังช่วยเติมความเรียบร้อยและกลมกลืนกับดีไซน์ภายในบ้านได้อย่างลงตัว
บันไดทางขึ้นไปยัง ชั้นลอย ชั้น 2 และชั้น 3 ของบ้านถูกออกแบบให้เป็น บันไดแบบเชิงเดี่ยว วางแนบชิดกับผนังด้านที่ติดกับบ้านข้างเคียง ซึ่งนอกจากจะช่วยประหยัดพื้นที่และจัดวางฟังก์ชันภายในบ้านได้ลงตัวแล้ว ยังถือเป็น ข้อดีของทาวน์โฮม ในแง่ของความเป็นส่วนตัวอีกด้วย
การที่บันไดวางชิดผนังฝั่งติดเพื่อนบ้าน ช่วยลดการส่งผ่านเสียงจากการเดินขึ้น-ลงไม่ให้สะท้อนไปยังยูนิตข้างเคียง จึงช่วยให้ผู้อยู่อาศัยทั้งสองฝั่งใช้ชีวิตได้อย่างเงียบสงบ และไม่รบกวนกัน เป็นการออกแบบที่ใส่ใจต่อทั้งความสะดวกสบายและคุณภาพชีวิตในระยะยาว
ขึ้นมาถึงชั้นลอยจะเจอกับชานพักทรงสี่เหลี่ยมที่จัดสรรพื้นที่ไว้อย่างลงตัว ด้านหน้าเป็นตู้เก็บของแนวสูงที่มาพร้อมบานประตูปิดมิดชิดแยกเป็นสัดส่วน ภายในสามารถเก็บของใช้ต่าง ๆ ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นของทำความสะอาด ของใช้ในบ้าน หรือของสำรองที่ไม่ต้องหยิบใช้งานบ่อย ช่วยให้บ้านดูเป็นระเบียบมากยิ่งขึ้น
ด้านในสุดของตู้จะเป็นจุดติดตั้ง ตู้ Sharp งานระบบ รวมถึง ตู้ควบคุมไฟฟ้า หลักของบ้าน ซึ่งเก็บงานเดินสายทั้งหมดไว้อย่างเรียบร้อย ซ่อนไว้ในจุดที่เข้าถึงง่ายแต่ไม่รกสายตา เป็นอีกหนึ่งรายละเอียดเล็ก ๆ ที่สะท้อนถึงการวางแผนพื้นที่ใช้งานได้อย่างรอบคอบและมีประสิทธิภาพ
ตั้งแต่พื้นที่บนชั้นลอยขึ้นไป จะปูพื้นบ้านด้วยลามิเนตลายไม้หนา 8 มม. ให้สัมผัสที่อบอุ่นและดูเป็นธรรมชาติ ช่วยเสริมบรรยากาศภายในบ้านให้ดู Cozy และน่าใช้งานยิ่งขึ้น ขณะที่ฝ้าเพดานของชั้นนี้มีความสูงอยู่ที่ 2.55 ม. ซึ่งถือว่าสูงพอเหมาะ ทำให้พื้นที่ดูโปร่งสบาย ไม่อึดอัด
ด้วย Space ที่ออกแบบมาอย่างยืดหยุ่น โซนนี้จึงเหมาะสำหรับการจัดเป็น Family Area ของครอบครัว ใช้เป็นมุมพักผ่อน อ่านหนังสือ หรือทำกิจกรรมร่วมกันในบรรยากาศที่เป็นส่วนตัว และหากต้องการปรับเปลี่ยน ก็สามารถปรับฟังก์ชันให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของแต่ละบ้านได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเป็นมุมทำงาน มุมเรียนของเด็ก หรือแม้แต่ Home Theater ขนาดย่อมก็ทำได้ลงตัว
โซนแรกเมื่อขึ้นมาจากบันไดจะถูกจัดเป็นมุมนั่งเล่นสำหรับดูหนังหรือดูซีรีส์ ซึ่งสามารถวาง โซฟาเซ็ตใหญ่ขนาด 4-6 ที่นั่ง ได้อย่างสบาย พร้อมกับชั้นวางทีวีขนาดใหญ่ที่ติดตั้งไว้ฝั่งตรงข้าม เพื่อให้เห็นระยะใช้งานจริง เหมาะสำหรับเป็นมุมพักผ่อนของครอบครัวในช่วงเวลาส่วนตัว
บริเวณหน้าบ้านจะติดตั้งหน้าต่างกระจกบานผสมขนาดใหญ่ ที่ผสานระหว่างบานเลื่อน สำหรับเปิดรับลมถ่ายเทอากาศ และบานฟิกซ์สำหรับดึงแสงธรรมชาติเข้ามาในบ้านได้มากขึ้น ทำให้ชั้นลอยดูสว่าง โปร่ง และน่าใช้งานตลอดทั้งวัน ทั้งยังช่วยลดการใช้พลังงานในเวลากลางวันได้อีกด้วย
ถัดเข้าไปด้านในจัดเป็นมุมทำงานมาให้ดูเป็นไอเดีย
พื้นที่ชั้นลอยของบ้านถูกออกแบบให้ เชื่อมโยงกับโถง Double Volume ได้อย่างลงตัว โดยบริเวณนี้จะเปิดโล่งให้สามารถ มองลงไปยัง Living & Dining Area ชั้นล่าง ได้แบบเต็มสายตา ช่วยสร้างความรู้สึกต่อเนื่องของพื้นที่และเพิ่มความโปร่งโล่งให้กับตัวบ้าน
ดีไซน์ลักษณะนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้บ้านดูกว้างขึ้น แต่ยังทำให้สมาชิกในบ้านสามารถมองเห็นและปฏิสัมพันธ์กันได้แม้อยู่คนละชั้น สร้างบรรยากาศอบอุ่น เป็นหนึ่งเดียวกันในทุกช่วงเวลาของการอยู่อาศัย
ขึ้นไปดูชั้น 2 กันต่อ
บันไดทางขึ้นจากชั้นลอยไปชั้น 2
จากโถงบ้านชั้น 2 มองลงมา จะเห็นถึงความโปร่งโล่งไม่อึดอัด
ชั้น 2 และชั้น 3 จะได้ฝ้าเพดานสูงอยู่ที่ 2.75 ม. ได้บรรยากาศโปร่งสบายมากขึ้น โดยชั้นนี้จะประกอบไปด้วยห้องนอน 2 ฝั่งหน้าบ้าน, ห้องนอน 3 ฝั่งหลังบ้าน และตรงกลางบ้านจะเป็นห้องน้ำส่วนกลาง ที่แชร์การใช้งานร่วมกันระหว่าง 2 ห้องนอน
ห้องนอน 3 ฝั่งหลังบ้าน มีพื้นที่ใช้งานกว้างกำลังดี รองรับการทำเป็นห้องนอนเด็กเล็ก เด็กโตได้ลงตัว ภายในสามารถวางเตียงนอน 5-6 ฟุต และเฟอร์นิเจอร์มาตรฐานได้ครบ
ในบ้านตัวอย่างวางเตียงนอน 3.5 ฟุต มาให้ดูเป็นแนวทาง
ปลายเตียงสามารถวางตู้เสื้อผ้าแนวยาว หรือจะปรับเป็นชั้นวางทีวีแทนก็ได้
ด้านหลังห้องมีพื้นที่เหลือกว้าง ๆ เลยค่ะ สามารถทำเป็นมุมทำงาน 1 ที่นั่งหลวม ๆ ได้ หรือจะเปลี่ยนเป็นโซนแต่งตัวก็ลงตัว และที่ผนังจะติดตั้งหน้าต่างกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่มาให้ด้วย 1 บาน
ออกมาที่โถงบ้าน ติดกับประตูทางเข้าห้องนอน 3 จะมีหน้าต่างทรงสูงติดมาให้ 1 ชุด ด้วยนะคะ
ขยับมาที่กลางบ้าน จะเป็นที่ตั้งของห้องเก็บของและห้องน้ำชั้น 2
บริเวณหน้าห้องน้ำบนชั้น 2 จะมี ห้องเก็บของขนาดเล็ก ให้มา 1 ห้อง โดยภายในติดตั้ง โคมไฟ ไว้ให้เรียบร้อย ช่วยให้ใช้งานได้สะดวกแม้ในช่วงเวลากลางคืน
พื้นที่ภายในห้องนี้ถือว่าเพียงพอสำหรับการจัดเก็บ อุปกรณ์ทำความสะอาด ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นไม้กวาด ไม้ถูพื้น ถังถูพื้น หรือแม้แต่เครื่องดูดฝุ่น ก็สามารถวางได้อย่างเป็นระเบียบ ช่วยให้บ้านดูเรียบร้อยขึ้น และทำให้การหยิบใช้งานในชีวิตประจำวันสะดวกมากยิ่งขึ้น
ห้องน้ำชั้น 2 ออกแบบให้มี พื้นที่กว้างขวาง ใช้งานได้สะดวก พร้อมตกแต่งด้วย กระเบื้องลวดลายเดียวกันกับชั้นล่าง ให้ความรู้สึกต่อเนื่องกลมกลืนทั้งหลัง สุขภัณฑ์และฟังก์ชันใช้งาน ได้มาตรฐานเหมือนกันทุกจุด ใช้งานง่าย ดูเรียบร้อย และรองรับการใช้งานประจำวันได้อย่างสบาย
ภาพรวมส่วนแห้ง ได้อ่างล้างมือพร้อมชั้นวางของลายไม้ และโถสุขภัณฑ์ พร้อมอุปกรณ์มาตรฐานครบชุด
ด้านหลังส่วนแห้งจะมี Low-Wall แนวยาวสำหรับวางของใช้ในห้องน้ำ พร้อมกระจกเงาขนาดใหญ่เต็มผนัง 1 บาน
ส่วนอาบน้ำกั้นฉากกั้นกระจกนิรภัยบานเปลือยแยกโซนมาให้ พร้อมติดตั้งฝักบัว Hand Shower ผนังมีครบทั้งชั้นวางของ และ Junction Box สำหรับติดเครื่องทำน้ำอุ่น และมีตัวช่วยในการระบายอากาศเป็นพัดลมฝังเพดาน 1 เครื่อง
ต่อเนื่องไปทางหน้าบ้าน จะเป็นที่ตั้งของห้องนอน 3 ห้องนอนรองของบ้านหลังนี้
เข้ามาภายในห้องนอน 2 จะสัมผัสได้ถึงความกว้างขวางที่เทียบได้กับ Master Bedroom ในทาวน์โฮมทั่วไปเลยทีเดียว รองรับการวาง เตียง King Size พร้อมพื้นที่เหลือสำหรับจัด มุมแต่งตัว หรือมุมทำงานได้อย่างลงตัว
จุดเด่นอีกอย่างคือฟังก์ชันระเบียงส่วนตัวด้านหน้าบ้านที่เพิ่มความเป็นส่วนตัวและปลอดโปร่ง พร้อมหน้าต่างช่องแสงขนาดใหญ่เต็มผนังที่ช่วยเปิดรับแสงธรรมชาติ ทำให้บรรยากาศภายในห้องดูสว่าง อบอุ่น และน่าอยู่ตลอดทั้งวัน
ในบ้านตัวอย่างวางเตียง King Size และ Bench Bed ปลายเตียงนอนมาให้ดูระยะใช้งาน
ข้างเตียงนอนเป็นพื้นที่แนวยาว ที่สามารถ Built-in ชั้นวางของ และโต๊ะทำงานแบบ 1-2 ที่นั่งได้
รอบเตียงมีพื้นที่เหลือกว้าง ใช้งานได้สะดวกตลอดเวลา
ข้างเตียงฝั่งหน้าบ้านที่ติดกับหน้าต่างบานผสม จะมีการเว้นพื้นที่ไว้เล็กน้อย ทำให้กลายเป็นมุมเล็ก ๆ ที่ใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะวาง Armchair สำหรับนั่งดูหนัง นั่งอ่านหนังสือในห้องนอน หรือจะปรับเป็นโต๊ะเครื่องแป้งแบบ 1 ที่นั่ง ก็จัดวางได้อย่างลงตัว
ปลายเตียงนอนเป็นผนังเปล่าโล่ง ๆ สามารถติด Smart TV จอใหญ่ หรือจะตกแต่งด้วยกรอบรูปสวย ๆ แบบบ้านตัวอย่างก็ได้
ข้างกันนั้นจะมีพื้นที่เข้ามุมที่เว้นไว้ สำหรับ Built-in หรือติดตั้งตู้เสื้อผ้าได้อย่างพอดี โดยไม่กินพื้นที่ใช้งานส่วนอื่นของห้อง ข้อดีของการวางตู้ในมุมแบบนี้คือจะช่วยให้ พื้นที่ด้านหน้าตู้เสื้อผ้ายังเหลือกว้าง สามารถยืนแต่งตัวหรือหยิบใช้งานได้สะดวก ไม่รู้สึกอึดอัด ดีไซน์แบบนี้จึงช่วยให้ห้องดูเป็นระเบียบ พร้อมรองรับการใช้งานจริงในชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัว
ประตูทางออกไประเบียงจะเป็นกระจกเขียวตัดแสง แบบบานเลื่อน กรอบอะลูมิเนียม Powder Coat สีดำ
ระเบียงด้านนอกมีพื้นที่ใช้งานขนาดพอเหมาะ ปูพื้นกระเบื้องเซรามิกกันลื่นสีเทาให้เต็มพื้นที่ พร้อมติดราวกันตกกระจกนิรภัยมาให้ครบ โดยพื้นที่ส่วนนี้จะสามารถวางเก้าอี้พักผ่อน วาง CDU แอร์ หรือใช้เป็นพื้นที่สวนไม้กระถางในห้องนอนก็ได้
บรรยากาศภาพรวมภายในห้องนอน 2 ฝั่งหน้าบ้าน
จากห้องนอน 2 มองกลับออกมาที่โถงบ้านชั้น 2
ขึ้นไปต่อที่ชั้น 3 เป็นส่วนสุดท้ายกันค่ะ
บันไดทางขึ้นไปยังชั้น 3 และโถงด้านหน้า Penthouse
มองกลับลงมาที่โถงบันได
พื้นที่บนชั้น 3 ชั้นบนสุดที่ถูกออกแบบให้เป็นห้องนอนส่วนตัว พร้อมวิวเปิดโล่ง ให้บรรยากาศแบบ Penthouse ในบ้านทาวน์โฮม ด้วยพื้นที่ใช้สอยแบบเต็มชั้น อยู่สบายไม่ต่างจากบ้านเดี่ยว
ภายในสามารถจัดฟังก์ชันได้หลากหลายอย่างยืดหยุ่น ทั้งมุมพักผ่อน, มุมทำงาน, Walk-in Closet และห้องน้ำในตัว พร้อมระเบียงส่วนตัวทางด้านหน้าบ้านที่ครบครันทุกการใช้งาน
สามารถใช้ชีวิตในพื้นที่ส่วนตัวได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องพึ่งพาฟังก์ชันอื่นของบ้าน การวางผังแบบเปิดกว้างจึงตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ได้ทั้งเรื่องความสะดวกสบายและความเป็นส่วนตัวอย่างแท้จริง
ฝั่งด้านหน้าของ Penthouse จะมีช่องแสงขนาดใหญ่ ที่ช่วยดึงแสงธรรมชาติเข้ามาให้ห้องดูโปร่งและสว่าง พร้อมกับระเบียงส่วนตัว ที่เพิ่มมุมพักผ่อนให้กับเจ้าของห้อง
พื้นที่บริเวณนี้กว้างขวางจนสามารถจัดเป็น Living Area ส่วนตัว ได้สบาย ๆ ไม่ว่าจะวางโซฟา โต๊ะกาแฟ ชั้นวางทีวี หรือมุมอ่านหนังสือ ก็ลงตัวพอดี แถมบรรยากาศยังผ่อนคลายไม่ต่างจาก Main Living Area ชั้นล่างเลย ช่วยให้ห้องนอนใหญ่กลายเป็นพื้นที่ใช้ชีวิตที่ครบครันในแบบส่วนตัวอย่างแท้จริง
บรรยากาศภาพรวมบริเวณมุมพักผ่อนใน Penthouse ชั้นบนสุด
ระเบียงได้พื้นที่ใช้งานและวัสดุมาตรฐานเหมือนกันกับระเบียงในห้องนอน 2
ต่อเนื่องจากมุมพักผ่อนมา จะเป็นส่วนของเตียงนอน เชื่อมต่อกับมุมทำงาน และ Walk-in Closet
ภายในรองรับการวางเตียงนอนขนาด King Size หรือแม้แต่เตียง Custom สั่งตัดพิเศษ ก็ยังมีพื้นที่เหลืออย่างสบาย ๆ ปลายเตียงยังสามารถวาง Bench Bed เพิ่มอีก 1 ตัวได้แบบไม่อึดอัด เหมาะสำหรับใช้นั่งเล่นหรือนั่งเปลี่ยนรองเท้าในทุกวัน
บริเวณปลายเตียงจะมีพื้นที่เข้ามุมที่สามารถจัดเป็นมุมทำงานในห้องนอนได้อย่างลงตัว รองรับโต๊ะทำงานตัวยาวสำหรับ 1-2 ที่นั่ง ใช้งานได้จริงและยังคงความเป็นส่วนตัว
ถัดเข้าด้านในสุดของห้องจะเป็นโซน Walk-in Closet ที่เชื่อมต่อกับ ห้องน้ำในตัว ได้อย่างสะดวก ช่วยให้ทุกฟังก์ชันภายในห้องนอนใหญ่ครบถ้วนและใช้งานได้สะดวก
สำหรับใครที่ต้องการความเป็นสัดส่วนมากขึ้น ก็สามารถติดตั้ง Partition บางส่วน หรือหากต้องการความหรูหราและชัดเจนยิ่งขึ้น อาจต่อเติมเป็นห้องกระจกเพื่อแยกฟังก์ชันแต่ละโซนได้อย่างมีดีไซน์และยังคงความโปร่งโล่งไว้เช่นเดิม
ด้านในของโซน Walk-in Closet ถูกออกแบบให้ใช้งานได้เต็มพื้นที่ รองรับตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้ถึง 3 ด้าน พร้อมเก็บเสื้อผ้าและของใช้ได้อย่างเป็นระเบียบ
และหากต้องการเพิ่มฟังก์ชันยังสามารถใช้พื้นที่ตรงกลางห้องที่ติดกับหน้าต่างกระจกบานเลื่อนฝั่งหลังบ้าน จัดเป็นโต๊ะเครื่องแป้งได้อย่างลงตัว ด้วย Space ที่กว้างพอสมควร บริเวณด้านหน้ายังมีพื้นที่เหลือให้ยืนแต่งตัวหรือนั่งแต่งหน้าได้อย่างสบาย ๆ ไม่อึดอัด
จาก Walk-in Closet จะเชื่อมต่อกับห้องน้ำในตัวได้สะดวกมาก ๆ
ห้องน้ำใน Penthouse จะได้การตกแต่งลวดลายกระเบื้อง รวมถึงฟังก์ชันการใช้งานและสุขภัณฑ์มาตรฐานของ Cotto มาเหมือนกันกับห้องน้ำห้องอื่น ๆ ทุกประการค่ะ
ภาพรวมส่วนแห้งติดสุขภัณฑ์มาตรฐานมาให้ครบ ในระยะใช้งานสบาย ๆ
ด้านหลังมี Low-Wall แนวยาว พร้อมกระจกเงาขนาดใหญ่
ส่วนอาบน้ำถูกออกแบบให้มีระยะใช้งานที่กว้างสบาย ไม่อึดอัด พร้อมติดตั้งฝักบัวมาตรฐาน และชั้นวางของบนผนัง สำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำต่าง ๆ
ภายในยังมี Junction Box สำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่น มาให้เรียบร้อย รองรับการใช้งานในอนาคตอย่างสะดวก และเพื่อความโปร่งโล่งในระหว่างใช้งาน ยังมีหน้าต่างกระจกฝ้าบานกระทุ้งที่ช่วยเปิดรับลมและระบายอากาศได้ดี ช่วยลดความชื้นและกลิ่นอับในห้องน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
บรรยากาศภาพรวมภายใน Penthouse บนชั้น 3
ราคา (ก.ค. 68)
ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ คลิก : https://bit.ly/425FpAJ
*หมายเหตุ : ข้อมูลราคา และโปรโมชันอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม*
สรุป
⇒ ทำเลที่ตั้งโครงการ : Premium Place พหลโยธิน-เทพรักษ์ เป็นทาวน์โฮม 3.5 ชั้น พื้นที่ใหญ่เท่าบ้านเดี่ยว ที่ตั้งอยู่บนถนนวัชรพล ซึ่งถือเป็นหนึ่งในทำเลศักยภาพที่กำลังเติบโต รายล้อมด้วยความอุดมสมบูรณ์รอบด้าน ทั้งตลาดสด ร้านสะดวกซื้อ ห้างค้าปลีกขนาดกลาง ไปจนถึงร้านอาหารยอดนิยมที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชม. ที่สำคัญยังใกล้กับสถานศึกษาทุกระดับ และโรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่ ช่วยอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันได้อย่างรอบด้าน
ตัวโครงการตั้งอยู่บนถนนสายหลักอย่างวัชรพล ซึ่งสามารถเชื่อมต่อไปยังถนนเทพรักษ์ ถนนพหลโยธิน ถนนเพิ่มสิน และสุขาภิบาล 5 ได้สะดวก อีกทั้งยังอยู่ใกล้กับ ทางด่วนฉลองรัช ที่ช่วยให้การเดินทางเข้าเมืองหรือออกนอกเมืองทำได้ง่ายและรวดเร็ว
ด้วยความคึกคักและพร้อมของสภาพแวดล้อมในพื้นที่ แต่ในขณะเดียวกันภายในซอยของโครงการกลับยังคงบรรยากาศที่เงียบสงบ เป็นส่วนตัว เหมาะกับครอบครัวที่ต้องการความสมดุลระหว่างชีวิตเมืองและความเป็นส่วนตัวในแบบบ้านแนวราบที่อยู่อาศัยได้จริง
⇒ การเดินทางด้วยรถส่วนตัว : ที่ตั้งของโครงการถือว่าตอบโจทย์ เพราะสามารถเข้าออกได้ทั้งจากถนนเทพรักษ์และถนนเพิ่มสิน และยังสามารถเชื่อมต่อไปยังถนนรามอินทรา วิภาวดีรังสิต หรือทางด่วนฉลองรัชได้ไม่ยาก ใช้เวลาเข้าเมืองได้สะดวกรวดเร็ว โดยเฉพาะในช่วงเร่งด่วนที่มีเส้นทางเลือกหลากหลาย ช่วยลดระยะเวลาในการเดินทางได้ดี
⇒ การเดินทางโดยรถไฟฟ้าและรถสาธารณะ : โครงการตั้งอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้าถึง 3 สาย โดยสายที่ใกล้ที่สุดคือ รถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ สถานีสายหยุด ซึ่งอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 10 นาที* สามารถเดินทางเข้าเมืองได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนสาย
ส่วนใครที่ต้องการเชื่อมต่อไปยังโซนอื่น ๆ ยังสามารถต่อ สายสีชมพู ได้ที่สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ และสายสีแดงเข้ม ที่สถานีหลักสี่ ช่วยเพิ่มทางเลือกในการเดินทางได้อย่างครอบคลุม หน้าโครงการยังมีรถสองแถววิ่งผ่าน ใช้นั่งไปสถานที่ต่าง ๆ ในโซนนี้ได้ง่าย และมีรถ Taxi รวมถึงมอเตอร์ไซค์รับข้างวิ่งผ่านหน้าโครงการตลอดทั้งวัน
⇒ การออกแบบโครงการ แบบบ้าน และวัสดุ : ตัวโครงการออกแบบมาเป็นทาวน์โฮม 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 5-5.4 ม. ที่ให้พื้นที่ใช้สอยมากถึง 205-220 ตร.ม. เทียบเท่าบ้านเดี่ยว รองรับการอยู่อาศัยแบบครอบครัวใหญ่ หรือปรับเป็นโฮมออฟฟิศก็ได้ โครงสร้างแข็งแรง รองรับการสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวได้อย่างไร้กังวล
ตัวบ้านใช้วัสดุคุณภาพดี เช่น ระบบก่อสร้างแบบ Conventional ที่ใช้อิฐมวลเบา ผนังห้องน้ำเป็นอิฐมอญแดง และพื้นห้องน้ำเป็นแบบหล่อในที่ผสมน้ำยากันซึม ที่สำคัญโครงการลงเสาเข็มลึกเท่าตัวบ้านไว้ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง รองรับการต่อเติมในอนาคตได้ทันทีโดยไม่ต้องลงทุนเพิ่ม
⇒ สิ่งอำนวยความสะดวกและระบบรักษาความปลอดภัย : ในส่วนของพื้นที่ส่วนกลาง มีให้ครบตามแบบฉบับโครงการขนาดเล็ก ไม่ว่าจะเป็น Clubhouse, Lobby Lounge, Co-Working Space, Fitness, สวนส่วนกลาง รวมถึงระบบรักษาความปลอดภัยที่ได้มาตรฐาน ทั้ง กล้อง CCTV, ระบบ Easy Pass, และ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ช่วยให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกปลอดภัยและมั่นใจได้ในทุกวัน
โดยรวมแล้ว Premium Place พหลโยธิน-เทพรักษ์ คือโครงการทาวน์โฮมที่ตอบโจทย์คนเมืองที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ในทำเลสงบแต่ใกล้เมือง เชื่อมต่อทุกการเดินทางได้ง่าย และยังคงความเป็นส่วนตัวของการอยู่อาศัยในระยะยาวได้อย่างสมดุล
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 02-579-2255
Line : @premiumplace หรือ https://lin.ee/ppRH5iN
Website : https://bit.ly/425FpAJ
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " รีวิว Premium Place พหลโยธิน-เทพรักษ์ ทาวน์โฮมใหม่ 3.5 ชั้น พร้อม Double Volume สูง 6 ม.* บนถนนวัชรพล ใกล้ทางด่วนฉลองรัช และรถไฟฟ้า 2 สาย เริ่ม 6.19 ล้าน* "