รีวิว เศรษฐสิริ บางนา กม.10 / Setthasiri Bangna KM.10 บ้านเดี่ยวสไตล์ Georgian 1 ใน Sansiri 10 East เป็นส่วนตัวเพียง 71 ครอบครัว เริ่ม 24.9 ล้าน*
Written by : Pure Thitapa
สวัสดีค่ะ คุณผู้อ่าน Homenayoo ทุกคน วันนี้เราจะพาไปชมโครงการ ‘Setthasiri บางนา กม.10‘ หนึ่งในสมาชิกของ Sansiri 10 East / Luxury Community แห่งใหม่ที่รวม 4 แบรนด์บ้านเดี่ยวระดับบนของแสนสิริไว้ในอาณาจักรเดียวกัน โครงการนี้มีความน่าสนใจทั้งในมิติของการอยู่อาศัยจริง การถือครองเป็นสินทรัพย์ระยะยาว และยังเหมาะสำหรับการลงทุนปล่อยเช่าที่ให้ Yield สูงถึง 8-9% อีกด้วย
โครงการตั้งอยู่บนทำเลบางนา-ตราด กม.10 ติดถนนใหญ่ เดินทางเข้า-ออกเมืองได้สะดวก เชื่อมทางด่วนบูรพาวิถี ทางด่วนกาญจนาภิเษก ถนนศรีนครินทร์ และถนนสุขุมวิท ทำให้เดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิได้ง่ายภายในประมาณครึ่งชม.*
พื้นที่รอบโครงการยังรายล้อมด้วยไลฟ์สไตล์ฮับ อาคารสำนักงาน และโรงเรียนนานาชาติกว่า 10 แห่ง เหมาะทั้งครอบครัวและผู้บริหารที่ต้องการความสะดวกครบครันในทุกวัน
เศรษฐสิริ บางนา กม.10 เป็นบ้านเดี่ยวหรู 2 ชั้น สไตล์ Georgian ตั้งอยู่บนที่ดินรวมประมาณ 27 ไร่ ให้ความเป็นส่วนตัวสูงด้วยจำนวนเพียง 71 ครอบครัว มีแบบบ้านให้เลือก 3 แบบ บนที่ดินเริ่มต้น 59-135 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 247-377 ตร.ม. ฟังก์ชันจัดเต็ม 4-5 ห้องนอน, 4-6 ห้องน้ำ, 1 ห้องอเนกประสงค์, 1 ห้องแม่บ้าน พร้อมที่จอดรถ 3 คัน และติดตั้ง Security Home Automation, EV Charger และ Solar Cell มาให้ครบในบ้านทุกหลัง
ส่วนกลางของโครงการจัดเต็มในดีไซน์ Georgian เริ่มจาก Clubhouse หรูขนาดใหญ่ พร้อม Grand Lobby แบบ Double Volume Space สระว่ายน้ำระบบเกลือขนาดใหญ่ 25 ม. แยกสระเด็ก และมีมุมพักผ่อนรอบสระให้ใช้งานสบาย ๆ
The Pavilion สำหรับรวมตัวสังสรรค์, Co-Working Space สำหรับทำงานและประชุมแบบส่วนตัว และ Fitness Room ที่จัดอุปกรณ์ครบทั้ง Cardio และ Weight Training นอกจากนี้ยังมีสวนยุโรป, สนามเด็กเล่น และ Sansiri Backyard รองรับกิจกรรมของครอบครัว
เรื่องความปลอดภัยจัดเต็มตามมาตรฐานแสนสิริ ทั้งระบบ LPR สำหรับลูกบ้าน, VMS สำหรับ Visitor, กล้อง CCTV รอบโครงการ เจ้าหน้าที่ รปภ. และระบบ LIV-24 ช่วยดูแลทั้งวันทั้งคืน โดยมีราคาเริ่มต้น 24.9-60 ล้านบาท* (ธ.ค. 68)
โครงการนี้คืออีกหนึ่งตัวเลือกที่ตอบโจทย์ครบทั้งดีไซน์ ความหรูหรา ฟังก์ชัน และคุณภาพชีวิตในระยะยาวค่ะ
ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษ คลิก : https://siri.ly/sYzKAVB
| ชื่อโครงการ | เศรษฐสิริ บางนา กม.10 / Setthasiri Bangna KM.10 |
| เจ้าของโครงการ | บริษัท แสนสิริ จำกัด / Sansiri |
| ลักษณะโครงการ | บ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ Georgian |
| พื้นที่โครงการ | ประมาณ 27 ไร่ |
| จำนวนบ้าน | 71 หลัง |
| เนื้อที่บ้าน | เริ่มต้น 59-135 ตร.ม. |
| พื้นที่ใช้สอย | เริ่มต้น 247 / 310 / 377 ตร.ม. |
| จำนวนห้อง | 4-5 ห้องนอน, 4-6 ห้องน้ำ, 1 ห้องอเนกประสงค์, 1 ห้องแม่บ้าน |
| ที่จอดรถทั้งหมด | 3 คัน |
| โซน | บางนา กม.10 |
| เส้นทางคมนาคม |
|
| ที่ตั้ง | ถ.บางนา-ตราด (ช่วงบางนา กม.10) ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ 10540 |
| กำหนดการ | เปิดขาย พ.ย. 67 |
| ปีที่สร้างเสร็จ | บ้านพร้อมอยู่บางส่วนปี 68 |
| ราคา | เริ่ม 24.9-60 ล้านบาท* (ธ.ค. 68) |
| ค่าส่วนกลาง | 55 บาท/ ตร.ว./ เดือน |
| สถานที่สำคัญใกล้เคียง | ศูนย์การค้า
สถานศึกษา
โรงพยาบาล
อาคารสำนักงานและอื่น ๆ
*ระยะทางวัดจากโครงการไปยังจุดหมายปลายทาง* |
| สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
| Tel | 1685 |
| Line | https://siri.ly/Krrd8CB |
| Website | https://www.sansiri.com/ |
Sansiri 10 East ถ.บางนา-ตราด ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ 10540
พิกัดโครงการ : https://maps.app.goo.gl/GYikgDL55CN1Q7uy9
เศรษฐสิริ บางนา กม.10 คือบ้านเดี่ยวหรูในกลุ่ม Sansiri 10 East / Luxury Community ที่โดดเด่นด้วยทำเลบางนา-ตราด กม.10 ซึ่งเป็นจุดกึ่งกลางระหว่างบางนาชั้นในและสุวรรณภูมิ ทำให้เดินทางเข้า-ออกเมืองได้สะดวก เชื่อมต่อทางด่วนบูรพาวิถีและกาญจนาภิเษกได้รวดเร็ว เหมาะกับครอบครัวยุคใหม่ที่ต้องการทั้งความคล่องตัวและความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย
พื้นที่รอบโครงการครบครันด้วยไลฟ์สไตล์ฮับขนาดใหญ่ ทั้ง Mega บางนา, Market Village สุวรรณภูมิ และ Design Village บางนา รวมถึงโรงพยาบาลเอกชนคุณภาพอย่าง รพ.พริ้นซ์ สุวรรณภูมิ, รพ.ไทยนครินทร์ และ รพ.ศิครินทร์ ทำให้คุณภาพชีวิตโดยรวมสะดวกสบายยิ่งขึ้น
ย่านบางนา กม.10 ยังเป็นศูนย์รวมโรงเรียนนานาชาติกว่าเกือบ 10 แห่ง ครอบคลุมตั้งแต่หลักสูตรอังกฤษ อเมริกัน ไปจนถึงสิงคโปร์ จึงตอบโจทย์ครอบครัวที่ต้องการบ้านใกล้โรงเรียนและสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย
นอกจากนี้ โซนนี้ยังถือเป็นทำเลทองของผู้ประกอบการและธุรกิจขนาดกลาง-ใหญ่ ด้วยบทบาทเป็นศูนย์กลาง Logistics และประตูสู่พื้นที่ EEC รายล้อมด้วยโครงสร้างพื้นฐานด้านเศรษฐกิจครบถ้วน อีกทั้งยังเหมาะกับคนรักสัตว์ เพราะมีพื้นที่โดยรอบกว้างขวางและแวดล้อมด้วยธรรมชาติ
ทั้งหมดนี้ทำให้บางนากลายเป็น Expanded CBD ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง และเป็นหนึ่งในทำเลศักยภาพสูงที่เหมาะกับการอยู่อาศัยและการลงทุนในระยะยาวค่ะ
การเดินทางโดยรถส่วนตัว : ถือว่าทำได้คล่องตัวมาก ตั้งแต่ทางเข้า-ออกหลักที่ติดกับถนนบางนา-ตราดฝั่งขาออก ช่วยให้วิ่งเชื่อมสู่โซนสุวรรณภูมิและบางพลีได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องอ้อมเส้นทางให้เสียเวลา อีกทั้งยังอยู่ใกล้ทางด่วนบูรพาวิถี ด่านบางพลี 2 ทำให้การเดินทางออกสู่บางปะกง-ชลบุรีเป็นเรื่องง่าย เหมาะทั้งสำหรับคนทำงานตามนิคมฯ หรือคนที่เดินทางออกต่างจังหวัดบ่อย ๆ
สำหรับใครที่ต้องใช้สนามบินเป็นประจำ ไม่ว่าจะเดินทางต่างประเทศหรือทำธุรกิจ ก็สามารถขับเข้าถนนสุวรรณภูมิ 3 เพื่อเข้าสู่สนามบินสุวรรณภูมิได้ภายในเวลาประมาณครึ่งชม.* เท่านั้น ถือว่าสะดวกและประหยัดเวลามาก โดยเฉพาะในชั่วโมงเร่งด่วน
ด้านการเข้าเมืองก็ทำได้ไม่ยาก จากหน้าโครงการจะมีจุดกลับรถเพื่อมุ่งหน้าสู่ฝั่งขาเข้าถนนบางนา-ตราด อยู่บริเวณด้านหน้า Att U Park ประมาณ 3 กม.* พอกลับรถเสร็จแล้วก็สามารถวิ่งเข้าสู่ไปเชื่อมกับทางด่วนบูรพาวิถีขาเข้า ที่ใช้เดินทางต่อไปยังสุขุมวิท-บางนา และเชื่อมกับทางด่วนสาย S1 เพื่อเข้าสู่ใจกลางเมืองทั้งรามอินทรา-ดาวคะนอง-ดินแดง ไปจนถึงโซนสีลม-สาทรได้โดยตรง
หากต้องการออกนอกเมืองในฝั่งทิศใต้ ก็เชื่อมทางด่วนกาญจนาภิเษกได้ง่าย ใช้มุ่งหน้าไปพระราม 3-สุขสวัสดิ์-พระประแดง หรือจะต่อไปพระราม 2-บางแคก็สะดวกเช่นกัน แต่ถ้าอยากหลีกเลี่ยงการใช้ทางด่วน ก็แค่ใช้เส้นบางนา-ตราด ตรงผ่านแยกวัดสลุด ก็จะเชื่อมเข้าสู่ถนนศรีนครินทร์ และสามารถวิ่งต่อไปยังสุขุมวิทหรือแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียวได้โดยตรง ทำให้การเข้า-ออกเมืองเป็นเรื่องที่ง่ายดาย แม้ในวันที่ต้องรีบเป็นพิเศษค่ะ
โครงการอยู่ใกล้กับ จุดขึ้นทางด่วนบูรพาวิถี ด่านบางพลี 2 ฝั่งขาออก ในระยะทางประมาณ 3.7 กม.* ที่ใช้มุ่งหน้าไปบางพลี บางบ่อ บางเสาธง นิคมฯ อุตสาหกรรม และเชื่อมต่อภาคตะวันออก ไปแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตในจังหวัดชลบุรี พัทยา บางแสน ยาวไปยังจังหวัดระยองได้ในระยะเวลาประมาณ 1-2 ชม.* เท่านั้นค่ะ
จากโครงการจะอยู่ใกล้กับ จุดขึ้นทางด่วนกาญจนาภิเษก (บางพลี-สุขสวัสดิ์) ด่านวงแหวนรอบนอก (บางแก้ว) ในระยะทางประมาณ 7.2 กม.* ใช้มุ่งหน้าไปพระราม 3-ปู่เจ้า / สุขสวัสดิ์-พระประแดง หรืออกไปฝั่งธนฯ ในโซนพระราม 2-บางแคได้สะดวกเช่นกัน
การเดินทางโดยรถไฟฟ้า : จากโครงการจะอยู่ใกล้กับแนว รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง สถานีศรีเอี่ยม บนถนนศรีนครินทร์ ในระยะทางประมาณ 14.7 กม.* โดยสถานีนี้จะมีอาคารจอดแล้วจรให้ใช้บริการ สามารถขับรถจากบ้านไปจอดทิ้งไว้ แล้วนั่งรถไฟฟ้าต่อไปสถานที่ต่าง ๆ รวมถึงใช้เชื่อมกับรถไฟฟ้าสายสีอื่น ๆ ได้สะดวกอีกด้วยค่ะ
รอบโครงการรายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วน ใช้ชีวิตง่ายทุกวัน เริ่มจาก Makro บางพลี ที่อยู่ใกล้ที่สุด เหมาะทั้งซื้อของเข้าบ้านและจ่ายตลาดประจำวัน ต่อด้วย Market Village สุวรรณภูมิ และ Market Place สุวรรณภูมิ ที่มีร้านอาหาร คาเฟ่ และซูเปอร์มาร์เก็ตครบในจุดเดียว
ขยับออกไปอีกหน่อยจะเจอแลนด์มาร์กใหญ่ของบางนาอย่าง Mega บางนา และ IKEA บางนา ที่ตอบโจทย์วันพักผ่อนของทุกวัย รวมถึง Central Village ที่เด่นเรื่องร้านค้าแบรนด์เนม ก่อนจะต่อไปถึงกลุ่มศูนย์การค้าขนาดใหญ่ เช่น Lotus’s & Decathlon บางนา, Design Village สุวรรณภูมิ และ Central บางนา ที่รองรับทุกกิจกรรมได้จบครบในที่เดียว
ด้านการศึกษา ทำเลนี้มีโรงเรียนชื่อดังและโรงเรียนนานาชาติมากมาย ครอบคลุมตั้งแต่อนุบาลจนถึงมัธยม เริ่มจาก รร.นานาชาติ VERSO ที่ใกล้ที่สุด ตามด้วยกลุ่มยอดนิยมอย่าง TCIS, D-PREP, รร.สารสาสน์วิเทศสุวรรณภูมิ, รร.ราชวินิตบางแก้ว และ Concordian
รวมถึงโรงเรียนนานาชาติหลักสูตรสากลอื่น ๆ อย่าง SISB, TSIS, ICS, และ Raffles American School พร้อม ม.รามคำแหง 2 สำหรับระดับอุดมศึกษา ทำให้เป็นทำเลที่เหมาะกับครอบครัวที่ต้องการวางแผนการเรียนครบจบในโซนเดียว
ด้านบริการสุขภาพก็อุ่นใจได้เช่นกัน เริ่มจาก รพ.จุฬารัตน์ 1 ที่ใกล้ที่สุด ต่อด้วย รพ.จุฬารัตน์ 9 อินเตอร์ และ รพ.พริ้นซ์สุวรรณภูมิ ที่มีศูนย์เฉพาะทางครบครัน อีกทั้งยังมี รพ.จุฬารัตน์ 3 อินเตอร์, รพ.ไทยนครินทร์, รพ.สินแพทย์ เทพารักษ์, รพ.สินแพทย์ ศรีนครินทร์ และ รพ.ศิครินทร์ ครอบคลุมการรักษาทุกช่วงวัย
สำหรับงานและไลฟ์สไตล์ระดับพรีเมียม โครงการตั้งอยู่ใกล้ Summit Windmill Golf Club และสนามกอล์ฟชื่อดังอย่าง เมืองแก้ว และ Green Valley Country Club รวมถึงอาคารสำนักงานสำคัญอย่าง WHA Tower, Interlink Tower, AIA East Gateway และ Ample Tower ปิดท้ายด้วยทำเลไฮไลต์อย่างสนามบินสุวรรณภูมิ ที่เดินทางสะดวกทั้งเรื่องงานและทริปพักผ่อนค่ะ
ศูนย์การค้า
สถานศึกษา
โรงพยาบาล
อาคารสำนักงานและอื่น ๆ
*ระยะทางวัดจากโครงการไปยังจุดหมายปลายทาง*
พิกัดโครงการ : https://maps.app.goo.gl/GYikgDL55CN1Q7uy9
ทางด่วนกาญจนาภิเษก ด่านบางแก้ว 3 ⇒ ถนนบางนา-ตราด ⇒ Sansiri 10 East ⇒ ตรงไปประมาณ 1 กม.* ⇒ ถึงโครงการ เศรษฐสิริ บางนา กม.10
การเดินทางในวันนี้ เราเดินทางมาจากทางด่วนกาญจนาภิเษก แล้วใช้ทางออกด่านบางแก้ว ที่อยู่ติดกับ Mega บางนา
ผ่านด่านเก็บเงินมาแล้ว ให้ขับตรงไปตามป้ายชลบุรี
ตรงมาตามป้ายไปชลบุรี จะลงมาเชื่อมกับถนนบางนา-ตราด ฝั่งขาออก บริเวณทางแยกต่างระดับวัดสลุด
ผ่านแยกต่างระดับวัดสลุดไป จะเจอกับ Design Village บางนา ทางฝั่งซ้ายมือ
จาก Design Village บางนา ขับตรงไปอีกประมาณ 900 ม.* จะเจอกับทางเข้า Sansiri 10 East
เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ Sansiri 10 East
จาหน้าปากทางตรงเข้าไปประมาณ 1 กม.*
เลี้ยวซ้ายมาแล้ว จะเจอกับประตูชั้นแรก
ขับตรงไปบนถนนของโครงการ Sansiri 10 East
ถนนภายในโครงการจะมีการแบ่งช่องรถเข้า-ออกไว้แยกกันชัดเจน และที่เกาะกลางถนน รวมถึงสองข้างทางของถนนเมนจะมีการจัดสวนแนวตั้ง ปลูกต้นไม้ใหญ่โตเต็มวัยให้บรรยากาศร่มรื่นมาก ๆ ค่ะ
ตรงมาเรื่อย ๆ จะเจอกับวงเวียนกลับรถ และโครงการ นาราสิริ บางนา กม. 10 ให้เราเลี้ยวซ้ายต่อไปตามทาง
ขับตรงไปตามทางอีกประมาณ 350 ม.*
ถึงโครงการ เศรษฐสิริ บางนา กม.10 แล้วค่ะ
ภาพมุมสูงโครงการ เศรษฐสิริ บางนา กม.10 เป็น 1 ในโครงการ ที่อยู่ภายใน Sansiri 10 East ที่เป็น Luxury Community แห่งใหม่ของทาง แสนสิริ จากถนนบางนา-ตราด ตรงเข้าถนนภาระจำยองของโครงการเข้ามาประมาณ 1 กม.* จะถึงที่ตั้งของโครงการนี้
ส่วนที่ดินโครงการจะมีเนื้อที่ประมาณ 24 ไร่ พัฒนาเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ในระดับราคา 24-40 ล้าน* มีให้เลือก 3 แบบ และได้ความเป็นส่วนตัวเพียงแค่ 71 ครอบครัว โครงการนี้เหมาะกับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว ภายใต้บรรยากาศอบอุ่นจากการอยู่อาศัยร่วมกันแบบ Good Community
พื้นที่รอบ ๆ โครงการ ฝั่งทิศใต้ จะเป็นโครงการนาราสิริ บางนา กม.10 และอีก 2 โครงการในอนาคตของ แสนสิริ ส่วนทิศเหนือ และทิศตะวันออก จะเป็นหมู่บ้านจัดสรรขนาดใหญ่ระดับบน / ทิศตะวันตก ติดกับแนวคลองสลุด วัดสลุด และที่ดินเปล่า และโซนด้านหน้าฝั่งใกล้ถนนใหญ่ จะเป็นกลุ่มที่อยู่อาศัยแนวราบและที่ดินเปล่าค่ะ
รอบโครงการ
เศรษฐสิริ บางนา กม.10 เป็น 1 ใน 4 โครงการ ที่อยู่ภายใน Sansiri 10 East ซึ่งเป็น Luxury Community แห่งใหม่ ที่แสนสิริออกแบบขึ้นบนทำเลบางนา กม.10 เพื่อยกระดับนิยามการอยู่อาศัยระดับ Luxury ในโซนตะวันออกของกรุงเทพฯ ให้ครบกว่าเดิม ทั้งไลฟ์สไตล์ สิ่งแวดล้อม และประสบการณ์ของการอยู่ร่วมกันแบบ Good Community ที่แสนสิริให้ความสำคัญเสมอมา
Sansiri 10 East ถูกพัฒนาบนพื้นที่กว่า 165 ไร่ มูลค่ารวมกว่า 18,000 ล้านบาท โดยตั้งใจให้เป็น Landmark ระดับ Hi-end แห่งใหม่ของย่านบางนา ผ่านการรวมตัวของ 4 แบรนด์บ้านระดับ Luxury และ Super Luxury ที่ประสบความสำเร็จที่สุดของแสนสิริ ได้แก่ บ้านแสนสิริ, สิริณสิริ, นาราสิริ และเศรษฐสิริ ซึ่งถูกคัดสรรให้มาตั้งอยู่ร่วมกันครั้งแรกใน Community เดียวกัน ครอบคลุมระดับราคาตั้งแต่ 20-500 ล้านบาท*
โดยความตั้งใจของ Sansiri 10 East คือการสร้าง “Sansiri Community ที่สมบูรณ์แบบ” ที่ประกอบด้วยโครงการที่อยู่อาศัยคุณภาพ พร้อมกิจกรรม ไลฟ์สไตล์ และพื้นที่ส่วนกลางที่จะช่วยเติมสีสันให้การใช้ชีวิตในแต่ละวัน ทั้งยังยึดแนวคิดการอยู่อาศัยอย่างยั่งยืนในระยะยาว ทำให้ “บ้าน” ไม่ใช่เพียงที่อยู่อาศัย แต่คือพื้นที่สร้างคุณภาพชีวิตและความสุขของครอบครัว

ด้านหน้าทางเข้าโครงการ Sansiri 10 East จะอยู่ติดถนนใหญ่บางนา-ตราด ช่วง กม.10 ที่ใช้มุ่งหน้าไปโซนสุวรรณภูมิ บางพลี และขึ้นทางด่วนบูรพาวิถี ไปบางปะกง-ชลบุรีได้ใกล้ ๆ
ตรงทางเข้าจะมีป้ายชื่อขนาดใหญ่ของ Sansiri 10 East ที่ในปัจจุบันเปิดขายแล้ว 2 โครงการ คือ นาราสิริ และเศรษฐสิริ ที่เราจะพาไปชมกันในวันนี้ค่ะ
จากถนนใหญ่จะมีระยะ Setback เข้ามาเล็กน้อย ช่วยให้การเข้า-ออกโครงการเป็นระเบียบและปลอดภัยมากขึ้น เมื่อเลี้ยวเข้ามาจะพบโซนต้อนรับที่ตกแต่งด้วยน้ำพุและสวนสวยให้บรรยากาศอบอุ่นทันทีตั้งแต่หน้าทางเข้า
พร้อมประตูกั้นชั้นแรกที่ใช้ระบบ LPR ตรวจจับป้ายทะเบียนอัตโนมัติ และมีป้อม รปภ. ดูแลความปลอดภัยตลอด 24 ชม. เพื่อให้ทุกการเข้า-ออกของลูกบ้านเป็นไปอย่างมั่นใจค่ะ
ผ่านประตูชั้นแรกเข้ามา จะเข้าสู่ถนนภาระจำยอมที่เชื่อมต่อร่วมกันกับอีก 3 โครงการ โดยตลอดแนวถนนทั้งสองฝั่งรวมถึงเกาะกลาง มีการจัดสวนและปลูกต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาแบบต่อเนื่อง ช่วยสร้างบรรยากาศร่มรื่น ตั้งแต่ทางเข้าจนถึงในโครงการ ทำให้รู้สึกน่าอยู่และเป็นส่วนตัวมากขึ้นค่ะ
ตรงเข้าไปด้านในสุด ก็จะเจอกับที่ตั้งของโครงการ โดย Main Gate ออกแบบมาให้มีความ Symmetry ดูภูมิฐานในสไตล์ Georgian แต่งด้วยเสากลม Doric การเล่นขอบบัว ซุ้มโค้ง และวัสดุลายหินธรรมชาติดูเรียบหรู
บริเวณด้านหน้าตรงวงเวียนกลับรถ จะโดดเด่นด้วยน้ำพุขนาดใหญ่ที่ประดับรูปปั้น “โพไซดอน” สื่อถึงสายน้ำ ความสงบ และความร่มเย็น ตัวประติมากรรมเป็นงานนำเข้าจากอิตาลี ทำจากโลหะที่ผ่านการออกซิไดซ์จนเกิดผิวสีอมเขียว ช่วยเพิ่มความคลาสสิกและความหรูหราให้บรรยากาศหน้าโครงการ ดูสง่างามตั้งแต่แรกเห็นค่ะ
ถัดมาจะเจอกับป้ายชื่อโครงการขนาดใหญ่ ที่ด้านหน้ามีการจัดสวนสไตล์ยุโรปไว้ให้แบบนี้
ตัว Main Gate ถูกออกแบบให้แบ่งช่องทางเข้า-ออกอย่างชัดเจน โดยมีป้อม รปภ. ตั้งอยู่ตรงกลางเพื่อดูแลความเรียบร้อยอย่างใกล้ชิด ระบบรักษาความปลอดภัยถูกจัดเต็มตั้งแต่หน้าประตูโครงการ ด้วยเจ้าหน้าที่ประจำการ 24 ชม. และกล้อง CCTV-Video Analytics ทั้งด้านหน้าและภายในโครงการ เพื่อคัดกรองและตรวจสอบความปลอดภัยอย่างรอบด้าน
ลูกบ้านสามารถเข้า-ออกได้อย่างรวดเร็วด้วยระบบ License Plate Recognition ที่สแกนป้ายทะเบียนและเปิดประตูรั้วไฟฟ้าอัตโนมัติ ส่วน Visitor จะใช้ระบบ VMS ในการลงทะเบียนเข้าโครงการ พร้อมเสริมความอุ่นใจด้วยระบบ LIV-24 ตามมาตรฐานของ Sansiri เพื่อให้ทั้งความสะดวกสบายและความปลอดภัยระดับสูงสุด
ผ่านเข้ามาด้านในโครงการจะเจอกับถนนเมนขนาดกว้างที่ให้ความรู้สึกโปร่งและแกรนด์ตั้งแต่แรกเห็น ช่วยให้การขับรถเข้า-ออกโครงการทำได้สะดวก คล่องตัว และช่วยเสริมภาพรวมของโครงการให้ดูเป็นระเบียบและมีความปลอดภัยยิ่งขึ้น
ตรงเข้ามาซ้ายมือจะเจอกับสวนสาธารณะ เชื่อมต่อกับอาคาร Clubhouse ที่ด้านใน
สวนสาธารณะใจกลางโครงการขนาดใหญ่ จัด Landscape เป็นสวน Formal Garden สไตล์อังกฤษ บรรยากาศร่มรื่น สดชื่นด้วยสนามหญ้า ต้นไม้พุ่ม ไม้ดอกไม้ประดับหลากสีสัน และยังมีการนำต้นไม้ใหญ่ที่โตเต็มวัยแล้วมาปลูกไว้ในสวนอีกหลายสิบต้นเลยทีเดียว
ตรงกลางสวนจะมีบ่อน้ำพุตกแต่ง และมีม้านั่งในสวนใต้ต้นไม้ใหญ่จัดเตรียมไว้ให้
มี Jogging Trail เป็นเส้นโค้งแบบ Freeform ใช้เดินเล่น เดินออกกำลังกายได้รอบสวน ที่ตลอดทางจะได้ร่มเงาจากต้นไม้ใหญ่ มี Solar Lighting ติดไว้ให้ตลอดทางเดิน เหมาะกับการออกมาใช้งานในตอนเช้าตรู่และตอนเย็น ๆ
ข้างสวนจะมีมุมนั่งเล่นพักผ่อน สนามเด็กเล่น พร้อมม้านั่งให้ผู้ปกครองนั่งรอลูก ๆ เล่นของเล่นได้อย่างใกล้ชิด
ข้างสวนอีกฝั่งมีม้านั่งจัดไว้ให้อีกมุมค่ะ
นอกจากนั้นยังมีลานสนามหญ้ากว้าง ๆ ให้ใช้ทำกิจกรรมกลางแจ้งได้ด้วย
เชื่อมต่อกับสวนสาธารณะจะเป็นที่ตั้งของอาคาร Clubhouse 2 ชั้น ที่จัด Facilities มาให้หลากหลาย มีให้ใช้งานทั้งโซน Indoor และ Outdoor
Clubhouse ถูกออกแบบผ่านสถาปัตยกรรมสไตล์ Georgian ที่มีเอกลักษณ์ของตัวอาคารแบบ Symmetry การตกแต่งเสาคู่ Doric การวางประตูหน้าต่างอย่างเป็นจังหวะ การเล่นบัวอาคาร และการใช้หลังคา Hip ทรงสูง ดูภูมิฐานและสง่างาม
สำหรับทางขึ้นอาคารจะมีให้ใช้งานหลายฝั่งเลยค่ะ ทั้งจากสวนสาธารณะ จากด้านข้างถนนเมน จากด้านหลังอาคาร และจากที่จอดรถส่วนกลาง
ขึ้นมาดูสระว่ายน้ำที่อยู่ติดกับสวนสาธารณะกันก่อน
สระว่ายน้ำตั้งอยู่โซน Outdoor ได้เป็นสระ Overflow ระบบเกลือ ขนาด 7.5 x 25 ม. หรือความยาวแบบ Half Olympic ทำให้ว่ายน้ำออกกำลังกายจริงจังท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติได้อย่างเต็มที่
จากทางลงสระว่ายน้ำ มองตรงออกไปจะได้วิวสวนสวย ๆ
ด้านข้างมีสระว่ายน้ำเด็ก ขนาด 5 x 25 ม. แยกเอาไว้ให้เพื่อความปลอดภัย
พื้นที่รอบสระว่ายน้ำออกแบบเป็น Pool Terrace พร้อม Sunbed และชุดม้านั่งพักผ่อนสำหรับนั่งรับลมชมวิว
อีกด้านของทางเดินจะมี Rain Shower ไว้สำหรับล้างตัวก่อนลงสระว่ายน้ำให้ 1 ชุด
จาก Shower ล้างตัว เดินเข้าไปด้านใน จะเชื่อมกับห้องน้ำส่วนกลาง ที่มีการแยกห้องน้ำ Disabled, ห้องน้ำชาย, ห้องน้ำหญิงไว้แยกกันเป็นสัดส่วน
ภายในห้องน้ำ Disabled พื้นที่กว้าง รองรับการใช้ Wheelchair ได้สะดวก พื้นเป็นแบบ Non-Step ทุกส่วน และมีการติดราวจับช่วยพยุงตรงชุดสุขภัณฑ์มาให้ครบ เหมาะสมกับการใช้งาน
ภายในห้องน้ำหญิง มีการตกแต่งอย่างสวยงามมาในโทนสีขาวที่มีลวดลายเป็นหินอ่อน ดูมีคลาสและสะอาดตา มีฟังก์ชันมาตรฐานให้ครบ ทั้งล็อกเกอร์, เคาน์เตอร์อ่างล้างมือ-กระจกเงา, ห้องน้ำ และห้องอาบน้ำ
ภายในห้องน้ำชาย ถูกตกแต่งภายในและมีฟังก์ชันมาตรฐานมาให้ครบเช่นกันค่ะ
เข้ามาภายในอาคาร จะเจอกับ Lobby ขนาดใหญ่ บรรยากาศดูโปร่งโล่งโอ่อ่า จากฝ้าสูงแบบ Double Volume ที่ด้านหน้า และยังมี Lobby เพดานสูงปกติให้ที่ฝั่งทางเข้าด้านหลังอีก 1 โซน
ด้านหน้าวิวสระว่ายน้ำ จัดเตรียมโซฟารับรองดีไซน์คลาสสิกไว้ให้ 2 มุม
อีกโซนทางด้านหลังอาคาร จะมีมุมนั่งเล่นพักผ่อนให้อีกหลายที่นั่ง
ถัดออกไปทางด้านข้าง จะเป็นที่ตั้งของห้องนิติบุคคล
ด้านนอกติดกับ Pool Terrace จะเป็น The Pavilion เป็นห้องพักผ่อนที่โยกออกมาจากอาคารด้านใน
The Pavilion จะเป็นเหมือนห้องพักผ่อนหรือห้องรับรองแขกขนาดใหญ่ มีโซฟา เก้าอี้ โต๊ะกลมจัดเตรียมไว้ให้หลายที่นั่ง รองรับการจัดปาร์ตี้สังสรรค์ หรือใช้เป็นห้องนัดพบแขกในกรณีที่ต้องการความเป็นส่วนตัวก็ได้
กลับเข้าไปภายในอาคารกันต่อค่ะ
ขึ้นไปที่ชั้น 2 จะเป็นที่ตั้งของ Co-Working Space และ Fitness
ตรงโถงชั้น 2 จะมีมุมสำหรับนั่งพักผ่อนที่เชื่อมต่อกับ Double Volume Space ด้านหน้าห้องด้วย
เข้าไปดู Fitness กันก่อนค่ะ
ภายใน Fitness Room มีการออกแบบหน้าต่างโดยรอบห้องเพื่อให้รับแสงสว่างจากธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ ทำให้ห้องดูโปร่งสบาย บรรยากาศเหมาะสำหรับการออกกำลังกาย และมีตู้กดน้ำดื่มติดตั้งมาให้ด้วยค่ะ
โครงการจัดเตรียมเครื่องออกกำลังกายมาให้ทั้ง Cardio และ Weight Training โดยจะมีให้ครบทั้ง Treadmill, Elliptical, Spin Bike, Multi-Function Machine, Dumbbell และอุปกรณ์สำหรับเล่น Yoga
อีกด้านของอาคาร จะเป็นห้อง Co-Working Space
ภายใน Co-Working Space ถูกตกแต่งมาอย่างสวยงาม มีโต๊ะขนาดใหญ่รองรับได้ 8 ที่นั่งใช้ประชุมคุยงานกันได้ พร้อม Smart TV จำนวน 1 เครื่องค่ะ
ส่วนใครที่ต้องการนั่งทำงานแบบจริงจัง ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ก็นำ Laptop มาทำงานในห้องนี้ได้เลยค่ะ
มุมมองอาคารจากฝั่งด้านหลัง จะเห็นว่าด้านบนหลังคามีการติด Solar Roof เพื่อนำพลังงานทดแทนมาใช้ในพื้นที่ส่วนกลาง ทำให้ประหยัดค่าไฟและช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายให้กับลูกบ้านได้ด้วยค่ะ
ด้านข้างอาคาร Clubhouse ฝั่งด้านหลัง จะมี Sansiri Backyard ที่เป็นแปลงพืชผักสวนครัวที่สามารถเก็บไปรับประทานได้
บรรยากาศภาพรวมบริเวณถนนเมนรองภายในโครงการ
บรรยากาศภาพรวมภายในซอยพักอาศัย ที่แต่ละซอยจะมีจำนวนบ้านไม่เยอะ ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นค่ะ
โครงการ เศรษฐสิริ บางนา กม.10 เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ Georgian ที่ดินบ้านเริ่มต้นที่ 59-135 ตร.ว. มีแบบบ้านให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ ดังนี้
แบบบ้าน Austen พื้นที่ใช้สอย 310 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน, 5 ห้องน้ำ, 1 ห้องอเนกประสงค์, 1 ห้องรับแขก, 1 ห้องรับประทานอาหาร, 1 ครัวไทย, 1 ห้องแม่บ้าน, ที่จอดรถ 3 คัน
แบบบ้าน Masefield พื้นที่ใช้สอย 377 ตร.ม. ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน, 6 ห้องน้ำ, 1 ห้องอเนกประสงค์, 1 ห้องรับแขก, 1 ห้องรับประทานอาหาร, 1 ครัวไทย, 1 ห้องแม่บ้าน, ที่จอดรถ 3 คัน
แปลนบ้านชั้น 1
แปลนบ้านชั้น 2
แปลนบ้านชั้น 1
แปลนบ้านชั้น 2
แปลนบ้านชั้น 1
แปลนบ้านชั้น 2
วันนี้เราจะพาไปชมบ้านตัวอย่างทั้งหมด 2 หลัง ได้แก่
แบบบ้าน Masefield (L) พื้นที่ใช้สอย 377 ตร.ม. ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน, 6 ห้องน้ำ, 1 ห้องอเนกประสงค์, 1 ห้องรับแขก, 1 ห้องรับประทานอาหาร, 1 ครัวไทย, 1 ห้องแม่บ้าน, ที่จอดรถ 3 คัน
บ้านภายในโครงการถูกออกแบบเป็น “Green Living Design Home” บ้านสีเขียวที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและแนวคิด Sustainability อย่างครบด้าน เริ่มตั้งแต่โครงสร้างบ้านที่ก่อสร้างด้วยระบบ Fully Precast แข็งแรง แม่นยำ ทนทาน ภายนอกทาสีด้วย UV Shield Paint เคลือบสารกันแสงช่วยลดการซีดจาง
ได้ระบบไฟ 3 เฟส (30/100) ติดตั้งมาพร้อม EV Charger 1 จุด และ Solar Cell ขนาด 2.2 Kw ขณะที่ประตู-หน้าต่างใช้กระจก Green Glass ที่ช่วยลดความร้อนเข้าสู่บ้าน พร้อม Breeze Panel ช่องระบายอากาศตามตำแหน่งประตูและหน้าต่าง และฝ้าชายคาแบบ Ventilation ช่วยถ่ายเทอากาศ นอกจากนี้ยังมีไฟกิ่ง Solar Lighting ช่วยประหยัดพลังงานในโครงการอีกด้วย
ภายในบ้านมาพร้อมระบบ Dust Free House ที่ช่วยกรองฝุ่น PM2.5 และนำอากาศบริสุทธิ์เข้าสู่ห้องนอนทุกห้อง สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ภายในบ้านก็เลือกใช้แบบประหยัดน้ำและประหยัดพลังงาน ช่วยลดค่าใช้จ่ายและดีต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว
ด้านความปลอดภัยจะมีระบบ Security Home Automation ครบชุด ทั้งสัญญาณกันขโมยแบบ Magnetic และ Motion Sensor ติดตั้งทั้งชั้น 1 และชั้น 2 พร้อม Smoke Detector บริเวณหน้าครัวและภายในครัว เพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝันและเพิ่มความมั่นใจให้ผู้อยู่อาศัยทุกวัน
ส่วนงานมาตรฐานหน้าบ้านทุกหลังจะได้รั้วเหล็กแบบเลื่อน 2 ตอน พร้อมการเดินระบบรองรับ Motor ประตูไฟฟ้า และประตูสำหรับคนเดินเข้า-ออกแยกต่างหาก อีกทั้งยังติดตั้ง Mail Box สกรีนเลขที่บ้านและตู้เก็บขยะไว้ให้เรียบร้อย ทำให้พร้อมเข้าอยู่และใช้งานได้ทันทีค่ะ
เริ่มกันที่แบบบ้าน Masefield (L) ที่เป็นบ้านเดี่ยว Size ใหญ่ที่สุดของโครงการ ที่ดินบ้านเริ่มต้นที่ 90 ตร.ว. ขึ้นไป ได้พื้นที่ใช้สอย 377 ตร.ม. ฟังก์ชันบ้าน 5 ห้องนอน, 6 ห้องน้ำ, 1 ห้องอเนกประสงค์, 1 ห้องรับแขก, 1 ห้องรับประทานอาหาร, 1 ครัวไทย, 1 ห้องแม่บ้าน พร้อมที่จอดรถ 3 คัน รองรับครอบครัวขนาดใหญ่ ที่มีสมาชิกครบทั้ง 3 Gen ได้อย่างลงตัว
การออกแบบบ้านมาในสไตล์ Georgian ที่ได้แรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมยุค British Georgian ที่โดดเด่นด้วยเส้นสายที่เรียบหรูและสมมาตร เอกลักษณ์อยู่ที่การผสานความงดงามแบบคลาสสิกเข้ากับวัสดุทันสมัยที่แข็งแรงและใช้งานได้จริง
ตัวบ้านมีหลังคาทรง Hip, หน้าต่างลายตาราง และ Grand Entrance ที่เป็นซุ้มเสาคู่ ช่วยเสริมภาพรวมให้ดูสุขุม มีความเป็นทางการเล็ก ๆ แต่ยังคงความหรูหราและภูมิฐานในทุกมุมมองค่ะ
แปลนบ้านชั้น 1 : เป็นบ้านหน้ากว้างหลังใหญ่สุด ซ้ายมือเป็นโรงจอดรถในร่ม สามารถจอดรถยนต์ได้ 3 คัน ภายในมีตู้เก็บของ ทางลาด และประตูรองให้เชื่อมต่อเข้าบ้านได้สะดวก ส่วนขวามือจะเป็น Grand Entrance เชื่อมต่อกับ Foyer และ Living Area จุดแรกภายในบ้าน
ถัดไปด้านหลังจะเป็น Common Area แบบ Open Plan รวม Living Area, Dining Area และ Pantry ไว้ด้วยกัน ถัดจาก Pantry ไปจะเป็นห้องน้ำชั้นล่าง ห้องครัวไทย และ Maid Plaza ส่วนขวามือสุด จะเป็นห้องนอนที่ 5 พร้อมห้องน้ำในตัว
แปลนบ้านชั้น 2 : ขึ้นมาด้านบนจะเจอกับโถงทางเดินใช้เชื่อมต่อกับ Family Area และห้องนอนอีก 4 ห้อง ทุกห้องมีห้องน้ำในตัวให้ใช้งานได้สะดวก
หน้าบ้านแบ่งฟังก์ชันไว้ 2 ส่วนหลัก คือ ส่วนของโรงจอดรถในร่ม / ประตูรอง และ Grand Entrance ด้านหน้าบ้านค่ะ
โรงจอดรถแยกโครงสร้างไว้ 2 ส่วนค่ะ ในร่มจะใช้คานเดียวกับตัวบ้าน ส่วนด้านนอกจะมีการช่วยป้องกันปัญหาการทรุดตัวในอนาคตได้
โรงจอดรถของบ้านหลังนี้ จะเป็นหลังคาคลุมเต็มพื้นที่ สามารถจอดรถได้ 3 คันในร่ม ทำผิวทรายล้างเป็นลายตารางดูสวยงาม
ด้านในจะมีตู้เก็บของ / Ramp สำหรับเคลื่อนย้าย Wheelchair หรือรถเข็นเด็ก ที่เชื่อมต่อสูงประตูรองได้เลย
ด้านข้างมีตู้เก็บของขนาดใหญ่ให้ 1 ห้อง ใช้เก็บพวกอุปกรณ์ล้างรถหรือของใช้ภายนอกบ้านได้อย่างเป็นระเบียบ
ภายในโรงจอดรถทางโครงการจะติดตั้ง EV Charger ของ ABB Terra AC Wallbox (Normal Charge) ให้ฟรีทุกหลัง เครื่องนี้จะนำเข้าโดย SHARGE ที่สามารถชาร์จได้เร็ว 4-8 ชม.* ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ใช้รถ EV หรือกำลังมองหารถ EV เพื่อใช้ในอนาคต
มี Ramp รองรับสมาชิกที่ใช้ Wheelchair / รถเข็นเด็ก / รถเข็นของ ที่เคลื่อนย้ายจากรถยนต์เข้าไปในตัวบ้านผ่านประตูรองได้สะดวกมากขึ้น
ประตูรองตรงโรงจอดรถ เป็นประตูบานทึบสีขาว ติดกลอน Digital Door Lock ของ Kaadas ที่ใช้งานได้ทั้งหมด 5 ระบบ คือ Finger Scan, Pin Code, Keycard, Bluetooth และไขกุญแจ


จากโรงจอดรถจะเชื่อมกับ Grand Entrance ผ่านทางเดินในร่มด้านหน้าบ้าน
เดินผ่าน Grand Entrance ไป จะเชื่อมกับสวนหน้าบ้าน และสวนรอบตัวบ้านได้แบบนี้ค่ะ
บรรยากาศบริเวณสวนข้างบ้าน ในบ้านจริงจะมีการจัดสวน ปลูกต้นไม้ใหญ่ให้ตามแบบมาตรฐานไว้ด้วยค่ะ
กลับมาที่หน้าบ้าน ตรง Grand Entrance ถูกออกแบบให้ดูโปร่ง โอ่อ่า ด้วยเสาทรงสูงที่มีมาให้ถึง 4 ต้น และมีโคมไฟสไตล์คลาสสิกติดมาให้ด้วย 1 คู่
ประตูทางเข้าหลักหน้าบ้านเป็นแบบ French Door พร้อมช่องแสงบาน Fixed ทรงโค้ง ตัดด้วยขอบบัวสีขาว ทำให้บ้านดูแกรนด์ และเป็น Grand Entrance ที่ดูหรูหรา พรีเมียมมากขึ้น
เข้ามาภายในบ้านจะพบกับ Foyer หรือโถงต้อนรับขนาดใหญ่ ที่ออกแบบให้เป็น Double Volume Space สูงโปร่งด้วยฝ้าเพดานสูงถึง 6.7 ม. เชื่อมต่อขึ้นไปถึงระดับชั้น 2 ทำให้พื้นที่ดูแกรนด์และมีมิติทันทีที่ก้าวเข้ามา
จากโถง Foyer จะเชื่อมต่อสู่ Living Area และ Dining Area ในรูปแบบ Open Plan ช่วยให้พื้นที่ดูกว้างต่อเนื่องและใช้งานร่วมกันได้อย่างลื่นไหล รอบบ้านยังติดตั้งประตูและหน้าต่างบานใหญ่เพื่อรับแสงธรรมชาติ ให้บ้านสว่าง โปร่ง และน่าอยู่มากขึ้น และที่ประตู-หน้าต่างทุกบานจะติดตั้งสัญญาณกันขโมยระบบ Magnetic Sensor มาให้ด้วยค่ะ
บริเวณ Foyer จะปูกระเบื้องลายหินโทนขาว–ดำเหมือนบ้านตัวอย่าง เพิ่มความหรูหราให้พื้นที่ต้อนรับอย่างชัดเจน ส่วนพื้นที่ใช้งานอื่น ๆ ของชั้นล่างจะปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ลายหินสีขาว ขนาด 60 x 120 ซม. แผ่นใหญ่ รอยต่อน้อย ช่วยให้บ้านดูโปร่ง สวยเนี๊ยบ และยกระดับความพรีเมียมของบรรยากาศภายในบ้านค่ะ
ตรง Foyer ก่อนทางขึ้นบันได จะมีพื้นที่แนวยาวไว้สำหรับวางม้านั่งพักคอย ทำเป็น Pet Area เล็ก ๆ หรือใช้เป็นมุมวางของตกแต่งบ้านสวย ๆ เพิ่มเข้าไปได้ค่ะ
ด้านขวาของบ้านจะเป็น Living Area จุดแรก มุมนี้จะเหมาะกับการทำห้องรับแขกเพื่อแยกโซนออกจากมุมของสมาชิกในครอบครัว หรือใครจะกั้นห้องเพิ่ม ทำเป็นห้องดูหนัง ห้องทำงานรับวิวสวนก็ทำได้ค่ะ
ภายในสามารถวางโซฟาเซ็ตใหญ่ ขนาด 6-8 ที่นั่ง พร้อมกับชั้นวางทีวีได้เลย และมุมนี้จะได้ความโปร่งสว่างจากหน้าต่างกระจกบานผสมขนาดใหญ่ที่ติดเข้ามุมไว้ให้ 2 ด้านแบบนี้ด้วยค่ะ
จาก Living Area มองกลับออกมาที่ Foyer ด้านหน้าบ้าน
ถัดจาก Foyer เข้าไปที่ด้านในจะเป็น Common Area แบบ Open Plan ที่รวม Living Area (จุดที่ 2), Dining Area และ Pantry ไว้ด้วยกัน โดยความสูงของฝ้าเพดานด้านในนี้จะอยู่ที่ 2.9 ม. และที่ผนังด้านหลังบ้านจะได้เป็นหน้าต่างกระจกบานผสมขนาดใหญ่ และประตูกระจกบานเลื่อนที่ใช้เปิดเชื่อมสวนหลังบ้านได้
โซนแรกจัดเป็น Living Area จุดที่ 2 ซึ่งเหมาะกับทำเป็นมุมนั่งเล่น นั่งดูหนังที่ดูเป็นส่วนตัวมากขึ้น
พื้นที่ใช้งานจะรองรับโซฟาเซ็ตกลาง 4-6 ที่นั่ง และใช้ผนังอีกฝั่งวาง หรือ Built-in ชั้นวางทีวีขนาดใหญ่ได้เลยค่ะ
ต่อเนื่องกันจะเป็น Dining Area และ Pantry
รองรับ Long Table ขนาด 6-8 ที่นั่งได้สบาย ๆ
ติดกับมุมทานอาหาร จะเป็น Pantry ภายในบ้านค่ะ สำหรับบ้านจริงจะติดตั้ง Pantry พร้อม Sink ของ Starmark พร้อมทำช่องสำหรับวางตู้เย็น และมีตู้แขวนด้านบนตามแบบมาตรฐานโครงการให้ครบพร้อมใช้งาน
ผนังด้านหลังบ้านติดหน้าต่างกระจกบานเปิดให้ 1 บาน ใช้เป็นช่องระบายอากาศ และช่องแสงในตอนกลางวันได้ดี
ข้าง Dining Area ทางฝั่งหน้าบ้าน จะเป็นประตูรองที่เชื่อมมาจากโรงจอดรถ และมีตู้เก็บของให้ 2 ห้อง โดยตู้ด้านขวาจากภาพจะเป็นตู้ที่เก็บ Consumer Units ของบ้านไว้ที่ด้านใน ทำให้บ้านดูเป็นระเบียบและสวยงามมากขึ้น
ผนังตรงข้างประตูรองและตู้เก็บของ จะเป็นที่ตั้งของ Control Pad หรือจอควบคุมระบบ Home Automation ภายในบ้าน
ติดกับ Pantry ซ้ายมือเป็นห้องน้ำชั้นล่าง และด้านหน้าจะเป็นประตูที่เชื่อมกับห้องครัวไทย, Laundry Area และห้องแม่บ้าน
ห้องน้ำชั้นล่างจัดฟังก์ชันเป็นห้องน้ำแบบ Powder Room ตกแต่งกระเบื้องพื้นลายไม้และกระเบื้องผนังลายหินอ่อน สุขภัณฑ์ใช้เป็นของ Mogen, Kohler และ Cotto มีหน้าต่างกระจกฝ้าบาน Fixed และบานกระทุ้งติดมาให้ด้วย 1 ชุด
อ่างล้างหน้าขนาดใหญ่ พร้อมตู้เก็บของใต้อ่าง ก๊อก้น้ำแบบก้านโยก ด้านหลังมี Low-Wall ไว้วางของใช้จุกจิกเพิ่มได้
ติดกันได้เป็นโถสุขภัณฑ์อัตโนมัติ พร้อมที่แขวนกระดาษทิชชูที่ผนังด้านข้าง
ถัดเข้าไปด้านในจะเจอกับห้องครัวไทย และห้องแม่บ้านที่อยู่ด้านท้ายสุด
พื้นที่ใช้งานในครัวได้มาค่อนข้างกว้างเลยค่ะ บ้านจริงจะได้เคาน์เตอร์ครัวตัว U หน้าท็อปหินแกรนิตสีดำ พร้อม Sink และตู้เก็บของบน-ล่างหน้าตาแบบที่เห็นนี้ ส่วนที่ไม่ได้มากับบ้านจะเป็น Hob และ Hood ค่ะ
ผนังครัวกระกระเบื้องแกรนิตโต้มาให้รอบด้านด้วย ทำให้เช็ดคราบมัน คราบสกปรกต่าง ๆ ได้ง่าย ด้านหลัง Sink ติดหน้าต่างกระจกบานเลื่อนมาให้ 1 บาน
ออกจากห้องครัวไป จะเป็นส่วนของ Laundry Area ห้องนอนแม่บ้าน และห้องน้ำแม่บ้าน
ตัวพื้นจะปูกระเบื้องเซรามิกกันลื่นเต็มพื้นที่ ใช้งานได้มั่นใจมากขึ้น ด้านซ้ายมือจะติดตั้งตู้เก็บของและชั้นวางของพร้อมราวแขวนผ้าไว้ให้แบบมาตรฐาน ด้านล่างมีการเดินระบบน้ำและระบบไฟรองรับครบถ้วน สามารถวางเครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้า รวมถึงติดตั้งอ่างล้างมือขนาดเล็กเพิ่มที่ด้านข้างได้อย่างลงตัวค่ะ
ติดกับ Laundry Area จะเป็นที่ตั้งของห้องน้ำแม่บ้าน ซึ่งแยกโซนออกมาเลย ข้อดีคือนอกจากให้แม่บ้านใช้งานได้แล้ว ยังทำเป็นห้องน้ำรับรองสำหรับแขก หรือช่างที่มา Maintenance งานระบบต่าง ๆ ของบ้านได้ด้วย
ภายในให้พื้นที่มาค่อนข้างกว้างเลยค่ะ ใช้งานได้สะดวกดี พื้นและผนังตกแต่งด้วยกระเบื้องโทนสีเทา มีหน้าต่างไว้รับแสงระบายอากาศให้ 1 ชุด พร้อมติดสุขภัณฑ์มาตรฐานมาให้ครบพร้อมใช้งาน
อีกด้านของโซนนี้จะเป็นห้องนอนแม่บ้าน และประตูทางออกไปลานซักล้างข้างบ้าน
ห้องนอนแม่บ้านติดหน้าต่างมาให้ 1 บาน ส่วนพื้นที่ใช้งานภายในห้องจะสามารถวางเตียงเดี่ยว และตู้เสื้อผ้าได้ครบ ส่วนใครที่ไม่ได้มีแม่บ้านอยู่ประจำ สามารถทำเป็นห้องเก็บของ ห้องรีดผ้า หรือทำเป็นห้องเลี้ยงสัตว์โดยติดแอร์เพิ่มได้เลยค่ะ
กลับมาที่อีกฝั่งของบ้าน จะเป็นที่ตั้งของห้องนอน 5 หรือห้องนอนชั้นล่าง ที่อยู่ติดกับ Living Area (จุดที่ 2)
ห้องนอน 5 ออกแบบตามหลัก Universal Design เหมาะสำหรับทำเป็นห้องนอนผู้สูงอายุ โดยตัวพื้นจะปูด้วย Absorption Floor ที่มีความยืดหยุ่นสูง ช่วยลดการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุการหกล้มได้ และในห้องนี้จะมีห้องน้ำในตัวให้ใช้งานได้สะดวกสบายมาขึ้น
พื้นทางเข้าห้องน้ำถูกออกแบบเป็นแบบ Non-Step เดินเข้าได้เรียบต่อเนื่องโดยไม่มีธรณีหรือขั้นต่างระดับ ช่วยลดการสะดุดล้มและทำให้ใช้งานได้ปลอดภัยยิ่งขึ้น เหมาะทั้งสำหรับเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ใช้ Wheelchair
ภายในตกแต่งกระเบื้องพื้นและผนังออกมาได้หรูหราสวยงาม มีการแบ่งส่วนแห้ง แยกส่วนอาบน้ำให้เรียบร้อย สุขภัณฑ์มาตรฐานติดตั้งมาให้ครบ โดยใช้เป็นของ Mogen, Kohler และ Cotto และมีหน้าต่างบานผสมติดมาให้ 1 ชุด
ได้อ่างล้างมือทรงเหลี่ยม พร้อมตู้เก็บของ ส่วนโถสุขภัณฑ์เป็นแบบ 2 Piece ระบบ Daul Flush มีอุปกรณ์ประกอบติดมาให้ครบ และด้านหลังจะมี Low-Wall ไว้วางของใช้ได้เยอะเลยค่ะ
ส่วนอาบน้ำพื้นที่กว้าง ข้าง ๆ มีการก่อม้านั่งช่วยอาบน้ำไว้ให้ตามนี้
ติดตั้งฝักบัว Hand Shower พร้อมราวปรับระดับ มี Junction Box ไว้รองรับการติดเครื่องทำน้ำอุ่น และด้านข้างจะมี Drop Wall ไวำวางของใช้ในห้องน้ำให้อีก 2 ชั้น
เข้ามาด้านในติดช่องแสงมาให้รอบด้าน ในบ้านตัวอย่างตกแต่งเป็นห้องดูหนังแบบส่วนตัวมาให้ดูเป็นไอเดีย บ้านจริงเลือกปรับฟังก์ชันได้ตามต้องการ ทั้งการทำเป็นห้องนอนผู้สูงอายุ หรือทำเป็นห้องทำงานชมวิวสวนก็ได้
ด้านข้างบ้านจะเป็นประตูกระจกบานเลื่อน ที่เปิดเชื่อมสวนด้านข้างได้ค่ะ
จากห้องนอน 5 มองกลับออกมาที่ Common Area ภายในบ้าน
บันไดบ้านจะอยู่ติดกับ Foyer ด้านหน้าบ้าน โครงสร้างบันไดเป็น Precast ลูกนอนเป็นไม้ยางพาราประสานสีอ่อน ติดราวจักเหล็กดัดโค้งสีดำ มือจับชนิดเดียวกันกับลูกนอนยาวไปจนถึงโถงชั้น 2
ผนังด้านข้างบันไดจะติดตั้งไฟส่องสว่างแบบ Motion Sensor ที่เปิด–ปิดอัตโนมัติเมื่อมีการเคลื่อนไหว ช่วยเพิ่มความปลอดภัยขณะเดินขึ้น-ลงบันไดในช่วงกลางคืน พร้อมให้แสงนำทางอย่างนุ่มนวลโดยไม่ต้องเปิดไฟหลักให้แยงตา เป็นดีเทลเล็ก ๆ ที่ช่วยให้การใช้งานในชีวิตประจำวันสะดวกขึ้นมาก
ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเจอกับโถงทางเดินแนวยาว ใช้เชื่อมต่อกับห้องนอนอีก 4 ห้อง และ Family Area ตรงกลางโถงบ้าน โดยชั้น 2 นี้ จะได้ความสูงฝ้าเพดานถึง 3.1 ม. ได้บรรยากาศที่ดูโปร่งสบาย ส่วนพื้นบ้านจะได้เป็น VSPC ลายไม้ หนา 7 มม.
ผนังตรงโถงบ้านชั้น 2 จะมี Control Pad ของระบบ Home Automation ติดมาให้อีก 1 จุด รวมทั้งหลังจะมีทั้งหมด 2 เครื่อง ใช้งานได้สะดวกไม่ว่าจะอยู่ชั้นบนหรือชั้นล่าง
Family Area ด้านบน พื้นที่กว้าง สามารถวางโซฟาเซ็ตใหญ่ ชุด Home Theater ทำเป็นมุมพักผ่อน ดูหนังแบบส่วนตัวเฉพาะสมาชิกในครอบครัวได้เลย
ด้านหน้าบ้านมีระเบียงให้ออกไปยืนรับลมชมวิว หรือใช้เป็นระเบียงจัดสวนสวย ๆ เพิ่มก็ได้ค่ะ
ถัดจากโซน Family Area จะเป็นตำแหน่งของห้องนอนรองทั้ง 3 ห้อง ซึ่งถูกจัดวางไว้อย่างเป็นสัดส่วน และที่พิเศษคือ ทุกห้องนอนมีห้องน้ำในตัว ทำให้ใช้งานสะดวกเป็นส่วนตัว เหมาะกับครอบครัวที่ต้องการความสบายในการใช้ชีวิตประจำวันค่ะ
เข้ามาที่ห้องนอน 2 ทางฝั่งหน้าบ้านกันก่อน ห้องนี้เข้ามาจะเจอกับห้องน้ำ และมีส่วนพักผ่อนอยู่ทางฝั่งหน้าบ้าน
ห้องน้ำแต่งกระเบื้องโทนสีขาวและสีเทาเล่นลายสวยงาม มีการแบ่งส่วนแห้ง กั้นแยกส่วนอาบน้ำให้เรียบร้อย พร้อมสุขภัณฑ์มาตรฐานที่ได้มาเหมือนกันกับห้องน้ำในห้องนอน 5 ทุกประการค่ะ
ถัดมาหน้าบ้านจะเจอส่วนพักผ่อน ที่มีหน้าต่างกระจกบานผสมติดมาให้รอบด้าน รวม 3 ชุดเลย
ห้องนี้สามารถวางเตียงนอนขนาด 5-6 ฟุต พร้อมกับม้านั่งปลายเตียงได้
ข้างเตียงนอนมีพื้นที่แนวยาวให้วางตู้เสื้อผ้า Size ใหญ่ได้เต็มพื้นที่
ปลายเตียงสามารถวางชั้นวางทีวี ชั้นวางของ หรือจะ Built-in ตู้เก็บของขนาดใหญ่ไปเลยก็ได้
มองกลับออกมาทางหน้าห้องนอน 2
มาต่อกันที่ห้องนอน 3 ทางฝั่งหลังบ้าน สามารถทำเป็นห้องนอนเด็กได้สบาย ๆ โดยห้องนี้จะมีหน้าต่างกระจกบานผสมทรงสูงติดมาให้รวม 3 ชุด และพื้นที่ด้านหลังบ้าน สามารถวางเตียง 3.5 ฟุต ได้พอดีพื้นที่ที่เว้นไว้
ปลายเตียงนอนมีพื้นที่เหลือให้ทำเป็นมุมเล่นของเล่นของลูก ๆ ได้แบบนี้
อีกฝั่งของห้อง สามารถทำเป็นมุมทำการบ้านของเด็ก ๆ โดยวางเป็นโต๊ะตัวยาวไปกับผนังได้เลยค่ะ
ถัดเข้าไปด้านในจะมีพื้นที่ให้ทำเป็นมุมแต่งตัวได้
เชื่อมต่อกับห้องน้ำในตัวได้สะดวก
ภายในแยกส่วนแห้งและกั้นส่วนอาบน้ำให้เรียบร้อย พร้อมติดสุขภัณฑ์มาตรฐานมาให้พร้อมใช้งาน
มองกลับออกมาทางด้านหน้าห้องนอน 3
มาต่อกันที่ห้องนอน 4 จะมีขนาดใกล้เคียงกันกับห้องนอน 3 แต่ห้องนี้จะจัดฟังก์ชันเป็นห้องทำงานส่วนตัวให้ดูเป็นไอเดียค่ะ
โซนแรกมีหน้าต่างติดมาให้ 2 บาน ส่วนพื้นที่ใช้งานถือว่ากว้างดีเลย สามารถวางโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ ตู้เก็บเอกสาร และชั้นวางของต่าง ๆ ได้ครบ
ต่อเนื่องไปด้านในสามารถ Built-in ตู้เก็บของขนาดใหญ่ได้แบบนี้เลยค่ะ
ติดกันเป็นทางเข้าห้องน้ำในตัว
ห้องน้ำในห้องนอน 3 จะได้การตกแต่งลวดลายกระเบื้อง ยี่ห้อสุขภัณฑ์ และฟังก์ชันการใช้งานมาเหมือนกันกับห้องน้ำก่อนหน้า
ออกจากโซนห้องนอนรอง และ Family Area ไปดู Master Bedroom เป็นส่วนสุดท้ายกันค่ะ
Master Bedroom เป็นห้องนอนใหญ่ที่ได้พื้นที่ยาวต่อเนื่องตั้งแต่ด้านหน้าบ้านไปจนสุดด้านหลัง ทำให้จัดสรรฟังก์ชันได้สบายและเป็นสัดส่วน สามารถแยกโซนวางเตียง มุมแต่งหน้า และมุมแต่งตัวออกจากกันได้อย่างลงตัว ช่วยให้ห้องดูโปร่งกว้างและใช้งานได้สะดวกในทุกวันค่ะ
เดินไปทางฝั่งหน้าบ้านจะเป็นโซนพักผ่อนขนาดใหญ่ เชื่อมต่อกับระเบียงส่วนตัว และบริเวณนี้จะมีช่องแสงติดมาให้รอบด้านถึง 3 ชุด ได้บรรยากาศที่โปร่งสบาย
พื้นที่ฝั่งนี้จะสามารถวางเตียง King Size โต๊ะหัวเตียง ม้านั่งปลายเตียง รวมถึงชั้นวางทีวีขนาดใหญ่ได้ โดยที่รอบ ๆ เตียงนอนยังมีพื้นที่เหลือให้ใช้งานได้สะดวก
ทางฝั่งหน้าบ้านจะมีประตูทางออกไปยังระเบียงส่วนตัวด้านนอกได้ค่ะ
จากระเบียงมองกลับเข้ามาภายในห้องนอน
อีกฝั่งของห้องจะเป็นพื้นที่ Walk-in Closet ที่สามารถแยกโต๊ะเครื่องแป้งไว้ด้านนอก และใช้พื้นที่ด้านในวาง หรือ Built-in ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ไว้ 3 ด้านได้แบบนี้เลยนะคะ
ด้านข้างกันจะเป็นประตูทางเข้าห้องน้ำ เดินเชื่อมต่อเข้าใช้งานได้สะดวก
Master Bathroom เป็นห้องน้ำแบบ Full Bath ขนาดใหญ่ ออกแบบเป็นห้องหน้ากว้าง แต่งพื้นกระเบื้องลายไม้ ผนังแต่งลายหินอ่อนสีขาวดูหรูหราสบายตา พร้อมติดตั้งสุขภัณฑ์มาตรฐานรุ่นพรีเมียมให้พร้อมใช้งานค่ะ
ขวามือเป็นพื้นที่ส่วนแห้ง มีหน้าต่างกระจกบานผสมขนาดใหญ่ติดไว้ให้ 1 ชุด
ด้านหน้าจะได้อ่างล้างมือแบบ His & Her พร้อมตู้เก็บของใต้อ่าง และ Low-Wall ที่ด้านหลัง
ขวามือติดกับหน้าต่างจะเป็น Bathtub แบบลอยตัว พร้อมฝักบัวอาบน้ำและก๊อกผสม
ด้านข้างมีการทำชั้นวางของมาให้ 2 ชั้นแบบนี้
อีกฝั่งเป็นโถสุขภัณฑ์และส่วนอาบน้ำ
ติดตั้งโถสุขภัณฑ์อัตโนมัติของ Cotto พร้อมชั้นวางของให้ที่ด้านหลัง
ส่วนอาบน้ำกั้น Shower Screen ประตูบานสวิงไว้ให้ พื้นที่ใช้งานด้านในยืนอาบน้ำได้สบาย ๆ
ด้านในจะติดฝักบัวมาให้ 2 แบบเลยค่ะ คือ แบบ Hand Shower พร้อมราวปรับระดับ และ Rain Shower ที่ด้านบน ที่ใช้อาบน้ำได้อย่างผ่อนคลายมากขึ้น ผนังข้าง ๆ เจาะช่องทำชั้นวางของมาให้ 2 ช่อง และมีหน้าต่างกระจกฝ้าบานผสมติดไว้ในส่วนนี้ด้วย 1 ชุดค่ะ
มาต่อกันที่แบบบ้าน Austen เป็นบ้านขนาดกลางของโครงการ และเป็นแบบบ้านที่มีเยอะที่สุดในโครางการนี้ ที่ดินบ้านเริ่มต้น 75 ตร.ว. ขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย 310 ตร.ม. หน้าตาบ้านถูกออกแบบมาในสไตล์ Georgian มีความสมมาตร เป็นเอกลักษณ์ ดูมีคลาส ฟังก์ชันบ้านมี 4 ห้องนอน, 5 ห้องน้ำ, 1 ห้องอเนกประสงค์, 1 ห้องรับแขก, 1 ห้องรับประทานอาหาร, 1 ครัวไทย, 1 ห้องแม่บ้าน พร้อมที่จอดรถ 3 คัน
โดยบ้านหลังที่พาเข้าชมวันนี้เป็นยูนิตที่โครงการตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ครบชุดไว้พร้อมขาย สามารถเข้าอยู่ได้ทันที เหมาะมากสำหรับกลุ่ม Investor ที่มองหาบ้านเพื่อปล่อยเช่าให้เจ้าของกิจการในโซนบางนา หรือกลุ่มนักธุรกิจ Expat ที่ต้องการบ้านพร้อมใช้งาน โดยไม่ต้องเสียเวลาแต่งเพิ่มค่ะ
แปลนบ้านชั้น 1 : บริเวณหน้าบ้านเป็นโรงจอดรถ สามารถจอดได้ 3 คัน มีประตูทางเข้าบ้านรองจากโรงจอดรถ และมีทางเดินเชื่อมจากโรงจอดรถไปยังเฉลียงทางเข้าบ้านหลัก พื้นที่ภายในบ้านส่วนแรกเป็นห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ พื้นที่เปิดโล่งเชื่อมต่อกับห้องรับประทานอาหาร สามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้อย่างยืดหยุ่น
จากโถงหลักเชื่อมต่อกับโถงทางเดิน ไปยังโถงบันได, ห้องน้ำชั้นล่าง, ห้องนอน 4 และห้องครัว ได้เป็นครัวปิดขนาดใหญ่ มีประตูออกฝั่งหลังบ้านเชื่อมต่อกับห้องแม่บ้านและห้องน้ำ ที่แบ่งโซนจากฟังก์ชันในบ้านอย่างเป็นสัดส่วน
แปลนบ้านชั้น 2 : เป็นส่วนของฟังก์ชันห้องนอน 3 ห้อง โดย Master Bedroom จะมีพื้นที่สำหรับ Walk-in Closet พร้อมห้องน้ำที่แบ่งฟังก์ชันเป็นสัดส่วนในตัว และมีระเบียงส่วนตัวฝั่งหน้าบ้าน ส่วนห้องนอนรองอีก 2 ห้อง มีพื้นที่ Walk-in Closet ขนาดใหญ่พร้อมห้องน้ำในตัวเช่นกันค่ะ
ประตูรั้วหน้าบ้านเป็นรั้วเหล็กสีดำแบบรางเลื่อนอัตโนมัติ 2 ตอน ที่ติดตั้งระบบให้ครบเรียบร้อย ลูกค้าไม่ต้องเพิ่มรั้วรีโมตหรือติดตั้งมอเตอร์เพิ่มเติม สามารถใช้งานได้ทันที สะดวกและปลอดภัยมากขึ้นค่ะ
ด้านข้างมีประตูรั้วบานเปิดสำหรับคนเดินแยกออกมาให้ ใช้งานได้สะดวกมากขึ้น และกำแพงด้านข้างกันจะติด Solar Lighting, กริ่งไร้สาย และกล่องจดหมายให้ครบ
อีกฝั่งเป็นถังขยะฝังกำแพงของ DOS พร้อมช่องรับพัสดุที่ด้านบน
โรงจอดรถได้เป็นพื้นทรายล้างเล่นลายเหมือนเดิม ภายในรองรับการจอดรถยนต์ได้ทั้งหมด 3 คัน
ด้านในมีตู้เก็บของให้ 1 ตู้
มี EV Charger ติดมาให้กับตัวบ้านเลย 1 เครื่อง
จากโรงจอดรถจะมีประตูรองกลอน Digital Door Lock เปิดเชื่อมเข้าไปภายในบ้านได้
จากที่จอดรถจะเชื่อมกับสวนหย่อมด้านข้าง ต่อไปยังลานซักล้างหลังบ้านได้เลย
อีกฝั่งจะเชื่อมกับ Main Entrance และสวนรอบบ้านได้เช่นกันค่ะ
ทางเข้าฝั่งหน้าบ้านออกแบบมาจากซุ้มเสาคู่สูงถึงหลังคา ส่วนประตูทางเข้าหลักหน้าบ้านเป็น French Door ทำให้เป็น Main Entrance ที่ดูโอ่อ่าเลยค่ะ
เสาคู่หน้าติดโคมไฟดีไซน์คลาสิกให้ 1 คู่
เข้ามาภายในบ้าน ส่วนแรกจะเป็น Foyer หรือโถงกลางบ้านขนาดใหญ่ ออกแบบเป็น Double Volume Space ที่มีฝ้าเพดานสูงถึง 6.7 ม. เชื่อมต่อขึ้นไปถึงชั้น 2 ทำให้มุมนี้โปร่ง แกรนด์ และให้ความรู้สึกต้อนรับตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามา
จาก Foyer จะเชื่อมไปยัง Living Area และ Dining Area ในแบบ Open Plan ที่ต่อเนื่องกันอย่างลื่นไหล รอบ ๆ พื้นที่มีประตูและหน้าต่างบานใหญ่ช่วยรับแสงธรรมชาติ ทำให้บ้านสว่าง อบอุ่น และน่าอยู่ตลอดทั้งวันค่ะ
ทางฝั่งซ้ายมือของบ้านออกแบบให้เป็น Living Area เพื่อเป็นมุมสำหรับการรองรับแขกและเป็นมุมพักผ่อนของคนในครอบครัว
ใน้บานจะได้ชุดโซฟา โต๊ะรับแขก และชั้นวางทีวีมาครบตามนี้ และมุมนี้จะมีความโปร่งสบาย รับวิวสวนด้านนอกได้กว้าง จากหน้าต่างกระจกบานใหญ่ที่ติดเข้ามุมไว้ 2 ชุด
มองกลับออกมาที่ Foyer หน้าบ้าน
ฝั่งหลังบ้านจัดเป็น Dining Area พร้อมกับ Pantry ขนาดใหญ่
ได้โต๊ะรับประทานอาหารขนาด 6 ที่นั่ง ตู้เก็บของด้านข้าง และมีประตูบานเลื่อนฝั่งหลังบ้านเปิดเชื่อมกับพื้นที่สวนได้
ติดกับ Dining Area จะเป็น Pantry ที่บ้านจริงได้เคาน์เตอร์เข้ามุม พร้อมตู้เก็บของ และ Sink ล้างจานมาแบบนี้เลยนะคะ
มองกลับไปฝั่งหน้าบ้าน มีตู้เก็บของให้ 2 ตู้ และตรงกลางเป็นประตูรองที่เชื่อมกับโรงจอดรถค่ะ
ติดกับ Pantry จะเป็นห้องน้ำชั้นล่าง และทางเข้าห้องครัวไทย
ห้องน้ำแบบ Powder Room ภายในตกแต่งด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนและกระเบื้องลายไม้ ติดกระจกเงาให้เต็มบาน ติดตั้งอ่างล้างมือ โถสุขภัณฑ์อัตโนมัติ และมีฟังก์ชันมาตรฐานให้ครบ
ถัดเข้าไปที่ห้องครัว จะได้เคาน์เตอร์ครัวตัว U ตู้เก็บของบน-ล่าง รวมถึง Hob, Hood, Sink มาตามนี้
ด้านหลัง Sink ติดหน้าต่างกระจกบานเลื่อนไว้ให้ 1 บาน
ต่อเนื่องไปจะเชื่อมกับ Laundry Area และห้องแม่บ้าน
ออกมาตรงนี้จะเจอกับ Laundry Area ที่มีการเดินงานระบบน้ำ ระบบไฟไว้ให้พร้อมต่อใช้เครื่องซัก-อบผ้าได้เลย ด้านบนติดตู้เก็บของ ชั้นวางของ และราวแขวนผ้ามาให้ด้วย
นอกจากโซน Laundry ก็จะมีห้องนอนแม่บ้านและห้องน้ำแม่บ้านแยกไว้อย่างละห้องเป็นสัดส่วนดีมาก ๆ ค่ะ
ภายในห้องนอนแม่บ้าน และห้องน้ำแม่บ้าน
มีประตูอีก 1 บาน ที่เปิดเชื่อมกับลานซักล้างหลังบ้านได้อีกทีค่ะ
เรากลับเข้ามาภายในโถงหลักของบ้าน พื้นที่อีกฝั่งจะเป็นส่วนของห้องนอนชั้นล่าง
ห้องนี้ถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้หลากหลาย แต่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับทำเป็น ห้องนอนผู้สูงอายุ เพราะมีพื้นที่กว้างพอสำหรับการจัดวางโต๊ะ-ตู้-เตียงขนาด 5 ฟุตได้ลงตัว พื้นปูด้วย Absorption Floor ลายไม้ที่ให้สัมผัสนุ่ม เงียบ และเหมาะกับการพักผ่อน
พร้อมทั้งมี ห้องน้ำในตัว ช่วยให้ใช้งานสะดวกยิ่งขึ้น และยังเชื่อมต่อออกสู่สวนหน้าบ้านได้โดยตรง ทำให้บรรยากาศโล่ง โปร่ง และปลอดภัยสำหรับผู้สูงอายุ
นอกจากเป็นห้องนอนแล้ว ห้องนี้ยังสามารถปรับเป็น ห้องอเนกประสงค์ ได้อีกหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นห้องสัตว์เลี้ยง ห้องพักผ่อนของครอบครัว ห้อง Home Theatre ห้องออกกำลังกาย หรือจะจัดเป็นห้องทำงานส่วนตัวก็เหมาะทั้งหมด ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยค่ะ
ห้องน้ำออกแบบพื้นแบบ Non Step เพื่อรองรับการใช้งานของผู้สูงวัย ภายในตกแต่งด้วยกระเบื้องลายหินธรรมชาติและใช้สุขภัณฑ์รุ่นมาตรฐานของบ้าน ครบทั้งอ่างล้างมือ โถสุขภัณฑ์ และโซน Shower มีการแยกส่วนเปียก-ส่วนแห้งให้อย่างเป็นสัดส่วน ใช้งานได้สะดวกสบายค่ะ
เราขึ้นไปดูบนชั้น 2 กันต่อค่ะ ตัวบันไดมีดีเทลการออกแบบราวกันตกและขั้นบันไดโค้งเพื่อให้เข้ากับ Mood ของบ้านด้วย
ขึ้นมาด้านบนชั้น 2 จะเป็นส่วนของ Family Area และห้องนอนทั้งหมด 3 ห้อง โดย Family Area จะเชื่อมต่อกับพื้นที่โถงทางเดินแบบเปิดโล่ง
Family Area เป็นอีกมุมส่วนตัวของสมาชิกภายในบ้านให้มานั่งพักผ่อนกันได้อย่างเป็นส่วนตัว บ้านตัวอย่างจัดให้เป็นมุมสำหรับนั่งทำงานและพักผ่อนอ่านหนังสือ การใช้งานพื้นที่ค่อนข้างอเนกประสงค์ เปลี่ยนได้ตามไลฟ์สไตล์เลยค่ะ
เข้าไปดู Master Bedroom กันก่อนค่ะ
Master Bedroom เป็นห้องที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของบ้าน มีการใช้พื้นที่ฝั่งหนึ่งของบ้านไปทั้งหมดเลย เพราะฉะนั้นการจัดเฟอร์นิเจอร์ จะสามารถทำได้อย่างยืดหยุ่นพอสมควร
ฝั่งหน้าบ้านจัดเป็นโซนพักผ่อน วางเตียงนอน 6 ฟุต พร้อมโต๊ะข้าง และวางชั้นวางทีวีตัวยาวในแบบที่ชอบที่ปลายเตียงได้แบบนี้ โดยโซนนี้จะติดกับระเบียงชมวิวฝั่งหน้าบ้านด้วย
พื้นที่ของห้องรองรับ Walk-in Closet ขนาดใหญ่ได้แบบนี้เลย ทำตู้เสื้อผ้า ชั้นวางของ และโต๊ะเครื่องแป้งได้รอบห้อง
ติดกันเป็นทางเข้าห้องน้ำในห้องนอน
Master Bathroom ตั้งแต่แบบบ้าน Austen เป็นต้นไปจะได้ห้องน้ำแบบ Full Function มีพื้นที่ขนาดใหญ่พิเศษ มีการตกแต่งที่ดูเรียบหรูด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนและกระเบื้องลายไม้ ตัวสุขภัณฑ์ก็อัปเกรดเป็นรุ่นพรีเมียมมากขึ้น
ในห้องได้อ่างล้างมือแบบ His & Her ฝังบนเคาน์เตอร์สำเร็จรูปขนาดใหญ่พร้อมตู้เก็บของใต้อ่าง
โถสุขภัณฑ์ได้รุ่นอัตโนมัติ พร้อมชั้นวางของที่ด้านหลัง
ส่วนอาบน้ำกั้น Shower Screen แยกให้เป็นสัดส่วนดี และยังได้ฝักบัว 2 แบบทั้ง Rain Shower และ Hand Shower อีกทั้งยังมีชั้นวางของที่ผนังให้อีก 2 ชั้นด้วยค่ะ
อ่างอาบน้ำได้ดีไซน์แบบ Free Standing ดูหรูหราสวยงาม ใช้นอนแช่น้ำผ่อนคลายได้สบาย ๆ เลยค่ะ
ถัดมาเป็นห้องที่อยู่ฝั่งหน้าบ้านเช่นกัน ห้องนี้ได้พื้นที่ใช้สอยมาเยอะมาก เป็นอีกห้องที่สามารถวางเตียง King Size ได้สบาย ๆ โดยรอบเตียงยังมีพื้นที่เหลือเยอะ สามารถวางเฟอร์นิเจอร์อื่น ๆ เพิ่มได้ ไม่ว่าจะเป็น Armchair, โต๊ะทำงาน หรือชั้นวางของ
มุมนี้ยังได้ความโปร่งสบาย บรรยากาศโปร่งโล่งจากหน้าต่างขนาดใหญ่ที่ตอดมาให้รอบด้านอีกด้วย
อีกฝั่งของห้อง จะเป็นพื้นที่ของ Walk-in Closet เชื่อมต่อกับห้องน้ำในตัวได้สะดวก
มีพื้นที่ให้วางตู้เสื้อผ้าใบใหญ่และโต๊ะเครื่องแป้ง 1 นั่งหลวม ๆ ได้เลย
ภาพบรรยากาศภายในห้องน้ำในตัว มีสุขภัณฑ์ให้ครบ ตกแต่งด้วยกระเบื้องลายหินธรรมชาติโทนสีเทาอย่างสวยงาม ใช้งานได้อย่างเป็นส่วนตัว
สำหรับห้องนอนห้องสุดท้ายนี้จะอยู่ฝั่งหลังบ้านนะคะ ได้พื้นที่ห้องมาขนาดใหญ่เช่นกัน
บ้านตัวอย่างวางเตียงนอนขนาด 5 ฟุต โต๊ะข้าง และชั้นวางทีวีฝั่งปลายเตียง กำลังลงตัวกับพื้นที่ห้องพอดี
พอวางเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ เข้าไปแล้ว ก็ยังมีพื้นที่รอบ ๆ ให้ใช้งานได้สะดวกค่ะ
ด้านหน้าห้องน้ำสามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งขนาดใหญ่ได้สบาย
ภาพบรรยากาศภายในห้องน้ำ ได้ความเป็นส่วนตัวและใช้งานได้สะดวกดีค่ะ
ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษ คลิก : https://siri.ly/sYzKAVB
*หมายเหตุ : ข้อมูลราคาและโปรโมชันอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม*
⇒ ทำเลที่ตั้งโครงการ : เศรษฐสิริ บางนา กม.10 ตั้งอยู่ภายใน Sansiri 10 East – Luxury Community ขนาดใหญ่ที่แสนสิริตั้งใจพัฒนาให้เป็นย่านที่อยู่อาศัยระดับ Hi-end แห่งใหม่ของโซนบางนา-ตราด โดยจุดเด่นของทำเลนี้คือการวางผังให้เป็น Community แบบ Low Density เน้นความเป็นส่วนตัวสูง แตกต่างจากโครงการจัดสรรทั่วไปที่มักตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ ทำให้บรรยากาศโดยรอบสงบ เป็นระเบียบ และให้ความรู้สึกเหมือนย่านบ้านหรูในต่างประเทศตั้งแต่ทางเข้าโครงการ
อีกหนึ่งความพิเศษของทำเลนี้คือความสมดุลระหว่างการอยู่อาศัยและการใช้ชีวิตประจำวัน แม้จะอยู่ในโซนที่เงียบและเป็นส่วนตัว แต่รอบ ๆ ยังรายล้อมด้วยแหล่งไลฟ์สไตล์คุณภาพ ทั้งคอมมูนิตี้มอลล์ ร้านอาหารระดับพรีเมียม โรงเรียนนานาชาติหลายแห่ง รวมถึงโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำ ทำให้การใช้ชีวิตของครอบครัวเป็นเรื่องง่ายในทุกวัน ไม่ต้องขับรถเข้าเมืองไกล ๆ เพื่อหาสิ่งอำนวยความสะดวก
ด้วยภาพรวมของทำเลที่ค่อนข้าง Mature และมีศักยภาพเติบโตต่อเนื่อง จึงเหมาะทั้งสำหรับครอบครัวที่มองหาบ้านหลังใหญ่เพื่ออยู่อาศัยระยะยาว และกลุ่มผู้บริหารหรือเจ้าของธุรกิจที่ต้องการบ้านในย่านสงบ แต่ยังเชื่อมต่อเมืองได้สะดวก ทำเลนี้จึงถือเป็นหนึ่งใน Rare Location ของบ้านเดี่ยวระดับ Luxury ในโซนตะวันออกของกรุงเทพฯ ที่หาได้ยากขึ้นเรื่อย ๆ ในปัจจุบันค่ะ
⇒ การเดินทางโดยรถส่วนตัว : การเดินทางด้วยรถส่วนตัวถือเป็นจุดแข็งสำคัญของโครงการนี้ โดยตัวโครงการตั้งอยู่ใกล้ถนนบางนา-ตราดฝั่งขาออก ซึ่งเป็นเส้นหลักที่เชื่อมต่อกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออกกับจังหวัดรอบนอก ทำให้การเดินทางออกนอกเมืองหรือเข้าเมืองสามารถเลือกใช้เส้นทางได้หลากหลาย และปรับตามช่วงเวลาการจราจรได้อย่างยืดหยุ่น
จากโครงการสามารถเชื่อมต่อทางด่วนบูรพาวิถีและทางด่วนกาญจนาภิเษกได้ในเวลาไม่นาน ช่วยให้การเดินทางไปโซนสุขุมวิทตอนปลาย พระราม 9 หรือสาทรเป็นเรื่องสะดวกขึ้นมาก รวมถึงยังสามารถใช้เส้นศรีนครินทร์ หรืออ่อนนุชเป็นทางเลือกเพิ่มเติมได้ เหมาะกับครอบครัวที่มีไลฟ์สไตล์เดินทางหลากหลายเส้นทางในแต่ละวัน
อีกหนึ่งข้อดีคือความใกล้ถนนสุวรรณภูมิ 3 ซึ่งช่วยให้การเดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิทำได้คล่องตัว โดยไม่ต้องผ่านเส้นที่รถติดหนัก เหมาะกับกลุ่มนักธุรกิจหรือครอบครัวที่ต้องเดินทางต่างประเทศบ่อย ภาพรวมการเดินทางด้วยรถส่วนตัวจึงตอบโจทย์ทั้งการใช้ชีวิตประจำวันและการเดินทางระยะไกลได้อย่างลงตัวค่ะ
⇒ การเดินทางโดยรถไฟฟ้า : แม้จะเป็นโครงการบ้านเดี่ยวระดับ Luxury แต่ก็ยังสามารถเชื่อมต่อระบบขนส่งสาธารณะได้ไม่ยาก โดยจุดเชื่อมต่อหลักคือรถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีศรีเอี่ยม ซึ่งสามารถขับรถไปได้ในเวลาประมาณ 10-15 นาที* ถือว่าเป็นระยะที่เหมาะสมสำหรับบ้านเดี่ยวในโซนบางนา
จุดเด่นของสถานีนี้คือมีอาคารจอดแล้วจรให้บริการ ทำให้ผู้อยู่อาศัยสามารถขับรถไปจอดและต่อรถไฟฟ้าเข้าสู่ใจกลางเมืองได้สะดวก ลดภาระการขับรถเข้าเมืองในช่วงเวลาเร่งด่วน และยังช่วยเพิ่มทางเลือกในการเดินทางสำหรับสมาชิกในครอบครัวที่ไม่ต้องการใช้รถส่วนตัวทุกวัน
เมื่อเชื่อมต่อเข้าสู่รถไฟฟ้าสายสีเหลืองแล้ว ยังสามารถเปลี่ยนเส้นทางไปยังสายสุขุมวิท ลาดพร้าว หรือศรีนครินทร์ได้ง่าย ทำให้การเดินทางไปย่านธุรกิจสำคัญเป็นเรื่องสะดวกมากขึ้น โครงการนี้จึงตอบโจทย์ทั้งคนที่เน้นใช้รถส่วนตัวเป็นหลัก และคนที่ต้องการความคล่องตัวในการเดินทางด้วยระบบรางในชีวิตประจำวันค่ะ
⇒ การออกแบบโครงการ แบบบ้าน และวัสดุ : เศรษฐสิริ บางนา กม.10 โดดเด่นด้วยงานออกแบบสถาปัตยกรรมสไตล์ Georgian ที่ให้ความรู้สึกหรูหรา สุขุม และมีรสนิยม ถ่ายทอดภาพลักษณ์ของบ้านเดี่ยวระดับ Luxury ได้อย่างชัดเจน ตัวโครงการรองรับเพียง 71 ครอบครัว ทำให้บรรยากาศโดยรวมเงียบสงบ ไม่แออัด และมีความเป็นส่วนตัวสูง เหมาะกับการอยู่อาศัยระยะยาวของครอบครัวขนาดใหญ่
แบบบ้านมีให้เลือก 3 แบบ โดยทุกแบบเริ่มต้นด้วย 3 ที่จอดรถ และออกแบบ Living Space ให้โปร่งกว้าง ฟังก์ชันยืดหยุ่น รองรับการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน บ้านหลังกลางและหลังใหญ่จะได้ Foyer เพดานสูง เพิ่มความโอ่อ่าตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้าบ้าน พร้อมพื้นที่แม่บ้านแยกเป็นสัดส่วน ห้องนอนทุกห้องมีห้องน้ำในตัว และมีห้องนอนชั้นล่างที่เหมาะสำหรับผู้สูงอายุหรือแขกผู้มาเยือน
ในด้านวัสดุถือว่าให้มาค่อนข้างพรีเมียม ทั้งพื้น ผนัง และงาน Built-in ได้ชุดครัว Pantry และตู้เก็บของในโซน Maid Plaza ห้องน้ำรับแขกและ Master Bathroom ได้โถสุขภัณฑ์อัตโนมัติ พร้อมอ่างอาบน้ำดีไซน์สวยในห้องน้ำใหญ่ เสริมด้วยระบบ Dust Free House และ Security Home Automation ครบชุด ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและความปลอดภัยภายในบ้านได้อย่างรอบด้านค่ะ
⇒ สิ่งอำนวยความสะดวกและระบบรักษาความปลอดภัย : พื้นที่ส่วนกลางของโครงการออกแบบมาอย่างพิถีพิถันในสไตล์ Georgian เช่นเดียวกับตัวบ้าน สร้างบรรยากาศหรูหราและเป็นเอกภาพทั้งโครงการ บนพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ที่รองรับเพียง 71 ครอบครัว ทำให้การใช้งานไม่แออัด และคงความเป็นส่วนตัวได้ดีมาก
ภายในโครงการมีทั้ง Formal Garden สำหรับพักผ่อน สนามเด็กเล่นสำหรับครอบครัวที่มีเด็ก ไปจนถึง Clubhouse หรูที่รวมฟังก์ชันครบครัน ทั้งสระว่ายน้ำยาว 25 ม. สระเด็ก Grand Lobby แบบ Double Volume, Co-Working Space และ Fitness ที่ออกแบบมาให้ใช้งานได้จริง บรรยากาศโดยรวมให้ความรู้สึกเหมือนรีสอร์ตหรูในต่างประเทศ เหมาะกับการพักผ่อนในวันหยุดโดยไม่ต้องออกไปไหนไกล
ด้านความปลอดภัยถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่น ด้วยระบบ LIV-24 ที่ผสานการทำงานระหว่างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและ AI ดูแลตลอด 24 ชม. ช่วยเพิ่มความอุ่นใจให้ผู้อยู่อาศัยในทุกช่วงเวลา ภาพรวมของโครงการจึงสะท้อนความเป็นบ้านเดี่ยวระดับ Luxury ที่ครบทั้งความหรูหรา ความเป็นส่วนตัว และคุณภาพการอยู่อาศัยในระยะยาวค่ะ
Tel : 1685
Line : https://siri.ly/Krrd8CB
Website : https://siri.ly/sYzKAVB
หากเพื่อน ๆ เห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ