รีวิว คอนโด เดอะ โมนูเมนต์ สนามเป้า The Monument Sanampao ใกล้ BTS สนามเป้า

รีวิว คอนโด เดอะ โมนูเมนต์ สนามเป้า The Monument Sanampao ใกล้ BTS สนามเป้า

สวัสดีผู้อ่านชาว Condonayoo ทุกคนครับ วันนี้ผมพามาชมโครงการ The Monument สนามเป้า จาก แสนสิริ ในทำเลย่านสนามเป้า ตั้งอยู่ติดกับถนนพหลโยธินฝั่งขาออก ห่างจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิมา ประมาณ 450 ม. ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนศรีรัช ห่างจาก BTS สนามเป้าประมาณ 300 ม. และ BTS อนุสาวรีย์ชัยฯประมาณ 800 ม. โครงการอยู่ติดกับโรงพยาบาลพญาไท 2 และคอมมูนิตี้มอลล์ The Seasons

เดอะ โมนูเมนต์ สนามเป้า เป็นโครงการแรกของแสนสิริที่ใช้แบรนด์ The Monument และประสบความสำเร็จ Sold Out ในช่วง Pre-sale เมื่อพฤษภาคมปี 2558 เป็นคอนโด High Rise 24 ชั้น จำนวน 1 อาคาร บนที่ดินประมาณ 1 ไร่ ห้องพักอาศัยมีทั้งหมด 86 ยูนิต มีห้องให้เลือกแบบ 1 ห้องนอน, 2 ห้องนอน, เพ้นท์เฮ้าส์ ขนาดห้องเริ่มต้นที่ 46.25 – 140.25 ตร.ม. โครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ในปี 2560

สิ่งอำนวยความสะดวก ภายในโครงการมีให้เลือกหลากหลายและน่าใช้งาน อาทิ Lobby Lounge, Social Club, Library Room, Tea Room, Theatre Room, Spa Room, Multipurpose Room, Sky Garden, Infinity-Edge Pool, Panoramic Exercise Room, Steam Room, EV Charging Station, หุ่นยนต์แสนดีบริการส่งของ, Access Card Control, กล้องวงจรปิด พร้อม รปภ. 24 ชม. ราคาเริ่มต้น 12 ล้านบาท

---

---

ชื่อโครงการ	เดอะ โมนูเมนต์ สนามเป้า The Monument Sanampao
เจ้าของโครงการ	แสนสิริ Sansiri
ลักษณะห้องและขนาดห้อง	1 Bedroom, 1 Bathroom : 46.25 – 57.50 ตร.ม. 1 Bedroom, 2 Bathroom : 73.50 – 89.25 ตร.ม. Penthouse 3 Bedroom : 138.25 – 140.25 ตร.ม.
เนื้อที่ทั้งหมด	ประมาณ 1 ไร่
จำนวนตึก	1 อาคาร
จำนวนชั้น	24 ชั้น
จำนวนห้อง	86 ยูนิต
ที่จอดรถทั้งหมด	คิดเป็น 102% (ไม่รวมซ้อนคัน)
โซน	พญาไท
ขนส่งสาธารณะ	– รถไฟฟ้า BTS สนามเป้า 300 เมตร
รถโดยสารที่ผ่าน	n/a
ที่ตั้ง	ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม. 10400
กำหนดการ	เปิดตัวโครงการ พ.ค. 2558
ปีที่สร้างเสร็จ	แล้วเสร็จ 2560
ราคา	เริ่มต้น 12 ล้านบาท
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม	เริ่ม 250,000 บาท/ตร.ม.
ค่าส่วนกลางและกองทุน	ค่าส่วนกลาง 125 บาท/ตร.ม. กองทุน 1,000 บาท/ตร.ม.
สถานที่สำคัญใกล้เคียง	The Seasons : 50 ม. 7-11 : 180 ม. ตลาดซอยอารีย์ : 1.4 กม. La Villa อารีย์ : 1.8 กม. (BTS อารีย์) ตลาดนัดจตุจักร : 3.4 กม. (BTS หมอชิต) Siam Paragon : 3.6 กม. (BTS สยาม) Siam Center : 3.6 กม. (BTS สยาม) ตลาด อตก. : 3.7 กม. Big C สะพานควาย : 4.1 กม. (BTS สะพานควาย) Central ลาดพร้าว : 5.2 กม. ยูเนี่ยนมอลล์ : 6.3 กม. โรงพยาบาลพญาไท 2 : 10 ม. โรงพยาบาลราชวิถี : 1.3 กม. โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า : 1.6 กม. โรงพยาบาลเปาโล เมโมเรียล พหลโยธิน : 4.1 กม. (BTS สะพานควาย) BTS สนามเป้า : 300 ม. BTS อนุสาวรีย์ชัยฯ : 800 ม. BTS อารีย์ : 1.1 กม.
สิ่งอำนวยความสะดวก	Lobby Lounge Social Club Library Room Tea Room Theatre Room Spa Room Multipurpose Room Sky Garden Infinity-Edge Pool Panoramic Exercise Room Steam Room EV Charging Station หุ่นยนต์แสนดีบริการส่งของ Access card Control CCTV รปภ. 24 ชม.
จุดเด่นของโครงการ	The Monument สนามเป้า โครงการใหม่ล่าสุดจาก “แสนสิริ” ใกล้รถไฟฟ้า BTS สยามเป้า เพียง 300 เมตร

---

---

---

---

---

---

ที่ตั้งโครงการ

ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม. 10400

พิกัด Google โดยประมาณ : 13.769336, 100.540483

ที่ตั้งโครงการ The Monument สนามเป้า ตั้งอยู่ติดกับถนนพหลโยธินฝั่งขาออกห่างจากอนุสาวรีย์มาประมาณ 450 ม. ถนนพหลโยธินเป็นเส้นเริ่มต้นที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ตัดผ่านห้าแยกลาดพร้าว แยกรัชโยธิน แยกเกษตร วงเวียนหลักสี่ ผ่านสะพานใหม่ รังสิต และยาวไปออกอยุธยาได้เลย การเดินทางมาโครงการถ้ามาจากอนุสาวรีย์ชัยฯจะสามารถเลี้ยวเข้าโครงการได้ แต่ถ้ามาจากฝั่งจตุจักรต้องมากลับรถตรงหน้าโครงการและเข้าโครงการได้เลยระยะจะประชิดหน่อย

การเดินทางเข้าเมือง ด้วยความที่ตัวโครงการตั้งอยู่ใกล้อนุสาวรีย์ชัยฯ ซึ่งเป็นทำเลใจกลางเมืองที่สำคัญของกรุงเทพฯแห่งหนึ่ง เป็นจุดที่เชื่อมต่อไปยังที่สำคัญต่างๆได้ จากโครงการถ้าจะไปอนุสาวรีย์ชัยฯต้องไปกลับรถตรงหน้า ททบ.5 และตรงไปอนุสาวรีย์ชัยฯ ซึ่งจะเป็นจุดตัดกับถนนพหลโยธินซึ่งเป็นเส้นหน้าโครงการวิ่งไปอารีย์ สะพานควาย จตุจักร ห้าแยกลาดพร้าวออกวิภาวดีรังสิตได้ อีกเส้นจะไปเชื่อมกับถนนพญาไทวิ่งไปแยกพญาไท ราชเวที มาบุญคลอง สยามได้เลย อีกเส้นถนนราชวิถีจะไปจรัญสนิทวงศ์ หรืออีกฝั่งจะมาทางฝั่งสามเหลี่ยมดินแดงจะไปเชื่อมกับถนนดินแดงออกพระรามเก้า และถนนวิภาวดีรังสิตได้ครับ

การเดินทางออกนอกเมือง เส้นพหลโยธินวิ่งยาวออกไปแยกลาดพร้าวตัดเข้าถนนวิภาวดีรังสิต วิ่งออกดอนเมือง รังสิตได้เลย มีทางด่วนโทลเวย์ให้ขึ้น หรือใช้เส้นพหลโยธินวิ่งออกไปทางรัชโยธิน สะพานใหม่ออกไปรังสิตได้อีกทาง ถ้าจะไปปิ่นเกล้าก็ใช้เส้นราชวิถีวิ่งตรงไปอย่างเดียวข้ามสะพานซังฮี้ก็จะถึงแล้วครับ ไปพระราม 5 พระราม 6 ได้ ไปเชื่อมออกบรมราชชนนี ออกพุทธมณฑล นครปฐมได้เลย ถ้าไปโซนบางนาก็มาขึ้นทางด่วนศรีรัชอยู่ไม่ไกลจากโครงการ ทางขึ้นอยู่ก่อนถึงอนุสาวรีย์ชัยฯ

ทางด่วนตัวโครงการอยู่ใกล้จุดขึ้นทางด่วนศรีรัช ห่างจากโครงการประมาณ 800 ม. โดยใช้เส้นพหลโยธินวิ่งมุ่งหน้ามาก่อนถึงทางอนุสาวรีย์ชัยฯ จะเจอจุดขึ้นทางด่วนฝั่งไปพระรามเก้า บางนา ดาวคะนอง

ทางด่วนจุดขึ้นทางด่วนศรีรัชอีกฝั่งไปราชดำริ ดาวคะนอง งามวงศ์วาน แจ้งวัฒนะ ห่างจากโครงการประมาณ 1.6 กม. โดยจุดขึ้นจะอยู่ฝั่งเดียวกับโครงการ ต้องมาวนรถตรงอนุสาวรีย์ชัยฯก่อน แล้ววิ่งไปทางโครงการจะเจอป้ายบอกขึ้นทางด่วนครับ

การเดินทางโดยสาธารณะ จุดเด่นของโครงการห่างจาก BTS สนามเป้าประมาณ 300 ม. เดินได้สบายๆ มีทางเท้าเดินจนถึงตัวสถานีเลย และห่างจาก BTS อนุสาวรีย์ชัยฯประมาณ 800 ม. นั่งไปสยามเพียง 4 สถานีก็ถึงแล้ว และถ้าไปจตุจักรก็เพียง 3 สถานีเท่านั้นและยังเป็นจุดเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าใต้ดินอีกด้วย ถ้านั่งมาลง BTS พญาไท สามารถไปเชื่อมต่อกับ ARL พญาไทนั่งไปสนามบินสุวรรณภูมิได้เลย นอกจากนี้ยังมีป้ายรถเมล์อยู่หน้าโรงพยาบาลพญาไท 2 มีรถหลายสายวิ่งผ่านทั้งเข้าและออกเมือง สะพานลอยอยู่หน้าโครงการข้ามไปขึ้นอีกฝั่งก็ปลอดภัยดี ส่วน Taxi ก็เรียกได้เลยมีวิ่งเกือบทั้งคืน นอกจากนี้ยังมีรถตู้วิ่งไปจตุจักร ลาดพร้าว มีนบุรี สะพานใหม่ รังสิตสามารถโบกได้เลยหน้าโครงการครับ และวินมอเตอร์ไซค์ก็อยู่หน้าโรงพญาบาลพยาไท 2 การเดินทางถือว่าค่อนข้างสะดวก มีทางเลือกให้ใช้พอสมควร เผื่อใครไม่อยากขับรถส่วนตัว

จากภาพถ่ายดาวเทียมจะเห็นว่าพื้นที่รอบๆโครงการส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัย หอพัก และตึกแถวอาคารพาณิชย์ ฝั่งทางทิศตะวันออกจะเป็นที่ดินของกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ มี รพ.พญาไท 2 อยู่ติดรั้วโครงการเลย ถัดไปก็จะเป็นอาคารสำนักงาน

การเดินทางวันนี้เริ่มจากถนนพระราม 1 ตรง BTS สยาม วิ่งไปแยกปทุมวันเลี้ยวขวาเข้าถนนพญาไท จากนั้นขับตรงไปอนุสาวรีย์ชัยฯ และไปวนออกถนนพหลโยธิน และตรงไปอีกประมาณ 450 ม. โครงการจะอยู่ทางซ้ายมือติดถนนเลย

สรุปการเดินทาง ถนนพระราม 1 > ถนนพญาไท > อนุสาวรีย์ชัยฯ > ถนนพหลโยธิน > The Monument สนามเป้า

เริ่มจาก BTS สยาม ขวามือเป็นสยามพารากอน

ขวามือเป็น Siam Center และ Siam Discovery ฝั่งซ้ายจะเป็นสยามสแควร์

ตรงมาอีกจะเจอแยกปทุมวัน ให้เตรียมเลี้ยวขวา

เลี้ยวขวาไปจะเจอหอศิลปวัฒนธรรม

เลี้ยวมาจะเป็นถนนพญาไท ขับตรงไปอีกครับ

จากนั้นฝั่งขวามือจะเป็นวังสระปทุม

เลยมาจะเจอ BTS ราชเทวี

จากนั้นจะเจอแยกราชเทวี ให้ขับตรงไปอีก

จากนั้นจะเจอ พญาไทเพลสซ้ายมือ ตรงหน้าเป็น BTS พญาไท

ถัดมาซ้ายมือเป็น รพ.สถาบันโรคไตภูมิราชนครินทร์

เลยมาเป็นกรมแพทย์ทหารบก ขวามือเป็น Century Movie Plaza

และจะเจอ BTS อนุสาวรีย์ชัยฯ

ถัดมาอีกจะเป็นอนุสาวรีย์ชัยฯ วนรถไปเข้าถนนพหลโยธินต่อครับ

จากนั้นวนรถออกไปถนนพหลโยธิน

ตอนนี้เราอยู่บนถนนพหลโยธิน ตรงหน้าจะเจอแนวทางด่วนศรีรัช

เลยมาหน่อยก็จะเห็นตัวโครงการซ้ายมือข้างหน้าแล้วครับ ห่างจากอนุสาวรีย์ชัยฯประมาณ 450 ม.

จากนั้นซ้ายมือคือ The Seasons เป็นคอมมูนิตี้มอลล์ เตรียมชิดซ้ายได้เลย

จากนั้นจะเห็นรั้วโครงการเลี้ยวซ้ายเข้าโครงการได้เลย

แนวรั้วด้านหน้าโครงการ

แนวรั้วด้านหน้าโครงการ อีกฝั่ง

มองจากถาพมุมสูง ตัวโครงการค่อนข้างจะโดดเด่นในย่านนี้เลย

พื้นที่โครงการทางทิศเหนือด้านข้างโครงการติดกับ รพ.พญาไท 2 โครงการออกแบบแปลนไม่ให้มีห้องที่หันหน้าออกมาด้านนี้ จะโดนเฉพาะหน้าต่างในห้องนอนของห้องมุม ฝั่งทิศใต้ด้านข้างโครงการอีกฝั่งติดกับอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น และติดกับที่ดินของ The Seasons สูง 3 ชั้น ฝั่งทิศตะวันออกหรือด้านหน้าโครงการติดกับถนนพหลโยธิน และแนวรถไฟฟ้า BTS ฝั่งด้านหลังเป็นทิศตะวันตกติดกับอาคารจอดรถ The seasons สูง 8 ชั้น

ด้านหน้าโครงการติดกับถนนพหลโยธินฝั่งขาออก

มองไปทางซ้ายติดกับอาคารพาณิชย์

มองไปทางขวาติดกับ รพ.พญาไท 2

ฝั่งตรงข้ามโครงการเป็นบ้านพักอาศัย ขวามือเป็นปั๊ม PTT

มองไปทางซ้าย

มองไปทางขวา จะเห็นจุดกลับรถอยู่หน้าโครงการเลย

ผมจะพาเดินจากโครงการไป BTS สนามเป้า ระยะทางประมาณ 300 ม. หน้าโครงการมีสะพานลอยเดินข้ามฝั่งได้สะดวก

ติดกับรั้วโครงการจะเจอ รพ.พญาไท 2 มีร้านรถเข็นซ้ายมือ

เดินมาไม่กี่ก้าวก็ถึง รพ. เวลาป่วย หรือกรณีฉุกเฉินก็สะดวกดีนะครับ ในรพ.พญาไท 2 มีร้านค้าขายของ มี Starbucks

มองไปฝั่งโครงการจะเห็นแบบนี้

หน้า รพ. มีวินมอเตอร์ไซค์ ราคาเร่ิมที่ 20 บาท

ถัดมาเป็นธนาคารธนชาติ

ติดกันมีร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ด อาหารตามสั่ง

มีร้านขนม ร้านลูกชิ้นปิ้ง ตรงนี้เป็นป้ายรถเมล์ครับ

ถัดมามีร้านอาหารตามสั่ง แถวนี้จะคึกคักช่วงเที่ยงครับ คนจะเยอะหน่อย

ด้านในมี 7-11

ตรงนี้มีร้านไก่ทอด

ถัดมาซ้ายมือจะเป็นอาคารสำนักงาน SM Tower

ถัดมาเป็นโชว์รูมรถ

และจะถึง BTS สนามเป้า ขึ้นบันไดเลื่อนได้เลย

ใต้สถานีมีป้ายรถเมล์

และวินมอเตอร์ไซค์

ความอุดมสมบูรณ์รอบๆโครงการ ติดกับรั้วโครงการมีคอมมูนิตี้มอลล์อย่าง The Seasons มีร้านค้า ร้านอาหารให้เลือกหลายร้าน คลินิกความงาม โรงเรียนกวดวิชา ฯลฯ หรือเดินมาตรงซอยพหลโยธิน 1 ในซอยมีทั้งร้านอาหาร ร้านขายยา ร้านขนมหลายร้านเลย มี 7-11 ในซอยนี้ หรือเข้าไปใน รพ.พญาไท 2 ก็มีครับ มี Starbucks ด้วย หรือตามริมทางเท้าจากโครงการถึง BTS สถานีสนามเป้า และจากโครงการยาวไปจนถึงอนุเสาวรีย์ชัยฯ มีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านรถเข็น มีทั้งของกิน ของใช้ให้เลือกซื้อ ซึ่งจะคึกคักมากในช่วงวันเวลาทำงาน เนื่องจากย่านนี้เต็มไปด้วยอาคารสำนักงาน โรงพยาบาล สถานที่ราชการ ช่วงเวลาพักเที่ยงจะเห็นพนักงานมาจับจ่ายใช้สอยกันจำนวนมากครับ หรือนั่ง BTS ไปลงอารีย์ซึ่งเพียงสถานีเดียว มี Villa อารีย์ มีร้านอร่อยๆหลายร้านครับ หรือจะเดินมาแถวอนุเสาวรีย์ชัยฯ ของกินของใช้เพียบครับ ส่วนห้างสรรพสินค้าก็นั่งเข้าสยาม ชิดลม เพลิมจิตได้เลยต่อเดียว หรืออีกฝั่งถ้าไปโซนลาดพร้าวรอ BTS ส่วนต่อขยายสร้างเสร็จก็ไป Central ลาดพร้าวง่ายเลยครับ

สถานที่สำคัญใกล้เคียง

• The Seasons : 50 ม.
• 7-11 : 180 ม.
• ตลาดซอยอารีย์ : 1.4 กม.
• La Villa อารีย์ : 1.8 กม. (BTS อารีย์)
• ตลาดนัดจตุจักร : 3.4 กม. (BTS หมอชิต)
• Siam Paragon : 3.6 กม. (BTS สยาม)
• Siam Center : 3.6 กม. (BTS สยาม)
• ตลาด อตก. : 3.7 กม.
• Big C สะพานควาย : 4.1 กม. (BTS สะพานควาย)
• Central ลาดพร้าว : 5.2 กม.
• ยูเนี่ยนมอลล์ : 6.3 กม.

• โรงพยาบาลพญาไท 2 : 10 ม.
• โรงพยาบาลราชวิถี : 1.3 กม.
• โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า : 1.6 กม.
• โรงพยาบาลเปาโล เมโมเรียล พหลโยธิน : 4.1 กม. (BTS สะพานควาย)

• BTS สนามเป้า : 300 ม.
• BTS อนุสาวรีย์ชัยฯ : 800 ม.
• BTS อารีย์ : 1.1 กม.

แยกและถนนสำคัญใกล้เคียง

• ถนนราชวิถี : 1 กม.
• ถนนพญาไท : 1.1 กม.
• ถนนดินแดง : 1.4 กม.
• ถนนศรีอยุธยา : 1.8 กม.
• ถนนวิภาวดีรังสิต : 1.9 กม.
• ถนนสุทธิสาร : 2.4 กม.
• ถนนประดิพัทธ์ิ : 2.4 กม.
• ถนนพระรามที่ 1 : 3.2 กม.
• ถนนลาดพร้าว : 5.1 กม.
• อนุสาวรีย์ชัยฯ : 1 กม.
• แยกพญาไท : 1.8 กม.
• แยกดินแดง : 1.8 กม.
• แยกปทุมวัน : 3.2 กม.
• แยกลาดพร้าว : 5.1 กม.

Floor Plan

Master Plan โครงการเริ่มจากทางเข้าออกอยู่ติดถนนพหลโยธิน ผ่านเข้าไปจะเจอ Drop Off ถนนในโครงการจะเป็นแบบ Two way วนไปด้านข้างและจะเจอทางขึ้นที่จอดรถในอาคาร หรือวนไปด้านหลังมีที่จอดรถใต้อาคาร ถ้าวนมาด้านข้างโครงการอีกฝั่งจะมี EV Charging Station จุดชาร์ตรถยนต์ไฟฟ้า

จากจุด Drop Off เดินเข้า Lobby Lounge มีทางเดินเชื่อมออกมายัง Outdoor Lobby Lounge มีทางเดินเชื่อมมายัง Mail Box และโถงลิฟท์ ลิฟท์โดยสารมี 2 ตัว และลิฟท์ขนของ 1 ตัว ตรงกลางจะเป็นตำแหน่งของบันไดหนีไฟ

แปลนชั้น 9 จะเป็นชั้น Facility ทั้งชั้น มีห้อง Library, Tea room, Social Lounge, Theater room, Spa room, Multipurpose room

แปลนชั้น 10 จะเริ่มเป็นชั้นพักอาศัย มีทั้งหมด 7 ยูนิต การออกแบบเป็น Single Corridor ไม่มีห้องตรงข้ามเพื่อความเป็นส่วนตัว ตรงกลางจะเป็นตำแหน่งของบันไดหนีไฟ และมีช่อง Void ตำแหน่งของลิฟท์โดยสารอยู่ฝั่งขวา

แปลนชั้น 11-21 เหมือนกันครับ มี 7 ยูนิต

แปลนชั้น 22 ชั้นนี้จะมี 2 ยูนิตเป็นแบบ Penthouse 3 ห้องนอน มีพื้นที่สีเขียวที่มุมสองฝั่ง เป็น Sky Garden จะมีบันไดเข้าได้จากชั้น 23 เท่านั้นครับ

แปลนชั้น 23 จะเป็นชั้นส่วนกลางมี สระว่ายน้ำขนาด 20 x 5 ม. ลึก 1.2 ม. มีส่วนนั่งแช่ และสระเด็ก จากชั้น 23 มีบันไดเดินลงไปยังสวนที่ชั้น 22

แปลนชั้น 24 เป็นชั้นบนสุด ชั้นนี้จะมีห้องฟิตเนสอยู่ฝั่งทิศใต้

โครงการ

The Monument สนามเป้าเป็นโครงการระดับ Luxury โครงการนี้เป็นโครงการแรกของแสนสิริที่ใช้แบรนด์ The Monument และประสบความสำเร็จ Sold Out ในช่วง Pre-sale เมื่อช่วงพฤษภาคมปี 2558 ตอนนี้โครงการสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ ก็ยังมีห้องหลุดดาวน์มาขายกันต่อครับ อาจจะด้วยราคาที่ค่อนข้างสูงที่เปิดตัวมาราคาต่อตารางเมตรเฉลี่ยประมาณ 250,000 บาท โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 10.9 ล้านบาท มีนักลงทุนบางท่านหวังจะทำกำไรแต่ก็ขาดทุนกันไปเยอะ ผมว่าโครงการนี้เหมาะกับคนที่ต้องการอยู่อาศัยเอง หรือต้องการบ้านหลังที่สอง ไว้อยู่อาศัยช่วงวันทำงานมากกว่าครับ ตัวโครงการนี้ค่อนข้างโดดเด่นในเรื่องการเลือกใช้วัสดุต่างๆ ที่ส่วนใหญ่จะนำเข้าจากต่างประเทศ นี่ก็อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ราคาที่โดดไปสูงพอสมควร

คอนเซ็ปต์โครงการคือ ‘The Monument to Generations’ การส่งต่อทำเลที่มีคุณค่าจากรุ่นสู่รุ่น บนที่ดินขนาด 1 ไร่ เป็นอาคารพักอาศัย 1 อาคารสูง 24 ชั้น ชั้นพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 10 – 22 ส่วนกลางจะอยู่ที่ชั้น 1, 9, 23, 24 จอดรถได้ที่ชั้น 1-8 รูปทรงอาคารจะเรียบหรูตามสไตล์แสนสิริ โดยจุดเด่นของอาคารจะอยู่ที่ Facade ด้านหน้าด้วยแผงระแนงหินแกรนิต สูงถึง 8 ชั้น ยาวเต็มตลอดแนวพร้อมไฟแรนดอมไปกับตัวอาคาร ทำให้ดูมีเอกลักษณ์ สีภายนอกใช้โทนเทาเข้มดูโดดเด่นในย่านนี้

ฝั่งอาคารด้านหน้าทิศตะวันออก ยูนิตพักอาศัยที่อยู่ฝั่งนี้ตรงระเบียงจะได้เป็น Double Skin Facade หรือผนังกระจกสองชั้น

ฝั่งอาคารด้านหลังทิศตะวันตก

ฝั่งอาคารด้านข้างทิศใต้ ยูนิตพักอาศัยฝั่งนี้ส่วนใหญ่จะเป็นห้อง 2 Bed

ฝั่งอาคารด้านข้างทิศเหนือ ฝั่งนี้เนื่องจากรั้วที่ดินติดกับ รพ.พญาไท 2 จึงออกแบบไม่ให้มีระเบียงห้องพักหันมาทางนี้เลย จะเป็นส่วนของโถงลิฟท์ และหน้าต่างในห้องนอนของห้องมุมเท่านั้นครับ ถือว่าออกแบบมาหลบมุมได้ดีเลย

ด้านหน้าทางเข้าโครงการติดถนนพหลโยธิน

รั้วโครงการใช้หินอ่อนสีขาว White Venus และตกแต่งด้วยสแตนเลสสีทอง บ้านเลขที่โครงการนี้คือ 933 ครับ มีประตูคนเดินแยกให้

เดินเข้ามาด้านใน ตรงหน้าจะเป็นจุด Drop Off อยู่ด้านหน้าทางเข้า Lobby ไฟส่วนนี้ตกแต่งด้วยไฟคริสตัล

มองไปทางซ้ายจะเป็นทางเดินไปยังส่วนของ Outdoor Lobby Lounge

อีกฝั่งเป็นทางสำหรับรถวิ่งไปเข้าที่จอดรถในอาคาร

ซ้ายเป็นเลนทางเข้า ขวาเป็นเลนทางออก

ตรงมาข้างหน้าจะเห็นกำแพงต้นไม้ มีผนังตกแต่งเป็นแผ่นหินขนาดต่างกันเรียงกันเหมือนพิกเซล

เลี้ยวตามทางเข้ามา ฝั่งนี้จะเป็นด้านข้างโครงการ

ด้านข้างโครงการฝั่งนี้ที่ดินจะติดกับโรงพยาบาลพญาไท 2 โครงการออกแบบยูนิตพักอาศัยไม่ให้หันระเบียงออกมาฝั่งนี้ จะมีเฉพาะหน้าต่างในห้องนอนห้องมุมที่มองออกมาฝั่งนี้ครับ

ถัดเข้ามาอีกซ้ายมือจะเจอทางขึ้นที่จอดรถ

เดินเลยมาด้านหลังโครงการมีทางลาดลงไปอีก มีที่จอดรถใต้อาคาร

เดินมาด้านข้างอีกฝั่ง จะสิ้นสุดแค่ตรงนี้มีแนวต้นไม้กั้นแยกจากส่วน Outdoor Lobby Lounge ซ้ายมือเป็น EV Charging Station จุดชาร์ตรถยนต์ไฟฟ้า

EV Charging Station จำนวน 2 เครื่อง 4 หัวจ่ายไฟฟ้า ครอบคลุมรถ Plug-In Hybrid และ EV Car ทุกยี่ห้อ ทุก Model ในท้องตลาด ชาร์ตได้พร้อมกัน 4 คัน

ลูกบ้านต้องใช้ Key Card

กลับมาตรงทางขึ้นที่จอดรถในอาคาร แบ่งทางเข้าออก มีไม้กระดกกั้น

ลูกบ้านต้องใช้ Access Card ในการเข้าออก

ผ่านเข้ามาจะเจอช่องจอดรถเลย และวนซ้ายขึ้นไป

วนขึ้นไปตามทางจอดได้ถึงชั้น 8 ทั้งโครงการจอดได้ระมาณ 102% ไม่รวมซ้อนคัน ตรงกลางจะเป็นตำแหน่งของบันได้หนีไฟ

แต่ละชั้นจะมีทางเดินเข้าโถงลิฟท์ได้เลย

บริเวณโถงลิฟท์ชั้นจอดรถ

กลับมาตรงจุด Drop Off เดินไปดูส่วนของ Outdoor Lobby Lounge กันก่อน

เดินเข้ามาซ้ายขวาจะเห็นต้นไม้ใหญ่ตกแต่ง สร้างความร่มรื่น

ด้านในสุดจะวางชุดโซฟาไว้ 2 ชุด

ด้านใน ขวามือจะเป็นประตูเชื่อมเข้าออกกับ Lobby ด้านในอาคารได้ครับ

โครงการหลังคาส่วนนี้ใช้เป็นโครงเหล็ก และลวดสลิง และใช้ไม้เลื้อยตกแต่ง รอให้ต้นไม้โตกว่านี้หน่อยจะกลายเป็นหลังคาไม้เลื้อยช่วยบังแดดและยังดูสดชื่นดีครับ

มองไปฝั่งด้านใน Lobby มีประตูเดินเชื่อมเข้าออกได้เลย

ด้านหน้าทางเข้า Lobby ทำมาได้สวยเลยครับ ใครมาจะต้องสะดุดตากับผนังหินสีน้ำเงิน ส่วนนี้จะเชื่อมจาก Drop Off

ผนังสองฝั่งทางเข้า Lobby ตกแต่งด้วยหิน Blue Sodalite Marble จากประเทศโบลิเวีย ซึ่งเป็นหินที่ค่อนข้างหายาก

ประตูทางเข้า Lobby จะเป็นบานเลื่อน 2 บาน เปิดอัตโนมัติ ลูกบ้านต้องใช้ Key Card

ลูกบ้านต้องใช้ Key Card แตะเข้าออก ถ้ามีเพื่อนเรามาหาสามารถใช้ Video Door Phone กดขึ้นมาคุยและดูภาพจากจอกับเราที่ห้องได้เลย จากนั้นเราก็กดเปิดประตูจากในห้องเรา เพื่อนก็จะเข้ามาได้โดยที่เราไม่ต้องลงมาข้างล่างครับ

เดินเข้ามาด้านใน Lobby ส่วนแรกเป็นเคาน์เตอร์ต้อนรับ พื้นของ Lobby ตกแต่งด้วย Corchia Grey Marble จากอิตาลี

เคาน์เตอร์ต้อนรับ ผนังด้านในตกแต่งได้ดูโดดเด่น

ฝั่งนี้มีโซฟาหนังสีน้ำตาลของ Poltrona Frau ส่วนโต๊ะกลางเป็นของ Bottega Veneta Home ผนังจะเป็นกระจกมองเห็นด้านนอก บริเวณเสาอาคารปิดด้วยหินแกรนิต Black Marquina จากสเปน

โคมไฟตกแต่งจาก Bottega Veneta Home

ด้านในเข้าไปอีกเป็นโถง Lobby

เดินเข้ามาด้านในฝ้าส่วนนี้สูง 5.3 ม. มีประตูเดินเชื่อมออกไปยัง Outdoor Lobby Lounge ได้เลย

เงยหน้ามองด้านบนมีโคมไฟแบบนี้

ฝั่งนี้มีโซฟาหนังสีน้ำตาลของ Poltrona Frau ส่วนโต๊ะกลาง และโคมไฟตกแต่ง เป็นของ Bottega Veneta Home

ฝั่งด้านในมีโซฟาชุดใหญ่วางไว้รองรับ และจะสะดุดตากับ หินอ่อน Dalmata White ที่มาต่อกันเป็นลายตัว X

มองกลับเข้ามาด้านในจะเห็นแบบนี้

จาก Lobby เดินไปดูส่วนอื่นกันต่อครับ

ถัดจากเคาน์เตอร์มา ซ้ายมือเป็นทางเดินไปห้องนิติ ขวามือเป็นโถงลิฟท์

หน้าห้องนิติบุคคล

ทางเดินไปยังโถงลิฟท์ ฝั่งขวาจะเป็นผนังกระจกทั้งหมดมองเห็นตรง Drop Off

อีกฝั่งมีจอแสดงผลพลังงานที่ใช้ในอาคาร ซ่อนอยู่ในผนังกระจก

ที่โครงการนี้มีการติดตั้งแผง Solar cell เพื่อผลิตไฟฟ้าเป็นพลังงานทดแทน ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายส่วนกลางของลูกบ้านได้ โดยจะแสดงผลการใช้พลังงานในจอนี้ครับ

เดินไปทางโถงลิฟท์กันต่อ มองออกไปขวามือจะเห็นส่วน Drop Off ด้านนอก

ถัดเข้ามาอีก ซ้ายมือจะเห็น “แสนดี” เป็นหุ่นยนต์บริการส่งของให้กับลูกบ้านถึงหน้าประตูห้องเราเลยครับ ถัดไปเป็นส่วนของ Mail Box และโถงลิฟท์

“แสนดี” เป็นหุ่นยนต์ที่มีต้นแบบมาจากประเทศสิงค์โปร์ เป็นหุ่นยนต์ตัวแรกที่ให้บริการในโครงการอสังหา และเป็นโครงการแรกที่แสนสิริใช้ แสนดี โดยจะมีการพัฒนาอยู่เรื่อยๆ และจะนำไปใช้ในทุกโครงการของแสนสิริในอนาคตครับ

การทำงานของเจ้า “แสนดี” นั้นลูกบ้านจะต้องโทรมาแจ้งกับทางนิติบุคคลว่าจะให้แสนดีขึ้นไปส่งของ ทางเจ้าหน้าที่จะนำของเข้าไปใส่ในช่อง 3 ช่อง และจะตั้งระบบให้ขึ้นไปยังหน้าห้องของลูกบ้านได้เลยครับ

ติดกันเป็นห้อง Mail Box ตรงหน้าจะเป็นจอทีวี The Frame ของ Samsung เปิดเป็นภาพตกแต่ง ฝั่งซ้ายและขวาจะเป็นตู้ Mail Box

ตู้ Mail Box จะมีบานตู้เปิดปิดเพื่อความเรียบร้อยอีกชั้น

ถัดเข้าไปจะเป็นโถงลิฟท์ อยู่ตรงมุมอาคารพอดี

ลิฟท์โดยสารมี 2 ตัว

มองกลับไปจะเห็นแบบนี้

ภายในลิฟท์โดยสาร

แผงกดลิฟท์ด้านใน ต้องใช้ Key Card

มีแผงกดลิฟท์สำหรับผู้ที่ใช้รถเข็น

ขึ้นลิฟท์มาที่ชั้น 9 ชั้นนี้จะเป็นชั้น Facility ทั้งชั้น ตรงโถงลิฟท์ จะมีกระจกเข้ามุมสูงจากพื้นถึงฝ้าแบบนี้ทุกชั้น

มองเข้าไปด้านใน ผนังซ้ายมือที่เห็นเป็นไม้จริงและเป็นลายธรรมชาตินะครับ ส่วนที่พื้นใช้หินแกรนิต Black Marquina จากสเปน

ออกจากโถงลิฟท์มาจะเป็นโถงทางเดินไปยังส่วนต่างๆ ตรงกลางจะเป็นตำแหน่งของบันไดหนีไฟ และห้องน้ำ

ตรงโถงทางเดินส่วนนี้จะมีช่องระบายอากาศ

ไปดูห้อง Library กันก่อน อยู่ซ้ายมือติดกันเป็นห้อง Tea room

ภายในห้อง Library พื้นห้องใช้วัสดุ Hexagon Basket Weave พื้นไม้สักลายดั้งเดิมที่มีประวัติยาวนาน เป็นแบบลายสานหกเหลี่ยม ซึ่งใช้เทคนิคการต่อลายและติดตั้งแบบงานฝีมือ กลางห้องวางโต๊ะไม้ขนาดใหญ่ไว้ และมีเก้าอี้โซฟาอีก 2 ชุด กระจกในห้องนี้สูงจากพื้นถึงฝ้า ชมวิวได้สบายๆ สามารถเลื่อนเปิดรับลมธรรมชาติได้

ฝั่งด้านในมีชั้นวางหน้าสือที่ใช้ไม้จริงทำ ที่เราเห็นตรงโถงลิฟท์ด้านนอก

มองเข้าไปด้านใน มีประตูเดินเชื่อมไปยังห้อง Tea Room

ประตูบานเลื่อนเชื่อมไปยังห้อง Tea Room

เดินเข้ามาในห้อง Tea Room พื้นใช้วัสดุเหมือนห้อง Library ขวามือเป็นประตูเดินเข้าออกจากโถงทางเดิน

ขนาดห้องนี้ใกล้เคียงกับ Library มีเคาน์เตอร์และเก้าอี้โซฟาให้นั่ง

เคาน์เตอร์เป็นส่วนเตรียม ไว้ให้วางขนม น้ำชา กาแฟ

มีขนมไว้ให้ลูกบ้านหยิบทานได้เลยทั้ง คุกกี้ ช็อกโกแลต มัสแมนโล

ห้องนี้จะสะดุดตากับ Chandelier ทรงกิ่งไม้ นำเข้าจากโปรตุเกส

มองกลับไปอีกฝั่ง

ออกจากห้อง Tea Room มาเดินเข้าไปด้านในกันต่อครับ

เดินมาขวามือจะเจอตู้ Refun Waste Machine ซ้ายมือจะเป็นส่วนเปิดโล่ง ตรงหน้าเป็นห้อง Social Lounge

ส่วนนี้จะเปิดโล่งรับลม และแสงได้ มีบ่อน้ำตกแต่ง

Refun Waste Machine ให้ลูกบ้านสามารถนำขวดน้ำที่ไม่ได้ใช้แล้วมาใส่ตู้นี้เพื่อช่วยในการแยกขยะ เราจะเลือกรับเป็นเงินสดหรือบริจาคให้มูลนิธิก็ได้

เดินเข้ามาด้านใน Social Lounge จะสะดุดตากับโซฟาที่ทำจากหินอ่อน Honey Onyx และโคมไฟเพดานของ Ralph Lauren ผนังในห้องเป็นกระจกชมวิวได้ 2 ฝั่ง

โซฟาที่ทำจากหินอ่อน Honey Onyx ด้านในซ่อนไฟไว้ให้ ดูโดดเด่นอยู่กลางห้อง

อีกฝั่งวางโต๊ะโกล์ ที่ออกแบบพิเศษเพื่อโครงการ จาก Calcio Balilla by tecktell Italy

มีเก้าอี้โซฟาวางไว้ริมกระจก วิวฝั่งนี้มองไปทางอนุสาวรีย์ชัยฯ

มองกลับเข้าไปด้านในจะเห็นแบบนี้ ผนังฝั่งซ้ายจะเป็นบานผลัก 4 บาน เปิดออกไปตรงส่วนสูบซิก้าร์

เปิดออกได้ทั้ง 4 บานแบบนี้

เดินออกมาด้านนอก จะเจอพื้นที่เปิดโล่ง ตรงกลางเป็นบ่อน้ำตกแต่ง

มีเก้าอี้วางไว้ 2 ชุดนั่งสูบซิก้าร์ชมวิวไปด้วย

วิวมองไปทางอนุสาวรีย์ชัยฯ

กลับเข้ามาด้านในต่อ มีทางเดินเชื่อมไปอีกส่วนได้

เดินเข้ามาจะเจอส่วนของ Pantry เตรียมอาหาร

มีเตาอบ ตู้แช่ไวน์ และตู้เย็นพร้อมเครื่องดื่มไว้สำหรับลูกบ้าน

มีเครื่องชงกาแฟ และเซตน้ำชา

มีเมนูเครื่องดื่มให้เลือกด้วยนะครับ ลืมบอกไปว่าที่ชั้นนี้จะมี Maid คอยบริการลูกบ้านด้วย จะสั่งเครื่องดื่มอะไรก็บอก Maid ได้เลยครับ

ในตู้อีกฝั่งจะเป็นอ่างล้างจาน

เดินเข้าไปอีกฝั่งต่อ

ส่วนของ Social Club อีกฝั่ง วางโซฟาชุดใหญ่ไว้ให้

ตรงกลางที่เป็นเสา ออกแบบให้เป็นชั้นวางของ และติดทีวี The Frame ของ Samsung เปิดรูปโชว์ตกแต่ง หรือจะไว้เปิดดูภาพยนต์หรือข่าวสารได้

อีกฝั่งก็เป็นบานผลัก 4 บานเปิดเชื่อมออกไปยังส่วนที่สูบซิการ์ได้

ฝั่งด้านในมีประตูเดินออกไปโถงทางเดิน

เดินออกมาตรงโถงทางเดิน ซ้ายมือจะเป็นห้องดูหนัง

ภายในห้องดูหนังจะเป็นห้องเก็บเสียง มีโซฟาวางไว้ให้

มีทีวี LED ขนาด 75 นิ้ว พร้อมลำโพงของ Bang & Olufsen แบรนด์จากประเทศฟินแลนด์ มูลค่ากว่า 2 ล้านบาท

ถัดมาอีกห้องเป็น Spa Room

ภายในห้องวางเตียงมา 2 เตียง ด้านในเป็นห้องน้ำ พื้นห้องเป็นไวนิลล์ที่มี Texture เหมือนผ้าที่ถักทอด้วยด้ายเส้นใหญ่ๆมาปูพื้น คุณสมบัติ คงทนและไม่อับชื้น

เตียงนอนสปา 2 เตียง นำเข้าจากอเมริกา สเปคเดียวกับที่ 98 wireless เราสามารถจ้างพนักงานมานวดที่นี่ได้เลย แต่จะมีเสียค่าใช้จ่ายทำความสะอาดเพิ่มเติม

มีอ่างล้างหน้าพร้อมกระจกบานใหญ่

ฝั่งด้านในจะเป็นห้องน้ำ

ภายในห้องน้ำ

ฝั่งนี้เป็นพื้นที่อาบน้ำ

อีกฝั่งเป็นห้อง Steam room

ภายในห้อง Steam Room

ถัดมาอีกห้องเป็นห้องอเนกประสงค์

ภายในห้องจะเป็นห้องโล่งๆ มาเล่นโยคะที่ห้องนี้ได้

มองกลับไปอีกฝั่ง เป็นผนังกระจกเงา

ออกจากห้องอเนกประสงค์มา ซ้ายมือเดินเชื่อมไปยังโถงลิฟท์

ฝั่งนี้มีห้องน้ำแยกชายหญิง

ภายในห้องน้ำชาย

อ่างล้างมือออกแบบมาเป็นสี่เหลี่มเอียงเข้าด้านใน

อีกฝั่งเป็นห้องน้ำ 1 ห้อง

ภายในห้องน้ำ

ขึ้นลิฟท์มาที่ชั้น 10 จะเริ่มเป็นชั้นพักอาศัย โถงลิฟท์ชั้นพักอาศัยจะเป็นแบบนี้ทุกชั้น มีเลขชั้นบอกชัดเจน

ฝั่งด้านในเป็นทางเดินไปยังส่วนพักอาศัย ผนังตามทางเดินจะเป็นวอลเปเปอร์ทั้งหมด

เดินเข้ามาจะเจอโถง Corridor เดินไปสองฝั่ง การออกแบบเป็น Single Corridor ไม่มีห้องตรงข้ามเพื่อความเป็นส่วนตัว ตรงกลางจะเป็นตำแหน่งของบันไดหนีไฟ และมีช่อง Void

ช่อง Void นี้จะช่วยให้อากาศถ่ายเทภายในตัวอาคาร

ช่อง Void จะยาวสูงถึงชั้น 22 เลย ที่ชั้น 11 ขึ้นไปจะมีราวกันตกให้ ตรงผนังตกแต่งมาแบบนี้

ขึ้นลิฟท์มาที่ชั้น 22 ชั้นนี้จะเป็นห้อง Pent House ขนาด 3 ห้องนอน มีเพียง 2 ยูนิตทั้งโครงการเท่านั้นครับ

เดินออกมาตรงทางเดินยูนิตทั้ง 2 จะอยู่คนละฝั่งกัน ค่อนข้างเป็นส่วนตัวดี Void จะขึ้นมาสิ้นสุดที่ชั้นนี้ครับ

มองลงไปชั้นล่างจะเห็นแบบนี้

ตรงโถงทางเดินจะมองออกไปเห็นสวนลอยฟ้า ซึ่งทางลงสวนจะอยู่ที่ชั้น 23 ครับ

ขึ้นลิฟท์มาที่ชั้น 23 กันต่อ

มองเข้าไปด้านในจะเป็นทางเดินไปยังสระว่ายน้ำ

เดินออกมาจะเห็นทางเดินล้อมรอบ พื้นที่ตรงกลาง ซึ่งเป็นตำแหน่งของบันไดหนีไฟ และห้องน้ำ(ขวามือ)

ภายในห้องน้ำชาย

ชุดเคาน์เตอร์อ่างล้างมือ

ฝั่งนี้เป็นตู้ Locker

ด้านในเป็นห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ และ Steam

ภายในห้องน้ำ

ภายในห้องอาบน้ำ

ด้านในสุดเป็น Steam Room

ภายใน Steam Room

ออกจากห้องน้ำมาเดินเข้าไปด้านในต่อ

เดินมาซ้ายมือจะเจอประตูเดินลงไปยังสวนลอยฟ้า

เดินออกมาจะเจอโถงบันได

และจะเป็นบันไดเดินลงไปที่ชั้น 22

ตามบันไดทางลงจะมีต้นไม้แทรกแบบนี้

เดินลงมาจะเป็นสวนหย่อมเล็กๆ มีพุ่มไม้ตกแต่ง

วิวจากสวนลอยฟ้า

มองกลับเข้าไปด้านในจะเห็นแบบนี้

กลับขึ้นมาที่ชั้น 23 ขวามือเป็นประตูบันไดหนีไฟ

ลองเปิดประตูเข้ามาดูบันไดหนีไฟ ก็ยังทำออกได้ได้สวยดีครับเรียบๆ เรียกได้ว่าเก็บทุกรายละเอียดจริงๆ

เดินตรงเข้ามาจะเจอกับสระว่ายน้ำ

ส่วนที่อยู่ในร่มจะวาง Day Bed สระว่ายน้ำจะอยู่กลางแจ้ง วิวจะมองได้ 180 องศา

วิวหลักของชั้นนี้หันเข้าไปในเมืองคืออนุสาวรีย์ชัยฯ

มองไปทางซ้าย

มองไปทางขวา

ริมสระฝั่งนี้มีที่ไว้ให้นั่งแช่

สระว่ายนำ้เป็นแบบ Infinity edge pool ขนาด 20 x 5 ม. ลึก 1.2 ม. พื้นของสระว่ายน้ำใช้หิน Silver Grey Quartzite ซึ่งเป็นหินสีเทาที่มีเส้นสายของแร่สีเงิน จนสามารถเกิดประกายของเนื้อหินเมื่อโดนแสง และให้ผิวสัมผัสที่แตกต่างจากหินทั่วไป

ด้านบนที่เห็นเหมือนเป็นกล่องกระจกสีดำ คือส่วนของห้องฟิตเนสที่ชั้น 24 ครับ

ส่วนของ Day Bed จะอยู้ใต้ห้องฟิตเนสพอดี

มุมมองจากปลาย

ริมฝั่งนี้จะเป็นสระเด็กลึก 60 ซม.

มองเข้าไปด้านในก็จะเป็นทางเดินเชื่อมไปห้องน้ำ และโถงลิฟท์ได้

ขึ้นลิฟท์มาที่ชั้น 24 ต่อ ชึ่งเป็นชั้นบนสุดของอาคาร

มองเข้าไปด้านในจะเป็นทางเดินไปห้องฟิตเนส

ภายในห้องฟิตเนส ห้องนี้ได้ผนังกระจก 3 ด้าน กระจกห้องนี้จะเป็น Insulated glass กันร้อน กันเสียงได้ดี ชมวิวพาโนรามา 180 องศา พื้นห้องเป็นไวนิลล์ที่มี Texture เหมือนผ้าที่ถักทอด้วยด้ายเส้นใหญ่มาปูพื้น คุณสมบัติคงทน ระบายความชื้นได้ดี และทำความสะอาดง่าย วางเครื่องออกกำลังกายของ Technogym เป็นแบรนด์ที่สนับสนุนกีฬาโอลิมปิค

เครื่องเดินแบบล้อหลัง 2 ตัว

ม้านั่งออกกำลังกาย

ลู่วิ่ง 2 เครื่อง

เครื่องปั่นจักรยาน 2 เครื่อง

เครื่องบริหารกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ

ดัมเบล 1 ชุด

มองจากมุมห้องอีกฝั่ง

วิวจากห้องฟิตเนส มองลงมาจะเห็นสระว่ายน้ำที่ชั้น 23 พอดี

มองจากภาพมุมสูงที่ชั้น 23-24

วิวฝั่งทิศตะวันตกส่วนมากจะเป็นบ้านพักอาศัย และหอพัก วิวโล่งๆแบบนี้

มองลงมาด้านล่างจะเห็นอาคารจอดรถของ The Seasons

วิวฝั่งทิศตะวันออกมองไปโซนดินแดงก็ยังโล่งอยู่ครับ

มองลงมาจะเห็นแนวรถไฟฟ้า BTS และถนนพหลโยธิน ซ้ายมือเป็นช่อง 5

วิวฝั่งทิศเหนือจะติดกับ รพ.พญาไท 2 ขวามือเป็น ททบ.5

มองลงมาด้านล่างรั้วจะติดกับ รพ.พญาไท 2

วิวทิศเหนือมองไปฝั่งอนุสาวรีย์ชัยฯ เห็นตึกใบหยก

ที่ชั้นดาดฟ้าจะมีแผง Solar cell เพื่อผลิตไฟฟ้าเป็นพลังงานทดแทน

Units Type

โครงการมีห้องให้เลือกแบบหลักดังนี้

• 1 Bedroom ขนาด 46.25 – 57.50 ตร.ม.
• 2 Bedroom ขนาด 73.50 – 89.25 ตร.ม.
• Penthouse 3 Bedroom ขนาด 138.25 – 140.25 ตร.ม.

1 Bed ขนาด 46.50 ตร.ม.

1 Bed ขนาด 57.50 ตร.ม.

1 Bed ขนาด 51.75 ตร.ม.

2 Bed ขนาด 73.50 ตร.ม.

2 Bed ขนาด 89.25 ตร.ม.

2 Bed ขนาด 86.50 ตร.ม.

Penthouse 3 Bed ขนาด 138.25 ตร.ม.

Penthouse 3 Bed ขนาด 140.25 ตร.ม.

ห้องตัวอย่าง

ห้องตัวอย่างที่จะพามาชมวันนี้มี 2 แบบ

• 1 Bedroom ขนาด 57.50 ตร.ม.
• 2 Bedroom ขนาด 73.50 ตร.ม.

แบบแรกที่จะพามาชมเป็น 1 Bedroom ขนาด 57.50 ตร.ม. เดินเข้าห้องมาเจอส่วนครัวก่อนเลย ได้เป็นครัวเปิด เชื่อมกับห้องนั่งเล่น ในสุดจะเป็นระเบียง ระเบียงห้องนี้จะมีผนังกระจกสองชั้น สามารถใช้ประโยชน์จากระเบียงได้หลากหลาย ฝั่งซ้ายจะเป็นห้องนอน มีพื้นที่มาให้พอสมควรสามารถวางโต๊ะตู้เตียงได้ครบ ห้องน้ำจะอยู่ในห้องนอนมีอ่างอาบน้ำมาให้

เริ่มจากประตูทางเข้า เป็นแบบบานเปิด ลายไม้ ด้านข้างประตูตรงบ้านเลขที่มีไฟซ่อนยาวตลอดแนว

บ้านเลขที่ใช้วัสดุสแตนเลส มีไฟซ่อนตรงตัวเลข

ประตูจะได้ Digital Door Lock ของ Samsung มือจับเป็นแบบผลักและดึง

พื้นห้องระดับจะสูงจากโถงทางเดิน Corridor เล็กน้อย

เดินเข้าห้องมาจะเจอส่วนครัวก่อนเลย ใช้พื้นที่ร่วมกับส่วนรับประทานอาหาร ด้านในเชื่อมกับส่วนห้องนั่งเล่น ในสุดจะเป็นระเบียง ส่วนของห้องนอนจะอยู่ฝั่งซ้ายมือ ห้องน้ำอยู่ในห้องนอน พื้นครัวได้เป็นกระเบื้องเซรามิก ส่วนห้องนั่งเล่นและห้องนอนเป็น Engineering wood ฝ้าสูง 2.9 ม.

เดินเข้ามาแล้วมองกลับไปที่ประตูทางเข้าจะเห็นแบบนี้ครับ ซ้ายมือเป็นเคาน์เตอร์ครัว ขวามือเป็นตู้เก็บของ

ตู้เก็บของได้เป็นบานเปิด 2 บาน ด้านในแบ่งพื้นที่ไว้วางเครื่องซักผ้า และมีช่องไว้เก็บรองเท้า

อีกฝั่งเป็นเคาน์เตอร์ครัว ได้แบบตัว L

ตู้ด้านบนเป็นบานเปิด 7 บาน ทุกบานมี Soft Close

ตู้ด้านบนที่ตรงกับอ่างล้างจาน จะมีชั้นไว้ให้คว่ำจานชามแบบนี้

ด้านล่างมีทั้งแบบบานเปิด และลิ้นชัก ท็อปเคาน์เตอร์ครัวเป็นหิน Corchia grey

ตู้ด้านล่างเป็นแบบบานเปิด 3 บาน มีถังขยะในตัว

อีกฝั่งเป็นลิ้นชัก 4 ช่อง

ได้ไมโครเวฟของ Kuppersbusch

ได้เตาไฟฟ้าหน้าเซรามิกแบบ 2 หัว พร้อมเครื่องดูดควันของ Kuppersbusch ผนังด้านในกรุกระจกมาให้ด้วยทำความสะอาดง่าย

อ่างล้างจานทรงสี่เหลี่ยมแบบฝังท็อปของ Foster

ตู้ริมสุดจะเป็นตู้เย็น 2 ประตู Built-in ของ Kuppersbusch

โต๊ะรับประทานอาหารวางแบบโต๊ะกลมขนาด 3 ที่นั่งให้ดู

ถัดไปด้านในเป็นส่วนห้องนั่งเล่น

ส่วนครัวจะเปิดเชื่อมกับห้องนั่งเล่น

พื้นห้องนั่งเล่นและห้องนอนจะเป็น Engineering wood สีวอลนัท ปูเป็นลายก้างปลา

วางโซฟาให้ดูขนาด 3 ที่นั่ง

ระยะดูทีวีประมาณ 3.9 ม.

ด้านนอกจะเป็นระเบียง มีประตูกระจกบานเฟี้ยม สูงจากพื้นถึงฝ้า

มือจับกระจก

เปิดแบบดันมาไว้ฝั่งนี้

เปิดออกมาจะเจอระเบียงและกระจกบานเลื่อนอีกชั้น ซึ่งจะได้เฉพาะยูนิตฝั่งที่อยู่ติดถนนหรือฝั่งด้านหน้าโครงการนั่นเองครับ

เลื่อนกระจกออกก็จะเห็นราวกันตกที่เป็นกระจก

พื้นที่ระเบียงขนาด 4.09 x 0.83 ม.

มองไปทางขวา

มองไปทางซ้าย ฝั่งนี้จะมีช่องสำหรับวางคอมเพลสเซอร์แอร์ มีประตูเปิดปิดให้เรียบร้อยดี

วิวจากห้องตัวอย่าง มองออกไปฝั่งด้านหน้าโครงการหรือทิศตะวันออก

กลับเข้ามาในห้องต่อ มองเข้าไปจะเห็นแอร์ที่เป็นแบบ Ceiling Concealed Type คือฝังฝ้ามาให้เลย

ไปดูส่วนห้องนอนกันต่อ ขวามือ

หน้าประตูห้องนอนมีระบบ VDO door phone (กล่องด้านบน) เชื่อมกับเครื่องตรงประตูทางเข้า Lobby มองจากจอจะเห็นคนที่มาหาเรา และคุยผ่านเครื่องนี้พร้อมทั้งปลดล็อคประตูได้เลย ส่วนกล่องด้านล่างเป็นระบบ Home Automation ที่ไว้ควบคุมการเปิดปิดไฟ แอร์ ทุกส่วนในห้อง และรองรับหรือเพิ่มการควมคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆได้อีก

ภายในห้องนอนเดินเข้ามา ขวามือจะเป็นห้องน้ำ ซ้ายมือเป็นตู้เสื้อผ้า ด้านในจะเป็นเตียงนอน

เดินเข้ามาดูห้องน้ำก่อน พื้นและผนังใช้ Badigio Marble จากอิตาลี

ชุดเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าได้ตามนี้เลย

ตู้ด้านบนเป็นบานเปิด 3 บาน

ด้านล่างเป็นบานเปิด 2 บาน ติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อนมาให้เรียบร้อย

อ่างล้างหน้าของ Kohler ฝังท็อปมาเรียบร้อย ก๊อกน้ำเป็นแบบผสมน้ำร้อนน้ำเย็น

อีกฝั่งเป็นโถสุขภัณท์อัตโนมัติของ TOTO Neorest Automatic Water Closet ซึ่งเป็นระบบไฮบริด ช่วยประหยัดพลังงาน และประหยัดน้ำ

มีแผงควบคุมแบบไร้สาย มี sensor พอเดินเข้าไปใกล้แล้วฝาจะยกเปิดเอง พร้อมระบบทำความสะอาดเองในตัว มีปุ่มกดให้ฝารองนั่งยกขึ้นลงได้

ฝั่งด้านในเป็นพื้นที่ส่วนเปียก มีฉากกั้นเป็นกระจก ตรงกลางเป็นบานเปิด

ด้านในติดฝักบัวแบบปรับระดับสูงต่ำได้ พร้อม Rain Shower ติดไว้ด้านบน

หน้าตาฝักบัวที่ได้ขนาดพอดีมือ

Rain Shower ทรงสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่

พื้นที่ส่วนเปียกขนาด 1.5 x 1.39 ม.

มุมด้านในเป็นอ่างอาบน้ำ

อ่างอาบน้ำที่ได้ของ Kohler

ก๊อกน้ำและฝักบัวตรงอ่างอาบน้ำ

ติดกับอ่างอาบน้ำจะมีหน้าต่างบานกระทุ้ง 1 บาน เปิดระบายอากาศได้

ออกจากห้องน้ำมา ฝั่งตรงข้ามจะเป็นตู้เสื้อผ้าแบบบานเปิดสูงถึงฝ้า

ภายในตู้แบ่งช่องมาให้เก็บเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย

ในตู้เสื้อผ้าจะมีตู้เซฟมาให้ด้วย

ถัดเข้ามาจะเป็นส่วนห้องนอน

ติดกับตู้เสื้อผ้าสามารถวางโต๊ะทำงาน หรือโต๊ะเครื่องแป้งได้

มองไปอีกฝั่งจะเป็นพื้นที่วางเตียงนอน ห้องนี้เป็นห้องมุม จะมีหน้าต่างตรงหัวเตียงมาให้ด้วย

วางเตียง 5 ฟุตให้ดู

พื้นที่ข้างเตียงเหลือประมาณ 1.72 ม.

พื้นที่ข้างเตียงอีกฝั่งเหลือประมาณ​ 1.87 ม.

ระยะดูทีวีปลายเตียงประมาณ 2.7 ม.

ฝั่งด้านนอกมีหน้าต่างบานกระทุ้ง 1 บาน

กระจกจะได้แบบ Insulated Glass หรือกระจก 2 ชั้นที่มีช่องว่างระหว่างกระจก มีคุณสมบัติลดเสียงจากภายนอกอาคาร และลดการถ่ายเทความร้อนระหว่างภายในอาคารและภายนอกอาคาร ทำให้ประหยัดพลังงาน เพราะเครื่องปรับอากาศทำงานน้อยลง

มองกลับเข้ามาด้านใน แอร์ในห้องนอนก็เป็นแบบฝังฝ้านะ

อีกแบบที่พามาชมเป็นห้อง 2 Bedroom ขนาด 73.50 ตร.ม. เดินเข้ามาจะเจอส่วนครัวก่อนใช้พื้นที่ร่วมกับส่วนรับประทานอาหาร ครัวได้เป็นครัวเปิดเชื่อมกับส่วนของห้องนั่งเล่น ในสุดเป็นระเบียง มีผนังกระจก 2 ชั้นตรงระเบียง ส่วน Master Bedroom จะอยู่ฝั่งขวา มีห้องน้ำในห้องนอนพร้อมอ่างอาบน้ำ ส่วนห้องนอนเล็กจะอยู่ฝั่งซ้าย ห้องน้ำจะอยู่ด้านนอก

เดินเข้าห้องมาเจอส่วนครัวก่อนเลย เชื่อมยาวเข้าไปถึงส่วนห้องนั่งเล่น และระเบียงด้านในสุด ขวามือเป็นห้อง Master Bedroom ซ้ายมือเป็นห้องนอนเล็กและห้องน้ำ พื้นส่วนครัวเป็นกระเบื้องเซรามิก พื้นส่วนห้องนั่งเล่นและห้องนอนเป็น Engineering wood ฝ้าสูง 2.9 ม.

เดินเข้ามาแล้วมองกลับไปที่ประตูทางเข้า ซ้ายมือเป็นส่วนครัว ขวามือมีตู้เก็บของ

ตู้เก็บของข้างประตูห้องเป็นบานเปิด 4 บาน ด้านในแบ่งเป็นช่อง และลิ้นชัก

ชุดเคาน์เตอร์ครัวที่ได้ตามนี้เลย เคาน์เตอร์ครัวแบบตัว L

ตู้ด้านบนเป็นบานเปิด 6 บาน

ด้านล่างเป็นบานเปิด และลิ้นชัก ได้ไมโครเวฟของ Kuppersbusch

ติดกันเป็นตู้เย็น 4 ประตู Built-in ของ Kuppersbusch ด้านบนเป็นตู้เก็บของอีก 2 บาน

ได้เตาไฟฟ้าหน้าเซรามิกแบบ 4 หัว พร้อมเครื่องดูดควันของ Kuppersbusch ผนังด้านในกรุกระจกมาให้ ทำความสะอาดง่าย

อ่างล้างจานได้ 2 หลุมแบบฝังท็อปของ Foster

ติดกับส่วนครัวเป็นพื้นที่วางโต๊ะรับประทานอาหาร

วางโต๊ะขนาด 4 ที่นั่งให้ดู

ถัดไปเป็นส่วนห้องนั่งเล่น

วางโซฟาขนาด 3 ที่นั่งให้ดูพร้อมโต๊ะกลาง

ระยะดูทีวีประมาณ 3.68 ม. ขวามือเป็นประตูห้อง Master Bedroom

ถัดไปเป็นระเบียง มีกระจกบานเฟี้ยม และมีกระจกบานเลื่อนอีกชั้น

ด้านนอกจะเป็นกระจกบานเลื่อน 3 บาน

พื้นที่ระเบียงขนาด 3.3 x 0.97 ม.

มองไปทางขวา

มองไปอีกฝั่งเป็นช่องสำหรับวางคอมเพลสเซอร์แอร์ มีประตูปิดไว้เรียบร้อย

วิวจากระเบียงห้องจะโล่งๆแบบนี้

มองกลับเข้ามาด้านใน แอร์ส่วนห้องนั่งเล่นจะเป็น Ceiling Concealed Type คือฝังฝ้ามาให้เลย

ไปดู Master Bedroom ต่อ

ภายในห้อง Master Bedroom

วางเตียง 5 ฟุตมาให้ดู

พื้นที่ข้างเตียงเหลือประมาณ 73 ซม.

พื้นที่ข้างเตียงริมหน้าต่างเหลือประมาณ 1.06 ม.

ระยะดูทีวีปลายเตียงประมาณ 2.6 ม.

ฝั่งด้านนอกเป็นกระจกสูงจากพื้นถึงฝ้า เป็นหน้าต้างบานกระทุ้ง 2 บาน

มองเข้ามาด้านใน แอร์เป็นแบบฝังฝ้า ขวามือเป็นทางเข้าห้องน้ำ

หน้าห้องน้ำทำตู้เสื้อผ้ามาให้

เป็นตู้บานเปิด 8 บาน

อีกฝั่งเป็นห้องน้ำ

ภายในห้องน้ำแบ่งส่วนเปียกส่วนแห้ง

ตู้กระจกเป็นบานเปิด ด้านในเก็บของได้

อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมของ Kohler ฝังท็อปมาเรียบร้อย

ตู้ใต้อ่างล้างหน้าเป็นบานเปิด 2 บาน

วางอ่างอาบน้ำไว้ฝั่งนี้ของ Kohler

อีกฝั่งเป็น Shower Box และโถสุขภัณฑ์

โถสุขภัณท์อัตโนมัติของ TOTO Neorest Automatic Water Closet ซึ่งเป็นระบบไฮบริด ช่วยประหยัดพลังงาน และประหยัดน้ำ

ส่วนของ Shower Box

ด้านในติดฝักบัวพร้อม Rain Shower มีชั้นวางอุปกรณ์อาบน้ำมาให้

พื้นที่ส่วนเปียกขนาด 1.33 x 1.12 ม.

กลับออกมาด้านนอก มองไปอีกฝั่งจะเป็นห้องนอนเล็ก และห้องน้ำ

เดินมาตรงหน้าจะเป็นห้องน้ำ ขวามือเป็นห้องนอนเล็ก ขวามือเป็นตู้ไว้วางเครื่องซักผ้า

ตู้เป็นบานเปิด 2 บาน ด้านในไว้ให้วางเครื่องซักผ้า และอุปกรณ์ต่างๆ

เข้ามาดูห้องน้ำกันต่อ ด้านในแบ่งส่วนเปียกส่วนแห้ง ห้องนี้จะไม่มีอ่างอาบนำ้ครับ

ตู้ตรงอ่างล้างหน้าเป็นบานเปิดแบบนี้

อ่างล้างหน้าของ Kohler ก๊อกน้ำแบบผสมน้ำร้อนน้ำเย็น

ติดกันวางโถสุขภัณฑ์อัตโนมัติของ Toto

ฝั่งด้านในเป็นพื้นที่ส่วนเปียก มีฉากกั้นมาให้แบบบานเปิด ขวามือมีช่องไว้ให้วางของ

ด้านในติดฝักบัวพร้อม Rain Shower

พื้นที่ส่วนเปียกขนาด 1.55 x 0.95 ม.

มาต่อกันที่ห้องนอนเล็ก ภายในห้องขนาดกำลังดี

วางเตียง 5 ฟุตให้ดูระยะ

พื้นที่ข้างเตียงเหลือประมาณ 57 ซม.

ปลายเตียงเหลือประมาณ 69 ซม.

พื้นที่ข้างเตียงอีกฝั่งเหลือประมาณ 89 ซม.

ระยะดูทีวีปลายเตียงประมาณ 2.7 ม.

ฝั่งด้านนอกเป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง 2 บาน ที่เหลือเป็นบาน Fixed

ฝั่งด้านในมีตู้เสื้อผ้ามาให้ แอร์ได้แบบฝังฝ้า

ตู้เสื้อผ้าที่ได้เป็นแบบบานเลื่อน 2 บาน

ราคา (ธ.ค.60)

• 1 Bedroom 47.00 – 57.50 ตร.ม. ราคาเริ่ม 12 ล้านบาท
• 1 Bedroom 73.50 – 89.25 ตร.ม. ราคาเริ่ม 20 ล้านบาท
• Penthouse 138.25 – 140.25 ตร.ม. Sold Out

ค่าส่วนกลาง 125 บาท/ตร.ม. : ค่ากองทุน 1,000 บาท/ตร.ม

เงินจอง 1 Bed 200,000 บาท และ 2 Bed 300,000 บาท และโอนกรรมสิทธิ์ได้เลย

***รายละเอียดอื่นๆโปรดสอบถามทางโครงการครับ

---

สรุป

ทำเลที่ตั้งโครงการ – The Monument สนามเป้า ตั้งอยู่ในย่านสนามเป้า ใกล้อนุสาวรีย์ชัยฯ ซึ่งเป็นย่านที่เป็นจุดศูนย์กลางของกรุงเทพฯแห่งหนึ่งที่สามารถเชื่อมต่อออกไปยังที่ต่างๆได้หลากหลาย ย่านนี้มีความอุดมสมบูรณ์ในตัวอยู่แล้ว ติดรั้วโครงการมีคอมมูนิตี้มอลล์ The seasons มีร้านค้า ร้านอาหาร คลินิกความงาม โรงเรียนกวดวิชา หรือเดินมาตรงซอยพหลโยธิน 1 ในซอยมีทั้งร้านอาหาร ร้านขายยา ร้านขนมหลายร้านเลย มี 7-11 ในซอยนี้ หรือเข้าไปใน รพ.พญาไท 2 ก็มีครับ มี Starbucks ด้วย หรือตามริมทางเท้าจากโครงการถึง BTS สถานีสนามเป้า และจากโครงการยาวไปจนถึงอนุเสาวรีย์ชัยฯ มีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านรถเข็น มีทั้งของกิน ของใช้ให้เลือกซื้อ ซึ่งจะคึกคักมากในช่วงวันเวลาทำงาน เนื่องจากย่านนี้เต็มไปด้วยอาคารสำนักงาน โรงพยาบาล สถานที่ราชการ ช่วงเวลาพักเที่ยงจะเห็นพนักงานมาจับจ่ายใช้สอยกันจำนวนมากครับ หรือนั่ง BTS ไปลงอารีย์ซึ่งเพียงสถานีเดียว มี Villa อารีย์ มีร้านอร่อยๆหลายร้าน หรือจะเดินมาแถวอนุเสาวรีย์ชัยฯ ของกินของใช้เพียบครับ ส่วนห้างสรรพสินค้าก็นั่งเข้าสยาม ชิดลม เพลิมจิตได้เลยต่อเดียว

การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว – ตัวโครงการตั้งอยู่ติดถนนพหลโยธิน การเดินทางเข้าออกสะดวก เส้นพหลโยธินวิ่งไปอารีย์ สะพานควาย จตุจักร แยกลาดพร้าว ตัดเข้าถนนวิภาวดีรังสิตได้ หรือเลยไปรัชโยธิน แยกเกษตร สะพานใหม่ ยาวออกรังสิตได้เลย ถ้าวิ่งไปทางอนุสาวรีย์ชัยฯไปเชื่อมกับถนนพญาไทวิ่งไป แยกพญาไท ราชเทวี มาบุญคลอง สยามได้เลย หรือเลยไปออกพระรามสี่ได้ ถ้าใช้เส้นราชวิถี วิ่งไปฝั่งจรัญสนิทวงศ์ ปิ่นเกล้า บรมราชชนนี หรืออีกฝั่งไปทางแยกสามเหลี่ยมดินแดง จะไปเชื่อมกับถนนวิภาวดีรังสิต และถนนดินแดงออกพระรามเก้าได้เลย นอกจากนี้ยังอยู่ใกล้ทางด่วนศรีรัชอีกด้วยครับ ถือว่าค่อนข้างสะดวกในการเดินทางพอสมควร

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ – จุดเด่นของโครงการอยู่ห่างจาก BTS สนามเป้าประมาณ 300 ม. มีทางเท้าเดินสะดวกถึงสถานีเลย นั่งเพียง 4 สถานีถึงสยาม และ 3 สถานีถึงจตุจักรเชื่อมต่อ MRT ได้ ตรง BTS พญาไทเชื่อมต่อ ARL พญาไทนั่งไปสนามบินสุวรรณภูมิได้เลย หน้าโครงการเรียก Taxi ได้สะดวกมีวิ่งเกือบทั้งคืน วินมอเตอร์ไซค์ และป้ายรถเมล์อยู่หน้า รพ.พญาไท 2 มีรถวิ่งผ่านไปมาหลายสายทั้งเข้าและออก ถือว่าค่อนข้างสะดวกพอสมควรถ้าไม่อยากขับรถส่วนตัว

การออกแบบโครงการและวัสดุ – โครงการออกแบบมา 1 อาคาร สูง 24 ชั้น บนพื้นที่ดินขนาด 1 ไร่ อาคารรูปทรงภายนออกสี่เหลี่ยมเรียบๆ Facade ด้านหน้าตกแต่งด้วยแผงระแนงหินแกรนิต สูงถึง 8 ชั้น ยาวเต็มตลอดแนวพร้อมไฟแรนดอมไปกับตัวอาคาร ทำให้ดูมีเอกลักษณ์ สีภายนอกใช้โทนเทาเข้มดูโดดเด่นในย่านนี้ จอดรถได้ที่ชั้น 1-8 ชั้นพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 10 – 22 ส่วนกลางจะอยู่ที่ชั้น 1, 9, 23, 24 การออกแบบเป็น Single Corridor ไม่มีห้องตรงข้ามเพื่อความเป็นส่วนตัว ตรงกลางจะเป็นตำแหน่งของบันไดหนีไฟ และมีช่อง Void ตั้งแต่ชั้น 10-22 ช่วยให้อากาศมีการถ่ายเทตลอด

The Monument สนามเป้าเป็นโครงการระดับ Luxury โครงการนี้เป็นโครงการแรกของแสนสิริที่ใช้แบรนด์ The Monument และประสบความสำเร็จ Sold Out ในช่วง Pre-sale เมื่อช่วงพฤษภาคมปี 2558 ตอนนี้โครงการสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ ก็ยังมีห้องหลุดดาวน์มาขายกันต่อครับ อาจจะด้วยราคาที่ค่อนข้างสูงที่เปิดตัวมาราคาต่อตารางเมตรเฉลี่ยประมาณ 250,000 บาท โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 10.9 ล้านบาท มีนักลงทุนบางท่านหวังจะทำกำไรแต่ก็ขาดทุนกันไปเยอะ ผมว่าโครงการนี้เหมาะกับคนที่ต้องการอยู่อาศัยเอง หรือต้องการบ้านหลังที่สอง ไว้อยู่อาศัยช่วงวันทำงานมากกว่าครับ ตัวโครงการนี้ค่อนข้างโดดเด่นในเรื่องการเลือกใช้วัสดุต่างๆ ที่ส่วนใหญ่จะนำเข้าจากต่างประเทศ นี่ก็อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ราคาที่โดดไปสูงพอสมควร

การออกแบบห้องพักอาศัยที่นี่มีให้เลือกแบบหลักๆ คือ 1 Bed ขนาด 46.25-57.50 ตร.ม. , 2 Bedr ขนาด 73.50-89.25 ตร.ม. , Penthouse 138.25-140.25 ตร.ม. ห้องออกแบบมาดูโปร่งไม่อึดอัด ฝ้าสูง 2.9 ม. โครงการขายแบบ Fully Fitted ของที่ได้จะมี ชุดครัว ท็อปเคาน์เตอร์ครัวเป็นหิน Corchia grey อ่างล้างจานฝังท็อปของ Foster ได้ไมโครเวฟ ตู้เย็น Built-In และ Hob & Hood ของ kuppersbusch ได้ตู้เก็บของ ตู้เสื้อผ้าพร้อมตู้เซฟ สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำอ่างล้างหน้าของ Kohler โถสุขภัณฑ์ของ TOTO Neorest Automatic Water Closet ซึ่งเป็นระบบไฮบริด ช่วยประหยัดพลังงาน และประหยัดน้ำ พร้อมแผงควบคุมแบบไร้สาย มีอ่างอาบน้ำของ Kohler มีฉากกั้นส่วนเปียก พื้นและผนังห้องน้ำได้เป็นหินอ่อนทั้งหมด ในห้องน้ำจะติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อนมาให้เลย แอร์ได้แบบ Ceiling Concealed Type ทุกส่วน พื้นส่วนครัวกระเบื้องแกรนิตโต้ ส่วนห้องนั่งเล่นและห้องนอนเป็น Engineer Wood ปูเป็นลายก้างปลา บานกระจกได้ Full height และเป็น Insulated Glass ทุกยูนิตจะติดตั้งระบบ VDO Door Phone & Home Automation

สิ่งอำนวยความสะดวก – Facility ของโครงการทำออกมาได้ดี สวยหรูดูแพงและน่าใช้งาน ไม่เสียชื่อแสนสิริ แต่ก็ต้องยอมแลกกับค่าส่วนกลางที่ค่อนข้างสูงพอสมควร มีการเลือกใช้วัสดุอย่างดีและพิถีพิถันโดยส่วนใหญ่จะนำเข้าจากต่างประเทศ เพื่อให้ตรงตามคอนเซ็ปต์ ‘The Monument to Generations’ การส่งต่อที่มีคุณค่าจากรุ่นสู่รุ่น เริ่มตั้งแต่รั้วโครงการที่ใช้หินอ่อนสีขาว White Venus และตกแต่งด้วยสแตนเลสสีทอง สร้างความสะดุดตาให้ผู้ที่ผ่านไปมา

ที่ชั้น 1 เป็น Lobby Lounge ทางเข้า Lobby ตกแต่งด้วยหิน Blue Sodalite Marble จากประเทศโบลิเวีย ซึ่งเป็นหินที่ค่อนข้างหายาก พื้นของ Lobby เป็นหิน Corchia Grey Marble จากอิตาลี ส่วนที่เป็นเสาอาคารปิดด้วยหินแกรนิต Black Marquina จากสเปน ชุดโซฟาหนังสีน้ำตาลของ Poltrona Frau ส่วนโต๊ะกลาง และโคมไฟตกแต่งเป็นของ Bottega Veneta Home ผนังที่เป็นจุดเด่นของ Lobby คือ หินอ่อน Dalmata White ที่มาต่อกันเป็นลายตัว X มีทางเดินเชื่อมออกไปยัง Outdoor Lobby Lounge ซึ่งจะมีโครงการเหล็กทำเป็นหลังคาลวดสลิงไม้เลื้อย สร้างบรรยากาศร่มรื่น ตรงส่วนของ Mail Box มีบานตู้ซ่อนเก็บรายละเอียดได้ดี ติดจอทีวี The Frame ของ Samsung เปิดเป็นภาพศิลปะตกแต่ง

ที่ชั้น 9 จะเป็นชั้นส่วนกลางทั้งชั้น มีห้อง Library ชั้นวางหนังสือใช้ไม้จริงที่มีลายจากธรรมชาติ พื้นห้องเป็นไม้สักแท้ Hexagon Basket Weave เป็นลายดั้งเดิมที่มีประวัติยาวนาน เป็นแบบลายสานหกเหลี่ยม ซึ่งใช้เทคนิคการต่อลายและติดตั้งแบบงานฝีมือ ห้อง Tea room มีขนมไว้ให้ลูกบ้าน ห้องนี้จะสะดุดตากับโคมไฟเพดานที่นำเข้าจากโปรตุเกส มีห้อง Social Lounge มีโซฟาที่ทำจากหินอ่อน Honey Onyx และโคมไฟเพดานของ Ralph Lauren มีโต๊ะโกล์ ที่ออกแบบพิเศษเพื่อโครงการ จาก Calcio Balilla by tecktell Italy มีส่วนเตรียมอาหาร มีเครื่องดื่มตามเมนู พร้อม Maid ที่คอยบริการลูกบ้านอยู่ มีห้องดูหนังติดทีวี LED ขนาด 75 นิ้ว พร้อมลำโพงของ Bang & Olufsen แบรนด์จากประเทศฟินแลนด์ มีห้องสปาพร้อมเตียงนอนสปา 2 เตียง นำเข้าจากอเมริกา สเปคเดียวกับที่ 98 wireless มีห้องอเนกประสงค์

ที่ชั้น 23 จะเป็นชั้นส่วนกลางอีกชั้น ชั้นนี้จะมีสระว่ายน้ำขนาด 20 x 5 ม. ลึก 1.2 ม. ชมวิวแบบพาโนรามา พื้นของสระว่ายน้ำใช้หิน Silver Grey Quartzite ซึ่งเป็นหินสีเทาที่มีเส้นสายของแร่สีเงิน จนสามารถเกิดประกายของเนื้อหินเมื่อโดนแสง และให้ผิวสัมผัสที่แตกต่างจากหินทั่วไป มีห้องน้ำแยกชายหญิงพร้อมห้องสตรีม จากชั้น 23 มีทางเดินเชื่อมไปยังสวนลอยฟ้าที่ชั้น 22 มีบันไดเดินลงมา เป็นสวนหย่อมไว้เดินรับลมชมวิว พักผ่อนสายตา

และที่ชั้น 24 เป็นชั้นบนสุด เป็นห้องฟิตเนส ถ้ามองจากชั้น 23 จะเห็นเหมือนกล่องกระจกลอยอยู่ ห้องนี้ชมวิวแบบพาโนรามาเช่นกันผนังเป็นกระจก Insulated glass กันร้อน กันเสียงได้ดี พื้นห้องเป็นไวนิลล์ที่มี Texture เหมือนผ้าที่ถักทอด้วยด้ายเส้นใหญ่มาปูพื้น คุณสมบัติคงทน ระบายความชื้นได้ดี และทำความสะอาดง่าย วางเครื่องออกกำลังกายของ Technogym เป็นแบรนด์ที่สนับสนุนกีฬาโอลิมปิค

นอกจากนี้ยังเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจากแสนสิริคือหุ่นยนต์แสนดีบริการส่งของถึงหน้าห้องของลูกบ้าน ซึ่งน่าใช้งานดี ตัวโครงการติดตั้งแผง Solar cell เพื่อผลิตไฟฟ้าเป็นพลังงานทดแทนไปใช้ในพื้นที่ส่วนกลาง พร้อมจอแสดงผล มี EV Charging Station จำนวน 2 เครื่อง 4 หัวจ่ายไฟฟ้า ครอบคลุมรถ Plug-In Hybrid และ EV Car ทุกยี่ห้อ ทุก Model ในท้องตลาด ชาร์ตได้พร้อมกัน 4 คัน

ลิฟต์โดยสารมีให้ 2 ตัว และลิฟท์ขนของ 1 ตัว ที่จอดรถจอดได้ที่ชั้น 1-8 ทั้งโครงการคิดเป็น 102% ไม่รวมซ้อนคัน ระบบรักษาความปลอดภัยมีรปภ. มี CCTV และผ่านเข้าออกด้วยระบบ Key Card Access

---

คะแนน

ทำเลที่ตั้งโครงการ	8.5	อยู่ในย่านจุดศูนย์กลางกรุงเพทฯ แห่งหนึ่ง มีความอุดมสมบูรณ์ในตัว
การเดินทาง ใช้รถ	8.0	เชื่อมออกได้หลายเส้นทาง ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วน
การเดินทาง ไม่ใช้รถ	8.0	ห่างจาก BTS สนามเป้าประมาณ 300 ม. รถเมล์ วินมอเตอร์ไซค์ Taxi รถตู้
ห้องและวัสดุ	8.5	ออกแบบมาดี มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง วัสดุใช้ของดีสมราคา เก็บรายละเอียดได้ดี แต่ความสูงฝ้าน่าจะสูงกว่านี้หน่อย
สิ่งอำนวยความสะดวก	9.5	Facility มีให้ครบและหลากหลาย เพียงพอต่อลูกบ้าน มีการเลือกใช้วัสดุอย่างพิถีพิถัน
ความคุ้มค่ากับราคา	8.0	รูปแบบโครงการออกแบบมาดี มีเทสในการเลือกใช้วัสดุ สร้างความโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ แต่ราคาก็สูงพอสมควร
คะแนนรวมเฉลี่ย	8.42	ดีมาก

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 1685

Website : https://www.sansiri.com/condominium/the_monument/en/

หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณครับ

และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวครับ