EP.206 รีวิว บ้านเดี่ยว เดอะ ซิตี้ สุขุมวิท-แยกบางนา The City Sukhumvit-Bangna

EP.206 รีวิว บ้านเดี่ยว เดอะ ซิตี้ สุขุมวิท-แยกบางนา The City Sukhumvit-Bangna

สวัสดีค่า ผู้อ่าน Homenayoo ที่รักทุกคน วันนี้เราจะพาไปชมโครงการ The City สุขุมวิท – แยกบางนา บ้านเดี่ยว 2 ชั้นสไตล์โมเดิร์นอิตาลี ทำเลติดถนนสรรพาวุธซึ่งเชื่อมต่อกับถนนสายหลักอาทิ สุขุมวิท บางนา ใกล้ทางด่วนด่านบางนา และทางด่วนบูรพาวิถี อีกทั้งใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีอุดมสุขและบางนา เพียง 3 นาที

พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการประกอบด้วย The City Club สระว่ายน้ำ ห้องฟิตเนส พื้นที่สวนพักผ่อน และการรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง ให้ความเป็นส่วนตัวสูงสุด ในสังคมบ้านเดี่ยว เพียง 94 ครอบครัว โครงการจะเป็นอย่างไร เราไปดูรายละเอียดกันเลยค่า

ที่ตั้งโครงการ

ซอยออนป้า ถนนสรรพาวุธ แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพฯ

คลิก เพื่อดูแผนที่ขนาดใหญ่

การเดินทาง

การเดินวันนี้เริ่มจาก ถนนสุขุมวิท วิ่งตรงไป แยกบางนา เลี้ยวขวาไป ถนนสรรพาวุธ ตรงไปประมาณ 1 กม.ให้เลี้ยวซ้ายเข้า ซอยออนป้า ตรงไปอีกประมาณ 300 เมตร ก็จะเจอซุ้มโครงการ The City สุขุมวิท – แยกบางนา แล้วค่า เราไปดูภาพการเดินทางจริงกันต่อนะคะ

การเดินทางวันนี้เราเริ่มจากบนถนนสุขุมวิท จาก BTS สถานี อุดมสุข ซึ่งอยู่ห่างจากที่ตั้งโครงการประมาณ 2 กม.

เราวิ่งตรงไป ผ่านแยกอุดมสุข ตรงนี้ถ้าเลี้ยวซ้ายเข้าซอยอุดมสุขสามารถวิ่งไปออกถนนศรีนครินทร์ได้ แต่ถ้าไปโครงการ The City สุขุมวิท – แยกบางนา นี่เราวิ่งตรงต่อไปนะ

ตรงมาหน่อยจะเห็นป้ายเลี้ยวขวาไปสรรพาวุธอยู่ ก็แสดงว่าใกล้ถึงแยกบางนาแล้วค่ะ

ตรงทางไปแยกบางนานี่จะเห็นลูกศรขาวติดอยู่ที่พื้นถนนสองเลนเลย หมายความว่าเราสามารถเลี้ยวขวาไปสรรพาวุธได้ ทั้ง2 ช่องนะคะ ข้อดีคือช่วงไหนรถเยอะจะได้ไม่ต้องรอที่ช่องขวาสุดช่องเดียว

ถึงแยกบางนาแล้วเลี้ยวขวาไปถนนสรรพาวุธ

พอเลี้ยวขวามาถนนสรรพาวุธแล้วเราตรงต่อไปตามทางเลยค่ะ ..แถวสรรพาวุธซอย 1 ใกล้ๆแยกบางนานั้นจะมี ตลาดบางนา อยู่ทางฝั่งซ้ายมือด้วย ซึ่งถือเป็นตลาดสดที่ใกล้โครงการมากที่สุดและยังเป็นจุดต่อรถต่างๆอีกด้วยค่ะ ทั้งรถเมล์และวินมอเตอร์ไซค์ ช่วงต้นซอยสรรพาวุธจะเห็นป้ายโฆษณาโครงการ The City สุขุมวิท – บางนา ติดอยู่

ขับตรงมาอีกหน่อย พอเห็นตึกวิทยาลัยอรรถวิทพาณิชยการทางขวามือ และตึก Country Tower ทางซ้ายมือ ก็แสดงว่าใกล้ถึงโครงการแล้วค่ะ

ตรงมาอีกหน่อยก็จะเห็นป้ายซอยออนป้า และป้ายบอกทางของโครงการ The City ติดอยู่ จุดสังเกตหน้าทางเข้าซอยอีกจุดคือป้ายคอนโดบางนาเพลสค่ะ พอเห็นปุ๊บเราก็เลี้ยวซ้ายเข้าซอย

ซอยออนป้าเป็นถนนสาธารณะประโยชน์สองเลน รถวิ่งสวนกันได้ มีทางเดินเท้าสองฝั่งข้างทาง และติดไฟข้างทางให้เรียบร้อยดีค่ะ

ที่ต้นซอยออนป้าจะมีพี่วินมอเตอร์ไซค์อยู่ พร้อมอัตราค่าโดยสาร จากต้นซอยไปโครงการนี่แค่ 300 เมตร จริงๆเดินได้สบายๆนะคะ แต่ถ้าถือของมาหนัก นั่งวินไปส่งหน้าบ้านคิด 10 บาท ทั้งโครงการค่ะ, ไป BTS บางนา 25 บาท, ปากซอยแบริ่ง 30 บาท, เซ็นทรัลบางนา 50 บาท

ก่อนถึงโครงการจะมีคอนโดสูง 8 ชั้นชื่อ Bangna Place อยู่ทางซ้ายมือ ข้อดีของการมีคอนโดอยู่ใกล้ๆ คือตอนกลางคืนถนนในซอยจะไม่เปลี่ยวค่ะ คือมีคนเข้าออกเรื่อยๆ และมีรปภ.หน้าทางเข้าคอนโดช่วยดูความปลอดภัยทางเข้าออกโครงการให้อีกแรงด้วย

ฝั่งตรงข้ามคอนโดมีร้าน ป้าต่าย อาหารตามสั่งอยู่

เดินผ่านสะพานข้ามคลองมาก็จะเจอซุ้มทางเข้าโครงการแล้ว

สะพานข้ามคลองบางนา คั่นระหว่างคอนโดสูง 8 ชั้นและโครงการ The City สุขุมวิท – แยกบางนา ระหว่างเดินถ่ายรูปเราก้มลงดูรอบๆ น้ำในคลองไม่มีขยะหรือกลิ่นรบกวนอะไร ถือว่าโอเคค่ะ

มองจากสะพานมาก็จะเป็นหน้าซุ้มทางเข้าโครงการ The City สุขุมวิท – แยกบางนา แล้วค่ะ

ภาพมุมสูงโครงการ

ที่ดินของโครงการนี้จะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าแนวยาวจัดพื้นที่ส่วนกลางอย่างสวนสาธารณะ สโมสร สำนักงานขายเอาไว้ส่วนหน้าของโครงการที่ติดฝั่งคลองบางนา เข้ามาแล้วเจอเลย จากคลองบางนามาจนถึงหมู่บ้านด้านท้ายโครงการลึกประมาณ 350 เมตร คนที่อยู่บ้านซอยหลังๆก็สามารถเดินมาใช้งานพื้นที่ส่วนกลางได้ในระยะเดินสบายๆค่ะ

รอบโครงการส่วนใหญ่จะเป็นอาคารที่พักอาศัยทั้งทาวน์เฮาส์และบ้านเดี่ยวสูงประมาณ 2 ชั้น รอบสามด้านโครงการ ส่วนด้านหน้าทางฝั่งทิศเหนือติดคลองบางนา ถัดจากคลองไปเป็นคอนโดสูง 8 ชั้น

สิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบโครงการ

สถานที่สำคัญ

• มูลนิธิสายใจไทย 350 ม.
• จุดขึ้นลงทางด่วนประชาชื่น 1.4 กม.
• รถไฟฟ้า BTS อุดมสุข 2 กม.
• รถไฟฟ้า BTS บางนา 2 กม.
• Bangkok Mall 2 กม. (ห้างกำลังจะเปิด ปี 2559)
• Bitec บางนา 2 กม.
• Central บางนา 4 กม.
• Mega บางนา 10.5 กม.
• ร.ร. นานาชาติเบิร์คลีย์ 2.3 กม.
• ร.ร. บางกอกพัฒนา 2.9 กม.
• ร.ร. เซนต์โยเซฟบางนา 6.4 กม.
• ร.พ. กล้วยน้ำไท2 2 กม.
• ร.พ. ไทยนครินทร์ 5.4 กม.

ส่วนห้างใหญ่ๆที่มีอยู่แล้วในโซนนี้จะเกาะตัวกันอยู่บนถนนเส้น บางนา – ตราด แทบทั้งหมดเลยค่ะ ไล่ไปตั้งแต่เซ็นทรัลบางนาและบิ๊กซี ไปจนถึง Index Livingmall, Lotus, Mega Bangna และ Ikea

บริเวณโครงการ

ซุ้มโครงการ The City สุขุมวิท – แยกบางนา ออกแบบมาในโทนสี ขาว เทา มีการใช้เส้นแนวตั้งสีเทาเป็นส่วนตกแต่งช่วยเพิ่มมิติและลดความรู้สึกทึบตันได้ดี ซุ้มมีขนาดค่อนข้างใหญ่ หลังคาซุ้มสูงและกว้าง ช่วยกันแดดกันฝนให้กับตัวป้อมรปภและผู้ผ่านเข้าออก

การเข้าออกโครงการเป็นระบบ Key card Access แบบระยะใกล้ และประตูรั้ว 2 ชั้นคือแบบรั้วไม้กระดกและประตูเลื่อนไฟฟ้า ด้านหน้าโครงการจะมีกล้อง CCTV 2 ตัวแบบส่องป้ายทะเบียนและหน้าตาของผู้มาติดต่อ พื้นส่วนซุ้มโครงการจะเป็นพื้นสแตมป์คอนกรีต

เข้ามาจะเจอถนนหลักโครงการเป็นถนนคอนกรีตกว้าง 16 เมตร มีทางเดินเท้าสองฝั่ง ซ้ายมือจะเป็นสวนสาธารณะ สโมสรและสำนักงานขายและบ้านตัวอย่างจะอยู่ด้านหน้าเราเลยค่ะ

ถ้าเราขับรถมาติดต่อสำนักงานขายก็ขับตรงไปจอดด้านหลังสำนักงานขาย ส่วนถ้าจะเข้าไปส่วนที่พักอาศัยก็เลี้ยวขวาตามทาง เดี๋ยวเราจะพาไล่ดูกันไปทีละส่วนนะคะ

ถนนย่อยในซอยเป็นถนนคอนกรีตกว้าง 9 เมตร มีทางเดินเท้าปูหญ้าปูแผ่นหิน พร้อมปลูกต้นไม้ด้านนอกรั้วให้เรียบร้อยดี ซึ่งนอกจากจะทำให้ดูร่มรื่นขึ้นแล้วยังช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับภายในบ้านด้วยค่ะในแต่ละซอยจะมีบ้านไม่เกิน 6 หลังนะคะ ก็ถือว่ามีความส่วนตัวดีเลยและซอยก็ไม่ลึกเกินไปด้วย หลังสุดท้ายก็สามารถเดินเข้าออกซอยได้สะดวก ไม่ไกลจนเกินไป

เรื่องความปลอดภัยทุกซอยจะมีกล้อง CCTV ติดอยู่ตามในภาพ และจากในภาพจะเห็นว่ากำแพงโครงการที่ปกติสูง 3 เมตรนั้น จริงๆมีการต่อรั้วโปร่งเพิ่มให้อีกจนสูงเลยเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยให้คนในโครงการนะคะ

กลับมาดูสวนสาธารณะส่วนด้านหน้าสโมสรโครงการกันต่อค่ะ ในสวนสาธารณะปลูกต้นไม้ไว้ให้ทั้งไม้พุ่มและไม้ยืนต้น พื้นปูหญ้าและดูแลให้ดูเขียวสดและร่มรื่นน่าเดินดีค่ะ มีทำทางเดินพร้อมม้านั่งไว้ให้เป็นจุดๆ

ถัดจากสวนสาธารณะจะเป็นสโมสรและสำนักงานขายของโครงการ สูงสองชั้น ด้านล่างจะเป็นส่วนห้องของสำนักงานขายและสระว่ายน้ำ ด้านบนเป็นห้องฟิตเนสและนิติบุคคลค่ะ ไปสำรวจกันต่อเลย

ภายในสำนักงานขายค่ะ ตกแต่งสไตล์โมเดิร์น มีการเดินเส้นแสงตกแต่งจากเพดานวิ่งไปที่ฉากหลังเคาเตอร์ช่วยนำสายตาได้ดี จะมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายอยู่หลังเคาเตอร์คอยให้บริการข้อมูล น้ำดื่ม กาแฟ และพาชมโครงการนะคะ ที่นี่พิเศษหน่อยจะมีเปิดเพลง cover เพราะๆคลอระหว่างเดินชมโครงการและบ้านตัวอย่างด้วยค่ะ เพลิดเพลินกันไป

นอกจากในสำนักงานขายจะจัดส่วนที่นั่งไว้ต้อนรับลูกค้าหลายจุดแล้ว จะมีทีวีที่เปิดให้ดูภาพจากกล้อง CCTV ที่ติดในทุกซอยของโครงการด้วยค่ะ

ออกจากสำนักงานขายมา ด้านข้างจะเป็นสระว่ายน้ำของโครงการค่ะ เป็นสระระบบเกลือขนาด 8 x 5.4 ม. สระผู้ใหญ่ลึก 1.2 ม. สระเด็กลึก 0.6 ม. พื้นข้างสระปูแผ่นไม้สำเร็จสร้างบรรยากาศแนวรีสอร์ทในสวน รอบสระปูกระเบื้องโทนสีน้ำตาลอ่อนเข้ากัน

ข้างสระจะมีชุดโซฟาหวายเทียมที่เปียกน้ำได้เอาไว้ให้นั่งพัก วางของ หรือนั่งเฝ้าเด็กๆเล่นน้ำกันได้

เดินมาด้านหลังจะมีห้องน้ำหญิงและชายอยู่ มีทำกันสาดผ้าใบยื่นมากันแดดกันฝนส่วนทางเดินให้ และล้อมด้วยแนวรั้วพุ่มไม้ตกแต่ง เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้จากที่จอดรถด้านหลัง

ห้องน้ำตกแต่งด้วยกระเบื้องเซรามิกผิวด้านสีครีมเรียบๆ ในห้องน้ำจะมีห้องอาบน้ำ 1 ห้อง และห้องโถสุขภัณฑ์ 2 ห้องค่ะ

เปิดให้ดูหน้าตาห้องอาบน้ำและห้องโถสุขภัณฑ์ค่า พื้นห้องน้ำจะมีการลดระดับพื้นลงไปประมาณ 5 cm. เพื่อไม่ให้พื้นส่วนอื่นๆเปียก

อ่างล้างหน้ามี 2 อ่างค่ะ เคาเตอร์อ่างเป็นหินแกรนิตสีดำยาวต่อเนื่องกัน มีเต้าเสียบข้างผนังเตรียมไว้ให้เสียบไดร์เป่าผมได้

ขึ้นมาชั้นบนจะมีทางเดินเชื่อมไปห้องฟิตเนสนะคะ

ที่ทางเดินเชื่อมหันไปด้านหน้าจะเห็นสวนสาธารณะของโครงการ

หันไปด้านหลังจะเห็นลานจอดรถด้านหลังสโมสร

ที่ห้องฟิตเนสตกแต่งด้วยโทนสีเทา น้ำตาลเบจ พื้นปูพรมสีเบจ มีเครื่องออกกำลังกายอยู่สี่เครื่อง

มีเครื่องซิทอัพ ปั่นจักรยานอย่างละเครื่อง และลู่วิ่งไฟฟ้าอีกสองเครื่องค่ะ วางเครื่องหันหน้าออกไปทางผนังกระจกแบบหน้ากว้าง ออกกำลังกายไป ชมวิวสวนไป

ใครอยากเพาะกล้ามก็มีราวเวทยกน้ำหนักพร้อมเครื่องชั่งน้ำหนักมาให้

HOUSE TYPE

แบบบ้านที่นี่จะมี 2 แบบด้วยกันนะคะ คือ MIRO และ PARCO เดี๋ยวเราจะพาไปดูบ้านตัวอย่างไล่จากขนาดเริ่มต้นคือ MIRO (พื้นที่ใช้สอย 220 ตร.ม. จำนวน 64 หลัง) ก่อนนะคะ แล้วจะตามด้วยแบบ PARCO ( พื้นที่ใช้สอย 275 ตร.ม.จำนวน 32 หลัง)

แปลนบ้าน MIRO

ชั้น 1 ของ Miro จะมีทางเข้า 2 ทาง ทั้งทางเข้าจากลานจอดรถ และ ทางเข้าจากเฉลียงหน้าบ้านเข้ามาจะเจอ ห้องรับแขก, ห้องรับประทานอาหาร, Pantry, ครัวไทย, ลานหลังบ้าน และ ห้องน้ำชั้นล่างตามลำดับ

ชั้น 2 ประกอบด้วยห้องนอน 3 ห้อง ห้องน้ำ 3 ห้อง และห้องอเนกประสงค์อีกห้องที่โถงบันได ห้องนอนใหญ่ กับ ห้องนอนที่ 2 ส่วนหน้าบ้าน มีห้องน้ำในตัว ห้องนอนใหญ่จะมี Walkin closet และ ระเบียงในห้องด้วย

แบบบ้าน : MIRO ขนาดที่ดิน เริ่มต้น 53.7 – 59.2 ตร.วา | พื้นที่ใช้สอย 220 ตร.ม.

3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ห้องนั่งเล่น ที่จอดรถ 2 คัน

ขอพาไปดูรอบๆบ้านแบบ Miro กันก่อนนะคะ ประตูรั้วจะเป็นโครงเหล็กโปร่งทาสีดำ แบบรางเลื่อน และมีประตูเล็กสำหรับเดินเข้าแยกจากประตูรถ

ที่กำแพงหน้าบ้านอีกฝั่ง จะมีกล่องจดหมายที่ด้านหน้าติดเลขที่บ้านไว้ และจุดเก็บขยะค่ะ ภาพขวามือเป็นจุดทิ้งขยะมีฝาปิดซึ่งเราไม่ต้องเปิดประตูรั้วออกไปทิ้งนอกบ้าน แต่สามารถเปิดทิ้งในบ้านได้เลย แล้วคนเก็บขยะจะมาเก็บไปจากด้านนอกเองค่ะ

พื้นส่วนลานจอดรถเป็นผิวทรายล้างสลับสี แยกโครงสร้างกับตัวบ้านนะคะ ในระยะยาวจึงไม่ต้องกังวลว่าจะมีรอยร้าวหรือรอยแยกออกมาจากตัวบ้าน ส่วนเพดานลานจอดรถติดไฟดาวน์ไลท์มาให้

ผนังด้านข้างของลานจอดรถจะมีตู้เก็บของมาให้เอาไว้ใช้เก็บอุปกรณ์ทำสวน ดูแลรถ หรืออุปกรณ์กีฬาต่างๆได้ ข้อดีคือส่วนเก็บของยกจากตัวพื้นลานจอดรถประมาณฟุตนึง ช่วยกันความชื้นเวลาฝนตกได้ดีขึ้นค่ะ

ที่ลานจอดรถจะมีประตูทางเข้าไปส่วนครัวหรือขึ้นบันไดไปข้างบนได้ โดยไม่ต้องผ่านส่วนห้องนั่งเล่น ข้อดีคือเวลาฝนตกก็สามารถขนของเข้าไปเก็บในครัวจากลานจอดรถได้เลย มีบันไดขึ้นไปสองสเต็ป ช่วยกันความชื้นและฝุ่นจากภายนอก และบานประตูที่ได้จะกว้างกว่าประตูลานจอดรถปกติด้วยค่ะ คือกว้างประมาณ 1 ม. (ทั่วไปจะประมาณ 0.7 – 0.8 ม.)

ส่วนหน้าบ้านปูหญ้า ปลูกต้นไม้ และวางแผ่นหินเป็นทางเดินไปเฉลียงหน้าบ้านมาให้เรียบร้อย พื้นที่ด้านหน้าบ้านมีระยะห่างมากพอที่จะปลูกไม้พุ่มหรือไม้ยืนต้นเพิ่มอีกได้พอสมควรเลยนะคะ ถ้าใครอยากทำมุมนั่งเล่นเพิ่ม ก็มีพื้นที่พอให้วางม้านั่ง หรือชุดโต๊ะเก้าอี้ได้อยู่

ส่วนด้านหลังบ้านค่ะ กำแพงรอบบ้านจะเป็นกำแพงสูง 1.5 ม. มีลูกเล่นต่างจากที่อื่นนิดหน่อยคือเป็นลายอิฐก้อนใหญ่สีขาว ลานซักล้างหลังบ้านที่ติดกับประตูห้องครัว แยกโครงสร้าง และปูกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 ซม. และมีลานคอนกรีตพร้อมแท็งน้ำมาให้เรียบร้อย

กลับมาที่เฉลียงหน้าบ้านกันต่อค่ะ ตัวเฉลียงสูงจากพื้นดินขึ้นมา 1 ขั้น ขนาดกว้างพอเหมาะ ตัวพื้นบ้านสูงขึ้นมาจากเฉลียงอีกประมาณ 10 ซม. ประตูหน้าบ้านเป็นแบบบานเลื่อน เลื่อนได้บานเดียวนะคะ กรอบประตูทั้งหมดจะเป็น UPVC สีขาว กระจกเขียวตัดแสง มือจับแบบหูช้าง

เปิดประตูเข้ามาด้านในจะเป็นส่วนห้องนั่งเล่นต่อเนื่องไปจนส่วนห้องทานอาหารค่ะ บ้านตัวอย่างจัดเฟอร์นิเจอร์มาให้เห็นความลงตัวในแง่การใช้งาน มีทำฝ้าหลุมเพิ่มนิดหน่อยส่วนทานอาหาร และทำช่องเก็บรางม่านเพิ่ม ซึ่งตรงนี้บ้านเปล่าจะไม่มีนะคะ เดี๋ยวมีภาพบ้านเปล่าอธิบายเพิ่มให้เห็นภาพค่ะ

ภาพจากบ้านเปล่าค่ะ จะเห็นช่องแสงได้ชัดเจนขึ้นเพราะไม่มีม่านบังนะคะ หน้าต่างให้มาเป็นบานเลื่อนกรอบ UPVC สีขาวทั้งหมด ให้มาบานใหญ่ดีค่ะ ทำให้บ้านดูสว่างและโปร่ง บวกกับตัวบ้านมีฝ้าเพดานที่ให้มาสูงอยู่แล้วคือ 2.8 ม. ใครชอบทำฝ้าเพดานซ่อนไฟ ซ่อนม่าน สั่งทำเฟอร์บิลด์อิน เจอฝ้าสูงแบบนี้คงชอบค่ะ ไฟดาวน์ไลท์ให้ทั้งหลัง พื้นปูกระเบื้องแกรนิตโต้ 60 x 60 ซม. ผนังติดวอลเปเปอร์พร้อมบัวสีขาวมาให้

กลับมาที่บ้านตัวอย่างนะคะ ส่วนห้องนั่งเล่นจัดมาเป็นโซฟาแบบสามที่นั่งกำลังดี อาจวางอาร์มแชร์เพิ่มได้อีกตัวนะคะ เปิดม่านด้านหลังก็เห็นวิวสวนข้างบ้าน

ระยะห่างจากโซฟากับชั้นวางทีวีอยู่ที่ประมาณ 2 เมตร บ้านตัวอย่างทำชั้นบิลด์อินมาให้ดูเป็นไอเดีย ช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้ดี

ต่อจากส่วนห้องนั่งเล่นจะเป็นส่วนทานอาหาร จัดมา 6 ที่นั่ง จริงๆสามารถจัดได้ถึง 10 ที่นั่งสบายๆนะคะ มีระยะกว้างพอค่ะ เราเปิดม่านให้ดูทั้งสองฝั่ง ถ้าจัดสวนสวยๆ แสงดีๆ เปิดม่านก็จะได้บรรยากาศเหมือนทานข้าวในสวน ได้อารมณ์อีกแบบ แต่ถ้าขี้เกียจจัดสวนก็ปิดม่านไว้ได้ง่ายดี 555+

ถัดจากส่วนห้องอาหารจะเป็นส่วน Pantry ซึ่งตรงนี้บ้านตัวอย่างทำเคาเตอร์มาให้เห็นระยะใช้งาน มีภาพบ้านเปล่ามาให้ชมค่ะ

ส่วน Pantry ในบ้านเปล่าจะเห็นว่าไม่มีเคาเตอร์มาให้นะคะ ถ้าอยากได้ต้องทำเพิ่มเองซึ่งก็เพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้ดี แต่ถ้าบางคนไม่ค่อยทำอาหาร หรืออยากกั้นห้องเพิ่ม ไม่ว่าจะห้องนอนหรือห้องเล่นเกมส์ เราก็เลื่อนส่วนโต๊ะทานข้าวมาไว้ตรงหน้าครัวตรงนี้แทน และกั้นห้องต่อจากส่วนห้องนั่งเล่นเป็นห้องเพิ่มแทนได้

จะเห็นว่าพอวางเคาเตอร์ไปก็ยังมีระยะใช้สอยสบายๆไม่อึดอัดค่ะ

ส่วนครัวจะมีระดับพื้นต่ำลงมาจากพื้นบ้านปกติประมาณ 5 ซม. พื้นปูกระเบื้องเซรามิก 30 x 30 ซม. เคาเตอร์ครัว ชั้นเก็บของบิลด์อินทั้งบนและล่าง รวมเครื่องดูดควันและ Back Splash กันเปื้อนที่ผนัง อ่างล้างจาน เตาสี่หลุม ของจริงได้ตามนี้ค่ะ เป็นครัวที่มีขนาดกำลังเหมาะ มีที่เตรียมอาหารและช่องระบายอากาศกำลังดี ไม่อับทึบ เหนือประตูทางออกไปลานซักล้างมีติดพัดลมดูดอากาศมาให้ และเตรียมเต้าเสียบและพื้นที่ไว้สำหรับตู้เย็นและเครื่องซักผ้าเรียบร้อย

ถัดจากครัวจะเป็นห้องน้ำชั้นล่าง ซึ่งอยู่ระหว่างครัวกับประตูทางออกไปลานจอดรถนะคะ เนื่องจากบ้านของที่นี่จะติดสัญญาณกันขโมยมาให้ทั้ง Shock Censer และ Magnetic Censer ทำให้เราจะเห็นก้อนเซนเซอร์แบบในรูปตามประตูหน้าต่างแบบในรูปขยายค่ะ เราขยายภาพมือจับประตูลานจอดรถมาให้ดูด้วยค่ะ

ช่องเก็บของหน้าห้องน้ำชั้นล่างจะเป็นที่เก็บงานระบบไฟนะคะ ทำเอาไว้เรียบร้อยเป็นสัดส่วนดี

ห้องน้ำชั้นล่างจะมีส่วนอาบน้ำพร้อมลดระดับพื้นมาให้ สุขภัณฑ์เป็นของ Kohler

มีหน้าต่างบานกระทุ้งมาให้ 1 บาน ตรงส่วนอาบน้ำ ผนังห้องน้ำปูกระเบื้องจรดเพดาน ไฟดาวน์ไลท์ ส่วนอาบน้ำถ้าไม่อยากให้น้ำกระเด็นเปียกส่วนอื่นสามารถติดตั้งฉากกั้นกระจกเทมเปอร์เพิ่มได้นะคะ ไม่ต้องก่อพื้นเพิ่มเพราะลดระดับพื้นส่วนเปียกไว้ให้แล้ว

จับให้ดูขนาดฝักบัวชัดๆค่ะ ให้มาใหญ่ดี และมีเจาะช่องผนังส่วนอาบน้ำทำเป็นที่วางของเพิ่มให้ 2 ชั้น

เทียบขนาดมือกับอ่างล้างมือให้ดูค่ะ ไม่มีที่วางของรอบๆอ่างมากนักนะคะ พอวางสบู่ล้างมือ แปรงสีฟันยาสีฟันได้นิดหน่อย แต่สามารถทำเคาเตอร์อ่างเพิ่มเองได้ค่ะ

บริเวณโถงบันไดจะมีห้องเก็บของใต้บันไดมาให้ ภายในห้องเก็บของปูกระเบื้องเซรามิก เนื่องจากตัวบ้านมีเพดานสูง 2.8 ม. ทำให้เดินเข้าห้องเก็บของไปได้แบบไม่ต้องก้ม คนสูงไม่ถึง 160 นี่กระโดดเข้าไปได้เลย เหมาะทำชั้นเก็บของเพิ่มได้ และภายในมีพื้นที่ส่วนใต้บันไดเพิ่มอีกด้วย แต่จะมีผนังยุบเข้ามาส่วนนึงจากตู้เก็บของที่ลานจอดรถค่ะ แต่โดยรวมคือมีพื้นที่เก็บของเยอะอยู่ดี

พื้นบันไดเป็นไม้ประสานและพื้นชั้น 2 เป็นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. พื้นทั้งคู่ทำมาสีโทนเดียวกันดีมากค่ะ มองแล้วต่อเนื่องสบายตา ส่วนราวบันไดจะเป็นเหล็กทาสีขาวท้อปเป็นไม้สีเข้ากันกับพื้นบันไดและพื้น ชานพักเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าเต็ม เดินสบายๆ

หน้าตาสวิตช์ไฟในบ้านเป็นสีขาวเรียบแบบนี้ ของ Panasonic

ตัวโถงบันไดบ้านตัวอย่างมีทำฝ้าซ่อนไฟและติดโคมระย้าและม่านเพิ่ม ซึ่งบ้านเปล่า(ภาพขวามือ) ฝ้าเพดานจะเป็นแบบเรียบนะคะ แต่แนะนำให้ติดโคมห้อยที่เพดานเพิ่มความสว่างให้โถงบันไดตอนกลางคืนนะคะ แต่ตอนกลางวันไม่มีปัญหาอะไรเพราะช่องแสงเจาะมากว้างอยู่แล้ว

เมื่อขึ้นมาชั้น 2 ตรงโถงบันไดจะมีพื้นที่อเนกประสงค์มาให้ บ้านตัวอย่างจัดเป็นห้องนั่งเล่นชั้นบน ซึ่งเป็นไอเดียที่ดีนะคะ เพราะคนในครอบครัวจะได้มีพื้นที่ใช้ร่วมกันเพิ่มก่อนนอน และมีความเป็นส่วนตัวมากกว่าชั้นล่างด้วย

อันนี้พื้นที่อเนกประสงค์มุมเดียวกันจากบ้านเปล่าค่ะ

เราไปดูห้องนอนใหญ่หรือ Master Bedroom กันต่อเลย จากโถงบันไดขึ้นมาจะอยู่ด้านขวา

ห้องนอนใหญ่จะมีห้องน้ำ ระเบียง และ Walk in closet ในตัวนะคะ ในห้องสามารถวางเตียง 6 ฟุตหรือคิงไซส์ได้สบายๆ

ปลายเตียงวางมีพื้นที่พอเหมาะที่จะชั้นวางทีวีและโซฟาเดย์เบดไว้นอนเล่นอ่านหนังสือได้ หรือใครอยากเปลี่ยนเป็นโต๊ะทำงานก็เหมาะเช่นกัน

มองไปที่ประตูบานเลื่อนเปิดออกไประเบียง จะเห็นว่าระหว่างปลายเตียงกับทีวีเหลือระยะเดินสบายๆนะคะ

รูประเบียงในห้องนอนใหญ่จากบ้านเปล่าค่ะ ภาพซ้ายหันไปทางซ้าย ภาพขวาหันไปทางขวานะคะ พื้นระเบียงลดระดับลงจากพื้นห้องนอนประมาณ 5 ซม. ปูกระเบื้องเซรามิก 30 x 30 ซม. มีเดินท่อระบายน้ำที่พื้นไว้ให้เรียบร้อย ราวกันตกเป็นเหล็กโปร่งทาสีขาว ระเบียงลึกประมาณ 1 เมตรนะคะ ถ้าอยากวางชุดโต๊ะเก้าอี้คู่เพิ่มก็สามารถทำได้

จากระเบียงมองกลับไปที่ห้องนอน จะเห็นส่วน Walk in closet ที่บ้านตัวอย่างทำเพิ่มมาให้ดูเป็นไอเดียนะคะ ตรงนี้เราถ่ายภาพบ้านเปล่ามาเทียบให้ดูนะคะ

ภาพบ้านเปล่าถ่ายจากมุมเดียวกันค่ะ จะเห็นเป็นมุมที่เหมาะสำหรับวางตู้เสื้อผ้าก่อนเข้าห้องน้ำ มีช่องแสงมาให้ สามารถกั้นเป็น Walk in closet ได้สบายๆ

ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ค่ะ สังเกตด้านหลังโถสุขภัณฑ์กับอ่างล้างมือมี Low wall มาให้วางของเพิ่มด้วย

อ่างล้างมือเป็นอ่างไฟเบอร์ เทียบกับฝ่ามือให้เห็นภาพขนาดอ่างค่ะ

ด้านล่างอ่างมีชั้นให้วางของได้ มีบานปิดให้

หน้าตาโถสุขภัณฑ์ค่ะ สุขภัณฑ์ของที่นี่ใช้ของ Kohler ค่ะ

ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่จะมีฉากกั้นห้องกระจกเทมเปอร์สำหรับส่วนอาบน้ำมาให้นะคะ มีช่องแสงเป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง 1 บาน ตรงช่องแสงนี่มีเจาะผนังให้ใช้เป็นที่วางของเพิ่มได้

ส่วนอาบนำ้มีที่นั่งอาบน้ำไว้ให้ มีเจาะช่องที่ผนังไว้ให้วางของได้ 2 ชั้น ฝักบัวให้ขนาดมาใหญ่ดีค่ะ

ไปดูห้องนอนเล็กทั้งสองห้องที่อยู่ทางฝั่งซ้ายของโถงบันไดกันต่อนะคะ ห้องนอนเล็กทั้งสองห้องนี้จะมีห้องน้ำของชั้นสองคั่นอยู่ตรงกลาง

ห้องน้ำชั้น 2 สเป็ควัสดุและสุขภัณฑ์จะเป็นแบบเดียวกับห้องน้ำชั้น 1 เลยค่ะ คือจะมีส่วนอาบน้ำพร้อมลดระดับพื้นมาให้ สุขภัณฑ์เป็นของ Kohler มีหน้าต่างบานกระทุ้งมาให้ 1 บาน

หันหน้าไปทางบันไดจะเป็นห้องนอนเล็กที่มีห้องน้ำในตัวค่ะ เข้าไปดูกันต่อเลย

ห้องนี้จัดเป็นห้องลูกชายนะคะ (หรือไม่ก็ลูกสาวที่แมนมากๆ) เป็นห้องที่ได้หน้าต่างบานใหญ่เหมือนประตูออกไประเบียง พร้อมราวกันตกมาให้ แต่จริงๆเป็นระเบียงตกแต่งนะคะ เพราะห้องนี้หันไปทางหน้าบ้าน บ้านตัวอย่างจัดเป็นเตียงเดี่ยวมาให้ แต่จริงๆมีระยะพอวางเตียงควีนไซส์ 5 ฟุตได้ แต่แนะนำว่าถ้าวางเตียงคู่ให้หาตู้เสื้อผ้าแบบบานเลื่อนเพื่อประหยัดพื้นที่ในการเปิดปิดนะคะ

อันนี้เป็นไอเดียในการใช้เพดานสูง 2.8 ม. ของบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพนะคะ บ้านตัวอย่างทำเป็นชั้นวางของไปจนสุดเพดาน เป็นได้ทั้งพื้นที่ทำงานและพื้นที่เก็บของ

ห้องน้ำในห้องนอนเล็กค่ะ สเป็ควัสดุและสุขภัณฑ์แบบเดียวกันกับห้องน้ำชั้นล่าง

ห้องสุดท้ายที่เราพามาดูกันเป็นห้องนอนเล็กสุดของบ้านค่ะ ในห้องจะมีช่องแสงเป็นหน้าต่างบานเลื่อนให้สองฝั่ง

มองออกไปที่ประตูทางเข้าห้อง จะเห็นว่าจัดเป็นห้องนอนลูกสาวแบบเตียงเดี่ยว แต่ขนาดห้องสามารถวางเตียงควีนไซส์ พร้อมวางตู้เสื้อผ้าได้นะคะ

แปลนบ้าน PARCO

ชั้น 1 ของ Parco จะมีทางเข้า 2 ทาง ทั้งทางเข้าจากลานจอดรถ และ ทางเข้าจากเฉลียงหน้าบ้าน เข้ามาจะเจอ ห้องรับแขก, ห้องรับประทานอาหาร, Pantry, ครัวไทย, ลานหลังบ้าน และห้องน้ำชั้นล่างตามลำดับคล้ายกันกับแบบ Miro แต่ต่างกันตรงที่หลังนี้จะมีส่วนห้องอเนกประสงค์ที่สามารถใช้เป็นห้องนอนหรือห้องทำงานชั้นล่างได้ และมีห้องแม่บ้านอยู่ด้านหลังบ้านด้วย ซึ่งสามารถใช้เป็นห้องซักรีดได้

ชั้น 2 ประกอบด้วยห้องนอน 3 ห้อง ห้องน้ำ 3 ห้อง ห้องนอนใหญ่ กับ ห้องนอนเล็กฝั่งหน้าบ้านจะมีห้องน้ำในตัว ห้องนอนใหญ่จะมี Walkin closet และ ระเบียงในห้องด้วย มีพื้นที่อเนกประสงค์ที่โถงบันไดให้ใช้เป็นห้องนั่งเล่นชั้น 2 ได้

แบบบ้าน : PARCO ขนาดที่ดิน เริ่มต้น 61.1 – 85.1 ตร.วา | พื้นที่ใช้สอย 275 ตร.ม.

4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ห้องนั่งเล่น ที่จอดรถ 2 คัน

สเป็ควัสดุของบ้านแบบ Parco ในส่วนต่างๆนี่จะเหมือนกันกับบ้านแบบ Miro ทุกอย่างนะคะ แตกต่างกันที่ขนาดพื้นที่ใช้สอยและฟังก์ชั่นต่างๆในบ้าน สำหรับหลังนี้จะเน้นพาไปดูส่วนที่บ้านแบบ Parco มีว่าต่างจาก Miro ยังไง เราไปดูกันเลยค่า

ส่วนลานจอดรถของ Parco จอดได้ 2 คันเหมือนกัน แต่มีที่เก็บที่ลานจอดรถมากกว่าค่ะ จาก Miro จะมีที่เก็บของฝั่งติดห้องใต้บันไดฝั่งเดียว แต่แบบ Parco นี้จะมีที่เก็บของที่เสาด้านข้างลานจอดรถเพิ่มมาให้ด้วย

เปิดที่เก็บของให้ดูค่ะ เราลองขึ้นไปยืนได้ทั้งตัวไม่ต้องก้มหัวเลย ใครขยันหน่อยทำชั้นเพิ่มซักชั้นนึงจะเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้ดีเลยค่ะ

มองไปทางสวนหน้าบ้านก็มีปูหญ้า แผ่นหินทางเดิน และปลูกต้นไม้มาให้เหมือนกัน

ที่เฉลียงหน้าบ้านของ Paco จะกว้างกว่าของ Miro นะคะ เพราะตัวเฉลียงจะวิ่งต่อไปที่พื้นที่ข้างบ้านด้วยตามภาพซ้ายมือ วันไหนอากาศดีๆก็หอบหมอนหอบเสื่อมานั่งชมสวนตรงนี้ได้

ส่วนหลังบ้านของ Parco ก็จะต่างกับแบบ Miro อยู่พอสมควรค่ะ ภาพซ้ายเรามองเข้าไปที่แท็งน้ำ ส่วนภาพขวาเราไปยืนที่แท็งน้ำแล้วมองออกมานะคะ คือจะมีประตูสองบาน บานนึงเปิดเข้าห้องครัว บานนึงเปิดเข้าห้องแม่บ้าน ข้างๆห้องครัวจะมีตู้เก็บของเพิ่มมาให้อีกจุดด้วย เป็นจุดที่คิดมาดีนะคะ เพราะบ้านใหญ่ คนอยู่เยอะ ของก็เยอะตาม การมีที่เก็บของในตำแหน่งที่เหมาะสมจะช่วยให้บ้านเป็นระเบียบเรียบร้อยได้ง่าย

ระหว่างห้องครัวกับห้องแม่บ้าน จะมียกพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้าอยู่ เครื่องซักผ้านั่นของจริงไม่มีให้นะคะ วางให้ดูเป็นไอเดียเฉยๆ ลานหลังบ้านก็แยกโครงสร้าง ปูกระเบื้องเซรามิกมาให้หมด

เข้าไปดูในบ้านกันต่อนะคะ ส่วนห้องนั่งเล่นที่อยู่ติดกับเฉลียงหน้าบ้าน ถัดไปเป็นส่วนห้องทางอาหาร วัสดุก็เหมือนกันกับแบบ Miro ทุกอย่างนะคะ

ภาพจากบ้านเปล่า Parco ค่ะ พื้นปูกระเบื้องแกรนิตโต้ 60 x 60 ซม. ผนังติดวอลเปเปอร์พร้อมบัวสีขาวมาให้ หน้าต่างให้มาเป็นบานเลื่อนกรอบ UPVC สีขาวทั้งหมด ฝ้าเพดานเป็นยิปซั่มฉาบเรียบสูง 2.8 ม. ไฟดาวน์ไลท์ทั้งหลัง

บ้านตัวอย่างทำชั้นวางทีวีแบบบิลด์อินมาให้ดูเป็นไอเดีย แต่แบบ Parco นี้จะมีส่วนห้องนั่งเล่นที่ลึกกว่าแบบ Miro นิดหน่อยนะคะ ก็คือจะทำชั้นได้ยาวขึ้นอย่างที่เห็นในบ้านตัวอย่างวางเก้าอี้อาร์มแชร์เพิ่มมาให้ดูระยะใช้งานด้วย

ส่วนห้องทานอาหาร บ้านตัวอย่างจัดมาเป็นแบบ 6 ที่นั่ง แต่ระยะพอจัดให้เป็น 10 ที่นั่งได้อยู่นะคะ กรณีเชิญแขกมา เปิดม่านก็เป็นวิวสวนในบ้าน 2 ฝั่ง

ทางเข้าห้องครัวในบ้านตัวอย่าง

ทางเข้าห้องครัวจากบ้านเปล่าค่ะ ของจริงจะเป็นกระจกบานเลื่อนแขวนรางด้านบนแบบนี้นะคะ ข้อดีคือไม่มีรางที่พื้น ทำให้ทำความสะอาดพื้นได้ง่าย

ส่วนครัวจะมีระดับพื้นต่ำลงมาจากพื้นบ้านปกติประมาณ 5 ซม. พื้นปูกระเบื้องเซรามิก 30 x 30 ซม. เคาเตอร์ครัว ชั้นเก็บของบิลด์อินทั้งบนและล่าง รวมเครื่องดูดควันและ Back Splash กันเปื้อนที่ผนังหลังเคาเตอร์ อ่างล้างจาน เตาสี่หลุม ของจริงได้ตามนี้ค่ะ

เป็นครัวที่มีขนาดกำลังเหมาะ มีที่เตรียมอาหารและช่องระบายอากาศกำลังดี ไม่อับทึบ เหนือประตูทางออกไปลานซักล้างมีติดพัดลมดูดอากาศมาให้ และเตรียมเต้าเสียบและพื้นที่ไว้สำหรับตู้เย็นเรียบร้อย

ไปดูห้องอเนกประสงค์ชั้นล่างกันต่อค่ะ

ห้องอเนกประสงค์จัดมาเป็นห้องทำงานนะคะ ภาพซ้ายมือทำชั้นวางของสูงจรดเพดานมาให้ดูเป็นไอเดียค่ะ ภาพขวามือวางโต๊ะทำงานมาให้ดูระยะใช้งาน

ขึ้นไปดูชั้นบนกันต่อนะคะ บันไดของ Parco กับ Miro นั้นเป็นแบบเดียวกันทุกอย่างนะคะ แต่ต่างกันที่โถงบันได Parco จะมีห้องอเนกประสงค์ที่มีขนาดใหญ่กว่า และในบ้านตัวอย่างจะเห็นว่ากั้นส่วนห้องอเนกประสงค์มาให้ดูเป็นไอเดียด้วยอย่างที่เห็นในภาพขวา

ถ่ายภาพจากโถงบันไดชั้น 2ในบ้านเปล่ามาให้ดูค่า ส่วนห้องอเนกประสงค์หรือห้องนั่งเล่นของชั้น 2 ของ Parco จริงๆจะโล่งแบบนี้คล้ายกับ Miro นะคะ แต่ใหญ่กว่าเยอะเหมือนกัน จริงๆไม่กั้นห้องทึบแบบบ้านตัวอย่าง แต่กั้นเป็นกระจกบานเฟี้ยมหรือบานเลื่อนไว้ก็ดีนะคะ ถ้ามีงบ ทำเป็นห้องพักผ่อนในครอบครัวร่วมกันชั้นบน วันไหนร้อนๆก็เปิดแอร์ได้ วันไหนไม่ได้ใช้ก็เปิดโล่งให้อากาศถ่ายเทได้ไรงี้

บ้านตัวอย่างจัดห้องอเนกประสงค์เป็นห้องพักผ่อน แบบกึ่งโซฟายาวกึ่งเดย์เบดที่ดูน่าเอนหลังดี

ระยะห่างจากชั้นวางทีวีกำลังสวยค่ะ จัดเป็นห้องเล่นเกมส์สำหรับเด็กๆก็เหมาะ

มาดูห้องนอนใหญ่กันต่อค่ะ ห้องนอนใหญ่ของ Parco จะมีขนาดห้องใหญ่กว่า Miro จะเห็นว่าตัวห้องกว้างขวาง มีระยะพอวางโต๊ะทำงาน เก้าอี้ปลายเตียงตัวใหญ่ๆ ได้สบายๆ

มองไปทางประตูบานเลื่อนเปิดออกไประเบียง จะเห็นว่าต่อให้วางเก้าอี้นอนตัวใหญ่ลงไปแล้ว ปลายเตียงก็ยังมีระยะเดินเหลือเฟือค่ะ

จากระเบียงมองไปทาง Walk in closet ในบ้านตัวอย่างจะมีกั้นห้องมาให้ดูเป็นไอเดีย

ภาพจากบ้านเปล่าค่ะ จะเห็นว่าห้องนอนใหญ่ของจริงจะไม่มีกั้นห้องส่วน walk in closet มาให้นะคะ แต่จะเป็นมุมยุบเข้าไปที่เหมาะจะใช้วางตู้เสื้อผ้าแทน ประตูฝั่งซ้ายมือเป็นประตูห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ค่ะ

ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ของ Parco สเป็ควัสดุและสุขภัณฑ์ก็จะเหมือนกันกับ Miro ทุกอย่างค่ะ

ห้องนอนเล็กติดไปทางฝั่งด้านหลังบ้าน ที่เหมือนจะจัดเป็นห้องของยุนอา SNSD 555+ ห้องนี้จะไม่มีห้องน้ำในตัวหรือระเบียงเหมือนห้องนอนห้องอื่นนะคะ แต่ก็เป็นห้องนอนที่มีขนาดกว้างขวาง จะเห็นจากภาพบ้านตัวอย่างว่าวางเตียงคู่มาให้ และสามารถวางเตียงขนาดคิงส์ไซส์ได้สบายๆ

ปลายเตียงของห้องยุนอานี่จัดเป็นโต๊ะยาว สำหรับทำงานหรือใช้เป็นโต๊ะเครื่องแป้งไปในตัวก็ได้ พร้อมชั้นลอยด้านบนมาให้ดูเป็นไอเดีย อีกฝั่งของผนังก็วางตู้เสื้อผ้ามาให้ดูระยะใช้งานค่ะ

เข้าไปดูห้องนอนเล็กห้องสุดท้ายกันนะคะ ภาพนี้ถ่ายจากประตูทางเข้าห้อง ซ้ายมือจะเป็นห้องน้ำในห้องนอนเล็กนี้ค่ะ (สเป็คเหมือนกันกับห้องน้ำเล็กใน Miro เป๊ะ) เข้าไปจะเห็นว่าส่วนปลายเตียงสามารถวางตู้เสื้อผ้าหรือชั้นหนังสือไปแล้วก็มีระยะเดินสบายๆไม่อึดอัดค่ะ

ห้องนี้จะมีห้องน้ำและระเบียงในตัว สเป็คเดียวกับห้องน้ำในห้องนอนเล็กของ Miro นะคะ แต่ห้องนอนของ Parco มีขนาดใหญ่กว่า วางเตียงคิงไซส์ไปแล้วก็ยังมีระยะเดินข้างเตียงทั้งสองฝั่งได้สบายๆค่ะ

สรุป

♦ ทำเลที่ตั้งโครงการ : The City สุขุมวิท – แยกบางนา ตัวโครงการอยู่ในซอยออนป้า ห่างจากถนนใหญ่สรรพาวุธประมาณ 300 เมตร สภาพแวดล้อมบริเวณรอบโครงการ ส่วนมากจะเป็นบ้านพักอาศัย และคอนโดมิเนียมสูง 8 ชั้น ถนนทางเข้าออกโครงการมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย มีคนเดินผ่านไปมาอยู่เรื่อยๆ ถือว่ามีความสงบเป็นส่วนตัว แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ห่างไกลความเจริญ สามารถไปยังจุดต่างๆในเมืองหรือนอกเมืองได้สะดวก

เรื่องความอุดมสมบูรณ์จะมีตลาดสดอยู่ไม่ไกลจากโครงการเลยเพราะอยู่ตรงแยกบางนาพอดี ถ้าอยากได้ร้านอาหารนอกห้างราคาไม่แพงแนะนำพวกร้านอาหารในซอยสุขุมวิท 101/1 (วชิรธรรมสาธิต)และซอยสุขุมวิท 103 (อุดมสุข) ก็มีร้านอาหารเด็ดๆอยู่หลายร้านค่ะ

จุดเด่นอีกจุดที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือในอนาคตจะมีห้างใหญ่ The Bangkok Mall มาเปิดให้บริการตรง 4 แยกบางนาพอดี ซึ่งห้างนี้จะอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 2 กิโลเมตร การมาของห้างนี้จะทำให้มูลค่าที่ดินทำเลโซนนี้สูงขึ้นและเจริญเติบโตขึ้นได้อีกเยอะแน่นอน

ส่วนห้างใหญ่ๆที่มีอยู่แล้วในโซนนี้จะเกาะตัวกันอยู่บนถนนเส้น บางนา – ตราด แทบทั้งหมดเลยค่ะ ไล่ไปตั้งแต่เซ็นทรัลบางนาและบิ๊กซี ไปจนถึง Index Livingmall, Lotus, Mega บางนา และ Ikea

♦ การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว : ถึงแม้ว่าตัวโครงการจะอยู่ในซอยออนป้าห่างจากถนนสรรพาวุธประมาณ 300 ม. การเดินทางยังถือว่าสะดวกเพราะปากซอยอยู่ใกล้จุดกลับรถ แถมห่างจากแยกบางนาแค่ประมาณ 1 กม. เวลาจะขึ้นทางด่วนที่ด่านบางนาก็กลับรถแล้วตรงไปนิดเดียวก็ถึงค่ะ

ขาลงทางด่วนก็ลงที่ด่านบางนา เข้าถนนสุขุมวิท กลับรถมาที่แยกบางนาแล้วเลี้ยวขวาก็เข้าถนนสรรพาวุธได้เลย การเดินทางเข้าเมืองถ้าไม่กลัวรถติดก็ใช้เส้นสุขุมวิทไปตรงๆได้เลย ถ้าอยากหลบรถติดจะไปเส้นพระราม 4 ไปสาทรก็ใช้ถนนรางรถไฟสายเก่าไปได้

♦ การเดินทางโดยรถสาธารณะ : ปกติถ้าจากโครงการเลย จะเป็นรถแท็กซี่ กับวินมอเตอร์ไซค์หน้าซอยออนป้าเป็นหลักค่ะ ถ้าไม่โทรเรียกแท็กซี่ก็เดินออกมาโบกตรงปากซอยออนป้า บนถนนสรรพาวุธจะมีแท็กซี่ผ่านมาให้เห็นอยู่เรื่อยๆ ถ้านั่งวินมอเตอร์ไซค์จากปากซอยออนป้าไปลง BTS บางนา อัตราค่าบริการ 25 บาท นอกจากนี้จะมีรถสองแถว บางนา-กิ่งแก้ว อยู่ตรงแถวแยกบางนา อัตราค่าบริการ 7 บาทค่ะ

♦ บ้านและวัสดุ : โครงการนี้ ออกแบบภายใต้แนวคิด บ้านเดี่ยวสไตล์ Modern Italy รูปแบบภายนอกบ้านดูทันสมัย ใช้โทนสีเทา – น้ำตาล หลายเฉดที่ดูลงตัวกันดี วัสดุที่ให้มาก็อยู่ในระดับมาตรฐานค่อนข้างดี และออกแบบฟังก์ชั่นมาแบบใส่ใจรายละเอียด พื้นที่ใช้งานแต่ละส่วนมีความลงตัวดีเมื่อเทียบกับโครงการอื่นๆ แต่ก็มีบางจุดก็ต้องทำเพิ่มเอง เช่นการกั้นห้องนั่งเล่นชั้น 2 เพิ่ม หรือทำเคาเตอร์ห้องน้ำเล็กเพิ่มที่วางของ เป็นต้น

โดยบ้านที่ทางโครงการขาย จะเป็นบ้านมาตรฐาน (บ้านเปล่า) + เคาน์เตอร์ครัวแบบพร้อมใช้งาน (เคาน์เตอร์ TOP หินแกรนิตสีดำ + เตาแก๊ส 4 หัว, เครื่องดูดควัน + ซิงค์ล้างจานสแตนเลส 2 หลุม ของ Teka มีชั้นลอยติดตั้งเข้าชุดมาเลย)

ผนังบ้านติดวอลเปเปอร์ และ ฝ้าเพดานยิปซั่มฉาบเรียบทาสีขาว, ไฟดาวน์ไลท์ทั้งหลัง, ลานจอดรถเป็นทรายล้าง, เฉลียงหน้าบ้านและลานหลังบ้านปูกระเบื้องเซรามิก 30 x 30 ซม. พื้นบ้านชั้นล่างปูแกรนิตโต้ ขนาด 60×60 ซม. ส่วนพื้นบ้านชั้นบนปูพื้นไม้ลามิเนต 8 มม. สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำของ Kohler, Englefield

ประตูและหน้าต่างภายในบ้านบานใหญ่ กรอบเป็น UPVC สีขาว กระจกเขียวตัดแสง ติดมาหลายบาน ทำให้บ้านมีความสว่าง โปร่งและไม่อับทึบ เรื่องการระบายอากาศก็เตรียมมาให้โอเค คือห้องน้ำทุกห้องมีหน้าต่างบานกระทุ้งติดมาให้ ในห้องครัวมีพัดลมดูดอากาศติดมาให้ช่วยระบายอากาศเพิ่มอีกแรง

♦ สิ่งอำนวยความสะดวก : มี Club House ที่มีสระว่ายน้ำ ห้องฟิตเนส และสวนสาธารณะมาให้ ขนาดไม่ใหญ่มาก แต่รอบๆ Club House ลงต้นไม้ใหญ่ เล็ก ให้ความร่มรื่นค่อนข้างเยอะ คือเน้นรักษาภูมิทัศน์ภายในโครงการ และรอบๆโครงการได้ดีค่ะ ถนนในโครงการมีปลูกต้นไม้ข้างทาง มีแนวพุ่มไม้ข้างรั้วตัดแต่งเป็นระเบียบ ทางเท้าปูหญ้าและวางแผ่นหินสำหรับเดินให้ ปรับปรุงถนนออนป้าซึ่งเป็นถนนภาระจำยอมให้ดูสะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อย มีแนวพุ่มไม้ตกแต่ง ทางเท้า ไฟถนน

♦ ระบบรักษาความปลอดภัย แบบ Double Security เข้า-ออกโครงการด้วย Key Card ระยะใกล้ + CCTV จับภาพป้ายทะเบียน และคนขับฝั่งละ 2 ตัว รั้วกั้นไม้กระดกอัตโนมัติ พร้อมประตูรั้วบานเลื่อนอีกชั้น เพื่อความปลอดภัย ภายในโครงการติดตั้ง CCTV ครบทุกซอย รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.ค่ะ ส่วนตัวบ้านมีสัญญาณกันขโมยติดแบบ Shock Senser และ Magnetic Sencer ให้ทุกหลัง เพิ่มความปลอดภัยไปอีกระดับ

คะแนน

ราคา

♦ Miro แปลง F02 เนื้อที่ 53.7 ตร.ว. ราคาปกติ 10,590,000 ราคาพิเศษ 10,390,000 บาท

– เงินจอง 100,000 บาท
– เงินทำสัญญา 200,000 บาท

♦ Miro แปลง F03/แปลงมุม เนื้อที่ 54.4 ตร.ว. ราคาปกติ 10,690,000 ราคาพิเศษ 10,390,000 บาท

– เงินจอง 100,000 บาท
– เงินทำสัญญา 200,000 บาท

♦ Parco แปลง C06/แปลงมุม เนื้อที่ 62.9 ตร.ว. ราคาปกติ 15,450,000 ราคาพิเศษ 14,450,000 บาท

– เงินจอง 100,000 บาท
– เงินทำสัญญา 200,000 บาท

♦ Parco แปลง 101/แปลงมุม เนื้อที่ 69.8 ตร.ว. ราคาปกติ 15,890,000 ราคาพิเศษ 14,890,000 บาท

– เงินจอง 100,000 บาท
– เงินทำสัญญา 200,000 บาท

สอบถามรายละเอียดโครงการเพิ่มเติมได้ที่

สำนักงานขาย : 02-183-5280

WEBSITE : www.apthai.com/บ้านเดี่ยว/the-city/the-city-สุขุมวิท-แยกบางนา/#gallery

หากท่านเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ โปรดกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ

หากท่านมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ