EP.1383 รีวิว พาทิโอ พหลโยธิน-วิภาวดี Patio Phaholyothin-Vibhavadi
Written by : Chaya Kaewcheychit
สวัสดีผู้อ่านทุกท่านครับ พวกเรา Homenayoo ยังคงเสาะหาโครงการน่าอยู่มาฝากพี่น้องกันเหมือนเช่นเคย โดยวันนี้โครงการที่เราจะพาไปชมกันก็คือ Patio พหลโยธิน-วิภาวดี ของทาง พฤกษา เรียลเอสเตท ที่ตั้งโครงการอยู่ภายในซอยพหลโยธิน 92 เพียง 150 เมตรจากถนนพหลโยธิน ใกล้ห้างสรรพสินค้า Zpell ศูนย์กลางของย่านรังสิต อีกทั้งในอนาคตยังอยู่ใกล้แนวรถไฟฟ้าสายสีแดงอีกด้วย
พาทิโอ พหลโยธิน-วิภาวดี เป็นโครงการพรีเมี่ยมทาวน์โฮม และโฮมออฟฟิศ 3 ชั้น ออกแบบโครงการด้วยสไตล์ Modern Tropical ที่เน้นความโปร่งสบายด้วยกระจกสูงโปร่ง เพิ่มฟังก์ชั่น Panoramic View ให้มุมมองกว้างขึ้น บนที่ดินขนาด 12 ไร่ มีบ้านพักอาศัย 124 หลัง ขนาดที่ดินเริ่มต้น 18 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอยเริ่ม 160 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน ปัจจุบันพร้อมเข้าอยู่อาศัยแล้วบางส่วน
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในครบครัน ด้วยคลับเฮ้าส์ พร้อมฟิตเนส, สระว่ายน้ำ, และสวนส่วนกลาง ระบบรักษาความปลอดภัยแบบ Double Security ด้วยรั้วสองชั้น เข้า-ออกด้วยระบบ Easy Pass ที่มีทั้งไม้กระดกและรั้วเหล็ก พร้อมกล้องวงจรและเจ้าหน้าที่รปภ. 24 ชั่วโมง ในราคาเริ่มต้น 3.69 ล้านบาท
| ชื่อโครงการ |
พาทิโอ พหลโยธิน-วิภาวดี / Patio Phaholyothin-Vibhavadi |
| เจ้าของโครงการ |
บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท / Pruksa |
| ลักษณะโครงการ |
- ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร
- โฮมออฟฟิศ 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร
|
| พื้นที่โครงการ |
12 ไร่ |
| จำนวนบ้าน |
124 ยูนิต |
| พื้นที่ใช้สอย |
เริ่มต้น 160-175 ตร.ม. |
| เนื้อที่บ้าน |
เริ่มต้น 18.00 ตร.วา. ขึ้นไป |
| จำนวนห้อง |
3 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, ห้องอเนกประสงค์ |
| ที่จอดรถทั้งหมด |
2 คัน |
| โซน |
พหลโยธิน, รังสิต |
| ขนส่งสาธารณะ |
- ทางยกระดับอุตราภิมุข
- สนามบินดอนเมือง
- แนวรถไฟฟ้าสายสีแดง
|
| รถโดยสารที่ผ่าน |
- รถประจำทาง : สาย 29, 34, 39, 59, 95ก, 185, 187, 188, 503, 504, 510, 520, 522, 523, 538, 554, 555
- รถตู้โดยสาร : รังสิต-หมอชิต, รังสิต-อนุสาวรีย์ชัยฯ
|
| ที่ตั้ง |
ซอยพหลโยธิน 92 ถนนพหลโยธิน ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี |
| กำหนดการ |
n/a |
| ปีที่สร้างเสร็จ |
สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่อาศัยแล้วบางส่วน |
| ราคา |
เริ่มต้น 3.69 ล้านบาท |
| ค่าส่วนกลางและกองทุน |
60 บาท/ตร.ว./เดือน |
| สถานที่สำคัญใกล้เคียง |
ตลาดและห้างสรรพสินค้า
- Zpell รังสิต : 8.2 กม.
- เซียร์ รังสิต : 1.3 กม.
- บิ๊กซี รังสิต 2 : 4.5 กม.
- เทสโก้ โลตัส รังสิต : 8.7 กม.
- แม็คโคร รังสิต : 950 ม. (ระยะเดินเท้า)
- ตลาดสี่มุมเมือง : 4.9 กม.
- เทสโก้ โลตัส ลำลูกกา : 5.5 กม.
- เทสโก้ โลตัส รังสิต-นครนายก : 13.5 กม.
- ตลาดเอซีสายไหม : 8.0 กม.
- โรบินสันศรีสมาน : 17.9 กม.
สถานพยาบาล
- รพ. แพทย์รังสิต : 1.1 กม.
- รพ. ปทุมเวช : 9.8 กม.
- รพ. เปาโลเมโมเรียล รังสิต : 8.7 กม.
สถานศึกษา
- ม. รังสิต : 8.8 กม.
- รร. สายปัญญารังสิต : 7.2 กม.
- รร.เซนต์โยเซฟเมืองเอก : 9.5 กม.
อื่นๆ
- สนามบินดอนเมือง : 8.0 กม.
- สนามกีฬาธูปะเตมีย์ : 2.9 กม.
- สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ : 18.9 กม.
|
| สิ่งอำนวยความสะดวก |
- คลับเฮ้าส์
- สระว่ายน้ำ
- ฟิตเนส
- สวนสาธารณะ
- เข้า-ออกระบบ Auto Access Card
- กล้องวงจรปิด
- รปภ. 24 ชม.
|
| จุดเด่นของโครงการ |
พาทิโอ พลโยธิน-วิภาวดี ทาวน์โฮมระดับพรีเมียม ที่พฤกษาคิดต่าง เพียง 140 ม.จากถ.พหลโยธิน |
โครงการโดยรอบ
::: ที่ตั้งโครงการ :::
ซอยพหลโยธิน 92 ถนนพหลโยธิน ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี
พิกัด : 13.971098, 100.620386
Patio พหลโยธิน-วิภาวดี ตั้งอยู่ใกล้ถนนใหญ่พหลโยธิน เข้าซอยพหลโยธิน 92 ไปเพียงแค่ 140 เมตร จึงเรียกว่าเป็นโครงการติดถนนใหญ่ก็คงไม่แปลก โดยตัวโครงการตั้งอยู่ทางฝั่งขาเข้าฝั่งเดียวกับเซียร์รังสิต และฝั่งตรงข้ามคือซอยเมืองเอกซึ่งก็คือที่ตั้งของมหาวิทยาลัยรังสิตนั่นเอง ปัจจุบันทำเลแห่งนี้เรียกว่าเป็นทำเลที่ดีที่สุดของย่านรังสิตก็ว่าได้ เพราะว่ารายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบทุกรูปแบบ ใกล้จุดศูนย์กลางเมืองรังสิตอย่างห้าง Zpell (ฟิวเจอร์พาร์ค) เดินทางเข้าออกเชื่อมต่อกรุงเทพได้ง่าย ประกอบกับในอนาคตกำลังจะมีรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้าถึง ส่งผลให้ทำเลแห่งนี้น่าสนใจมากทีเดียวครับ
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว เนื่องจากโครงการอยู่ติดถนนใหญ่ เรื่องการเดินทางจึงค่อนข้างสะดวก โดยในส่วนของการเข้าเมืองนั้นมี 2 เส้นทางหลักให้เลือกใช้ คือ ถนนพหลโยธิน และถนนวิภาวดีรังสิต โดยจะมุ่งหน้าไปทางฝั่งของดินแดง และห้าแยกลาดพร้าว โดยมีตัวช่วยอย่างทางด่วนดอนเมือง-โทลล์เวย์ ที่อยู่ด้านบนคู่ขนานถนนวิภาวดีรังสิต สามารถหลีกเลี่ยงการจราจรที่ติดขัดและช่วยประหยัดเวลาได้เป็นอย่างมาก ส่วนขาออกเป็นการมุ่งหน้าขึ้นเหนือไปยังแยกรังสิต แยกที่ทำหน้าที่กระจายการเดินทางออกสู่จังหวัดใกล้เคียงได้ทั้ง จังหวัดปทุมธานี จังหวัดอยุธยา และจังหวัดนครนายก
ทางด่วนโทลล์เวย์ ตัวเลือกเสริมในการเดินทางเข้าเมือง สามารถทำได้โดยง่ายเพียงแค่วิ่งออกจากโครงการ ซอยพหลโยธิน 92 มุ่งหน้าฝั่งขาเข้าไปทางสนามบินดอนเมือง โดยจุดขึ้นทางด่วนดอนเมือง-โทลล์เวย์ อยู่เลยเซียร์รังสิตไปเพียงเล็กน้อย โดยระยะทางจากโครงการถึงจุดขึ้นทางด่วนดังกล่าวมีระยะเพียงแค่ 3 กิโลเมตร หรือใช้เวลาขับรถประมาณ 4 นาทีเท่านั้นเอง ทางด่วนเส้นนี้ จะมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯไปเชื่อมต่อกับทางด่วนศรีรัช เหมาะสำหรับจุดมุ่งหมายที่ไปยังดินแดง, บางนา และพระราม 9
ทางด่วนอุดรรัถยา หรือบางคนก็เรียกว่าทางด่วนบางปะอิน-ปากเกร็ด อีกหนึ่งทางพิเศษที่อยู่ใกล้กับโครงการ จุดขึ้นลงที่ใกล้ที่สุดคือจุดขึ้นลงบนถนนรังสิต-ปทุมธานี โดยในส่วนของการไปใช้งานนั้นจะต้องไปกลับรถที่บริเวณแยกลำลูกกา แล้วจึงเข้าสู่ถนนรังสิตปทุมธานีที่บริเวณแยกรังสิตหน้าห้างฟิวเจอร์ ขับไปตามทางรวมระยะทางทั้งสิ้นประมาณ 13.5 กิโลเมตร เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ให้มีความยืดหยุ่นในการเดินทางเพิ่มขึ้น ทางด่วนเส้นนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีจุดมุ่งหมายไปยังโซนแจ้งวัฒนะและดาวคะนอง หรือหากเป็นฝั่งขาออกก็จะใช้งานสำหรับไปยังจังหวัดอยุธยา-บางปะอิน
จุดกลับรถ ถือว่าเป็นส่วนสำคัญที่ผู้อยู่อาศัยจะต้องใช้งานเป็นประจำ โดยในภาพกราฟฟิก แสดงถึงจุดกลับรถในกรณีที่ต้องการออกจากโครงการแล้วมุ่งหน้าไปทางฝั่งของแยกรังสิต จุดกลับรถดังกล่าว จะอยู่ที่บริเวณแยกลำลูกกา ใกล้กับสนามกีฬาธูปะเตมีย์ มีระยะทางรวมทั้งสิ้นจากโครงการถึงจุดกลับรถอยู่ที่ 2.7 กิโลเมตร หรือใช้เวลาในการขับรถประมาณ 4 นาที ซึ่งถือว่าไม่ไกลจากโครงการมากนักทำให้เวลาที่ต้องการมุ่งหน้าไปทางฝั่งขาออกยังคงสามารถทำได้สะดวก
แยกและถนนสำคัญใกล้เคียง
- ถนนพหลโยธิน : 140 ม.
- ถนนวิภาวดีรังสิต : 1.8 กม.
- แยกรังสิต : 2.1 กม.
- แยกลำลูกกา : 2.4 กม.
- ซอยเมืองเอก : 450 ม. (เดินเท้าข้ามสะพานลอย)
- ถนนสรงประภา : 12.2 กม.
- ถนน 345 : 10.2 กม.
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ การที่โครงการอยู่ใกล้กับถนนใหญ่ ในระยะเพียงแค่ 140 เมตร จึงไม่ใช่ปัญหาสำหรับการเดินออกจากบ้านเพื่อไปหารถสาธารณะที่บริเวณถนนใหญ่ ซึ่งสามารถหาได้ง่าย ทั้งรถประจำทาง รถแท็กซี่ และรถตู้โดยสาร ซึ่งต้องบอกว่ารถตู้โดยสารนั้นเป็น ช่องทางที่ได้รับความนิยมสำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในย่านรังสิต เนื่องจากว่าเส้นทางเดินรถนั้นส่วนใหญ่จะไปยัง hub สำคัญในตัวเมืองอย่างเช่นหมอชิตและอนุสาวรีย์ชัย
ในอนาคตอีกหนึ่งช่องทางที่จะมาเติมเต็มเรื่องของการคมนาคมในทำเลแห่งนี้คือรถไฟฟ้า โดยตัวโครงการนั้นอยู่ใกล้กับไฟฟ้าถึง 2 สายด้วยกันคือรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อรังสิต และรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิตคูคต
- รถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-คูคต เป็นโครงการที่มีกำหนดการจะสร้างเสร็จก่อนสายสีแดงให้ชาวรังสิตได้ใช้งานกัน (คาดว่าแล้วเสร็จ 2563) โดยสถานีที่ใกล้ที่สุด คือสถานีกม 25 ตัวสถานี จะตั้งอยู่เลยแยกลำลูกกาไปเพียงเล็กน้อยมีระยะห่างจากโครงการประมาณ 5 กิโลเมตร
- รถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต แน่นอนว่าหากโครงการสายสีแดงนี้สร้างเสร็จ (คาดว่าแล้วเสร็จ 2564) จะเป็นเส้นทางหลักในการเข้าเมืองของลูกบ้านโครงการ พาทิโอ เนื่องจากว่าตัวสถานีนั้นจะอยู่ใกล้กับโครงการมากกว่าด้วยระยะทางเพียงแค่ประมาณ 2 กิโลเมตร โดยสถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานีหลักหก ที่ตั้งอยู่ภายในซอยเมืองเอก ใกล้กับ ม.รังสิต
ความอุดมสมบูรณ์ เรื่องความอุดมสมบูรณ์ของโครงการก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดแข็งของ พาทิโอ พหลโยธิน-วิภาวดี เนื่องจากว่าตัวโครงการ ถูกรายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่เรียกว่าครบทุกรูปแบบการใช้งาน โดยในส่วนของห้างสรรพสินค้านั้นมีให้เลือกใช้งานได้ทั้ง Zpell รังสิต, เซียร์รังสิต, แมคโคร, บิ๊กซี และเทสโก้ โลตัส รังสิต ส่วนโรงพยาบาลก็อยู่ใกล้ในระยะที่สามารถเข้าถึงได้อย่างทันท่วงทีในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน ได้แก่ โรงพยาบาลแพทย์รังสิต, โรงพยาบาลปทุมเวช และโรงพยาบาลเปาโลเมโมเรียลรังสิต ส่วนสถานศึกษานั้นมีที่น่าสนใจคืออยู่ในซอยเมืองเอกได้แก่ โรงเรียนสายปัญญารังสิต, โรงเรียนเซนต์โยเซฟเมืองเอก และมหาวิทยาลัยรังสิต
สถานที่สำคัญบริเวณโครงการ
ตลาดและห้างสรรพสินค้า
- Zpell รังสิต : 8.2 กม.
- เซียร์ รังสิต : 1.3 กม.
- บิ๊กซี รังสิต 2 : 4.5 กม.
- เทสโก้ โลตัส รังสิต : 8.7 กม.
- แม็คโคร รังสิต : 950 ม. (ระยะเดินเท้า)
- ตลาดสี่มุมเมือง : 4.9 กม.
- เทสโก้ โลตัส ลำลูกกา : 5.5 กม.
- เทสโก้ โลตัส รังสิต-นครนายก : 13.5 กม.
- ตลาดเอซีสายไหม : 8.0 กม.
- โรบินสันศรีสมาน : 17.9 กม.
สถานพยาบาล
- รพ. แพทย์รังสิต : 1.1 กม.
- รพ. ปทุมเวช : 9.8 กม.
- รพ. เปาโลเมโมเรียล รังสิต : 8.7 กม.
สถานศึกษา
- ม. รังสิต : 8.8 กม.
- รร. สายปัญญารังสิต : 7.2 กม.
- รร.เซนต์โยเซฟเมืองเอก : 9.5 กม.
อื่นๆ
- สนามบินดอนเมือง : 8.0 กม.
- สนามกีฬาธูปะเตมีย์ : 2.9 กม.
- สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ : 18.9 กม.
::: การเดินทาง :::
เส้นทางที่ใช้เดินทางสู่โครงการ ผมมาจากทางด่วนศรีรัชภายในตัวเมือง มุ่งหน้าสู่ดินแดงเพื่อเชื่อมต่อถนนวิภาวดีรังสิต มุ่งหน้าตรงขาออกสู่รังสิตผ่านสนามบินดอนเมือง ผ่านเซียร์รังสิตให้ชิดซ้ายเพื่อออกทางขนานช่วงหน้าปากซอยเมืองเอก จากนั้นวิ่งชิดซ้ายไว้เพื่อกลับรถใต้สะพาน เพื่อวนกลับมาสู่ถนนวิภาวดีรังสิตฝั่งขาเข้า แต่ยังคงให้วิ่งชิดซ้ายไปตามทางคู่ขนาน จนเห็นปั๊มปตท. และ Esso ตามลำดับ จึงเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ซอยพหลโยธิน 92 เข้าซอยไป 140 เมตร จะเห็นทางโครงการขนาดใหญ่รอต้อนรับ
สรุปการเดินทาง : ทางด่วนศรีรัช (ทางออกดินแดง) > ถนนวิภาวดีรังสิตฝั่งขาออก > สนามบินดอนเมือง > ออกทางขนาน (ช่วงหน้าเมืองเอก) > กลับรถใต้สะพาน > ถนนวิภาวดีรังสิตฝั่งขาเข้า > พหลโยธิน 92 > พาทิโอ พหลโยธิน-วิภาวดี
ขอเริ่มต้นภาพประกอบการเดินทางบนถนนวิภาวดีรังสิต หลังจากที่เพิ่งลงมาจากทางด่วนศรีรัชตามป้ายทางออกดินแดง เพื่อมุ่งหน้าสู่ดอนเมือง ใครอยากขึ้นโทลล์เวย์ก็สามารถทำได้ครับ แต่หากเป็นช่วงระหว่างวันถนนวิภาวดีด้านล่างรถไม่ค่อยเยอะสามารถวิ่งได้สะดวกไม่แพ้กัน
มุ่งหน้าไปตามป้ายดอนเมือง
วิ่งตรงมาระยะหนึ่งจนผ่านสนามบิน เป็นสัญญาณว่าเรากำลังจะเข้าสู่เขตเมืองรังสิตแล้ว
จากนั้นให้สังเกตป้ายเอาทาง จุดกลับรถที่บริเวณทางเข้าม.รังสิต (ซอยเมืองเอก)
ออกมาวิ่งที่ทางคู่ขนานด้านนอกเพื่อเตรียมกลับรถครับ
วิ่งผ่านซอยเมืองเอกไปโดยให้ชิดซ้ายตลอด เพื่อกลับรถที่ใต้สะพาน จากนั้นมุ่งหน้าต่อไปจนเจอปั๊มปตท. ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยพหลโยธิน 92 ครับ
จุดกลับรถใต้สะพาน ซึ่งเป็นสะพานที่ใช้ข้ามคลองรังสิตพอข้ามไปก็จะถึงห้าง Zpell
พอกลับรถมาให้วิ่งอยู่ตามทางคู่ขนานไปเรื่อง จนเจอกับปั๊ม ปตท. เตรียมชิดซ้ายได้เลยครับ
ถัดมาที่ติดกันคือปั๊ม Esso ชะลอรถเตรียมเลี้ยวซ้ายครับ
จากจุดกลับรถใต้สะพานวิ่งมาประมาณ 1.5 กม. จนมองเห็นปั๊ม Esso ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยพหลโยธิน 92 ขับเข้าไปในซอยอีกเพียง 140 เมตร ก็จะเห็นตัวโครงการตั้งอยู่ทางด้านซ้ายมือครับ
เข้าซอยพหลโยธิน 92 ที่อยู่ติดกับปั๊ม Esso
เข้าซอยไปอีก 140 เมตร
ถึงแล้วครับ โครงการ Patio พหลโยธิน-วิภาวดี
::: บริเวณโครงการ :::
ที่ตั้งของโครงการอยู่ภายในซอยพหลโยธิน 92 เข้ามาเป็นระยะที่เดินด้วยเท้าได้สบายเพียง 140 เมตร หากจะเรียกว่าเป็นโครงการติดถนนใหญ่ก็คงไม่มีใครว่าอะไร แถมมีข้อดีคือให้ระยะดังกล่าว ช่วยเพิ่มความเงียบสงบความเป็นส่วนตัวให้กับลูกบ้านอีกด้วย ทางทิศเหนือเป็นที่ดินเปล่ามีต้นไม้เยอะช่วยฟอกอากาศอยู่หลังโครงการ ส่วนทางทิศใต้ฝั่งคือองค์ประกอบของซอยพหลฯ92 เป็นโซนบ้านพักอาศัยรูปแบบบ้านเดี่ยวของคนที่ค่อนข้างมีฐานะ
ถนนใหญ่หน้าโครงการคือถนนพหลโยธิน ส่วนถนนที่เห็นอยู่ด้านบนคือทางด่วนดอนเมือง-โทลล์เวย์
โครงการตั้งอยู่ฝั่งขาเข้าของถนนพหลโยธิน จึงสะดวกเวลาเข้าเมือง ขับเข้าเมืองไปเล็กน้อยจะเป็นการเชื่อมต่อกับถนนวิภาวดีรังสิตเพื่อเข้าเมืองไปทางลาดพร้าว-ดินแดง
ถนนวิภาวดีรังสิตเป็นถนนที่มีทางคู่ขนานเกือบตลอดทั้งเส้น และเป็นถนนสายหลักที่ใช้งานในการออกต่างจัดหวัดทางโซนเหนือ
ซอยที่ตั้งโครงการคือซอยพหลโยธิน 92
ทางซ้ายติดกับปั๊ม Esso
ทางขวามีศูนย์ของ Honda หากใครใช้รถของค่ายนี้อยู่แล้ว ช่วยเพิ่มความสะดวกเวลาต้องติดต่อกับศูนย์ได้เป็นอย่างมาก
เอาล่ะครับ เดี๋ยวเดินเข้าไปในซอยกันต่อครับเพื่อไปดูตัวโครงการกันบ้าง
ระยะทางจากปากซอยถึงโครงการ Patio พหลโยธิน-วิภาวดี เพียงแค่ 140 เมตร
ซอยพหลโยธิน 92 เป็นถนนที่เกือบจะเป็นถนนส่วนบุคคล เพราะมีรถเข้าออกน้อยมาก องค์ประกอบด้านในเป็นบ้านพักอาศัยในแบบที่เป็นบ้านเดี่ยวทั้งหมดและมีเพียงไม่กี่หลังคาเรือน
มุมมองย้อนกลับจากโครงการไปทางถนนใหญ่ สังเกตเห็นแนวต้นไม้สีเขียวได้ตลอดทั้งซอยดูร่มรื่นดี
ด้านในซอยพหลโยธิน 92 เป็นซอยตัน โดยจุดสิ้นสุดมีคลองหนึ่งเป็นแนวกั้นทาง
ซุ้มทางเข้าโครงการ พาทิโอ ทุกๆโครงการ มีความใหญ่โตอลังการทีเดียว เพราะถือว่าเป็นแบรนด์ที่อยู่คลาสสูงกว่าโครงการทั่วไปของพฤกษา
ซุ้มทางเข้าทรงเหลี่ยมสไตล์ Medern เล่นระดับและขนาดระหว่างทางเข้ากับทางออก
หลังคาขนาดใหญ่ช่วยบังแดดบังฝนเวลาต้องติดต่อกับเจ้าหน้าที่ได้จริง
แยกช่องทางสำหรับเดินเท้า
ประตูโครงการเป็นแบบ Double Security ป้องกันสองชั้นด้วยไม้กระดกและรั้วเหล็ก พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่รปภ. + กล้อง CCTV 24 ชม.
รั้วเหล็กแบบรางเลื่อนให้ความปลอดภัยสูงสุดแก่ลูกบ้าน
เข้าออกผ่านระบบ Key Card
ผ่านซุ้มทางเข้าโครงการเข้ามา เห็นบ้านพักอาศัยโครงการ Cluster แรกทางฝั่งขวามือ ส่วนทางซ้ายคือพื้นที่ส่วนกลางและคลับเฮ้าส์ ที่ปัจจุบันใช้เป็นสำนักงานขายด้วย
ผมขอพาไปเดินชมส่วนกลางกัน แต่ก่อนอื่นผมแวะกราบไหว้ศาลพระภูมิเจ้าที่ประจำโครงการก่อนนะครับ
สวนของโครงการออกแบบมาได้อย่างสวยงามร่มรื่นน่าใช้งานทีเดียว
ซุ้มนั่งเล่นสไตล์ระแนงเหล็ก ช่วยบังแดดนั่งเล่นลมเย็นสบาย
มีทางเดินเล่นริมสวน เสริมด้วยม้านั่งหินเป็นระยะให้พักผ่อนสูดอากาศในสวน
สวนลายหมากรุกช่วยทำให้สวนแห่งนี้ดูหรูหราขึ้นได้อย่างมาก
Sales Office และอาคาร Clubhouse ออกแบบด้วยสไตล์ Modern เป็นอาคารกระจกทั้งหลังตัดกับโครงเหล็กสีดำสื่อถึงความทันสมัยได้อย่างชัดเจน
สระว่ายน้ำของโครงการขนาดใหญ่น่าใช้งาน
รูปแบบของสระเป็นแบบสระน้ำล้น ร่มรื่นด้วยต้นไม้ที่อยู่ภายในสวนช่วยให้เป็น Landscape ที่สดชื่นผ่อนคลาย
แยกสระเด็กให้เจ้าตัวเล็กสามารถเล่นน้ำได้อย่างปลอดภัย
จุดล้างตัวก่อนและหลังใช้งานสระว่ายน้ำ
ห้องน้ำแยกชายและหญิง
ดูภายนอกรอบอาคารกันไปแล้ว เข้าไปด้านในกันบ้างครับ
ชั้นล่างคือสำนักงานขาย มีมุมสบายๆ รองรับลูกค้า ที่ในอนาคตหลังจากปิดโครงการไปแล้ว ก็จะใช้งานเป็นสำนักงานของนิติบุคคลแทน
ห้องฟิตเนสอยู่ชั้นบนของอาคาร มีอุปกรณ์ให้ตามพื้นฐาน
ส่วนของการคาร์ดิโอมีทั้ง จักรยาน, เครื่องเดินวงรี และลู่วิ่ง อย่างละเครื่อง
เครื่องออกกำลังกายครบส่วนแบบแมชชีน
ดัมเบลหลายขนาดน้ำหนัก และเตียงยกปรับระดับได้
ดูพื้นที่ส่วนกลางกันไปเรียบร้อยแล้ว เข้าสู่โซนบ้านพักอาศัยกันบ้าง
ถนนเมนโครงการคอนกรีตเสริมเหล็ก กว้าง 12 เมตร
ตัวโครงการสร้างเสร็จแล้วบางส่วน ปัจจุบันเริ่มมีลูกบ้านเข้าอาศัยแล้ว จึงเห็นบรรยากาศช่วงของการต่อเติมบ้างเป็นเรื่องปกติ
ซอยย่อยกว้าง 8 เมตร
::: แบบบ้าน :::
แบบบ้านภายในโครงการมีทั้งหมด 3 แบบด้วยกัน ได้แก่
- แบบบ้าน Mono (โมโน) : ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร พื้นที่ใช้สอย ประมาณ 160 ตร.ม. ขนาด : 3 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, 1 Family Space, ที่จอดรถ 2 คัน
- แบบบ้าน Neo (นีโอ) : ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตรพื้นที่ใช้สอย ประมาณ 160 ตร.ม.ขนาด : 3 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน
- แบบบ้าน Echo (เอคโค่) : โฮมออฟฟิศ 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร พื้นที่ใช้สอย ประมาณ 175 ตร.ม. ขนาด : 3 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, 1 ห้องอเนกประสงค์, ที่จอดรถ 2 คัน
- แบบบ้าน Mono (โมโน)
- ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร
- พื้นที่ใช้สอย ประมาณ 160 ตร.ม.
- ขนาด : 3 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, 1 Family Space, ที่จอดรถ 2 คัน
แปลนบ้าน Mono
- ชั้น 1 : หน้าบ้านจอดรถได้ 2 คัน พื้นที่ชั้นล่างเปิดโล่งถึงกันระหว่างห้องนั่งเล่นกับห้องทานข้าว ห้องน้ำแบบ powder room หลังบ้านมีลานซักล้าง
- ชั้น 2 : ประกอบด้วย 1 ห้องนอนขนาดใหญ่ทางฝั่งหน้าบ้านมีห้องน้ำในตัว และ Family Space พื้นที่อเนกประสงค์ที่เหมาะทำเป็นมุมพักผ่อนใช้งานร่วมกันในครอบครัว
- ชั้น 3 : แบ่งเป็น 2 ห้องนอน ที่มีขนาดแตกต่างกัน ห้องนอนใหญ่อยู่ทางฝั่งหน้าบ้านและห้องนอนรองอยู่ฝั่งหลังบ้าน ใช้ห้องน้ำที่มีฟังก์ชั่น Double access ร่วมกัน
- แบบบ้าน Neo (นีโอ)
- ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร
- พื้นที่ใช้สอย ประมาณ 160 ตร.ม.
- ขนาด : 3 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน
แปลนบ้าน Neo
- ชั้น 1 : หน้าบ้านจอดรถได้ 2 คัน พื้นที่ชั้นล่างเปิดโล่งถึงกันระหว่างห้องนั่งเล่นกับห้องทานข้าว ห้องน้ำแบบ powder room หลังบ้านมีลานซักล้าง
- ชั้น 2 : ชั้นนี้มีเพียงห้องนอนหลักขนาดใหญ่เต็มพื้นที่ทั้งชั้น พร้อมห้องน้ำในตัวแบบแยกสัดส่วนแห้ง-เปียกชัดเจน
- ชั้น 3 : แบ่งเป็น 2 ห้องนอน ที่มีขนาดแตกต่างกัน ห้องนอนใหญ่อยู่ทางฝั่งหน้าบ้านและห้องนอนรองอยู่ฝั่งหลังบ้าน ใช้ห้องน้ำที่มีฟังก์ชั่น Double access ร่วมกัน
- แบบบ้าน Echo (เอคโค่)
- โฮมออฟฟิศ 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร
- พื้นที่ใช้สอย ประมาณ 175 ตร.ม.
- ขนาด : 3 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, 1 ห้องอเนกประสงค์, ที่จอดรถ 2 คัน
แปลนบ้าน Echo
- ชั้น 1 : หน้าบ้านจอดรถได้ 2 คัน พื้นที่ชั้นล่างเปิดโล่งถึงกันระหว่างห้องนั่งเล่นกับห้องทานข้าว ช่วงที่เป็นห้องนั่งเล่นเพดานสูงถึง 5 เมตร ห้องน้ำแบบ powder room หลังบ้านมีลานซักล้าง
- ชั้นลอย : เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ ปรับเปลี่ยนการใช้งานตามความเหมาะสม
- ชั้น 2 : ชั้นนี้มีเพียงห้องนอนหลักขนาดใหญ่เต็มพื้นที่ทั้งชั้น พร้อมห้องน้ำในตัวแบบแยกสัดส่วนแห้ง-เปียกชัดเจน
- ชั้น 3 : แบ่งเป็น 2 ห้องนอน ที่มีขนาดแตกต่างกัน ห้องนอนใหญ่อยู่ทางฝั่งหน้าบ้านและห้องนอนรองอยู่ฝั่งหลังบ้าน ใช้ห้องน้ำที่มีฟังก์ชั่น Double access ร่วมกัน
::: บ้านตัวอย่าง :::
สำหรับบ้านตัวอย่างที่ผมจะพาไปชมวันนี้มี 2 แบบด้วยกันคือแบบ Mono และแบบ Echo
- แบบบ้าน Mono (โมโน) : ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร พื้นที่ใช้สอย ประมาณ 160 ตร.ม. ขนาด : 3 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, 1 Family Space, ที่จอดรถ 2 คัน
- แบบบ้าน Echo (เอคโค่) : โฮมออฟฟิศ 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร พื้นที่ใช้สอย ประมาณ 175 ตร.ม. ขนาด : 3 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, 1 ห้องอเนกประสงค์, ที่จอดรถ 2 คัน
ผมขอเริ่มที่แบบบ้าน Mono ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร พื้นที่ใช้สอย ประมาณ 160 ตร.ม. ขนาด 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 Family Space ที่จอดรถ 2 คัน ตัวบ้านออกแบบมาในสไตล์ Modern Tropical เน้นเรื่องของช่องแสงโดยสังเกตได้จากหน้าต่างหน้าบ้านที่มีความสูงเพิ่มความโปร่งสบายให้แก่ด้านในตัวบ้าน
หากเป็นบ้านแปลงมุมจะได้พื้นที่สวนเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับขนาดที่ดินในแต่ละแปลง
ความพิเศษของบ้านแปลงมุมที่นอกจากจะได้หน้าต่างที่อยู่ข้างบ้านเพิ่มเติมแล้ว ยังสามารถเชื่อมต่อพื้นที่สวนกับลานหลังบ้านเพิ่มความสะดวกในการเข้าถึงสวน
กลับมาที่บริเวณหน้าบ้านเพื่อเข้าไปชมด้านในกันครับ พื้นที่หน้าบ้านสามารถจอดรถได้ 2 คัน ด้วยขนาดหน้ากว้างของบ้าน 5.5 เมตร
ประตูบ้านอลูมิเนียมเคลือบ Powder Coat ทนทานสวยงาม กระจกสีเขียวตัดแสงช่วยลดความร้อนจากแสงแดดได้ดี
เฉลียงบ้านปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ยกสูงขึ้นเล็กน้อย
มือจับประตูภายนอกและภายใน มีที่ล็อคในตัว
เปิดประตูบ้านเข้ามาส่วนแรกเจอกับพื้นที่ห้องนั่งเล่น เปิดโล่งเชื่อมต่อเข้าไปด้านในที่เป็นส่วนรับประทานอาหาร เพดานบ้านสูง 2.6 เมตร ผนังปูวอลล์เปเปอร์ให้ตามแบบมาตรฐานโครงการ พื้นบ้านปูด้วยแกรนิตโต้ 60×60 ซม. ไฟส่องสว่างดาวน์ไลท์ทั้งหลัง
ขนาดพื้นที่นั่งเล่นกว้างขวาง โอ่โถง สามารถรองรับการใช้งานพร้อมกันได้หลายคนโดยไม่รู้สึกอึดอัด
ระยะการดูทีวีระหว่างชั้นวางทีวีถึงโซฟากว้างเกือบ 5 เมตร อาจต้องเลือกใช้ทีวีขนาดใหญ่หน่อย แต่ไม่ต้องเป็นห่วงเนื่องจากพื้นที่รองรับชั้นวางทีวีมีขนาดใหญ่ จะเลือกใช้ทีวีขนาดกว่า 60 นิ้วก็สามารถทำได้
พอพื้นที่มีขนาดกว้างก็สามารถเลือกใช้โซฟาโต๊ะกลางที่มีขนาดใหญ่ขึ้นใช้งานสะดวกขึ้นได้อย่างไร้ข้อจำกัด
เรื่องของแสงสว่างภายในบ้าน สามารถรับแสงธรรมชาติได้จากบานประตูขนาดใหญ่ ช่วยให้ภายในบ้านสว่างตลอดวันโดยไม่ต้องเปิดไฟ
ขยับเข้าไปดูในส่วนของพื้นที่รับประทานอาหารกันบ้าง
ทางโครงการวางโต๊ะทานอาหารขนาด 6 ที่นั่งเอาไว้ให้ดูระยะการใช้งาน ซึ่งเป็นขนาดที่เหมาะสมกับพื้นที่ และสอดคล้องกับจำนวนสมาชิกที่มีประมาณ 4-6 คนต่อครอบครัว
มุมทางฝั่งหลังบ้านเป็นพื้นที่อเนกประสงค์หน้าห้องน้ำ
สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้หลากหลาย อาจจะทำเป็นครัวขนาดเล็กก็ได้หากไม่ได้ทำกับข้าวกินเองเป็นประจำ หรือจะเป็นมุมนั่งเล่นอ่านหนังสือ หรือทำเป็นมุมจิบเครื่องดื่มแบบที่ทางโครงการทำให้ดูเป็นตัวอย่างก็ลงตัวดีครับ
ห้องน้ำชั้นล่างเป็นห้องน้ำแบบ Powder Room คือไม่มีพื้นที่สำหรับอาบน้ำ
อ่างล้างหน้าทรงรีของ Karat หรือเทียบเท่า
โถสุขภัณฑ์เป็นแบรนด์ของทางพฤกษาเอง มีระยะการใช้งานที่พอเหมาะ ติดตั้งสายชำระและที่แขวนทิชชู่เรียบร้อยแล้ว
อุปกรณ์เสริมมีให้ไม่ขาดตกบกพร่องทั้งบานกระจกเงา และพัดลมระบายอากาศช่วยลดกลิ่นอับและความชื้น
ออกประตูหลังบ้านไปดูลานซักล้างกันต่อครับ ประตูใช้วัสดุเดียวกันกับหน้าบ้านรวมถึงหน้าต่างคือ อลูมิเนียมเคลือบ Powder Coat กระจกเขียวตัดแสง
หนึ่งจุดเด่นของโครงการคือลานหลังบ้านลงเสาเข็มให้ยาวเท่ากับตัวบ้าน ทำให้ต่อเติมครัวได้อย่างมั่นคงแข็งแรง อย่างที่ทางโครงการต่อเติมให้ดูเป็นตัวอย่างนี้ครับ
ข้อดีของบ้านแปลงมุมคือ สามารถเชื่อมต่อกับสวนข้างบ้านได้สะดวก พร้อมทั้งมีช่องทางรับแสงเพิ่มขึ้นจากด้านข้าง ทำให้รู้สึกโปร่งสบายเวลาใช้งานห้องครัว
ด้วยพื้นที่หน้ากว้างของบ้าน อาจใช้งานครัวเพียงแค่ครึ่งหนึ่งของพื้นที่ ทำให้เหลือพื้นที่อีกครึ่งหนึ่งเอาไว้ใช้งานได้ตามสะดวก
โครงการตกแต่งเป็นมุมนั่งเล่นจิบชากาแฟสบาย แต่ในความเห็นส่วนตัวอยากแนะนำทำเป็นห้องซักรีดดูจะเกิดประโยชน์สูงที่สุด
หากทำเป็นห้องซักรีด อาจเสริมลูกเล่นเปิดโล่งหลังคาหรือใช้เป็นหลังคาแบบมีรอกเลื่อนหลังคาก็ได้
ลานซักล้างหลังบ้านในแปลงมาตรฐาน พื้นเทคอนกรีตขัดหยาบ
กำแพงข้างบ้านก่อสูงเอื้ออำนวยในการต่อเติมครัวไทยได้ง่ายขึ้น
ขึ้นไปชมด้านบนกันต่อครับ บันไดคอนกรีตเสริมเหล็ก รองรับน้ำหนักเท้าเวลาขึ้นลงได้ดีไม่มีเสียงรบกวน และมีราวจับให้ตลอดทางปลอดภัย
สุดขั้นบันไดสู่ชั้น 2 เจอกับห้องเก็บของที่อยู่ใต้บันไดชั้น 3 การที่ได้ห้องเก็บของประตูทรงสูงแบบนี้ทำให้เก็บของได้ง่ายขึ้นเยอะกว่าแบบประตูทรงเตี้ยทั่วไปอย่างแน่นอน ไม่ต้องคอยก้มหรือคลานให้ปวดหลังปวดหัวเข่า มีไฟส่องสว่างด้านใน
ชั้นสอง แบ่งพื้นที่ใช้งานเป็นห้องอเนกประสงค์ที่ทางโครงการเรียกว่า Family Space และห้องนอนใหญ่ 1 ห้อง
Family Space ทางโครงการตกแต่งตรงคอนเซปต์ คือใช้เป็นพื้นที่พักผ่อนดูหนังดูทีวีร่วมกันในครอบครัว
เปรียบเทียบ Family Space ให้ดูกับบแบบบ้านมาตรฐาน
มุมมองย้อนกลับไปทางฝั่งห้องนอนชั้น 2
ห้องนอนชั้น 2 ตำแหน่งอยู่ทางฝั่งหน้าบ้าน มีห้องน้ำในตัว
แวะเข้ามาดูในห้องน้ำก่อนเลยครับ ผนังห้องน้ำปูด้วยแกรนิตโต้ แต่มีด้านนึงปูด้วยกระเบื้องลายโมเสคสีดำ
สุขภัณฑ์ของโครงการใช้แบรนด์ของทางพฤกษา หน้าตาดูทันสมัยพร้อมมีช่องเก็บของด้านล่าง
โถสุขภัณฑ์พร้อมสายชำระและที่แขวนทิชชู่
แบ่งส่วนพื้นที่อาบน้ำเป็นสัดส่วนด้วยฉากอาบน้ำบานเลื่อน
ฝักบัวสามารถปรับรูปแบบได้ทั้งแบบ Rain Shower และ Hand Shower เดินระบบสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นให้แล้ว
หากเป็นบ้านแปลงมุม จะได้ช่องแสงแบบนี้เพิ่มเติม
ไฟแบบดาวน์ไลท์และมีพัดลมดูดอากาศ
ฝั่งตรงข้ามห้องน้ำใช้งานเป็นแนวบิวท์อิน หรือวางตู้เสื้อผ้า
หากตู้เสื้อผ้าบริเวณตรงข้ามห้องน้ำเพียงพอต่อการใช้งานแล้ว อาจจะเปลี่ยนมุมนี้เป็นชั้นวางทีวีก็ได้
ส่วนพักผ่อนวางเตียงขนาด 5 ฟุตให้ดูเป็นตัวอย่าง มีสเปซเหลือข้างเตียง 2 ฝั่งวางโต๊ะหัวเตียงและเดินสะดวก
หน้าต่างของห้องนอนชั้น 2 ถือเป็นอีกจุดเด่น เนื่องจากให้หน้าต่างขนาดใหญ่เพิ่มช่องแสงด้านล่าง ทำให้รับแสงได้เกือบเต็มผนังรวมถึงมีส่วนที่เป็นกระจกเข้ามุม ช่วยเพิ่มมุมมองที่กว้างขึ้น
ขึ้นไปชมชั้น 3 กันต่อครับ
ชั้น 3 มีห้องนอน 2 ห้องด้วยกัน
บริเวณโถงบันไดชั้น 3 ติดตั้งช่องแสงให้หนึ่งจุด ซึ่งมีส่วนสำคัญในการเพิ่มแสงสว่างให้แก่โถงบันไดนี้ เพราะหากไม่มีช่องแสงดังกล่าวโถงตรงนี้จะค่อนข้างทึบครับ
เริ่มจากห้องนอนรองก่อนครับ
ตำแหน่งของห้องนอนรองนี้อยู่ทางฝั่งหลังบ้าน
ทางโครงการตกแต่งเป็นห้องนอนเด็ก
วางเตียงขนาด 3.5 ฟุตติดผนังฝั่งที่มีหน้าต่างหลังบ้าน
ทางซ้ายของเตียงมีพื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้าใกล้กับทางเข้าห้องน้ำ
ส่วนปลายเตียงมีสเปซอีกพอสมควร วางโต๊ะเขียนหนังสือ หรือจะเป็นชั้นวางทีวีก็ได้
มองย้อนกลับไปยังฝั่งทางเข้าห้อง
สำหรับห้องน้ำของชั้น 3 มีเพียงห้องเดียว โดยเป็นฟังก์ชั่นห้องน้ำที่สามารถเข้าออกได้ 2 ทั้งจาก 2 ห้องนอน
ห้องน้ำแยกพื้นที่ส่วนแห้งส่วนเปียกชัดเจนด้วยฉากอาบน้ำ
อ่างล้างหน้าสเปคเดียวกับห้องน้ำชั้น 2
ช่องเก็บของด้านล่าง
โถสุขภัณฑ์มาตรฐานโครงการ
ฉากอาบน้ำสำเร็จรูปแบบกระจกบานเลื่อน ในส่วนของตัวกระจกเป็นแบบกระจกนิรภัยที่แตกเป็นเม็ดข้าวโพด ปลอดภัยในการใช้งาน
ฝักบัวชั้น 3 เป็นแบบ Hand Shower
เข้าไปดูห้องนอนอีกห้องซึ่งเป็นห้องสุดท้ายที่อยู่ฝั่งหน้าบ้านครับ
ผ่านประตูเข้ามาช่วงแรกเป็นพื้นที่ walk-in closet หน้าห้องน้ำ
ห้องน้ำแบบ Double Access เข้าได้สองทาง
ขนาดของห้องนี้รวมถึงฟังก์ชั่นการใช้งาน ใกล้เคียงกับห้องนอนหลักชั้น 2
ส่วนของพื้นที่พักผ่อนสามารถวางเตียงขนาดคิงไซส์ 6 ฟุตได้สบาย โดยที่ยังเหลือพื้นที่ใช้งานข้างเตียง เปิดปิดหน้าต่างผ้าม่านได้สะดวก
เปรียบเทียบมุมมองปลายเตียง ระหว่างบ้านตัวอย่างและบ้านมาตรฐาน
บ้านตักอย่างหลังต่อไปคือ แบบบ้าน Echo (เอคโค่) โฮมออฟฟิศ 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร พื้นที่ใช้สอย ประมาณ 175 ตร.ม. ขนาด 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ ที่จอดรถ 2 คัน
จากด้านนอกสามารถสังเกตได้ว่าชั้น 1 ของตัวบ้านมีความสูงกว่าแบบบ้านทาวน์โฮมปกติทั่วไป แต่จะพิเศษยังไงเดี๋ยวเราเข้าไปชมด้านในพร้อมกันครับ
ประตูบ้านอลูมิเนียม Powder Coat กระจกสีเขียวตัดแสง เพิ่มช่องแสงทรงสูงเท่ากับประตูทั้งด้านซ้ายและขวา เสริมความโปร่งสบายแก่ด้านใน
ผ่านประตูเข้ามาเจอกับพื้นที่นั่งเล่นตามเลย์เอาท์ปกติทั่วไป ที่เชื่อมต่อด้านในเข้าสู่ส่วนครัว แต่จุดที่แตกต่างขึ้นมาคือชั้นลอยด้านบน
ส่วนที่เป็นห้องนั่งเล่น โถงเพดานสูงโปร่งถึง 5 เมตร
ห้องนั่งเล่นวางโซฟาขนาดใหญ่แบบเข้ามุมตัว L พร้อมจัดโต๊ะกลางเข้าชุด ทางขึ้นชั้นบนอยู่ด้านหลังของผนังชั้นวางทีวี
เรื่องของช่องแสง เพิ่มพิเศษด้วยช่องแสงเหนือประตู และด้านข้าง ทำให้ผู้อยู่อาศัยด้านในรู้สึกได้ถึงความโปร่งสบาย
ขยับเข้าไปด้านในส่วนที่เป็นห้องรับประทานอาหารและห้องครัว เพดานของส่วนนี้มีการดรอปเล่นระดับ
ขนาดของพื้นที่รองรับโต้ะทานอาหารขนาด 4-6 คน
พื้นที่หน้าห้องน้ำ เหมาะใช้เป็นส่วนที่ติดตั้งซิงค์ล้างจานและเคาน์เตอร์เก็บของ
ห้องน้ำแบบ Powder Room วัสดุและฟังก์ชั่นเหมือนกับแบบที่แล้ว
ทางออกหลังบ้านประตูบาสไลด์
ทางโครงการต่อเติมเป็นห้องครัวให้ดูตัวอย่าง
ลานหลังบ้านลงเสาเข็มให้เท่ากับตัวบ้าน พร้อมกับก่อกำแพงสูง ต่อเติมครัวได้ง่าย
แบ่งพื้นที่อีกด้านนึงเป็นมุมอเนกประสงค์ ปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม
ขึ้นไปชมด้านบนชั้น 1.5 ซึ่งขอเรียกว่าเป็นชั้นลอยดีกว่า
ใต้บันไดมีช่องเก็บของ
ชั้นลอยตรงส่วนนี้คือพื้นที่อเนกประสงค์
ทางโครงการตกแต่งเป็นห้องทำงาน โดยเป็นลักษณะโต๊ะทำงานของเจ้าของบริษัทที่ดูหรูหรา
ราวกันตกแบบมาตรฐานเป็นราวเหล็กสีดำ
มุมมองจากชั้นลอยมองลงไปชั้นล่าง
ขึ้นไปชมด้านบนชั้น 2 กันต่อครับ
โถงบันได คสล. ลูกนอนลูกตั้งไม้สำเร็จรูป
ชั้น 2 มีห้องนอนขนาดใหญ่ห้องเดียวเต็มพื้นที่ทั้งชั้น
เข้าไปชมด้านในห้องนอนกันครับ ซึ่งห้องนี้ถือว่าเป็นห้องนอนหลัก Master Bedroom
ห้องนอนนี้ทางโครงการตกแต่งได้อย่างหรูหราสุขุม ด้วยโทนสีเข้มตัดกับขอบเฟอร์นิเจอร์สีทองลงตัว
แนวผนังฝั่งปลายเตียงที่ใกล้กับประตูทางเข้า ทางโครงการตกแต่งด้วยแนวเคาน์เตอร์ยาวอเนกประสงค์
เตียงนอนวางขนาดคิงไซส์ให้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งเป็นเตียงขนาดใหญ่ที่สุดแล้วยังเหลือพื้นที่ใช้งานภายในห้องกว้างขวาง
หน้าต่างห้องอยู่ทางฝั่งหน้าบ้านซึ่งเป็นหน้าต่างแบบขนาดใหญ่พิเศษและมีกระจกเข้ามุมเพื่อมุมมองที่กว้างขึ้น
ด้านข้างเตียงทางโครงการแบ่งส่วนทำเป็น walk-in closet
แบ่งโซนวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งกันคนละมุม
ตู้เสื้อผ้าหากบิวท์เต็มผนังแบบทางโครงการ จะสามารถเก็บเสื้อผ้าและอุปกรณ์แต่งตัวได้เยอะมาก เพียงพอต่อการใช้งานจริงอย่างแน่นอน
สำหรับห้องน้ำของบ้านตัวอย่าง กำลังมีการ maintenance ระบบไฟอยู่ครับ
ผมจึงไปเก็บภาพห้องน้ำจากแบบบ้านมาตรฐานอีกหลัง ซึ่งจะมีการกลับด้านกันจากบ้านตัวอย่างครับ
อ่างล้างหน้าทรงทันสมัยมีตู้เก็บของด้านล่าง
โถสุขภัณฑ์พร้อมสายชำระและที่แขวนทิชชู่
แยกส่วนเปียกอาบน้ำเป็นสัดส่วนด้วยฉากบานสไลด์
ขึ้นไปชมด้านบนชั้น 3 กันต่อครับ โถงบันไดมีช่องแสงสองจุด ให้ความสว่างได้ตลอดทั้งวันโดยไม่ต้องเปิดไฟ
ชั้น 3 มีห้องนอนอยู่อีก 2 ห้องด้วยกัน ฟังก์ชั่นโดยรวมจะเหมือนกับแบบบ้าน Mono เมื่อสักครู่ คือมีห้องน้ำห้องเดียวใช้ร่วมกันแบบ Double Access
เริ่มจากห้องนอนตำแหน่งหลังบ้านก่อน
ห้องนี้ทางโครงการไม่ได้ตกแต่งเป็นห้องนอน แต่ทำเป็นห้องพักผ่อน
มุมมองย้อนกลับไปยังประตูทางเข้าห้อง
ห้องน้ำเข้าออกได้ทั้งจาก 2 ห้องนอน
แบ่งแยกโซนแห้งเปียกเป็นสัดส่วนชัดเจน สุขภัณฑ์มาตรฐานของทางพฤกษา
ฉากอาบน้ำบานสไลด์ กระจกนิรภัย
ไปดูห้องนอนอีกห้องกันที่อยู่ทางฝั่งหน้าบ้าน
ห้องนอนนี้มีขนาดใหญ่ แม้จะไม่ได้เป็นห้องนอนหลักเพราะห้องชั้น 2 มีขนาดใหญ่กว่า แต่เมื่อเทียบกับทาวน์โฮมทั่วไปถือว่าเป็นห้องนอนหลักได้อย่างแน่นอน
ผ่านประตูห้องเข้ามาช่วงหน้าประตูออกแบบเป็น walk-in closet หน้าห้องน้ำ
ส่วนพักผ่อนวางเตียงขนาด 5 ฟุต โปร่งสบายด้วยหน้าต่างขนาดใหญ่
มองย้อนไปทางฝั่งปลายเตียง
หลังจากที่ดูบ้านตัวอย่างกันไปแล้ว สุดท้ายผมจะพาไปดูโซนบ้านพักอาศัยจริง เพื่อให้เห็นองค์ประกอบหน้าบ้านที่ไม่มีในบ้านตัวอย่าง เริ่มจากประตูบ้านเป็นแบบบานพับเหล็กสีดำ
ไฟหน้าบ้าน กริ่ง กล่องจดหมาย และประตูช่องขยะ
ติดตั้งถังขยะแบบนี้สะดวกแก่ทั้งผู้อยู่อาศัย และการทำงานของเจ้าหน้าที่
ลานจอดรถเทด้วยพื้นคอนกรีตปาดเรียบ สามารถจอดรถได้ 2 คันทุกแบบบ้าน
::: ราคา (เม.ย. 62) :::
แบบบ้าน MONO : ราคาเริ่มต้น 3.69 ล้านบาท
ที่ดินเริ่ม 18 ตร.ว./ พื้นที่ใช้สอย 160 ตร.ม. / 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 1 Family Space / 2 ที่จอดรถ
แบบบ้าน NEO : ราคาเริ่มต้น 3.69 ล้านบาท
ที่ดินเริ่ม 18 ตร.ว./ พื้นที่ใช้สอย 160 ตร.ม. / 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
ค่าส่วนกลาง : 60 บาท/ตร.ว./เดือน
*ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดตรวจสอบกับทางสำนักงานขายตามรายละเอียดท้ายรีวิวครับ*
::: บทสรุปโครงการ :::
ทำเลที่ตั้งโครงการ Patio พหลโยธิน-วิภาวดี ตั้งอยู่ใกล้ถนนใหญ่พหลโยธิน เข้าซอยพหลโยธิน 92 ไปเพียงแค่ 140 เมตร จึงเรียกว่าเป็นโครงการติดถนนใหญ่ก็คงไม่แปลก โดยตัวโครงการตั้งอยู่ทางฝั่งขาเข้าฝั่งเดียวกับเซียร์รังสิต และฝั่งตรงข้ามคือซอยเมืองเอกซึ่งก็คือที่ตั้งของมหาวิทยาลัยรังสิตนั่นเอง ปัจจุบันทำเลแห่งนี้เรียกว่าเป็นทำเลที่ดีที่สุดของย่านรังสิตก็ว่าได้ เพราะว่ารายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบทุกรูปแบบ ใกล้จุดศูนย์กลางเมืองรังสิตอย่างห้าง Zpell (ฟิวเจอร์พาร์ค) เดินทางเข้าออกเชื่อมต่อกรุงเทพได้ง่าย ประกอบกับในอนาคตกำลังจะมีรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้าถึง ส่งผลให้ทำเลแห่งนี้น่าสนใจมากทีเดียวครับ
ความอุดมสมบูรณ์ เรื่องความอุดมสมบูรณ์ของโครงการก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดแข็งของ พาทิโอ พหลโยธิน-วิภาวดี เนื่องจากว่าตัวโครงการ ถูกรายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่เรียกว่าครบทุกรูปแบบการใช้งาน โดยในส่วนของห้างสรรพสินค้านั้นมีให้เลือกใช้งานได้ทั้ง Zpell รังสิต, เซียร์รังสิต, แมคโคร, บิ๊กซี และเทสโก้ โลตัส รังสิต ส่วนโรงพยาบาลก็อยู่ใกล้ในระยะที่สามารถเข้าถึงได้อย่างทันท่วงทีในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน ได้แก่ โรงพยาบาลแพทย์รังสิต, โรงพยาบาลปทุมเวช และโรงพยาบาลเปาโลเมโมเรียลรังสิต ส่วนสถานศึกษานั้นมีที่น่าสนใจคืออยู่ในซอยเมืองเอกได้แก่ โรงเรียนสายปัญญารังสิต, โรงเรียนเซนต์โยเซฟเมืองเอก และมหาวิทยาลัยรังสิต
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว เนื่องจากโครงการอยู่ติดถนนใหญ่ เรื่องการเดินทางจึงค่อนข้างสะดวก โดยในส่วนของการเข้าเมืองนั้นมี 2 เส้นทางหลักให้เลือกใช้ คือ ถนนพหลโยธิน และถนนวิภาวดีรังสิต โดยจะมุ่งหน้าไปทางฝั่งของดินแดง และห้าแยกลาดพร้าว โดยมีตัวช่วยอย่างทางด่วนดอนเมือง-โทลล์เวย์ ที่อยู่ด้านบนคู่ขนานถนนวิภาวดีรังสิต สามารถหลีกเลี่ยงการจราจรที่ติดขัดและช่วยประหยัดเวลาได้เป็นอย่างมาก ส่วนขาออกเป็นการมุ่งหน้าขึ้นเหนือไปยังแยกรังสิต แยกที่ทำหน้าที่กระจายการเดินทางออกสู่จังหวัดใกล้เคียงได้ทั้ง จังหวัดปทุมธานี จังหวัดอยุธยา และจังหวัดนครนายก
การเดินทางโดยรถสาธารณะ การที่โครงการอยู่ใกล้กับถนนใหญ่ ในระยะเพียงแค่ 140 เมตร จึงไม่ใช่ปัญหาสำหรับการเดินออกจากบ้านเพื่อไปหารถสาธารณะที่บริเวณถนนใหญ่ ซึ่งสามารถหาได้ง่าย ทั้งรถประจำทาง รถแท็กซี่ และรถตู้โดยสาร ซึ่งต้องบอกว่ารถตู้โดยสารนั้นเป็น ช่องทางที่ได้รับความนิยมสำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในย่านรังสิต เนื่องจากว่าเส้นทางเดินรถนั้นส่วนใหญ่จะไปยัง hub สำคัญในตัวเมืองอย่างเช่นหมอชิตและอนุสาวรีย์ชัย ในอนาคตอีกหนึ่งช่องทางที่จะมาเติมเต็มเรื่องของการคมนาคมในทำเลแห่งนี้คือรถไฟฟ้า โดยตัวโครงการนั้นอยู่ใกล้กับไฟฟ้าถึง 2 สายด้วยกันคือรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อรังสิต และรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิตคูคต
บ้านและวัสดุ Patio พหลโยธิน-วิภาวดี เป็นโครงการพรีเมี่ยมทาวน์โฮม และโฮมออฟฟิศ 3 ชั้น ออกแบบโครงการด้วยสไตล์ Modern Tropical ที่เน้นความโปร่งสบายด้วยกระจกสูงโปร่ง เพิ่มฟังก์ชั่น Panoramic View ให้มุมมองกว้างขึ้น บนที่ดินขนาด 12 ไร่ มีบ้านพักอาศัย 124 หลัง ขนาดที่ดินเริ่มต้น 18 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอยเริ่ม 160 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน ด้วยแบบบ้านทั้งหมด 3 แบบ ได้แก่
- แบบบ้าน Mono (โมโน) : ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร พื้นที่ใช้สอย ประมาณ 160 ตร.ม. ขนาด : 3 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, 1 Family Space, ที่จอดรถ 2 คัน
- แบบบ้าน Neo (นีโอ) : ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตรพื้นที่ใช้สอย ประมาณ 160 ตร.ม.ขนาด : 3 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน
- แบบบ้าน Echo (เอคโค่) : โฮมออฟฟิศ 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร พื้นที่ใช้สอย ประมาณ 175 ตร.ม. ขนาด : 3 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, 1 ห้องอเนกประสงค์, ที่จอดรถ 2 คัน
การออกแบบ Layout มีความน่าสนใจในเรื่องของความ Flexible โดยแบบบ้าน Mono กับ Neo มีความแตกต่างกันที่ชั้น 2 ที่หากเป็นแบบบ้าน Mono จะมีการแบ่งเป็น 1 ห้องนอน และ เพิ่ม Family Space ให้มีพื้นที่ใช้เวลาร่วมกันภายในครอบครัว เหมาะกับครอบครัวที่มีลูกหลาน แต่หากเป็นแบบบ้าน Neo จะเปลี่ยนรูปแบบเป็นห้องนอนขนาดใหญ่เต็มพื้นที่ทั้งชั้น เน้นประโยชน์ใช้สอยในห้องนอน พร้อมทั้งได้ ห้องน้ำและ walk-in closet ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ส่วนแบบบ้าน Echo ที่เป็นแบบบ้านทั้งอยู่อาศัยเองและเหมาะทำเป็นโฮมออฟฟิศก็ได้ โดยฟังก์ชั่นที่น่าสนใจคือ Smart Duplex โถงนั่งเล่นมีเพดานสูงถึง 5 เมตร พร้อมชั้นลอยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยให้มากขึ้น
วัสดุที่โครงการให้มามีความโดดเด่นในหลายจุดเทียบเท่าบ้านเดี่ยว อย่างเช่นกระจกสีเขียวตัดแสงช่วยให้บ้านไม่ร้อน ลานหลังบ้านที่คนไทยนิยมต่อเติมเป็นครัวไทยลงเสาเข็มให้ความยาวเท่าตัวบ้าน ต่อเติมครัวได้อย่างมั่นใจแข็งแรง กรอบหน้าต่างบานเลื่อนใช้วัสดุอลูมิเนียมที่เคลือบด้วย Powder Coat สวยงามให้สัมผัสที่เหนือกว่า หลอดไฟ LED ประหยัดไฟ ในห้องน้ำติดตั้งพัดลมดูดอากาศทุกห้อง บันไดคอนกรีตเสริมเหล็กเดินเงียบไร้เสียงรบกวน
สิ่งอำนวยความสะดวก ครบครันด้วยคลับเฮ้าส์ พร้อมฟิตเนส, สระว่ายน้ำ, และสวนส่วนกลาง ระบบรักษาความปลอดภัยแบบ Double Security ด้วยรั้วสองชั้น เข้า-ออกด้วยระบบ Easy Pass ที่มีทั้งไม้กระดกและรั้วเหล็ก พร้อมกล้องวงจรและเจ้าหน้าที่รปภ. 24 ชั่วโมง
::: คะแนน :::
| ทำเลที่ตั้งโครงการ |
8.5 |
โครงการเกือบติดถนนใหญ่พหลโยธิน ห่างแค่ 140 เมตร ใกล้ใจกลางเมืองรังสิต แวดล้อมด้วยสถานที่สำคัญครบทุกรูปแบบการใช้งาน |
| การเดินทาง ใช้รถ |
8.2 |
ถนนพหลโยธินเป็นถนนเส้นสำคัญในการเดินทาง เชื่อมต่อถนนอื่นๆสะดวก ใกล้ทางด่วนดอนเมือง-โทลล์เวย์ |
| การเดินทาง ไม่ใช้รถ |
8.0 |
หน้าปากซอยโครงการหารถสธารณะได้หลากหลายประเภท ในอนาคตใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดง เพียง 2 กม. |
| บ้านและวัสดุ |
8.2 |
แบบบ้านพรีเมี่ยมทาวน์โฮม 3 ชั้น พื้นที่ใช้สอยมาก Layout ยืดหยุ่นตามการใช้งาน วัสดุเกรดบ้านเดี่ยว |
| สิ่งอำนวยความสะดวก |
7.8 |
อาคารคลับเฮ้าส์, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, สวนหย่อม และระบบรักษาความปลอดภัย Double Security |
| ความคุ้มค่ากับราคา |
8.0 |
เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดกลาง 3-6 คน บนทำเลศักยภาพ เดินทางสะดวก อุดมสมบูรณ์ และรถไฟฟ้าที่กำลังจะเข้าถึง |
| คะแนนรวมเฉลี่ย |
8.12 |
ดีมาก |
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่
TEL : 1739
WEBSITE : https://patio.pruksa.com/13709/patio-พหลโยธิน-วิภาวดี
หากท่านเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ โปรดกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณครับ
หากท่านมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวครับ
แสดงความคิดเห็น