[Mini Review] 5 ข้อควรรู้ในการเลือกเครื่องปรับอากาศให้เหมาะกับบ้าน แบบคุ้มค่า คุ้มทั้งราคาและค่าใช้จ่าย

[Mini Review] 5 ข้อควรรู้ในการเลือกเครื่องปรับอากาศให้เหมาะกับบ้าน แบบคุ้มค่า คุ้มทั้งราคาและค่าใช้จ่าย

สวัสดีค่ะผู้อ่าน Homenayoo ทุกท่าน ตอนนี้ก็ถึงช่วงหน้าร้อนกันแล้วนะคะ สำหรับเมืองไทยที่มีอากาศร้อนชื้น เครื่องปรับอากาศ หรือแอร์คอนดิชั่น จึงกลายเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าสำคัญประจำบ้านแบบ Must Have Item ที่แทบจะขาดไม่ได้เลยสำหรับอากาศที่ร้อนอบอ้าวอย่างทุกวันนี้ ทำให้การเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศมาใช้ในบ้าน เป็นเรื่องที่ควรศึกษาหาข้อมูลกันให้ดีๆค่ะ เพราะมีผลชัดเจนกับอากาศเย็นๆในบ้านทุกวันและค่าไฟที่เราต้องจ่ายทุกเดือน ยิ่งปัจจุบัน เครื่องปรับอากาศในบ้านเรามีหลากหลายแบรนด์ให้ได้เลือกซื้อ บ้างก็อาจเกิดอาการสับสน เลือกใช้ไม่ถูก ไม่รู้จะเลือกแบรนด์ไหน รุ่นไหนดี

วันนี้เรามีบทความพิเศษมาฝากกันค่ะ กับ 5 ข้อควรรู้ในการเลือกเครื่องปรับอากาศให้เหมาะกับบ้าน แบบคุ้มค่า คุ้มทั้งราคาและค่าใช้จ่าย ซึ่งมีตั้งแต่วิธีการเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศ, ดีไซน์ของเครื่องปรับอากาศที่เหมาะกับขนาดห้องหรือสไตล์การตกแต่งบ้าน ให้เราสามารถเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศได้อย่างคุ้มค่า ทนทาน ช่วยประหยัดไฟ และดูดีมีสไตล์ไปในตัว แนะนำว่าศึกษาข้อมูลและเตรียมตัวล่วงหน้ากันก่อนซื้อแบบนี้ดีกว่า เพราะจะได้เลือกซื้อเครื่องปรับอากาศที่ถูกใจและคุ้มค่ามากที่สุดให้เราได้ใช้งานกันไปยาวๆนั่นเอง จะมีอะไรที่ควรรู้บ้างไปดูกันเลยค่ะ

1.เลือกขนาดเครื่องปรับอากาศให้เหมาะกับการใช้งานแต่ละห้อง

ให้เริ่มจากการวัดหน้ากว้าง x ยาวของห้องที่เราจะติดเครื่องปรับอากาศก่อนเลยค่ะ เพราะการที่เราทราบขนาดห้องที่ชัดเจน จะทำให้ง่ายต่อการเลือกเครื่องปรับอากาศว่าควรมีขนาด BTU เท่าไหร่ เพราะถ้าเราเลือกเครื่องปรับอากาศที่มีขนาด BTU มากเกินไป ก็สิ้นเปลืองไฟโดยใช่เหตุ แต่หากเลือกขนาด BTU น้อยเกินไป ก็จะทำให้อากาศเย็นไม่ทั่วถึง เครื่องทำงานหนัก อายุใช้งานสั้นลงแถมยังเปลืองไฟอีกต่างหาก ดังนั้นการเลือกขนาด BTU ให้เหมาะกับการใช้งานแต่ละห้องนั้นจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง

เรามีสูตรสำเร็จง่ายๆ มาแนะนำกันค่ะ โดยทั่วไปแล้วเครื่องปรับอากาศจะมีขนาดเริ่มต้นที่ 9000-24000 บีทียู โดยแบ่งขนาดที่เหมาะสมต่อการใช้งานได้ดังนี้

• ขนาด 9,000 BTU เหมาะกับห้องขนาด 9-12 ตารางเมตร หรือห้องนอนขนาดเล็ก กว้างยาวประมาณ 3 x 4 เมตร เป็นต้น
• ขนาด 12,000 BTU เหมาะกับห้องขนาด 12-16 ตารางเมตร หรือห้องนอนมาตรฐานของคอนโดมิเนียมทั่วไป กว้างยาวประมาณ 4 x 4 เมตร เป็นต้น
• ขนาด 18,000 BTU เหมาะกับห้องขนาด 16-24 ตารางเมตร ซึ่งสามารถเป็นเครื่องปรับอากาศตัวเดียวของคอนโดมิเนียมห้องสตูดิโอได้ พวกห้องหน้ากว้าง 5 x 4.5 เมตร เป็นต้น
• ขนาด 24,000 BTU เหมาะกับห้องขนาด 24-32 ตารางเมตร ซึ่งเป็นขนาดของห้องโถงในบ้าน หรือ สตูดิโอขนาดใหญ่  พวกห้องหน้ากว้าง 6 x 5 เมตร เป็นต้น

2.เลือกประเภทเครื่องปรับอากาศให้เหมาะกับสถานที่และการใช้งาน

เครื่องปรับอากาศมีหลายประเภท และแต่ละแบบมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน เราจึงต้องคำนึงถึงความเหมาะสมด้านการใช้งานเป็นสิ่งแรกในการเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศ เพราะนอกจากจะได้เครื่องปรับอากาศที่มีประสิทธิภาพแล้ว ยังช่วยประหยัดพลังงาน ค่าไฟฟ้าไม่รั่วไหล ซึ่งหลักๆ เครื่องปรับอากาศจะแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่

• แบบติดผนัง (Wall Type) เป็นเครื่องปรับอากาศที่ได้รับความนิยม เพราะมีรูปลักษณ์การดีไซน์ที่ทันสมัย และมีขนาดเล็กกระทัดรัด เหมาะสำหรับห้องที่มีพื้นที่น้อย อย่าง ห้องนอน และห้องรับแขก รวมทั้งภายในคอนโดทั่วไป

• แบบตั้งพื้น(Floor Type) เป็นเครื่องปรับอากาศที่มีการกระจายความเย็นได้ดี และทนต่อการใช้งาน แต่สิ้นเปลืองพลังงานมากกว่าแบบอื่นเพราะมีค่า BTU ที่สูงกว่าแบบอื่นๆ จึงเหมาะสำหรับห้องที่มีขนาดใหญ่ โรงงาน หรือพื้นที่อาศัยที่มีผู้คนอยู่หนาแน่น

• แบบแขวนใต้ฝ้า(Ceiling Type) เป็นเครื่องปรับอากาศที่มีเหมาะสำหรับห้องที่มีพื้นที่ตั้งแต่เล็กไปจนถึงห้องที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ อย่าง อาคารสำนักงาน ร้านอาหาร ห้องประชุม เป็นต้น

• แบบ 4 ทิศทาง (4 Way Ceiling Cassette Type) เป็นเครื่องปรับอากาศที่ติดอยู่ภายในฝ้าเพดาน เหมาะสำหรับห้องที่ต้องการเน้นความสวยงาม เพราะเมื่อติดแล้วจะไม่เห็นตัวเครื่อง แต่จะเห็นเฉพาะส่วนฟิลเตอร์ช่องลมด้านหน้าที่ฝ้าเพดานเท่านั้น เนื่องจากตัวเครื่องถูกฝังในเพดานนั่นเอง ราคาจึงค่อนข้างสูงกว่าแบบอื่น

3.เลือกเครื่องปรับอากาศแบบประหยัดพลังงาน (Energy Saving)

ก่อนตัดสินใจซื้อ ควรเลือกเครื่องปรับอากาศที่ได้รับฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 โดยมีวิธีการดูฉลากประหยัดไฟที่ถูกต้องตามหลักในภาพด้านบนจากกระทรวงพลังงานด้านบนค่ะ 

ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 หมายถึงมีคุณภาพในการใช้พลังงานของเครื่องปรับอากาศที่คุ้มค่าที่สุด ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศ ที่จะช่วยประหยัดพลังงานและค่าใช้จ่ายได้

เครื่องปรับอากาศระบบ Inverter มีคุณสมบัติในการ ประหยัดไฟมากกว่าระบบทั่วไปหรือ fixed speed, มีการรักษาอุณหภูมิได้คงที่และแม่นยำมากกว่า

ซึ่งการทำงานของระบบ inverter นั้น ทุกชิ้นส่วนใช้ไฟฟ้ากระแสตรงทั้งหมด (DC) จะมีการกระชากไฟครั้งเดียวเมื่อตอนเปิดเครื่อง และเมื่อระดับอุณหภูมิถึงตามที่กำหนดไว้ คอมเพรสเซอร์จะลดรอบการทำงานลงเพื่อรักษาอุณหภูมิในห้องให้คงที่ โดยไม่ตัดการทำงาน เหมือนพวก Non-Inverter หรือ Fixed speed จึงไม่เกิดการกระชากไฟบ่อยๆ นอกจากทำให้ประหยัดพลังงานแล้วยังรักษาอายุการใช้งานของชิ้นส่วนต่างๆ ให้ยาวนานยิ่งขึ้นด้วย

เครื่องปรับอากาศ ระบบ inverter ที่มีประสิทธิภาพนั้นต้องประกอบด้วย

1) แผงวงจรที่ควบคุมการจ่ายไฟกระแสตรงที่ปรับเปลี่ยนความถี่ของกระแสไฟให้ระบบทำงานอย่างเสถียร

2) คอมเพรสเซอร์ กระแสตรง ที่รองรับการเปลี่ยนแปลงความเร็วรอบในการทำงานของเครื่องปรับอากาศให้สัมพันธ์กับอุนหภูมิของห้อง

3) วาล์วอิเล็กทรอนิกส์ EEV ที่ย่อมาจาก ELECTRONIC EXPANSION VALVE คอยควบคุมอัตราการไหลและการจ่ายสารทำความเย็นให้ระบบในสภาวะที่เหมาะสม

4) มอเตอร์กระแสตรง ที่มีกำลังในการควบคุมความเร็วและเปลี่ยนแปลงความเร็วรอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ซึ่งเครื่องปรับอากาศ ระบบ inverter ในท้องตลาดนั้นมีมากมายหลายรุ่นหลายยี่ห้อ และมีราคาที่สูงกว่าระบบธรรมดา เราจึงควรคำนึงถึง ประสิทธิภาพการทำงาน และชิ้นส่วนประกอบภายในของเครื่องปรับอากาศแต่ละเครื่องที่เรียกว่า ระบบ inverter แท้ทั้งระบบ (100% Real Inverter) หรือไม่ เพื่อประสิทธิภาพในการประหยัดไฟที่มากกว่า คุ้มค่ากว่าในระยะยาว

4.คุณสมบัติพิเศษของเครื่องปรับอากาศ

นอกจากดีไซน์ของเครื่องปรับอากาศที่เหมาะสมกับห้อง, ความสวยงาม, ระบบการทำงาน และประสิทธิภาพในการทำงานของเครื่องปรับอากาศ จะเป็นปัจจัยพื้นฐานในการเลือกเครื่องปรับอากาศ แต่ก่อนที่เราจะเลือกซื้อ ควรศึกษาคุณสมบัติพิเศษของเครื่องปรับอากาศในภาพรวมด้วย ทั้งเทคโนโลยี รุ่น ยี่ห้อ ว่ามีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันอย่างไร ในปัจจุบันเทคโนโลยีที่ใช้ในเครื่องปรับอากาศมีให้เลือกหลากหลาย มีฟังชั่นเสริมการทำงานให้ประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ใช้เพื่อให้เกิดความคุ้มค่ามากที่สุดเพิ่มขึ้นมาอีกหลายอย่าง อาทิเช่น SENSOR ที่จะคอยตรวจจับความเคลื่อนไหวของเราเมื่ออยู่ในห้อง และเลือกโหมดการทำงาน, อุณหภูมิ หรือระดับความเร็วพัดลมให้เหมาะสมกับ จำนวนคนและการทำกิจกรรมต่างๆ ภายในห้อง

หรือว่าจะเป็น โหมดประหยัดพลังงาน หลีกเลี่ยงการทำให้อากาศภายในห้องเย็นจนเกินไปด้วยการเพิ่มอุณหภูมิและลดระดับพัดลมให้ต่ำลง เพื่อให้เกิดการประหยัดพลังงานมากที่สุด หรือระบบเร่งทำความเย็น ที่จะเร่งการทำงานเมื่อเปิดเครื่องให้อุณหภูมิห้องลดลงอย่างรวดเร็ว และลมแรงทำให้เรารู้สึกเย็นสบายขึ้นเมื่อเข้าในห้อง หรือว่าจะเป็นฟังก์ชั่นที่ปิดการใช้งานเครื่องปรับอากาศโดยอัตโนมัติหากไม่มีคนอยู่ในห้องเป็นเวลานาน หรือโหมดอัจฉริยะต่างๆ ที่ปรับเปลี่ยนการทำงานตามพฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้งานแต่ละคน เพื่อช่วยให้ประหยัดไฟได้มากขึ้น หรือทำให้สบายและสะอาดมากขึ้น เป็นต้น

5.คุณสมบัติและความน่าเชื่อถือของแบรนด์เครื่องปรับอากาศ

เครื่องปรับอากาศในปัจจุบันถือว่าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีความซับซ้อน และการใช้งานที่หลากหลายขึ้นมากกว่าการปรับอุณหภูมิห้องอย่างเดียว ดังนั้นประสบการณ์ และความน่าเชื่อถือของ Brand สินค้า เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเป็นสิ่งที่แสดงถึงการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยี ความทนทาน ประสิทธิภาพการทำงาน และบริการหลังการขาย และอะไหล่อย่างต่อเนื่อง

ใครที่กำลังมองหาเครื่องปรับอากาศที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่กล่าวไว้ข้างต้น เราขอแนะนำเครื่องปรับอากาศรุ่นยอดนิยม Mitsubishi Heavy Duty แบรนด์ดังจากญี่ปุ่น ด้วยจุดแข็งในการผลิตเครื่องจักรกล เครื่องยนต์กลไก เครื่องใช้ไฟฟ้า ทั้งในครัวเรือนและภาคอุตสาหกรรม ทำให้เครื่องปรับอากาศของแบรนด์นี้ ขึ้นชื่อด้านประสิทธิภาพ มาตรฐานการผลิต ความทนทาน ตลอดจนมีตัวแทนจำหน่าย และบริการหลังการขายที่ครองใจและเคียงคู่คนไทยมากว่า 5 ทศวรรษ

สำหรับผู้อ่านที่ต้องการมองหาแอร์เครื่องใหม่ ชอบความคุ้มค่า ทนทาน เน้นเรื่องประหยัดไฟ สนใจเรื่องภาพลักษณ์สวยๆ ก็จัดว่าตอบโจทย์ครบทุกด้านค่ะ การสร้างสรรค์และพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ด้วยสุดยอดเทคโนโลยีวิศวกรรมระดับโลกที่มีอยู่ในเครื่องปรับอากาศแบรนด์ Mitsubishi Heavy Duty ยังคงจุดเด่น “ประหยัดทนทานทุกงานหนัก”  มายาวนานกว่า 5 ทศวรรษในประเทศไทย,  5 ปีรับประกันทุกชิ้น และ  5 นาที เย็นเร็วทันใจ เป็นเทคโนโลยี Inverter แท้ทั้งระบบ จึงแตกต่างและเหนือกว่าคู่แข่งอย่างชัดเจน ทนทานสมชื่อ Heavy Duty ที่เป็นจุดขายมายาวนาน

ทั้งนี้ ด้วยระบบ Jet Flow ทำให้เครื่องปรับอากาศแบรนด์ Mitsubishi Heavy Duty ลมแรงเย็นเร็วทันใจ แถมช่วยประหยัดไฟได้มากกว่า ด้วย Inverter แท้ทั้งระบบ

Mitsubishi Heavy Duty ยังใส่ใจสิ่งแวดล้อม ด้วยการงดใช้สารทำความเย็นที่เป็นอันตรายต่อชั้นบรรยากาศโอโซน ตามสโลแกน “Move the world forward” มุ่งสร้างสรรค์ นวัตกรรมเพื่ออนาคต ทั้งสังคม อุตสาหกรรมและชีวิตประจำวัน ที่สดใสยิ่งขึ้น”

ล่าสุดในปี 2018 นี้ Mitsubishi Heavy Duty ได้เปิดตัวเครื่องปรับอากาศ inverter แท้ทั้งระบบ (100% Real Inverter) รุ่น SRK-ZSXS SERIES ซึ่งเป็นเครื่องปรับอากาศในระดับ พรีเมี่ยม ลักซ์ชัวรี่ ทุกรุ่นทุกขนาดครอบคลุมทุกความต้องการการใช้งาน ตั้งแต่ 9,000 12,000 18,000 และ 24,000 BTU

ที่พิเศษคือเครื่องปรับอากาศ Mitsubishi Heavy Duty รุ่น SRK-ZSXS SERIES ยังเป็นรุ่นที่ได้รับรางวัล A’ Design award 2017 ด้วยดีไซน์สไตล์อิตาเลี่ยนสุดหรู ที่มาพร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานอันสะดวกสบายและทันสมัยอาทิเช่น

HUMAN SENSOR ที่จะคอยตรวจจับความเคลื่อนไหวของมนุษย์ที่อยู่ภายในห้อง,

ECO OPERATION ติดตามดูการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิและความชื้นภายในห้อง โดยใช้เซนเซอร์เพื่อควบคุมการทำงานแบบควบคู่กับเซนเซอร์มนุษย์ ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยโหมดการทำงานแบบประหยัดพลังงานและให้อากาศที่เย็นสบายในคราวเดียวกัน

AUTO OFF จะเป็นฟังก์ชั่นที่ปิดการใช้งานเครื่องปรับอากาศโดยอัตโนมัติหากไม่มีคนอยู่ในห้องนานกว่า 1 ชั่วโมงขึ้นไป

PRESET OPERATION โหมดการทำงานแบบตั้งล่วงหน้า  ทำให้สามารถกำหนดอุณหภูมิและการกระจายอากาศเย็นได้ตามต้องการ ซึ่งจะคุณทำให้รู้สึกสบายที่สุด เพียงแค่สัมผัสเดียวเท่านั้น

LED BRIGHTNESS ADJUSTMENT จะสามารถทำให้ผู้ใช้งานสามารถหรี่ไฟ LED หน้า Panel แอร์โดยเพื่อไม่ให้รบกวนการนอน

นอกจากนี้ Mitsubishi Heavy Duty inverter รุ่นใหม่ล่าสุด SRK-ZSXS SERIES ยังมีฟังก์ชั่นเอาใจคนรักสุขภาพ โดยการใช้ Filter ที่สามารถเลือกเปลี่ยนได้ ตามฟังก์ชั่นเพื่อสุขภาพต่างๆ เช่น

Natural Enzyme Filter ที่มีส่วนประกอบของเอ็นไซม์ธรรมชาติ สามารถป้องกันและทำลายเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ,

Natural Solar Filter ช่วยกรองอากาศกำจัดกลิ่นเหม็นและกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่างๆ ทำให้อากาศในห้องมีความสดชื่นมากยิ่งขึ้น

Anti-allergy & Activated carbon filter ช่วยกำจัดสารก่อภูมิแพ้ ดูดซับก๊าซอันตรายและฝุ่นละอองในอากาศ,

Vitamin C Filter ช่วยทำให้อากาศที่ออกมามีวิตามิน C ทำให้ผิวหนังมีความชุ่มชื่น

เห็นได้ว่า นอกจากประสิทธิภาพของเครื่องปรับอากาศ Mitsubishi Heavy Duty รุ่นใหม่ที่มาพร้อมฟังก์ชั่นการทำงานที่ครบครันทันสมัย ความน่าเชื่อถือและมาตรฐานการผลิตของเครื่องปรับอากาศ Mitsubishi Heavy Duty ทุกเครื่องที่ผลิตและจัดจำหน่ายในประเทศไทย ยังผ่านการตรวจรับรองคุณภาพตามมาตรฐานโลกเช่นเดียวกับประเทศญี่ปุ่น ทำให้กล้ารับประกันทุกชิ้นส่วน เป็นระยะเวลา 5 ปี จึงมั่นใจในคุณภาพได้ว่า Mitsubishi Heavy Duty เป็นเครื่องปรับอากาศ ที่ไม่ทำให้ทุกท่านผิดหวังอย่างแน่นอน

---

หากท่านเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ โปรดกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ

หากท่านมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ